นายกฯ ประชุมหารือแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภาพรวม จ.กาญจนบุรี ย้ำหน่วยงานเร่ง แก้ไขปัญหาการจัดสรรที่ดินทำกินให้จบ ระบุรัฐบาลพร้อมช่วยเหลือยกระดับ จ.กาญจนบุรี
วันนี้ (9 ธ.ค. 66) เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมบุษราคัม องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการคลัง เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภาพรวมจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมด้วย ซึ่งก่อนเป็นประธานการประชุม นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า OTOP และสินค้าวิสาหกิจชุมชนของจังหวัดกาญจนบุรี เช่น เรือจำลอง ลภัสหัตถศิลป์ เครื่องดนตรีไทย สมชัยดนตรีไทย นิล เมืองกาญจน์กาแฟรักษ์ป่า สาละวะไล่โว่ วิสาหกิจชุมชนกาแฟอมตะลา ขนมทองม้วนสุธีรา วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปบ้านต่อไม้แดง และนิทรรศการผ้าไทย นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ของการประชุมดังนี้
นายกรัฐมนตรีรับฟังแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาภาพรวมจังหวัดกาญจนบุรี เรื่อง การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของรัฐ การบริหารจัดการน้ำ การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตพื้นที่ชุมชนเมืองกาญจนบุรี การพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดกาญจนบุรี และการบริหารจัดการด้านการเกษตร โดยภายหลังการรับฟังฯ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจากที่ได้รับฟังการบรรยายสรุป ทำให้รู้สึกว่าทุกภาคส่วนที่นี่ ทั้ง สส. อบจ. ผู้ว่าฯ รวมทั้งฝ่ายทหาร ความมั่นคง ทำงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ถือเป็นแบบอย่างที่ดี และเพิ่งทราบว่าผู้ว่าฯ เกิดและเติบโตที่นี่ โดยเป็นทั้งปลัดจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด จนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดที่นี่ โดยหวังว่าผู้ว่าฯ จะทำงานที่นี่และเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของพี่น้องชาวกาญจนบุรีต่อไป ซึ่งผู้ว่าฯ ให้ความเป็นกลาง ทำงานร่วมกับ สส. และทุกคนได้เป็นอย่างดีมาก ขณะที่ในส่วนของนายกฯ อบจ.กาญจนบุรี ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีได้ยินชื่อเสียงมานานว่าเป็นหัวหอกใหญ่ในการทำเรื่องโรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย ซึ่งอยากให้จังหวัดอื่นนำ รพ.สต.ของจังหวัดกาญจนบุรีไปเป็นแม่แบบ ในการทำงานอย่าไปคิดว่าเป็นพรรคไหน เรามาทำเพื่อพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทุกภาคส่วนทำงานอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เอาความต้องการของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง
นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมการบรรยายสรุปของจังหวัดกาญจนบุรีที่มีความพร้อมทุกอย่าง โดยวันนี้นายกฯ ไม่มีข้อเสนออะไร เพราะทางจังหวัดได้เสนอมาครบ โดยขอย้ำในบางเรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาการจัดสรรที่ดินที่มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2481 มีปัญหากันมานานมาก ซึ่งขอสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และจังหวัด ได้ไปพูดคุยกันให้จบ เพราะปัญหาหมักหมมมานานมาก เป็นหน้าที่ของรัฐบาลเมื่อมาถึงแล้วก็อยากให้ปัญหาจบที่รุ่นนี้ หากสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินได้ ก็เชื่อว่าจะแปลงสินทรัพย์เป็นทุนได้อย่างดีมาก ควบคู่ไปกับนโยบายหลักของรัฐบาลคือกำจัดหนี้นอกระบบให้หมดสิ้นไป ซึ่งการกำจัดหนี้นอกระบบให้หมดสิ้นไป จะไปกู้เงินก็ต้องมีสินทรัพย์ไปวาง สินทรัพย์ก็คือที่ดิน โดยขอให้ผู้ว่าฯ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เห็นความเดือดร้อนของประชาชนได้ช่วยกันทำอย่างเต็มที่ โดยนายกฯ จะช่วยอยู่ข้างหลัง หากติดขัดอะไรจะพยายามช่วยให้จบภายในรุ่นนี้ ประชาชนจะได้มีสินทรัพย์นำไปเป็นทุนในการทำมาหากินได้ เพราะศักยภาพของจังหวัดกาญจนบุรี 35 ปีที่ผ่านมาก็มีมาก เป็นจังหวัด Top 5 ของประเทศได้อย่างสบาย ๆ การบริหารจัดการเรื่องน้ำ ในปัญหาน้ำท่วมมีไม่เท่าไรแต่มีปัญหาน้ำแล้ง โดยการพัฒนาระบบชลประทานต่าง ๆ ก็อยู่ในแผนงานที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องแก้ปัญหาเรื่องน้ำแล้ง หากไม่แล้งก็เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรและรายได้ต่อหัวจะขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะมีแหล่งน้ำอยู่มากตามเขื่อนต่าง ๆ ทั้งเขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็เข้าใจถึงความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร มีนโยบายช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้เสริมมากขึ้น เช่น การปล่อยปลาตามแหล่งน้ำจำนวนกว่าล้านตัว เพื่อให้ตรงตามความต้องการของตลาด โดยรัฐบาลจะดูให้ครบทุกมิติ
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงศักยภาพการค้าชายแดน-ศุลกากร ของกาญจนบุรีว่า มีปัญหาความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้มีความเสียเปรียบกับหัวเมืองหลักในภาคอีสาน เช่น จังหวัดหนองคาย ที่ประเทศลาวมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทย ไม่มีสงคราม สามารถส่งผ่านสินค้าไปถึงประเทศจีนได้ ดังนั้น การค้าด้านตะวันออกจึงบูมมาก แต่ตนไม่อยากให้พี่น้องกาญจนบุรีหมดหวัง เพราะเมื่อดูจากประชากรเมียนมาประเทศเพื่อนบ้านมีประมาณ 70 ล้านคนใกล้เคียงกับไทย แต่เขามีปัญหาภายในอยู่ ซึ่งเราชัดเจนวางตัวเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ทั้งที่สนับสนุนรัฐบาล หรือฝ่ายที่อยู่ตามหัวเมืองต่าง ๆ เรารักษาไว้ซึ่งสิทธิมนุษยชน ความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์ เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ และความมั่นคงที่ต้องมีส่วนร่วม เหตุที่ตนพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะประเทศไทยมีประชากร 70 ล้านคน เมียนมาก็มี 70 ล้านคน ถ้าเราสามารถวางตัวเป็นศูนย์กลางได้ ให้เขามาเจรจาให้ทุกอย่างสงบสุขได้ ชายแดนไทยกับเมียนมามีระยะทางเกือบ 2,000 กม. หากเขามีปัญหา เราก็มีปัญหา ถ้าเขาไม่มีปัญหา การค้าชายแดนจะบูมอย่างมโหฬาร ซึ่ง 70 ล้านคนของเมียนมา สินค้าเขาอุดมไปด้วยทรัพยากรอย่างเต็มที่ เป็นทางผ่านไปถึงอินเดียได้ และหากมองในระยะ 5 ? 10 ปีข้างหน้า ถ้าเขามีความสงบในประเทศโดยเราสามารถเป็นตัวสำคัญในการนำความสงบมาให้เขาได้ ก็เชื่อว่าคนจะมองประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของประเทศที่มีประชากรประมาณ 100 กว่าล้านคน เพราะความเจริญของเรามีมากกว่า เรามีท่าเรือ มีสนามบินที่มีศักยภาพสูงกว่า ตรงนี้จะสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออกสินค้าให้กับเขาได้ ดังนั้น ตนจึงมีความหวัง เพราะขณะนี้ฝ่ายต่างประเทศและฝ่ายความมั่นคงของไทยได้ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ฝ่ายเขามีความสงบสุข และประเทศไทยเป็นกลางในการช่วยเหลือให้พี่น้องของเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเช่นเดียวกับประชาชนไทย
สำหรับเรื่องการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องจำนวนคนท่องเที่ยวเป็นเรื่องรอง โดยเรื่องใหญ่คือเรื่องค่าใช้จ่ายต่อหัวและระยะเวลาในการที่อยู่ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวกาญจนบุรี ส่วนใหญ่ไม่พักค้างคืน จึงขอให้ ททท.จังหวัดลงพื้นที่ให้มาก พบปะพูดคุยกับผู้บริหารจังหวัด สส. ผู้ว่าฯ โดยจังหวัดกาญจนบุรีมีศักยภาพทางประวัติศาสตร์และแม่น้ำแคว ขอให้จัดงาน Event ใหญ่ที่มีแสงสีเสียงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวมาก ๆ ซึ่งรัฐบาลถือว่านโยบายด้านการท่องเที่ยวเป็นนโยบายที่สำคัญที่สุดนโยบายหนึ่ง ส่วนเรื่องการทำให้กาญจนบุรีเป็นเมืองถ่ายทำภาพยนตร์ระดับโลก และปีหน้าอาจจะส่งเข้าประกวดกับยูเนสโกนั้น ขอให้ช่วยกันเตรียมตัวให้พร้อม รัฐบาลยินดีสนับสนุนอย่างเต็มที่
?ที่เรามาพูดคุยกันวันนี้ เป็นการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาและครบถ้วนทั้งหมด มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยกันอย่างเต็มที่ ดีใจที่ได้มาวันนี้ ได้พบปะกับพี่น้องทุก ๆ คน และดีใจที่มีข้าราชการที่มีคุณภาพมานำเสนอข้อมูลสำคัญ รัฐบาลน้อมรับและจะไปช่วยเหลือยกระดับจังหวัดกาญจนบุรีให้ไปถึงศักยภาพที่ควรจะเป็นไปได้? นายกรัฐมนตรีกล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษว่า จะต้องเป็นเขตพิเศษจริง ๆ เรื่องของมาตรการลดหย่อนทางด้านภาษี การสนับสนุนทางด้านต่าง ๆ เราก็อยากที่จะให้กับพื้นที่ที่มีศักยภาพ ซึ่งปัจจุบันทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า รัฐบาลได้เดินทางไปต่างประเทศหลายประเทศ ไปชักชวนนักลงทุนมาเปิดโรงงาน ส่วนมากเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ได้อานิสงส์ คือ อีสเทิร์นซีบอร์ด ฉะเชิงเทรา ระยอง และชลบุรี โดยปัจจุบันนี้พื้นที่ก็เริ่มจำกัดลง ทำให้ราคาที่ดินแถวนั้นมีราคาเพิ่มสูงขึ้น เพราะฉะนั้นนักลงทุนก็เริ่มที่จะลังเล แม้ว่าเราจะมีมาตรการที่ดี แม้ประเทศเราจะน่าลงทุนขนาดไหนก็ตามถ้าราคาที่ดินไม่คุ้ม นักลงทุนก็ไม่ดู รัฐบาลกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะมีเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาจากอีสเทิร์นซีบอร์ดหรือไม่ ซึ่งเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งสระแก้วก็เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ เพราะอยู่ใกล้กับท่าเรือน้ำลึก อยู่ใกล้กับอู่ตะเภา และไม่ไกลจากสุวรรณภูมิ รัฐบาลก็ให้ความสนใจ นอกจากนั้น สระแก้วเองก็มีความพร้อม มีการค้าชายแดนที่ปริมาณการค้าขายที่สูง ทั้งนี้จังหวัดกาญจนบุรีตนก็เชื่อว่ามีศักยภาพ แต่ต้องแก้ไขปัญหาไปก่อน เช่น ปัญหาเรื่องน้ำเป็นเรื่องใหญ่ เพราะว่าเรื่องของน้ำแล้งเป็นเรื่องใหญ่มาก โรงงานอุตสาหกรรมไฮเทคต่าง ๆ ที่จะมาที่นี่มีความต้องการของน้ำเป็นเรื่องระดับต้น ๆ เข้าใจว่าอยากให้เกิดขึ้นที่นี่ โดยขอเวลากลับไปเตรียมความพร้อมและดูในรายละเอียดอีกครั้ง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th