นายกฯ ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี พร้อมเปิดใช้ฟรี ช่วง 28 ธ.ค. 2566 ถึง 3 ม.ค. 2567 เพื่อช่วยลดเวลา-ปริมาณรถที่มุ่งหน้าออกไป จ.กาญจนบุรี ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 นี้
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (9 ธ.ค.66) เวลา 15.00 น. ณ บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางกาญจนบุรี อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี (M81) โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารหน่วยงานสังกัดกรมทางหลวงเข้าร่วมการติดตาม
นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปข้อมูลโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี (M81) ระยะทาง 96 กิโลเมตร มีความคืบหน้าดังนี้ การก่อสร้างงานโยธา ขณะนี้แล้วเสร็จ 17 สัญญาจากทั้งหมด 25 สัญญาคิดเป็น 95.962% สัญญาที่แล้วเสร็จ คือ สัญญาที่ 3 พื้นที่อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรีบริเวณกิโลเมตรที่ 4 + 100 ถึง กิโลเมตร 9 ระยะทางรวม 4.9 กิโลเมตร สำหรับรูปแบบโครงการเป็นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองขนาด 4 ถึง 6 ช่องจราจร มีระยะทางรวม 96 กม. มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับถนนวงแหวนรอนนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ด้านตะวันตก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จุดสิ้นสุดอยู่บริเวณทางหลวงหมายเลข 324 (ถนนกาญจนบุรี อ.พนมทวน) โดยใช้แนวเส้นทางมีด่านเก็บค่าผ่านทาง 8 แห่ง ได้แก่ ด่านบางใหญ่ ด่านนครชัยศรี ด่านศรีษะทอง ด่านนครปฐมฝั่งตะวันออก ด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก ด่านท่ามะกา ด่านท่าม่วง และด่านกาญจนบุรี นอกจากนี้ การก่อสร้างจากด่านนครปฐมฝั่งตะวันตกถึงด่านกาญจนบุรี ระยะทาง 50 กิโลเมตร เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดใช้ฟรี ช่วง 28 ธ.ค. 2566 ถึง 3 ม.ค. 2567 เพื่อช่วยลดเวลา และลดปริมาณรถที่มุ่งหน้าออกไป จ.กาญจนบุรี ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 อีกทั้ง คาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบตลอดสายทางในปี 2568
สำหรับการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 บางใหญ่ - กาญจนบุรี จะช่วยพัฒนาและส่งเสริมระบบการคมนาคมขนส่งทางถนนของประเทศไทยให้มีความทันสมัย ส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคของประเทศโดยรวม พัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างความสะดวก รวดเร็ว ทันสมัย ปลอดภัยให้กับประชาชนในการเดินทางสู่ภูมิภาคต่าง ๆ เพิ่มขีดความสามารถด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ และเป็นเส้นทางเชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมสู่ภาคตะวันตกและภาคใต้ของประเทศ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th