นายกฯ ให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชน ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในโอกาสที่เดินทางมาร่วมการประชุม ASEAN-Japan ในวันที่สอง
วันนี้ (16 ธันวาคม 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชน ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในโอกาสที่เดินทางมาร่วมการประชุม ASEAN-Japan โดย นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญดังนี้
วันนี้ถือเป็นวันที่สองที่ได้เดินทางมาปฏิบัติภารกิจ ในช่วงเช้าได้พบหารือกับ JETRO เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ฝ่ายไทยได้ยืนยันความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลญี่ปุ่นและยืนยันที่จะดูแลนักลงทุนในประเทศไทย ซึ่งความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นเป็นไปอย่างดีมากมาตลอด เป็นความสัมพันธ์ที่เรียกได้ว่า ?มองตาก็รู้ใจ?
โดยฝ่าย JETRO เข้าใจดีถึงกระแสโลกและความจำเป็นในการเปลี่ยนยานยนต์สันดาป ( ICE ) เป็น ยานยนต์ EV ซึ่งในการพบหารือกับบริษัทยานยนต์ขนาดใหญ่ 7 บริษัทที่ผ่านมาเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้บริษัทฯ เร่งการลงทุนให้เร็วขึ้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในโอกาสนี้ได้แนะนำ ม.ล. ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย ซึ่งจะดูแลเกี่ยวกับการตกลง FTA เร่งการเจรจาโดยเร็ว เพื่อรักษาระดับการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวา
บริษัท Kubota เป็นการหารือที่ดีมาก ทำให้ได้รับทราบถึงเทคโนโลยีที่มีอย่างหลากหลายของคูโบต้า ทั้งการอัดแน่นซังข้าวโพดเพื่อนำไปผลิตเป็นเชื้อเพลิง การเก็บเกี่ยวพืช ขณะนี้ประเทศไทยนำเข้าถั่วเหลืองจำนวนมาก และยังผลิตได้น้อย หากมีการพัฒนาจะทำให้ประเทศไทยผลิตถั่วเหลืองได้มากขึ้น เรียกว่าเป็นการพูดคุยอย่างครอบคลุมทุกเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการทำเกษตรกรรม Smart farming การใช้โดรนเพื่อการเกษตรกรรม และการพูดคุยครั้งนี้รวมถึงระบบเงินกู้ไฟแนนซ์ซิ่ง leasing เป็นการพูดคุยในหลากหลายมิติ และทีมงานจะนำประเด็นเหล่านี้มาประชุมต่อ
ในส่วนของกรอบการประชุมอาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียนและญี่ปุ่นมีความผูกพัน มีความสัมพันธ์กันระดับแน่นแฟ้น ญี่ปุ่นลงทุนสูงมากในอาเซียน อีกทั้งในเรื่องความท้าทายที่เกิดในภูมิภาคและทุกความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ประเทศไทยพร้อมที่จะเจรจาพูดคุยเพื่อความสงบและสันติสุขในภูมิภาค
ในส่วนของ mega project ของไทย Landbridge นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกขึ้นในงานสัมมนาของบีโอไอและกระทรวงคมนาคม ซึ่งนายกรัฐมนตรีมั่นใจว่ามีผู้สนใจ และเห็นว่าเป็นประโยชน์ที่สำคัญของภูมิภาค ถือเป็นโครงการที่จะลดความแออัดล่าช้าในช่องแคบมะละกาในอนาคต
ที่มา: http://www.thaigov.go.th