นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงในงาน Sri Lanka ? Thailand Business Forum ย้ำให้ ?ตีเหล็กขณะยังร้อน? เดินหน้าส่งเสริม และสนับสนุนการใช้ประโยชน์จาก FTA ไทย-ศรีลังกาอย่างเต็มที่
วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2567) เวลา 16.45 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโคลัมโบ ซึ่งช้ากว่าไทย 1.30 ชั่วโมง) ณ The Balmoral โรงแรม The Kingsbury นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถ้อยแถลงในงาน Sri Lanka ? Thailand Business Networking โดยมีนายรานิล วิกรมสิงเห ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เข้าร่วมงานด้วย โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกฯ เชื่อมั่นการเดินหน้าประเทศของศรีลังกา มั่นใจว่าการที่บริษัทชั้นนำของไทยกว่า 20 แห่งร่วมเดินทางมาในครั้งนี้ และการลงนาม FTA ไทย-ศรีลังกาสะท้อนถึงความรู้สึกเชื่อมั่นในศักยภาพระหว่างกันเช่นกัน
ในด้านการค้าระหว่างไทยและศรีลังกาเติบโตร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับปี 2565 คิดเป็นสัดส่วนการส่งออกจากไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 และส่งออกจากศรีลังกาเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 และในภาคการผลิต ที่การแปรรูปอาหารทะเลของศรีลังกามีความโดดเด่น ซึ่งศักยภาพความร่วมมือระหว่างบริษัทจากทั้งสองประเทศสามารถเดินหน้าอุตสาหกรรมนี้สู่ตลาดทั่วโลกได้
ในขณะที่ สินค้าขั้นกลาง (Intermediate Goods) ของไทยเองก็สามารถมีส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมการบริการที่กำลังเติบโตของศรีลังกา ที่รวมไปถึงการพัฒนาทักษะ และการเสริมสร้างขีดความสามารถ ผ่านความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและการโรงแรมระหว่างกัน และในด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองประเทศสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นฐานความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและศาสนาที่ใกล้ชิดระหว่างประชาชน โดยเฉพาะที่การบินไทยจะกลับมาให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ กรุงเทพฯ-โคลัมโบ ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2567
ด้านการลงทุน มีบริษัทไทยจำนวนมากดำเนินธุรกิจในศรีลังกา โดยเฉพาะด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การผลิต และพลังงาน ซึ่ง นายกฯ สนับสนุนให้บริษัทอื่นๆ ของไทย ใช้ประโยชน์จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังเติบโตของศรีลังกา และความได้เปรียบทางภาษีในตลาดต่างประเทศ และการเชื่อมโยงทางทะเล ศรีลังกาสามารถเป็นพันธมิตรสำคัญของไทย ที่มีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียน ด้วยโครงการ Landbridge ของไทยที่จะเชื่อมทะเลอันดามันกับอ่าวไทย และลดเวลาการขนส่งระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย
และด้วยสุภาษิตที่ว่า ?จงตีเหล็กขณะยังร้อน? นายกฯ พร้อมสนับสนุนธุรกิจจากทั้งสองฝ่ายให้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จาก FTA ที่ลงนามในวันนี้ และอวยพรให้งานในวันนี้ประสบความสำเร็จ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th