นายกฯ ตรวจติดตามสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 หวังนำเชียงใหม่ Model ไปใช้กับทุก ๆ จังหวัดเพื่อแก้ไขปัญหา PM2.5
วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2567) เวลา 11.00 น. ณ ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจติดตามสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้การต้อนรับ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีรับฟังรายงานสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลังจากได้รับฟังรายงานก็เห็นแล้วว่า จุด Hotspot ของค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งได้พบว่า อยู่ที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งในวันนี้เวลา 13.30 น. จะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงทีมงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูว่าปัญหาของเรื่องฝุ่นอยู่ตรงไหน และดูรายงานของวันนี้ จาก Heat Map จะเห็นว่าจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งควรเป็นช่วงที่ต้องมีค่าฝุ่น PM2.5 สูงมาก แต่มีสถานะเป็นสีเหลืองซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่มีการประสานงานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฝ่ายความมั่นคง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกฝ่ายมีการร่วมมือ พูดคุยกันอย่างดี ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูดี จึงทำให้เราอยากที่จะนำเชียงใหม่ Model ไปใช้กับทุก ๆ จังหวัด
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีข้อมูลที่ดี เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีข้อมูลที่ดีออกมาแล้วตรงไหนที่เป็น Hotspot จริง ๆ จะต้องมีการสั่งการที่ชัดเจนว่า ขั้นตอนถัดไปจะเป็นอย่างไร พร้อมทั้งจะต้องมีการประสานงานกับทางประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมาด้วย เพราะมีการเผาในประเทศเหล่านั้นเยอะมากซึ่งมีตัวเลขออกมาชัดเจน ทั้งนี้ ทุกฝ่ายจะต้องพูดคุยและประสานงานร่วมกัน ไม่ใช่จะบอกแค่ว่าอีก 3 วัน ทิศทางลมจะดีขึ้นแล้วเราจะดีขึ้น วันนี้เราไม่ได้พูดถึงอีก 3 วันข้างหน้าแต่เราพูดถึงวันนี้ ถ้าวันนี้ตอนเช้าไม่ดี เราก็จะต้องหาวิธีการแก้ไขต่อไป จะขอเวลาอีก 3 - 4 วัน แล้วหวังว่าลม ฟ้า อากาศจะมาช่วยนั้น ไม่ใช่วิธีการบริหารจัดการปัญหาที่ถูกต้อง โดยวันนี้เป็นการเดินทางมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมครั้งแรก ซึ่งทราบดีว่าเรื่องฝุ่น PM2.5 เป็นเรื่องใหญ่ ส่วนเรื่องในระยะยาวนั้นก็จะต้องมีการพูดคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจำกัดรถที่มีไอเสียจะดำเนินการอย่างไร มาตรการสนับสนุนการเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า EV มั่นใจว่าเราจะแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้ผ่านความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ และความร่วมมือจากประชาชนด้วย
สำหรับสถานการณ์และการแก้ไขปัญหา PM2.5 ของกรุงเทพมหานคร วันนี้กรุงเทพมหานครมี Hotspot มาก และเราทราบกันดีอยู่ว่า 1 ใน 3 เกิดจากปัญหาควันพิษที่ออกมาจากรถยนต์ ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกันในระยะยาวในการแก้ไขปัญหาควันพิษ นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการย้ายสถานที่บางแห่ง โดยทางนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้เคยบอกเรื่องของการย้ายท่าเรือคลองเตย ที่จะต้องมีการพูดคุยในระยะยาว เพราะจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การแก้ไขปัญหาระยะสั้นสำหรับกรุงเทพมหานคร ได้ประกาศให้มีการ Work From Home รวมถึงหน่วยราชการต่าง ๆ ก็มีอำนาจในการบริหารจัดการอย่างเต็มที่ อีกทั้งเรื่องของการหยุดระงับการก่อสร้างก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สามารถสั่งหยุดการก่อสร้างชั่วคราวได้ ทั้งนี้ 25% ของปัญหาฝุ่น PM2.5 มาจากไอเสียซึ่งเราควบคุมในจุดนี้ได้ แต่เราต้องไปควบคุมที่ต้นเหตุมากกว่านั้น คือการเผาวัชพืชต่าง ๆ ที่มาจากจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับทิศทางลม โดยในบ่ายวันนี้จะมีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหา อีกทั้งอยากเชิญชวนให้ประชาชนมาใช้บริการรถสาธารณะ โดยจะมีการพูดคุยกันในเรื่องของนโยบายลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าเป็น 20 บาทตลอดทั้งสาย ที่จะต้องเร่งหยิบขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้ประชาชนทุกคนเดินทางได้อย่างสะดวกในราคาที่เข้าถึงได้
ที่มา: http://www.thaigov.go.th