นายกฯ ปาฐกถาพิเศษ ?ก้าวใหม่ประเทศไทย? ต้องสว่างไสว โลดแล่นในอนาคตได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ย้ำทุกคนต้องช่วยกันนำพาประเทศไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
วันนี้ (23 กุมภาพันธ์ 2567) เวลา 19.00 น. ณ ห้องบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์เอ 2 ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษ ในงานครบรอบ 44 ปีก้าวสู่ปีที่ 45 ของฐานเศรษฐกิจ ในหัวข้อ ?THAILAND NEW ERA ก้าวใหม่ประเทศไทย? โดยมีนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการ ผู้บริหาร หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ เข้าร่วมงาน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษ ตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมาการบริหารประเทศติดขัด มีความขัดแย้งมากมาย ก้าวใหม่ประเทศไทยวันนี้ ไม่ว่าทุกคนจะเชื่อมั่นในรัฐบาล เชื่อในตัวตนเอง หรือไม่เชื่อมั่นก็ตาม ไม่สำคัญเท่ากับที่ทุกคนต้องเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย ทั้งนี้ เมื่อวานตนเองได้เสนอภาพ Vision ของประเทศไทย ผ่านข้อเสนอ 8 ข้อ เพื่อเสริมเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง นำเงินมาสู่ประเทศไทย ยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องคนไทยทุก ๆ คน ให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไป
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญทางด้านจิตใจ ซึ่งก้าวใหม่ของประเทศไทยจะอยู่บนความกังวล อยู่บนความขัดแย้ง หรือว่าจะให้ความขัดแย้งมาบดบังแสงสว่างของประเทศไทย มากำหนดศักยภาพให้อยู่ต่ำต่อไปหรือเปล่า ตนเองเชื่อว่าเราอยู่ในมิติใหม่ อยู่ในบริบทใหม่ ซึ่งวันนี้ต้องมีการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ที่ทุกคนพึงจะได้แต่ไม่ได้ ทำให้ไม่สบายใจ
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญ รัฐบาลให้ความสำคัญกับคุณค่าของทุกคน ทุกเพศ โดยได้เร่งผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เพื่อให้เกิดความเสมอภาค ไม่ให้เกิดการด้อยค่าในตัวเอง ส่วนเรื่องของการเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ ต้องมีการบริหารจัดการกำลังพล ทรัพยากรให้เหมาะสมกับยุคสมัย เช่น มีกำลังพลประจำการน้อยลงแต่มีคุณภาพและทันสมัยมากขึ้น แต่ยังต้องการพยาบาล หมอ ทหารเพิ่ม รวมถึงการนำสินทรัพย์ของกองทัพออกมาสร้างประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกันไปบ้างแล้ว เรื่องที่ดินที่มอบให้เกษตรกรไป คือความภาคภูมิใจให้เขาได้มีโฉนด มีเอกสารสิทธิครบถ้วน รวมถึงการพิจารณากำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เหมาะสมด้วย
ด้านการท่องเที่ยว นายกฯ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวสมัยก่อนมาก็แค่เมืองหลัก ต่อไปนี้ต้องไปเมืองรองด้วย ของดีของเด่น Soft Power มวยไทย งานเทศกาล รวมถึงเรื่อง Event ก็จะต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน กฎ ระเบียบ ท่องเที่ยวให้เป็นภูมิภาค CLMV ซึ่งประเทศไทยได้ยกเว้นวีซ่าให้คนต่างชาติหลายประเทศ และเริ่มเห็นผลแล้วว่าเราก็ได้รับ Reciprocal เช่น นักท่องเที่ยวชาวจีน และชาวรัสเซีย ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยจำนวนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องเริ่มเดินหน้าติดต่อกับทางยุโรปทำให้เราสามารถไปเชงเก้นได้ แม้ว่าจะใช้เวลานาน แต่ต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้
นายกฯ กล่าวถึงด้านอาหารว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งวัตถุดิบชั้นเลิศ มีร้านอาหารอร่อยมากมายตั้งแต่ Street ยัน Michelin เกษตรกรไทย ต้อง ?ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ในกระเป๋ามีเงิน? การมอบที่ดินเป็นศักดิ์ศรี เป็นความภาคภูมิใจของเกษตรกร การลงทุนเรื่องน้ำ เครื่องจักร เมล็ดพันธุ์ จะเพิ่ม Supply ให้มหาศาล เรื่องของ Demand ตลาด เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด วันนี้ Saudi Arabia พร้อมรับสินค้าเกษตรจากไทยจำนวนมาก
?รัฐบาลให้ความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคน รวมถึงการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ต้องแก้ไขปัญหาให้หมด จะต้องไม่ยอมแพ้กับปัญหาที่เกิดขึ้น หากวันหนึ่งมี 50 ชั่วโมง ตนเองและรัฐบาลจะลงพื้นที่ให้ครบทุกจังหวัด ไปติดตามแก้ไขปัญหา สิ่งสำคัญมากกว่าการแก้ไขปัญหาคือการใส่ใจต่อปัญหา ใส่ใจต่อพื้นที่ ใส่ใจต่อประชาชน ตนเองเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ทุกเรื่องจะสำเร็จได้ด้วยการรวมพลังของทุกภาคส่วน ทุกคนต้องช่วยกันนำประเทศไทยไปสู่เป้าหมาย ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพ ในฐานะนายกรัฐมนตรีอยากให้ประเทศไทยโลดแล่นไปในอนาคตได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีอยากให้ทุกคนมองประเทศไทยในมุมมองที่สว่างไสวเหมือนที่ตนเองมอง เหมือนที่ตนเองอยากให้ประเทศไทยเป็น? นายกฯ ย้ำ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th