นายกฯ นำคณะร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.นราธิวาส ย้ำภาคใต้มีศักยภาพ ยืนยันรัฐบาลพร้อมเดินหน้าสนับสนุน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน 3 จังหวัดชายแดนใต้
วันนี้ (29 กุมภาพันธ์ 2567) เวลา 11.00 น. ณ พุทธมณฑลังหวัดนราธิวาส (พุทธอุทยานเขากง) ตำบลลำภู อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สักการะพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล และนมัสการ พระธรรมวัชร จริยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 เจ้าอาวาสวัดประชุมชนธารา โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมคณะด้วย นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า
โอกาสนี้ พระธรรมวัชร จริยาจารย์ กล่าวอวยพรให้ นายกฯ มีสุขภาพแข็งแรง พร้อมกับนำเสนอปัญหาต่อนายกฯ ว่า จังหวัดนราธิวาสยังมีปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนของชาวบ้านในพื้นที่ป่าที่เข้าไปทำมาหากิน รวมถึงปัญหาด้านการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทาง และเรื่องปัญหาเขตชายแดนในพื้นที่เขตนราธิวาส ซึ่งจังหวัดนราธิวาสมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย แต่ยังมีปัญหาเรื่องความไม่สงบในพื้นที่
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องของพื้นที่ทับซ้อน ตนเองได้พูดคุยหารือกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และรองนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ ในเรื่องของพื้นที่ทำกินของพี่น้องประชาชนนั้น จะพยายามดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้ได้มากที่สุดและต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ จะต้องฝากเรื่องให้ทางผู้บัญชาการทหารบกเข้ามาดำเนินการในเรื่องของกรมแผนที่ทหาร จะต้องจัดทำแผนที่ให้เป็นอัตราส่วนเดียวกัน เพื่อไม่ให้มีการถกเถียงเรื่องพื้นที่ทับซ้อนอีก ตรงนี้คือจุดเริ่มต้นที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้ โดยนายกฯ คาดการณ์ว่าประมาณ 3 อาทิตย์ จะดำเนินการเสร็จเรียบร้อย แต่ปัญหาอยู่ที่เขาใหญ่ คือทำได้แค่ที่เขาใหญ่ที่เดียว ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะต้องแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องของงบประมาณที่ได้ขอเพิ่มมานั้น รัฐบาลพร้อมจะสนับสนุนงบประมาณ
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้มาเห็นศักยภาพในพื้นภาคใต้ และมีความเกี่ยวโยงกับเรื่องของความสงบด้วย ถ้าหากเศรษฐกิจในพื้นที่ดีคนในพื้นที่ก็ไม่อยากจะทะเลาะกัน จะต้องก้าวต่อไปข้างหน้าจะต้องไม่จมปลักกับเรื่องเดิม ๆ ในอดีต ทั้งนี้ ถ้าพี่น้องประชาชนมีเงินอยู่ในกระเป๋า เรื่องของปัญหาการทะเลาะก็จะหมดสิ้น เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเรื่องของการตรวจคนเข้าเมืองการยกเลิกแบบฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นต้องเร่งทำให้ทุกด่าน โดยเฉพาะด่านตรวจชายแดนภาคใต้ ทั้งในจังหวัดสงขลา และทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และผู้ว่า ททท. มาดูแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองและสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้รับความสนใจ
นายกฯ กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาส เป็นจังหวัดที่ได้เปรียบเพราะมีสนามบิน มีสายการบิน บินเข้าออกในจังหวัดวันละ 2 เที่ยว เช่น สายการบินนกแอร์ และสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งหวังว่าเรื่องของสนามบินที่ปัตตานีและที่เบตงก็จะถูกแก้ไขเหมือนกัน ทั้งนี้ รัฐบาลจะพยายามดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากเศรษฐกิจดี เชื่อว่าจะมีสายการบินที่ต้องการบินเข้ามาในจังหวัดเพิ่มขึ้น อย่างเช่น ที่เบตง และปัตตานี ยังมีสนามบินของกองทัพ เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันแล้วว่าจะศึกษาในเรื่องของการใช้ร่วมกันได้หรือไม่ ถ้าหากสามารถใช้สนามบินร่วมกันได้ จะเป็นการช่วยประหยัดเงินงบประมาณและทรัพยากรของประเทศชาติ โดยเรื่องดังกล่าวได้เรียนทางฝ่ายความมั่นคง ให้นำเข้าสู่ในกระบวนการดำเนินการศึกษาต่อไป เพราะเรื่องของความมั่นคงและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจจะต้องดำเนินการควบคู่ไป
นายกฯ กล่าวถึงเรื่องของปัญหายาเสพติดว่า เป็นปัญหาใหญ่ทั้งภาคใต้และในโซนภาคอีสาน ทั้งนี้ ได้ดำเนินการศึกษา และดูตัวเลขทางกรมราชทัณฑ์ของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีจำนวนมาก ซึ่งได้มีการดำเนินการดูแลศึกษาเรื่องของผู้เสพให้กลายเป็นผู้ป่วยให้สามารถกลับคืนเข้าสู่ครอบครัว และมีอาชีพที่สมเกียรติ สมศักดิ์ศรี
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ปัญหาเรื่องของยาเสพติด หากเศรษฐกิจดีขึ้น ตัวเลขของผู้ข้องเกี่ยวกับยาเสพติดก็จะลดน้อยลง ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบมีตัวเลขที่สูงนั้น กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลัง และฝ่ายความมั่นคงได้จัดทำพื้นที่ตลาดนัดแก้ไขหนี้นอกระบบ หากทำงานแล้วนำเงินมาจ่ายดอกเบี้ยเป็นจำนวนมาก ก็ไม่พอกินพอใช้ ประชาชนก็จะหันไปประกอบอาชีพที่ทุจริต และพึงยาเสพติด เพื่อให้จิตใจสบายขึ้น ถือเป็นสิ่งที่ผิด ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่สะสมมายาวนาน ฝั่งรากลึกต่อสังคมไทย รัฐบาลจะพยายามตั้งใจที่จะดำเนินการให้ดียิ่งขึ้น
ที่มา: http://www.thaigov.go.th