นายกฯ ส่งเสริมการท่องเที่ยว “เที่ยวใต้สุดใจ”

นายกฯ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ?เที่ยวใต้สุดใจ? ย้ำถึงการนำโอกาส-ศักยภาพต่อยอดการท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ วัฒนธรรมท้องถิ่น ความเสมอภาค ให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจในพื้นที่และประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น

วันนี้ (28 ก.พ.67) เวลา 15.40 น. ณ สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง (สวนหมื่นบุปผา) ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา นายเศรศฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงวัตถุประสงค์ในการเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ?เที่ยวใต้สุดใจ? จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และและจังหวัดนราธิวาสระหว่างวันที่ 27 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 ว่า การเดินทางมาครั้งนี้ได้ค้นพบสิ่งที่มีค่า โอกาส และศักยภาพที่สามารถนำไปต่อยอดได้ รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ วัฒนธรรมท้องถิ่น โดยมองเห็นเน้นการสร้างโอกาส และความเสมอภาค เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวว่าหากย้อนไปประมาณปีที่ผ่านมาพบว่าปัญหาความไม่สงบลดน้อยลงไปมาก ควบคู่กับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยรัฐบาลนี้เข้ามาได้มีการยกเลิกใบ ตม.6 ทำให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยสุดสัปดาห์ จาก 10,000 คน เพิ่มเป็น 30,000 กว่าคน ส่งผลทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยที่เกิดจากการท่องเที่ยว ตรงนี้จึงเกิดไอเดียและความคิดที่จะเป็นโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจให้ดีขึ้น โดยนำสิ่งดี ๆ ที่ซ่อนอยู่นำมาให้ชาวโลกได้รับรู้ ส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว สินค้า ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เข้ามา จะทำให้คนพื้นเมืองมีรายได้มากขึ้น พอมีรายได้มากขึ้นก็จะลืมเรื่องของการทะเลาะเบาะแว้ง โดยหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการที่จะทำอะไรที่ดีกันต่อไป

พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้กล่าวถึงการเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมและเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ของจังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา ? ระหว่างวันที่ 27 และ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ภายใต้กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ?เที่ยวใต้สุดใจครั้งนี้ สรุป ดังนี้

นายกฯ เยี่ยมชมตลาดวิถีชุมชนพื้นบ้านจังหวัดปัตตานี และพบปะผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน ณ มัสยิดกรือเซะ อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี โดยกล่าวว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามัสยิด รู้สึกประทับใจในรอยยิ้ม ไมตรีจิต ที่พี่น้องประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ได้เห็นถึงสันติภาพและสันติสุข ในแววตาของพี่น้องประชาชนทุกคนที่มาเมื่อวานนี้ โดยได้เยี่ยมชม มีโบราณวัตถุหายากจำนวนมากในพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ได้เห็นสิ่งของดี ๆ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าผลิตภัณฑ์ทองเหลืองเริ่มจะสูญหายไป เพราะคนที่สามารถทำผลิตภัณฑ์ทองเหลืองเริ่มมีอายุมากและแก่เฒ่า ทั้งนี้นายกฯ ได้สั่งการกระทรวงวัฒนธรรมให้มีการฟื้นฟูเรื่องของการทำผลิตภัณฑ์ทองเหลือง เพื่อให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับพี่น้องประชาชนได้ นอกจากนี้ยังได้ชิมอาหารท้องถิ่น ซึ่งมีทั้งอาหารคาว อาหารหวานที่ทำจากน้ำตาลโตนด และเมี่ยงคำสำเร็จรูป ซึ่งนายกฯ ได้มีการพูดคุยกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาว่าสามารถจะนำขึ้นการบินไทย Business Class เป็นอาหารว่างหรือออร์เดิร์ฟได้ ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและอาหารไทย

ในช่วงบ่าวย นายกฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมบ้านขุนพิทักษ์รายา บ้านเลขที่ 5 ซึ่งทางครอบครัวเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม บ้านโบราณได้มีการขยายเพิ่มเติมไปหลายหลัง เวลามาท่องเที่ยว 1 ครั้งก็มีความคุ้มค่าซึ่งจะทำให้ได้เห็นความเป็นอยู่ในสมัยโบราณ ทั้งสถาปัตยกรรมและยังได้รับการยกย่องจากยูเนสโกอีกด้วย จากนั้นได้เดินทางไปยังศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งช่วงระยะเวลานี้อยู่ในช่วงเทศกาลที่มีผู้คนเข้ามาท่องเที่ยวพอดีได้เห็นว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก ทั้งคนเข้ามาสักการะ และชมการเชิดสิงโตประจำปี ทั้งนี้ นายกฯ อยากให้มีการผลักดันงานเทศกาลของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวให้เหมือนกับเทศกาลกินเจของจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งในช่วงค่ำได้เยี่ยมชมมัสยิดกลางปัตตานีได้เห็นความสวยงามของมัสยิดที่สร้างมานานมากผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในด้านของการพูดคุยกันทางด้านผู้นำศาสนาด้วย

สำหรับกิจกรรมในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 นั้น ในช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกฯ ได้เดินทางเยี่ยมชม TK park ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้มีการก่อสร้างตั้งแต่ยุคสมัยอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสให้เข้าถึงการศึกษา โดยศูนย์กลางนี้ได้ถูกย้ายมาปัตตานี และเห็นว่ามีเด็กเข้ามาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ได้มีการพูดคุยกับ Startup ต่างๆ ที่มีไอเดียดี ๆ แต่ยังขาดการต่อยอด เชื่อมโยงไปที่หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องออนไลน์ โปรแกรมที่มีเว็ปไซต์ที่สามารถเชื่อมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ ซึ่งนายกฯ ย้ำว่าต้องมีความพยายามในการทำของพวกนี้ ถ้าเราพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ก็ไม่สามารถไปถึงจุดที่เราอยากไปได้ ความทะเยอทะยานเป็นสิ่งสำคัญ หากเรามีความพยายามแล้ว มีตลาดแล้ว เชื่อว่าต้องมีแหล่งเงินทุนก็จะไม่เป็นปัญหา พร้อมทั้งนายกฯ ได้รับชมบทเพลงจากวงออเคสตร้าเยาวชนเทศบาลนครยะลา มีการเล่นเพลง Can?t help falling in love ซึ่งมีความไพเราะมากด้วย

ทั้งนี้ ท่านพระมหากษัตริย์จากประเทศบรูไนจะเสด็จเยือนประเทศไทย ประมาณเดือนหน้า หรือเดือนเมษายน นายกฯ จึงบอกกับน้อง ๆ วงออเคสตร้าเยาวชนเทศบาลนครยะลาว่าจะให้ไปแสดงโชว์ที่ทำเนียบรัฐบาล และไปเยี่ยมชมทัศนศึกษาด้วย เป็นการต่อยอดเพื่อสร้างความหวังและแรงบรรดาลใจต่อไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการได้มาดูผังเมืองยะลา ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจระดับโลกที่ผังเมืองของ จ.ยะลา ประเทศไทย ติดอันดับที่ 23 ของโลก จึงอยากให้มีคนมาท่องเที่ยวให้มากขึ้น รวมทั้งยังเป็นที่น่าชื่นใจที่มีคนพื้นเมืองที่ไปเรียนต่อที่เมืองนอกมาและกลับมาทำงานที่ประเทศ โดยมีอยู่คนหนึ่งก่อนกลับมาประเทศไทยได้ไปทำงานที่ประเทศบรูไน ซึ่งทางประเทศบรูไนอยากให้มีการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว การทำผังเมืองใหม่ มีการออกแบบทางด้านสถาปัตยกรรมใหม่ ซึ่งได้ให้เด็กคนนี้ไปอยู่ประมาณ 2 ปี จากนั้นก็ทำงานต่อในพื้นที่ และอยากที่จะให้มีการสร้างหอขนาดใหญ่ หรือหอชมเมือง เพื่อที่จะได้เห็นความสวยของผังเมืองได้ นักเรียนบางคนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยดี ๆ ที่เมืองนอก โดยบอกว่าผังเมืองยะลาถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นแบบอย่างในการเวลาที่มีการสอนเกิดขึ้น อีกทั้งวันนี้ได้เข้าสักการะหลวงปู่ทวด และนมัสการเจ้าอาวาสวัดช้างให้ด้วย โดยท่านเจ้าอาวาสได้ให้พรและได้ฝากเรื่องความสงบ การท่องเที่ยว การประมง เพราะเป็นวิถีชีวิตของชาวปัตตานี ซึ่งนายกฯ ได้เรียนว่ารัฐบาลได้มีการผลักดัน พ.ร.บ. ประมงเข้าสู่สภาฯ แล้ว เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา และจะผลักดันให้เป็นอาชีพที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี รวมทั้งให้ดูเรื่องของวัฒนธรรม โดยนายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมไปดำเนินการ

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงในช่วงกลางวันที่ได้ไปรับประทานอาหารกลางวัน โดยรับประทานปลานิลสายน้ำไหล และปลาพลวงชมพู ซึ่งปลานิลเป็นปลานิลสายพันธุ์หนึ่งที่นำมาเลี้ยงดูในขณะที่น้ำไหล โดยปลานิลสายน้ำไหลตัวนึงกิโลกรัมละ 100 กว่าบาท ถ้า 1 ตัว 7 กิโลกรัมละ 700 บาท 7 ตัว 4,900 บาท ตกตัวละ 5,000 บาท ใครจะคิดว่าปลานิลตัวละ 5,000 บาท วันนี้กระทรวงพาณิชย์ ได้นำนายชุมพล แจ้งไพร หรือ เชฟชุมพล มา เพื่อมาแสดงวิธีสาธิตการทำอาหารจากปลาในเมนูต่าง ๆ เพื่อให้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันนี้การเลี้ยงปลาเหล่านี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ซึ่งนายกฯ ได้เสนอแนะว่า หาก demand หรือความต้องการมาก ซึ่งเป็นเศรษฐศาสตร์พื้นฐานก็ขึ้นราคา ตอนนี้พยายามที่จะขยายมากขึ้น ให้สอดคล้องกับ demand ที่ชัดเจน และตลาดมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ มองไปไกลว่า ถ้าสมมติว่า มีคนอยากทำตรงนี้ พูดถึงแหล่งเงินทุนจะทำอย่างไร ได้บอกไปทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสินให้ช่วยเรื่องไฟแนนซ์ตรงนี้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีปลาอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า ปลาพลวงชมพู ซึ่งเป็นที่ต้องการของทั่วโลกเลี้ยงยากมาก เพาะพันธุ์ได้ปีละประมาณ 1 เดือน ขยายไม่ได้เลย มีเท่าไหร่ขายหมด ตัวหนึ่ง 2-3 กิโลกรัม ตัวหนึ่ง 2 - 3 พันบาท เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจได้ ตรงนี้เห็นได้จากศักยภาพชุมชน ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถต่อยอดได้อีกมาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการได้มาเยี่ยมชมกิจกรรมภายในสวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง อากาศดี มีพืชพันธุ์ดอกไม้ที่หลากหลาย เหมาะสำหรับเป็นแหล่งเช็คอินสำหรับการท่องเที่ยว และดอกไม้สามารถส่งออกไปต่างประเทศสำหรับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงหากทำเนียบรัฐบาลมีกิจกรรมอะไร ต้นไม้ และดอกไม้เหล่านี้ก็สามารถนำมาใช้ได้

ในต้อนท้ายนายกรัฐมนตรี ย้ำถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า เพื่อมาดูเรื่องของโอกาส ไม่อยากพูดถึงเรื่องของปัญหา ความจริงปัญหาส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นในอดีตคือความห่างเหิน ระหว่างประชาชน ข้าราชการ ซึ่งอาจจะเกิดความไม่เข้าใจกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าการที่เราไม่ให้งบประมาณ แม้ว่าจะมีการใส่งบประมาณไปแล้ว มีโครงการมาแล้วใส่เงินไปแล้ว ก็ไม่สามารถเทียบกับการใส่ใจ การที่นายกฯ เดินทางมาที่นี่ด้วยตนเอง มาอยู่ 2 คืน ถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีในรอบ 10 ปีที่ไม่ได้มาค้างที่นี่ ถือว่าเป็นการแสดงเจตจำนงที่ชัดเจนว่าเราจะนำความเสมอภาค ความเท่าเทียม และโอกาสมาสู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอยากให้พี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความไว้วางใจรัฐบาลนี้ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งขณะนี้กำลังจะเข้าพิธีเดือนรอมฎอนอีกไม่กี่วันข้างหน้า ถือเป็นพิธีทางศาสนาถือศีลอด ซึ่งให้เรามีความอดกลั้น เป็นการยกโทษให้กันและกัน เป็นเรื่องของที่เราต้องเดินไปข้างหน้า วันนี้รัฐบาลพร้อมที่จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างประชาชนกับประชาชนในทุกๆ เขต ทุกๆ ประเทศ เพื่อให้เราลืมความทุข์ และวันนี้เรามาโฟกัสเรื่องของโอกาสดีกว่า สำหรับพรุ่งนี้จะเดินทางไปจังหวัดนราธิวาสก็ได้เห็นโอกาสอีกมาก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th