นายกให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังพบหารือ บริษัท Luxury ชั้นนำฝรั่งเศส
วันนี้ (11 มีนาคม 2567) เวลา 11:00 น. (เวลาท้องถิ่นกรุงปารีส) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงภารกิจในฝรั่งเศส โดย นายกฯ กล่าวว่า วานนี้ เย็นวันที่ 10 มีนาคม 2567 นายกฯ ได้เดินทางไปพบกับ Mr. Jean Todt นักแข่งรถระดับโลก อดีตผู้บริหาร Ferrari และประธาน FIA ที่บ้านพักชานกรุงปารีส เพื่อพูดคุยถึงวงการแข่งรถยนต์? รวมถึงการต่อยอดเรื่องนำเอา Formula E ซึ่งเป็นการแข่งรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาจัดในประเทศไทย
โดยได้พูดคุยกันถึงโครงการ Road Safety ที่ได้รับการสนับสนุนจาก UN เพื่อลดอุบัติเหตุจากการใช้รถ โดยการสวมหมวกนิรภัย ซึ่งมีต้นแบบการผลิตหมวกนิรภัยให้มีราคาที่ต่ำประมาณ 700 บาท เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงได้ นายกฯ ได้ชวน Mr.Todt เข้ามาร่วมทำกิจกรรมนี้ในเมืองไทยร่วมกับรัฐบาลไทย เพื่อสร้างความปลอดภัยในที่สาธารณะ (Public Safety) โดยที่ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางถนนกว่า 250,000 คนต่อปี และบาดเจ็บ 800,000 คน โดยนายกจะร่วมมือเพื่อดำเนินโครงการนี้ในทุกจังหวัดของประเทศไทยโดยจะได้มีการหารือกับกระทรวงมหาดไทยและองค์การสหประชาชาติต่อไป
การหารือ LVMH ซึ่งเป็นบริษัทที่มีหลายแบรนด์ในการดูแล เช่น หลุยส์ วิตตอง เครื่องดื่มไฮเนสซี มีกิจการโรงแรม ได้พาลูกชายซึ่งเป็นผู้บริหารมาร่วมพูดคุยด้วย ร้านค้าในเครือมียอดขายอันดับต้นๆ โดยนายกฯ ได้เชิญชวนให้เข้ามาทำ pop up store ซึ่งในปีที่แล้วทางบริษัทฯ ได้มาร่วมมือดำเนินการแล้วที่จังหวัดภูเก็ตประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับเรื่องภาษี และการอำนวยความสะดวกในการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งนายกฯ ได้เสนอ ว่าปี 2567 เป็นปีมหามงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบหรือ 72 พรรษา อยากให้ทั้งสองฝ่ายร่วมทำกิจกรรมพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสดังกล่าว
ต่อมาได้พบหารือกับ บริษัท Kering ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย และมีแผนจะย้ายเข้ามาในไทย จะมีการจ้างงานแรงงาน 300-400 คน โดยได้เชิญมาไม่ใช่แค่เฉพาะแค่ในเมืองใหญ่ แต่กระจายในหลายพื้นที่ ทั้งนี้บริษัทมีชื่อเสียงในเรื่องการใช้เครื่องหนัง เป็นอย่างมาก โดยชื่นชมฝีมือคนไทย แต่ยังขาดบุคลากรที่ยังมีไม่เพียงพอซึ่งในเสนอตั้ง joint venture โรงงาน เพื่อเพิ่มมูลค่าสำหรับคนไทย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงภารกิจในช่วงบ่ายวันนี้ จะได้พบหารือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศสซึ่งถือเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการโดยจะได้มีการหารือ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ FTA วีซ่าเชงเก้น แฟชั่น การเปิดสินค้าให้กับคนไทย จากนั้นจะเดินทางไปพบผู้บริหาร EDF เพื่อพูดคุยศึกษาเกี่ยวกับความปลอดภัยโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ และในช่วงเย็นจะพบกับ ผู้บริหาร F1 โดยจะได้ เชิญให้จัดการแข่งขันในประเทศไทย
ในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปเมืองคานส์ ซึ่งมีการจัดงานเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะได้ไปดูงานสำหรับประเทศไทย และจะได้ร่วมกล่าวปาฐกถา และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจที่เมืองคานส์ จะเดินทางเยือนเยอรมนีในช่วงเย็น
โดยยังได้ตอบคำถามสื่อมวลชนว่า ยินดี ที่สนามบินสุวรรณภูมิติดอันดับ 7 สนามบินที่หรูหราที่สุดในโลก แต่อย่างไรก็ดีต้องกลับมาบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีมากยิ่งขึ้นโดยยินดีที่สนามบินมีฐานที่ดีอยู่แล้ว
และได้ตอบคำถามเกี่ยวกับประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ว่าการเดินทางมาต่างประเทศก็ถือเป็นการแก้วิกฤตอย่างหนึ่ง เช่น การลงนาม FTA การดึงดูดนักลงทุน ซึ่งถือเป็นการเดินหน้าทั้งในระยะกลาง และในระยะยาว เป็นการจับจ่ายใช้เงินลงทุนและนักลงทุนในโอกาสเดียวกัน โดยนายกพร้อมรับฟังทุกเรื่อง และพร้อมปรับปรุงในการทำงาน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th