นายกฯ ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน จ.เชียงใหม่ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเฝ้าระวังและดับไฟป่า ย้ำต้องทะเยอทะยานในการแก้ไขปัญหา

ข่าวทั่วไป Saturday March 16, 2024 13:17 —สำนักโฆษก

นายกฯ ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน จ.เชียงใหม่ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเฝ้าระวังและดับไฟป่า ย้ำต้องทะเยอทะยานในการแก้ไขปัญหา เป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนขอให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาเต็มที่

วันนี้ (16 มีนาคม 2567) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการถ่ายทอดผ่านระบบ zoom ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ และจังหวัดกาญจนบุรี โดยมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมประชุมด้วย นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญสรุป ดังนี้

นายกฯ พบปะเจ้าหน้าที่อาสาสมัครและประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาไฟป่า พร้อมรับฟังรายงานสรุปในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ดังนี้ 1) การแก้ไขปัญหาไฟป่า และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ 2) สถานการณ์ไฟป่า การป้องกันและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 3) สถานการณ์ไฟป่า การป้องกันและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยอธิบดีกรมป่าไม้ 4) สถานการณ์มลพิษทางอากาศ PM2.5 และ Fire-D ระบบการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในจังหวัดเชียงใหม่ โดยคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (รศ. ดร.สมพร จันทระ และ ผศ.ดร.ชาคริต โชติอมรศักดิ์) และ 5) รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยอธิบดีกรมชลประทาน

สำหรับการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้มีมาตรการเด็ดขาด ?จับจริง คนเผาป่า ไม่ปล่อยให้ไหม้ข้ามวัน? รวมทั้งดำเนิน 9 มาตรการรับมือฝุ่น ดังนี้ 1) ควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรได้กว่า 2 แสนไร่ 2) ปิดป่าอนุรักษ์ 19 ป่า ป้องกันการเข้าไปจุดไฟ 3) หางานให้คนหาของป่าช่วงเดือนมี.ค.- เม.ย. 4) ตั้งรางวัลนำจับคดีละ 10,000 บาท จ่ายทันที 5) ลมตะวันตกพัดพาฝุ่นประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาใช้มาตรการลดการเผา งดการบริหารจัดการเผาในพื้นที่เชียงใหม่ 6) เพิ่มปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อระบายฝุ่นขึ้นด้านบนชั้นบรรยากาศทุกวัน 7) ควบคุมการเผาในเขตชุมชน 100% ทุกเขตเทศบาล 8) ห้ามการเผาในเขตริมทาง 100% และ 9) เสริมกำลังหน่วยทหารและปฏิบัติการทางอากาศเข้าดับไฟให้ได้ภายในวันเดียว

นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า โดยกล่าวถึงการเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้ว่า เป้าหมายหลักคือมาติดตามปัญหาไฟป่า การป้องกันการเผาไหม้ และการจัดการกับฝุ่น PM 2.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่อง ฝุ่น PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนได้มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยยอมรับปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมือง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ปีนี้ ค่าฝุ่น PM 2.5 ลดลง รวมถึงทั้ง Hot Spot และพื้นที่เผาไหม้ Burn Scar ลดลงอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง หรือ 2 ใน 3 ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ขวัญและกำลังใจคนทำงานด้วย แม้ในอดีตที่ผ่านมาจะมีการนำเสนอข่าวออกไปมากว่า จังหวัดเชียงใหม่ ถูกจัดอันดับค่าฝุ่นเป็นอันดับ 1 ใน 10 ของโลกตลอดเวลา แต่ปริมาณของฝุ่นก็ลดลงไปถึง 1 - 2 ใน 3 ของปริมาณทุก ๆ ปี ซึ่งตอนนี้เข้าสู่ระยะเฝ้าระวัง การที่นายกฯ และคณะ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางมาครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีว่าจากนี้ต่อไปอีก 45 วันจะเป็นช่วงเฝ้าระวังสำคัญที่สุด

นายกฯ กล่าวว่าต้องยอมรับว่าฝุ่น PM 2.5 เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้พยายามที่จะหานวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาไม่ว่าจะเป็นจุลินทรีย์ในการย่อยสลาย ไบโอแมสต่าง ๆ หรือประสานงานกับกองทัพในการใช้รถขนส่งนำซากพืชต่าง ๆ ไปเข้าโรงงานอัดทำเป็นไบโอฟิล ซึ่งทุกฝ่ายทำพยายามทำเรื่องนี้กันอย่างเต็มที่ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้มีการประสานงานกับกองทัพเพื่อนำยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ของทหาร เช่น รถขนไปใช้ในการขนเศษซากวัสดุและพืชต่าง ๆ ไปเข้าโรงงานผลิตเป็นไบโอฟิล ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุกฝ่ายทำให้ฝุ่น PM 2.5 ลดลงไป ถึง 1 - 2 ใน 3 ของช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในปีเดียวกัน แต่เราก็ต้องทำงานกันต่อไป นอกจากนี้การให้ความรู้กับเกษตรกรก็เป็นเรื่องสำคัญเพื่อแก้ปัญหาการเผา ขณะที่เรื่องเศรษฐกิจรัฐบาลก็จะพยายามแก้ไขต่อไป เพราะเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่สำคัญ

ส่วนที่ทางภาควิชาการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้ข้อมูลระบุช่วงฤดูฝนการเกิด PM 2.5 มาจากการจราจร ซึ่งก่อนหน้านี้ที่นายกฯ ได้เดินทางมา จ.เชียงใหม่พร้อมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบคมนาคมทั่วจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งเรื่องของวงแหวนวงที่ 1 วงแหวนวงที่ 2 และวงแหวนวงที่ 3 ที่มีขั้นตอนอย่างชัดเจน รวมถึงการวางแผนระยะกลาง ระยะยาว เพื่อทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น และบรรเทาปัญหาเรื่องการจราจรที่ติดขัด ที่เป็นสาเหตุของฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเมื่อดำเนินการดังกล่าวได้ครบลูป ทั้งวงแหวนที่ 1 วงแหวนที่ 2 และวงแหวนที่ 3 ปัญหา PM 2.5 ก็จะลดน้อยลงไป แต่ตอนนี้เป็นช่วงที่มีการเผาเกิดขึ้น ซึ่งการดำเนินการภายในประเทศ เชื่อว่าทุกฝ่ายได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ และยังสามารถทำได้ต่อไปอีก ทั้งในส่วนของกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่มีการเฝ้าระวังป้องกันไฟป่าและไม่ให้มีการเผา รวมถึงการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ และเฮลิคอปเตอร์ การเก็บซากใบไม้ต่าง ๆ ฯลฯ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทุกฝ่ายทำกันอย่างเต็มที่ แต่เราก็ยังสามารถทำได้อีก โดยเฉพาะในจุดเฝ้าระวังที่สามารถเพิ่มคนได้อีก การดำเนินการของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องส่งผลให้ PM 2.5 ลดลงไป 1-2 ใน 3 แต่ก็ยังทำให้ค่า PM 2.5 เชียงใหม่อยู่ใน 1 ใน 10 ของโลกอยู่ จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่ายินดีเท่าไร ทั่วโลกลดลงไป ทั่วโลกดีขึ้น เราก็ดีขึ้นอีก

ส่วนการเผาที่มาจากต่างประเทศที่มาจากทิศทางลม และปัจจัยอื่น ๆ นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้มีการตั้งคณะทำงานพิเศษ ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยได้มีการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา รวมถึงนายกรัฐมนตรีได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาถึงการแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ช่วงนี้เป็นช่วงลมพัดจากพม่าเข้ามา และเป็นช่วงที่มีการเก็บเกี่ยวของประเทศพม่า ซึ่งตรงนี้ก็มีความลำบากเหมือนกัน แต่รัฐบาลก็ต้องมีการพิจารณาออกมาตรการเด็ดขาด ซึ่งภายในประเทศเราเอง ก็มีการควบคุมเรื่องการเผาป่าอยู่แล้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการออกมาตรการในการจับกุมของคนที่เผาป่าจะได้รางวัล 10,000 บาท รวมถึงการลงโทษขั้นเด็ดขาด เพราะถือว่าการเผาป่าเป็นเรื่องสำคัญ อย่างไรก็ตามเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะเกิดจากเรื่องของเศรษฐกิจ ในการที่จะเก็บเห็ดหรือเอาผักหวานออกมาขาย เพราะเป็นสินค้าที่ได้ราคา ต้องขอบคุณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการหาพื้นที่เพาะปลูกพืชผลเหล่านี้ เช่น เห็ดเผาะ เพราะเห็นใจประชาชนเช่นกัน เพื่อจะได้เลิกเผาป่า

นายกฯ ย้ำว่า รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาภายในอย่างแข็งแกร่งก่อน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากทำอย่างไรให้เพื่อนบ้านหยุดเผา แต่ต้องมีการพิจารณาให้ดี กรณีศึกษาห้ามนำข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านช่วงไฮซีซั่น แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ 15 มกราคมถึงสิ้นเดือนเมษายนอาจจะห้ามนำเข้าข้าวโพด ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อราคาอาหารสัตว์ หากรัฐบาลไม่จัดการปัญหาฝุ่นอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจซึ่งเราต้องคิดนอกกรอบและจริงจังมากกว่านี้ ถึงแม้จะลดลงแล้วก็ตามแต่ต้องทะเยอทะยานในการแก้ไขปัญหา ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกภาคส่วนขอให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาเต็มที่ ฝากทุกท่านด้วยและขอขอบคุณนักวิชาการที่มาให้องค์ความรู้และร่วมทำงานกับภาครัฐบาล เพื่อให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่น่าอยู่ต่อไป อีกทั้งนายกฯ ได้ย้ำและสอบถามถึงการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอสำหรับหน้าแล้ง ซึ่งกรมชลประทานรายงานว่าสามารถบริหารจัดการน้ำได้เพียงพอตามแผนที่กำหนดไว้

จากนั้น นายกฯ เยี่ยมชมสินค้าและผลิตภัณฑ์ผ้าและสินค้าในโครงการพระราชดำริ ณ อาคารอเนกประสงค์โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยนายกฯ ได้ใส่หมวกจากผลิตภัณฑ์ใยกัญชง ชื่นชมผลิตภัณฑ์จากกลุ่มชุมชนต่าง ๆ รวมทั้งของชนเผ่า รวมถึงได้กล่าวว่าจะเดินทางไปอิตาลีช่วงเดือนพฤษภาคม แนะนำทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยกันเผยแพร่ เอาไปโชว์ จำหน่าย เปิดช่องทางทำการตลาด แนะนำปรับเปลี่ยนพัฒนาโทนสีให้สว่างเพื่อให้น่าสนใจและสวยงามขึ้น คุณสมบัติเนื้อผ้าทอมือจากธรรมชาติมีความเบา โปร่งสบาย จำหน่ายเมืองนอกได้สบายมาก หากสามารถเปิดตลาดต่างประเทศได้จะเป็นผลดีต่อทุกคน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันประสานงานและพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่เชิงพาณิชย์ต่อไป

นอกจากนี้ นายกฯ พบปะและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเฝ้าระวังและดับไฟป่า ณ อาคารเอนกประสงค์ อุทยานแห่งชาติศรีลานนา อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โอกาสนี้ นายกฯ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละแรงกาย แรงใจ ทุ่มเทในการเฝ้าระวังไฟป่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฝุ่นควันและ PM 2.5 โดยนายกฯ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานเฝ้าระวังและดับไฟป่า และกล่าวว่าปัญหา PM 2.5 เป็นปัญหาใหญ่ ถึงแม้ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ค่า PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่จะสูงเป็นอันดับ Top 10 ของโลก แต่เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ค่า PM 2.5 ลดลงไปถึง 2-3 เท่าตัว ซึ่งต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่มีส่วนทำให้ค่า PM 2.5 ลดลง

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


แท็ก ไฟป่า  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ