นายกฯ มอบหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM 2.5 ให้กับประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ สัญลักษณ์ความห่วงใยและคำขอบคุณจากรัฐบาลต่อประชาชนชาวเชียงใหม่
วันนี้ (16 มีนาคม 2567) เวลา 14.00 น. ณ อาคารนิทรรศการ 1 ห้องราชพฤกษ์ 1 อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีมอบหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM 2.5 จำนวน 2 ล้านชิ้น ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อบรรเทาและป้องกันลดผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้น จัดโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ร่วมงาน 2,000 คน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญสรุป ดังนี้
นายกฯ ได้มอบหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM 2.5 ให้แก่ตัวแทน อสม. ตัวแทนสาธารณสุขอำเภอ ตัวแทนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเดินพบปะทักทายประชาชนที่มาร่วมงานบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักเป็นกันเอง พร้อมกันนี้ นายกฯ กล่าวยินดีที่มาพบกับประชาชนชาวเชียงใหม่ โดยกล่าวว่าวันนี้เรามารวมตัวกันที่นี่ เพราะทราบดีว่าปัญหา PM 2.5 เป็นปัญหาใหญ่ โดยหน้ากากอนามัยจะช่วยในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนได้บ้างแม้ไม่มากก็ตาม และการมอบหน้ากากอนามัยครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความห่วงใยที่พวกเรามีให้แก่ชาวเชียงใหม่ทุกคน เป็นสัญลักษณ์ของการขอบคุณที่ประชาชนทุกคนมีการใส่ใจในการพยายามที่จะลดปัญหา PM 2.5 ไม่ว่าจะเป็นการไม่เผาป่า การนำซากพืชผลทางการเกษตรไปทำไบโอฟิล ซึ่งวันนี้ PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ก็ยังสูงอยู่ เป็นอันดับต้นของโลก
อย่างไรก็ตาม ปริมาณค่า PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ก็ลดลงไปกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่จะเข้าสู่ช่วงที่ PM 2.5 สูงมาก ๆ หน่วยงานรัฐไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น ได้ให้ความเอาใจใส่ดูแล พยายามที่ไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้น ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่ช่วยกันใส่ใจดูแลสภาพแวดล้อมของพวกเราทุกคน ให้ได้มีอากาศบริสุทธิ์ วันนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีและหวังว่าหน้ากากอนามัย 2 ล้านชิ้นจะช่วยบรรเทาปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพจาก PM 2.5 ได้บ้าง ซึ่งเรามีภารกิจอีกมากที่ต้องทำต่อ โดยขอมอบหน้ากากอนามัย สัญลักษณ์แห่งความห่วงใยจากรัฐบาล ผ่านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th