นายกฯ กล่าวเนื่องในวันน้ำโลก ประจำปี 2567 เชิญชวนทุกคนร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมอนุรักษ์ แบ่งปัน ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า เกิดประโยชน์สูงสุด
นายกฯ กล่าวเนื่องในวันน้ำโลก ประจำปี 2567 เชิญชวนทุกคนร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมอนุรักษ์ แบ่งปัน ใช้น้ำอย่างมีคุณค่า เกิดประโยชน์สูงสุด ให้น้ำเป็นทรัพยากรที่สร้างความมั่นคงทางสังคม การเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศและประชาคมโลก
วันที่ 22 มีนาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีกล่าวเนื่องในวันน้ำโลก ประจำปี 2567 ย้ำประเทศไทยให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของประเทศ บริหารจัดการทรัพยากรน้ำตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ เสริมสร้างความร่วมมือด้านน้ำกับประชาคมโลก เชิญชวนประชาชนทุกคน ร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการร่วมกันอนุรักษ์ แบ่งปัน ใช้น้ำอย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า องค์การสหประชาชาติประกาศให้วันที่ 22 มีนาคมของทุกปี เป็น ?วันน้ำโลก? เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจ ทั้งยังเป็นสื่อกลางให้เกิดการแบ่งปัน ทั้งทรัพยากร ความรู้ ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันและสร้างสันติภาพให้กับมวลมนุษยชาติ เพราะว่าน้ำไม่เพียงจะหล่อเลี้ยงการดำเนินชีวิตของมนุษย์ แต่ยังเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของผู้คน ชุมชน ประเทศและโลกเข้าด้วยกัน ในปี พ.ศ. 2567 องค์การสหประชาชาติกำหนดประเด็นวันน้ำโลก ภายใต้หัวข้อ ?Leveraging Water for Peace? เพื่อเน้นย้ำให้เห็นว่าปัญหาการขาดแคลนน้ำ น้ำมีคุณภาพไม่เหมาะสมกับการอุปโภคบริโภค และความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากรน้ำ จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการแย่งชิงน้ำและนำมาซึ่งความขัดแย้ง
ประเทศไทยในฐานะสมาชิกของสหประชาชาติ ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของประเทศ เพื่อสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีของประชาชน โดยได้ดำเนินการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ผ่านการบูรณาการความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายภาคประชาชน เพื่อขับเคลื่อนการบริหารทรัพยากรน้ำของประเทศให้บรรลุเป้าหมายตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2566 - 2580) ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือด้านน้ำกับประชาคมโลก
รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเข้าถึงทรัพยากรน้ำที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน โดยสร้างระบบสาธารณูปโภคให้เกิดสุขภาวะอนามัยที่ดี ผ่านการพัฒนาระบบประปา ให้พี่น้องประชาชนมีน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคและบริโภคอย่างทั่วถึง ส่งเสริมและเร่งฟื้นฟูความสมบูรณ์ของน้ำ รวมทั้งบูรณาการองค์ความรู้ด้วยการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำได้อย่างยั่งยืน โดยมุ่งหมายให้เกิดการบริหารจัดการน้ำอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งการใช้ การจัดสรร การพัฒนา การอนุรักษ์และฟื้นฟู เพื่อสร้างความมั่นคงของน้ำให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการน้ำในแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำท่วม น้ำแล้งอย่างเป็นระบบ ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยในช่วง 5 ปีแรก ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ทั้งการจัดสรรอุปโภคบริโภค ด้วยการสร้างระบบประปาหมู่บ้าน การจัดการเพิ่มกำลังการผลิตประปาเมือง ในพื้นที่เร่งด่วน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคตะวันออก
รวมทั้งการสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต โดยดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบชลประทาน เพิ่มพื้นที่ชลประทานและการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่เกษตรน้ำฝน โดยในส่วนการดำเนินการพัฒนาพื้นที่ชลประทานและพื้นที่เกษตรน้ำฝน จะช่วยป้องกันปัญหาน้ำท่วมและทำให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการดำเนินกิจกรรมของทุกภาคส่วน ทั้งภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน ตลอดจนมีการจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย ทั้งการปรับปรุงลำน้ำสายหลักและลำน้ำธรรมชาติเพื่อระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำและในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา รวมทั้งการปรับปรุงเขื่อนเพื่อรองรับสภาพภูมิอากาศ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม
นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในการบริหารจัดการน้ำข้ามพรมแดน โดยยึดหลักข้อตกลงด้านการใช้น้ำที่เป็นสากล เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและพัฒนาความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ซึ่งจะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
เนื่องในโอกาส ?วันน้ำโลก? ประจำปี 2567 นายกรัฐมนตรีขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการร่วมกันอนุรักษ์ แบ่งปัน และใช้น้ำอย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ ?น้ำ? เป็นทรัพยากรที่สร้างความมั่นคงทางสังคมและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ให้กับประเทศและประชาคมโลก และเพื่อทำให้ ?น้ำ? เป็น ?น้ำเพื่อสันติของมนุษยชาติทุกคน?
ที่มา: http://www.thaigov.go.th