นายกฯ กล่าวปาฐกถาพิธีเปิดอาคารและศูนย์วิจัย R&D ด้านยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมพัฒนาภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์ - เศรษฐกิจดิจิตอล ในภูมิภาค
วันนี้ (22 มีนาคม 2567) เวลา 10.00 น. ณ นิคมอุตสากรรมบางปู (เหนือ) จังหวัดสมุทรปราการ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวปาฐกถาในพิธีเปิดอาคาร Delta Plant 8 และศูนย์วิจัยและการพัฒนาด้านยานยนต์ไฟฟ้า (R&D Center) ของบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รองศาสตราจารย์ วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และผู้นำภาคอุตสาหกรรมของไทยเข้าร่วมงาน โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีและชื่นชมความสำเร็จของนวัตกรรมและความก้าวหน้าของบริษัทฯ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยโรงงานที่เปิดในวันนี้เป็นผลจากการขยายกำลังการผลิต โดยเฉพาะในภาคยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อรองรับความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่จะเสริมสร้างและรักษาระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ตลอดจนวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND ที่มุ่งขับเคลื่อน 2 อุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ ได้แก่ ?ศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub)? และ ?ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy Hub)? รวมทั้งบริษัทฯ ยังมีความร่วมมือกับภาครัฐผ่านโครงการพัฒนาทุนมนุษย์ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะช่วยสร้างงานที่มีมูลค่าสูงและโอกาสทางธุรกิจให้กับประเทศ
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ประเทศไทยเปิดกว้างสำหรับธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลพร้อมอำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจเติบโตในไทยได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านการจัดการระบบพลังงาน กำลังไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ระบบโทรคมนาคม ระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ รวมถึงเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีโรงงานการผลิตในไทย อินเดีย และสโลวาเกีย และสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในไทย พื้นที่ 25,000 ตารางเมตร รวมถึงมีโรงงานแห่งใหม่และศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านพลังงานไฟฟ้า (EV) พื้นที่ 30,400 ตารางเมตร ในพื้นที่นิคมอุตสากรรมบางปู (เหนือ) จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสำหรับธุรกิจ EV ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภท Electrics Vehicle Solutions (EVSBG) เช่น เพาเวอร์ซัพพลายและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า
ที่มา: http://www.thaigov.go.th