นายกฯ ยืนยันไม่เคยใช้อำนาจใดครอบงำ สั่งการทางตรง-ทางอ้อมในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ
วันนี้ (3 เมษายน 2567) เวลา 17.50 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงกรณีการแต่งตั้งข้าราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้
นายกฯ กล่าวว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีและเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ไม่อาจใช้อำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งนายตำรวจลำดับรองลงมาได้เพียงลำพัง แต่หน้าที่และอำนาจเป็นของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นการพิจารณาในรูปแบบคณะบุคคลร่วมพิจารณา ในส่วนของนายกรัฐมนตรีไม่เคยใช้อำนาจใดครอบงำ สั่งการทางตรงหรือทางอ้อมในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ การทำหน้าที่ในฐานะประธานก็เปิดกว้างให้คณะกรรมการอภิปรายรายชื่อที่แต่งตั้งอย่างทั่วถึง เปิดเผย ไม่มีการรวบรัดเร่งรีบ และยึดหลักนิติธรรม โดยในการประชุมแต่ละครั้งมีพยานหลักฐานและเปิดให้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง ดังนั้นการที่จะกล่าวหา ชี้นำ สั่งการหรือครอบงำ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและเป็นเท็จ
นายกฯ ย้ำ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับที่ต่ำกว่าผู้บัญชาการในแต่ละภาค เป็นเรื่องในแต่ละภาคที่มีการพิจารณาและนำเสนอต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย ยืนยันว่าไม่มีการชี้นำ พร้อมตระหนักดีว่าการให้ความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง ผลลัพธ์จะเกิดแก่ประชาชน เพราะได้ข้าราชการตำรวจที่ดี ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข
นายกฯ กล่าวถึงปัญหาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ไม่เคยนิ่งนอนใจ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งคณะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมก็ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปโดยไม่มีการก้าวล่วง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยในวันนี้รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้แถลงถึงการดำเนินการกับข้าราชการตำรวจที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการตามกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นายกฯ ยืนยันในฐานะนายกรัฐมนตรีและเป็นประธานการประชุม ก.ตร. จะเร่งรีบแก้ไขและช่วยกอบกู้ภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกวดขันให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแก้ไขปัญหาสังคมที่มีอยู่อย่างเร่งด่วน โดยจะเห็นได้จากล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 นายกฯ ได้เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจไซเบอร์ รวมถึงการกวดขันเรื่องยาเสพติด และวันนี้ได้มีการประชุมแบบบูรณาการหลายฝ่ายเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด ทั้งนี้ ขอให้เชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรีฯ หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีสิ่งใดที่จะเสนอแนะ พร้อมที่จะรับไปปฏิบัติ หากเป็นข้อเสนอที่ดีจะนำไปดำเนินการให้เป็นประโยชน์สูงสุดของประชาชน ถ้าลูกน้องหรือบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินการไปตามกฎหมาย หากมีหลักฐานขอให้นำหลักฐานมายื่น พร้อมที่จะดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th