นายกฯ เผยตรวจราชการเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เปิด ?เมืองน่าเที่ยว? ครบถ้วน ย้ำ กก.-ผู้ว่าฯ จัดกิจกรรมเชื่อมระหว่างจังหวัด ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้อยู่นานขึ้น เตรียมคิกออฟไตมาส 4 ที่เชียงใหม่ ย้ำปี 68 จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการท่องเที่ยวไทย
วันนี้ (9 มิ.ย. 67) เวลา 15.00 น. ณ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ได้ลงพื้นที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง ซึ่งเคยเป็นสถานที่ฝึกลูกช้าง ปัจจุบันปรับมาเป็นโรงพยาบาลรักษาช้างที่แก่และป่วย โดยศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีการจัดกิจกรรม โรงแรม ศูนย์ประชุมและการสันทนาการ แต่ยังขาดการประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่สนใจเดินทางมาท่องเที่ยว อีกทั้งโรงพยาบาลช้างสามารถรองรับช้างป่วยได้ 20 เชือก ซึ่งปัจจุบันประชากรช้างเพิ่มสูงขึ้น จากการที่เราได้มีการอนุรักษ์ช้างไทยซึ่งนับเป็นเรื่องดี แต่ปัญหาที่ตามมานั้นคือ ช้างต้องอยู่ร่วมกับคนได้ด้วย เพราะมีการรุกล้ำพื้นที่เกษตรกรรมด้วย อย่างไรก็ตามจุดประสงค์ที่เราต้องการทำให้พันธุ์ช้างขยายประชากรขึ้นนั้นถือว่าประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีช้างเจ็บป่วยขึ้นเราจะนำช้างเหล่านั้นมารับการรักษาได้ เพราะโรงพยาบาลมี 7 - 8 แห่ง ทั้งนี้ สิ่งที่โรงพยาบาลช้างขาดแคลนคือรถสไลด์ที่ไว้ใช้ในการเคลื่อนย้ายช้าง จึงได้สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งจัดหารถสไลด์เข้ามาเพิ่ม อีกทั้งยังได้พบช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ ซึ่งเป็นช้างที่เดินทางจากประเทศไทยไปประเทศศรีลังกาเพื่อร่วมประเพณีพระเขี้ยวแก้ว จนได้รับบาดเจ็บ ประเทศไทยจึงขอช้างพลายศักดิ์สุรินทร์กลับมารักษาอย่างถาวร โดยวันนี้ขาที่เจ็บอยู่ก็มีอาการดีขึ้น การรักษา การกายภาพบำบัดก็เป็นไปได้ด้วยดี
นายกฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นได้เดินทางไปวัดพระธาตุลำปางหลวง ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวลำปาง มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่และงดงาม มีจุดซุ้มพระบาทที่จะมองเห็นพระธาตุด้านมุมกลับนับว่าเป็น unseen ของประเทศไทย ซึ่งทางเจ้าอาวาสได้เล่าว่าเวลาเชียงใหม่มีการจัดงาน ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงก็จะมีนักท่องเที่ยวเยอะเช่นกัน ทั้งนี้ นายกฯ ได้แนะนำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้มีการจัดกิจกรรมเสริมเพื่อให้นักท่องเที่ยวมาแวะชม unseen ของวัดได้อีก
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ยังได้แวะเยี่ยมชมโรงงานผลิตข้าวแต๋นน้ำแตงโม ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย (GI) สช 56100055 ข้าวแต๋นลำปาง และการรับรองฮาลาล ทั้งนี้ นายกฯ มองเห็นว่าข้าวแต๋นเป็นขนมกินเล่นที่ดี จึงได้สั่งการให้สำนักนายกรัฐมนตรีนำข้าวแต๋นไปเสริฟต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง อีกทั้งรัฐบาลจะช่วยในการจัดหาตลาดใหม่ ๆ ซึ่งหากทางโรงงานได้รับการรับรอง halal certification ก็จะทำให้นำไปขายให้กับประเทศที่เป็นมุสลิมได้ ไม่ว่าจะเป็นตะวันออกกลางหรือแอฟริกา โดยในส่วนนี้จะสั่งการกระทรวงพาณิชย์เข้ามาดูแลต่อไป สำหรับอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่สวยงาม มีกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยว อาทิ การอาบน้ำแร่ การชมน้ำตก และยังมีปลูกถั่วแมคคาเดเมีย นับเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่ามาท่องเที่ยว โดยวันนี้มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาด้วย ก็จะให้ช่วยในการโปรโมทต่อไป
นายกฯ ได้กล่าวสรุปภาพรวมถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการเพื่อร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวเขตภาคเหนือ ?เมืองล้านนาน่าเที่ยว? ณ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน และจังหวัดลำปาง ระหว่างวันที่ 7 - 9 มิถุนายน 2567 ว่า เพื่อเป็นการเปิดเมืองท่องเที่ยว ?เมืองน่าเที่ยว? ถือเป็นจุดสำคัญในการนำเสนอเมืองน่าท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย โดยเรามาเปิดตัวที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งรัฐบาลพร้อมยกระดับตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ปัญหาที่เกิดขึ้นทุก ๆ พื้นที่ ก็จะมีการนำไปแก้ไข ไม่ใช่เพียงแค่มาโปรโมทเท่านั้น เช่นวันนี้ได้มาเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ซึ่งการเดินทางเข้ามาอาจจะลำบากใช้เวลานานนิดหนึ่ง แต่เชื่อว่าเมื่อมาถึงแล้วคุ้มค่า โดยระหว่างทางได้แวะดูถนนที่จะตัดไปเชียงใหม่ด้วย ซึ่งมีความกว้างน้อยมาก ก็ไปดูว่าจะสามารถขยายถนนได้หรือไม่ ให้การเดินทางจากเชียงใหม่มาที่นี่มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
นายกฯ ย้ำการเดินทางมาลงพื้นที่ตรวจราชการครั้งนี้ได้เนื้องานครบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการท่องเที่ยว รวมทั้งเรื่องของจังหวัดลำพูน ที่ได้มีการไปดูในการดำเนินงานในเชิงลึกเพื่อหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรให้มี Game Changer ในการที่จะปรับปรุงสถาปัตยกรรม หรือพิพิธภัณฑ์ ซึ่งที่นี่มีศิลปินแห่งชาติอาศัยอยู่จำนวนมาก ซึ่งการที่ได้ดูการนำเสนอแล้วได้เห็นถึงความต้องการจริง ๆ ที่จะพัฒนาจังหวัดลำพูนเพื่อยกระดับขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เพื่อทำให้การท่องเที่ยวมีคนเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น โดยปีหน้าจะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการท่องเที่ยวประเทศไทย โดยจะ kick off ไตรมาสสี่ปีนี้ที่เชียงใหม่จะมีการจัด event ต่าง ๆ ทุก ๆ อาทิตย์ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับจังหวัดข้างเคียง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ควรมีการดำเนินการจัดกิจกรรมเสริมในทุกจังหวัดเช่นกันให้สอดรับกับกิจกรรมของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจะได้ขับเคลื่อนไปด้วยกัน เวลาคนมาจะได้อยู่ในพื้นที่นานขึ้น และมีการจับจ่ายใช้สอย เพื่อกระจายรายได้ไปสู่ทุกภูมิภาคต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th