นายกฯ รับฟังปัญหาของครอบครัวผู้ติดยาเสพติด-เป็นประธานประชุมติดตามประเด็นยาเสพติดในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ขอบคุณทุกภาคส่วนช่วยกันแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเต็มที่ ตั้งเป้าทำให้ผู้ที่เคยเสพยาไม่กลับไปเสพอีกเป็น 100%
วันนี้ (29 มิถุนายน 2567) เวลา 11.30 น. ณ ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับฟังปัญหาของครอบครัวผู้ติดยาเสพติดและเป็นประธานการประชุมติดตามประเด็นยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย
น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ได้รับฟังบรรยายสรุปการนำเสนอภาพรวมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ จากผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และรับฟังการนำเสนอเกี่ยวกับการบำบัดรักษาฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด จากนายแพทย์ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
การจับกุม สามารถจับกุมยาเสพติดศรีสะเกษเป็นอันดับที่ 2 ของภาค 3 โดยการจับกุมลดลง 478 คน (ปี 2566 จำนวน 3,905 คน ปี 2567 จำนวน 3,427 คน) ของกลาง ยาบ้าจับเพิ่มขึ้น 2 ล้านเม็ด (ปี 2566 จำนวน 1.2 ล้านเม็ด ปี 2567 จำนวน 3.2 ล้านเม็ด) มูลค่าทรัพย์สินคดียาเสพติด เพิ่มขึ้น 26.5 ล้านบาท (ปี 2566 จำนวน 20.5 ล้านบาท ปี 2567 จำนวน 47 ล้านบาท) โดยในด้านของการป้องกันยาเสพติด ได้มีการดำเนินการปลูกฝังตั้งแต่วัยเด็กและใช้เครือข่ายชุมชนค้นหาผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษา (เขินโมเดล ศูนย์ EF CBTx ชุมชนล้อมรักษ์) ด้านการบำบัดรักษา ศรีสะเกษดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินรุนแรงได้ช่วยลดความรุนแรงในชุมชนอำเภอที่ทำได้ส่วนใหญ่มีมินิธัญรักษ์และ CBTx นำร่อง บำบัดผู้ป่วยยาเสพติดได้ 89% (บำบัด 1,840 ราย จากเป้าหมาย 2,065 ราย) ซึ่ง 92% (1,220 ราย) ของผู้ป่วยไม่กลับไปเสพซ้ำ
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเป็นอันดับ 2 แต่เตียงไม่เพียงพอ (อัตราการครองเตียงของผู้ป่วยใน 2 โรงพยาบาลมินิธัญรักษ์เกือบ 200% ของจำนวนเตียง ดังนั้นเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น จังหวัดศรีสะเกษจึงขอสนับสนุนงบฯ เพื่อเพิ่มสถานพยาบาลในการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติด (กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 244 จำนวน 50 เตียง ได้ของบฯ 10 ล้านบาท ไปยังสำนักงาน ป.ป.ส.) และเร่งรัดการจัดสรรงบฯ โครงการตึกบำบัดผู้ติดยาเสพติด (โรงพยาบาลศรีรัตนะ ตึกผู้ป่วย 5 ชั้น งบฯ 108 ล้านบาท)
นายกฯ กล่าวถึงตัวเลขยาเสพติดและผู้ติดยาเสพติด ที่ได้รับรายงานดังกล่าว เป็นตัวเลขที่น่าตกใจ แต่ก็ขอขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายทหาร ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ กระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่ช่วยกันดูแลเรื่องนี้มา ซึ่งนอกจากเรื่องงบประมาณแล้ว เรื่องของความใส่ใจก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งเรื่องที่เราสามารถทำให้ผู้ที่เคยเสพยาเสพติด ไม่กลับไปเสพอีก 92% เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็อยากให้ตัวเลขดังกล่าวกลายเป็น 100% ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ โดยเมื่อวานนี้นายกฯ ได้เดินทางไปที่จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งก็จะทำให้จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดสีขาวทั้งหมด เมื่อเป็นจังหวัดสีขาวแล้วก็จะไม่มีผู้เสพยาเสพติด ซึ่งหากจังหวัดร้อยเอ็ดสำเร็จ ก็จะนำโมเดลตรงนี้มาใช้กับทุก ๆ พื้นที่
นายกฯ กล่าวถึงเรื่องการเกษตร เรื่องน้ำ และการท่องเที่ยว ว่าก็เป็นเรื่องที่สำคัญ โดยจังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดที่ใหญ่และมีศักยภาพสูง แต่เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ดีไม่ได้เลย ถ้าหากยังมีพี่น้องที่ติดยาเสพติดกันอยู่มาก ซึ่งถือเป็นปัญหาระดับชาติ ที่รัฐบาลได้มีการยกระดับเรื่องนี้ขึ้นมาให้มีการแก้ไขกันอย่างตรงไปตรงมาและถูกต้องที่สุด เพราะฉะนั้นเรื่องของการที่จะมีการแก้ไขปัญหาเรื่องคมนาคม และการเกษตรต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่เรื่องที่มาก่อนก็ต้องเป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมกันนี้ขอขอบคุณ สส.ในพื้นที่ ที่ช่วยดูแลลงพื้นที่อย่างหนัก และประสานงานกับทุก ๆ ฝ่ายเพื่อนำความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนมาแก้ไขกัน ซึ่งวันนี้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็มากันครบ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ ซึ่งก็ขอให้ช่วยกันดูแลเรื่องนี้และแก้ไขให้ดี
นอกจากนี้ ภายหลังการประชุมฯ นายกฯ ได้แกะทุเรียนภูเขาไฟซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลผลิตทางการเกษตร GI ที่เป็นอัตลักษณ์โดดเด่นประจำจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมเยี่ยมชมบูธแสดงสินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของจังหวัดศรีสะเกษด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th