นายกฯ นั่งหัวโต๊ะประชุมหารือแผนพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ ย้ำรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการดำเนินงาน จ.สุรินทร์ ให้เติบโตได้ตามศักยภาพของ จ.สุรินทร์ในทุกมิติ
วันนี้ (30 มิถุนายน 2567) เวลา 10.20 น. ณ โรงเรียนรัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือแผนพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่เข้าร่วมด้วย
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกฯ เดินทางมาถึงโรงเรียนรัตนบุรี ได้เดินทักทายประชาชน ข้าราชการ และนักเรียนโรงเรียนรัตนบุรีที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นต่าง ๆ ของจ.สุรินทร์ เช่น ผ้าไหม เนื้อวัวคุณภาพดี (โควากิว) และผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน โดยนายกฯ ได้สอบถามถึงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ด้วยความสนใจและได้ชิมเนื้อโควากิวด้วย ก่อนเข้าร่วมประชุมหารือแผนพัฒนาจังหวัดสุรินทร์
โดยนายกฯ ได้รับชมวิดีทัศน์แนะนำจังหวัดสุรินทร์และรับฟังการนำเสนอศักยภาพ/ประเด็นความต้องการของ จ.สุรินทร์ ดังนี้ 1) การพัฒนาเพิ่มศักยภาพแหล่งน้ำทั้งในระยะเร่งด่วน (จำนวน 4 โครงการ คือ (1) โครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว บ้านสร้างบก ตำบลหนองบัวบาน อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ (2) โครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำหนองกระทุ่ม พร้อมอาคารประกอบ ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ (3) โครงการขุดลอกอ่างเก็บห้วยเสนง บ้านตามีย์ ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ (4) โครงการขุดอ่างเก็บน้ำอำปึล บ้านใต้ฆ้อง ต.ตาอ็อง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ และระยะยาว (โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำห้วยเสนงและอำปึล) 2) การพัฒนาด่านพรมแดนช่องจอม 3) การศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งสนามบินสุรินทร์ และ 4) การพัฒนาและยกระดับสินค้าปศุสัตว์มูลค่าสูง (แนวทางเลี้ยงโคสายพันธุ์ ?สุรินทร์กิว? (โควากิว)) ขอให้รัฐบาลดูแลแก้ไขเรื่องราคาเนื้อตกต่ำ และหาตลาดในต่างประเทศที่มีศักยภาพรองรับ รวมถึงการทำโรงฆ่าสัตว์ดำเนินกิจการอย่างถูกต้องตามหลักสากล และการหาแหล่งเงินดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น รวมทั้งรับฟังแนวทางการแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จ.สุรินทร์อย่างเป็นระบบด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าวันนี้เดินทางมาดูแผนพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งได้รับการนำเสนอจากผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครบทุกมิติ พร้อมกล่าวเสนอแนะในด้านต่าง ๆดังนี้
เรื่องการบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ทั้งหมด พึ่งพาน้ำในการทำเกษตรกรรม ดังนั้นไม่ท่วมไม่แล้งจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งตรงนี้เราต้องทำให้ดีที่สุด จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดทางน้ำผ่าน เรื่องปัญหาน้ำท่วมจึงไม่ค่อยมี จะมีแต่เรื่องน้ำแล้ง ดังนั้นการเตรียมการรองรับเรื่องภัยแล้งในเรื่องของการขุดลอกบ่อน้ำก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยแก้วได้อนุมัติงบฯ ไปแล้ว ส่วนโครงการอื่น ๆ ก็จะได้ให้กรมชลประทานร่วมกับ สทนช. ในการที่จะดำเนินการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยขอให้กรมชลประทานเร่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยเฉพาะบางแหล่งน้ำต้องรีบดำเนินการเพื่อรองรับน้ำฝนที่จะมาถึงซึ่งจะช่วยทั้งเรื่องน้ำท่วมและเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง รวมถึงการเตรียมการบริหารจัดการน้ำในอนาคต ด้วย
เรื่องการพัฒนาศักยภาพของด่านการค้าชายแดน นายกฯ ขอให้กรมศุลกากรหาแนวร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาด่านศุลกากรช่องจอม โดยให้พิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ ตลอดจนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ต่อไป
ส่วนเรื่องการก่อสร้างสนามบินสุรินทร์ ขอให้กระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาสร้างสนามบินดังกล่าว
สำหรับแนวทางเลี้ยงโคสายพันธุ์ ?สุรินทร์กิว? (โควากิว) นั้น นายกฯ เห็นว่ามี 2-3 เรื่องที่ต้องมาดูกัน ทั้งเรื่องของการดำเนินการครบวงจร การพัฒนาสายพันธุ์ซึ่งก็ดำเนินการไปได้ระดับหนึ่งแล้ว โดยมองว่าเนื้อวากิวเองตัวหนึ่งกำไรถึง 4-5 หมื่นบาท ซึ่งในระยะยาวหากสามารถพัฒนาสายพันธุ์ดีขึ้นได้ก็จะทำให้ราคาสูงขึ้น ดังนั้นการพัฒนาสายพันธุ์ก็เป็นเรื่องสำคัญ เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อเรามีของที่ดีอยู่แล้วอย่าไปคำนึงเพียงแค่กำไรระยะสั้น มองว่าเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเอง แต่ขอให้คำนึงถึงเรื่องคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าด้วย รวมถึงเรื่องการพัฒนาเรื่องการตัดแต่งปรุงเนื้อเพื่อให้ขายแล้วได้กำไรมาถึงพี่น้องประชาชนได้สูงขึ้น ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องหาทางสนับสนุนให้มีโรงเชือดที่มากขึ้นรองรับ ส่วนเรื่องของตลาดรองรับมีอยู่แล้วทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น จีน และ Middle East ทั้งนี้การที่เรามีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ รวมถึงเรื่องแลนด์บริดจ์รองรับก็จะเป็นกำลังสำคัญในการส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศได้ทั้งจีน และ Middle East โดยขอให้กระทรวงพาณิชย์ ผลักดันให้เนื้อสุรินทร์กิว ได้รับการรับรองให้เป็นสินค้า GI ประจำจังหวัดสุรินทร์ด้วย
นอกจากนี้ นายกฯ ได้เน้นย้ำถึงการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะในโรงเรียน ขอให้มีการให้ความรู้และปลูกฝังถึงผลร้ายของยาเสพติดเป็นเรื่องจำเป็น โดยฝากผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และศึกษาธิการจังหวัด ให้มีการบรรจุเข้าไปในทุกกิจกรรมโรงเรียน เช่น การเล่นกีฬา หรือในทุกเช้าอาจมีการเสริมสร้างให้ปฏิญาณตนว่าเราจะอยู่ห่างไกลจากยาเสพติด เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ ไม่ให้พ่อแม่ พี่น้อง ต้องผิดหวังเรื่องของยาเสพติด
นายกฯ ย้ำว่าทุกเรื่องทั้งเรื่องการบริหารจัดการน้ำ การขุดลอกคูคลอง หนองบึง การพัฒนาสายพันธุ์ข้าว รวมทั้งสุรินทร์กิวที่เราจะพัฒนานั้น หากบุคลากรของประเทศติดยา สิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้นประชาชนทุกภาคส่วนทั้งประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ ต้องหามาตรการทำให้ชุมชนเราเข้มแข็ง รวมถึงการป้องกันปราบปราม ที่ต้องทำควบคู่พร้อมกันไปด้วยกับฝ่ายทหาร ตำรวจ ซึ่งต้องทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการเพื่อให้ปัญหายาเสพติดหมดไป โดยนายกฯ ย้ำรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของจังหวัดสุรินทร์อย่างเต็มที่ ให้เติบโตได้ตามศักยภาพของจังหวัดสุรินทร์ต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th