นายกฯ ลงพื้นที่ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาระบบชลประทาน เพื่อการอุปโภคบริโภค ณ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตเชียงราย กำชับศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดลอกคลองป่าน้ำเกี๋ยง เพื่อรับน้ำจากแม่น้ำโขง ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย
วันนี้ (13 กรกฎาคม 2567) เวลา 15.10 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาระบบชลประทาน เพื่อการอุปโภคบริโภค และพบปะประชาชน ณ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตเชียงราย อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ เช่น กลุ่มชนเผ่าฮิ้วเมี่ยน ชนเผ่าอาข่า ชนเผ่าลาหู่ รวมถึงกลุ่มเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายกลุ่มชนเผ่าและสอบถามถึงเรื่องการแต่งกายและความเป็นอยู่ด้วยความสนใจ ชนเผ่าต่าง ๆ ได้มอบย่ามเป็นที่ระลึกให้กับนายกรัฐมนตรี
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเยือนอำเภอเชียงแสนเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งจนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามคำเชิญของรองประธานสภาฯ เพราะมีปัญหาหลายอย่าง ซึ่งในวันนี้เป็นโอกาสดีที่ได้มารับฟังปัญหา เช่น ปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ ได้แก่ ข้าวโพด ปาล์ม และเรื่องของการเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งด้านการหาตลาดรองรับและส่งออกที่ดีซึ่งจะทำให้สินค้าเกษตรมีราคาดีทำให้พี่น้องมีรายได้ที่สูงขึ้น และจากการที่ได้พบกับกลุ่มชาติพันธุ์ลาย ๆ กลุ่ม รัฐบาลยืนยันว่าจะดูแลในทุกด้าน เรื่องสัญชาติและพื้นที่ทำกิน อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ซึ่งการดูแลพี่น้องประชาชนที่อยู่ที่ประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้นยืนยันว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลนี้
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ชุมชนกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหมครบวงจร ชมผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ผลิตภัณฑ์ผลงานนักเรียนนักศึกษาโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม ชมสาธิตผลงานของนักศึกษาสาขาช่างไฟฟ้า ระบบเปิดปิดไฟฟ้าด้วยสัญญาณเสียง ชุดฝึกวงจรเครื่องทำความเย็น ต่อวงจรสองทางเพื่อเปิดระบบไฟฟ้า ชุดฝึกต่อวงจรอนุกรมและขนาน
ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีรับฟังรายงานระบบสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำเชียงแสน บ้านห้วยเกี๋ยง หมู่ที่ 8 ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำในพื้นที่ทำการเกษตรกรรม (สูบน้ำเพื่อการเกษตรและแก้ไขสภาพปัญหาน้ำในคูเมืองเวียงเชียงแสน) เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมทำนา มีความต้องการใช้น้ำในการเกษตรสูง ทั้งนี้หากโครงการดำเนินการแล้วเสร็จจะทำให้มีแหล่งน้ำต้นทุนสนับสนุนพื้นที่เกษตรกรรม แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งให้แก่ประชาชนในพื้นที่มีน้ำใช้เพียงพอตลอดทั้งปี อีกทั้งยังรักษาระบบนิเวศของคูเมืองโบราณ เพิ่มทัศนียภาพและส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของเมืองโบราณเชียงแสนอีกด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการขุดลอกคลองป่าน้ำเกี๋ยง เพื่อรับน้ำจากแม่น้ำโขง กำชับให้ศึกษาความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติและข้อกำหนดของกฎหมายขอให้ดำเนินการให้ถูกต้อง รวมทั้งขอให้มีความระมัดระวังประเด็นพื้นที่ชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ หากศึกษาแล้วเป็นประโยชน์ มีความเป็นไปได้และไม่ติดขัดข้อกฎหมาย ก็ให้ดำเนินการต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th