นายกฯ ประกาศเจตนารมณ์เสนอ ?ภูเก็ต? เป็นเจ้าภาพการจัด InterPride World Conference 2025 และเตรียมเสนอเป็นเจ้าภาพ WorldPride 2030 เน้นย้ำไทยสนับสนุนความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ
อยู่ร่วมกันในสังคมด้วยความเคารพ มั่นใจไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยสำหรับชุมชน LGBTQ+
วันนี้ (13 ส.ค. 2567) เวลา 18.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดและปาฐกถาพิเศษในงาน ?Unity in Action: Thailand's Next Steps in Equality? ในหัวข้อ ?Towards Equality and Unity: Announcing Thailand's Advancements in Marriage Equality Legislation and Readiness to Propose Hosting the InterPride World Conference? ประกาศจุดยืนของไทยในประเด็นการสนับสนุนความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ พร้อมประกาศเจตนารมย์ของไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัด InterPride World Conference 2025 และเตรียมเสนอเป็นเจ้าภาพ WorldPride 2030 โดยนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรียินดีต่อความก้าวหน้าของประเทศไทยในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และการผลักดันสิทธิของชุมชน LGBTQ+ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ด้วยการสนับสนุนอย่างไม่ย่อท้อจากประชาชนชาวไทยและรัฐบาลไทย นำไปสู่การผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมอันเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่ใช่เพียงชัยชนะทางกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพสะท้อนอย่างลึกซึ้งถึงค่านิยมของไทย ซึ่งเป็นสังคมที่โอบรับความแตกต่าง เฉลิมฉลองให้กับความหลากหลายของมนุษย์ และมุ่งมั่นสร้างโลกที่เต็มไปด้วยความรักและความเคารพที่ครอบคลุมไม่มีข้อจำกัด
ทั้งนี้ รัฐบาลมองไปยังอนาคต ให้ความสำคัญกับการวางแผนระยะยาวที่มุ่งส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และสร้างสังคมที่เปิดกว้าง ไม่แบ่งแยก ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนกฎหมายที่ยกระดับสิทธิของ LGBTQ+ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยสำหรับชุมชน LGBTQ+
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แม้อุปสรรคจะยังคงมี แต่รัฐบาลจะยังคงยืนหยัดและต่อสู้ต่อไปเพื่อสร้างความเท่าเทียมต่อไป
นอกจากนี้ รัฐบาลเสริมสร้างพลังและกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของไทย ยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทย พร้อมทั้งสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และจุดหมายปลายทางสำหรับการพำนักระยะยาวของครอบครัว LGBTQ+ พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นในการสร้างพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชีย ด้วยการจัดตั้งเครือข่ายและพันธมิตรผู้นำด้านการส่งเสริมและความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศในภูมิภาคเอเชีย (Asian Pride Alliance) เพื่อเป็นความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยไทยมุ่งหวังที่จะผลักดันวาระ LGBTQ+ และสนับสนุนชุมชนไพรด์ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมีความยินดีที่จะประกาศความมุ่งมั่นในการเสนอให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม InterPride World Conference ในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งการเสนอเป็นเจ้าภาพงานนี้แสดงถึงความร่วมมืออันเข้มแข็งของชุมชน LGBTQ+ ของไทย และเป็นก้าวสำคัญในแคมเปญ ?Road to WorldPride? เพื่อเตรียมเสนอเป็นเจ้าภาพ WorldPride 2030 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนไพรด์ของเรา และเชื่อมโยงกับเครือข่ายไพรด์ระดับโลก
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าขอให้ทุกคนร่วมกันสร้างโลกที่ไม่แบ่งแยก อยู่ร่วมกันด้วยความเคารพ และร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลายนี้ให้เป็นรากฐานที่สำคัญของสังคมต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th