ผู้ปกครองที่มาร่วมงานเปิดโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ ?มีอยู่ มีกิน มีใช้? โดยนายกฯ ฝาก ศอ.บต. - หน่วยงานในพื้นที่นำเทคโนโลยี AI มาใช้ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่รวดเร็ว ขณะที่ชาวบ้านฝากขอบคุณนายกฯ ที่ลงมาเยี่ยมเยือนถึงบ้าน
วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2568 เวลา 12.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งติดตามคณะฯ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบปะนักศึกษาและผู้ปกครองที่เข้าร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ ?มีอยู่ มีกิน มีใช้? จัดโดยกระทรวงยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดในพื้นที่ร่วมบูรณาการกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ กยศ. ที่มีปัญหาหนี้สินได้เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้และได้รับความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม โดยมุ่งสร้างความเป็นธรรม ช่วยลดภาระของลูกหนี้ พร้อมส่งเสริมการคืนหนี้เข้าสู่ระบบในรูปแบบที่ยั่งยืน โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยนายกรัฐมนตรีได้ทักทายพูดคุยและถ่ายภาพเซลฟี่กับประชาชนอย่างใกล้ชิดเป็นกันเอง ขณะที่ประชาชนชาวจังหวัดนราธิวาสหลายพันคนที่มารอต้อนรับและตะโกนให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีสู้ ๆ พร้อมทั้งขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเยี่ยมเยือนถึงบ้านที่จังหวัดนราธิวาส
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในพื้นที่ เช่น ผลิตภัณฑ์จากเรือนจำจังหวัดนราธิวาส รวมทั้งติดตามเยี่ยมชมบูธกิจกรรมการแก้ไขปัญหายาเสพติด ติดตามนโยบายรัฐบาลและรับฟังสรุปรายงานผลการดำเนินงานของ ศอ.บต. โดยเลขาธิการ ศอ.บต. ด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับชมการแสดงจากเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ชุดระบำลีลาชาชัก พร้อมกล่าวเปิดโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ ?มีอยู่ มีกิน มีใช้? ตามนโยบายรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ได้มาพบกับประชาชนชาวนราธิวาสและขอบคุณที่ทุกคนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกล่าวในนามของรัฐบาล ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามาไกล่เกลี่ยปรับโครงสร้างหนี้ เพราะเรื่องหนี้เป็นปัญหาที่เรื้อรังมายาวนานของประเทศไทย ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้และช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้ ทำให้ต้นทุนของประชาชนลดลง ทำให้มีแรงและกำลังในการจ่ายค่าครองชีพที่ถูกลง เพิ่มศักยภาพในการทำรายได้เพิ่มให้กับครอบครัวและตนเอง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง จึงขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันผลักดันในเรื่องนี้ ทั้งนี้ การผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจไทยเติบโตน้อยกว่าศักยภาพที่มีอยู่จริง เนื่องจากไทยเพิ่งจะเริ่มมีการลงทุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคตไม่นานเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่มีการลงทุนด้านอุตสาหกรรมแห่งอนาคตมามากกว่า ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการผลักดันเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป โดยการสนับสนุนเรื่องของการศึกษาเพื่อพัฒนาคนในประเทศและผลักดันในด้านต่าง ๆ ทั้งเรื่องของการ Upskill และ Reskill ให้คนมีศักยภาพเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับธุรกิจและการจ้างงานใหม่ ๆ ที่จะเข้ามา ตรงนี้รัฐบาลได้เตรียมโอกาสไว้สำหรับประชาชนแล้วในเรื่องของการศึกษาที่ดีเพื่ออนาคตของประชาชน โดยขณะนี้รัฐบาลได้นำนโยบาย ODOS กลับมา เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกอำเภอทั่วประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย เพื่อจะมีโอกาสได้ไปเรียนที่ต่างประเทศ รวมถึงการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ทั้งนี้ เมื่อมีโอกาสไปศึกษาที่ต่างประเทศ ขอให้ทุกคนเรียนรู้ในเรื่องของเทคโนโลยีและ AI ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างมากในอนาคต เพราะความรู้และวิชาต่าง ๆ ที่ประชาชนได้รับจะเป็นสมบัติติดตัวตลอดไป ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นและอยากสร้างให้เกิดขึ้นในเยาวชนทุกคน เพื่ออีก 10 ปี 20 ปี ข้างหน้าเราจะได้คนคุณภาพต่อไปเรื่อย ๆ การขยายโอกาสเป็นเรื่องสำคัญมาก รวมไปถึงการที่รัฐบาลมาดูในเรื่องของการแก้ไขปัญหาหนี้สินเป็นเรื่องพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรจะได้รับการดูแลในเรื่องนี้ ควบคู่กับการทำให้ประชาชนได้หารายได้เพิ่มให้กับตนเองและครอบครัว จากนี้รัฐบาลจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสดี ๆ ให้กับประชาชนต่อไป ปีนี้เป็นปีแห่งโอกาส รัฐบาลจะพยายามทำให้พี่น้องประชาชนทุกได้รับโอกาสในทุก ๆ พื้นที่
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวฝากให้เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหารือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการหาแนวทางในการที่จะทำให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงการไกล่เกลี่ยปรับโครงสร้างหนี้โดยไม่ต้องเดินทางมายังจังหวัด โดยอาจจะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศหรือ AI เข้ามาช่วย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการนี้ได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีเปิดโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ย ช่วยเหลือลูกหนี้ ?มีอยู่ มีกิน มีใช้? ก่อนไปประชุมเร่งรัดติดตามความก้าวหน้างานด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ต่อไป
สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สวมเสื้อสูท ?ลายนรารวมใจ? สีชมพูบานเย็น หวานฉ่ำ เป็นผ้าลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งถ่ายทอดความเป็นหนึ่งเดียวของผู้คนชาวนราธิวาสที่มีความรักความสามัคคี ประสานความสัมพันธ์บนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันงดงามของจังหวัดนราธิวาส
ที่มา: http://www.thaigov.go.th