นายกรัฐมนตรีระบุได้สั่งการตำรวจระงับไม่ให้ดำเนินการสลายการชุมนุม พร้อมย้ายสถานที่จัดงาน "วันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี" ในวันที่ 30 ส.ค.นี้ จากทำเนียบรัฐบาลไปยังสวนอัมพร
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลัง เป็นประธานในพิธีเปิดการแถลงยุทธศาสตร์ทหาร 2552-2556 ของนักศึกษา 4 สถาบัน ถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ยังปักหลักชุมนุมกันอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล ว่า การที่ศาลแพ่งมีคำสั่งให้แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และผู้ชุมนุมออกจากทำเนียบรัฐบาล นับเป็นความกรุณาของศาลเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเทียบกับสำนวนธรรมดาก็เหมือนว่าให้ดาบมาถือไว้ ซึ่งทีแรกคิดว่าจะเคลียร์พื้นที่ให้เสร็จเรียบร้อย แต่ได้มาไตร่ตรองดูแล้วว่าอันตราย จึงขอร้องให้แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ มารายงานตัว หรือจะมอบตัวอย่างไรก็สุดแท้แต่ ก็ให้เวลาดำเนินการ และได้สั่งการให้ตำรวจระงับไม่ให้มีการดำเนินการ คือ ไม่ให้มีการสลายการชุมนุม แต่ไม่ได้ทอดทิ้งไว้ตลอด คงมีเวลายุติการชุมนุมกันได้ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้จะไม่ให้เกิดความรุนแรงกันขึ้น ซึ่งทุกอย่างก็เรียบร้อยดี
“รัฐบาลไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์ ก็เป็นเรื่องของเขาแล้ว ต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องของเรา เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้รู้ว่าจะไม่เกิดการสปาร์คกันขึ้นมา และให้ต่างชาติที่เขาเฝ้าดูได้รู้ว่าเป็นอย่างไร เพราะสรุปได้ว่าสิ่งที่ทำมาไม่มีเหตุผล ไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่มีจุดหมายปลายทาง ไม่มีเป้าหมาย และขอบคุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้แถลงถ้อยคำที่เป็นเหตุเป็นผล ทุกอย่างแต่ละตัวบุคคลจะรับผิดชอบกันเอง และขออนุญาตไม่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ ซึ่งเราระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุยุ่งยาก ขึ้น และผมไม่ได้เสียสถานะทางการเมือง ทั่วโลกดูอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร” นายกรัฐมนตรีกล่าว
สำหรับการจัดงาน “จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วันสร้างสามัคคี” ในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะย้ายสถานที่จัดงานจากทำเนียบรัฐบาลไปยังสวนอัมพรแทน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลัง เป็นประธานในพิธีเปิดการแถลงยุทธศาสตร์ทหาร 2552-2556 ของนักศึกษา 4 สถาบัน ถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ยังปักหลักชุมนุมกันอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล ว่า การที่ศาลแพ่งมีคำสั่งให้แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และผู้ชุมนุมออกจากทำเนียบรัฐบาล นับเป็นความกรุณาของศาลเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเทียบกับสำนวนธรรมดาก็เหมือนว่าให้ดาบมาถือไว้ ซึ่งทีแรกคิดว่าจะเคลียร์พื้นที่ให้เสร็จเรียบร้อย แต่ได้มาไตร่ตรองดูแล้วว่าอันตราย จึงขอร้องให้แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ มารายงานตัว หรือจะมอบตัวอย่างไรก็สุดแท้แต่ ก็ให้เวลาดำเนินการ และได้สั่งการให้ตำรวจระงับไม่ให้มีการดำเนินการ คือ ไม่ให้มีการสลายการชุมนุม แต่ไม่ได้ทอดทิ้งไว้ตลอด คงมีเวลายุติการชุมนุมกันได้ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้จะไม่ให้เกิดความรุนแรงกันขึ้น ซึ่งทุกอย่างก็เรียบร้อยดี
“รัฐบาลไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์ ก็เป็นเรื่องของเขาแล้ว ต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องของเรา เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้รู้ว่าจะไม่เกิดการสปาร์คกันขึ้นมา และให้ต่างชาติที่เขาเฝ้าดูได้รู้ว่าเป็นอย่างไร เพราะสรุปได้ว่าสิ่งที่ทำมาไม่มีเหตุผล ไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่มีจุดหมายปลายทาง ไม่มีเป้าหมาย และขอบคุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้แถลงถ้อยคำที่เป็นเหตุเป็นผล ทุกอย่างแต่ละตัวบุคคลจะรับผิดชอบกันเอง และขออนุญาตไม่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ ซึ่งเราระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุยุ่งยาก ขึ้น และผมไม่ได้เสียสถานะทางการเมือง ทั่วโลกดูอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร” นายกรัฐมนตรีกล่าว
สำหรับการจัดงาน “จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วันสร้างสามัคคี” ในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะย้ายสถานที่จัดงานจากทำเนียบรัฐบาลไปยังสวนอัมพรแทน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--