นายกรัฐมนตรีหารือพลเอก เตีย บัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พร้อมร่วมมือกันพัฒนาปราสาทพระวิหารให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวร่วมกัน
วันนี้ (25 ส.ค.) เมื่อเวลา 15. 00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธีมอบรางวัลผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น ประจำปี 2551 ถึงการหารือกับพลเอก เตีย บัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ว่า ในการหารือครั้งนี้สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ฝากความระลึกถึงมาถึงตน จึงได้ฝากความระลึกถึงกลับไปด้วย ถือว่าได้ทำความรู้จักกันอย่างแน่นแฟ้นมากขึ้น และได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวประมาณ 1 ชั่วโมง ทุกอย่างเรียบร้อยดี รวมทั้งได้เป็นคนเชิญมารับประทานอาหารกลางวัน และพูดคุยกัน บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ซึ่งวันหลังคงต้องไปร่วมรับประทานอาหารกับพลเอก เตีย บัน บ้างเพื่อเป็นการตอบแทนไมตรี สำหรับปัญหาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้น ได้หารือกันว่ามีปัญหาตรงไหนก็จะแก้ตรงนั้น อะไรที่แก้ไม่ได้ จะแขวนไว้ก่อน เราจะทำงานและแก้ไขกันตลอด และมีไมตรีต่อกัน ส่วนพื้นที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวนั้น เราจะทำให้กลมกลืนเพื่อให้คนในโลกได้เห็นว่า เราไม่ได้มีอะไรกันนักหนา มีปัญหาก็ต้องยอมรับว่าเป็นปัญหา แต่เราก็ต้องแขวนไว้เช่นเดียวกับตามแนวชายแดนลาว และพม่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือว่าขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาไม่มีปัญหาแล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พูดได้ว่าไม่มีปัญหา เพียงแต่เราไม่อยากไปอวดศักดาขนาดนั้น ส่วนแนวโน้มในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทปราสาทพระวิหารจะเป็นลักษณะใช้ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวร่วมกันใช่หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กำลังจะเริ่มทำ และต่อไปจะถอยกำลังทหารออกทั้งหมด แล้วจะตกลงกันว่าจะให้คนกลางที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรมแดน และไม่มีความผูกพันเลยมาช่วยดูแลพัฒนา เพื่อให้นักท่องเที่ยวกลับมาเหมือนเดิม ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย ทางกัมพูชาได้ค่าผ่านทาง เราก็จะตกลงกัน แต่ต้องค่อย ๆ ทำ ทั้งนี้จะพยายามเปิดการท่องเที่ยวให้เร็วที่สุด ขณะนี้ต้องทยอยเอาทหารออกให้หมดเพื่อไม่ให้มีใครอยู่ตรงนั้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ (25 ส.ค.) เมื่อเวลา 15. 00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานพิธีมอบรางวัลผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น ประจำปี 2551 ถึงการหารือกับพลเอก เตีย บัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ว่า ในการหารือครั้งนี้สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ฝากความระลึกถึงมาถึงตน จึงได้ฝากความระลึกถึงกลับไปด้วย ถือว่าได้ทำความรู้จักกันอย่างแน่นแฟ้นมากขึ้น และได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวประมาณ 1 ชั่วโมง ทุกอย่างเรียบร้อยดี รวมทั้งได้เป็นคนเชิญมารับประทานอาหารกลางวัน และพูดคุยกัน บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ซึ่งวันหลังคงต้องไปร่วมรับประทานอาหารกับพลเอก เตีย บัน บ้างเพื่อเป็นการตอบแทนไมตรี สำหรับปัญหาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้น ได้หารือกันว่ามีปัญหาตรงไหนก็จะแก้ตรงนั้น อะไรที่แก้ไม่ได้ จะแขวนไว้ก่อน เราจะทำงานและแก้ไขกันตลอด และมีไมตรีต่อกัน ส่วนพื้นที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวนั้น เราจะทำให้กลมกลืนเพื่อให้คนในโลกได้เห็นว่า เราไม่ได้มีอะไรกันนักหนา มีปัญหาก็ต้องยอมรับว่าเป็นปัญหา แต่เราก็ต้องแขวนไว้เช่นเดียวกับตามแนวชายแดนลาว และพม่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือว่าขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาไม่มีปัญหาแล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พูดได้ว่าไม่มีปัญหา เพียงแต่เราไม่อยากไปอวดศักดาขนาดนั้น ส่วนแนวโน้มในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทปราสาทพระวิหารจะเป็นลักษณะใช้ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวร่วมกันใช่หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กำลังจะเริ่มทำ และต่อไปจะถอยกำลังทหารออกทั้งหมด แล้วจะตกลงกันว่าจะให้คนกลางที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรมแดน และไม่มีความผูกพันเลยมาช่วยดูแลพัฒนา เพื่อให้นักท่องเที่ยวกลับมาเหมือนเดิม ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย ทางกัมพูชาได้ค่าผ่านทาง เราก็จะตกลงกัน แต่ต้องค่อย ๆ ทำ ทั้งนี้จะพยายามเปิดการท่องเที่ยวให้เร็วที่สุด ขณะนี้ต้องทยอยเอาทหารออกให้หมดเพื่อไม่ให้มีใครอยู่ตรงนั้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--