แท็ก
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
นายสมัคร สุนทรเวช
ทำเนียบรัฐบาล
ตึกสันติไมตรี
นายกรัฐมนตรี
ชุมนุม
นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนัดชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้
วันนี้ เวลา 13.45 น. ณ ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนัดชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ ดังนี้
ผมต้องขออนุญาตเป็นคนแถลงข่าวเรื่องนี้วันนี้เพราะว่า เดี๋ยวจะถูกประชาชนต่อว่า ว่าตกลงเรื่องที่มีการประกาศอะไรกันมากมายก่ายกองนั้นรัฐบาลจะเอาอย่างไร คือจะขอตอบชัดเจนเลยว่า รัฐบาลไม่ได้คิด ไม่ตั้งใจว่าจะเอาอย่างไรเลย จะต้องถามกลับไปว่าทำไมพวกที่คิดทำอย่างนั้นจึงได้คิดจะทำอย่างที่ว่า ผมเป็นรัฐบาลที่มาโดยถูกต้องตามกฎหมาย ช่องที่จะล้มรัฐบาลก็ไปผ่านช่องทางทางสภา จะไปร่วมมือกับใครอย่างไรให้เขาลงคะแนนในสภา ก็ต้องไปตามธรรมเนียม แต่อยู่ดี ๆ มานั่งชุมนุมอยู่กลางบ้านกลางเมือง ก็อดทนเพราะไม่อยากให้มีเรื่อง คิดว่าวันหนึ่งก็คงจะจบกันได้ ปรากฏว่าวันหนึ่งคือวันพรุ่งนี้ประกาศว่าจะทำอย่างนั้น ๆ ๆ ผู้คนทั่วบ้านทั่วเมืองก็ตื่นเต้นตกใจว่าอะไรอย่างไร
วันนี้ผมมีหน้าที่จะขอประกาศให้ท่านพี่น้องประชาชนชาวไทยทราบว่า ผม นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีบ้านเมืองนี้ มีหน้าที่จะต้องดูแลรักษาความสงบของบ้านเมือง ใครจะใช้สิทธิ์จะทำอะไรประท้วงอะไร ก็ขอให้ทำตามสมควรให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ถ้าเกินกว่าเขตของกฎหมาย ทางฝ่ายรักษากฎหมายก็จะได้ดำเนินการ ไม่มีเหตุผลที่จะมาดำเนินการกันแบบนี้ ไม่เห็นกับบ้านกับเมืองออกข่าวนั้น เอาเถอะจะทำลายสถานการณ์เศรษฐกิจบ้านเมืองอย่างไร ก็อยากจะทำก็ผมจะพอทน แต่ว่าการออกข่าวถึงขนาดจะทำอย่างโน้นอย่างนี้ถ้าเหมือนกับคนในบ้านเมืองตื่นตระหนกตกใจ ไม่เป็นอันทำมาหากินจะก่อให้เกิดจลาจล ผมคิดว่ามันชักจะมากเกินไป ผมจะอดกลั้นจนถึงที่สุด แล้วก็จะให้คนที่เขามีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ เขาดูแลรับผิดชอบ พรุ่งนี้ทางซีกรัฐบาลไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เป็นวันอังคารที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ก็จะมาประชุมคณะรัฐมนตรี แล้วก็จะดูสิใครจะทำอะไรในเรื่องสถานการณ์อย่างนี้
ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ท่านพี่น้องทั้งหลายโปรดเฝ้าดูว่าใครเป็นคนที่ทำอะไรผิด ใครเป็นคนที่ทำอะไรชอบ ใครเป็นคนที่ทำอะไรซึ่งชาวโลกเขาไม่ทำกัน ผมบอกให้รู้ไว้ด้วยนะครับว่าเดี๋ยวจะไปโทษมือที่สาม ขอร้องพี่น้องประชาชนชาวไทยได้โปรดดูว่าใครที่จะทำตัวเป็นมือที่สาม รัฐบาลขอยืนยันว่าไม่นิยมที่จะมาฉกฉวยเรื่องพรรค์อย่างนี้ ถ้าใครจะคิดทำอะไรใคร ใครจะโยนระเบิดใครจะทำอะไรอย่างไรต่าง ๆ นั้น ตำรวจจะเป็นคนเฝ้าดูแล แล้วอย่ามาอ้างว่ารัฐบาลเป็นคนทำ รัฐบาลก่อความเสียหาย รัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดเรื่องพรรค์อย่างนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อมีใครจะก่อให้เกิดเรื่องก็ขอให้ทำให้เห็น เราจะได้ดำเนินการดำเนินคดีตามที่ได้ก่อเรื่องกันขึ้นมา
บ้านเมืองอยู่กันมาดี ๆ แท้ ๆ ให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายท่านคิดหน่อยเดียวเท่านั้นละครับว่า ใครเป็นคนก่อเหตุในบ้านเมืองนี้ ในวันพรุ่งนี้ จะพูดจะจาอย่างไรก็ตามแต่ ดูหน้าคนพูดเถอะครับ ดูคำแถลงของผม ผมแถลงตรงไปตรงมา ผมมีหน้าที่รับผิดชอบบ้านเมืองนี้ ผมดูแลบ้านเมืองนี้ และผมจะรักษาความสงบเรียบร้อยให้ดีที่สุดนานสุดเท่าที่จะทำได้ ท่านพี่น้องทั้งหลายต้องร่วมมือด้วย ท่านต้องเข้าใจด้วยว่าบ้านเมืองอยู่กันมาสงบเรียบร้อย ใครเป็นฝ่ายที่ก่อให้เกิดความยุ่งยากในบ้านเมืองท่านโปรดดูด้วย ไม่ต้องแบ่งฝักแบ่งฝ่ายไม่ต้องเข้าข้างไหนอย่างไร แต่ท่านเป็นเจ้าของประเทศ ท่านต้องช่วยรักษาความสงบในบ้านเมืองนี้ด้วย มีคนพวกหนึ่งมาตั้งข้อกล่าวการณ์กัน ใครที่จะนำข่าวเสนอข่าวใครจะถ่ายทอดข่าว ผมขอฝากให้ช่วยคิดช่วยตรองด้วยว่าควรจะทำอย่างนั้นหรือไม่ ควรจะสนับสนุนคนที่จะก่อกวนล้มล้างรัฐบาลหรือไม่ สมควรหรือไม่ที่จะต้องไปสนับสนุนเรื่องพรรค์อย่างนั้น ไม่สนับสนุนรัฐบาลไม่เป็นไร จะเหยียบย่ำรัฐบาลเล็กน้อยไม่เป็นปัญหา แต่รวมหัวกันสนับสนุนคนที่จะล้มล้างรัฐบาลนั้นขอให้คิดให้ดีว่าที่จะทำอย่างนั้นต่อไปต่อไปนี้ ช่วยดูกันหน่อย
ผมพูดวันนี้ถึงพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ผมรับผิดชอบ เราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้คิดอะไรร้าย มาตามถูกต้องตามกฎหมาย คดีความทั้งหลายอย่าวิตกวิจารณ์ ถึงเวลาตรงไหนหมดก็หมดออกก็ออก เป็นเรื่องกรรมที่ผมได้ทำมาในอดีต แต่ผมแน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามผมรับได้ และจะเกิดขึ้นอะไรตามบ้านเมืองไม่เสียหาย แต่ว่าที่เสียหายจริง ๆ คือทำข่าวกันเอิกเกริก ผมขอพูดไปยังพวกนักวิจารณ์ข่าวทั้งหลายตอนเช้า ๆ ที่สุมหัวกันนั้น จะพูดจาอะไรก็ตามแต่ แต่การเสนอข่าวเรื่องร้ายขึ้นมาจนกระทั่งบ้านเมืองจะไปไม่รอดนั้นท่านต้องคิดให้ดีหน่อย ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกครับ แต่ทำอะไรอย่างนั้นมันเกินไป วันนั้นต้องไป วันนี้ต้องไปแน่ นายสมัครต้องไป รัฐบาลต้องเป็นอย่างนี้ นี่ก็โดน ศาลก็จะตัดสิน นี่ก็จะโดน ไม่ถึงอย่างนั้นหรอกครับ ก็คอยดูกันไปก็แล้วกันว่าอะไรจะเป็นอย่างไร
ผมไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไรครับ แต่บอกให้รู้กันไว้บ้างว่าให้เพลา ๆ กันบ้าง อย่าตั้งพวกตั้งฝ่ายกันไม่ชอบหน้าชอบตาพูดจากระทบกระแทกแดกดัน บางรายการผมก็เฝ้าดู ไม่เคยมีความปรารถนาดีเลย พูดอย่างนี้ต้องแดกอย่างนี้ ๆ พูดอย่างนี้ต้องกระทบอย่างนี้ แล้วคิดดูหัวอกคนฟังสิเขาจะคิดอย่างไร นายกฯ คนนี้ไม่มีอะไรดีเลย เจ้าตัวที่อยู่ข้างในนั่น นั่งข้างซ้ายตัวเล็กนั่น กระทบกระแทกแดกดันทุกวัน ไม่เคยนั่นเลย ผมไปทำอะไรให้ มาเป็นศัตรูกันขนาดไหนอย่างไร แต่การพูดจาอย่างนั้นมันเกินเหตุ ผมไม่ได้เป็นคนเลวทรามต่ำช้ามาจากไหนหรอกครับ วิถีทางการเมืองของผมอยู่ในชีวิตอยู่ในการเมืองตลอด แล้วจะเอาอย่างไรก็โอเคเอาสิครับ ให้มันถูกต้องตามช่องตามกฎหมาย ผมไม่ค่อยพูดถึงสื่อสารมวลชนในเรื่องนี้หรอก แต่ว่ามีบางพวกบางฝ่าย มันสนุกตรงไหนครับทำให้รัฐบาลพ้นไปได้ เพราะความสนุกสนาน บางพวกจะขายแต่ข่าวอย่างเดียว ทะเลาะกันก็เป็นข่าว ไม่นั่นก็เป็นข่าว เสนอก็เป็นข่าว อ้างว่าผู้สื่อข่าวต้องทำข่าว นึกถึงหัวอกบ้านเมืองบ้างสิครับ ถึงสถานะของเราบ้าง นึกถึงคนทำมาค้าขายบ้าง ไม่ต้องเข้าข้างหรอกครับ เพียงแต่ไม่โดดเข้ามาเหยียบย่ำ ผมจะถามเลยเหยียบย่ำให้รัฐบาลนี้หลุดไปแล้วเอาใครครับ เลือกตั้งใหม่หรือ ใครเป็นคนยุบสภา ใครจะเรียกเลือกตั้งใหม่ แล้วอย่างไร พวกที่ปลุกระดมข้างถนนนั้นแล้วเปลี่ยนมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือ มันไม่ใช่ ขออธิบายให้ฟังเท่านี้ละครับ แล้วอย่าหาว่าผมใช้เสียงรุนแรง ผมต้องใช้เสียงรุนแรงวันนี้ ให้มันสมควรกับคนซึ่งทำข่าวข่มขู่ให้ราษฎรหวั่นวิตก
เรื่องอื่น ๆ นั้นผมรับรองว่าผมรับผิดชอบจะอธิบาย เรื่องการสร้างรัฐสภานั้นเป็นเรื่องของสภา ผมสนับสนุน มาจากไหนอย่างไรก็ทำกันมาสุดท้าย ที่ดินแปลงที่ว่านั้นสมาคมสถาปนิกสยาม บอกถ้าได้แปลงนี้ดีที่สุด ผมเองไม่ได้ไปสมคบกับสมาคมอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเมื่อทางฝ่ายสหภาพแรงงานรถไฟเขาบอกไม่ให้ ไม่ได้ ถ้าจะเอาเป็นหมื่นล้าน ผมก็บอกไม่เป็นไรผมหาใหม่ แล้วผมก็มาหาที่ตรงนี้ ตรงกับสมาคมสถาปนิกสยาม เพราะอย่างนั้นเรื่องที่เราทำเราไม่กล้าเซ็นหรอกครับถ้าตกลงกันไม่ได้ คนนี้อยู่ตรงนี้ คนนี้ไปนี่ ๆ คนที่ย้ายน่ะข้ามฟากถนนเท่านั้นครับ โรงเรียนก็ย้ายที่ออกไป 1,700 เมตร โรงเรียนเดิมมี 8 ไร่ ตรงนี้มี 16 ไร่ สร้างขึ้นมาให้ใหม่ ตึกโรงเรียนบางทีอาจไม่ต้องทุบทิ้งถ้าไม่กระทบ อาจจะเป็นที่ทำงานได้ ไม่ต้องสร้างใหม่ขึ้นมาเติม ถ้ามันกลมกลืนกับที่สร้างขึ้นมาใหม่ได้ ต้องอยู่ในเมืองครับ มันต้องอยู่ไม่ไกลจากย่านใจกลางเมืองจนเกินไป อยู่ริมแม่น้ำสวยจะมีสะพานตรงนั้น ความเหมาะสมเสร็จแล้วถึงจะมี แต่ผมบันดาลให้เห็นในพริบตาไม่ได้ เพราะฉะนั้นใครจะเอาอย่างไรก็ตามแต่
ผมต้องพูดเพราะอะไรครับ มีคนเขียนหนังสือกราบบังคมทูลฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฟ้องร้องเรื่องนี้ อ้างเรื่องที่โน่น คนเขียนเคยเห็นรูปแผนที่ที่ปากเกร็ดไหม ติดถนนติวานนท์ยาวลงไปแม่น้ำ รูปร่างเหมือนขา เนื้อตรงโคนมี 140 เมตร ใหญ่เบ้อเริ่มอยู่ข้างนอก แปลว่าสะพานจะไปอยู่ริมถนนติวานนท์แล้วก็เรียวลงไปหาแม่น้ำ มีหน้าที่แม่น้ำหน่อย 204 - 260 ไร่ เทียบกับตรงนี้ประมาณ 130 ไร่ สี่เหลี่ยมผืนผ้ามีสะพานข้าง ๆ มันต้องเป็นความเหมาะสมเพราะทำไปแล้วก็อยู่เป็น 100 ปี ตัดสินใจไม่ได้ทำอะไรก็ไม่ได้ ต้องพูดเพราะมีหนังสือกราบบังคมทูลฯ ไปอ้างอิงอะไรต่าง ๆ อ้างกฎหมาย โธ่เอ๋ย อะไรกันนักหนา อ้างหนังสือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 พระราชทานที่ให้เป็นเขตทหาร แล้วทหารย้ายไปอยู่นอกเมืองเท่าไร ทหารต้องอยู่ใจกลางเมืองตลอดไปหรืออย่างไร ข้อเท็จจริงคือทหารต้องตั้งอยู่ใจกลางเมืองหรือ ประชาชนไปอยู่ชานเมืองหรือ รัฐสภาไปอยู่ชานเมืองหรือ ไม่มีความคิด จะพูดจะต่อต้านกันไป ผมได้รับสำเนาถึงต้องพูดวันนี้ อาทิตย์หน้าจะใช้ทั้งอาทิตย์เลยอธิบายเรื่องสภา โอเคนะครับ ขอพูดข้างเดียวเพราะเขาจะถ่ายทอดสดทางโน้น ขอบคุณมากครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 13.45 น. ณ ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนัดชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ ดังนี้
ผมต้องขออนุญาตเป็นคนแถลงข่าวเรื่องนี้วันนี้เพราะว่า เดี๋ยวจะถูกประชาชนต่อว่า ว่าตกลงเรื่องที่มีการประกาศอะไรกันมากมายก่ายกองนั้นรัฐบาลจะเอาอย่างไร คือจะขอตอบชัดเจนเลยว่า รัฐบาลไม่ได้คิด ไม่ตั้งใจว่าจะเอาอย่างไรเลย จะต้องถามกลับไปว่าทำไมพวกที่คิดทำอย่างนั้นจึงได้คิดจะทำอย่างที่ว่า ผมเป็นรัฐบาลที่มาโดยถูกต้องตามกฎหมาย ช่องที่จะล้มรัฐบาลก็ไปผ่านช่องทางทางสภา จะไปร่วมมือกับใครอย่างไรให้เขาลงคะแนนในสภา ก็ต้องไปตามธรรมเนียม แต่อยู่ดี ๆ มานั่งชุมนุมอยู่กลางบ้านกลางเมือง ก็อดทนเพราะไม่อยากให้มีเรื่อง คิดว่าวันหนึ่งก็คงจะจบกันได้ ปรากฏว่าวันหนึ่งคือวันพรุ่งนี้ประกาศว่าจะทำอย่างนั้น ๆ ๆ ผู้คนทั่วบ้านทั่วเมืองก็ตื่นเต้นตกใจว่าอะไรอย่างไร
วันนี้ผมมีหน้าที่จะขอประกาศให้ท่านพี่น้องประชาชนชาวไทยทราบว่า ผม นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีบ้านเมืองนี้ มีหน้าที่จะต้องดูแลรักษาความสงบของบ้านเมือง ใครจะใช้สิทธิ์จะทำอะไรประท้วงอะไร ก็ขอให้ทำตามสมควรให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ถ้าเกินกว่าเขตของกฎหมาย ทางฝ่ายรักษากฎหมายก็จะได้ดำเนินการ ไม่มีเหตุผลที่จะมาดำเนินการกันแบบนี้ ไม่เห็นกับบ้านกับเมืองออกข่าวนั้น เอาเถอะจะทำลายสถานการณ์เศรษฐกิจบ้านเมืองอย่างไร ก็อยากจะทำก็ผมจะพอทน แต่ว่าการออกข่าวถึงขนาดจะทำอย่างโน้นอย่างนี้ถ้าเหมือนกับคนในบ้านเมืองตื่นตระหนกตกใจ ไม่เป็นอันทำมาหากินจะก่อให้เกิดจลาจล ผมคิดว่ามันชักจะมากเกินไป ผมจะอดกลั้นจนถึงที่สุด แล้วก็จะให้คนที่เขามีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ เขาดูแลรับผิดชอบ พรุ่งนี้ทางซีกรัฐบาลไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เป็นวันอังคารที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ก็จะมาประชุมคณะรัฐมนตรี แล้วก็จะดูสิใครจะทำอะไรในเรื่องสถานการณ์อย่างนี้
ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ท่านพี่น้องทั้งหลายโปรดเฝ้าดูว่าใครเป็นคนที่ทำอะไรผิด ใครเป็นคนที่ทำอะไรชอบ ใครเป็นคนที่ทำอะไรซึ่งชาวโลกเขาไม่ทำกัน ผมบอกให้รู้ไว้ด้วยนะครับว่าเดี๋ยวจะไปโทษมือที่สาม ขอร้องพี่น้องประชาชนชาวไทยได้โปรดดูว่าใครที่จะทำตัวเป็นมือที่สาม รัฐบาลขอยืนยันว่าไม่นิยมที่จะมาฉกฉวยเรื่องพรรค์อย่างนี้ ถ้าใครจะคิดทำอะไรใคร ใครจะโยนระเบิดใครจะทำอะไรอย่างไรต่าง ๆ นั้น ตำรวจจะเป็นคนเฝ้าดูแล แล้วอย่ามาอ้างว่ารัฐบาลเป็นคนทำ รัฐบาลก่อความเสียหาย รัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดเรื่องพรรค์อย่างนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อมีใครจะก่อให้เกิดเรื่องก็ขอให้ทำให้เห็น เราจะได้ดำเนินการดำเนินคดีตามที่ได้ก่อเรื่องกันขึ้นมา
บ้านเมืองอยู่กันมาดี ๆ แท้ ๆ ให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายท่านคิดหน่อยเดียวเท่านั้นละครับว่า ใครเป็นคนก่อเหตุในบ้านเมืองนี้ ในวันพรุ่งนี้ จะพูดจะจาอย่างไรก็ตามแต่ ดูหน้าคนพูดเถอะครับ ดูคำแถลงของผม ผมแถลงตรงไปตรงมา ผมมีหน้าที่รับผิดชอบบ้านเมืองนี้ ผมดูแลบ้านเมืองนี้ และผมจะรักษาความสงบเรียบร้อยให้ดีที่สุดนานสุดเท่าที่จะทำได้ ท่านพี่น้องทั้งหลายต้องร่วมมือด้วย ท่านต้องเข้าใจด้วยว่าบ้านเมืองอยู่กันมาสงบเรียบร้อย ใครเป็นฝ่ายที่ก่อให้เกิดความยุ่งยากในบ้านเมืองท่านโปรดดูด้วย ไม่ต้องแบ่งฝักแบ่งฝ่ายไม่ต้องเข้าข้างไหนอย่างไร แต่ท่านเป็นเจ้าของประเทศ ท่านต้องช่วยรักษาความสงบในบ้านเมืองนี้ด้วย มีคนพวกหนึ่งมาตั้งข้อกล่าวการณ์กัน ใครที่จะนำข่าวเสนอข่าวใครจะถ่ายทอดข่าว ผมขอฝากให้ช่วยคิดช่วยตรองด้วยว่าควรจะทำอย่างนั้นหรือไม่ ควรจะสนับสนุนคนที่จะก่อกวนล้มล้างรัฐบาลหรือไม่ สมควรหรือไม่ที่จะต้องไปสนับสนุนเรื่องพรรค์อย่างนั้น ไม่สนับสนุนรัฐบาลไม่เป็นไร จะเหยียบย่ำรัฐบาลเล็กน้อยไม่เป็นปัญหา แต่รวมหัวกันสนับสนุนคนที่จะล้มล้างรัฐบาลนั้นขอให้คิดให้ดีว่าที่จะทำอย่างนั้นต่อไปต่อไปนี้ ช่วยดูกันหน่อย
ผมพูดวันนี้ถึงพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ผมรับผิดชอบ เราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้คิดอะไรร้าย มาตามถูกต้องตามกฎหมาย คดีความทั้งหลายอย่าวิตกวิจารณ์ ถึงเวลาตรงไหนหมดก็หมดออกก็ออก เป็นเรื่องกรรมที่ผมได้ทำมาในอดีต แต่ผมแน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามผมรับได้ และจะเกิดขึ้นอะไรตามบ้านเมืองไม่เสียหาย แต่ว่าที่เสียหายจริง ๆ คือทำข่าวกันเอิกเกริก ผมขอพูดไปยังพวกนักวิจารณ์ข่าวทั้งหลายตอนเช้า ๆ ที่สุมหัวกันนั้น จะพูดจาอะไรก็ตามแต่ แต่การเสนอข่าวเรื่องร้ายขึ้นมาจนกระทั่งบ้านเมืองจะไปไม่รอดนั้นท่านต้องคิดให้ดีหน่อย ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกครับ แต่ทำอะไรอย่างนั้นมันเกินไป วันนั้นต้องไป วันนี้ต้องไปแน่ นายสมัครต้องไป รัฐบาลต้องเป็นอย่างนี้ นี่ก็โดน ศาลก็จะตัดสิน นี่ก็จะโดน ไม่ถึงอย่างนั้นหรอกครับ ก็คอยดูกันไปก็แล้วกันว่าอะไรจะเป็นอย่างไร
ผมไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไรครับ แต่บอกให้รู้กันไว้บ้างว่าให้เพลา ๆ กันบ้าง อย่าตั้งพวกตั้งฝ่ายกันไม่ชอบหน้าชอบตาพูดจากระทบกระแทกแดกดัน บางรายการผมก็เฝ้าดู ไม่เคยมีความปรารถนาดีเลย พูดอย่างนี้ต้องแดกอย่างนี้ ๆ พูดอย่างนี้ต้องกระทบอย่างนี้ แล้วคิดดูหัวอกคนฟังสิเขาจะคิดอย่างไร นายกฯ คนนี้ไม่มีอะไรดีเลย เจ้าตัวที่อยู่ข้างในนั่น นั่งข้างซ้ายตัวเล็กนั่น กระทบกระแทกแดกดันทุกวัน ไม่เคยนั่นเลย ผมไปทำอะไรให้ มาเป็นศัตรูกันขนาดไหนอย่างไร แต่การพูดจาอย่างนั้นมันเกินเหตุ ผมไม่ได้เป็นคนเลวทรามต่ำช้ามาจากไหนหรอกครับ วิถีทางการเมืองของผมอยู่ในชีวิตอยู่ในการเมืองตลอด แล้วจะเอาอย่างไรก็โอเคเอาสิครับ ให้มันถูกต้องตามช่องตามกฎหมาย ผมไม่ค่อยพูดถึงสื่อสารมวลชนในเรื่องนี้หรอก แต่ว่ามีบางพวกบางฝ่าย มันสนุกตรงไหนครับทำให้รัฐบาลพ้นไปได้ เพราะความสนุกสนาน บางพวกจะขายแต่ข่าวอย่างเดียว ทะเลาะกันก็เป็นข่าว ไม่นั่นก็เป็นข่าว เสนอก็เป็นข่าว อ้างว่าผู้สื่อข่าวต้องทำข่าว นึกถึงหัวอกบ้านเมืองบ้างสิครับ ถึงสถานะของเราบ้าง นึกถึงคนทำมาค้าขายบ้าง ไม่ต้องเข้าข้างหรอกครับ เพียงแต่ไม่โดดเข้ามาเหยียบย่ำ ผมจะถามเลยเหยียบย่ำให้รัฐบาลนี้หลุดไปแล้วเอาใครครับ เลือกตั้งใหม่หรือ ใครเป็นคนยุบสภา ใครจะเรียกเลือกตั้งใหม่ แล้วอย่างไร พวกที่ปลุกระดมข้างถนนนั้นแล้วเปลี่ยนมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือ มันไม่ใช่ ขออธิบายให้ฟังเท่านี้ละครับ แล้วอย่าหาว่าผมใช้เสียงรุนแรง ผมต้องใช้เสียงรุนแรงวันนี้ ให้มันสมควรกับคนซึ่งทำข่าวข่มขู่ให้ราษฎรหวั่นวิตก
เรื่องอื่น ๆ นั้นผมรับรองว่าผมรับผิดชอบจะอธิบาย เรื่องการสร้างรัฐสภานั้นเป็นเรื่องของสภา ผมสนับสนุน มาจากไหนอย่างไรก็ทำกันมาสุดท้าย ที่ดินแปลงที่ว่านั้นสมาคมสถาปนิกสยาม บอกถ้าได้แปลงนี้ดีที่สุด ผมเองไม่ได้ไปสมคบกับสมาคมอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเมื่อทางฝ่ายสหภาพแรงงานรถไฟเขาบอกไม่ให้ ไม่ได้ ถ้าจะเอาเป็นหมื่นล้าน ผมก็บอกไม่เป็นไรผมหาใหม่ แล้วผมก็มาหาที่ตรงนี้ ตรงกับสมาคมสถาปนิกสยาม เพราะอย่างนั้นเรื่องที่เราทำเราไม่กล้าเซ็นหรอกครับถ้าตกลงกันไม่ได้ คนนี้อยู่ตรงนี้ คนนี้ไปนี่ ๆ คนที่ย้ายน่ะข้ามฟากถนนเท่านั้นครับ โรงเรียนก็ย้ายที่ออกไป 1,700 เมตร โรงเรียนเดิมมี 8 ไร่ ตรงนี้มี 16 ไร่ สร้างขึ้นมาให้ใหม่ ตึกโรงเรียนบางทีอาจไม่ต้องทุบทิ้งถ้าไม่กระทบ อาจจะเป็นที่ทำงานได้ ไม่ต้องสร้างใหม่ขึ้นมาเติม ถ้ามันกลมกลืนกับที่สร้างขึ้นมาใหม่ได้ ต้องอยู่ในเมืองครับ มันต้องอยู่ไม่ไกลจากย่านใจกลางเมืองจนเกินไป อยู่ริมแม่น้ำสวยจะมีสะพานตรงนั้น ความเหมาะสมเสร็จแล้วถึงจะมี แต่ผมบันดาลให้เห็นในพริบตาไม่ได้ เพราะฉะนั้นใครจะเอาอย่างไรก็ตามแต่
ผมต้องพูดเพราะอะไรครับ มีคนเขียนหนังสือกราบบังคมทูลฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฟ้องร้องเรื่องนี้ อ้างเรื่องที่โน่น คนเขียนเคยเห็นรูปแผนที่ที่ปากเกร็ดไหม ติดถนนติวานนท์ยาวลงไปแม่น้ำ รูปร่างเหมือนขา เนื้อตรงโคนมี 140 เมตร ใหญ่เบ้อเริ่มอยู่ข้างนอก แปลว่าสะพานจะไปอยู่ริมถนนติวานนท์แล้วก็เรียวลงไปหาแม่น้ำ มีหน้าที่แม่น้ำหน่อย 204 - 260 ไร่ เทียบกับตรงนี้ประมาณ 130 ไร่ สี่เหลี่ยมผืนผ้ามีสะพานข้าง ๆ มันต้องเป็นความเหมาะสมเพราะทำไปแล้วก็อยู่เป็น 100 ปี ตัดสินใจไม่ได้ทำอะไรก็ไม่ได้ ต้องพูดเพราะมีหนังสือกราบบังคมทูลฯ ไปอ้างอิงอะไรต่าง ๆ อ้างกฎหมาย โธ่เอ๋ย อะไรกันนักหนา อ้างหนังสือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 พระราชทานที่ให้เป็นเขตทหาร แล้วทหารย้ายไปอยู่นอกเมืองเท่าไร ทหารต้องอยู่ใจกลางเมืองตลอดไปหรืออย่างไร ข้อเท็จจริงคือทหารต้องตั้งอยู่ใจกลางเมืองหรือ ประชาชนไปอยู่ชานเมืองหรือ รัฐสภาไปอยู่ชานเมืองหรือ ไม่มีความคิด จะพูดจะต่อต้านกันไป ผมได้รับสำเนาถึงต้องพูดวันนี้ อาทิตย์หน้าจะใช้ทั้งอาทิตย์เลยอธิบายเรื่องสภา โอเคนะครับ ขอพูดข้างเดียวเพราะเขาจะถ่ายทอดสดทางโน้น ขอบคุณมากครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--