แท็ก
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
จากวันแม่ถึงวันพ่อ
นายสมัคร สุนทรเวช
สนทนาประสาสมัคร
นายกรัฐมนตรี
โอลิมปิก
นายกรัฐมนตรีชื่นชมแสดงความยินดีกับนักกีฬาไทยทุกคนที่ได้เหรียญจากการแข่งขันโอลิมปิก พร้อมเตรียมงาน "จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี" 30 สิงหาคมนี้
รายการ “สนทนาประสาสมัคร”
โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2551 เวลา 08.30-09.30 น.
-------------------------------------
แสดงความยินดีกับนักกีฬาไทยที่ได้เหรียญเงินเหรียญทอง
สวัสดีครับรายการสนทนาประสาสมัครกลับมาพบกับท่านเหมือนอย่างเคยนะครับ 08.30 น. วันนี้ต้องเริ่มต้นด้วยพูดถึงกีฬาโอลิมปิก เผลอประเดี๋ยวเดียว 2 อาทิตย์ เปิดกันเมื่อไม่เท่าไร วันนี้ปิดแล้วนะครับ แล้วนักกีฬาของเรา 51 คน รวมทั้งโค้ชด้วย 80 กว่าคน ก็ได้ทำชื่อเสียงให้บ้านเมืองของเราอย่างชนิดว่าน่าตื่นเต้น ตั้งแต่แรกก็ยัยหนู ประภาวดี (ประภาวดี เจริญรัตนธารากุล) ยกน้ำหนักได้เหรียญทอง ต่อมายัยหนูบุตรี (บุตรี เผือดผ่อง) ได้เหรียญเงิน และ 2 นักมวยก็ต่อยกัน ที่จริงเรามีตั้งเยอะนะครับ หลุดมาเหลือ 2 ขึ้นมาถึงทองแดง 2 ก็ดีใจกัน เหรียญเงิน 2 เมื่อวานก็ได้ทองมา 1 ได้เงิน 1 ก็ทุกอย่างเรียบร้อยครับ
ขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้ง 4 คนนี้ ทั้งสมจิตร (สมจิตร จงจอหอ) ทั้งมนัส (มนัส บุญจำนงค์) ทั้งประภาวดี บุตรี ด้วย เขาก็คงจะมีงานกินข้าวกินปลากัน และก็มีของที่ระลึกให้กันตามสมควร เขาสัมภาษณ์ ผมก็บอกแล้วว่า ขอบคุณทุกคน เวลาชนะก็บอกทำให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุข เป็นความจริงครับ เป็นความสุขจริง ฟังแล้ว ตอนลุ้นกันชนะกัน แบบมวยนี่ได้เหรียญเงินมารองไว้ 2 อันแล้ว แพ้ก็ไม่รู้สึก ได้เหรียญเงิน 2 เหรียญ ได้เหรียญทองมาอีกเหรียญก็ยิ่งดี เพราะว่าคนนี้เขาจะต้องแขวนนวมไปแล้ว เขาเก่งนะครับ เรียบร้อยดี เวลาเราชนะเขาเนี่ย ก็ปรื๊ด ๆ ๆ ๆ 8 : 1 ตั้งนานกว่าจะได้ 8 : 2 พอถึงมนัส คนนั้นเขาต่อยพัวะ ๆ ๆ มันเข้าอย่างไร นับคะแนนมาดู โอ้โหคะแนนวิ่งไล่เลย ของเราคะแนนไม่ค่อยไล่แบบนั้น เขาขึ้นจริง ๆ เราเรียงเบอร์ แต่ตอนมนัสของเรา กว่าจะ 3 เป็น 4 นี่แทบตาย คนนั้นปั๊บ ๆ ๆ ๆ ขึ้นไป 12 ก็ดูเถอะครับ ก็ดูแบบคนดูมวยเท่านั้นเอง ไม่ใช่รู้เรื่องมวยนักหนา แต่ต้องขอบคุณทุกคนทุกฝ่ายเลยครับ ขอบคุณเสียตรงนี้เลยว่า ไม่ว่าจะโค้ช ทั้งหลายทั้งปวง แม้แต่คนนวดคนอะไรต่าง ๆ ก็ทุกคนก็ช่วยกัน ปิดทองกันคนละแผ่นเล็กแผ่นใหญ่ ทำให้เราได้แลเห็นเลยว่า
เมื่อก่อนนี้นะครับไปแข่งโอลิมปิก สมัยโบราณนะครับ ผมโตทันครับ ตั้งแต่เริ่มเฮลซิงกินั่นละครับ แล้วก็นั่งนับดูมา เขาบอกว่ากีฬาโอลิมปิกเป็นอย่างไร คือว่าแพ้ชนะไม่สำคัญ สำคัญที่ได้ร่วม คำนั้นใช้กันมานานครับ ทีนี้ตั้งแต่นักมวยไทยตั้งแต่ได้เหรียญมา เหรียญทองแดง เหรียญเงิน ไล่กันมาเรื่อย เดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวนี้ต้องถามว่าได้กี่เหรียญ เมื่อวานจริง ๆ ก็ควรจะต้องได้ 3 เหรียญ แต่ว่ามนัสเขาคงแรงน้อย สมจิตร เขาก็นั่นไป ไม่มีปัญหาละครับ ไม่ว่าจะแพ้ชนะ ก็ต้องถือว่าทุกคนพยายามทำให้เกียรติยศ ชื่อเสียง มาบ้านเมืองของเรา ชื่อเสียงมาดังตั้งแต่ก่อนการแข่งขัน เพราะเวลาที่ผมไปงานเปิดเนี่ย มาพูดจาต่าง ๆ คนเบอร์ใหญ่ ๆ นี่ละครับ เจอท่านนายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดี เขาจะต้องถาม คือจะถามวงไทยบ้างอะไรบ้าง เราก็บอกก็หวังมวย เขาบอกยกน้ำหนักด้วยไม่ใช่เหรอ แสดงว่าเขารู้ เขาอ่านไพ่กันหมดครับ เพราะมีการเช็กกันก่อน ๆ ที่จะเอาเข้าไปแข่งขัน ก็จะรู้ว่าใครจะได้อะไรอย่างไร เห็นไหมครับ ของเราก็เฉียด ๆ ไป ยิงเป้าบินน่ะ ขาดไปแต้มเดียวเท่านั้นเอง และข้อสำคัญที่สุดคือว่า เทควันโดนี่น่าเสียดายนะครับ ตอนหลังเนี่ย มันก็ควรจะ แต่ว่าเขาสูงกว่าเราหน่อย คือเข้าไปปะทะก็ดีเหมือนกัน แต่เขาคงปะทะไม่ได้ ติดลบ 1 แต้ม ไม่มีปัญหาละครับ เรียบร้อยดี ยินดีทุกคนนะครับ
เชิญชวนเข้าชมงานศิลป์แผ่นดิน
ทีนี้ถัดไปก็คือจะต้องคุย ถูกต่อว่าครับ ทำงานถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 10,11,12 สิงหาคม คือจริง ๆ ต้องขอประทานโทษจริง ๆ คืองานศิลป์แผ่นดินเราทำอยู่ข้างนอก แต่ว่าโปรดเกล้าฯ ว่าให้เปิดข้างในเข้าไปดูได้ วันที่ให้เข้าไปชมฟรี จะมีอย่างนี้ครับ วันที่ 12 สิงหาคมคือวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันเด็ก วันสงกรานต์ เขาจะมีวันสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อีกวันหนึ่ง 5 วัน วันนักขตฤกษ์อย่างนี้เปิดให้เข้าไปฟรี นอกนั้นก็เงินค่าเข้า เสียเงินไม่มากละครับ แต่สำคัญที่สุดเลยหยุดทุกวันจันทร์ ผมนี่เสียการจริง ๆ งานเรามีวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร วันอังคารก็เปิดให้เข้าตามที่ว่า วันจันทร์นี่ ทีแรกผมนึก เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าคงจะเข้าไปสวนจิตรลดาหมด เพราะวันที่ 11 สิงหาคม มีงานในสวนจิตรลดา วันสุกดิบนะครับ ก็นึกว่าอย่างนั้นเอง ไม่ใช่ครับ ทุกวันจันทร์ปิดครับ และวันจันทร์ก็มีงานข้างนอก แต่ไม่มีข้างใน กราบขอประทานโทษจริง ๆ สำหรับท่านที่ไปนะครับ ก็ยังเปิดนะครับ แสดงทั้งปีครับ เสียค่าเข้าชมนิดหน่อยไม่มากครับ แต่ว่าสำคัญที่สุดคือว่า ถ้าไปวันเฉลิมทั้งหมด และวันเด็ก วันสงกรานต์ ละก็ เปิดให้ชมฟรีนะครับ
งานพระราชทานธงสัญลักษณ์ 30 สิงหาคมนี้
ทีนี้เรื่องการเตรียมงานวันที่ 30 สิงหาคม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระวรชายา จะเสด็จฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเสด็จฯ ที่ทำเนียบก็จะมีการต่างๆ จะมีคนประมาณ 100 กว่าคนที่จะเฝ้าฯ ข้างใน กันฝนตกครับ จะทำพิธี และก็รับพระราชทานธงจากพระหัตถ์ พอเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีคนซึ่งเขาหาโอกาสแต่งปกติขาวไม่ค่อยได้ ประธาน อบจ. 7,000 คน บอกว่าจะขอแต่งปกติขาวเข้ามาเฝ้าฯ จะเฝ้าฯ ตามถนนก็เอาดี เราก็จัดการ จะต้องแต่งปกติขาว จะเฝ้าฯ เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินของเรา และมีพิธีการเป็นอย่างนี้ครับ พวก 100 กว่าคน คือหมายว่า 76 จังหวัดผู้ว่าฯ แล้วยังจะต้องมีหน่วยงานต่าง ๆ 20 กระทรวง มีกองทัพต่าง ๆ จะรับพระราชทานธง แล้วก็จะเอาธงไปมอบให้พวกที่เขาอยากจะเดินกัน วันแรกจะเดินกันแบบอย่างนี้ครับ หน้าพระบรมรูปทรงม้าก็จะจัดเป็นเวที และเข้าแถวกันหมด มีเสื้ออยู่ 3 สี เขาจะแบ่งกัน เขาแบ่งจากสัดส่วนกันเป็นช่อง ๆ ๆ ๆ มีสีเหลือง สีฟ้า และสีชมพู
วง Marching จะร่วมเดินพาเหรด
แต่ที่จะนั่นคือว่าจะหาโอกาส ของกรุงเทพฯ นะครับ เปิดรายการนะครับ ก็จะเรียกว่า Marching เมืองไทยมีวงดนตรีเก่ง ๆ อยู่ มีถึง 10 วงครับ ชนะเลิศระดับโลกก็หลายวง ดัง ๆ ทั้งนั้นเลย เราก็พยายามจะเอาพวกนี้มา เสียค่าใช้จ่าย เราก็ยินดีให้ เอาวงพวกนี้เป็น Marchingband แสดงในสนามกีฬา ชนะเลิศระดับโลก จะเอาเขามาแสดง เขาจะแต่งเครื่องของเขามาเลยครับ ให้เขาเดินนำล็อกนี้เพลงนี้ อันนี้เดิน ล็อกนี้เพลงนี้เดิน เดินจากไหนละครับ ก็ตั้งขบวนอยู่ที่พระบรมรูปทรงม้า พอเราเอาธงไปแจกทั้งหมดทางนั้น เขาก็จะเริ่มเดินออกเลี้ยวหน้าสวนอัมพร เข้าศรีอยุธยา เดินมาทางวัดเบญจมบพิตร ถึงหน้ามุมสวนจิตรลดา ก็เลี้ยวซ้ายไปตามถนนพระรามที่ 5 ถึงสวนจิตรลดาอีกมุมก็เลี้ยวซ้ายอีก ก็ไปตามถนนราชวิถี ไปถึงหน้ารัฐสภา ก็เข้าถนนอู่ทอง 1 ถนนกว้างนะครับ เดิน Marching หน้าสภา ก็กลับไปที่เก่า กลับไปที่ตั้ง ไปเลิกขบวนกันตรงนั้น แปลว่า เราหวังใจนะครับ จะเช็คกรมอุตุนิยมวิทยา ถ้าฝนฟ้าเป็นใจก็คงจะเดินกันดี ถ้าฝนหนักคงเดินไม่ได้ละครับ แต่ถ้าฝนเบาก็อาจจะเดิน พวกเดินเขาก็ทนนะครับ
อันนี้เป็นอันว่าฉลองวันแรก ขอเอา กทม. มา แต่ต่างจังหวัดเขามากันนะครับ จังหวัดนั้นมาจังหวัดนี้มา คือไม่บังคับว่ามาทุกคน ใครจะมาได้มา แต่ อบจ. นายก อบจ. 7,000 คน เขาเข้ามาเป็นพื้น และเขาก็มาของเขา คันละคัน ๆ กันมา มีที่จอดที่อะไร แล้วก็รวมพลกัน กลุ่มไหนแต่งสีอะไร ทุกคนมีเสื้อหมดครับ มีเสื้อเหลือง มีเสื้อฟ้า มีเสื้อชมพู ทั้งหมดครับ คณะของผมเอง คณะรัฐมนตรีก็ดี คณะ 76 ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะปลัดกระทรวง 20 กระทรวง พวกต่าง ๆ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ก็จะเปลี่ยนเสื้อครับ ก็จะมาเดินด้วย คือเดินฉลองวันแรก และจากนั้นไปแล้ว เขาจะเอาธงไป ทุกคนก็ไปที่จังหวัด จังหวัดก็ส่งไปตามอำเภอ ผมยกตัวอย่างกรุงเทพมหานคร ก็ไปศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 116 วันเหลือ 100 วัน ก็มี 50 เขต 50 อำเภอ ก็เขตละ 2 วัน เขาก็จะรับ เขาจะเดินเอาธงไปส่งกัน คือฉลองเสร็จ ไปส่งที่เขต ทางโน้นเขตก็รับไป ก็ไปที่สำนักงานเขต เขาคงหาที่หาอะไร ที่อยากจะบอกคือแล้วทำเพื่ออะไร คือเหมือนเราฉลองไฟพระฤกษ์ คือมีงานที่ไหนก็รับไฟพระฤกษ์ไป แล้วก็ไปฉลองที่จังหวัดเดียว อย่างจีนเขาทำ เขาวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก เขาวิ่งไป 21 ประเทศ แล้วเขาไปวิ่งบ้านเมืองเขา นาน กว่าจะกลับมาถึงจุด ของเราก็จะทำทำนองว่า ต้องการความสมัครสมานสามัคคี ก็ปักธงเอาไว้ และอยากให้มีคือว่า หนึ่ง เล่นกีฬาด้วยกัน อย่างแข่งฟุตบอล แข่งอะไรในจังหวัดในอำเภอ แข่งกันเล่นกีฬา สอง ตอนเย็น ๆ ก็เต้นแอโรบิค จังหวัดเขาก็หาคนมาเต้น ออกกำลังกายสัก 2 ชั่วโมงอะไรต่าง ๆ สาม เดิน รอรับธงก็เดิน
อยากให้ตั้งวงสนทนากันเรื่องต่าง ๆ ของบ้านเมือง
แต่ที่อยากได้คือ ควรจะมีการสนทนา ทุกอำเภอจะต้องมีห้องประชุม มีศาลาประชาคม เชิญมาเลยครับ เชิญทั้งหมดมานั่งสนทนา จะคุยกันเรื่องอะไรก็ได้ จะคุยกันเรื่องบ้านเมือง ปัญหาของบ้านเมือง จะคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ จะคุยเรื่องโลกร้อน จะคุยเรื่องสถาพระมหากษัตริย์ของเรา จะคุยเรื่องภาษาไทยของเรา จะคุยเรื่องวัด เรื่องโรงเรียน เรื่องนักเรียน เรื่องผู้ปกครอง จะคุยเรื่องแข่งรถ เรื่องปาก้อนหิน คุยได้ทั้งนั้น ตั้งวงคุย คือคุยเพื่อจะได้หาจุดว่า เอาละ ผู้คนทั้งกลุ่มใหญ่นั้น ก็คงคุยไม่ถนัด จังหวัดยังไม่คุย แต่ไปถึงอำเภอ ๆ ก็คุย ไปถึงตำบล ๆ คุย อย่างนี้ครับ ก็ย่อลงไป ๆ ก็จะไม่มีฝ่ายไหน ถึงแม้ปกติจะไม่พูดไม่จากัน เราก็อยากชวนมาคุย ทั้งตะวันออกอยากจะคุยกันเรื่องปัญหาการส่งออกผลไม้ว่าจะส่งอย่างไร ๆ จะส่งใส้ตู้เย็นอย่างไรผลิตภัณฑ์ คือคุยทั้งเรื่องปัญหาอาหารการกิน ได้ทั้งนั้นละครับ คุยกัน แม้กระทั่งเรื่องรสชาติอาหารก็ตั้งวงคุยกันได้ คืออยากให้คุยกันนะครับ เรื่องสัมมนาแต่ละหัวข้อ และเราอยากได้รายงานการสนทนา ไม่ต้องบันทึกเทปละครับ มีคนบันทึกว่าคุยกันเรื่องอะไรอย่างไร จะได้รู้ว่าบ้านเมืองที่ขุ่นมัวกันมาทั้งหมด ก็ตั้งวงคุยกันได้ นี่ละครับคือเจตนาของ 116 วัน จะเล่าให้ฟังเท่านี้ก่อน
ฉลอง 100 ปีอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5
เพราะว่าถัดไปก็จะมาเล่าให้ฟังเรื่อง 9 วันที่จะฉลอง 100 ปีของรัชกาลที่ 5 อนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้า 100 ปี ทรงเอาเข้ามาทำในบ้านเรา ตั้งแต่ยังเชยอยู่จนบัดนี้ทันสมัย เขาก็จะมาแสดงเป็นเหมือน Expo รอบ ๆ แสดง 9 วัน ฝนฟ้าไม่เป็นไร ดูได้ชมได้ เราตั้งใจว่านักเรียน ครูบาอาจารย์ทั้งหลายทั้งปวง มาดูเลยว่าน้ำประปาตอนแรกเข้ามา มันเชยอย่างไร ก๊อกประปาเป็นอย่างไร ตั้งปี๊บอย่างไร ปี๊บคู่ ปี๊บเดี่ยว ขี้เกียจกันไป ผมเคยเล่าให้ฟังแล้ว อย่างเอาไม้ก้ามปูมาถากให้ปลายกขึ้นมาแล้ว พอปล่อยก็หยุด ก็ตอกลงไป ก็ปล่อยน้ำไหล อย่างนั้นละครับ แล้วก็ปี๊บรอง ๆ ๆ ๆ ไม่มีใครอยากไปยืนถือ นั่นละน้ำประปาสมัยผมยังเด็ก ๆ หาบเอง คนไทยหาบ ๆ ละ 5 สตางค์ จีนหาบ ๆ ละ 10 สตางค์ เพราะ 4 ปี๊บ ทุกบ้านต้องมีตุ่ม ไปถึงก็ใส่ ๆ ต้องใช้อย่างนั้นละครับ ต่อแป๊บเข้าบ้านไม่มีครับ สมัยก่อนไม่มีเลย น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ สแตมป์ อะไรที่ส่งเอาเข้ามานั้นก็จะฉลองกันรัชกาลที่ 5
วันพระราชทานเพลิงพระศพ 15 พฤศจิกายนนี้
ก็เล่าให้ฟังอีกว่า วันที่ 15 พฤศจิกายน วันพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสร็จพระราชทานเพลิงพระศพแล้ว เราจะจุดเทียนทั้งประเทศส่งดวงพระวิญญาณเจ้านายที่เรารัก เสร็จแล้วก็มาถึงวันที่ 2 ธันวาคม ก็เสด็จพระราชดำเนินตรวจพลสวนสนาม อย่างเคยของพระองค์ท่าน ราชวัลลภ วันที่ 3 ธันวาคม จะเปลี่ยนมุม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จฯ มาทรงรับธงที่ไปฉลองกันมาแล้ว ไปสมัครสมานสามัคคี ก็ถวายธง จะเอาไปส่งให้ไปเก็บที่ไหนก็สุดแท้แต่ วันที่ 3-5 ธันวาคม ก็เป็นงานเฉลิมพระชนมพรรษา ประจำปีของเรา จะทำอะไรอย่างไรก็สุดแท้แต่ คือมหรสพอะไรต่าง ๆ ก็อาจจะเป็นธรรมดา แต่อาจจะคิดมีการแสดงอะไรต่าง ๆ อาจจะตั้งวงสัมมนาภาษาไทยจะถวายพระองค์ท่าน จะสัมมนาเรื่องปัญหาข้าว คุยกันเรื่องข้าวให้ฟัง คือสัก 3 วัน จะพยายามเอาเรื่องพรรค์อย่างนี้ครับ ใครจะมาแค่ไหนสุดแท้แต่ แต่ว่าการถ่ายทอดออกไป การบันทึกไว้ คือปัญหาของบ้านเมืองจะได้มาคุยกัน เอาละจบเท่านั้นนะครับ
รับเสด็จฯ ทรงเปิดโรงพยาบาล 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ
ทีนี้เล่าเรื่องก็คือว่า เอาตามลำดับความก็แล้วกันครับ ผมก็บอกว่าผมจะต้องไปเยี่ยมทหารที่ชายแดน ทางโน้นก็เอาอะไรมาให้ ผมก็นัดกันไป บังเอิญวันที่ 18 สิงหาคม วันจันทร์มีหมายเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จฯ ทรงเปิด เรามีโรงพยาบาลสงฆ์ ตั้งนมนานกาเลแล้วที่กรุงเทพฯ สุดท้ายพระท่านก็ไปอยู่ตามโรงพยาบาล มีตึกอาพาธ สุดท้ายท่านเจ้าอาวาสวัดยานนาวา คือท่านเจ้าคณะรอง คือคิดถึงพระนะครับ ท่านเป็นพระนี่ครับ พระพรหมวชิรญาณ เจ้าคณะรอง 5 ปีที่แล้วครับ ท่านคิดถึงเรื่องนี้ ท่านเลยไปขอที่เขามา 73 ไร่ อยู่ในอำเภอเมือง อยู่ชานเมืองอุบลราชธานี สร้างโรงพยาบาลสงฆ์ที่อุบล ตอนไปยังไม่ใหญ่เท่าไร แต่มีตึก 9 ชั้น คือต่อไปจะรับเอกชนด้วย โรงพยาบาลทันสมัยครับ ท่านทั้งหลายคงได้ดูที่ผมเฝ้าฯ รับเสด็จ และเสด็จฯ ไปดูต่าง ๆ คือเป็นโรงพยาบาลที่ว่าจะดูแลหลายอย่างเป็นศูนย์การแพทย์ งานนั้นคือจะต้องเฝ้าฯ ห้าโมงเย็น ผมก็เอ่ยถ้าอย่างนั้นจะไปบ่ายทำไม ก็ไปเช้าเลย ก็ขอโอกาสไป
ไปดูปราสาทตาเมือนธม
ก็ไปเยี่ยม 2 แห่ง ไปที่เขาเรียกว่าตาเหมือนธม อ่านภาษาเขมร เขาเรียก ตาเมือนธม อันนี้ก็แปลกดีนะครับ อยู่ชายแดนเราเลยครับ แต่ว่าลักษณะการดู ต้องขอบคุณกรมศิลปากร เขาจับตาตกแต่งเรียบร้อยดีเลยครับ มีบันไดขึ้นทางนั้นทางนี้ เรียบร้อยเลย และทางฝ่ายทหารของเราก็บอก ผมอ่านตำรา ค้นพบตาเมือนธมปี 2478 73 ปีแล้วครับ ปีผมเกิดนั่นละครับ เอกสารหลักฐานแสดงเลยจัดการอย่างนั้นไป และกรมศิลปากรได้บูรณะเมื่อสัก 10 ปีที่แล้ว ได้เงินทีละปี ๆ ทำเล็กทำน้อย จับเอามาตั้งแบบ Anastylosis (การประกอบคืนสภาพ) ทำเสร็จเรียบร้อย ก็ดูนะครับ เสร็จแล้วเขาทำอย่างไร เขาบอกว่าเขามีงานฉลอง มีงานทุกวันที่ 7 เมษายน หรืออย่างไรเนี่ย มีงานวันหนึ่ง เขมรฟากกระโน้นก็รับชวนมา คือชุมชนตาเมือนธมอยู่ทางเราห่าง 11 กิโลเมตร จากตรงชุมชนบ้านเราไปถึงนั่นก็เป็นไร่นา ปลูกอ้อย ปลูกข้าว ถนนเจ๋งเลยครับ เรียบร้อยตีเส้นเลย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเขาสนับสนุนเรื่องนี้ คือต้องขอบคุณกรมศิลปากรที่ตกแต่งไว้เรียบร้อย การท่องเที่ยวฯ เขาสนับสนุน มีงานมา 7 ปีแล้วครับ ทุกเดือนเมษายนมีงานฉลอง 1 วัน มีมวย มีประกวดนางงามตาเมือนธม มีอะไรต่าง ๆ เขมรฟากทางโน้น ชุมชนเขาอยู่ห่างไป 8 กิโลเมตร ชุมชนเราอยู่ห่าง 11 กิโลเมตร ปราสาทที่อยู่ชายแดน ทางเรากั้นขึงเลย เราบอกตรงนี้เขตแดนของเรา ก็ยังจะเจรจากัน ยังไม่ลงตัว แต่ว่าเราบอกว่า ตั้งแต่ปี 2478 ดูอยู่ ตั้งแต่เป็นเจ้าของมานี่ ก็ทำดีครับ ต้องขอบคุณมากเลย เพราะว่าพอทางเขมรเขามา เราก็บอกคุณมาชมได้ ทางฝ่ายทหารเราก็ตั้งอยู่ทางนี้ เขาก็เข้ามาชม ใครจะขอมาก็เข้ามาชมได้ เพราะลงไปทางนั้นก็เป็นเขมรต่ำ และถนนเป็นถนนดิน เป็นถนนดิน 8 กิโลเมตร ไปถึงชุมชนเขา ทางเรา 11 กิโลเมตร ลาดยางแจ๋วเลยครับ มีปักป้ายแสดงการท่องเที่ยว ก็แวะไปเยี่ยมเขาหน่อย มีทหารดูแลอยู่ที่นั่น ก็สนทนากับเขา
และก็ไปอีก ทีนี้ไป ฮ. ไปที่ปราสาทพระวิหาร ขึ้นไปข้างบน ไปที่ผามออีแดง ไม่น่าเชื่อนะครับ 8 กิโลฯ ขึ้นไป ข้างล่างก็ยังสว่างดี นั่งดูบน ฮ. ผมต้องเล่าตรงนี้ให้ฟังหน่อย คือเราคิดว่าปีกผีเสื้อคือจากถนน ถนนที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ตัดไว้ โชคชัย-เดชอุดม เป็นถนน เรานึกแต่ความห่างจากจังหวัด คือการตัดถนน ถ้าตัดไปขยายจังหวัด ตรงที่เหลือก็เป็นป่าเขาก็เยอะ ธรรมดาเขาก็ถอยจากเมืองสัก 5-10 กิโลฯ ทำถนนตรง จอมพลสฤษดิ์ฯ เอา 25 กิโลฯ ลากจากโชคชัย โคราช 25 กิโลฯ ไปเดชอุดม อุบลราชธานี เป็นเส้นตรงเลยครับ แล้วตรงนี้ละครับ ถนนนั้นก็เหมือนกับไม่ใช่ยุทธศาสตร์ เพราะยุทธศาสตร์จะอยู่ใกล้ชายแดน เรานึกว่าตรงนี้เป็นปีกผีเสื้อ แล้วน้ำจะอยู่ที่แม่น้ำมูล อยู่ข้างล่าง ๆ ไม่ใช่ครับ มันมีภูเขาอีกชั้นหนึ่ง คือเป็นปีกขึ้นไป แล้วเขมรต่ำไปอย่างนี้ เหมือนกับเผิน แล้วนึกถึงเขาพระวิหาร เผินออกไปอย่างนี้ แล้วก็ต่ำลงไปข้างล่าง แต่ระหว่างนี้เป็น ภาษาฝรั่งเราว่า Valley เป็นหุบ ที่ยาวหมด นั่ง ฮ. ไปถนนของเราต้องเรียกใช้คำว่า เจ๋ง ถนนดีมาก เรียบร้อยดี และสำคัญที่สุด ภูเขาที่เรียงแถวอยู่ในแผ่นดินเรา เชิงเขามีอ่าง ๆ ๆ ๆ มีอ่างน้ำครับ ทีแรกเรานึกว่าจะส่งน้ำอย่างไร จะสูบอย่างไร มีอ่างครับ คือน้ำไหลไปลงแม่น้ำมูล อีกข้างลงอ่าง แล้วมีถนนเรียบร้อย ถนนที่ไปอำเภอกันทรลักษ์ แล้วตกลงศรีสะเกษ ๆ มีเงาะ มีทุเรียน มีมังคุด คือจันทบุรีปลูกอย่างไร ทางนั้นปลูกได้
ทำข้าวหน้าไก่เลี้ยงทหาร
ผมไปฝนตก นักเรียนที่โรงเรียนมารับ บอกต้องขอบใจที่หนูมารับกัน เขาออกมาครับ นายกฯ ไป เราส่วนมากก็ไม่ค่อยได้คิดอะไรอื่น ฮ. ไปลงที่โรงเรียนเขา ๆ ก็ออกมารับ พอรับแล้ว นักเรียนเต็ม ๆ โบกมือแล้วไป ไม่ได้ครับ เลยต้องเดินสวัสดีกับนักเรียน คุยคนละคำสองคำ จับไม้จับมือกันหน่อยนักเรียนมา มีตั้งแต่ชั้นมัธยมเล็กจนกระทั่งมัธยมปลายนะครับ เขาก็มารับ นึกว่าแค่มารับเฉย ๆ พอเสร็จแล้วเราก็ไป โอ๊ย ขึ้นไปข้างบน ไม่น่าเชื่อ ขึ้นไปมันตะแคง ไม่ได้รถเลี้ยวขึ้นเขานะครับ มันทำเทินขึ้นไปอย่างนี้ 8 กิโลฯ มันเปลี่ยนสภาพ ข้างบนหมอก สัก 3 เมตรก็น่าจะมองไม่ชัดแล้ว 3 เมตรจะครับ อย่างนี้เครื่องบินลงไม่ได้ครับ ฮ. ก็ลงไม่ได้ ต้องเอารถขับขึ้นไป เมืองในหมอกเลยละครับ หมอกทั้งนั้นแล้วกัน แล้วที่มออีแดง เขาก็ไปทำเต็นท์ ตีเต็นท์พรางข้างบน มีทหารอยู่ 120 ก็บอกว่า ถ้ามีผูกไมตรีไปไหนก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่ก่อนเขาทำไว้ ให้เราไปถมตรงปลาย คราวนี้ทำเองเลยครับ คิดตั้งแต่ต้นเองเลย คือผมอยู่ที่ ตอนนั้นจำได้ว่ากลับจากที่จังหวัดอุทัยธานี ยังไม่ได้ส่งเมนูให้เขา ต้องแวะเข้าปั๊มน้ำมัน ปั๊มน้ำมันมี Fax สั่งเขียนเมนู เขียนเสร็จอย่างไร ซื้ออะไรทำอะไร อย่างไร ไปเลี้ยงนักกีฬาที่โน่น ทำข้าวหน้าไก่ ใส่ไก่ 10 กิโลกรัม ที่ในปักกิ่ง สถานทูตไปจัดซื้อหาให้ ไม่เป็นปัญหา นี่มันกันทรลักษ์ แต่ว่าจะเลี้ยง 120 นาย ผมก็เอาว่า 25 กิโลฯ ต้องเอาเนื้ออะไร หั่นอย่างไร ทุกอย่างที่เครื่องมาปรุงทั้งหมดบอกแม้แต่การหั่นเสร็จ ต้องเขียนรูปให้ดูนะครับว่าผ่าอย่างไร หั่นอย่างไร พอเสร็จเรียบร้อย เขาก็ทำเตรียมไว้ ทางผมขาไป ผมก็หิ้วไปอันก็คือพวกน้ำหอย น้ำมันงา พวกเครื่องปรุงทั้งหลาย หิ้วของเราไป ก็ไปเจอกันทางโน้น ไปฟัง briefing ก่อน เขาก็อธิบายความเล่าให้ฟังทั้งหมดเรียบร้อย ก็ทันสมัยดีครับ เป็นของป่าไม้ เขาอยู่ตรงนั้น คือเป็นศูนย์ท่องเที่ยวอยู่ตรงปลายก่อนไปเข้าเขาพระวิหาร ของเราดีครับ สะอาดเรียบร้อย ห้องน้ำห้องท่าเรียบร้อยเลย
แต่ว่าบอกหมดครับ เดินมาเสร็จเรียบร้อย เขาก็ตั้งกระทะไว้ให้เสร็จ ผมไปทำข้าวหน้าไก่ที่สถานทูตที่ปักกิ่ง ไฟดับ 3 หน ที่นั่นตั้งหม้อเสร็จ เขามีพัดลมที่ต้องใช้ไฟฟ้า คือใช้แก๊ส ถ้าจุดธรรมดามีควันครับ แปลกนะครับ แต่ต้องเอาไอ้นี่โรล ถึงจะเป่าถึงจะฟู่ 3 หนกว่าข้าวหน้าไก่จะเสร็จ แต่ทีนี่ของเขาดีครับ ทุกอย่างดีหมด กระทะใหญ่ แต่ถึงกระนั้น 25 กิโลฯ ต้องทำที่ละ 12 กิโลฯ ครึ่ง ผมก็ทำตามตำราผม ไม่มีการใส่นั่นเสร็จ ตอนทำก็มีทหาร 2 คนก็ช่วย แต่ตอนตักเพื่อแสดงน้ำใจไมตรี ต้องตักเอง กระบวยใหญ่อย่างนี้เลยครับ ที่เสียใจจริง ๆ คือชามเล็ก ข้าวหน้าไก่ต้องชามใหญ่ เอาข้าวใส่เสร็จแล้ว และข้าว ผมว่าข้าวไม่ค่อยมียาง เขาก็ไปเลือกข้าวอันนั้น ที่จริงถ้าเป็นผม ต้องเอาข้าวเก่า 5 ส่วน ข้าวใหม่ 2 ส่วนผสมกัน แล้วคลุก แล้วก็หุง มันก็จะนุ่ม ใส่อย่างนี้ ตักกระบวนใส่ลงไป ก็เรียบร้อยดี วันนั้นนั่งกินรสชาติดีครับ ตักแจก ทหารมารับ 120 แต่คนที่เป็นพวกทหาร และทหารใหญ่ พวกนายทหาร รวมเกือบ 200 แต่พอดีนะครับ หม้อใหญ่เบ้อเริ่ม เครื่องไม้เครื่องมือเขาเรียบร้อยดีครับ ใส่ไปแล้ว เหลือห่างจากปากหม้อนิ้วหนึ่ง ทีแรกเหลือ 2 นิ้ว ใส่ต้นหอมหั่นสุดท้าย คนเสร็จเรียบร้อยเหลือนิ้วหนึ่ง ตักจนหมดเลย แต่เหลือสัก 2 นิ้วข้างล่าง ไว้ให้ทางฝ่ายสูทได้ชิมของเขาเอง ก็เรียบร้อยดี ทำแล้วเราก็มีความสุข ใครจะว่าอย่างไรก็ว่าเถอะครับ โอ๊ย ชอบทำกับข้าว มันของชอบน่ะ มันเป็นอย่างไร มันเสียหายอย่างไร และทำให้ ทหารเขาไปนั่งดูแลข้างบน อาหารการกินเขาดูเรียบร้อย แต่ว่าเราเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ด้วย ไปทำไม่ได้ยากอะไรเลย เขาซื้อเตรียมไว้ เราก็เอาของเราไป และก็จัดการทำ และก็กินด้วยกัน อย่างนี้นะครับ
ตรวจสภาพน้ำท่วมที่อุบลราชธานี
ก็เสร็จเรียบร้อย พอบ่าย ๆ ก็นั่งกลับมา เฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสร็จ จะกลับบ้านหรือยัง ต้องไปดักดูน้ำ เพราะน้ำท่วมหนองคาย น้ำท่วมหนองคาย น้ำท่วมนครพนม น้ำท่วมมุกดาหาร และที่อุบลฯ เป็นอย่างไร ขับรถออกไปเย็น ค่ำแล้วนะครับ นั่งรถออกไป ฝนมามืดเลย แต่บอกเขาว่า ก็ไม่อยากให้ไป บอกไปเหอะ ต้องไป ๆ โขงเจียม จะไปดูริมแม่น้ำโขงว่าน้ำเป็นอย่างไร ฝ่าฝนไปเลยครับ ลงไปถึงนั่นฝนพร่ำ ๆ ลงไปดู อ้า ประหลาด ๆ ตรงไหน ไปนั่งที่แพ แม่น้ำโขงไหลทวนน้ำได้อย่างไร ไม่ได้ทวนน้ำ แม่น้ำมูลน้ำเยอะ แม่น้ำมูลเขาปล่อยจากเขื่อนมา ลงมาก็ทวนแม่น้ำโขงขึ้นมาก่อน นั่งดูบอกน้ำโขงตรงไหนไปทางโน้น มันทวน แล้วสักพักก็อ่อนลงไป เวลาเขาปล่อยน้ำจากเขื่อน น้ำโขง ฟังให้ดีนะครับ แม่น้ำโขงไม่เคยคิดว่า แม่น้ำโขงจะมีน้ำมาแประอีกแล้ว เขาว่ากันว่าจีนสร้างเขื่อน แต่การจีนสร้างเขื่อน ไม่เคยเป็นความวิตก เพราะไม่มีน้ำมาแประเต็ม แต่มันก็จะไม่ท่วม แต่ว่าจะมีน้ำอยู่ในท้องน้ำแม่น้ำโขงมากขึ้น เพราะเขื่อนจะต้องปล่อย 24 ชั่วโมง ไม่ใช่เขื่อนเพื่อการเกษตร เป็นเขื่อนเพื่อไฟฟ้า ก็ฟังไปฟังมา ที่ต้องไปดูนี่เพราะอะไรครับ เขาออกข่าวเขาบอกว่าน้ำท่วมหนองคาย เขาออกข่าวว่าจีนเตรียมเปิดเขื่อนปล่อยน้ำมาจะได้ท่วมประเทศไทย เราก็บอกอะไร เท่าที่ฟังเนี่ย จะปล่อยอย่างไร มัน 280 กิโลฯ จากเขื่อนสุดท้าย ฝนตกใต้เขื่อนละมัง ฝนตกใต้เขื่อนถึงน้ำ อย่างนี้ เพราะเราไม่คิดจะว่าจะปล่อยอย่างไร น้ำก็ออกจากท่อ ถ้ามันเสร็จ ออกจากท่อที่ทำไฟฟ้า จะเปิดอย่างไรก็ไม่นั่น มันไม่ใช่เขื่อนเปิดประตูบานใหญ่ ไม่ใช่อย่างนั้น มันต้องไหลออกมา ก็เถียงเลย
หนังสือพิมพ์พาดหัวว่าอย่างไร “สมัครอุ้มจีน” ผมจะไปอุ้มทำไม ใหญ่โตมโหฬารหรือ อุ้มทำไม เราก็พูดตามเหตุผล จึงต้องไปดูว่าน้ำมาอย่างไร ถ้าเผื่ออยู่หนองคายบอกท่วม ท่วมตั้งเมตรหนึ่ง มานครพนมก็ท่วม ไปมุกดาหารก็ท่วม จะลงไปอุบลราชธานี เขาบอกอยู่อีก 5 เมตรถึงจะถึงฝั่ง อย่างนี้ต้องดูภูมิศาสตร์ ต้องดูทำไม 3 จังหวัดน้ำถึงแประฝั่ง ไปถึงอุบลฯ เหลืออีก 5 เมตรถึงจะถึงฝั่ง อย่างนี้น่าสนใจไหม น่าสนใจครับ สนใจอย่างยิ่ง เพราะตรงนั้นแถวนั้น เลยขึ้นไปหน่อย เราจะทำ ตกลงกันแล้วนะ ลาวกับไทยตกลงจะทำเหมือนฝายกลางแม่น้ำ ถ้าจีนทำได้ เราก็ทำได้ ยกขึ้นมา 18 เมตร นั่นแสดงว่าแถวนั้นฝั่งสูง ขึ้นมาแล้ว จะยกน้ำขึ้นมาจากที่เคยเป็น 18 เมตร แล้วถอยหลังลงไป 110 เมตร นี่เท่ากับแม่น้ำโขงจะเก็บน้ำไว้ แล้วเราอย่างไร เราก็ปล่อยเลย ปล่อยเป็นท่อ จำนวน 10 กว่าท่อ ลงไปก็ทำไฟ น้ำแม่น้ำโขงก็จะลงไปเหมือนเคย แล้วน้ำที่จะเก็บอยู่ จะได้เข้ามาใช้บ้านเรา คิดแล้วครับ ทำแล้ว ตกลงไหม ตกลงกันแล้วครับ 2 ประเทศ เซ็น MOU กันเรียบร้อยแล้ว เท่านั้นครับ ตกลงกันเรียบร้อยแล้วทั้ง 2 ฝ่าย ก็จะดำเนินการ ถ้าสำเร็จเรียบร้อย ก็จะลองทำ ไม่เรียก Dam เรียนว่าเป็นเหมือน Levee (พนังกั้นน้ำ) เหมือนกับการกั้นน้ำไว้ แต่ Levee เขากั้นข้าง ๆ ก็ทำนะครับ ก็ไปดูเพื่อจะให้รู้ไว้
ตรวจสภาพน้ำท่วมที่เชียงราย
ทีนี้เสร็จแล้วอย่างไร เพราะฉะนั้น ถัดไป วันศุกร์เย็นมีรายการก็จะไปดู เขาเชิญดูหนัง คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปดูหนังหน่อย ก็เหมือนกับไปดูบันเทิงหน่อยละครับ วันพฤหัสบดีกลางคืน พัวะ ๆ ๆ ล่อกันเข้าทางโน้นที่ทางสุไหงโก-ลก แล้วจะทำอย่างไร ผมก็ถามผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่าผมจะลงไปไหม ยัง ๆ ไม่ได้ เดี๋ยวลงไปก่อน ทหารลงไปก่อน ตำรวจตามไปก่อน นายกฯ ทีหลังอย่าเพิ่ง อย่าไปยุ่งกับเขาตอนนี้ ผมก็บอก อย่างนี้ถ้าดูหนังก็เกิดเหตุ เขาเกิดเรื่องกันวันพฤหัสบดี เขาศุกร์ ครม. ไปดูหนัง เกิดเรื่องแน่นอน ผมก็แน่ของผมเหมือนกัน พอเสร็จแล้วรายการตั้งแต่บ่าย พอเสร็จปั๊บ งานเสร็จ 11.30 น. และอีกทีจะไปเย็น ผมก็ถามเลยว่าไหนลองถามตั๋วเครื่องบินสิ มีไหมที่นั่ง 3 ที่นั่ง เพราะพวกไป 2 คน มีตั๋วได้ ผมก็ไปเลย บ่ายโมงครึ่งผมก็บินออกไป บ่ายโมงยี่สิบก็ออกจากสุวรรณภูมิ ไปเครื่องบินพาณิชย์ธรรมดา ก็ไปดูน้ำท่วม เพราะเช้ามืดวันนั้น ดูข่าวเช้ามืด น้ำท่วมเชียงรายอีกแล้ว เขาว่าน้ำท่วมน่ากลัว ดูข่าวน้ำท่วม ไปดูหน่อย พอถึงก็ไม่รบกวนจังหวัด รบกวนแม่ทัพ เพราะว่าวันที่ 23 สิงหาคม ตอนรุ่งขึ้นจะเป็นวันครบรอบสัมพันธไมตรี ไทย-พม่า 60 ปี ผมจะต้องมี Speed บนเวทีที่งาน คือตกลงกันว่า ไทยกับพม่า 60 ปี จะขอร้องกัน ผมกับท่านนายกรัฐมนตรีเต็ง เส็ง ไปนั่งดูที่โอลิมปิกด้วยกัน ผมบอกท่านให้เขาจัดทางโน้น ผมจะจัดสถานทูตผม แล้วท่านไปงานสถานทูตผมหน่อย และท่านจัดทางนี้นะ สถานทูตท่าน ผมจะไปงานสถานทูตท่าน ก็ตกลงกัน เพราะนั่งดูอยู่ด้วยกัน พอตกลง ทางพม่าบอก 23 ทางเราก็จะมี 24 วันนี้เย็น สถานทูตไทยในย่างกุ้งมีงาน ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายเตช บุนนาค) ไปทางโน้น คุณเต็ง เส็ง ก็จะไปร่วมงาน เมื่อวานรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศก็มาทางนี้ ผมก็ไปร่วมงาน กำลังจะต่อมวยพอดี มีงานวันนี้ใครจะคิดว่าอย่างนั้น วันนี้ค่ำทางโน้นเขาจะถ่ายทอดโอลิมปิก แต่คงไม่เป็นไรครับ โอลิมปิกก็ดึกหน่อย ก็สำเร็จเรียบร้อยดี ก็ไปงาน
ทีนี้ก็ไปดูน้ำท่วม พอดูน้ำท่วมเสร็จ ได้ลงไปดู ได้เห็นมิสเตอร์เตือนภัย น่าตาเป็นอย่างนี้เอง ถามว่าร้องไหม ถามชาวบ้านร้องแว๊ก ๆ ๆ ๆ มีเขียวมีเหลืองมีแดง และก็น้ำมา แม่น้ำสาย เวลาเราอยู่สะพานตรงท่าขี้เหล็ก ไม่ค่อยรู้สึก แต่ว่าถ้ามองลงไปสะพาน ผมไป เขาเรียกว่า Flash Fast มาเร็วไปเร็ว เป็นแบบ ...river แบบแม่น้ำป่าสัก มาน่ากลัวครับ มาขึ้นที่นี่ น้ำขึ้นที รถยนต์จอดอยู่ที่ลาน รถลานพม่า ลานไทย โดนทั้งคู่ครับ มาตีสามครึ่ง มีมิสเตอร์เตือนภัย แต่ขับรถออกไม่ทัน น้ำมาทีมันขึ้นไปท่วมเห็นหลังคารถ แประ ๆ หลังคารถ แม่สายนะครับ แม่สายก็มี แม่สายอยู่ข้างบน ถนนใหญ่วิ่งเข้าไปท่าขี้เหล็ก ไม่มีปัญหาละครับ น้ำไม่ท่วม แต่ข้างล่างเป็นถนนตัดลงไป เป็นหมู่บ้านต่ำลงไป ดูในรูป ผมให้เขาถ่ายรูปมาให้ดู รายงานเขามีนะครับ ผู้ว่าฯ เขามีถ่องถ่ายให้ดูส่วนสัด บอกเอามาผมจะเอาไปออกรายการ ผมจะให้ดู ก็ดูเลยครับว่าแม่สายหน้าตาเป็นอย่างไร แม่สายข้างบนเป็นอย่างไร แม่สายข้างล่างเป็นอย่างไร น้ำมาอย่างไร
ดีครับที่ได้เห็น น้ำมันมาเร็วมันไปเร็ว CNN ก็ไปถามครับ CNN เขาไปถามเป็นทำนองว่า เสียหายไม่เสียหายมากเพราะเหตุว่าเพราะอะไร เพราะเหตุว่าเขาผ่านมาพรวดแล้วก็ไป สูงไหมครับ สูง 1 เมตร สูง 2 เมตร แล้วก็หายไป ของเสียหาย ครับ เสียหายครับ รถยนต์รถอะไรเสียหาย ก็ธรรมชาติฟังราษฎร ฟังแล้วบอก มีความเดือดร้อน ไม่มีปัญหาครับเป็นธรรมชาติ เป็นภัยธรรมชาติผมไม่ว่าอะไรหรอกไม่ใช่ความผิดของใคร ฟังแล้วประทับใจมากไม่น่าเชื่อครับ ผมก็ไปชุมชนเขาก็เอาราษฎรมานั่ง ผมก็คุยให้ฟังเล่าให้ฟังคุยราษฎรก็ฟังเรียบร้อยดี ราษฎรไม่ร้องทุกข์ ไม่ร้องขออะไร เขามีของไว้แจกผมบอกว่าผมไม่แจกหรอก แจกเอาหน้า มีปัญหาค่อยเอาไป เขาเสร็จเรียบร้อยกันหมดแล้ว ไปถึงเอาของไปแจกผมไม่เอา ผมบอกว่าให้เก็บไว้ก่อน เอาไว้เวลานั้น ตรงที่ประชุมมีโลงด้วย โลงศพเป็นแถว ทำอะไร เขาบอกสำหรับสาธารณกุศลใครตายไม่มีเงินทำศพก็ใช้โลงนี้ ก็ธรรมเนียมทำบุญซื้อ 1 โลง 1,000 บาท ผมนายกฯ ยากจนบริจาค 1,000 ซื้อโลง 1 โลงให้เขา เรียบร้อยดีครับ
เสร็จแล้วก็ออกจากแม่สายไปที่เชียงแสน ก็จะไปดู คือแม่น้ำสายวิ่งมา 15 กิโลฯ แล้วจะเจอแม่น้ำรวก ก็จะมาจากทางพม่า ก็มาเจอแม่น้ำสายเปลี่ยนชื่อเป็นแม่น้ำรวก แม่น้ำรวกโผล่ไปก็เจอสามเหลี่ยมทองคำ แม่น้ำโขงมาด้านหนึ่งแล้วก็ลงไปข้างล่าง แล้วแม่น้ำรวกก็ไปเจอ เรียกว่าสบรวก ตรงนั้นเรียกว่าสบรวก เราเรียกว่าสามเหลี่ยมทองคำ มีอะไรต่ออะไรมากมาย ไปดูตอนนั้น ตรงกันข้ามตรงสามเหลี่ยมทองคำนั้นนะครับ ที่ดินใหญ่มหึมา 5,000 ไร่ กำลังจะถูกพัฒนา ไทยน่ะเชียงแสนอยู่ของเราธรรมดา มีอะไรต่าง ๆ คนก็ไปดู ดูสามเหลี่ยมทองคำ มีภัตตาคาร คือเป็นที่ท่องเที่ยวอำเภอหนึ่งของเรา ฟากโน้นไม่เจริญหรอกแต่มีคาสิโน ไทยไปสร้างอยู่ข้างพม่า ข้ามสบรวกไปก็ไปทางโน้นคาสิโน ทางนี้ก็ไทย ไปเที่ยวไปดูไม่มีอะไร มุมลาวทางฟากลาว เจ้าหน้าที่เก่งที่อำเภอแสดงให้ดูเลยครับ 5,000 ไร่ จะทำอย่างไรจะลงทุน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่างชาติมาลง ใช่ครับ เขาจะทำอะไร เป็นคอมเพล็กซ์มหึมาเลยครับ สถานที่ท่องเที่ยวมีสนามกอล์ฟ มีการอะไรต่าง ๆ และมีคาสิโน คาสิโนมาตรฐานใหญ่เลยครับ อยู่คนละฟากกับของเราเลยครับ เห็นไหมครับ ฟากโน้นพม่ามีครับ นี่ลาวมีครับ คอมเพล็กซ์นะครับ เป็นคาสิโนเลยแล้วมีสนามกอล์ฟ มีที่พักอะไรต่าง ๆ มีสปอร์ตติ้ง อะไรต่าง ๆ ใหญ่เบ้อเริ่มเลยครับ พวกเชียงแสนก็เกาหัวแกรก ๆ ต่อไปเชียงแสนต้องเป็นทางผ่านนะครับ ต้องข้ามฟากกันตรงนั้นแน่นอน จะทำอย่างไรครับ
สิบสองปันนาสร้างเขื่อนเหนือเมือง
ผมไปเชียงแสนก็อยากจะดูท่าเรือที่เชียงแสน ต้องการจะคุยกับคนที่นั่งเรือขึ้นไปถึงจิงหง จิงหงคือสิบสองปันนาครับ 280 กิโลฯ ผมเคยนั่งลงมาแล้วผมเป็นกรรมาธิการคมนาคม ผมนั่งเครื่องบินจากคุนหมิงไปที่จิงหง คือสิบสองปันนา แล้วนั่งเรือล่องมา เวลาล่องเรือใช้เวลา 10 ชั่วโมง แต่ที่ผ่านด่านลาว 2 ด่านอีกด่านละ 1 ชั่วโมง ทั้งหมดก็ประมาณ 12 ชั่วโมง แต่ถ้าขาขึ้นก็ 18 ชั่วโมง แล้วอย่างไรครับ อยากรู้จริง ๆ ว่าถ้าจีนปล่อยน้ำมานั้น จะหาล่ามด้วยนะครับ ว่าเรือจีนที่เขาขึ้นไปเป็นอย่างไร บอกไม่ต้อง มีผู้เชี่ยวชาญครับขึ้นล่องอยู่เป็นประจำ มีรูปให้ดูด้วย ถ่ายรูปมาให้ดูเลยครับ ถ่ายรูปมาให้ดูบอกนี่ ๆ จิงหงอยู่นี่ บอกทำไมชอบไปสร้างเขื่อนอยู่ข้างเหนือเมือง ทำไมมันสร้างไปใต้เมืองให้เมืองอยู่เหนือเขื่อนอย่างไร ท่านผู้ว่าฯ ท่านก็ว่าจริงเหมือนกัน เขื่อนจีนอยู่เหนือเมือง ดูสิครับ เมืองจิงหงคือเมืองสิบสองปันนา อยู่ใต้เขื่อน ถ้าเขื่อนพัง ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ก็ทำไมไม่ไปสร้างเขื่อนอยู่ข้างล่างแล้วให้เมืองอยู่ข้างบน หรือเขาอาจจะว่าเหนือเขื่อนใช้น้ำสะอาดเพื่อการเกษตรหรือเพื่ออะไร แต่ความจริงไม่ใช่ครับ ความจริงด้วยอะไรก็ไม่ทราบได้ ที่สิบสองปันนาก็เอาอีกแล้วครับ เมืองอยู่ข้างล่าง เขื่อนนี้เป็นเขื่อนใหญ่ มีท่อที่จะทำไฟฟ้า 6 ท่อ เวลานี้ยังไม่เสร็จ เขื่อนยังไม่เสร็จครับ น้ำยังออก ยังผ่านธรรมดาอยู่ ธรรมดาเขาจะยกระดับขึ้นไป เขาบอกจะยกระดับสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 600 เมตร เขื่อนนะครับ แล้วจะเปิดมา 6 ท่อน ธรรมดานี้หน้าแล้งน้ำแม่น้ำโขงตอนต่ำนี้ เขาเรียกว่าน้ำ 80 เซ็นต์ฯ แต่เมื่อไรถ้ามีเขื่อนแล้วเดินเครื่อง 6 เครื่องนี้ น้ำแม่น้ำโขงจะเป็น 2 เมตร เห็นไหมครับ ทำไมมีเขื่อนแล้วมีน้ำ ก็ต้องมีน้ำเพราะมันปล่อยน้ำครับ ของเรานี้ถ้าไม่มีเขื่อนภูมิพล จังหวัดตากก็หน้าแล้งเดินข้ามได้ แต่พอมีเขื่อนภูมิพลปล่อยน้ำวันละ 6 ชั่วโมง ทำไฟฟ้าเพื่อการเกษตรด้วย 6 ชั่วโมงเท่านั้นละครับ ทำให้น้ำมันนอนท้องน้ำ ต้องว่ายน้ำข้ามละครับจังหวัดตาก
นี่เหมือนกันครับแม่น้ำโขงนี้ ถ้าหน้าแล้งเดินข้ามแม่น้ำโขงได้ หรือน้ำโขงเฉลี่ยแล้ว 80 เซ็นต์ฯ แต่ถ้าเขาใส่เขื่อนแล้วเขาเดินเครื่องตลอด 6 แท่ง น้ำจะสูง 2 เมตร นี่ก็คือคำอธิบาย ได้คำอธิบายชัดเจนครับ ตกลงเขื่อนเขายังไม่เสร็จ ไม่มีใครกักใครปล่อย ฝนมันตกข้างล่าง เขาเรียกว่าเป็นตะแคงอย่างนี้ ตะแคงเป็นตัววีอย่างนี้ ผมไปมาแล้ว 280 กิโลฯ จากสิบสองปันนาถึงเชียงราย นี่ ฝนตกหนักขึ้นมามันก็ไหลลงมา ไหลลงมาก็เป็น Volume ใหญ่มหึมา แล้วมันก็ผ่าน นั่นละครับมันจะไปผ่านเชียงแสน แล้วไปอีก 53 กิโลฯ ไปเชียงของ เชียงของก็จะลงไปที่จังหวัดเลย ตรงหัวมุมด่านซ้าย แล้วก็เลี้ยวขวา แม่น้ำโขงถ้าหันหน้าลงทะเลก็เลี้ยวซ้าย ลงไปก็จะไปผ่านทางเวียงจันทน์ก็จะลงไป มานี่มาหนองคาย มาสกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี ที่ผมไปนั่งวันก่อน เห็นไหมครับ เราต้องเข้าใจสภาพภูมิศาสตร์ของเราอย่างนั้น แล้วเราก็ดำเนินการดู วันนี้จะไม่ได้คุยเรื่องน้ำอย่างอื่น แต่จะคุยให้ฟังเท่านี้ละครับว่าไปดูมาแล้วตกลง
จีนส่งผัก ผลไม้ เข้ามาขายในไทย
ตกลงพืชผักต่าง ๆ มาครับ ผมสัมภาษณ์ไปแล้ว ช่อง 9 เขาสัมภาษณ์ก็อธิบายความละเอียด เขาเก่งนะครับ เขาเอาโฟมนี่ละครับ ถั่วใส่สับ ๆ จะเหลือที่ น้ำขวดโค้กลิตร โค้ก 2 ลิตรนั้น เอาไปใส่น้ำแล้วแช่เย็นแข็งทั้งขวด แล้วยัดเข้ามาในหีบโฟม ซ้ายขวดขวาขวดแล้วก็ปิด แล้วก็รัดออกมา ใต้ท้องเรือมันเย็น น้ำโขงมันเย็น เพราะฉะนั้นทั้งหมด ผักทั้งหมดตัดทางโน้นแล้ว ตัดจากทางจีนแล้วใส่หีบลงมาเลยครับ วิ่งลงมาเลยครับ ขาลงมา 1 วัน คือ 12 ชั่วโมง ถ้าวันครึ่งก็ 18 ชั่วโมง ขาขึ้น 18 ชั่วโมง ขาลง 12 ชั่วโมง มาถึงเขาก็เอามาเปิดมาให้ดู นี่ผักกระจก ผักนั่น นี่หัวกะหล่ำเขียว กะหล่ำขาว นี่ถั่วลันเตาแบบถั่วหวาน ออกมา เย็นเลยครับ เย็นไม่ใช่แบบแข็ง Defrost นะครับ เพราะว่าน้ำที่ใส่มานี้ 12 ชั่วโมงครับ มันยังไม่ละลาย เปิดออกมาก็เป็นความเย็นที่รักษาผักไว้ แล้วออกจากตรงนั้นปั๊บนะครับ โอ้โฮไอ้นั้น Express ไอ้นี่ Express รถห้องเย็นครับ ทีนี้ขึ้นรถห้องเย็นเลย 2 ดีกรี ขับไปไหน ตลาดไท มาจากเชียงรายครับวิ่งลงมาตลาดไท แล้วตกลงผักจีนมาขายไทย ก็ไม่มีปัญหานี่ครับ ก็เพราะเราตกลง FTA กัน ของเราอะไรไปได้ครับ ลิ้นจี่ ลำไย มังคุด ทุเรียน ใครเข้าไม่ได้เราเข้าไปได้หมด ของเขาอะไรไม่มา มาผักทั้งหลายทั้งปวง แอ๊ปเปิ้ล กินแอ๊ปเปิ้ลลูกโต แอ๊ปเปิ้ลลังหนึ่ง 1,300 แอ๊ปเปิ้ลจีนครับ แอ๊ปเปิ้ลลูกโตของอเมริกันครับ ลังละ 1,300 นั้น 80 ลูก นี่ลังของเขาลังละ 100 บาท 30 ลูก ลูกละ 3 บาท แอ๊ปเปิ้ลจีนลูกเล็กกว่าหน่อย ไปเอามาเฉาะกินกับพริกกะเกลือ อร่อยกว่ามันอมเปรี้ยวนิดหนึ่ง ก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยครับ กระเทียมเอาสิกระเทียมของคุณมันใหญ่ คุณชอบกินเหมือนผัก แต่กระเทียมเชียงใหม่ดีกว่า ของเขาเข้ามากิโลฯ 45 แต่ของเรากิโลฯ ละ 75 แต่ของเราดีกว่าแล้วก็มันไม่เดือดร้อน แต่อะไรที่เขาไม่เคยได้กิน รากบัวที่ต้มกินเลี้ยงหั่น ๆ กิโลฯ ละ 480 เดี๋ยวนี้เหลือกิโลฯ ละ 80 งามใหญ่เบ้อเริ่ม ดีกับเรา เม็ดบัว เรื่อง Supply Demand มันไม่พอ เม็ดบัวมาจากเมืองจีน เดี๋ยวนี้เม็ดบัวราคาถูก แปะก๊วยที่กินแต่ก่อนตักนับเม็ด เดี๋ยวนี้ตักใส่เลย ๆ เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ต้องเสียภาษี เขามาเราไม่เสียภาษี เราไปเขาก็ไม่เสียภาษี นี่มันผลประโยชน์ มันก็ต้องแลกเปลี่ยนกัน ไปก็ได้รู้ มาเล่าให้ท่านทั้งหลายฟัง
ทีนี้ก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง จะเล่าให้ฟังนิดหนึ่งก็คือ แล้วตกลงน้ำมันว่าอย่างไร น้ำมันกำลังดำเนินการอยู่ครับ แต่ว่ากำลังนี้เขาบอก น้ำมันคุณภาพยังใช้ไม่ได้ เหมือนกับ 5 ปีก่อนเขาว่าอย่างนั้น คือเขามีคน เขาไม่อยากให้เราจะค้าขาย เขาจะเสียประโยชน์ เขาต้องหันหากำไรเยอะ เราก็บอกแล้วคนเวลาแพงล่ะ นี่มันดีมันลดราคาลงมายังเลิกบ่น แล้วมันขึ้นไป 44 บาทอย่างนี้ 40 กว่าบาทนี้จะว่าอย่างไร คนที่ส่งเข้ามาก็จะเอาชนะ จะเอาแต่ส่งน้ำมันอย่างดีเท่ากันมา ยังถูกกว่า 8 บาท ผมก็บอกผมไม่ว่าอะไรหรอกคุณจะคิดจะขายผมไม่เกี่ยวข้อง แต่มันเวลานี้ที่ทำนี้ น้ำมันดีเซลทำคุณภาพดีเยี่ยม ต้องการอย่างนั้น แล้วน้ำมันดีเยี่ยมนี้ เวลาไปทำพวกชาวไร่ชาวนา รถแทร็กเตอร์ รถไถ รถต่าง ๆ พวกเกษตรเรือประมง ไปใช้ของดีเยี่ยมให้มันแพงไปทำไม ก็ไอ้ของที่เคยใช้เมื่อ 5 ปีก่อนมันถูกกว่า นี่ยิ่งถูกไปกว่า ก็ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรอื่นเลยครับ แต่ว่าของที่มันใช้มันเลวกว่า เพราะมันใช้ตามสภาพตามระดับ มันมีระดับของมันอยากจะใช้ของดีเอาไปเผาให้มันแพง คือใส่เครื่องป๊อก ๆ อะไรต่าง ๆ ซึ่งมันใช้น้ำมันอย่างนั้นก็ได้ 5 ปีก่อนก็ใช้กันอยู่ แต่ปัจจุบันนี้ 5 - 6 ประเทศรอบบ้านเราเขาใช้ แต่ของเราบอกต้องใช้ชั้นยอด น้ำมันต้องชั้นดี ตรงนี้ต้อง 0.9 0.035 ต้องใช้ให้ดี คือให้มันแพง ต้องการแพง พอเราขายถูกหน้างอไม่ยอม อยากจะอย่างโน้นอย่างนี้ ก็พยายามกันอยู่ครับ เวลานี้ก็มีพยายาม ผมก็ต้องคิดอยู่เหมือนกัน ไปทางโน้นไปพลังน้ำ ที่นั่นเขาบอกไม่ไหวครับ ทำไมไม่ไหว ไปเจรจาเขาลงทุนกันมหาศาล ไปขอเขาทำไฮโดรเพื่อจะเอาไฟฟ้าเข้ามาประเทศอะไรต่าง ๆ คือซื้อไฟฟ้าเข้ามาทางลาว ทางฝ่ายทางเราทำอย่างไร ตั้งราคากดราคาเสียต่ำ คือเขาลงทุนไปแล้ว แต่กดราคาต่ำ เซ็นสัญญาไม่ได้ จะอ้วกกันเป็นแถวเลย
ผมบอกว่าเรื่องนี้ผมต้องดู จะทำอย่างนี้ได้อย่างไร ทำอย่างนี้ได้อย่างไรมันไม่มีเหตุผล ตอนลงทุนก็ไปลงทุนจะทำถึงจะซื้อจะขายควรจะราคายุติธรรม ทำกับพม่า พม่าก็ต้องได้ ทำกับจีนก็ต้องได้ ทำกับลาวก็จะต้องได้ แต่ปรากฏว่ากำลังนี้ลงทุนไปแล้วเซ็นสัญญาไม่ได้เพราะอะไร เพราะมีการกดราคา นี่มันเรื่องที่ผมเป็นหัวหน้ารัฐบาลผมต้องรับผิดชอบ แต่ผมต้องคิด ผมไม่เลิกคิดครับ อย่างน้ำมันจะขาย เดี๋ยวจะขาย ขายราคาถูกกว่าลิตรละ 8 บาท เดี๋ยวจะมาส่งให้คนนี้ขาย จะมาส่งให้ทางนี้ขาย มารับมาขายเราต้องการ 20 เปอร์เซ็นต์เพื่อจะช่วยคนจน จะช่วยพวกเกษตรกร จะช่วยพวกรถบรรทุก เดี๋ยวจะมาขาย บอกในเมืองไม่ขาย ตรงนี้เกิดความคิดครับ นี่เป็นความคิดครับยังไม่ได้ทำ เดี๋ยวจะมาด่ากันอีก
ความคิดคือว่า ท่านนึกออกไหมครับ แต่ก่อนนี้ปั๊มน้ำมันอยู่ที่หลักเมือง ตราสามทหาร ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตราสามทหาร แต่ก่อนทหารเขาดูแลเรื่องน้ำมันมาก่อน เพิ่งจะไปเป็น ปตท. ก็ไม่นานมานี้ ผมยังคิดเลยครับว่าจะเอาน้ำมันเข้ามานี้ จะให้ทหารดูแลเสียรู้แล้วรู้รอดไป น้ำมันที่จะขายถูกนี้นะครับ 20 เปอร์เซ็นต์ที่จะขายเกษตรกรขายอะไรนี้ ทหารเรือให้ไปดู ให้ไปขาย ให้พวกเรือประมงเลยทางนั้น ทางทหารบกไปขายเกษตร ทหารอากาศขายทางนั้น เพราะอะไรไหมครับ เพราะน้ำมันสำรองของเรา สำหรับฝ่ายทหารของเรานี้ มีได้ไม่กี่วันหรอกครับ แต่ถ้าลองให้ทหารเป็นคนขายน้ำมันอย่างแต่ก่อนนี้ น้ำมันสำรองจะมีได้เป็น 100 วัน ให้เขาสต็อกของเขา ๆ มีแท็งก์ฟาร์มมีอะไรของเขา แล้วให้เขาเป็นคนขาย มีกำไรนิดหน่อย ให้สวัสดิการทหาร นี่ผมคิดนะครับ มาคิดให้ฟังก่อน ผมจะรอดูสิจะมีใครแหกปากต่อต้านคัดค้านอะไรอย่างไรไหม ก็แต่ก่อนทหารก็ดูแลน้ำมัน นี่ 20 เปอร์เซ็นต์ที่อยากจะขายให้คนที่ถูกกว่าลิตรละ 8 บาทนี้ ยังดำเนินการไม่ได้ ยังคัดยังค้านยังโน่นยังนี่ จะให้สเป็คต่าง ๆ ร่ายเลย คนขายก็จะเอาสเป็คดีมา บอกก็เอาของดีมาเผาไปใส่เครื่องยนต์เกษตร ทำไมจะทำทำไม ไม่ได้วิ่งในเมืองไม่ใช่น้ำมันดีเซลวิ่งอยู่ใจกลางเมืองยุโรปอะไรต่าง ๆ ต้องใช้กับเครื่องยูโรวัน ยูโรทู ยูโรทรี จนจะตายอยู่แล้วจะใช้ยูโรโฟร์ อย่างนี้นะครับ ผมก็คิดของผมอะไรต่าง ๆ นี่อย่างผมยังไม่ได้พูดกับทหารนะครับ แต่พูดกับเจ้าของประเทศก่อน ว่าผมจะลอง จะขอขาย 20 เปอร์เซ็นต์นี้ ให้ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ เป็นคนขายเลย ส่งให้พวกนี้ขายแล้วก็มีกำไรเล็กน้อยเป็นสวัสดิการทหาร ดูสิว่าเป็นอย่างไร ดูสิจะมีใครแหกปากอะไรอีก นี่คิดนะครับยังไม่ได้ทำ
ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการไต่สวนในฐานะรมว.กห.ทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
แต่ที่ไม่ได้คิดสิครับอันนี้ ไม่น่าเชื่อเลยครับ ไม่น่าเชื่อ ๆ ๆ นี่ ๆ ๆ มาอีกแล้วครับ มาอีกแล้ว เป็นรัฐบาลไม่ได้อยู่ ไม่ได้มีความสุขหรอกครับ มาอีกแล้ว นี่ ๆ ๆ สำนักงาน ป.ป.ช.ถนนพิษณุโลก เรื่อง แจ้งให้ทราบรับคำสั่งแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวน เรียน นายสมัคร สุนทรเวช ส่งมาด้วยคณะกรรมการที่นั้น ๆ บันทึกคำสั่งรับทราบกรรมการไต่สวน ด้วยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนกรณีมีเหตุอันควรสงสัย ว่าท่านในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยท่านดำเนินการให้นายดวง หรือนายดวงเฉลิม อยู่บำรุง บุตรชายของ ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กลับเข้ารับราชการโดยมิชอบ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ รายละเอียดประกาศสิ่งที่ส่งมา นี่ครับ กล้านรงค์ จันทิก ประธานอนุกรรมการไต่สวน ส่งมาเลย ชื่อกรรมการให้ผมมานี่ กล้านรงค์ จันทิก ประธานกรรมการ พลเอก อาชวินทร์ เศวตเศรณี ร้อยตรี สุรทินฯ นายจิรทิตย์ฯ นายสุรพลฯ นางสาวทองจิตฯ นี่ส่งมานะครับ ส่งมาแล้วว่าอย่างไรครับ บอกว่าผมก็จะต้องทำอย่างไร นี่ ๆ ๆ ผมจะต้องบันทึกรับทราบการแต่งตั้งอนุกรรมการครับ ข้าพเจ้านายสมัคร สุนทรเวช ได้รับทราบสำเนาคำแต่งตั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่เท่านี้ ลงวันที่ 13 สิงหาคม อาทิตย์ที่แล้วนี่เองครับ เรื่องแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยนายสมัคร สุนทรเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดำเนินการให้ นายดวง หรือนายดวงเฉลิม อยู่บำรุง บุตรชายของ ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กลับเข้ารับราชการโดยมิชอบ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ตามหนังสือของ ป.ป.ช.ที่รับ ด่วนมาก ที่ ป.ป.ช. 0013 0012 / แต่ไม่มี ลงวันที่ก็ไม่มี สิงหาคม 2551 จะบอกอย่างนี้เลย จะคัดค้านหรือไม่คัดค้าน เป็นอย่างนี้ ๆ ต้องตอบเขาไป
ไม่น่าเชื่อเลยครับ ทำไมบ้านเมืองถึงเป็นอย่างนี้นะครับ ผมจะไปเตรียมการไปจัดการอะไร ผมไม่นั่นอย่างนั้น ผมเป็นรัฐมนตรีกลาโหม เขาก็ตั้งแท่นขึ้นมาจัดการ มาสุดท้าย เขาก็บอกรัฐมนตรีเซ็น ทุกเรื่องก็จบเรื่อง ก็เขาตั้งแท่นขึ้นมาให้เสร็จเรียบร้อย ผมก็ดูว่าเรียบร้อยต่าง ๆ มันจะกลายเป็นความผิดไปอย่างนี้หรือครับ ดูสิครับ ทุจริตต่อหน้าที่ แล้วบ้านเมืองเสียหาย รับลูกเฉลิม อยู่บำรุง เข้าไปเป็น ก็ถ้ามันไม่ถูกต้องแล้วมันจะตั้งแท่นขึ้นมาให้ผมได้อย่างไรครับ มันตรวจสอบกันมาอย่างไร ตั้งแต่ปลายแถวขึ้นมาจนกระทั่งถึงรัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีกลาโหมเซ็นลงไปอนุมัติก็จบเรื่อง เป็นความผิดครับ ทุจริตต่อหน้าที่ นี่แปลว่าร้อยตำรวจเอก เฉลิมฯ ให้เงินผมหรือเปล่าครับนี่ ทุจริตต่อหน้าที่ ได้เงินจากการนี้หรือเปล่าครับนี่ แล้วบ้านเมืองเสียหายอย่างไรนี่ ก็ไม่แจ้งมาด้วยว่าเสียหายอย่างไร มันเสียหายอย่างไรครับ ต่างชาติได้ส่งจดหมายมาประฌามด่าทอว่ากล่าว ว่ากระทรวงกลาโหมไทยมันเลวทรามต่ำช้า รับลูกอะไรนักการเมืองขึ้นมา อย่างนั้นหรือเปล่าครับเสียหาย ผมเห็นแล้ว ดูแล้วว่าบ้านเมืองนี้มันอย่างไรกันครับ มันจะเอากันอย่างไรก็ไม่ทราบได้ มันประหลาดครับ อาทิตย์หน้ายังมีพูด ยังมีเรื่องอื่นอีกหลายเรื่อง วันนี้ตอบคำถามหน่อย เพราะเขาบอกไม่ตอบคำถามมา 2 อาทิตย์แล้วครับ ตอบคำถามหน่อย ๆ
ตอบคำถามประชาชน
คำถาม ขอบคุณที่ใจดีมาทำอาหารให้ชาวบ้านได้กิน อร่อยมาก ขอบคุณ
คำถาม ขอให้ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งจังหวัดร้อยเอ็ดด้วย
นายกรัฐมนตรี ครับ ๆ ผมจะต้องไปดูให้ว่าเขาเป็นอย่างไรนะครับ จะดูให้
คำถาม อยากให้มีการจัดรายการสัญจรทุกจังหวัด ชอบ
นายกรัฐมนตรี สัญจรอย่างไรละครับ นครสวรรค์ ไม่บอกว่าให้สัญจรไปทำอะไร
คำถาม อยากให้พูดเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ทุกครั้ง
นายกรัฐมนตรี ผมพูดครับเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นหน้าที่ของผม เพราะเหตุว่ามีคนเขาบอกว่ารัฐบาลที่แล้วต้องการทำลายสถาบัน รัฐบาลนี้ก็โดนด้วย พรุ่งนี้เขาจะเป่านกหวีดกันอีกแล้ว จะเอารัฐบาลออกให้ได้ เป็นความผิด ให้บริหารบ้านเมืองอีกวันหนึ่งบ้านเมืองก็บรรลัยวายวอดแล้ว เขาใช้คำว่าฉิบหายด้วยนะครับ บริหารไปอีกวันเดียวบ้านเมืองก็ฉิบหายแล้ว เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้จะเอากัน จะระดมกันมาเลย จะอย่างไรก็ไม่ทราบได้ละครับ แต่ดูแล้วครับบ้านเมืองไม่มีความสงบสุขละครับ มันอย่างนี้
คำถาม นายกฯ มีมาตรการช่วยเหลือจังหวัดสมุทรปราการเรื่องพายุอย่างไร
นายกรัฐมนตรี แหมเรื่องนี้ ก็มันก็ยังไม่เกิดครับ ทางอุตุฯ ก็เถียงกันไปเถียงกันมา ผมนี่เป็นคนหนักหัวอกจริง ๆ คือท่านที่ให้สัมภาษณ์นี้ ท่านเป็นอดีตอธิบดีฯ และท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานของการเตือนภัย ทางหน่วยงานก็เป็นหน่วยงานเตือนภัย ก็เหมือนกับว่าจะต้องไปขึ้นอยู่กับกรมอุตุฯ หรือว่าขึ้นกับใคร ผมก็บอกว่าเถียงกันอย่างนี้ไม่ได้ ท่านก็เชี่ยวชาญท่านบอกท่านเตือน ท่านบอกท่านพูดถูกเรื่องสึนามิ ก็อย่างนี้ละครับ ทางโน้นก็บอกยังไม่ ต่อไปเถียงกันอีกก็ป้องกันครับ แต่ว่าไม่มีทางละครับถ้ามันจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่ทราบจะเป็นอย่างไร ผมไม่ได้หลบเลี่ยงอะไรต่าง ๆ แต่เราเฝ้าดูเหมือนกันจะเกิดอย่างไร นี่ละครับ Storm Surge อะไรต่าง ๆ นี้ก็เฝ้าดูกันอยู่ครับ คนบอกข่าวก็ดีกว่าไม่บอก แต่ว่าบอกแล้วไปกลัวเกรงกันหมด ไม่ทำมาหากินอะไรก็ผิดปกติ แต่ถ้าป้องกันเตรียมพร้อมแล้วก็เอามาก็นั่งรอ นับวันจะมาวันไหน ถ้ามันไม่มาเลยก็ไม่ต้องไปหัวเราะเยาะคนบอก เพราะว่าคนบอกเขาก็ต้องมีหลักฐาน มีสถิตินะครับ
คำถาม ทำไมนายกฯ ยังช่วยค่าไฟเฉพาะมิเตอร์ 5 แอมป์ ซื้อบ้านเมื่อ 10 ปีก่อน ไฟฟ้าติดมิเตอร์ 5 แอมป์ไปแล้ว อย่างน้อยต้อง 15 แอมป์
นายกรัฐมนตรี ก็ 15 แอมป์เขาไม่ใช่คิดเรื่องแอมป์นะ เขาคิดเรื่องที่มันใช้นะครับ เรื่องนี้มาอีกแล้วแบบนี้ คือใช้ไฟไม่เกิน 80 ยูนิตก็ไม่ต้องเสียสตางค์ 80 - 150 ก็เสียครึ่งหนึ่ง อย่างนี้ชอบกลนะ มันจะกี่แอมป์ก็แล้วแต่ ก็ไฟ 15 แอมป์มันไม่เดินเครื่อง ไม่เปิดไฟเลยมันจะไม่ลดได้อย่างไรครับ ถ้ามันไม่ถึง 80 ชอบกล เดี๋ยวผมจะดู แบบนี้เหมือนทีแรกรถไฟต้องมาแก้ไข นั่งอะไร รถไฟสังคม รถไฟพาณิชย์ นั่งไม่เกิน 400 กิโลฯ ผมก็ไม่เคยพูด 400 กิโลฯ จะนั่งไปอุบลฯ 600 แล้วอย่างไร ก็นั่งฟรีไป 400 แล้วไปต่ออีก 200 ก็เสียอีก 200 ดันจะเก็บเขา 600 ชาวบ้านก็มาร้องทุกข์ว่าเขาจะเอา 600 ก็ไปบอกเขาทำไม จะไปแค่ 400 ก็ไป 400 ก่อน แล้วมาลง ไม่ลงก็ซื้อตั๋วตรงนั้น คนเรานี่มันประหลาดจริง ๆ
คำถาม รถเมล์ 6,000 คันเมื่อไรจะเปิดบริการ
นายกรัฐมนตรี เขากำลังเถียงกันอยู่ครับ ยังต้องเถียงกันอยู่ คือเขาก็ไม่อยากให้เราทำสำเร็จ ทำนองนั้นต้องคัดค้าน ผมก็ต้องเอาละให้พรรคร่วมรัฐบาลไปช่วยจัดการดูสิว่าจะเป็นอย่างไร จะปรับปรุงแก้ไขอย่างไร คือทำอะไรมันไม่ได้ทั้งนั้นละครับ จะคิดจะทำจะกระดิกอะไร มันกลายเป็นเลว มันกลายเป็นหากิน ผมไม่ได้คนอดอยากปากแห้งมาจากไหนหรอกครับ แล้วผมไม่ต้องรีบร้อนไม่ต้องทำ วันนี้ยังอยู่ พรุ่งนี้ไป ก็ไม่มีปัญหาครับ ไม่มีปัญหา ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องล่ก ๆ จะทำ ไม่ครับ ไม่เลย กับคดีความจะเป็นอย่างไร จะตัดสินอย่างไร มันทำได้มาทั้งนั้นละครับ ก็เป็นรัฐบาลอย่างนี้สิครับ อย่างนี้อยู่ดี ๆ มาอีกแล้ว ไปรับลูกเฉลิมฯ เข้ามา 1 คน ไม่รู้คุณเฉลิมฯ ช่วยให้สัมภาษณ์หน่อยสิว่าเป็นอย่างไร ผมไปรับลูกคุณเข้ารับราชการผมเดือดร้อนอย่างนี้ ลองดูสิว่าเป็นอย่างไร เวลาคุยแล้วไม่ได้อ่านแล้วเลยไปนี่ ไหนดูสิ
คำถาม ริสแบนด์ที่นายกฯ พูดเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาซื้อที่ไหน
นายกรัฐมนตรี นี่ ๆ ของผมอยู่ที่นี่ เขาก็ส่งไปครับ คือเขาจะทำ 1 ล้านอันครับ อันหนึ่ง 150 บาท ถ้าขายหมด 1 ล้านอัน 150 ล้านจะถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ งานท่านเยอะครับ งานศิลปาชีพอะไรของท่านเยอะ ทำงานอย่างนี้ถวายเจ้านาย ถ้าเผื่อวันที่ 23 ตุลาคม ก็จะมีเหรียญรัชกาลที่ 5 อันนั้นจะทำถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทำเพื่อการนี้ แล้วก็สั่งห้ามบังคับ ห้ามไปขูดรีดใคร จะแย่งกันก็ไม่เป็นไรละครับ คิดว่า 1 ล้านอันพอ จังหวัดหนึ่งได้ 30,000 คือมีสตางค์ 150 ก็เอาก่อนละกันครับ อย่าไปคิดอ่านอะไร ไม่ได้ทำให้แย่ง ไม่ได้อะไรต่าง ๆ แล้วก็ไม่ต้องการจะโฆษณากันแบบ หาเงินหาทองกันมากมาย ทำเพื่อว่าได้ทำงานสมทบทุนช่วยงานเจ้านายที่พระองค์ท่านได้ทำอะไรของท่าน บางทีเอาพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ออกไป เราก็บอกงานอย่างนี้ต้องช่วย ก็หาทุน ถวายอย่างนั้น ๆ ที่ทำงานเพื่ออันนี้
คำถาม อยากเห็นรัฐสภาดูเด่นเป็นสง่า สถานที่ไม่แออัดเหมือนปัจจุบัน
นายกรัฐมนตรี ก็ตรงนั้นก็ไปขอพระราชทานอยู่กันมา เวลานี้หาที่ได้ เรื่องนี้สักวันหนึ่งตั้งแต่เปิดจนปิดพูดเรื่องรัฐสภาอย่างเดียว มันอะไรกันนักหนาไม่ทราบครับ โรงเรียนนี้อยู่เลยไปมุมเดียวกันเลยครับ เลยไป 1,700 เมตร ตัวเดิมที่โรงเรียนสร้างไว้มีอยู่ 8 ไร่ โรงเรียนใหม่มี 16 ไร่ มากกว่าเท่าตัว แล้วก็จะให้เงินไปสร้าง 1,000 ล้าน สร้างโรงเรียนใหม่ แล้วก็บอกไม่เอา แล้วก็บอกว่าไม่ได้ แล้วก็บอกว่าไม่ไปปรึกษาหารือ เราคิดแบบคนธรรมดา อยู่ถนนเดียวกันถนนสามเสน เพียงแต่ข้ามไปถนนประชาราษฎร์ แล้วก็อยู่อย่างนั้น วัดสร้อยทองน้ำท่วม ก็ท้ายแม่น้ำ น้ำท่วม แล้วสร้างโรงเรียนใหม่ใช้เงิน 1,000 ล้านสร้างแล้วให้มันน้ำท่วมนี่บ้าหรือเปล่าครับนี่ คิดอะไรกันไม่ทราบครับ ไม่อยากไปเพราะวัดสร้อยทองน้ำท่วม ก็สร้างโรงเรียนขึ้นมาใหม่ สร้างโรงเรียนไปในน้ำท่วมนี่บ้าไหมครับ ที่เก่ามี 8 ไร่สร้าง 16 ไร่ ให้เงิน 1,000 ล้านไปสร้างใช้เวลา 2 ปี อีก 2 ปีสร้างเสร็จถึงจะไป ไม่ใช่ไปนั่งกระจอกงอกง่อยอยู่ที่ไหน อยู่ที่เก่า จนไหนต่อไหนเสร็จก็เลิกไป ตึกที่ทำนั้นถ้าเผื่อมันไม่ขัดขวางก็จะใช้ทำงานเป็นที่ทำงานของ ก็อาจจะไม่ทุบ อาจจะเป็นที่ทำงานสำนักงานเลขาธิการต่าง ๆ ถ้ามันบังงดงามก็จะเอาออก ถ้ามันไม่นั่นก็ใช้ได้ก็จะใช้ มันอะไรกันนักกันหนาผมไม่ทราบได้ เรื่องนี้
คำถาม สร้างรัฐสภาแห่งใหม่ โดยนักเรียนโรงเรียน ย้ายออกไปภายใน 2 เดือนเป็นความจริงแค่ไหน ถ้าเลื่อนเป็น 1 - 2 ปี
นายกรัฐมนตรี ตกลงเขาจะเอา 1 - 2 ปีละครับ เรียนกันไปให้สบายเถอะครับ ไปสร้างใหม่ แล้วไม่ไปสร้างปากเกร็ดด้วย เขาสร้างอยู่ในเมืองเลยละครับ สร้างอยู่สามเสน อยู่บางกระบือไปสามเสน ร้องอีกไหมครับนี้ เขามีที่ 30 ไร่เขาจะสร้างตรงนี้ใช้เวลา 2 ปี แล้วจะกั้นรั้วก่อน เพราะว่าตรงนั้นเขาจะสร้าง เป็นเนื้อที่จะเอาออกทีหลัง เรื่องนี้พยายาม อะไรกันนักหนาผมไม่ทราบได้ครับ
คำถาม อยากให้นายกฯ สู้ต่อไป โครงการเร่งด่วน 6 มาตรการ โดยเฉพาะรถเมล์ฟรี
นายกรัฐมนตรี เอาละครับ มันบรรเทาต่อไปงานมันเสร็จทุกอย่างเสร็จนะครับ ก็จะทำให้มีงานทำกันเพิ่มมากขึ้น
คำถาม ชื่อเพลงผลิตรายการ
นายกรัฐมนตรี เขาชื่อเพลงโชคมนุษย์ครับ ส่งป้ายแล้ว
คำถาม รถเมล์ฟรีในพื้นที่มีน้อยมาก
นายกรัฐมนตรี ครับ จะทำให้มากขึ้นมาอีกหน่อย สุขาภิบาล 1 - 2 ผมจะจดไว้ ยกป้ายหมดเวลา แต่ว่าวันข้างหน้า บางทีจะต้องพูดเรื่องรัฐสภาทั้งชั่วโมง เอาให้รู้เรื่องกันดีกว่า เอาสักที นี่ทำดีนะครับนี่ แล้วพยายามไม่ให้ใครเดือดร้อน คือทุกอย่างที่เซ็นสัญญากันนี้ คนนั้นไปตรงนั้น คนนี้ไปตรงนี้ เอาที่ตรงนี้มาเพื่อเอาที่แปลงนี้ไป เขายอมไปอยู่ เพราะเขาจะอยู่ตรงนี้ กระทรวงเขาจะอยู่นี่ กระทรวงเขามี 100 ไร่ตรงนี้ เราจะหาที่อีก 31 ไร่ให้อยู่ข้างกระทรวง เขาจะอยู่ข้างกระทรวงตรงนี้ ให้เอาตรงนี้ไป เอาโรงเรียนไปอยู่ที่ตรงนี้ ทุกอย่างนี้ทุกคนเขาเห็นเหตุผลเขาถึงเซ็นกันครับ แหมผมประหลาดใจ ประหลาดใจจริง ๆ ว่าโลกนี้มันอะไรกันนักกันหนา ต้องใช้ว่าอะไรกันนักกันหนานะครับ เอาละครับ เวลาหมดครับ วันอาทิตย์หน้า 08.30 น. พบกันใหม่ วันนี้ลาก่อนครับ สวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
รายการ “สนทนาประสาสมัคร”
โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2551 เวลา 08.30-09.30 น.
-------------------------------------
แสดงความยินดีกับนักกีฬาไทยที่ได้เหรียญเงินเหรียญทอง
สวัสดีครับรายการสนทนาประสาสมัครกลับมาพบกับท่านเหมือนอย่างเคยนะครับ 08.30 น. วันนี้ต้องเริ่มต้นด้วยพูดถึงกีฬาโอลิมปิก เผลอประเดี๋ยวเดียว 2 อาทิตย์ เปิดกันเมื่อไม่เท่าไร วันนี้ปิดแล้วนะครับ แล้วนักกีฬาของเรา 51 คน รวมทั้งโค้ชด้วย 80 กว่าคน ก็ได้ทำชื่อเสียงให้บ้านเมืองของเราอย่างชนิดว่าน่าตื่นเต้น ตั้งแต่แรกก็ยัยหนู ประภาวดี (ประภาวดี เจริญรัตนธารากุล) ยกน้ำหนักได้เหรียญทอง ต่อมายัยหนูบุตรี (บุตรี เผือดผ่อง) ได้เหรียญเงิน และ 2 นักมวยก็ต่อยกัน ที่จริงเรามีตั้งเยอะนะครับ หลุดมาเหลือ 2 ขึ้นมาถึงทองแดง 2 ก็ดีใจกัน เหรียญเงิน 2 เมื่อวานก็ได้ทองมา 1 ได้เงิน 1 ก็ทุกอย่างเรียบร้อยครับ
ขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้ง 4 คนนี้ ทั้งสมจิตร (สมจิตร จงจอหอ) ทั้งมนัส (มนัส บุญจำนงค์) ทั้งประภาวดี บุตรี ด้วย เขาก็คงจะมีงานกินข้าวกินปลากัน และก็มีของที่ระลึกให้กันตามสมควร เขาสัมภาษณ์ ผมก็บอกแล้วว่า ขอบคุณทุกคน เวลาชนะก็บอกทำให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุข เป็นความจริงครับ เป็นความสุขจริง ฟังแล้ว ตอนลุ้นกันชนะกัน แบบมวยนี่ได้เหรียญเงินมารองไว้ 2 อันแล้ว แพ้ก็ไม่รู้สึก ได้เหรียญเงิน 2 เหรียญ ได้เหรียญทองมาอีกเหรียญก็ยิ่งดี เพราะว่าคนนี้เขาจะต้องแขวนนวมไปแล้ว เขาเก่งนะครับ เรียบร้อยดี เวลาเราชนะเขาเนี่ย ก็ปรื๊ด ๆ ๆ ๆ 8 : 1 ตั้งนานกว่าจะได้ 8 : 2 พอถึงมนัส คนนั้นเขาต่อยพัวะ ๆ ๆ มันเข้าอย่างไร นับคะแนนมาดู โอ้โหคะแนนวิ่งไล่เลย ของเราคะแนนไม่ค่อยไล่แบบนั้น เขาขึ้นจริง ๆ เราเรียงเบอร์ แต่ตอนมนัสของเรา กว่าจะ 3 เป็น 4 นี่แทบตาย คนนั้นปั๊บ ๆ ๆ ๆ ขึ้นไป 12 ก็ดูเถอะครับ ก็ดูแบบคนดูมวยเท่านั้นเอง ไม่ใช่รู้เรื่องมวยนักหนา แต่ต้องขอบคุณทุกคนทุกฝ่ายเลยครับ ขอบคุณเสียตรงนี้เลยว่า ไม่ว่าจะโค้ช ทั้งหลายทั้งปวง แม้แต่คนนวดคนอะไรต่าง ๆ ก็ทุกคนก็ช่วยกัน ปิดทองกันคนละแผ่นเล็กแผ่นใหญ่ ทำให้เราได้แลเห็นเลยว่า
เมื่อก่อนนี้นะครับไปแข่งโอลิมปิก สมัยโบราณนะครับ ผมโตทันครับ ตั้งแต่เริ่มเฮลซิงกินั่นละครับ แล้วก็นั่งนับดูมา เขาบอกว่ากีฬาโอลิมปิกเป็นอย่างไร คือว่าแพ้ชนะไม่สำคัญ สำคัญที่ได้ร่วม คำนั้นใช้กันมานานครับ ทีนี้ตั้งแต่นักมวยไทยตั้งแต่ได้เหรียญมา เหรียญทองแดง เหรียญเงิน ไล่กันมาเรื่อย เดี๋ยวนี้ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวนี้ต้องถามว่าได้กี่เหรียญ เมื่อวานจริง ๆ ก็ควรจะต้องได้ 3 เหรียญ แต่ว่ามนัสเขาคงแรงน้อย สมจิตร เขาก็นั่นไป ไม่มีปัญหาละครับ ไม่ว่าจะแพ้ชนะ ก็ต้องถือว่าทุกคนพยายามทำให้เกียรติยศ ชื่อเสียง มาบ้านเมืองของเรา ชื่อเสียงมาดังตั้งแต่ก่อนการแข่งขัน เพราะเวลาที่ผมไปงานเปิดเนี่ย มาพูดจาต่าง ๆ คนเบอร์ใหญ่ ๆ นี่ละครับ เจอท่านนายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดี เขาจะต้องถาม คือจะถามวงไทยบ้างอะไรบ้าง เราก็บอกก็หวังมวย เขาบอกยกน้ำหนักด้วยไม่ใช่เหรอ แสดงว่าเขารู้ เขาอ่านไพ่กันหมดครับ เพราะมีการเช็กกันก่อน ๆ ที่จะเอาเข้าไปแข่งขัน ก็จะรู้ว่าใครจะได้อะไรอย่างไร เห็นไหมครับ ของเราก็เฉียด ๆ ไป ยิงเป้าบินน่ะ ขาดไปแต้มเดียวเท่านั้นเอง และข้อสำคัญที่สุดคือว่า เทควันโดนี่น่าเสียดายนะครับ ตอนหลังเนี่ย มันก็ควรจะ แต่ว่าเขาสูงกว่าเราหน่อย คือเข้าไปปะทะก็ดีเหมือนกัน แต่เขาคงปะทะไม่ได้ ติดลบ 1 แต้ม ไม่มีปัญหาละครับ เรียบร้อยดี ยินดีทุกคนนะครับ
เชิญชวนเข้าชมงานศิลป์แผ่นดิน
ทีนี้ถัดไปก็คือจะต้องคุย ถูกต่อว่าครับ ทำงานถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 10,11,12 สิงหาคม คือจริง ๆ ต้องขอประทานโทษจริง ๆ คืองานศิลป์แผ่นดินเราทำอยู่ข้างนอก แต่ว่าโปรดเกล้าฯ ว่าให้เปิดข้างในเข้าไปดูได้ วันที่ให้เข้าไปชมฟรี จะมีอย่างนี้ครับ วันที่ 12 สิงหาคมคือวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันเด็ก วันสงกรานต์ เขาจะมีวันสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อีกวันหนึ่ง 5 วัน วันนักขตฤกษ์อย่างนี้เปิดให้เข้าไปฟรี นอกนั้นก็เงินค่าเข้า เสียเงินไม่มากละครับ แต่สำคัญที่สุดเลยหยุดทุกวันจันทร์ ผมนี่เสียการจริง ๆ งานเรามีวันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร วันอังคารก็เปิดให้เข้าตามที่ว่า วันจันทร์นี่ ทีแรกผมนึก เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าคงจะเข้าไปสวนจิตรลดาหมด เพราะวันที่ 11 สิงหาคม มีงานในสวนจิตรลดา วันสุกดิบนะครับ ก็นึกว่าอย่างนั้นเอง ไม่ใช่ครับ ทุกวันจันทร์ปิดครับ และวันจันทร์ก็มีงานข้างนอก แต่ไม่มีข้างใน กราบขอประทานโทษจริง ๆ สำหรับท่านที่ไปนะครับ ก็ยังเปิดนะครับ แสดงทั้งปีครับ เสียค่าเข้าชมนิดหน่อยไม่มากครับ แต่ว่าสำคัญที่สุดคือว่า ถ้าไปวันเฉลิมทั้งหมด และวันเด็ก วันสงกรานต์ ละก็ เปิดให้ชมฟรีนะครับ
งานพระราชทานธงสัญลักษณ์ 30 สิงหาคมนี้
ทีนี้เรื่องการเตรียมงานวันที่ 30 สิงหาคม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระวรชายา จะเสด็จฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเสด็จฯ ที่ทำเนียบก็จะมีการต่างๆ จะมีคนประมาณ 100 กว่าคนที่จะเฝ้าฯ ข้างใน กันฝนตกครับ จะทำพิธี และก็รับพระราชทานธงจากพระหัตถ์ พอเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีคนซึ่งเขาหาโอกาสแต่งปกติขาวไม่ค่อยได้ ประธาน อบจ. 7,000 คน บอกว่าจะขอแต่งปกติขาวเข้ามาเฝ้าฯ จะเฝ้าฯ ตามถนนก็เอาดี เราก็จัดการ จะต้องแต่งปกติขาว จะเฝ้าฯ เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินของเรา และมีพิธีการเป็นอย่างนี้ครับ พวก 100 กว่าคน คือหมายว่า 76 จังหวัดผู้ว่าฯ แล้วยังจะต้องมีหน่วยงานต่าง ๆ 20 กระทรวง มีกองทัพต่าง ๆ จะรับพระราชทานธง แล้วก็จะเอาธงไปมอบให้พวกที่เขาอยากจะเดินกัน วันแรกจะเดินกันแบบอย่างนี้ครับ หน้าพระบรมรูปทรงม้าก็จะจัดเป็นเวที และเข้าแถวกันหมด มีเสื้ออยู่ 3 สี เขาจะแบ่งกัน เขาแบ่งจากสัดส่วนกันเป็นช่อง ๆ ๆ ๆ มีสีเหลือง สีฟ้า และสีชมพู
วง Marching จะร่วมเดินพาเหรด
แต่ที่จะนั่นคือว่าจะหาโอกาส ของกรุงเทพฯ นะครับ เปิดรายการนะครับ ก็จะเรียกว่า Marching เมืองไทยมีวงดนตรีเก่ง ๆ อยู่ มีถึง 10 วงครับ ชนะเลิศระดับโลกก็หลายวง ดัง ๆ ทั้งนั้นเลย เราก็พยายามจะเอาพวกนี้มา เสียค่าใช้จ่าย เราก็ยินดีให้ เอาวงพวกนี้เป็น Marchingband แสดงในสนามกีฬา ชนะเลิศระดับโลก จะเอาเขามาแสดง เขาจะแต่งเครื่องของเขามาเลยครับ ให้เขาเดินนำล็อกนี้เพลงนี้ อันนี้เดิน ล็อกนี้เพลงนี้เดิน เดินจากไหนละครับ ก็ตั้งขบวนอยู่ที่พระบรมรูปทรงม้า พอเราเอาธงไปแจกทั้งหมดทางนั้น เขาก็จะเริ่มเดินออกเลี้ยวหน้าสวนอัมพร เข้าศรีอยุธยา เดินมาทางวัดเบญจมบพิตร ถึงหน้ามุมสวนจิตรลดา ก็เลี้ยวซ้ายไปตามถนนพระรามที่ 5 ถึงสวนจิตรลดาอีกมุมก็เลี้ยวซ้ายอีก ก็ไปตามถนนราชวิถี ไปถึงหน้ารัฐสภา ก็เข้าถนนอู่ทอง 1 ถนนกว้างนะครับ เดิน Marching หน้าสภา ก็กลับไปที่เก่า กลับไปที่ตั้ง ไปเลิกขบวนกันตรงนั้น แปลว่า เราหวังใจนะครับ จะเช็คกรมอุตุนิยมวิทยา ถ้าฝนฟ้าเป็นใจก็คงจะเดินกันดี ถ้าฝนหนักคงเดินไม่ได้ละครับ แต่ถ้าฝนเบาก็อาจจะเดิน พวกเดินเขาก็ทนนะครับ
อันนี้เป็นอันว่าฉลองวันแรก ขอเอา กทม. มา แต่ต่างจังหวัดเขามากันนะครับ จังหวัดนั้นมาจังหวัดนี้มา คือไม่บังคับว่ามาทุกคน ใครจะมาได้มา แต่ อบจ. นายก อบจ. 7,000 คน เขาเข้ามาเป็นพื้น และเขาก็มาของเขา คันละคัน ๆ กันมา มีที่จอดที่อะไร แล้วก็รวมพลกัน กลุ่มไหนแต่งสีอะไร ทุกคนมีเสื้อหมดครับ มีเสื้อเหลือง มีเสื้อฟ้า มีเสื้อชมพู ทั้งหมดครับ คณะของผมเอง คณะรัฐมนตรีก็ดี คณะ 76 ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะปลัดกระทรวง 20 กระทรวง พวกต่าง ๆ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ก็จะเปลี่ยนเสื้อครับ ก็จะมาเดินด้วย คือเดินฉลองวันแรก และจากนั้นไปแล้ว เขาจะเอาธงไป ทุกคนก็ไปที่จังหวัด จังหวัดก็ส่งไปตามอำเภอ ผมยกตัวอย่างกรุงเทพมหานคร ก็ไปศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 116 วันเหลือ 100 วัน ก็มี 50 เขต 50 อำเภอ ก็เขตละ 2 วัน เขาก็จะรับ เขาจะเดินเอาธงไปส่งกัน คือฉลองเสร็จ ไปส่งที่เขต ทางโน้นเขตก็รับไป ก็ไปที่สำนักงานเขต เขาคงหาที่หาอะไร ที่อยากจะบอกคือแล้วทำเพื่ออะไร คือเหมือนเราฉลองไฟพระฤกษ์ คือมีงานที่ไหนก็รับไฟพระฤกษ์ไป แล้วก็ไปฉลองที่จังหวัดเดียว อย่างจีนเขาทำ เขาวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก เขาวิ่งไป 21 ประเทศ แล้วเขาไปวิ่งบ้านเมืองเขา นาน กว่าจะกลับมาถึงจุด ของเราก็จะทำทำนองว่า ต้องการความสมัครสมานสามัคคี ก็ปักธงเอาไว้ และอยากให้มีคือว่า หนึ่ง เล่นกีฬาด้วยกัน อย่างแข่งฟุตบอล แข่งอะไรในจังหวัดในอำเภอ แข่งกันเล่นกีฬา สอง ตอนเย็น ๆ ก็เต้นแอโรบิค จังหวัดเขาก็หาคนมาเต้น ออกกำลังกายสัก 2 ชั่วโมงอะไรต่าง ๆ สาม เดิน รอรับธงก็เดิน
อยากให้ตั้งวงสนทนากันเรื่องต่าง ๆ ของบ้านเมือง
แต่ที่อยากได้คือ ควรจะมีการสนทนา ทุกอำเภอจะต้องมีห้องประชุม มีศาลาประชาคม เชิญมาเลยครับ เชิญทั้งหมดมานั่งสนทนา จะคุยกันเรื่องอะไรก็ได้ จะคุยกันเรื่องบ้านเมือง ปัญหาของบ้านเมือง จะคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ จะคุยเรื่องโลกร้อน จะคุยเรื่องสถาพระมหากษัตริย์ของเรา จะคุยเรื่องภาษาไทยของเรา จะคุยเรื่องวัด เรื่องโรงเรียน เรื่องนักเรียน เรื่องผู้ปกครอง จะคุยเรื่องแข่งรถ เรื่องปาก้อนหิน คุยได้ทั้งนั้น ตั้งวงคุย คือคุยเพื่อจะได้หาจุดว่า เอาละ ผู้คนทั้งกลุ่มใหญ่นั้น ก็คงคุยไม่ถนัด จังหวัดยังไม่คุย แต่ไปถึงอำเภอ ๆ ก็คุย ไปถึงตำบล ๆ คุย อย่างนี้ครับ ก็ย่อลงไป ๆ ก็จะไม่มีฝ่ายไหน ถึงแม้ปกติจะไม่พูดไม่จากัน เราก็อยากชวนมาคุย ทั้งตะวันออกอยากจะคุยกันเรื่องปัญหาการส่งออกผลไม้ว่าจะส่งอย่างไร ๆ จะส่งใส้ตู้เย็นอย่างไรผลิตภัณฑ์ คือคุยทั้งเรื่องปัญหาอาหารการกิน ได้ทั้งนั้นละครับ คุยกัน แม้กระทั่งเรื่องรสชาติอาหารก็ตั้งวงคุยกันได้ คืออยากให้คุยกันนะครับ เรื่องสัมมนาแต่ละหัวข้อ และเราอยากได้รายงานการสนทนา ไม่ต้องบันทึกเทปละครับ มีคนบันทึกว่าคุยกันเรื่องอะไรอย่างไร จะได้รู้ว่าบ้านเมืองที่ขุ่นมัวกันมาทั้งหมด ก็ตั้งวงคุยกันได้ นี่ละครับคือเจตนาของ 116 วัน จะเล่าให้ฟังเท่านี้ก่อน
ฉลอง 100 ปีอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5
เพราะว่าถัดไปก็จะมาเล่าให้ฟังเรื่อง 9 วันที่จะฉลอง 100 ปีของรัชกาลที่ 5 อนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้า 100 ปี ทรงเอาเข้ามาทำในบ้านเรา ตั้งแต่ยังเชยอยู่จนบัดนี้ทันสมัย เขาก็จะมาแสดงเป็นเหมือน Expo รอบ ๆ แสดง 9 วัน ฝนฟ้าไม่เป็นไร ดูได้ชมได้ เราตั้งใจว่านักเรียน ครูบาอาจารย์ทั้งหลายทั้งปวง มาดูเลยว่าน้ำประปาตอนแรกเข้ามา มันเชยอย่างไร ก๊อกประปาเป็นอย่างไร ตั้งปี๊บอย่างไร ปี๊บคู่ ปี๊บเดี่ยว ขี้เกียจกันไป ผมเคยเล่าให้ฟังแล้ว อย่างเอาไม้ก้ามปูมาถากให้ปลายกขึ้นมาแล้ว พอปล่อยก็หยุด ก็ตอกลงไป ก็ปล่อยน้ำไหล อย่างนั้นละครับ แล้วก็ปี๊บรอง ๆ ๆ ๆ ไม่มีใครอยากไปยืนถือ นั่นละน้ำประปาสมัยผมยังเด็ก ๆ หาบเอง คนไทยหาบ ๆ ละ 5 สตางค์ จีนหาบ ๆ ละ 10 สตางค์ เพราะ 4 ปี๊บ ทุกบ้านต้องมีตุ่ม ไปถึงก็ใส่ ๆ ต้องใช้อย่างนั้นละครับ ต่อแป๊บเข้าบ้านไม่มีครับ สมัยก่อนไม่มีเลย น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ สแตมป์ อะไรที่ส่งเอาเข้ามานั้นก็จะฉลองกันรัชกาลที่ 5
วันพระราชทานเพลิงพระศพ 15 พฤศจิกายนนี้
ก็เล่าให้ฟังอีกว่า วันที่ 15 พฤศจิกายน วันพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสร็จพระราชทานเพลิงพระศพแล้ว เราจะจุดเทียนทั้งประเทศส่งดวงพระวิญญาณเจ้านายที่เรารัก เสร็จแล้วก็มาถึงวันที่ 2 ธันวาคม ก็เสด็จพระราชดำเนินตรวจพลสวนสนาม อย่างเคยของพระองค์ท่าน ราชวัลลภ วันที่ 3 ธันวาคม จะเปลี่ยนมุม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จฯ มาทรงรับธงที่ไปฉลองกันมาแล้ว ไปสมัครสมานสามัคคี ก็ถวายธง จะเอาไปส่งให้ไปเก็บที่ไหนก็สุดแท้แต่ วันที่ 3-5 ธันวาคม ก็เป็นงานเฉลิมพระชนมพรรษา ประจำปีของเรา จะทำอะไรอย่างไรก็สุดแท้แต่ คือมหรสพอะไรต่าง ๆ ก็อาจจะเป็นธรรมดา แต่อาจจะคิดมีการแสดงอะไรต่าง ๆ อาจจะตั้งวงสัมมนาภาษาไทยจะถวายพระองค์ท่าน จะสัมมนาเรื่องปัญหาข้าว คุยกันเรื่องข้าวให้ฟัง คือสัก 3 วัน จะพยายามเอาเรื่องพรรค์อย่างนี้ครับ ใครจะมาแค่ไหนสุดแท้แต่ แต่ว่าการถ่ายทอดออกไป การบันทึกไว้ คือปัญหาของบ้านเมืองจะได้มาคุยกัน เอาละจบเท่านั้นนะครับ
รับเสด็จฯ ทรงเปิดโรงพยาบาล 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ
ทีนี้เล่าเรื่องก็คือว่า เอาตามลำดับความก็แล้วกันครับ ผมก็บอกว่าผมจะต้องไปเยี่ยมทหารที่ชายแดน ทางโน้นก็เอาอะไรมาให้ ผมก็นัดกันไป บังเอิญวันที่ 18 สิงหาคม วันจันทร์มีหมายเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จฯ ทรงเปิด เรามีโรงพยาบาลสงฆ์ ตั้งนมนานกาเลแล้วที่กรุงเทพฯ สุดท้ายพระท่านก็ไปอยู่ตามโรงพยาบาล มีตึกอาพาธ สุดท้ายท่านเจ้าอาวาสวัดยานนาวา คือท่านเจ้าคณะรอง คือคิดถึงพระนะครับ ท่านเป็นพระนี่ครับ พระพรหมวชิรญาณ เจ้าคณะรอง 5 ปีที่แล้วครับ ท่านคิดถึงเรื่องนี้ ท่านเลยไปขอที่เขามา 73 ไร่ อยู่ในอำเภอเมือง อยู่ชานเมืองอุบลราชธานี สร้างโรงพยาบาลสงฆ์ที่อุบล ตอนไปยังไม่ใหญ่เท่าไร แต่มีตึก 9 ชั้น คือต่อไปจะรับเอกชนด้วย โรงพยาบาลทันสมัยครับ ท่านทั้งหลายคงได้ดูที่ผมเฝ้าฯ รับเสด็จ และเสด็จฯ ไปดูต่าง ๆ คือเป็นโรงพยาบาลที่ว่าจะดูแลหลายอย่างเป็นศูนย์การแพทย์ งานนั้นคือจะต้องเฝ้าฯ ห้าโมงเย็น ผมก็เอ่ยถ้าอย่างนั้นจะไปบ่ายทำไม ก็ไปเช้าเลย ก็ขอโอกาสไป
ไปดูปราสาทตาเมือนธม
ก็ไปเยี่ยม 2 แห่ง ไปที่เขาเรียกว่าตาเหมือนธม อ่านภาษาเขมร เขาเรียก ตาเมือนธม อันนี้ก็แปลกดีนะครับ อยู่ชายแดนเราเลยครับ แต่ว่าลักษณะการดู ต้องขอบคุณกรมศิลปากร เขาจับตาตกแต่งเรียบร้อยดีเลยครับ มีบันไดขึ้นทางนั้นทางนี้ เรียบร้อยเลย และทางฝ่ายทหารของเราก็บอก ผมอ่านตำรา ค้นพบตาเมือนธมปี 2478 73 ปีแล้วครับ ปีผมเกิดนั่นละครับ เอกสารหลักฐานแสดงเลยจัดการอย่างนั้นไป และกรมศิลปากรได้บูรณะเมื่อสัก 10 ปีที่แล้ว ได้เงินทีละปี ๆ ทำเล็กทำน้อย จับเอามาตั้งแบบ Anastylosis (การประกอบคืนสภาพ) ทำเสร็จเรียบร้อย ก็ดูนะครับ เสร็จแล้วเขาทำอย่างไร เขาบอกว่าเขามีงานฉลอง มีงานทุกวันที่ 7 เมษายน หรืออย่างไรเนี่ย มีงานวันหนึ่ง เขมรฟากกระโน้นก็รับชวนมา คือชุมชนตาเมือนธมอยู่ทางเราห่าง 11 กิโลเมตร จากตรงชุมชนบ้านเราไปถึงนั่นก็เป็นไร่นา ปลูกอ้อย ปลูกข้าว ถนนเจ๋งเลยครับ เรียบร้อยตีเส้นเลย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเขาสนับสนุนเรื่องนี้ คือต้องขอบคุณกรมศิลปากรที่ตกแต่งไว้เรียบร้อย การท่องเที่ยวฯ เขาสนับสนุน มีงานมา 7 ปีแล้วครับ ทุกเดือนเมษายนมีงานฉลอง 1 วัน มีมวย มีประกวดนางงามตาเมือนธม มีอะไรต่าง ๆ เขมรฟากทางโน้น ชุมชนเขาอยู่ห่างไป 8 กิโลเมตร ชุมชนเราอยู่ห่าง 11 กิโลเมตร ปราสาทที่อยู่ชายแดน ทางเรากั้นขึงเลย เราบอกตรงนี้เขตแดนของเรา ก็ยังจะเจรจากัน ยังไม่ลงตัว แต่ว่าเราบอกว่า ตั้งแต่ปี 2478 ดูอยู่ ตั้งแต่เป็นเจ้าของมานี่ ก็ทำดีครับ ต้องขอบคุณมากเลย เพราะว่าพอทางเขมรเขามา เราก็บอกคุณมาชมได้ ทางฝ่ายทหารเราก็ตั้งอยู่ทางนี้ เขาก็เข้ามาชม ใครจะขอมาก็เข้ามาชมได้ เพราะลงไปทางนั้นก็เป็นเขมรต่ำ และถนนเป็นถนนดิน เป็นถนนดิน 8 กิโลเมตร ไปถึงชุมชนเขา ทางเรา 11 กิโลเมตร ลาดยางแจ๋วเลยครับ มีปักป้ายแสดงการท่องเที่ยว ก็แวะไปเยี่ยมเขาหน่อย มีทหารดูแลอยู่ที่นั่น ก็สนทนากับเขา
และก็ไปอีก ทีนี้ไป ฮ. ไปที่ปราสาทพระวิหาร ขึ้นไปข้างบน ไปที่ผามออีแดง ไม่น่าเชื่อนะครับ 8 กิโลฯ ขึ้นไป ข้างล่างก็ยังสว่างดี นั่งดูบน ฮ. ผมต้องเล่าตรงนี้ให้ฟังหน่อย คือเราคิดว่าปีกผีเสื้อคือจากถนน ถนนที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ตัดไว้ โชคชัย-เดชอุดม เป็นถนน เรานึกแต่ความห่างจากจังหวัด คือการตัดถนน ถ้าตัดไปขยายจังหวัด ตรงที่เหลือก็เป็นป่าเขาก็เยอะ ธรรมดาเขาก็ถอยจากเมืองสัก 5-10 กิโลฯ ทำถนนตรง จอมพลสฤษดิ์ฯ เอา 25 กิโลฯ ลากจากโชคชัย โคราช 25 กิโลฯ ไปเดชอุดม อุบลราชธานี เป็นเส้นตรงเลยครับ แล้วตรงนี้ละครับ ถนนนั้นก็เหมือนกับไม่ใช่ยุทธศาสตร์ เพราะยุทธศาสตร์จะอยู่ใกล้ชายแดน เรานึกว่าตรงนี้เป็นปีกผีเสื้อ แล้วน้ำจะอยู่ที่แม่น้ำมูล อยู่ข้างล่าง ๆ ไม่ใช่ครับ มันมีภูเขาอีกชั้นหนึ่ง คือเป็นปีกขึ้นไป แล้วเขมรต่ำไปอย่างนี้ เหมือนกับเผิน แล้วนึกถึงเขาพระวิหาร เผินออกไปอย่างนี้ แล้วก็ต่ำลงไปข้างล่าง แต่ระหว่างนี้เป็น ภาษาฝรั่งเราว่า Valley เป็นหุบ ที่ยาวหมด นั่ง ฮ. ไปถนนของเราต้องเรียกใช้คำว่า เจ๋ง ถนนดีมาก เรียบร้อยดี และสำคัญที่สุด ภูเขาที่เรียงแถวอยู่ในแผ่นดินเรา เชิงเขามีอ่าง ๆ ๆ ๆ มีอ่างน้ำครับ ทีแรกเรานึกว่าจะส่งน้ำอย่างไร จะสูบอย่างไร มีอ่างครับ คือน้ำไหลไปลงแม่น้ำมูล อีกข้างลงอ่าง แล้วมีถนนเรียบร้อย ถนนที่ไปอำเภอกันทรลักษ์ แล้วตกลงศรีสะเกษ ๆ มีเงาะ มีทุเรียน มีมังคุด คือจันทบุรีปลูกอย่างไร ทางนั้นปลูกได้
ทำข้าวหน้าไก่เลี้ยงทหาร
ผมไปฝนตก นักเรียนที่โรงเรียนมารับ บอกต้องขอบใจที่หนูมารับกัน เขาออกมาครับ นายกฯ ไป เราส่วนมากก็ไม่ค่อยได้คิดอะไรอื่น ฮ. ไปลงที่โรงเรียนเขา ๆ ก็ออกมารับ พอรับแล้ว นักเรียนเต็ม ๆ โบกมือแล้วไป ไม่ได้ครับ เลยต้องเดินสวัสดีกับนักเรียน คุยคนละคำสองคำ จับไม้จับมือกันหน่อยนักเรียนมา มีตั้งแต่ชั้นมัธยมเล็กจนกระทั่งมัธยมปลายนะครับ เขาก็มารับ นึกว่าแค่มารับเฉย ๆ พอเสร็จแล้วเราก็ไป โอ๊ย ขึ้นไปข้างบน ไม่น่าเชื่อ ขึ้นไปมันตะแคง ไม่ได้รถเลี้ยวขึ้นเขานะครับ มันทำเทินขึ้นไปอย่างนี้ 8 กิโลฯ มันเปลี่ยนสภาพ ข้างบนหมอก สัก 3 เมตรก็น่าจะมองไม่ชัดแล้ว 3 เมตรจะครับ อย่างนี้เครื่องบินลงไม่ได้ครับ ฮ. ก็ลงไม่ได้ ต้องเอารถขับขึ้นไป เมืองในหมอกเลยละครับ หมอกทั้งนั้นแล้วกัน แล้วที่มออีแดง เขาก็ไปทำเต็นท์ ตีเต็นท์พรางข้างบน มีทหารอยู่ 120 ก็บอกว่า ถ้ามีผูกไมตรีไปไหนก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่ก่อนเขาทำไว้ ให้เราไปถมตรงปลาย คราวนี้ทำเองเลยครับ คิดตั้งแต่ต้นเองเลย คือผมอยู่ที่ ตอนนั้นจำได้ว่ากลับจากที่จังหวัดอุทัยธานี ยังไม่ได้ส่งเมนูให้เขา ต้องแวะเข้าปั๊มน้ำมัน ปั๊มน้ำมันมี Fax สั่งเขียนเมนู เขียนเสร็จอย่างไร ซื้ออะไรทำอะไร อย่างไร ไปเลี้ยงนักกีฬาที่โน่น ทำข้าวหน้าไก่ ใส่ไก่ 10 กิโลกรัม ที่ในปักกิ่ง สถานทูตไปจัดซื้อหาให้ ไม่เป็นปัญหา นี่มันกันทรลักษ์ แต่ว่าจะเลี้ยง 120 นาย ผมก็เอาว่า 25 กิโลฯ ต้องเอาเนื้ออะไร หั่นอย่างไร ทุกอย่างที่เครื่องมาปรุงทั้งหมดบอกแม้แต่การหั่นเสร็จ ต้องเขียนรูปให้ดูนะครับว่าผ่าอย่างไร หั่นอย่างไร พอเสร็จเรียบร้อย เขาก็ทำเตรียมไว้ ทางผมขาไป ผมก็หิ้วไปอันก็คือพวกน้ำหอย น้ำมันงา พวกเครื่องปรุงทั้งหลาย หิ้วของเราไป ก็ไปเจอกันทางโน้น ไปฟัง briefing ก่อน เขาก็อธิบายความเล่าให้ฟังทั้งหมดเรียบร้อย ก็ทันสมัยดีครับ เป็นของป่าไม้ เขาอยู่ตรงนั้น คือเป็นศูนย์ท่องเที่ยวอยู่ตรงปลายก่อนไปเข้าเขาพระวิหาร ของเราดีครับ สะอาดเรียบร้อย ห้องน้ำห้องท่าเรียบร้อยเลย
แต่ว่าบอกหมดครับ เดินมาเสร็จเรียบร้อย เขาก็ตั้งกระทะไว้ให้เสร็จ ผมไปทำข้าวหน้าไก่ที่สถานทูตที่ปักกิ่ง ไฟดับ 3 หน ที่นั่นตั้งหม้อเสร็จ เขามีพัดลมที่ต้องใช้ไฟฟ้า คือใช้แก๊ส ถ้าจุดธรรมดามีควันครับ แปลกนะครับ แต่ต้องเอาไอ้นี่โรล ถึงจะเป่าถึงจะฟู่ 3 หนกว่าข้าวหน้าไก่จะเสร็จ แต่ทีนี่ของเขาดีครับ ทุกอย่างดีหมด กระทะใหญ่ แต่ถึงกระนั้น 25 กิโลฯ ต้องทำที่ละ 12 กิโลฯ ครึ่ง ผมก็ทำตามตำราผม ไม่มีการใส่นั่นเสร็จ ตอนทำก็มีทหาร 2 คนก็ช่วย แต่ตอนตักเพื่อแสดงน้ำใจไมตรี ต้องตักเอง กระบวยใหญ่อย่างนี้เลยครับ ที่เสียใจจริง ๆ คือชามเล็ก ข้าวหน้าไก่ต้องชามใหญ่ เอาข้าวใส่เสร็จแล้ว และข้าว ผมว่าข้าวไม่ค่อยมียาง เขาก็ไปเลือกข้าวอันนั้น ที่จริงถ้าเป็นผม ต้องเอาข้าวเก่า 5 ส่วน ข้าวใหม่ 2 ส่วนผสมกัน แล้วคลุก แล้วก็หุง มันก็จะนุ่ม ใส่อย่างนี้ ตักกระบวนใส่ลงไป ก็เรียบร้อยดี วันนั้นนั่งกินรสชาติดีครับ ตักแจก ทหารมารับ 120 แต่คนที่เป็นพวกทหาร และทหารใหญ่ พวกนายทหาร รวมเกือบ 200 แต่พอดีนะครับ หม้อใหญ่เบ้อเริ่ม เครื่องไม้เครื่องมือเขาเรียบร้อยดีครับ ใส่ไปแล้ว เหลือห่างจากปากหม้อนิ้วหนึ่ง ทีแรกเหลือ 2 นิ้ว ใส่ต้นหอมหั่นสุดท้าย คนเสร็จเรียบร้อยเหลือนิ้วหนึ่ง ตักจนหมดเลย แต่เหลือสัก 2 นิ้วข้างล่าง ไว้ให้ทางฝ่ายสูทได้ชิมของเขาเอง ก็เรียบร้อยดี ทำแล้วเราก็มีความสุข ใครจะว่าอย่างไรก็ว่าเถอะครับ โอ๊ย ชอบทำกับข้าว มันของชอบน่ะ มันเป็นอย่างไร มันเสียหายอย่างไร และทำให้ ทหารเขาไปนั่งดูแลข้างบน อาหารการกินเขาดูเรียบร้อย แต่ว่าเราเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ด้วย ไปทำไม่ได้ยากอะไรเลย เขาซื้อเตรียมไว้ เราก็เอาของเราไป และก็จัดการทำ และก็กินด้วยกัน อย่างนี้นะครับ
ตรวจสภาพน้ำท่วมที่อุบลราชธานี
ก็เสร็จเรียบร้อย พอบ่าย ๆ ก็นั่งกลับมา เฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสร็จ จะกลับบ้านหรือยัง ต้องไปดักดูน้ำ เพราะน้ำท่วมหนองคาย น้ำท่วมหนองคาย น้ำท่วมนครพนม น้ำท่วมมุกดาหาร และที่อุบลฯ เป็นอย่างไร ขับรถออกไปเย็น ค่ำแล้วนะครับ นั่งรถออกไป ฝนมามืดเลย แต่บอกเขาว่า ก็ไม่อยากให้ไป บอกไปเหอะ ต้องไป ๆ โขงเจียม จะไปดูริมแม่น้ำโขงว่าน้ำเป็นอย่างไร ฝ่าฝนไปเลยครับ ลงไปถึงนั่นฝนพร่ำ ๆ ลงไปดู อ้า ประหลาด ๆ ตรงไหน ไปนั่งที่แพ แม่น้ำโขงไหลทวนน้ำได้อย่างไร ไม่ได้ทวนน้ำ แม่น้ำมูลน้ำเยอะ แม่น้ำมูลเขาปล่อยจากเขื่อนมา ลงมาก็ทวนแม่น้ำโขงขึ้นมาก่อน นั่งดูบอกน้ำโขงตรงไหนไปทางโน้น มันทวน แล้วสักพักก็อ่อนลงไป เวลาเขาปล่อยน้ำจากเขื่อน น้ำโขง ฟังให้ดีนะครับ แม่น้ำโขงไม่เคยคิดว่า แม่น้ำโขงจะมีน้ำมาแประอีกแล้ว เขาว่ากันว่าจีนสร้างเขื่อน แต่การจีนสร้างเขื่อน ไม่เคยเป็นความวิตก เพราะไม่มีน้ำมาแประเต็ม แต่มันก็จะไม่ท่วม แต่ว่าจะมีน้ำอยู่ในท้องน้ำแม่น้ำโขงมากขึ้น เพราะเขื่อนจะต้องปล่อย 24 ชั่วโมง ไม่ใช่เขื่อนเพื่อการเกษตร เป็นเขื่อนเพื่อไฟฟ้า ก็ฟังไปฟังมา ที่ต้องไปดูนี่เพราะอะไรครับ เขาออกข่าวเขาบอกว่าน้ำท่วมหนองคาย เขาออกข่าวว่าจีนเตรียมเปิดเขื่อนปล่อยน้ำมาจะได้ท่วมประเทศไทย เราก็บอกอะไร เท่าที่ฟังเนี่ย จะปล่อยอย่างไร มัน 280 กิโลฯ จากเขื่อนสุดท้าย ฝนตกใต้เขื่อนละมัง ฝนตกใต้เขื่อนถึงน้ำ อย่างนี้ เพราะเราไม่คิดจะว่าจะปล่อยอย่างไร น้ำก็ออกจากท่อ ถ้ามันเสร็จ ออกจากท่อที่ทำไฟฟ้า จะเปิดอย่างไรก็ไม่นั่น มันไม่ใช่เขื่อนเปิดประตูบานใหญ่ ไม่ใช่อย่างนั้น มันต้องไหลออกมา ก็เถียงเลย
หนังสือพิมพ์พาดหัวว่าอย่างไร “สมัครอุ้มจีน” ผมจะไปอุ้มทำไม ใหญ่โตมโหฬารหรือ อุ้มทำไม เราก็พูดตามเหตุผล จึงต้องไปดูว่าน้ำมาอย่างไร ถ้าเผื่ออยู่หนองคายบอกท่วม ท่วมตั้งเมตรหนึ่ง มานครพนมก็ท่วม ไปมุกดาหารก็ท่วม จะลงไปอุบลราชธานี เขาบอกอยู่อีก 5 เมตรถึงจะถึงฝั่ง อย่างนี้ต้องดูภูมิศาสตร์ ต้องดูทำไม 3 จังหวัดน้ำถึงแประฝั่ง ไปถึงอุบลฯ เหลืออีก 5 เมตรถึงจะถึงฝั่ง อย่างนี้น่าสนใจไหม น่าสนใจครับ สนใจอย่างยิ่ง เพราะตรงนั้นแถวนั้น เลยขึ้นไปหน่อย เราจะทำ ตกลงกันแล้วนะ ลาวกับไทยตกลงจะทำเหมือนฝายกลางแม่น้ำ ถ้าจีนทำได้ เราก็ทำได้ ยกขึ้นมา 18 เมตร นั่นแสดงว่าแถวนั้นฝั่งสูง ขึ้นมาแล้ว จะยกน้ำขึ้นมาจากที่เคยเป็น 18 เมตร แล้วถอยหลังลงไป 110 เมตร นี่เท่ากับแม่น้ำโขงจะเก็บน้ำไว้ แล้วเราอย่างไร เราก็ปล่อยเลย ปล่อยเป็นท่อ จำนวน 10 กว่าท่อ ลงไปก็ทำไฟ น้ำแม่น้ำโขงก็จะลงไปเหมือนเคย แล้วน้ำที่จะเก็บอยู่ จะได้เข้ามาใช้บ้านเรา คิดแล้วครับ ทำแล้ว ตกลงไหม ตกลงกันแล้วครับ 2 ประเทศ เซ็น MOU กันเรียบร้อยแล้ว เท่านั้นครับ ตกลงกันเรียบร้อยแล้วทั้ง 2 ฝ่าย ก็จะดำเนินการ ถ้าสำเร็จเรียบร้อย ก็จะลองทำ ไม่เรียก Dam เรียนว่าเป็นเหมือน Levee (พนังกั้นน้ำ) เหมือนกับการกั้นน้ำไว้ แต่ Levee เขากั้นข้าง ๆ ก็ทำนะครับ ก็ไปดูเพื่อจะให้รู้ไว้
ตรวจสภาพน้ำท่วมที่เชียงราย
ทีนี้เสร็จแล้วอย่างไร เพราะฉะนั้น ถัดไป วันศุกร์เย็นมีรายการก็จะไปดู เขาเชิญดูหนัง คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปดูหนังหน่อย ก็เหมือนกับไปดูบันเทิงหน่อยละครับ วันพฤหัสบดีกลางคืน พัวะ ๆ ๆ ล่อกันเข้าทางโน้นที่ทางสุไหงโก-ลก แล้วจะทำอย่างไร ผมก็ถามผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่าผมจะลงไปไหม ยัง ๆ ไม่ได้ เดี๋ยวลงไปก่อน ทหารลงไปก่อน ตำรวจตามไปก่อน นายกฯ ทีหลังอย่าเพิ่ง อย่าไปยุ่งกับเขาตอนนี้ ผมก็บอก อย่างนี้ถ้าดูหนังก็เกิดเหตุ เขาเกิดเรื่องกันวันพฤหัสบดี เขาศุกร์ ครม. ไปดูหนัง เกิดเรื่องแน่นอน ผมก็แน่ของผมเหมือนกัน พอเสร็จแล้วรายการตั้งแต่บ่าย พอเสร็จปั๊บ งานเสร็จ 11.30 น. และอีกทีจะไปเย็น ผมก็ถามเลยว่าไหนลองถามตั๋วเครื่องบินสิ มีไหมที่นั่ง 3 ที่นั่ง เพราะพวกไป 2 คน มีตั๋วได้ ผมก็ไปเลย บ่ายโมงครึ่งผมก็บินออกไป บ่ายโมงยี่สิบก็ออกจากสุวรรณภูมิ ไปเครื่องบินพาณิชย์ธรรมดา ก็ไปดูน้ำท่วม เพราะเช้ามืดวันนั้น ดูข่าวเช้ามืด น้ำท่วมเชียงรายอีกแล้ว เขาว่าน้ำท่วมน่ากลัว ดูข่าวน้ำท่วม ไปดูหน่อย พอถึงก็ไม่รบกวนจังหวัด รบกวนแม่ทัพ เพราะว่าวันที่ 23 สิงหาคม ตอนรุ่งขึ้นจะเป็นวันครบรอบสัมพันธไมตรี ไทย-พม่า 60 ปี ผมจะต้องมี Speed บนเวทีที่งาน คือตกลงกันว่า ไทยกับพม่า 60 ปี จะขอร้องกัน ผมกับท่านนายกรัฐมนตรีเต็ง เส็ง ไปนั่งดูที่โอลิมปิกด้วยกัน ผมบอกท่านให้เขาจัดทางโน้น ผมจะจัดสถานทูตผม แล้วท่านไปงานสถานทูตผมหน่อย และท่านจัดทางนี้นะ สถานทูตท่าน ผมจะไปงานสถานทูตท่าน ก็ตกลงกัน เพราะนั่งดูอยู่ด้วยกัน พอตกลง ทางพม่าบอก 23 ทางเราก็จะมี 24 วันนี้เย็น สถานทูตไทยในย่างกุ้งมีงาน ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายเตช บุนนาค) ไปทางโน้น คุณเต็ง เส็ง ก็จะไปร่วมงาน เมื่อวานรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศก็มาทางนี้ ผมก็ไปร่วมงาน กำลังจะต่อมวยพอดี มีงานวันนี้ใครจะคิดว่าอย่างนั้น วันนี้ค่ำทางโน้นเขาจะถ่ายทอดโอลิมปิก แต่คงไม่เป็นไรครับ โอลิมปิกก็ดึกหน่อย ก็สำเร็จเรียบร้อยดี ก็ไปงาน
ทีนี้ก็ไปดูน้ำท่วม พอดูน้ำท่วมเสร็จ ได้ลงไปดู ได้เห็นมิสเตอร์เตือนภัย น่าตาเป็นอย่างนี้เอง ถามว่าร้องไหม ถามชาวบ้านร้องแว๊ก ๆ ๆ ๆ มีเขียวมีเหลืองมีแดง และก็น้ำมา แม่น้ำสาย เวลาเราอยู่สะพานตรงท่าขี้เหล็ก ไม่ค่อยรู้สึก แต่ว่าถ้ามองลงไปสะพาน ผมไป เขาเรียกว่า Flash Fast มาเร็วไปเร็ว เป็นแบบ ...river แบบแม่น้ำป่าสัก มาน่ากลัวครับ มาขึ้นที่นี่ น้ำขึ้นที รถยนต์จอดอยู่ที่ลาน รถลานพม่า ลานไทย โดนทั้งคู่ครับ มาตีสามครึ่ง มีมิสเตอร์เตือนภัย แต่ขับรถออกไม่ทัน น้ำมาทีมันขึ้นไปท่วมเห็นหลังคารถ แประ ๆ หลังคารถ แม่สายนะครับ แม่สายก็มี แม่สายอยู่ข้างบน ถนนใหญ่วิ่งเข้าไปท่าขี้เหล็ก ไม่มีปัญหาละครับ น้ำไม่ท่วม แต่ข้างล่างเป็นถนนตัดลงไป เป็นหมู่บ้านต่ำลงไป ดูในรูป ผมให้เขาถ่ายรูปมาให้ดู รายงานเขามีนะครับ ผู้ว่าฯ เขามีถ่องถ่ายให้ดูส่วนสัด บอกเอามาผมจะเอาไปออกรายการ ผมจะให้ดู ก็ดูเลยครับว่าแม่สายหน้าตาเป็นอย่างไร แม่สายข้างบนเป็นอย่างไร แม่สายข้างล่างเป็นอย่างไร น้ำมาอย่างไร
ดีครับที่ได้เห็น น้ำมันมาเร็วมันไปเร็ว CNN ก็ไปถามครับ CNN เขาไปถามเป็นทำนองว่า เสียหายไม่เสียหายมากเพราะเหตุว่าเพราะอะไร เพราะเหตุว่าเขาผ่านมาพรวดแล้วก็ไป สูงไหมครับ สูง 1 เมตร สูง 2 เมตร แล้วก็หายไป ของเสียหาย ครับ เสียหายครับ รถยนต์รถอะไรเสียหาย ก็ธรรมชาติฟังราษฎร ฟังแล้วบอก มีความเดือดร้อน ไม่มีปัญหาครับเป็นธรรมชาติ เป็นภัยธรรมชาติผมไม่ว่าอะไรหรอกไม่ใช่ความผิดของใคร ฟังแล้วประทับใจมากไม่น่าเชื่อครับ ผมก็ไปชุมชนเขาก็เอาราษฎรมานั่ง ผมก็คุยให้ฟังเล่าให้ฟังคุยราษฎรก็ฟังเรียบร้อยดี ราษฎรไม่ร้องทุกข์ ไม่ร้องขออะไร เขามีของไว้แจกผมบอกว่าผมไม่แจกหรอก แจกเอาหน้า มีปัญหาค่อยเอาไป เขาเสร็จเรียบร้อยกันหมดแล้ว ไปถึงเอาของไปแจกผมไม่เอา ผมบอกว่าให้เก็บไว้ก่อน เอาไว้เวลานั้น ตรงที่ประชุมมีโลงด้วย โลงศพเป็นแถว ทำอะไร เขาบอกสำหรับสาธารณกุศลใครตายไม่มีเงินทำศพก็ใช้โลงนี้ ก็ธรรมเนียมทำบุญซื้อ 1 โลง 1,000 บาท ผมนายกฯ ยากจนบริจาค 1,000 ซื้อโลง 1 โลงให้เขา เรียบร้อยดีครับ
เสร็จแล้วก็ออกจากแม่สายไปที่เชียงแสน ก็จะไปดู คือแม่น้ำสายวิ่งมา 15 กิโลฯ แล้วจะเจอแม่น้ำรวก ก็จะมาจากทางพม่า ก็มาเจอแม่น้ำสายเปลี่ยนชื่อเป็นแม่น้ำรวก แม่น้ำรวกโผล่ไปก็เจอสามเหลี่ยมทองคำ แม่น้ำโขงมาด้านหนึ่งแล้วก็ลงไปข้างล่าง แล้วแม่น้ำรวกก็ไปเจอ เรียกว่าสบรวก ตรงนั้นเรียกว่าสบรวก เราเรียกว่าสามเหลี่ยมทองคำ มีอะไรต่ออะไรมากมาย ไปดูตอนนั้น ตรงกันข้ามตรงสามเหลี่ยมทองคำนั้นนะครับ ที่ดินใหญ่มหึมา 5,000 ไร่ กำลังจะถูกพัฒนา ไทยน่ะเชียงแสนอยู่ของเราธรรมดา มีอะไรต่าง ๆ คนก็ไปดู ดูสามเหลี่ยมทองคำ มีภัตตาคาร คือเป็นที่ท่องเที่ยวอำเภอหนึ่งของเรา ฟากโน้นไม่เจริญหรอกแต่มีคาสิโน ไทยไปสร้างอยู่ข้างพม่า ข้ามสบรวกไปก็ไปทางโน้นคาสิโน ทางนี้ก็ไทย ไปเที่ยวไปดูไม่มีอะไร มุมลาวทางฟากลาว เจ้าหน้าที่เก่งที่อำเภอแสดงให้ดูเลยครับ 5,000 ไร่ จะทำอย่างไรจะลงทุน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่างชาติมาลง ใช่ครับ เขาจะทำอะไร เป็นคอมเพล็กซ์มหึมาเลยครับ สถานที่ท่องเที่ยวมีสนามกอล์ฟ มีการอะไรต่าง ๆ และมีคาสิโน คาสิโนมาตรฐานใหญ่เลยครับ อยู่คนละฟากกับของเราเลยครับ เห็นไหมครับ ฟากโน้นพม่ามีครับ นี่ลาวมีครับ คอมเพล็กซ์นะครับ เป็นคาสิโนเลยแล้วมีสนามกอล์ฟ มีที่พักอะไรต่าง ๆ มีสปอร์ตติ้ง อะไรต่าง ๆ ใหญ่เบ้อเริ่มเลยครับ พวกเชียงแสนก็เกาหัวแกรก ๆ ต่อไปเชียงแสนต้องเป็นทางผ่านนะครับ ต้องข้ามฟากกันตรงนั้นแน่นอน จะทำอย่างไรครับ
สิบสองปันนาสร้างเขื่อนเหนือเมือง
ผมไปเชียงแสนก็อยากจะดูท่าเรือที่เชียงแสน ต้องการจะคุยกับคนที่นั่งเรือขึ้นไปถึงจิงหง จิงหงคือสิบสองปันนาครับ 280 กิโลฯ ผมเคยนั่งลงมาแล้วผมเป็นกรรมาธิการคมนาคม ผมนั่งเครื่องบินจากคุนหมิงไปที่จิงหง คือสิบสองปันนา แล้วนั่งเรือล่องมา เวลาล่องเรือใช้เวลา 10 ชั่วโมง แต่ที่ผ่านด่านลาว 2 ด่านอีกด่านละ 1 ชั่วโมง ทั้งหมดก็ประมาณ 12 ชั่วโมง แต่ถ้าขาขึ้นก็ 18 ชั่วโมง แล้วอย่างไรครับ อยากรู้จริง ๆ ว่าถ้าจีนปล่อยน้ำมานั้น จะหาล่ามด้วยนะครับ ว่าเรือจีนที่เขาขึ้นไปเป็นอย่างไร บอกไม่ต้อง มีผู้เชี่ยวชาญครับขึ้นล่องอยู่เป็นประจำ มีรูปให้ดูด้วย ถ่ายรูปมาให้ดูเลยครับ ถ่ายรูปมาให้ดูบอกนี่ ๆ จิงหงอยู่นี่ บอกทำไมชอบไปสร้างเขื่อนอยู่ข้างเหนือเมือง ทำไมมันสร้างไปใต้เมืองให้เมืองอยู่เหนือเขื่อนอย่างไร ท่านผู้ว่าฯ ท่านก็ว่าจริงเหมือนกัน เขื่อนจีนอยู่เหนือเมือง ดูสิครับ เมืองจิงหงคือเมืองสิบสองปันนา อยู่ใต้เขื่อน ถ้าเขื่อนพัง ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ก็ทำไมไม่ไปสร้างเขื่อนอยู่ข้างล่างแล้วให้เมืองอยู่ข้างบน หรือเขาอาจจะว่าเหนือเขื่อนใช้น้ำสะอาดเพื่อการเกษตรหรือเพื่ออะไร แต่ความจริงไม่ใช่ครับ ความจริงด้วยอะไรก็ไม่ทราบได้ ที่สิบสองปันนาก็เอาอีกแล้วครับ เมืองอยู่ข้างล่าง เขื่อนนี้เป็นเขื่อนใหญ่ มีท่อที่จะทำไฟฟ้า 6 ท่อ เวลานี้ยังไม่เสร็จ เขื่อนยังไม่เสร็จครับ น้ำยังออก ยังผ่านธรรมดาอยู่ ธรรมดาเขาจะยกระดับขึ้นไป เขาบอกจะยกระดับสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 600 เมตร เขื่อนนะครับ แล้วจะเปิดมา 6 ท่อน ธรรมดานี้หน้าแล้งน้ำแม่น้ำโขงตอนต่ำนี้ เขาเรียกว่าน้ำ 80 เซ็นต์ฯ แต่เมื่อไรถ้ามีเขื่อนแล้วเดินเครื่อง 6 เครื่องนี้ น้ำแม่น้ำโขงจะเป็น 2 เมตร เห็นไหมครับ ทำไมมีเขื่อนแล้วมีน้ำ ก็ต้องมีน้ำเพราะมันปล่อยน้ำครับ ของเรานี้ถ้าไม่มีเขื่อนภูมิพล จังหวัดตากก็หน้าแล้งเดินข้ามได้ แต่พอมีเขื่อนภูมิพลปล่อยน้ำวันละ 6 ชั่วโมง ทำไฟฟ้าเพื่อการเกษตรด้วย 6 ชั่วโมงเท่านั้นละครับ ทำให้น้ำมันนอนท้องน้ำ ต้องว่ายน้ำข้ามละครับจังหวัดตาก
นี่เหมือนกันครับแม่น้ำโขงนี้ ถ้าหน้าแล้งเดินข้ามแม่น้ำโขงได้ หรือน้ำโขงเฉลี่ยแล้ว 80 เซ็นต์ฯ แต่ถ้าเขาใส่เขื่อนแล้วเขาเดินเครื่องตลอด 6 แท่ง น้ำจะสูง 2 เมตร นี่ก็คือคำอธิบาย ได้คำอธิบายชัดเจนครับ ตกลงเขื่อนเขายังไม่เสร็จ ไม่มีใครกักใครปล่อย ฝนมันตกข้างล่าง เขาเรียกว่าเป็นตะแคงอย่างนี้ ตะแคงเป็นตัววีอย่างนี้ ผมไปมาแล้ว 280 กิโลฯ จากสิบสองปันนาถึงเชียงราย นี่ ฝนตกหนักขึ้นมามันก็ไหลลงมา ไหลลงมาก็เป็น Volume ใหญ่มหึมา แล้วมันก็ผ่าน นั่นละครับมันจะไปผ่านเชียงแสน แล้วไปอีก 53 กิโลฯ ไปเชียงของ เชียงของก็จะลงไปที่จังหวัดเลย ตรงหัวมุมด่านซ้าย แล้วก็เลี้ยวขวา แม่น้ำโขงถ้าหันหน้าลงทะเลก็เลี้ยวซ้าย ลงไปก็จะไปผ่านทางเวียงจันทน์ก็จะลงไป มานี่มาหนองคาย มาสกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี ที่ผมไปนั่งวันก่อน เห็นไหมครับ เราต้องเข้าใจสภาพภูมิศาสตร์ของเราอย่างนั้น แล้วเราก็ดำเนินการดู วันนี้จะไม่ได้คุยเรื่องน้ำอย่างอื่น แต่จะคุยให้ฟังเท่านี้ละครับว่าไปดูมาแล้วตกลง
จีนส่งผัก ผลไม้ เข้ามาขายในไทย
ตกลงพืชผักต่าง ๆ มาครับ ผมสัมภาษณ์ไปแล้ว ช่อง 9 เขาสัมภาษณ์ก็อธิบายความละเอียด เขาเก่งนะครับ เขาเอาโฟมนี่ละครับ ถั่วใส่สับ ๆ จะเหลือที่ น้ำขวดโค้กลิตร โค้ก 2 ลิตรนั้น เอาไปใส่น้ำแล้วแช่เย็นแข็งทั้งขวด แล้วยัดเข้ามาในหีบโฟม ซ้ายขวดขวาขวดแล้วก็ปิด แล้วก็รัดออกมา ใต้ท้องเรือมันเย็น น้ำโขงมันเย็น เพราะฉะนั้นทั้งหมด ผักทั้งหมดตัดทางโน้นแล้ว ตัดจากทางจีนแล้วใส่หีบลงมาเลยครับ วิ่งลงมาเลยครับ ขาลงมา 1 วัน คือ 12 ชั่วโมง ถ้าวันครึ่งก็ 18 ชั่วโมง ขาขึ้น 18 ชั่วโมง ขาลง 12 ชั่วโมง มาถึงเขาก็เอามาเปิดมาให้ดู นี่ผักกระจก ผักนั่น นี่หัวกะหล่ำเขียว กะหล่ำขาว นี่ถั่วลันเตาแบบถั่วหวาน ออกมา เย็นเลยครับ เย็นไม่ใช่แบบแข็ง Defrost นะครับ เพราะว่าน้ำที่ใส่มานี้ 12 ชั่วโมงครับ มันยังไม่ละลาย เปิดออกมาก็เป็นความเย็นที่รักษาผักไว้ แล้วออกจากตรงนั้นปั๊บนะครับ โอ้โฮไอ้นั้น Express ไอ้นี่ Express รถห้องเย็นครับ ทีนี้ขึ้นรถห้องเย็นเลย 2 ดีกรี ขับไปไหน ตลาดไท มาจากเชียงรายครับวิ่งลงมาตลาดไท แล้วตกลงผักจีนมาขายไทย ก็ไม่มีปัญหานี่ครับ ก็เพราะเราตกลง FTA กัน ของเราอะไรไปได้ครับ ลิ้นจี่ ลำไย มังคุด ทุเรียน ใครเข้าไม่ได้เราเข้าไปได้หมด ของเขาอะไรไม่มา มาผักทั้งหลายทั้งปวง แอ๊ปเปิ้ล กินแอ๊ปเปิ้ลลูกโต แอ๊ปเปิ้ลลังหนึ่ง 1,300 แอ๊ปเปิ้ลจีนครับ แอ๊ปเปิ้ลลูกโตของอเมริกันครับ ลังละ 1,300 นั้น 80 ลูก นี่ลังของเขาลังละ 100 บาท 30 ลูก ลูกละ 3 บาท แอ๊ปเปิ้ลจีนลูกเล็กกว่าหน่อย ไปเอามาเฉาะกินกับพริกกะเกลือ อร่อยกว่ามันอมเปรี้ยวนิดหนึ่ง ก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยครับ กระเทียมเอาสิกระเทียมของคุณมันใหญ่ คุณชอบกินเหมือนผัก แต่กระเทียมเชียงใหม่ดีกว่า ของเขาเข้ามากิโลฯ 45 แต่ของเรากิโลฯ ละ 75 แต่ของเราดีกว่าแล้วก็มันไม่เดือดร้อน แต่อะไรที่เขาไม่เคยได้กิน รากบัวที่ต้มกินเลี้ยงหั่น ๆ กิโลฯ ละ 480 เดี๋ยวนี้เหลือกิโลฯ ละ 80 งามใหญ่เบ้อเริ่ม ดีกับเรา เม็ดบัว เรื่อง Supply Demand มันไม่พอ เม็ดบัวมาจากเมืองจีน เดี๋ยวนี้เม็ดบัวราคาถูก แปะก๊วยที่กินแต่ก่อนตักนับเม็ด เดี๋ยวนี้ตักใส่เลย ๆ เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ต้องเสียภาษี เขามาเราไม่เสียภาษี เราไปเขาก็ไม่เสียภาษี นี่มันผลประโยชน์ มันก็ต้องแลกเปลี่ยนกัน ไปก็ได้รู้ มาเล่าให้ท่านทั้งหลายฟัง
ทีนี้ก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง จะเล่าให้ฟังนิดหนึ่งก็คือ แล้วตกลงน้ำมันว่าอย่างไร น้ำมันกำลังดำเนินการอยู่ครับ แต่ว่ากำลังนี้เขาบอก น้ำมันคุณภาพยังใช้ไม่ได้ เหมือนกับ 5 ปีก่อนเขาว่าอย่างนั้น คือเขามีคน เขาไม่อยากให้เราจะค้าขาย เขาจะเสียประโยชน์ เขาต้องหันหากำไรเยอะ เราก็บอกแล้วคนเวลาแพงล่ะ นี่มันดีมันลดราคาลงมายังเลิกบ่น แล้วมันขึ้นไป 44 บาทอย่างนี้ 40 กว่าบาทนี้จะว่าอย่างไร คนที่ส่งเข้ามาก็จะเอาชนะ จะเอาแต่ส่งน้ำมันอย่างดีเท่ากันมา ยังถูกกว่า 8 บาท ผมก็บอกผมไม่ว่าอะไรหรอกคุณจะคิดจะขายผมไม่เกี่ยวข้อง แต่มันเวลานี้ที่ทำนี้ น้ำมันดีเซลทำคุณภาพดีเยี่ยม ต้องการอย่างนั้น แล้วน้ำมันดีเยี่ยมนี้ เวลาไปทำพวกชาวไร่ชาวนา รถแทร็กเตอร์ รถไถ รถต่าง ๆ พวกเกษตรเรือประมง ไปใช้ของดีเยี่ยมให้มันแพงไปทำไม ก็ไอ้ของที่เคยใช้เมื่อ 5 ปีก่อนมันถูกกว่า นี่ยิ่งถูกไปกว่า ก็ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรอื่นเลยครับ แต่ว่าของที่มันใช้มันเลวกว่า เพราะมันใช้ตามสภาพตามระดับ มันมีระดับของมันอยากจะใช้ของดีเอาไปเผาให้มันแพง คือใส่เครื่องป๊อก ๆ อะไรต่าง ๆ ซึ่งมันใช้น้ำมันอย่างนั้นก็ได้ 5 ปีก่อนก็ใช้กันอยู่ แต่ปัจจุบันนี้ 5 - 6 ประเทศรอบบ้านเราเขาใช้ แต่ของเราบอกต้องใช้ชั้นยอด น้ำมันต้องชั้นดี ตรงนี้ต้อง 0.9 0.035 ต้องใช้ให้ดี คือให้มันแพง ต้องการแพง พอเราขายถูกหน้างอไม่ยอม อยากจะอย่างโน้นอย่างนี้ ก็พยายามกันอยู่ครับ เวลานี้ก็มีพยายาม ผมก็ต้องคิดอยู่เหมือนกัน ไปทางโน้นไปพลังน้ำ ที่นั่นเขาบอกไม่ไหวครับ ทำไมไม่ไหว ไปเจรจาเขาลงทุนกันมหาศาล ไปขอเขาทำไฮโดรเพื่อจะเอาไฟฟ้าเข้ามาประเทศอะไรต่าง ๆ คือซื้อไฟฟ้าเข้ามาทางลาว ทางฝ่ายทางเราทำอย่างไร ตั้งราคากดราคาเสียต่ำ คือเขาลงทุนไปแล้ว แต่กดราคาต่ำ เซ็นสัญญาไม่ได้ จะอ้วกกันเป็นแถวเลย
ผมบอกว่าเรื่องนี้ผมต้องดู จะทำอย่างนี้ได้อย่างไร ทำอย่างนี้ได้อย่างไรมันไม่มีเหตุผล ตอนลงทุนก็ไปลงทุนจะทำถึงจะซื้อจะขายควรจะราคายุติธรรม ทำกับพม่า พม่าก็ต้องได้ ทำกับจีนก็ต้องได้ ทำกับลาวก็จะต้องได้ แต่ปรากฏว่ากำลังนี้ลงทุนไปแล้วเซ็นสัญญาไม่ได้เพราะอะไร เพราะมีการกดราคา นี่มันเรื่องที่ผมเป็นหัวหน้ารัฐบาลผมต้องรับผิดชอบ แต่ผมต้องคิด ผมไม่เลิกคิดครับ อย่างน้ำมันจะขาย เดี๋ยวจะขาย ขายราคาถูกกว่าลิตรละ 8 บาท เดี๋ยวจะมาส่งให้คนนี้ขาย จะมาส่งให้ทางนี้ขาย มารับมาขายเราต้องการ 20 เปอร์เซ็นต์เพื่อจะช่วยคนจน จะช่วยพวกเกษตรกร จะช่วยพวกรถบรรทุก เดี๋ยวจะมาขาย บอกในเมืองไม่ขาย ตรงนี้เกิดความคิดครับ นี่เป็นความคิดครับยังไม่ได้ทำ เดี๋ยวจะมาด่ากันอีก
ความคิดคือว่า ท่านนึกออกไหมครับ แต่ก่อนนี้ปั๊มน้ำมันอยู่ที่หลักเมือง ตราสามทหาร ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตราสามทหาร แต่ก่อนทหารเขาดูแลเรื่องน้ำมันมาก่อน เพิ่งจะไปเป็น ปตท. ก็ไม่นานมานี้ ผมยังคิดเลยครับว่าจะเอาน้ำมันเข้ามานี้ จะให้ทหารดูแลเสียรู้แล้วรู้รอดไป น้ำมันที่จะขายถูกนี้นะครับ 20 เปอร์เซ็นต์ที่จะขายเกษตรกรขายอะไรนี้ ทหารเรือให้ไปดู ให้ไปขาย ให้พวกเรือประมงเลยทางนั้น ทางทหารบกไปขายเกษตร ทหารอากาศขายทางนั้น เพราะอะไรไหมครับ เพราะน้ำมันสำรองของเรา สำหรับฝ่ายทหารของเรานี้ มีได้ไม่กี่วันหรอกครับ แต่ถ้าลองให้ทหารเป็นคนขายน้ำมันอย่างแต่ก่อนนี้ น้ำมันสำรองจะมีได้เป็น 100 วัน ให้เขาสต็อกของเขา ๆ มีแท็งก์ฟาร์มมีอะไรของเขา แล้วให้เขาเป็นคนขาย มีกำไรนิดหน่อย ให้สวัสดิการทหาร นี่ผมคิดนะครับ มาคิดให้ฟังก่อน ผมจะรอดูสิจะมีใครแหกปากต่อต้านคัดค้านอะไรอย่างไรไหม ก็แต่ก่อนทหารก็ดูแลน้ำมัน นี่ 20 เปอร์เซ็นต์ที่อยากจะขายให้คนที่ถูกกว่าลิตรละ 8 บาทนี้ ยังดำเนินการไม่ได้ ยังคัดยังค้านยังโน่นยังนี่ จะให้สเป็คต่าง ๆ ร่ายเลย คนขายก็จะเอาสเป็คดีมา บอกก็เอาของดีมาเผาไปใส่เครื่องยนต์เกษตร ทำไมจะทำทำไม ไม่ได้วิ่งในเมืองไม่ใช่น้ำมันดีเซลวิ่งอยู่ใจกลางเมืองยุโรปอะไรต่าง ๆ ต้องใช้กับเครื่องยูโรวัน ยูโรทู ยูโรทรี จนจะตายอยู่แล้วจะใช้ยูโรโฟร์ อย่างนี้นะครับ ผมก็คิดของผมอะไรต่าง ๆ นี่อย่างผมยังไม่ได้พูดกับทหารนะครับ แต่พูดกับเจ้าของประเทศก่อน ว่าผมจะลอง จะขอขาย 20 เปอร์เซ็นต์นี้ ให้ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ เป็นคนขายเลย ส่งให้พวกนี้ขายแล้วก็มีกำไรเล็กน้อยเป็นสวัสดิการทหาร ดูสิว่าเป็นอย่างไร ดูสิจะมีใครแหกปากอะไรอีก นี่คิดนะครับยังไม่ได้ทำ
ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการไต่สวนในฐานะรมว.กห.ทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
แต่ที่ไม่ได้คิดสิครับอันนี้ ไม่น่าเชื่อเลยครับ ไม่น่าเชื่อ ๆ ๆ นี่ ๆ ๆ มาอีกแล้วครับ มาอีกแล้ว เป็นรัฐบาลไม่ได้อยู่ ไม่ได้มีความสุขหรอกครับ มาอีกแล้ว นี่ ๆ ๆ สำนักงาน ป.ป.ช.ถนนพิษณุโลก เรื่อง แจ้งให้ทราบรับคำสั่งแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวน เรียน นายสมัคร สุนทรเวช ส่งมาด้วยคณะกรรมการที่นั้น ๆ บันทึกคำสั่งรับทราบกรรมการไต่สวน ด้วยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนกรณีมีเหตุอันควรสงสัย ว่าท่านในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยท่านดำเนินการให้นายดวง หรือนายดวงเฉลิม อยู่บำรุง บุตรชายของ ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กลับเข้ารับราชการโดยมิชอบ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ รายละเอียดประกาศสิ่งที่ส่งมา นี่ครับ กล้านรงค์ จันทิก ประธานอนุกรรมการไต่สวน ส่งมาเลย ชื่อกรรมการให้ผมมานี่ กล้านรงค์ จันทิก ประธานกรรมการ พลเอก อาชวินทร์ เศวตเศรณี ร้อยตรี สุรทินฯ นายจิรทิตย์ฯ นายสุรพลฯ นางสาวทองจิตฯ นี่ส่งมานะครับ ส่งมาแล้วว่าอย่างไรครับ บอกว่าผมก็จะต้องทำอย่างไร นี่ ๆ ๆ ผมจะต้องบันทึกรับทราบการแต่งตั้งอนุกรรมการครับ ข้าพเจ้านายสมัคร สุนทรเวช ได้รับทราบสำเนาคำแต่งตั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่เท่านี้ ลงวันที่ 13 สิงหาคม อาทิตย์ที่แล้วนี่เองครับ เรื่องแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยนายสมัคร สุนทรเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดำเนินการให้ นายดวง หรือนายดวงเฉลิม อยู่บำรุง บุตรชายของ ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กลับเข้ารับราชการโดยมิชอบ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ตามหนังสือของ ป.ป.ช.ที่รับ ด่วนมาก ที่ ป.ป.ช. 0013 0012 / แต่ไม่มี ลงวันที่ก็ไม่มี สิงหาคม 2551 จะบอกอย่างนี้เลย จะคัดค้านหรือไม่คัดค้าน เป็นอย่างนี้ ๆ ต้องตอบเขาไป
ไม่น่าเชื่อเลยครับ ทำไมบ้านเมืองถึงเป็นอย่างนี้นะครับ ผมจะไปเตรียมการไปจัดการอะไร ผมไม่นั่นอย่างนั้น ผมเป็นรัฐมนตรีกลาโหม เขาก็ตั้งแท่นขึ้นมาจัดการ มาสุดท้าย เขาก็บอกรัฐมนตรีเซ็น ทุกเรื่องก็จบเรื่อง ก็เขาตั้งแท่นขึ้นมาให้เสร็จเรียบร้อย ผมก็ดูว่าเรียบร้อยต่าง ๆ มันจะกลายเป็นความผิดไปอย่างนี้หรือครับ ดูสิครับ ทุจริตต่อหน้าที่ แล้วบ้านเมืองเสียหาย รับลูกเฉลิม อยู่บำรุง เข้าไปเป็น ก็ถ้ามันไม่ถูกต้องแล้วมันจะตั้งแท่นขึ้นมาให้ผมได้อย่างไรครับ มันตรวจสอบกันมาอย่างไร ตั้งแต่ปลายแถวขึ้นมาจนกระทั่งถึงรัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีกลาโหมเซ็นลงไปอนุมัติก็จบเรื่อง เป็นความผิดครับ ทุจริตต่อหน้าที่ นี่แปลว่าร้อยตำรวจเอก เฉลิมฯ ให้เงินผมหรือเปล่าครับนี่ ทุจริตต่อหน้าที่ ได้เงินจากการนี้หรือเปล่าครับนี่ แล้วบ้านเมืองเสียหายอย่างไรนี่ ก็ไม่แจ้งมาด้วยว่าเสียหายอย่างไร มันเสียหายอย่างไรครับ ต่างชาติได้ส่งจดหมายมาประฌามด่าทอว่ากล่าว ว่ากระทรวงกลาโหมไทยมันเลวทรามต่ำช้า รับลูกอะไรนักการเมืองขึ้นมา อย่างนั้นหรือเปล่าครับเสียหาย ผมเห็นแล้ว ดูแล้วว่าบ้านเมืองนี้มันอย่างไรกันครับ มันจะเอากันอย่างไรก็ไม่ทราบได้ มันประหลาดครับ อาทิตย์หน้ายังมีพูด ยังมีเรื่องอื่นอีกหลายเรื่อง วันนี้ตอบคำถามหน่อย เพราะเขาบอกไม่ตอบคำถามมา 2 อาทิตย์แล้วครับ ตอบคำถามหน่อย ๆ
ตอบคำถามประชาชน
คำถาม ขอบคุณที่ใจดีมาทำอาหารให้ชาวบ้านได้กิน อร่อยมาก ขอบคุณ
คำถาม ขอให้ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งจังหวัดร้อยเอ็ดด้วย
นายกรัฐมนตรี ครับ ๆ ผมจะต้องไปดูให้ว่าเขาเป็นอย่างไรนะครับ จะดูให้
คำถาม อยากให้มีการจัดรายการสัญจรทุกจังหวัด ชอบ
นายกรัฐมนตรี สัญจรอย่างไรละครับ นครสวรรค์ ไม่บอกว่าให้สัญจรไปทำอะไร
คำถาม อยากให้พูดเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ทุกครั้ง
นายกรัฐมนตรี ผมพูดครับเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นหน้าที่ของผม เพราะเหตุว่ามีคนเขาบอกว่ารัฐบาลที่แล้วต้องการทำลายสถาบัน รัฐบาลนี้ก็โดนด้วย พรุ่งนี้เขาจะเป่านกหวีดกันอีกแล้ว จะเอารัฐบาลออกให้ได้ เป็นความผิด ให้บริหารบ้านเมืองอีกวันหนึ่งบ้านเมืองก็บรรลัยวายวอดแล้ว เขาใช้คำว่าฉิบหายด้วยนะครับ บริหารไปอีกวันเดียวบ้านเมืองก็ฉิบหายแล้ว เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้จะเอากัน จะระดมกันมาเลย จะอย่างไรก็ไม่ทราบได้ละครับ แต่ดูแล้วครับบ้านเมืองไม่มีความสงบสุขละครับ มันอย่างนี้
คำถาม นายกฯ มีมาตรการช่วยเหลือจังหวัดสมุทรปราการเรื่องพายุอย่างไร
นายกรัฐมนตรี แหมเรื่องนี้ ก็มันก็ยังไม่เกิดครับ ทางอุตุฯ ก็เถียงกันไปเถียงกันมา ผมนี่เป็นคนหนักหัวอกจริง ๆ คือท่านที่ให้สัมภาษณ์นี้ ท่านเป็นอดีตอธิบดีฯ และท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานของการเตือนภัย ทางหน่วยงานก็เป็นหน่วยงานเตือนภัย ก็เหมือนกับว่าจะต้องไปขึ้นอยู่กับกรมอุตุฯ หรือว่าขึ้นกับใคร ผมก็บอกว่าเถียงกันอย่างนี้ไม่ได้ ท่านก็เชี่ยวชาญท่านบอกท่านเตือน ท่านบอกท่านพูดถูกเรื่องสึนามิ ก็อย่างนี้ละครับ ทางโน้นก็บอกยังไม่ ต่อไปเถียงกันอีกก็ป้องกันครับ แต่ว่าไม่มีทางละครับถ้ามันจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่ทราบจะเป็นอย่างไร ผมไม่ได้หลบเลี่ยงอะไรต่าง ๆ แต่เราเฝ้าดูเหมือนกันจะเกิดอย่างไร นี่ละครับ Storm Surge อะไรต่าง ๆ นี้ก็เฝ้าดูกันอยู่ครับ คนบอกข่าวก็ดีกว่าไม่บอก แต่ว่าบอกแล้วไปกลัวเกรงกันหมด ไม่ทำมาหากินอะไรก็ผิดปกติ แต่ถ้าป้องกันเตรียมพร้อมแล้วก็เอามาก็นั่งรอ นับวันจะมาวันไหน ถ้ามันไม่มาเลยก็ไม่ต้องไปหัวเราะเยาะคนบอก เพราะว่าคนบอกเขาก็ต้องมีหลักฐาน มีสถิตินะครับ
คำถาม ทำไมนายกฯ ยังช่วยค่าไฟเฉพาะมิเตอร์ 5 แอมป์ ซื้อบ้านเมื่อ 10 ปีก่อน ไฟฟ้าติดมิเตอร์ 5 แอมป์ไปแล้ว อย่างน้อยต้อง 15 แอมป์
นายกรัฐมนตรี ก็ 15 แอมป์เขาไม่ใช่คิดเรื่องแอมป์นะ เขาคิดเรื่องที่มันใช้นะครับ เรื่องนี้มาอีกแล้วแบบนี้ คือใช้ไฟไม่เกิน 80 ยูนิตก็ไม่ต้องเสียสตางค์ 80 - 150 ก็เสียครึ่งหนึ่ง อย่างนี้ชอบกลนะ มันจะกี่แอมป์ก็แล้วแต่ ก็ไฟ 15 แอมป์มันไม่เดินเครื่อง ไม่เปิดไฟเลยมันจะไม่ลดได้อย่างไรครับ ถ้ามันไม่ถึง 80 ชอบกล เดี๋ยวผมจะดู แบบนี้เหมือนทีแรกรถไฟต้องมาแก้ไข นั่งอะไร รถไฟสังคม รถไฟพาณิชย์ นั่งไม่เกิน 400 กิโลฯ ผมก็ไม่เคยพูด 400 กิโลฯ จะนั่งไปอุบลฯ 600 แล้วอย่างไร ก็นั่งฟรีไป 400 แล้วไปต่ออีก 200 ก็เสียอีก 200 ดันจะเก็บเขา 600 ชาวบ้านก็มาร้องทุกข์ว่าเขาจะเอา 600 ก็ไปบอกเขาทำไม จะไปแค่ 400 ก็ไป 400 ก่อน แล้วมาลง ไม่ลงก็ซื้อตั๋วตรงนั้น คนเรานี่มันประหลาดจริง ๆ
คำถาม รถเมล์ 6,000 คันเมื่อไรจะเปิดบริการ
นายกรัฐมนตรี เขากำลังเถียงกันอยู่ครับ ยังต้องเถียงกันอยู่ คือเขาก็ไม่อยากให้เราทำสำเร็จ ทำนองนั้นต้องคัดค้าน ผมก็ต้องเอาละให้พรรคร่วมรัฐบาลไปช่วยจัดการดูสิว่าจะเป็นอย่างไร จะปรับปรุงแก้ไขอย่างไร คือทำอะไรมันไม่ได้ทั้งนั้นละครับ จะคิดจะทำจะกระดิกอะไร มันกลายเป็นเลว มันกลายเป็นหากิน ผมไม่ได้คนอดอยากปากแห้งมาจากไหนหรอกครับ แล้วผมไม่ต้องรีบร้อนไม่ต้องทำ วันนี้ยังอยู่ พรุ่งนี้ไป ก็ไม่มีปัญหาครับ ไม่มีปัญหา ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องล่ก ๆ จะทำ ไม่ครับ ไม่เลย กับคดีความจะเป็นอย่างไร จะตัดสินอย่างไร มันทำได้มาทั้งนั้นละครับ ก็เป็นรัฐบาลอย่างนี้สิครับ อย่างนี้อยู่ดี ๆ มาอีกแล้ว ไปรับลูกเฉลิมฯ เข้ามา 1 คน ไม่รู้คุณเฉลิมฯ ช่วยให้สัมภาษณ์หน่อยสิว่าเป็นอย่างไร ผมไปรับลูกคุณเข้ารับราชการผมเดือดร้อนอย่างนี้ ลองดูสิว่าเป็นอย่างไร เวลาคุยแล้วไม่ได้อ่านแล้วเลยไปนี่ ไหนดูสิ
คำถาม ริสแบนด์ที่นายกฯ พูดเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาซื้อที่ไหน
นายกรัฐมนตรี นี่ ๆ ของผมอยู่ที่นี่ เขาก็ส่งไปครับ คือเขาจะทำ 1 ล้านอันครับ อันหนึ่ง 150 บาท ถ้าขายหมด 1 ล้านอัน 150 ล้านจะถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ งานท่านเยอะครับ งานศิลปาชีพอะไรของท่านเยอะ ทำงานอย่างนี้ถวายเจ้านาย ถ้าเผื่อวันที่ 23 ตุลาคม ก็จะมีเหรียญรัชกาลที่ 5 อันนั้นจะทำถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทำเพื่อการนี้ แล้วก็สั่งห้ามบังคับ ห้ามไปขูดรีดใคร จะแย่งกันก็ไม่เป็นไรละครับ คิดว่า 1 ล้านอันพอ จังหวัดหนึ่งได้ 30,000 คือมีสตางค์ 150 ก็เอาก่อนละกันครับ อย่าไปคิดอ่านอะไร ไม่ได้ทำให้แย่ง ไม่ได้อะไรต่าง ๆ แล้วก็ไม่ต้องการจะโฆษณากันแบบ หาเงินหาทองกันมากมาย ทำเพื่อว่าได้ทำงานสมทบทุนช่วยงานเจ้านายที่พระองค์ท่านได้ทำอะไรของท่าน บางทีเอาพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ออกไป เราก็บอกงานอย่างนี้ต้องช่วย ก็หาทุน ถวายอย่างนั้น ๆ ที่ทำงานเพื่ออันนี้
คำถาม อยากเห็นรัฐสภาดูเด่นเป็นสง่า สถานที่ไม่แออัดเหมือนปัจจุบัน
นายกรัฐมนตรี ก็ตรงนั้นก็ไปขอพระราชทานอยู่กันมา เวลานี้หาที่ได้ เรื่องนี้สักวันหนึ่งตั้งแต่เปิดจนปิดพูดเรื่องรัฐสภาอย่างเดียว มันอะไรกันนักหนาไม่ทราบครับ โรงเรียนนี้อยู่เลยไปมุมเดียวกันเลยครับ เลยไป 1,700 เมตร ตัวเดิมที่โรงเรียนสร้างไว้มีอยู่ 8 ไร่ โรงเรียนใหม่มี 16 ไร่ มากกว่าเท่าตัว แล้วก็จะให้เงินไปสร้าง 1,000 ล้าน สร้างโรงเรียนใหม่ แล้วก็บอกไม่เอา แล้วก็บอกว่าไม่ได้ แล้วก็บอกว่าไม่ไปปรึกษาหารือ เราคิดแบบคนธรรมดา อยู่ถนนเดียวกันถนนสามเสน เพียงแต่ข้ามไปถนนประชาราษฎร์ แล้วก็อยู่อย่างนั้น วัดสร้อยทองน้ำท่วม ก็ท้ายแม่น้ำ น้ำท่วม แล้วสร้างโรงเรียนใหม่ใช้เงิน 1,000 ล้านสร้างแล้วให้มันน้ำท่วมนี่บ้าหรือเปล่าครับนี่ คิดอะไรกันไม่ทราบครับ ไม่อยากไปเพราะวัดสร้อยทองน้ำท่วม ก็สร้างโรงเรียนขึ้นมาใหม่ สร้างโรงเรียนไปในน้ำท่วมนี่บ้าไหมครับ ที่เก่ามี 8 ไร่สร้าง 16 ไร่ ให้เงิน 1,000 ล้านไปสร้างใช้เวลา 2 ปี อีก 2 ปีสร้างเสร็จถึงจะไป ไม่ใช่ไปนั่งกระจอกงอกง่อยอยู่ที่ไหน อยู่ที่เก่า จนไหนต่อไหนเสร็จก็เลิกไป ตึกที่ทำนั้นถ้าเผื่อมันไม่ขัดขวางก็จะใช้ทำงานเป็นที่ทำงานของ ก็อาจจะไม่ทุบ อาจจะเป็นที่ทำงานสำนักงานเลขาธิการต่าง ๆ ถ้ามันบังงดงามก็จะเอาออก ถ้ามันไม่นั่นก็ใช้ได้ก็จะใช้ มันอะไรกันนักกันหนาผมไม่ทราบได้ เรื่องนี้
คำถาม สร้างรัฐสภาแห่งใหม่ โดยนักเรียนโรงเรียน ย้ายออกไปภายใน 2 เดือนเป็นความจริงแค่ไหน ถ้าเลื่อนเป็น 1 - 2 ปี
นายกรัฐมนตรี ตกลงเขาจะเอา 1 - 2 ปีละครับ เรียนกันไปให้สบายเถอะครับ ไปสร้างใหม่ แล้วไม่ไปสร้างปากเกร็ดด้วย เขาสร้างอยู่ในเมืองเลยละครับ สร้างอยู่สามเสน อยู่บางกระบือไปสามเสน ร้องอีกไหมครับนี้ เขามีที่ 30 ไร่เขาจะสร้างตรงนี้ใช้เวลา 2 ปี แล้วจะกั้นรั้วก่อน เพราะว่าตรงนั้นเขาจะสร้าง เป็นเนื้อที่จะเอาออกทีหลัง เรื่องนี้พยายาม อะไรกันนักหนาผมไม่ทราบได้ครับ
คำถาม อยากให้นายกฯ สู้ต่อไป โครงการเร่งด่วน 6 มาตรการ โดยเฉพาะรถเมล์ฟรี
นายกรัฐมนตรี เอาละครับ มันบรรเทาต่อไปงานมันเสร็จทุกอย่างเสร็จนะครับ ก็จะทำให้มีงานทำกันเพิ่มมากขึ้น
คำถาม ชื่อเพลงผลิตรายการ
นายกรัฐมนตรี เขาชื่อเพลงโชคมนุษย์ครับ ส่งป้ายแล้ว
คำถาม รถเมล์ฟรีในพื้นที่มีน้อยมาก
นายกรัฐมนตรี ครับ จะทำให้มากขึ้นมาอีกหน่อย สุขาภิบาล 1 - 2 ผมจะจดไว้ ยกป้ายหมดเวลา แต่ว่าวันข้างหน้า บางทีจะต้องพูดเรื่องรัฐสภาทั้งชั่วโมง เอาให้รู้เรื่องกันดีกว่า เอาสักที นี่ทำดีนะครับนี่ แล้วพยายามไม่ให้ใครเดือดร้อน คือทุกอย่างที่เซ็นสัญญากันนี้ คนนั้นไปตรงนั้น คนนี้ไปตรงนี้ เอาที่ตรงนี้มาเพื่อเอาที่แปลงนี้ไป เขายอมไปอยู่ เพราะเขาจะอยู่ตรงนี้ กระทรวงเขาจะอยู่นี่ กระทรวงเขามี 100 ไร่ตรงนี้ เราจะหาที่อีก 31 ไร่ให้อยู่ข้างกระทรวง เขาจะอยู่ข้างกระทรวงตรงนี้ ให้เอาตรงนี้ไป เอาโรงเรียนไปอยู่ที่ตรงนี้ ทุกอย่างนี้ทุกคนเขาเห็นเหตุผลเขาถึงเซ็นกันครับ แหมผมประหลาดใจ ประหลาดใจจริง ๆ ว่าโลกนี้มันอะไรกันนักกันหนา ต้องใช้ว่าอะไรกันนักกันหนานะครับ เอาละครับ เวลาหมดครับ วันอาทิตย์หน้า 08.30 น. พบกันใหม่ วันนี้ลาก่อนครับ สวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--