นายธนา เบญจาทิกุล ประธานอนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค แถลงข่าวการดำเนินงานคณะ อนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายธนา เบญจาทิกุล ประธานอนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค แถลงข่าวการดำเนินงานคณะ อนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ดังนี้
สืบเนื่องจากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายชูศักดิ์ ศิรินิล) ประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ในคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) โดยมีนายธนา เบญจาทิกุล เป็นประธานอนุกรรมการ ซึ่งได้มีการประชุมและกำหนดแนวทางการดำเนินงานของอนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค เพื่อการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตามที่กฎหมายบัญญัติ กรณีตัวอย่าง เช่น การจำหน่ายสินค้าประเภทรถยนต์ใช้แล้ว โดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลากฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2550) เรื่อง ให้รถยนต์ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องจัดทำฉลากสินค้าโดยจะต้องระบุรายละเอียดในฉลากประกอบด้วยวันจดทะเบียน เลขทะเบียน เลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ ยี่ห้อรถ ยี่ห้อเครื่องยนต์ สี ประเภทของรถ ชนิดเชื้อเพลิง ลำดับเจ้าของรถ ภาระผูกพันของรถนต์ที่มีอยู่ในวันจำหน่าย (ถ้ามี) ชื่อประเภทหรือชนิดของสินค้า ชื่อที่อยู่ผู้ประกอบธุรกิจ ขนาดหรือปริมาณ วิธีใช้ ข้อแนะนำในการใช้ คำเตือน วันเดือนปีที่ผลิต (ถ้ามี) และราคา ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่ดำเนินการจัดทำฉลากหรือจัดทำฉลากไม่ถูกต้อง ระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคยังออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจขายรถยนต์ใช้แล้วเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2551 โดยผู้ประกอบธุรกิจขายรถยนต์ใช้แล้ว จะต้องจัดทำหลักฐานการรับเงินโดยมีรายละเอียดประกอบด้วย ชื่อและที่อยู่ของผู้ประกอบธุรกิจ และของผู้มีอำนาจออกหลักฐานการรับเงิน ชื่อและที่อยู่ของผู้บริโภค รายละเอียดของรถยนต์ที่ใช้แล้วเกี่ยวกับ ยี่ห้อ รุ่น ปี สี หมายเลขเครื่องยนต์ หมายเลขตัวถัง หมายเลขทะเบียน ระยะทางการใช้ของรถยนต์ ภาระผูกพันของรถยนต์ (ถ้ามี) และชื่อที่ผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองรถยนต์ จำนวนเงินและข้อความว่า "ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนรถยนต์ใช้แล้วเป็นชื่อผู้บริโภคหรือไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ใช้แล้วให้ผู้บริโภคหรือมีการบอกเลิกสัญญาขายรถยนต์ใช้แล้ว โดยมิใช่ความผิดของผู้บริโภค ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้ผู้บริโภค" กำหนดวันเดือนปีที่ส่งมอบรถยนต์ กำหนดวันเดือนปีที่ส่งมอบสมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์พร้อมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการจดทะเบียนรถยนต์ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด (ในกรณีผู้บริโภคชำระราคาครบถ้วน) หรือกำหนดวันเดือนปีที่ส่งมอบสำเนาสมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (ในกรณีที่ผู้บริโภคชำระราคาบางส่วน) วันเดือนปีที่รับเงินและลายมือชื่อของผู้มีอำนาจออกหลักฐานการรับเงิน ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่ส่งมอบหลักฐานการรับเงินที่มีข้อความตามที่คณะกรรมการว่าด้วยสัญญากำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ เพื่อดูแลคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอาเปรียบจากการซื้อสินค้าหรือบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะนี้จะเน้นสินค้าประเภทรถยนต์ใช้แล้ว เพราะมีการร้องเรียนมากพอสมควร วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2551 ที่จะถึงนี้คณะอนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค จะออกตรวจติดตามผลการจัดทำฉลากรถยนต์ใช้แล้วและหลักฐานการรับเงิน ซึ่งสำนักคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจและให้คำแนะนำในการจัดทำฉลากและหลักฐานการรับเงินมาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว ในการตรวจสอบติดตามผลครั้งนี้ หากคณะอนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภคตรวจพบผู้ประกอบการธุรกิจรายใดไม่จัดทำฉลากหรือจัดทำฉลากไม่ถูกต้อง ไม่จัดทำหลักฐานการรับเงินตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อป้องปรามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจเอาเปรียบ กระทำการละเมิดสิทธิผู้บริโภค
นอกจากนี้ประธานอนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค กล่าวด้วยว่า สคบ.เป็นองค์กรเล็ก ๆ ทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรมหรือการจะให้บริการผู้บริโภคทั่วประเทศที่ถูกละเมิดสิทธิ ค่อนข้างที่จะลำบากเพราะ สคบ. ไม่มีหน่วยงานในต่างจังหวัดเหมือนกรมหรือกระทรวงอื่น โดยมีอยู่ที่เดียวที่กรุงเทพมหานคร ให้บริการพี่น้องประชาชน 60 กว่าล้านคนทั่วประเทศ สคบ. จึงได้เล็งเห็นโดยจะมีการปรับเปลี่ยนองค์กรใหม่ ให้ขยายฐานออกไปตามภาคต่าง ๆ และตามจังหวัดในอนาคต เพื่อให้ครอบคลุมการบริการประชาชน ช่วยเหลือประชาชนผู้ถูกละเมิดสิทธิ ได้มากขึ้น และขณะนี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมีนโยบายในเชิงรุก ให้มีการเข้าหาผู้ประกอบการ ผู้บริโภค ลงพื้นที่ออกตรวจ จับ ให้คำแนะนำ กับผู้ประกอบการที่มีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายธนา เบญจาทิกุล ประธานอนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค แถลงข่าวการดำเนินงานคณะ อนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ดังนี้
สืบเนื่องจากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายชูศักดิ์ ศิรินิล) ประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ในคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) โดยมีนายธนา เบญจาทิกุล เป็นประธานอนุกรรมการ ซึ่งได้มีการประชุมและกำหนดแนวทางการดำเนินงานของอนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค เพื่อการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตามที่กฎหมายบัญญัติ กรณีตัวอย่าง เช่น การจำหน่ายสินค้าประเภทรถยนต์ใช้แล้ว โดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลากฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2550) เรื่อง ให้รถยนต์ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องจัดทำฉลากสินค้าโดยจะต้องระบุรายละเอียดในฉลากประกอบด้วยวันจดทะเบียน เลขทะเบียน เลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ ยี่ห้อรถ ยี่ห้อเครื่องยนต์ สี ประเภทของรถ ชนิดเชื้อเพลิง ลำดับเจ้าของรถ ภาระผูกพันของรถนต์ที่มีอยู่ในวันจำหน่าย (ถ้ามี) ชื่อประเภทหรือชนิดของสินค้า ชื่อที่อยู่ผู้ประกอบธุรกิจ ขนาดหรือปริมาณ วิธีใช้ ข้อแนะนำในการใช้ คำเตือน วันเดือนปีที่ผลิต (ถ้ามี) และราคา ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่ดำเนินการจัดทำฉลากหรือจัดทำฉลากไม่ถูกต้อง ระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคยังออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจขายรถยนต์ใช้แล้วเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2551 โดยผู้ประกอบธุรกิจขายรถยนต์ใช้แล้ว จะต้องจัดทำหลักฐานการรับเงินโดยมีรายละเอียดประกอบด้วย ชื่อและที่อยู่ของผู้ประกอบธุรกิจ และของผู้มีอำนาจออกหลักฐานการรับเงิน ชื่อและที่อยู่ของผู้บริโภค รายละเอียดของรถยนต์ที่ใช้แล้วเกี่ยวกับ ยี่ห้อ รุ่น ปี สี หมายเลขเครื่องยนต์ หมายเลขตัวถัง หมายเลขทะเบียน ระยะทางการใช้ของรถยนต์ ภาระผูกพันของรถยนต์ (ถ้ามี) และชื่อที่ผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองรถยนต์ จำนวนเงินและข้อความว่า "ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการจดทะเบียนรถยนต์ใช้แล้วเป็นชื่อผู้บริโภคหรือไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ใช้แล้วให้ผู้บริโภคหรือมีการบอกเลิกสัญญาขายรถยนต์ใช้แล้ว โดยมิใช่ความผิดของผู้บริโภค ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้ผู้บริโภค" กำหนดวันเดือนปีที่ส่งมอบรถยนต์ กำหนดวันเดือนปีที่ส่งมอบสมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์พร้อมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการจดทะเบียนรถยนต์ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด (ในกรณีผู้บริโภคชำระราคาครบถ้วน) หรือกำหนดวันเดือนปีที่ส่งมอบสำเนาสมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (ในกรณีที่ผู้บริโภคชำระราคาบางส่วน) วันเดือนปีที่รับเงินและลายมือชื่อของผู้มีอำนาจออกหลักฐานการรับเงิน ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่ส่งมอบหลักฐานการรับเงินที่มีข้อความตามที่คณะกรรมการว่าด้วยสัญญากำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ เพื่อดูแลคุ้มครองผู้บริโภคมิให้ถูกเอาเปรียบจากการซื้อสินค้าหรือบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะนี้จะเน้นสินค้าประเภทรถยนต์ใช้แล้ว เพราะมีการร้องเรียนมากพอสมควร วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2551 ที่จะถึงนี้คณะอนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค จะออกตรวจติดตามผลการจัดทำฉลากรถยนต์ใช้แล้วและหลักฐานการรับเงิน ซึ่งสำนักคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจและให้คำแนะนำในการจัดทำฉลากและหลักฐานการรับเงินมาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว ในการตรวจสอบติดตามผลครั้งนี้ หากคณะอนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภคตรวจพบผู้ประกอบการธุรกิจรายใดไม่จัดทำฉลากหรือจัดทำฉลากไม่ถูกต้อง ไม่จัดทำหลักฐานการรับเงินตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อป้องปรามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจเอาเปรียบ กระทำการละเมิดสิทธิผู้บริโภค
นอกจากนี้ประธานอนุกรรมการป้องปรามการละเมิดสิทธิผู้บริโภค กล่าวด้วยว่า สคบ.เป็นองค์กรเล็ก ๆ ทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรมหรือการจะให้บริการผู้บริโภคทั่วประเทศที่ถูกละเมิดสิทธิ ค่อนข้างที่จะลำบากเพราะ สคบ. ไม่มีหน่วยงานในต่างจังหวัดเหมือนกรมหรือกระทรวงอื่น โดยมีอยู่ที่เดียวที่กรุงเทพมหานคร ให้บริการพี่น้องประชาชน 60 กว่าล้านคนทั่วประเทศ สคบ. จึงได้เล็งเห็นโดยจะมีการปรับเปลี่ยนองค์กรใหม่ ให้ขยายฐานออกไปตามภาคต่าง ๆ และตามจังหวัดในอนาคต เพื่อให้ครอบคลุมการบริการประชาชน ช่วยเหลือประชาชนผู้ถูกละเมิดสิทธิ ได้มากขึ้น และขณะนี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมีนโยบายในเชิงรุก ให้มีการเข้าหาผู้ประกอบการ ผู้บริโภค ลงพื้นที่ออกตรวจ จับ ให้คำแนะนำ กับผู้ประกอบการที่มีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--