แท็ก
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
จากวันแม่ถึงวันพ่อ
นายสมัคร สุนทรเวช
สนทนาประสาสมัคร
นายกรัฐมนตรี
สัญลักษณ์
นายกรัฐมนตรีระบุรัฐบาลทำงานสนองพระราชเสาวนีย์ในการดูแลอนุรักษ์ป่าไม้ เตรียมพร้อมจัดงาน "จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี" เดิน-วิ่งธงสัญลักษณ์ทั่วประเทศ
รายการ “สนทนาประสาสมัคร”
โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม 2551 เวลา 08.30-09.30 น.
-------------------------------------
สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่เคารพ ท่านผู้ชมที่เคารพ ท่านผู้ฟังแปลว่ามีออกวิทยุด้วยนะครับ รายการสนทนาประสาสมัครกลับมาเหมือนเคยนะครับ 08.30 น. รายการของผมก็สนทนากันตามสบาย ไม่มีอะไรดุเดือดเลือดพล่าน และเรื่องที่จะทำให้ดุเดือดเลือดพล่านก็ทำได้ครับ แต่บอกไว้แล้วว่าไม่ทำ
รัฐบาลทำงานสนองพระราชเสาวนีย์
เริ่มต้นก็อยากจะพูดเรื่องนี้ก่อนครับว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์ต้องอย่างนั้น ๆ ๆ นายกรัฐมนตรีไม่ออกมาสนองงานอะไรต่าง ๆ เลย ผมจะบอกให้นะ ผมน่ะสนองตั้งแต่พอรับพระวรกายไป ผมถวายคำนับเสร็จ ก็ยังไม่ออกจากห้อง ต้องสนทนากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์) ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วย สนทนากันครับ เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ต้องไปทำงาน เขาก็เอาหนังสือหนังหามาดู มีการตรวจสอบกันดู เพียงแต่ผม ๆ ไม่พูดกับผู้สื่อข่าวระหว่างอาทิตย์ เพราะเรื่องนี้ไปพูดเดี๋ยวก็แปลงไปอย่างโน้นอย่างนี้ ผมไม่พูด ผมกลั่นใจได้ แต่ว่าคุณหญิงกษมา (คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ก็เป็นคนพูดอธิบายความว่าอะไรเป็นอะไรอย่างไร รัฐมนตรีเขาทำหนังสือมาถึงผม เขามีหนังสือมาเล่มโต ผมอ่านแล้ว ผมก็เข้าใจ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องค่อย ๆ อธิบายความ ไม่ใช่โฉงฉ่างพัวะพะ ๆ ต้องอย่างนั้นอย่างนี้ จะแสดงความจงรักภักดีนั้น ก็ต้องค่อยดูว่าอะไรเป็นอะไรอย่างไร ไปอ่านหนังสือ คุณหญิงกษมาฯ ดูแลเรื่องนี้ เป็นคนอธิบายนั่นต่าง ๆ คำอธิบายก็จะต้องไปถึงพระกรรณสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ความเปลี่ยนแปลงจะมีแน่นอนครับ แต่อยู่ตรงไหนอย่างไรแต่ก่อน
อธิบายให้ฟังตรงนี้ก็ได้ครับว่า สมัยก่อนเขาว่าวิชาการไม่มาก เรียนภูมิศาสตร์หนึ่งวิชา เรียนประวัติศาสตร์หนึ่งวิชา ก็อย่างนั้นละครับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านพระชนมายุ 76 นะครับ ท่านก็เป็นคนเก่าแก่ของบ้านเมือง ทรงเรียนมาอย่างไรก็ต้องเอ่ยถึง ใครอายุมากก็บ่นอย่างนี้ทุกคนครับ พวกอายุน้อยเขาก็บอกว่าเขาจะทำอย่างนั้น ๆ คนอายุกลางก็ยังบอกว่า มีรับสั่งมาอย่างนั้น เราก็ต้องดูว่าแล้ว จริง ๆ เป็นอย่างไร ตรวจสอบดู น้อยไปหรือมากไป หรือไม่อยู่ หรือไม่มีเลย คำอธิบายเรื่องนี้ตอบ พรวดพราดกันไม่ได้ แต่ต้องอธิบาย ต้องสนองงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ ไม่เป็นปัญหา
ส่วนงานอื่นที่สนองกันจริง ๆ นั้น เขาอาจจะไม่สนใจ เพราะว่าพอมีนายสมัคร นายกรัฐมนตรี เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแล้ว ก็ละความสนใจไป เพราะอย่างไร เพราะต่อมาก็เป็นการโฆษณาให้รัฐบาลนี้ ซึ่งผมไม่ได้ถือว่าเป็นการจะต้องมาโฆษณาให้ผม ผมทำ รัฐมนตรีอนงค์วรรณ เทพสุทิน เธอเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับสั่งวันที่ 12 สิงหาคม นะครับ วันที่ 16 คือเมื่อวานนี้ไปทำงานใหญ่ สนองงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่รับสั่งหลายขั้นหลายตอนนั้น ไปทำนะครับ เล่าให้ฟังรายละเอียดหน่อยก็ได้
เดินทางไปห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี
ผมก็นัดหมาย ผมไม่ต้องการเอิกเกริก รายการบอกท่านรัฐมนตรีเป็นเจ้าของเรื่องทั้งหมด แต่กรมดำเนินการทั้งที่ตั้งใจจะทำ ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่จะไปร่วมงานด้วย และผมก็ไปของผมธรรมดา ผมไปรถของผมคันหนึ่ง มีรถตามหลังไปคัน 2 คันเท่านั้น ออกจากบ้าน...อยู่ไหน เขาบอกอยู่จังหวัดอุทัยธานี ทำไมเลือกจังหวัดอุทัยธานี เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังเหตุผล แล้วต้องเลือกที่ไหน เลือกห้วยขาแข้ง ผมก็ไม่เคยเข้าไปในห้วยขาแข้ง ผมไปถึงอุทัยธานีหลายหนอยู่ เมื่อเวลาที่สอบถามกัน ผมออกจากบ้านธรรมดา ท่านที่เคยดูหนัง จำได้ไหมครับ Have Gun Will Travel มือปืนพเนจร พระเอกแก่ ๆ Have Gun Will Travel ผมน่ะชอบ ....เพื่อนอเมริกันบอกว่าไม่ใช่หรอก มันต้อง Have Map Will Travel ต้องมีแผนที่ถึงจะเดินทางได้ ออกจากบ้านแต่เช้าเลยหกโมง ลืมแผนที่ ก็เลยแวะปั๊มเชลล์ใกล้ ๆ ขี้เกียจย้อนเข้าบ้าน ซื้อแผนที่ใหม่เปิดมาดู พอดูเส้นทาง คือถ้าวิ่งตรงขึ้น 32 สายเอเชียไปแล้ว ไปเลี้ยวเข้าจังหวัดอุทัยธานี ก็ต้องออกไปทางโน้น ทางนี้ไปหนองฉาง ไปลานสัก ว่าเส้นทางนี่มองเห็น แต่ว่าความที่เราเป็นคนชอบแผนที่ แล้วก็รู้ว่าออกจากกรุงเทพฯ วิ่งไปสุพรรณบุรี จึ๊กเดียวเท่านั้นเอง จากสุพรรณบุรีไปดอนเจดีย์ ถนนเจ๋ง ดอนเจดีย์เลี้ยวซ้ายหน่อยเข้า 333 เลข 3 ตัว จะผ่านอำเภอที่เราไม่เคยไป จะผ่านด่านช้าง บ้านไร่ บ้านไร่ก็ไม่เคยไป ออกจากบ้านไร่ไปถึงไปลานสัก อย่างนี้แน่นอนใกล้กว่า
นี่ความที่ดูแผนที่ก็ไม่มีปัญหา นัดกันสิบโมงครึ่งที่ลานสัก ผมก็ออกไปทางนั้นละครับ ขับสบาย ๆ ไม่เร่งร้อน เพราะดูเส้นทางดูอะไรแล้ว ก็เรียบร้อยดี ไปสุพรรณบุรีก็ปรื๊ดเดียวถึง ผ่านเข้าไปปั๊บก็ผ่านวัดหลวงพ่อ วัดป่าเรไลย์ก็ไปนมัสการพระนเรศวรที่ดอนเจดีย์ เลี้ยวซ้ายเข้าไป และก็เลข 4 ตัว พอออกไปก็ 3 ตัว 333 ตั้งเข็มขึ้นไป ไม่มีปัญหา ทางโน้นดีครับ ขึ้นไป อ๋อด่านช้างหน้าตาเป็นอย่างนี้ ขึ้นด่านช้างเลี้ยวซ้ายเข้าไปบ้านไร่ บ้านไร่หน้าตาเป็นอย่างนี้ พอออกจากบ้านไร่ไปลานสัก 59 กิโลเมตร ไม่ได้ขึ้นเขามา ขึ้นเนินครับ แต่ถนนเป็นถนนชั้น 3 ก็เอาล่ะขับได้แล้วกันครับ แทนที่จะว่า 59 กิโลฯ สัก 35 นาที 30 นาที ล่อไปชั่วโมงกว่า แต่ถึงกระนั้นพอสิบโมงครึ่งเป๊ง พอก็ไปถึงอำเภอลานสัก ถึงอำเภอลานสัก นี่ละข้อมูลคลาดเคลื่อน เป็นนายกรัฐมนตรีนะครับ ไม่ดูตรงปลายหางเท่าไร ต้องออกจากลานสักไปอีก 23 กิโลฯ จากลานสักต้องออกไปเลี้ยวเข้าไปอีกเกือบ 20 กิโลฯ เข้าไปในป่า เข้าไปในห้วยขาแข้ง ที่มีอนุสาวรีย์คุณสืบ นาคะเสถียร นี่ละครับ
ผมก็อยากจะไปดูเหมือนกัน เขาบอกว่าคุณสืบอยู่ตรงนั้น ๆ คุณสืบเป็นลูกชาย คุณพ่อเป็น ส.ส.พรรคเก่าของผม พรรคประชากรไทย คุณสลับ นาคะเสถียร ท่านเคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ต่อมา ๆ ลงสมัครกับผม ลูกชายท่านก็ทำชื่อเสียงอยู่ที่นั่น ขับเข้าไป บางทีเราก็ลืมว่าห้วยขาแข้งเป็นมรดกโลกนะครับ ติดป้ายมรดกโลกเข้าไป โอ้โห ป่าครึ้ม ๆ และก็ได้เจอในสิ่งที่คนอื่นเขาไปกันทั้งหมดไม่เจอ ผมเจอจะว่าอย่างไร รถวิ่งธรรมดา กวางวิ่งตัดหน้า ตัวขนาดลูกม้าครับ สีน้ำตาลเข้ม วิ่งพรวดปรั๊บ ๆ ๆ ๆ ผ่านหน้า ได้เห็น มันอะไร ต้องไปถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าเรียกว่า กวางม้า ตัวใหญ่มากเลยครับ ยังไม่มีเขา วิ่งพรวดผ่านหน้าเลย กลางวันนะครับ ก่อนสิบเอ็ดโมงเศษ ๆ นิดหน่อย ก็เข้าไปก็ได้ดู ก็ไปทำเรียบร้อยดีครับ
เข้าไปในนั้น ไปทำอะไรครับ ไปเซ็นสัญญา กองทัพบกเซ็นไว้แล้ว ที่รับสั่งที่สวนจิตรลดา กองทัพบกร่วมมือ แต่กองทัพบกไม่พอ ต้องกองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ เอามาร่วมมือหมดครับ ร่วมมือกันทำงานนี้เลย ทำงานถวายเลย ทำงานร่วมมือกันอย่างนี้รักษาป่า ดูแลต้นน้ำลำธาร รักษาป่าชายเลน ดูแลหมดครับ เซ็นสัญญา เซ็นที่ไหน เซ็นที่อนุสรณ์สถานสืบ นาคะเสถียร ก็เขาดี ได้เห็นหัวกะโหลกช้าง หัวกะโหลกจริงครับ เอามาตั้งให้ดูหัวเล็ก หัวกลาง หัวใหญ่ ไปเซ็น เขาเป็นเวทีนะครับ ไปนั่งเซ็น ผมเป็นสักขีพยาน และมีการปาฐกถาหน่อย พูดยาวไม่ได้ครับ วันก่อนโดนตำหนิไปพูดที่เมืองทองธานี ยาวไปหน่อย เจ้าภาพวิ่งพล่านไปพล่านมาเลย เพราะว่านายกฯ พูดยาวไป วันนี้นายกฯ เลยพูดสั้นหน่อย ก็เล่าให้เขาฟังว่าอย่างไร เราถึงได้ทำงานกันอย่างนี้
เสร็จแล้วก็มาดู มีนิทรรศการ ก็ได้รู้จักกับผู้คน คนนี้เชี่ยวชาญเรื่องวัวกระทิง คนนี้เชี่ยวชาญเรื่องเสือ คนนี้เชี่ยวชาญเรื่องช้าง คนนี้ปริญญาเอก แล้วเอกอะไร เอกกระทิง เอกเสือ เอกช้าง ของเขามี เขาไปรวมกันที่นั่น พวกสัตวแพทย์ขึ้นไปอะไรต่าง ๆ พอดูนิทรรศการ ก็ได้ซักได้ถามได้อะไรต่าง ๆ ดูเสือก็ได้คุยถึงเรื่องเสือนะครับ เพราะอย่างไร เขาตั้งกล้องสารคดีออกทีวี 2 วัน เขาตั้งกล้องนะครับ ห้วยขาแข้ง มันเขาซ้าย เขาขวา ตรงกลางเป็นหุบ เป็นเหมือน Valley เขามีลำธารวิ่ง เพราะฉะนั้น สัตว์ถึงไปชุมนุมกันไปอยู่ที่นั่น จากหัวถึงหาง 100 กิโลฯ หัวถึงหางนี่ 100 กิโลฯ เขาแสดงการตั้งเลยว่า เขาถ่ายเสืออย่างไร เสือเดินผ่านมาไม่ต้องมาสะดุด ไม่ต้องมีอะไรเดิน เข้ามาเหมือนแสงอินฟาแบบนี้ พอผ่านปั๊บ ก็ถ่ายแป๊บ ๆ ๆ อย่างอื่นด้วย แต่ว่าช่องเสือ เขาเอาเสือ 6 ตัวมาให้ดู นี่เสือ ๆ ของจริงทั้งนั้น เมื่อผมเวลาดูแล้ว ผมก็ถามเขาอย่างนั้นว่า แล้วเสืออ้วนหรือเสือผอม อย่างนี้ เขาบอกอ้วน พออ้วนผมก็บอกแสดงว่าคนโบราณนี่ ผมพูดกับพวกปริญญาเอกเขานะ บอกคนโบราณนี่เก่งจริง ๆ เขาก็ถามว่าทำไม ผมบอกเสืออ้วน โบราณเรียกว่า เสือพี ๆ แปลว่า เสืออ้วน โบราณเขียนว่า เสือพีเพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง หญ้ายังเพราะดินดี” ก็เหมือน “น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย เราก็จิตคิดดูเล่าเขาก็ใจ ปลูกอื่นใยปลูกไมตรีดีกว่าพาล” มีเป็นสุภาษิตทั้งนั้น แต่เสือพีเพราะป่าปก แปลว่า เสืออ้วนเพราะว่ามีหุ้มมันอยู่ ป่ารกเพราะเสือยัง เพราะเสืออยู่ในป่า ป่าถึงเรียกว่าเป็นป่า ดินเย็นเพราะหญ้าบัง หญ้ายังเพราะดินดี นี่คนโบราณนะครับก็บอกเขา
เสร็จแล้วอย่างไร คุยกันเรื่องช้าง แล้วช้างฉลาด ฉลาดครับ ช้างนี่รอบรู้สอนอะไรอย่างไร รู้หมด ผมบอกคุณรู้ไหมว่า ช้างในวรรณคดี อ่านแล้วน้ำตาจะไหลทุกที เขาถามถึงขนาดนั้น ถึงขนาดนั้น บอกคุณไม่เคยเรียนเหรอ เวลาคุณอยู่ ม. 5 เขาจะให้เรียนหนังสือปกสีน้ำตาลเล่มไม่ใหญ่เท่าไร เรียนเรื่องโคลงสี่สุภาพ แล้วก็มีโคลง ๆ ๆ เป็นโคลงเป็นส่วนใหญ่ครับ แล้วจะมีโคลงอยู่บทหนึ่งเป็นโคลงที่พม่ามาตี แล้วก็พระมหินทรากับพระราเมศวรเป็นลูกชาย พม่ามาตี พอเห็นพม่า พม่าทำอย่างไร พม่ามาล้อมเมืองอยู่ และปรากฏว่าน้ำท่วม ตามธรรมดาพอน้ำท่วม พม่าต้องถอยต้องไปหาที่นั่น ต้องขึ้นไปทางเหนือเพื่อจะไปหาที่ปลูกข้าวอะไรใหม่ ทางนี้ลูกชาย 2 องค์ พระเจ้าอยู่หัวก็ออกไปโจมตีเลย พระราเมศวรกับพระมหินทรา เข้าไปโจมตี ปรากฏว่าแพ้ครับ ถูกจับได้ในสนามรบ พม่าบอกว่าไปเอาช้างมา เอาช้างมาแลก อยากจะได้ช้าง ช้างมงคลทวีปกับช้างพลายสีมงคล 2 พลายนี่ แล้วปรากฏว่าลองฟังสิ ผมเลยต้องร่าย ท่องโคลงสมัย ม. 5 ให้ฟัง โคลงดีนะครับ แสดงว่าอย่างไร ผมก็ถามตอนท้ายว่า แล้วตกลงช้าง นอกจากฉลาดแล้ว ยังรักบ้านรักเมือง เขาบอกว่า
ปางมอญมวลม่านกลุ้ม รุมตี
กรุงทราวดี รบเร้า
ทัพไทยบ่ได้มีชัย ณ สนามเฮย
จำล่าทัพกลับเข้า มั่นไว้ในนคร
พลมอญอ่อนสิ้นสะ เบียงอา หารนา
ถอยจากศรีอยุธยา ยาตรเต้า
ทางเหนือเพื่อจักหา โภชน์ภักษ์
ราเมศวรมหินทรเจ้า จู่จ้วงโจมตี
เสียทีศึกจับได้ ทั้งสอง องค์เอย
ปิ่นตะเลงปรองดอง เปลี่ยนช้าง
มงคลทวีปของ จอมจักร พรรดิ์พ่อ
อีกหนึ่งพลายศรีอ้าง ชื่อท้ายมงคล
บันดลสองช้างแปลก เสียงหมอ ครวญเอย
อาละวาดฤาหวั่นขอ เข่นสู้
เหลือมือตะเลงรอ ราส่ง คืนแฮ
ดูแต่ช้างยังรู้ รักด้าวแดนตน
ผมบอกปริญญาเอกช้างว่า ไม่ได้ฉลาดเฉย ๆ นะครับ รักบ้านเมืองของตัวเองด้วย เรื่องนี้พูดกันได้เสมอ พูดกันที่ไหนก็ได้อย่างไรครับ แล้วมาอย่างไร ก็โคลงโลกนิติเขียนไว้ เป็นการสอนเรื่องโคลง ฉันท์ กาพย์กลอน แต่ทว่าได้มีประวัติศาสตร์ซึ่งเราได้ถูกอย่างนั้น และเล่าให้ฟัง และก็ขอแลกช้าง แล้วเอาไปไม่ได้ ก็คืน เห็นไหมครับ ไปแล้วก็ต้องสนทนากับพวกนั้นเขาตามสมควร
ผสมพันธุ์สัตว์ป่าที่หายาก
เรื่องวัวกระทิง ก็ถามว่าตัวนั้นทำไมต้องไปไล่ล่า มันหลุดมาอย่างไร เขาก็บอกว่า พอตัวผู้มันโต อายุมากแล้ว ต้องออกจากบ้าน ต้องแยกวง ผมก็ถามอายุเกิน 18 เหรอ เขาก็เข้าใจดีว่า เด็กอเมริกันอายุ 18 ปี ต้องออกจากบ้าน เขาบอกบางทีมันข้ามโขงแม่น้ำโขงมา ผมบอกอย่างนั้นเลย แล้วผมก็ถามว่า ตม. (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ว่าอย่างไร เขาบอกว่าไม่มี ตม. ไม่ดูเรื่องสัตว์ สัตว์จะข้ามไปข้ามมาไม่เป็นปัญหา ก็ได้รู้ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้นะครับ เสร็จแล้วเขาก็พาไปค่อย ๆ เวลาท่านดูกอล์ฟ ท่านจำได้ไหม เวลาไทเกอร์ วู้ดส์ หรือใครจะตี เขาจะมี บางทีเขาก็ทำมือ เดี๋ยวนี้เขาไม่ถ่ายทำมือ ก็เพียงแต่ยกป้าย quiet please เมื่อวานมีคนยกป้ายเลยครับ โปรดเงียบเสียง ทำไมครับ เดินเข้าไป ลงรถนะครับ ลงรถ 200 เมตร เดินไปอีก 100 เมตร เขาก็มีกรง ละมั่งนี่ครับเป็นสัตว์เกือบจะสูญพันธุ์ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ประกาศพระราชบัญญัติให้ละมั่งเป็นสัตว์.... ห้ามไม่ให้คนเอาไปเลี้ยง ก็มีคนเอามาคืน พอนายสัตวแพทย์เจอเข้ากลางคืน
ก็เอาที่เมื่อคืนนี้จัดการผสมพันธุ์ดูแล ใช้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการผสมเทียม ใช้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องชาติพันธุ์ ไม่ให้มาผสม ไม่ให้มันแต่งงานกันเองน่ะครับ ทำกัน คนนี้ดูเรื่องว่าถ้าสัตว์ส่งเข้าป่าต้องแข็งแรงอย่างไร จะดูเลือด ดูอะไร คนนี้จะดูเรื่องไมโครชิฟจะคล้องดี หรือจะใส่ดี ดูกันหมด 30 ปีครับ คนที่รายงานอายุ 50 กว่า บอกอายุ 20 กว่าเริ่มทำงานนี้ บัดนี้ได้ตัวละมั่งมา 77 ตัว แล้วก็ปล่อยทีละ 8 เขาปล่อยวันที่ 8 ไปชุดหนึ่งแล้ว เขาบอกวันที่ 8 เปิด กว่าจะออกมาดู ออกมาดูลาดเล่าตัวหนึ่ง อีก 8 ตัวกว่าจะออกมา ตั้งนาน นั่งรอกัน ผมไปก็ ท่านบอกว่าเงียบเสร็จปั๊บ ผมก็ตัดเส้นเอ็นปึ๊บเข้าไป ประตูเปิด ออกมาเลยครับ เดินออกมา 1-2-3-4 เรียงเลย ออกมาหมดเลยครับ ออกมาหยุดยืนแล้วก็เหลียวมาดู ช่างภาพก็ถ่ายกันฉับ ๆ ๆ เหลียวมาดูครับ แล้วเขาก็เดินดังกร๊อบ ๆ ๆ ตามกันไปเป็นฝูง เป็นภาพน่าประทับใจมาก ปล่อยเขากลับเข้าไปสู่ป่า เอามาเลี้ยงดูก่อน ให้อยู่ที่กว้าง อยู่ในกรงและออกมาอยู่นอกกรง ให้อยู่ที่กว้างขึ้น ในที่สุดก็เอามาปล่อยสู่อิสรภาพ ผมก็ถามเลย แล้วนี่จะเป็นเหยื่อของเสือไหม เป็น อ๋ออย่างนั้นเหรอ แล้วเสือมันกินอย่างไร เขาบอกเสือมันกิน อาทิตย์หนึ่งกิน 1 ตัว ปีหนึ่งกิน 52 ตัว เขาบอกใช่ แต่มันกิน 5 อย่าง มันกินกระทิง กินอะไร ตัวนี้เป็นตัวสุดท้าย
เพราะฉะนั้น ก็ได้รับความรอบรู้ครับ เสร็จเรียบร้อย ผมก็เกรงว่า แต่เล่าให้ฟังหน่อย เพราะว่าไปถึงกินข้าว ก็นั่งกินกับเขาเลยไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็เกิดบอกแหมนาน ๆ ได้คน ทำกับข้าวทางโทรทัศน์ไม่ได้ มาทำให้ทางนี้กินหน่อย ผมก็ทำ เขาเตรียมไว้หมดละครับ ทำก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ผมก็ทำให้เขา เพราะว่าเขาเตรียมไว้ ผู้คนไปก็ได้กินเปลี่ยนกัน และย้อนออกมาอีก 40 กิโลฯ 40 กิโลเมตรครับวิ่งเข้ามา โอ้โห ตอนนี้มาเจอภาพประทับใจ เด็กอำเภอลานสักและอำเภอใกล้เคียง เขามากัน ป่าไม้เขาเก่งนะครับ เห็นแล้วน่าชื่นชม เด็กทั้งนั้นเลยครับ 10-11-12-13-14-15 ปี ระหว่างนี้ ทำไมครับ ก็จะมาปลูกป่า 35,000 ต้น ปลูกอยู่บนเนินน่ะครับ เป็นพันไร่ข้างบนนั่น ปลูกบนเนินไหล่เขา ทำพิธีกันเชิงเขา ผมเห็นเด็กแล้ว ผมบอกไม่ได้ ๆ ขึ้นไปเวทีแล้วพูดกับเด็กไม่ได้ ผมต้องเดินเลยครับ ทวนนาฬิกาก็ทวนละครับ ลงไปคุย คนนั้นใส่สีชมพู คนนี้ใส่ฟ้า คนนี้ใส่เหลือง แล้วป่าไม้แจกหมวกหมด เขาก็เลี้ยงข้าวกัน มันน่าชื่นชมตรงเด็ก ๆ วีดว๊าดกระตู้หู๊กันทันที ผมต้องเดินเลย ยาวเหยียดเลยครับ เขาอุตส่าห์มากัน แล้วก็ออกมาช้าชั่วโมงหนึ่ง คิดดูสิครับ ฝนก็ตั้งเค้ามา เค้าก็อยากให้เสร็จ ๆ ผมบอกไม่ได้ ไม่มีปัญหา บอกฝนอย่างนี้ตกปรอย ๆ เดี๋ยวพรหมน้ำมนต์ไม่ต้องนั่น
เจอวงอังกะลุง ก็ต้องคุยกับอังกะลุงหน่อย เล่นเมดเลย์เลยครับ เพลง 1 เพลง 2 เพลง 3 เพลง 4 เขาเล่นให้ฟัง ฟังแล้วเดิน ก็ต้องรอ ๆ เสร็จต้องให้จบ แล้วต้องบอกหนูเพลงนี้อย่างนี้ใช่ไหม อันนี้เรียกอย่างไร เพลงบ้านนา แกงส้มถั่วฝักยาว น้ำพริกมะขาม ว่าดีจริง น้องต้องกินหลายชาม มะเขืองามจิ้มกับหลนปลา ทำเข้าท่า ยกเอามาไว ๆ เล่นอังกะลุงให้ฟัง เล่นเพลงอะไร เพลง .... อันนี้ทางใต้ใช่ไหม ใช่ อันนี้อีสาน แคนลำโขง ก็ต้องคุยกับเด็กที่เล่น เดินมาหน่อย อ้าว วงดนตรีโยธวาทิต เด็กอายุสัก 13-14 นั่งกัน 5 คน ใส่หมวกคาวบอย หมวก 7 แกลลอน 8 แกลลอน ใส่ มองเห็นข้างหน้า 5 คน สว่าง มองเข้าไปข้างในทั้งวงเลยครับ แต่งคาวบอยทั้งวงเลย โยธวาทิต คุยอะไร ไม่ค่อยช่างพูดเลย ไม่พูดยังไม่เล่น เดี๋ยวเขาจะเล่นประกอบเพลง เขาจะเล่นประกอบเพลงสดุดีมหาราชา เล่นเพลงสรรเสริญพระบารมี บอกโอเค ๆ ไปก็นั่น
ท่านรัฐมนตรีหญิงเป็นคนรายงาน บอกเอ้ารายงานเลย ปากเปล่าเลย ไม่ต้องไปนั่น รายงานว่าจะทำอย่างไร ผมก็ยังไม่กล่าวตอบ ไปถึงทำพิธีเปิดกรวยเสร็จ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เขามีแจกของไป แจกพวกยังชีพ พวกที่เขาเดินป่า แจกพวกนักกีฬาให้เด็ก ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลา เอ้า พอเสร็จแล้ว ๆ อย่างไร เขาบอกว่าเมื่อสักครู่นี้เห็นฝนตกปอย ๆ ไม่นั่นเลย เพลงสรรเสริญพระบารมี แล้วพอ ผมบอกไม่ได้หรอก เดี๋ยวก็ฝนก็หยุด ไม่นั่นละ ตกลงมาอย่างไร ก็ขอร้อง ผมก็ปราศรัย ก็คุยให้ฟังว่าวันนี้ทำอะไร ทำยังไง ๆ ผมก็ตื่นเต้นครับ ผู้คนมากมายก่ายกอง คนเป็นหมื่นคิดดูสิครับ แล้วมาช่วยกันปลูกป่า ปลูก 35,000 ต้น คนละ 3-4 ต้น ก็เหลือแหล่แล้ว ก็คุยให้ฟังเสร็จเรียบร้อย ถามว่าเอ้าตอนนี้ถึงเวลาร้องเพลงถวายหรือยัง เรียกโยธวาทิต แหม ผมปาฐกถาไม่นานละครับ นักเรียนกลัวฝนครับ วงโยธวาทิตทั้งวงขึ้นรถกลับเลย คือเกินเวลาเขาไปเยอะครับ ไม่มีเพลง ไม่มีเพลงก็เอาดีครับ ร้องเองเลย ผมอยู่หัวแถว ขึ้นมาข้างบนเลย ผมเป็นหัวหน้าต้นเสียง ร้องสดุดีมหาราชา ไม่มีดนตรีครับ เว้นตอนอะไร จังหวะดีหมด ลงตัวเป๊บเลยครับ 2 เที่ยว เรียบร้อยหมดทุกประการ แล้วก็ไปปลูกป่ากับเขา เสร็จแล้วบอกยังกลับไม่ได้ ต้องดูนิทรรศการอีก
รายแรกนะครับ โอ้โห กล้วยไข่ ผมไม่เคยเห็นอะไรงามอย่างนี้ ต้องขออภัยกำแพงเพชร กำแพงเพชรลูกเล็กไปนิดหนึ่ง นี่งามมากเลย แล้วผิวพรรณดี ลูกโตทั้งเครือเลยครับ 13-14 หวี เห็นแล้ว กินเอง 1 ลูก รสชาติดีด้วย ผมก็ทำในสิ่งที่ควรจะทำอย่างยิ่ง บอกตัดข้อมา ยกมาแข็งเลย บอกเอาเลยช่วยกันหน่อย คนละลูก เด็กบ้าง ผู้ใหญ่บ้าง โอ๊ย คนละลูก ๆ น้ำหนักลดไปเรื่อยครับ ถือกล้วยทั้งเครือ 13 หวี พักเดียวเหลือแต่โครงเปล่า ๆ หมดเลยเรียบร้อย จะกลับ บอกยังไม่ได้ ยังไม่ได้ดูนิทรรศการ ต้องไปดูนิทรรศการ ต้นหมากรากไม้ เขาดีนะครับ กรมป่าไม้เขาเอามา นี่อันนี้ทำจักสาน อันนี้ทำสวนครัว อันนี้ดูเรื่องดิน อันนี้เรื่องทอผ้า อันนี้ต่าง ๆ ดูหมดละครับ เสร็จเรียบร้อยถึงจะร่ำลากลับมา ถึงบ้านสี่ทุ่มครึ่ง ออกไปหกโมงเช้า
เล่าให้ฟังไว้เพื่อจะบอกว่า นี่ก็คือคำตอบที่เราไปทำงาน โดยไม่ต้องสัมภาษณ์ แล้วก็รอเอาไว้ ก็ไปวันเสาร์ วันอาทิตย์ก็ได้เล่าอย่างนี้ มันดี จะทำโน้นถวาย ทำนี่ถวาย ไปลงข่าว ลงผิดลงถูกอย่างไรสุดแท้แต่ แต่มาอย่างนี้ จากปากผมถึงท่านผู้ฟังทั้งประเทศดีกว่านะครับ กลั้นใจหน่อย โอ๊ย ไม่สนองงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ มีรับสั่งตั้งแต่วันจันทร์ นายกรัฐมนตรีสมัครไม่พูด ไม่พูด แต่ทำครับ แต่ดำเนินการ โอ้โห ไปดูที่เขาทำสิครับ รับสั่งวันที่ 11 สิงหาคม 12-13-14-15-16 สิงหาคม 5 วัน ออกมาเรียบร้อย มีวีดิทัศน์ให้ดู หมดเลยครับที่รับสั่งไว้ เขาทำสนองงานเสร็จ นี่เป็นป่าตะวันตกนะครับ และต่อไปยังมีป่าตะวันออกอีก 5 จังหวัดนี่ละครับ ระยอง จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี สระแก้ว ป่า 5 อันที่ชนอยู่นั้น นี่ป่าตะวันออก ผมคุยนี้ป่าตะวันตก ยังมีป่าทางด้านเหนือ ก็แปลว่าจะเอาป่าไว้ จะให้มีน้ำไว้ เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟังเวลาตามเสด็จ พวกชาวบ้านบอกว่าดี วันนั้นอยาก ที่จริงควรจะเล่าเรื่องห้วยฮ่องไคร้ ทีนี้ห้วยฮ่องไคร้ก็อย่างว่า มันมีเรื่องอื่นจะเล่า ๆ ก็ไปแล้วก็มีโอกาสผู้คนนั่งอยู่เต็ม ก็เล่าเรื่องว่าเคยตามเสด็จฯ เจ้านายท่านอย่างไร ๆ ก็เรื่องนี้ไม่มีใครเขาเขียนเขาทำหรอก ประสบการณ์ผมนี่ครับ และผมก็เล่าให้ฟังว่าผมถวายงานอย่างไรต่าง ๆ นี่ก็เป็นท่อนแรกที่จะเล่าให้ฟังในนี้ครับ
จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 สร้างสามัคคี
ถัดไปก็เรื่องงาน บอก 116 วันว่าอย่างไร ก็ได้กันมาเรียบร้อยแล้วครับ คือกราบบังคมทูลคร่าวไปให้ทรงเลือกวัน 26-29 สิงหาคม ทรงเลือกวันที่ 30 สิงหาคม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จพระราชดำเนินมาที่ทำเนียบรัฐบาล นี่ละครับ ทรงจากสมเด็จพ่อ สมเด็จแม่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ก็จะมา ทำอย่างไรพิธีการ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ จะเสด็จฯ มาที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดมาหมด 76 จังหวัด ใครจะด้วยก็ตาม ก็จะมอบธง นายกรัฐมนตรีจะมอบธงให้ แปลว่าอย่างไร แปลให้ฟังวันนี้ครับว่า รับธงไปแล้ว ต่างคนก็ต่างเอาไปจังหวัดของตัว เช่น กรุงเทพมหานคร มีอยู่ 50 เขต คือ 50 อำเภอ เหลืออยู่สัก 100 วัน ก็แบ่งเลยเขตละ 2 วัน เห็นไหมครับ ยกตัวอย่างตรงนี้คือว่า มี 50 เขตละ 2 วัน แปลว่าเชิญไปปั๊บ คุณจะเอาธงมาส่งกันตอนเช้า คุณจะมาส่งกันแปดโมงก็สุดแท้แต่ คุณทำพิธี พิธีอย่างไร คุณเอาไปปักไว้ที่เขตของคุณ คุณจะหาที่ฉลอง ถ้าเขตคุณเรียบร้อยไม่ดี คุณจะเอาสนามกีฬาในเขตนั้น คุณเลือกสถานที่เหมาะสม เอาธงไปปัก ถ้าเวลาเขามีไฟพระฤกษ์ เขาเอาไฟพระฤกษ์ไปฉลอง นี่ก็เอาธงไป ไม่ต้องฉลองมากละครับ เอาธงเป็นหลักว่า นี่รับมาจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ แล้วก็จัดงาน
คุณจะจัดงานว่า คุณจะเล่นกีฬาแข่งขันตรงนั้น คุณจะมีหมากในร่ม มีหมากรุก หมากฮอต อะไรต่าง ๆ คุณจะทำกิจกรรมอะไร คุณจะมีการสนทนา สนทนาธรรมก็ได้ หรือจะสนทนาเรื่องปัญหาบ้านเมืองก็ได้ เอาสิสนทนา ใครไม่เข้าใจอย่างไร ตั้งวงสนทนากันเอง อย่าให้ลุกขึ้นมาฟัดกันก็แล้วกัน แปลว่าคนในเขตนั้น ก็แปลว่าตกลงทั้งเขตหมด ไปทางโน้นก็ทางโน้นคนจีนมากหน่อย คุณจะเลี้ยงโต๊ะจีนกันสักมื้อก็ตามใจคุณ คุณเอาไปทำ 2 วัน แล้วคุณก็นัด เข้าแถวแต่งตั้งใส่เสื้อกีฬา ไม่กีฬาสุดแท้แต่ วิ่งกันมาปั๊ป ๆ ๆ ทางโน้นก็รอรับไป ทางนี้ก็วิ่งปั๊ป ๆ ๆ ก็วิ่งจากสายเขต แบ่งกันตรงไหน ทางนี้จะไปบางรัก ก็ไปส่งกันสิ คุณอยู่เขตสัมพันธวงศ์ คุณอยู่เขตตรงนั้น ข้ามฟากไปบางรัก คุณก็ไปส่งกันตรงสะพานเหล็กล่าง (สะพานทิพยเสถียร) สะพานเหล็กบน (สะพานดำรงสถิตย์) ชื่อคล้องกัน คุณก็ไปส่งธงกันตรงนั้น หรือคุณจะเลือกตรงไหน คุณจะส่งตรงหัวลำโพง คุณจะส่งตรงไหน เขาก็มีเขต คือทุกคนรู้เขต ทำพิธีส่งมอบธง แล้วคุณก็วิ่งปั๊ป ๆ ๆ ไป ข้างหน้าก็จะเป็นธงสัญลักษณ์ที่จะไป และก็มีธงชาติ ธงสัญลักษณ์วิ่ง มีธงสมเด็จพระนางเจ้าฯ มีธงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมี 4 ธงแล้วก็วิ่งปั๊ป ๆ ข้างหน้า ข้างหลังก็เป็นธงชาติทั้งหมด หรือคุณจะเอาธงอะไร ธงแดงก่อน ธงแดงวิ่งสัก 4 แถว ธงขาววิ่ง 4 แถว ธงน้ำเงินวิ่ง 8 แถว เสร็จแล้วก็เอาธงอะไรอีก 4-4-4 ก็วิ่งเป็นริ้ว แถวละกี่อันก็สุดแท้แต่ คุณจะเดินก็ได้ เปิดเพลงมาร์ชชิ่งก็ได้ เดี๋ยวนี้วงดนตรีมีทุกเขต คุณก็ทำอย่างนี้ 2 วัน คุณทำไป นี่ก็หมายความว่า พอสุดท้ายก็ถึงวันที่ 3 นัดหมายเลย ท่านผู้ว่าฯ คนใหม่ ถึงตอนนั้นคนใหม่แล้ว คนใหม่ก็รับธงเอามา สุดท้ายมา ก็มาถวายคืนสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรวจพลวันที่ 2 ธันวาคม วันที่ 3 จะสร้างเวที คือไม่ใช้ของท่าน ตั้งเวทีเพื่อมารับธง ทั้งหมดก็มาเต็มกันหน้าลานพระรูปทรงม้า ก็ถวายธงคืน ว่าบัดนี้ได้เอาธงนี่เป็นหลักชัยเป็นสมานสามัคคี
ก็ต้องอธิบายให้ฟังอย่างนี้ครับ เขียนเป็นกระดาษอย่างไร ก็สู้อธิบายความอย่างนี้ไม่ได้ ใครไม่ฟังก็เล่าให้ผู้ว่าฯ ฟัง ไม่อย่างนั้นก็รองผู้ว่าฯ ดูอยู่ ก็เอาไปเล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างนี้ ทีนี้ไปอย่างไร โคราชมี 22 อำเภอ คุณก็ลองหารดูอำเภอละกี่วัน สมมติอำเภอละ 5 วัน ก็ไป 5 อำเภอ ใน 1 อำเภอคุณมีกี่ อบต. ล่ะ มี 5 อบต. คุณก็ไปที่อำเภอก่อน แล้วคุณก็ไป อบต. นี้ ๆ ๆ จังหวัดเล็กก็อยู่หลายวันหน่อย เอาหารจำนวน มีสัก 100 วัน ก็หารกันดู เห็นไหมครับ ผมยกโคราช 22 อำเภอ ไปเชียงใหม่ อำเภอมากก็วันน้อย อำเภอน้อยก็วันมาก อำเภอมากวันน้อย ก็ต้องมีไปดู ไปอบต. ไปให้เขาดู ใช้วิธีอย่างนี้ละครับ แปลว่าทุกคนในบ้านเมืองมีสิทธิ์ออกมาเล่นกีฬาด้วยกัน เล่นกีฬาในร่ม กีฬานอกร่ม เล่นกีฬา ได้คุยได้สัมมนา คุยสัมมนาสามัคคี คุยเรื่องวัดเรื่องบ้าน เรื่องบวร วัด บ้าน โรงเรียน สุดแท้แต่จะทำให้เกิดความเข้าใจกันขึ้นในหมู่ผู้คน เท่านั้นครับ 116 วัน เวลานั่น กว่าจะถึงวันที่ 3 ก็เหลือประมาณ 100 วัน ว่าเลยครับ ดำเนินการ นี่คือสิ่งที่จะได้บอกกันออกไป ทำก็ทำหน้าที่บอกเสียก่อนล่วงหน้า เขาอาจจะมีเอกสารไปตามที่ผมพูดนี่ละครับ นั่นคือเอาธงไปปักเหมือนกับว่าเวลาที่ได้รับพระราชทานไฟพระฤกษ์ ก็เอาไปตั้งไว้ แล้วก็ไปฉลองไฟพระฤกษ์ อย่างนี้ละครับ เอาธงไปฉลอง ระบบอะไรต่าง ๆ มี ท่านรัฐมนตรีมหาดไทยบอกจะฟื้นฟูลูกเสือชาวบ้าน จังหวัดได้เขตหนึ่ง 5 วัน ตรงนั้นบอกมีเลย มีงานลูกเสือชาวบ้าน ฟื้นฟูลูกเสือชาวบ้าน จัดลูกเสือชาวบ้านอบรม มีอย่างนั้นอย่างนี้ กีฬาตอนเย็น เต้นแอโรบิค 3 ชั่วโมงติดต่อกัน ผู้หญิงมา ผู้ชายมา คนแก่เต้นช้าหน่อย คนเด็กเล่นกระฉับกระเฉงหน่อย สุดแท้แต่จะจัดแจง นี่ก็เป็นอันที่สองที่จะเล่าให้ฟังว่า 116 วันจะทำอะไรอย่างไร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคิดทำน้ำมันแก๊สโซฮอล์ในพระตำหนักสวนจิตรลดา
ถัดไปก็มีเรื่องจะต้องเล่าให้ฟังก่อน เมื่อวันนั้นฝรั่งมา ฝรั่งจีเอ็มสำคัญอย่างไร ไม่สำคัญเท่าไรหรอกครับ มันสำคัญตรงที่ว่า แล้วรัฐบาลจะเอาอย่างไรแน่ กับเรื่องพลังงาน รัฐบาลไม่ต้องทำอะไรเวลามันขึ้นรัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไรให้มันขึ้น เวลามันลดรัฐบาลก็ไม่ได้ช่วยให้ลด แต่รัฐบาลก็เฝ้าดู เฝ้าตามดูอยู่ จะเรียนให้ทราบว่าเมื่อเวลาที่น้ำมันขึ้นราคา ทางฝ่ายที่จัดการเขาบอกว่า เอาละไหนคุณผลิตรถเก่ง คุณไปผลิตรถที่แต่ก่อนนี้ 8 กิโลฯ /ลิตร ไปผลิตมาสิ 40 กิโลฯ/ลิตร ทำได้ไหม เขาก็เรียกว่าอีโคคาร์ Economy car นะครับ เติมลิตรเดียวไปได้ 40 กิโลเมตร อย่างนี้ก็ไปทำ คุณทำอย่างนั้นเราจะลดนี่ ๆ ให้ ลดอย่างนี้มีประโยชน์เพราะใช้น้ำมันน้อย ใช่ไหมครับ เคยใช้ 4 ลิตรก็ใช้เหลือลิตรเดียว ลดไป 75 เปอร์เซ็นต์ อย่างนั้นคืออีโคคาร์ ก็ตกลงว่าอีโคคาร์มีส่วนลดให้ เสร็จแล้วบอก น้ำมันที่เรียกว่าแก๊สโซฮอล์ ที่เขาเรียกว่า E20 คือเติมแก๊สโซฮอล์ไป 20 เปอร์เซ็นต์ ใช้น้ำมันเบนซิน 80 เปอร์เซ็นต์ งานนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคิดดำเนินการ 20 กว่าปีมาแล้วนะครับ ผมได้เฝ้าฯ ตอนผมเป็นผู้ว่าฯ กทม. ปี 2543 คิดดูสิครับ เฝ้าฯ มาแล้ว 7 ปีตอนนั้นทำมานาน 10 กว่าปี 20 ปีแล้วที่ทรงทำแก๊สโซฮอล์ อยู่ในสวนจิตรลดาครับ ทรงใช้รถคันเล็ก ใช้คนรถไม่ต้องยี่ห้อ ชี้ให้ดูบอกนี่คันนี้ใช้แก๊สโซฮอล์และผลิตในนี้ โรงงานต้นแบบแก๊สโซฮอล์ผลิตในนี้
สนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ใช้แก๊สโซฮอล์
เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องพูดกันให้เข้าใจ เพราะแก๊สโซฮอล์เดี๋ยวนี้ทำจากอะไร แต่ก่อนเขาทำจากอ้อยส่วนใหญ่เขาไปได้จากโรงงานน้ำตาล เป็นผลพลอยได้ทำแอลกอฮอล์ แก๊สโซฮอล์คือแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง ปรับปรุงเข้ามาผสมกับน้ำมัน แต่ก่อนก็มาจากโรงงานน้ำตาล เดี๋ยวนี้เขาต้องการมากขึ้น เขาก็ตั้ง มีคนจดทะเบียน 42 บริษัท ดำเนินการแล้ว 12 บริษัท ปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลัง ทับที่กันไหม ไม่ทับเลยครับ ภาษาฝรั่งเขาเรียก Yield คือผลผลิตที่ได้ออกมา แต่ก่อนเป็นอย่างไรครับ แต่ก่อน 1 ไร่ปลูกอ้อยได้ 6 ตัน แล้วเป็นอย่างไร มีน้ำได้ 10 ตันก็ว่าดี แล้วบอกถ้าได้ 15 ตันจะดีมาก 15 ตันนี้ อ้อยปีนี้ 73 ล้านตันอ้อย ใช้ทำน้ำตาล 23 เหลือ 50 ทำแก๊สโซฮอล์ มันออกมาอย่างนี้แล้วจะทำอย่างไรได้ มันสำปะหลัง แต่ก่อนบอกเสียบลงไปปลูก ดึงขึ้นมาได้ 1 กิโลฯ ดึงกันนี้ได้ 1 กิโลฯ เดี๋ยวนี้เสียบปลูกไปแบบทันสมัย ดึงกันมาได้ 5 กิโลฯ ต้องขุดขึ้นมา 5 กิโลฯ ได้ 4 - 5 เท่า อ้อยก็ 4 -5 เท่า เดี๋ยวนี้อ้อยเท่าไร 25 ตันใน 1 ไร่ จาก 6 ตันเดี๋ยวนี้เป็น 25 ตัน เพราะฉะนั้นผลผลิตมันเพิ่ม เพิ่มแล้วทำอย่างไร น้ำตาลก็พอแล้ว มันสำปะหลังจะทำอะไรต่าง ๆ เอามาทำพรรค์อย่างนี้ได้ อเมริกันใช้ข้าวโพด ข้าวโพดให้สัตว์กินดีกว่า ของเราทำอันนี้แล้วต้องสนับสนุน แล้วเอาอย่างไร ก็มี E20 E20 แต่ก่อนซื้อมา 100 เดี๋ยวนี้ซื้อมาแค่ 80 แล้วเติมแก๊สโซฮอล์ลงไป เติมเอทานอลลงไป 20 เรียกว่า E20 คนทำรถมา ๆ บริษัททำรถมา ผมทำอย่างนี้ ๆ คุณทำได้นะ ทุ่นไป 20 เปอร์เซ็นต์ เราลดตรงนี้ให้ ๆ คุณผลิตมาเลย
จะลดภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E 85 ให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากอเมริกาและยุโรป
ตั้งรัฐบาลใหม่รัฐมนตรีผู้หญิงของผม พลโทหญิงฯ (พลโทหญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) ไปบราซิลเลย บอกดูที่ต้นฉบับ บราซิลใหญ่โตมโหฬาร ใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม ปลูกอ้อยทำแก๊สโซฮอล์ ของเราเขาบอกวันหนึ่ง ประเทศไทยบอกว่า E85 ผมก็บอกว่าอะไรก็ E20 มันย้อนกลับมา 85 คือเติมไป 20 แล้วถอยมาเติม 15 ได้อย่างไร เขาบอกไม่ใช่ค่ะ 85 นี้เป็นแก๊สโซฮอล์เติมเข้ามา เบนซินเพียง 15 ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อก็เป็นไปได้แล้ว มีอยู่จริง รถมีไหม เป็นปัญหาสังคม พวกผลิตทางเอเชียบอกยัง ๆ ๆ อีก 1 ปีครึ่งถึง 2 ปีถึงจะออกมา แปลว่าเราผลิตแก๊สโซฮอล์ได้ แต่ว่ารถไม่ออก แล้วจริง ๆ รัฐมนตรีหญิงฯ ไปบราซิล ออกครับ เมื่อออกแล้วเป็นอย่างไร ก็น้ำมันเขามี 100 E100 ครับ รถออกมาแล้วครับ รถอเมริกันผลิตยี่ห้อนี้ ๆ ออกมา รถทางยุโรปผลิตออกมา เอเชียจะขอเกือบ 2 ปี จะรอ ผมก็ต้องตัดสินใจผมบอกผมไม่รอ ผมบอกคุณเอารถเข้ามาเลย เอารถเข้ามาเลยผมให้เวลา 1 ปีครึ่ง แปลว่ารถ Import สั่งเข้ามา ภาษีแพงหน่อยแต่เราลดภาษีให้เยอะเพื่อจะดึงดูดความสนใจ ให้เอาเข้ามาปีครึ่งเสร็จแล้วคุณต้องตั้งโรงประกอบ ที่ผมต้องไปกับเขานี้ต้องไปตั้งโรงประกอบ ตั้งโรงประกอบทำไมครับ เขามาทำรถ เขามาตั้งโรงประกอบเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ดีเซล ทำในประเทศไทย ก็ต้องสนับสนุนส่งเสริม
เล่าประสบการณ์การทำงานที่บริษัทรถยนต์อังกฤษ
ตัวประธานจีเอ็มมา ผมก็ไป เอารถมาโชว์ 4 คัน คันแรกก็ E85 เลยครับ อีกคันหนึ่งเป็นรถเขาเรียกว่าไฮบริด แปลว่าใช้น้ำมันได้สองอย่าง สลับกันไปมา อีกคันหนึ่งรถไฮโดรเจน ไม่ใช้น้ำมัน แปลว่าต่อไปนี้น้ำมันแห้งหมดในโลก รถก็มีคันวิ่งได้ครับ ก็คันที่ผมทดลองขับ รถไฮโดรเจนมีอยู่ 100 คันในโลก เขาเอามาแสดงให้ดู เขาก็กลัวว่าผมจะขับรถไม่เป็น ก็ผมขับรถมาค่อนชีวิตผมกำลังนี้ ขับมา 40 ปีเพิ่งจะเลิกขับมาเป็นนายกรัฐมนตรีเขาไม่ให้ขับ วันนั้นไปแสดงผมขับ ทีแรกฝรั่งนั่ง พวงมาลัยซ้าย ก็นั่ง ฝรั่งขับให้ดูหน่อย เราขับเองเลยก็ขับได้ครับ ไฮโดรเจนนะครับ คันแรกที่มาถึงประเทศไทย ผมก็ได้ขับ ดีครับเงียบสนิท ได้ขับ E85 ทางนั้นก็ทำปั๊มเติมเสร็จ ใช้รถใช้แก๊ส ทำอย่างไร ใช้น้ำมันทำอย่างไร เอามาคันหนึ่ง มี Off road คันหนึ่ง ทาโฮ เขามีอิมพาล่าอะไรต่าง ๆ ก็มันดีก็ต้องสนับสนุน ผมก็ปาฐกถาให้เขาฟัง ดีที่เขามีคนแปลให้ฟัง ไม่ต้องพูดภาษาฝรั่ง ปาฐกถาภาษาไทยนั่นหละครับ คุยกับฝรั่งก็คุยข้างนอก ผมก็บอกว่าผมใช้เวลา 9 ปีผมทำงานบริษัทรถยนต์ ผมรู้จักตั้งแต่กันชนหน้าถึงกันชนหลังข้างในถอดเป็นชิ้น ๆ ผมเรียกเป็นภาษาฝรั่งมังค่าได้หมด ผมรู้จักหมดครับ ภาษานั่นเรียกอย่างไร ภาษาไทยเรียกอย่างไร ภาษาช่างเรียกอย่างไร นั่นโตงเตงแหนบ สะดือแหนบ นมหนู สกรูไล ภาษาช่างทั้งนั้นครับ ฟังออก เขาก็ไปบอกว่านายกฯ รู้เรื่องนี้อีกแล้ว ไม่รู้ได้อย่างไรครับทำงานเรื่องนี้มา 9 ปี ผมเป็น Part manager ผมเป็นผู้จัดการแผนกอะไหล่ ชิ้นอะไหล่ รถอังกฤษไม่ใช่รถอเมริกัน รถวูลสลี่ย์ รถเอ็มจี รถมอร์ริส ตระกูลนี้ตายไปหมดเรียบร้อยแล้วครับ แต่ประสบการณ์ในเรื่องนั้นยังอยู่ครับ เพราะฉะนั้นจะพูดจะถามได้ ออกมาจากเวทีก็คุยกับฝรั่งมังค่าได้ เพราะเรารู้เรื่องรถ ฟัง ๆ บอกเขาบอกเมื่อสักครู่นี้พูดรู้หมดเขามีคนแปล เราบอกโมทนาด้วยได้เข้าใจ รู้ว่าเป็นมาอย่างไรทำไมถึงต้องเป็นอย่างนี้
ผมก็บอกผมต้องตัดสินใจ พวกอังกฤษในเอเชียเขาจะว่าผมเฮงซวย ผมก็ต้องยอมรับว่าเอาก็มันมาจ่ออยู่แล้ว น้ำมันใช้เป็นแก๊สโซฮอล์ 85 เติมน้ำมันแค่ 15 ทำไมจะไม่เอา รออีก 2 ปีผมบอกผมไม่รอ จะโกรธก็โกรธ ก็โอเค แล้วต้องลดราคาต้องให้ เขาเรียกว่าให้ Privilege เขาจะได้เอามา เอาละครับใครจะเปลี่ยนรถก็รอนี่ละครับ ก็มันถูกนะครับ คือเขายังไม่กำหนดราคานะ แต่ว่าลดอะไรต่าง ๆ ถ้ามันถูก สมมติน้ำมันอยู่ที่ 40 แล้วขาย 27 - 28 จะดีกว่าไหมครับ มันต้องดีแน่ น้ำมันออกมานี่ก็จะลดไปตามส่วน เพราะฉะนั้นไม่เป็นปัญหาครับ
ปัญหาระบบน้ำชลประทานในพื้นที่การเกษตรจังหวัดอุทัยธานี
ปัญหาของผมอยู่ตรงนี้ครับ ผมพูดให้ฟังเรื่องนี้แล้วผมจะขอย้อนหลังไปนิดหนึ่ง ว่าบางครั้งผมพูดจากความจำของผม ท่านรองผู้ว่าฯ จังหวัดอุทัยธานี ผมบอกเมื่อสักครู่นี้ว่าทำไมผมเลือกจังหวัดอุทัยธานี เดี๋ยวจะเสียไมตรีกับชาวอุทัยฯ บอกมาแล้วบอกวันนี้จะเล่าให้ฟัง เพราะจังหวัดอุทัยธานี ไปฟังท่านรองผู้ว่าฯ ผู้ว่าฯ ท่านไม่อยู่ท่านไปภูฏาน เขาอธิบายความให้ฟัง ฟังแล้วเชื่อไหมครับ จังหวัดนี้มีที่ 44 ล้านกว่าตารางกิโลเมตร แบ่งออกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งอยู่ข้างแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเพาะปลูกเลยครับ แบ่งครึ่ง อีกข้างหนึ่งเป็นป่าครับ เป็นป่าคือป่าห้วยขาแข้ง ทุ่งนเรศวรนี่ละครับ ....นี่ข้างนี้ แล้วนี่ละครับห้วยขาแข้งอยู่ตรงกลาง เป็น Valley ไปตรงกลาง แล้วจากตรงนี้แล้วน้ำแม่วง แม่เปิน เข้าทางด้านหนึ่ง น้ำมาก็ท่วมทางด้านป่า น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาก็ท่วมทางด้านเกษตร ฟังทีแรกท่านรองฯ ท่านบอก จังหวัดนี้ละครับเป็นจังหวัดที่ว่าเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องเลือกจังหวัดนี้เป็นตัวอย่างต้นแบบเลยครับ เขาอยู่กันอย่างพอเพียง อาชญากรรมน้อย อาชญากรรมต่ำ ทุกอย่างดีหมด ที่อื่นมีเฉลี่ย 13 วัด แต่ว่าที่นี่มี 85 วัด แล้วอะไรต่ออะไรอาชญากรรมต่ำกว่าเขาหมด แต่อีกซีกหนึ่งบอก โปรดรับความเห็นใจ ผมบอกผมเห็นใจว่าอย่างไร บอกว่าเกษตร พื้นที่เกษตรทั่วประเทศเข้าสู่ระบบชลประทาน มีร้อยละ 27 จังหวัดอื่นได้เฉลี่ยร้อยละ 27 จังหวัดอุทัยธานีได้ 10 เกษตรนี่นะครับ เกษตรชลประทานที่อื่นเขาได้เฉลี่ย 27 เปอร์เซ็นต์จาก 100 ทางนี้ได้ 10 เห็นไหมครับ ระบบน้ำท่วม น้ำท่วมเกษตร น้ำท่วมป่า แต่ว่าจะสร้างเขื่อนแม่วง แม่เปิน เพื่อจะต้องเอาเก็บน้ำ ไม่ได้ครับ เอ็นจีโอไม่ให้สร้าง ต่อต้านอีกแล้ว น่าสงสารไหมครับแบบนี้
จังหวัดเขา ๆ บอกเลยว่าคนบ้านเขานี้เขานับว่าเป็นคนเศรษฐกิจพอเพียง พออยู่พอกินและอยู่อย่างมีเกียรติ มีป่าซีกหนึ่งต้องรักษาไว้ แล้วมีเกษตรกรรมซึ่งจะต้องดำเนินชีวิต ปลาดังของเขา เรากินปลาอะไรต่ออะไรตามร้าน ท่านไปดู จาระเม็ดหมด มีอะไร ปลาแรด มาตัวที่สามครับ แต่ความจริงมันใช้ได้และมันถูกกว่าตัวอื่น ปลาดีเนื้อดี ปลาแรดตัวโตนะครับ ที่เขากินปลาตัวโตกันนี้ ปลาแรด อยู่ที่นี่ครับแม่น้ำสะแกกรัง เป็นเมืองพระชนกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 อำเภอทับทัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน พระราชทาน พวก Mid road หมากลางถนน ตามสำนวนพระองค์ท่าน Mid road กทม. ตอนผมเป็นผู้ว่าฯ ผมไปสร้าง รับ Mid road ได้ 8,000 ตัว กทม.ไปสร้าง ไปสร้างที่นั่นได้อย่างไร มีบริษัทของ กทม.ครับ ซึ่งแต่ก่อนนี้ชื่อบริษัทสหสามัคคี มีที่อยู่ 1,400 ไร่ สำหรับใช้ สำหรับจะดูแลเรื่องหมู แล้วต่อมาก็เลยไปสร้างวัดสหสามัคคี ไม่ค้าหมูก็ให้ค้าสัตว์ เป็นที่ของ กทม.ครับ ไปอยู่ที่จังหวัดอุทัยธานี อำเภอทับทัน แล้วก็เลยไปจัดการสร้าง ผมทำเลยครับ สร้างมี 8 กรงหมา ตอนนั้นอยู่ที่นั่นตากแดด มีทั้งนั้นละครับ เราเอาหมาจรจัดไปอยู่ แล้วจับแยกกัน ผู้หญิงผู้ชายจับแยกกัน แล้วใครไปดูไปเยี่ยม ก็ดู ตัวนี้ดี ๆ จับคู่เอาพันธุ์เดียวกันมา เอาไปเลี้ยงสองตัว อย่างนี้ก็อยู่ที่นี่ละครับ
จังหวัดอุทัยธานีจะเป็นตัวแทนของความเป็นเศรษฐกิจพอเพียง
แต่ว่าถ้าไปห้วยขาแข้งแล้วก็จะได้แลเห็น เข้าไปทางใต้จากทางสุพรรณบุรี พอเข้าเขตสุพรรณบุรีเข้าไปถึงอุทัยธานีเจออะไร ห้วยแห้ง ตำบลห้วยแห้ง บอกอย่างนี้ก็เสร็จ ตำบลห้วยแห้ง ขับไปอีกนานเท่าไร คลองแห้ง ห้วยก็แห้งคลองก็แห้ง เข้าไป แต่ว่าไปถึงตัวห้วยขาแข้งแล้ว ของเขาชุมชื่น เขารักษา มันไม่ถึงกับป่าดิบชื้นร้อนแบบกับที่บอร์เนียว แต่ของเรามันแห้งครับ แต่ว่าเป็นป่าดิบแห้ง เป็นป่าไม้เบญจพรรณ ไม้ต่าง ๆ ไม้เต็งไม้รัง ไม้ไผ่ แล้วถนนนี้ใครไปซาฟารีเวิลด์จะนึกว่า ถนนดีบ้างเลวบ้าง แต่ว่าถ้าฝนไม่ตกก็วิ่งกันเรียบ ติดถนนกว้างทั้งนั้น นอกนั้นหมดเลย กวางวิ่งตัดหน้าละครับ เล่าย้อนหลังให้ฟังเพื่อจะบอกว่า จังหวัดอุทัยธานีเขามีภาคภูมิใจ เขานี่ละครับจะเป็นตัวแทนของความเป็นเศรษฐกิจพอเพียง พอมีพออยู่ ผมบอกท่านผู้ว่าฯ บอก นี่จังหวัดอุทัยฯ เขาบอกใครมาอุทัยฯ ต้องไม่อุทธรณ์ต้องนอนอุทัยฯ พอไปถึงนั่นแล้วกลับไม่ได้ แยกจากคลองก็เป็นแม่น้ำสะแกกรัง แล้วย้อนกลับมาหาแม่น้ำเจ้าพระยา ของเขาน่าอยู่ครับการพัฒนาต่าง ๆ ถนนหนทางเรียบร้อยดี นอกจากทางที่จะออกมาบ้านไร่ที่ผมไปเลือกเดินทาง ก็เล่าให้ฟังไว้ครับ
ได้ข้อยุติสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ในพื้นที่ 130 ไร่บริเวณแยกเกียกกาย
ต้องเล่าให้ฟังอีกเรื่องยังพอมีเวลา เรื่องอะไรครับ ก็เรื่องของรัฐสภา ผมไปช่วยเขาทำให้มันจบเรื่องได้ ก็เล่าให้ฟังแล้วครับ ที่ดี 200 กว่าไร่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเอาไม่ได้ครับ เขาบอกสหภาพไม่ให้ สหภาพคิดราคามากมายเป็นหมื่นล้าน จะต้องทำอย่างนั้น แล้วให้เช่า 30 ปี รัฐสภาไปเช่า 30 ปีได้อย่างไร ต้องเอาที่ราชพัสดุ ผมดูแลหาแล้ว เขามีที่เขาจะเลือกอยู่แล้วอยู่ที่ปากเกร็ด 200 กว่าไร่ ผมบอกเลือกตรงนี้ 130 ไร่พื้นที่ทั้งหมดได้ 130 ไร่ แล้วทำอย่างไร เขาก็มี ขสทบ. เขาก็จะย้ายได้ คนที่อยู่แฟลตเขาก็จะย้ายได้ มีอุตสาหกรรมป่าไม้เป็นไม้ซุงอยู่ 8 ไร่เขาก็จะย้ายได้ มีที่ที่เขาตกลงกันไว้เขาจะสร้างที่พักของราชองครักษ์ ต้องอยู่ใกล้สวนจิตรลดา จะสร้างที่คนที่อยู่เก่าที่โรงงานทอผ้าเก่าเขาก็ตกลงจะลงเซ็นสัญญาไว้กับกรมธนารักษ์ เขามีชุมชนเล็ก ๆ แล้วเขาก็มีโรงเรียนอยู่มุมหนึ่ง โรงเรียนโยธินบูรณะ ผมไม่มีโอกาสจะอธิบายให้ เพราะตั้งใจจะทำให้เสร็จ คุณหญิงกษมาฯ (คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ท่านก็ดูแลเรื่อง เขาแบ่งงานกันหมดครับ ผู้บัญชาการทหารบกยังมาร่วมประชุมเลยครับ ปลัดกระทรวงกลาโหมมา
การบริหารจัดการโยกย้ายหน่วยงาน-ประชาชนไปยังพื้นที่ใหม่ใกล้บริเวณเดิม
ผมไปช่วยเขาจบได้เพราะผมเป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร้อยละ 90 ของกลาโหม ผมก็การันตีกับกลาโหม ว่าตกลงตามนี้ค่าชดเชยต่าง ๆ ผมยืนยันผมเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันได้ว่าผมสั่งงานกับทางสำนักงบประมาณ ก็ดำเนินการให้เสร็จ ปลุกระดมกันคนโน้นคนนี้ เขาต้องจัดการโยกย้ายหมด ทำไม เขามีที่ 25 ไร่อยู่วัดสร้อยทอง อยู่ห่างจากตรงมุม มุมเกียกกายวัดสร้อยทอง 1,700 เมตร มุมเกียกกาย และข้ามสะพานพิบูลสงครามไปบางโพ แล้วเลยไปหน่อยก็ถึงวัดสร้อยทอง ไม่ได้อยู่ในวัด อยู่ทางมุม อยู่ถนนหัวมุม หัวโค้งเหมือนกันที่ 25 ไร่ ก็ผมไปหักคอกระทรวงกลาโหมเขา บอกเอา 25 ไร่มาเดี๋ยวผมไปหาที่ 30 ไร่แทนให้ มาคิดอย่างนี้ เพื่ออะไร โรงเรียนโยธินบูรณะเขามี 8 ไร่ ผมบอกให้ 16 โรงเรียนเก่ามี 8 ไปให้ 16 สร้างใหม่ ให้เงิน 1,000 ล้านไปสร้างโรงเรียนใหม่ ไปโรงเรียนไปไกลเพียง 1,700 เมตร บอกว่าอ้างมีคนไปยุยงบอกนักเรียนต้องเดินทางไกลขึ้น แล้วคนมาจากทางด้านบางซื่อไม่ใกล้เข้าหรือ 1,700 เมตรเท่านั้นละครับ แยกเกียกกาย แยกบางโพ แล้วก็ถึง 1,700 เมตร มีคนไปปลุกระดม คุณหญิงฯ ท่านก็เจรจาพูดกับผอ. ผอ.ก็พูดกับนักเรียน เอานักเรียนทั้งโรงเรียนมาบอกว่า ให้นักเรียนมาพูดจาหาว่าไม่หารือ บอกเรื่องพรรค์อย่างนี้ไม่ต้องหารือ ก็คุณมีอยู่เก่า 8 เราจะสร้างให้ใหม่ 16 สร้างใหม่ทั้งโรงเรียน อีก 2 ปีถึงจะไป โยธินบูรณะจะอยู่ เขาจะวางศิลาฤกษ์กันใหม่ เพราะที่ตรงนี้เพียงจะเอาออกจากมุมไปเท่านั้น ชาวบ้านให้สัมภาษณ์ช่อง 6 นี่ละครับ ปีละ 2,000 ล้าน สัมภาษณ์ชาวบ้านต่าง ๆ จะทำอย่างไร จะให้ไปอยู่นอก จะให้ไปอยู่ปากเกร็ด ได้อย่างไร แล้วให้อยู่ที่ไหนครับ ข้ามถนน ถนนเกียกกาย อยู่ตรงนี้ข้ามเกียกกายไป เดิมจะได้ 4 ไร่กว่า เราทำ 7 ไร่กว่า ข้ามเกียกกายไปก็อยู่ข้างวัดแก้วฟ้าจุฬามณี จะสร้างแฟลตให้อยู่เรียบร้อย เดินข้ามถนนไปเท่านั้นละครับ
ข้อเท็จจริงก็ต้องรู้ก็บอกกันไว้ แต่มีคนปลุกระดมบอกจะถูกไล่ไปอยู่อำเภอวัดสลาก ทหารเขาจะไปอยู่วัดสลาก ทหารเขาไปอยู่วัดสลากอุทิศเขาบอกไกลไปหน่อย เขาไปหาที่ของเขา 30 ไร่ โรงเรียนของเขาล่ะ โรงเรียนเขาจะไปสร้างไหม เขาบอกไม่ เขาบอกสร้างตรงนี้ แถว ๆ สามเสนเขาหามาแล้วเรียบร้อย ตกลงได้ แฟลตจะไปก่อนไหม จะไปก่อน ผมมี ผมเป็นคนจัดการให้ว่า ผมมีบ้านเอื้ออาทร เสร็จเรียบร้อย จะไปอยู่ ครอบครัวใหญ่ให้ 2 แฟลตเลย ครอบครัวเล็ก 1 แฟลต ไปอยู่ก่อนเลย 1 ปี - ปีครึ่งจนกว่าจะสร้างแฟลตที่ปากเกร็ดเสร็จ เห็นไหมครับ ก็เขาตกลงกัน 260 ไร่อยู่ปากเกร็ด แล้วได้มาตรงนี้ 130 ไร่ เอาครึ่งเดียวก็พอ เพราะที่เดิม 27 ที่นี่ 130 อยู่ริมน้ำครับ ต่อมาจะมีสะพานข้ามจากจรัญสนิทวงศ์ข้ามมาทางถนนทหาร จะร่นซ้ายร่นขวาก็จะได้เป็นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างรัฐสภา ยุติลงได้จบกันหมดครับ
เตรียมวางศิลาฤกษ์อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ภายในเดือนธันวาคมนี้
ขอบคุณเจ้าของมีที่เอกชนอยู่แปลงเดียว 3 ไร่กว่า ท่านรองนิคมฯ ท่านไปเจรจาความไปตามหาเจ้าของให้ เขาจะเอาราคาแพง บอกว่าถ้าเห็นแก่ราชการเขาก็ดูราคาลงมาต่ำให้ ราคาก็หลายหมื่นครับ แต่เราต้องซื้อได้ ชิ้นเดียวที่จะต้องซื้อตรงนั้น แต่เราต้องทำอย่างไร เราต้องไปซื้อที่อีกชิ้นตรงนั้นให้กระทรวงกลาโหม เอา 25 เขาไปอยู่ตรงโน้น 30 แล้วจะได้เอาโรงเรียนโยธินฯ 8 ให้ไปอยู่ 16 เอาราชองครักษ์ 4 ให้ไปเลย 7 ไปสร้างอยู่ตรงนั้น ไปซื้อที่ตรงนั้นเพื่อตรงนี้ออก ๆ ทำเสร็จหมดครับ ทุกคนต้องพอใจเพราะไม่ได้ไกลไปจากที่เลย บางรายย้ายจากตรงนั้นย้ายย้อนกลับเข้ามากิโลฯ เดียว อยู่เข้ามาในเมืองเข้ามาอีกด้วย เราทำให้เสร็จหมดครับ อย่างนี้เขาบอกไม่ฟังเสียงใครจัดการเซ็น ทำไมจะเซ็นไม่ได้ครับ ผมเป็นคนออกแบบรูปแบบให้ ต้องบอกท่านเลขาธิการสภาฯ คุณต้องเซ็นสัญญาหมดว่า สัญญามีกี่ข้อ ๆ ท่านประธานจับออกมาหมด ประชุมกัน เลิกแล้วต้องกินเลี้ยงกันเพื่อแสดงความยินดีว่า 16 ปี 16 ปีแห่งความหลัง พอ ๆ กับสุรพลฯ (สุรพล สมบัติเจริญ) สุรพลฯ น่ะ 40 ปีแล้ว สุรพลฯ เขา 2 -3 วันเขา 40 ปีจากไป แต่สภาฯ นี้ 16 ปี ก็เพลงสุรพลฯ 16 ปีแห่งความหลัง
เสร็จนะครับ ตรงนี้ลงมือเลย แล้วจัดการเสร็จเพียงแต่ว่า จะเอาตรงนั้นเขาบอกยังไม่ต้อง กั้นรั้วได้ โรงเรียนโยธินฯ กั้นรั้วแล้วจะเป็นที่ปรับราบไปหมดเพื่อจะได้วางศิลาฤกษ์ จะทำให้ได้ตอนปลายเดือนธันวาคมนี้จะทำให้ได้ เขาได้ลงมือก่อสร้าง ก่อสร้างไปเสร็จออกแบบไปเสร็จพอถึงนั่นปั๊บ แฟลตทางโน้นเสร็จเขาก็ทุบตรงนั้นออก มีโรงเรียนย้ายก็เอาโรงเรียนออก ก็จะได้รัฐสภา ถนนสามเสนตรงนั้นก็กั้นให้กว้างขึ้นกว่าธรรมดาหน่อย เห็นไหมครับ ถ้าใครไปลอนดอน ข้ามสะพานเวสมินเตอร์ทางซ้ายก็ซ้ายรัฐสภาอังกฤษ ต่อไปสะพานนี้ยังไม่ได้รับพระราชทานชื่อ จะข้ามตรงนี้ จากจรัญสนิทวงศ์ข้ามมานี้ บางอ้อ แล้วข้ามมาก็มาลงที่เกียกกาย อังกฤษข้ามสะพานเวสมินเตอร์รัฐสภาอยู่ซ้าย ข้ามสะพานไทยยังไม่มีชื่อ รัฐสภาอยู่ขวา ก็อยู่ในใกล้ ๆ เมือง ไม่ไกลจากศูนย์บริหารงานของบ้านเมืองต่าง ๆ ก็ต้องทำให้เสร็จครับ ต้องตัดสินใจ
ที่ดิน 130 ไร่บริเวณเกียกกายเหมาะสมสร้างรัฐสภาแห่งใหม่
ผมก็ไม่ได้คิดว่าเป็นหน้าเป็นตาอะไรของผม แต่ผมมีหน้าที่ต้องมาเล่าให้ฟัง ท่านประธานชัย ชิดชอบ ท่านประธานวุฒิสภา ผมนายสมัครฯ ร่วมมือกันประชุม ท่านผู้บัญชาการทหารบกมา ทหารมาหมดเลยครับ หน่วยนี้มา ราชองครักษ์มา เพื่อตกลงเซ็นสัญญากันหมด เซ็นสัญญากันหมด ตกลง เซ็นแล้วเรียบร้อยแล้วครับ ดำเนินการกันแล้ว งบประมาณมีแล้ว แปรญัตติไว้เสร็จเรียบร้อยแล้วเพื่อปีนี้จะเริ่มได้ แล้วก็จะเริ่มก่อสร้าง ถ้าเสร็จได้ภายใน 84 ก็จะได้มีงานฉลองกันนิดหน่อย จะเริ่มลงมือภายใน 3 ปีจะก่อสร้างให้เรียบร้อย โอ้...บ้านเมืองจะแย่ จะทำอย่างไร จะต้องอย่างไร จะอยู่อย่างไร ก็ตรงนั้นเป็นที่พระราชฐาน ไปขออยู่ชั่วคราว แล้วก็เป็นรัฐสภาไม่มีที่อยู่เป็นของตัวเอง ไม่ได้ทำ นี่ละครับ ทำเสร็จทั้งหมดราชพัสดุ ก็ทางฝ่ายกรมธนารักษ์เป็นคนดูแล รัฐสภาก็จะอยู่ไปตลอดชั่วลูกหลาน จะอยู่อีกกี่ร้อยปีก็เป็นของกรมธนารักษ์ ก็คือเป็นของรัฐบาล เป็นของรัฐสภา ตัดสินใจทำครับ 265 ที่คลองเตยไม่ได้ก็ไม่ว่ากัน แต่ว่า 130 ที่เกียกกาย กำลังพอดีกำลังพอเหมาะ กำลังพองาม เรียบร้อยครับ เห็นไหมครับเรื่องพรรค์อย่างนี้ก็ต้องเก็บมาเล่าให้ฟัง มาตอบคำถามหน่อย เดี๋ยวจะว่าโอยเล่าแจ๊บ ๆ ไป
ป.ป.ช. รับเรื่องร้องเรียนกรณีกล่าวหาอธิบดี กปส.- ผอ.สถานี NBT ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
นี่ครับต้องขอประทานโทษ ผมทำให้ท่านอธิบดีและผู้อำนวยการกองเดือดร้อน เพราะอะไรครับ ข่าวจากการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม วันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีเรื่องสำคัญที่ควรจะแถลงให้สื่อมวลชนทราบ 2 เรื่อง 1. เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีมีผู้กล่าวหาร้องเรียนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT ปฏิบัติการหรือละเว้นปฏิบัติการโดยมิชอบ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้หนึ่ง กล่าวหา อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้อำนวยการฯ ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ ปล่อยให้มีคนนี้ พวกนี้ ๆ มาจัดรายการออกอากาศชื่อรายการความจริงวันนี้ ออกออกอากาศพูดเอาได้ข้างเดียวที่ข้อเท็จจริงผิดวิสัยสื่อมวลชนชั้นดี อันเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่าคำกล่าวหาร้องเรียนเป็นไปตามหลักเกณฑ์มาตรา 84 ประกอบมาตรา 85 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปราบปรามทุจริต 84 12 จึงรับพิจารณาแต่งตั้งอนุกรรมการให้ นางสาวสมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน มีศาสตราจารย์เมธี กองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นอนุกรรมการอยู่ด้วย
ผมจะบอกให้ฟังครับ ผมเป็นนายกรัฐมนตรี มีโทรทัศน์ที่เรียกได้ว่าโทรทัศน์รัฐบาลอยู่ช่องนี้ ใช้อย่างกระเหม็ดกระแหม่ คือว่าอาทิตย์หนึ่ง ผมขอใช้อาทิตย์คุยของผม แล้วเขาก็มีภาคเอกชนมาช่วยจัดการ รายการชื่อความจริงวันนี้ ใครฟัง 4 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม ตอนนี้เลื่อนไปหน่อยเพราะโอลิมปิกมาแทน เขาพูดจาดีไหมครับ เขาพูดดีมีเหตุผล เรียบร้อยไม่ดูถูกดูหมิ่นใคร แล้เขาก็กล้าเชิญมาให้มาชี้แจง ไม่มาชี้แจง แต่มีประชาชนคนหนึ่งไปร้องทุกข์ เรื่องไหนละครับ ก็เรื่องของ ป.ป.ช. นี่ละครับ ที่ล่อกันมาไม่รู้จักจบ มีเหตุผลไหมครับ เขามีเหตุผล แต่เอาเถอะ ป.ป.ช. จะอ้างอย่างนี้ก็เอา ป.ป.ช. จะเอา แต่ทำเพราะว่าอายที่เป็นเรื่องของตัวจะต้องถูกมาแฉเรื่องอะไรต่าง ๆ แล้วเวลาที่พวกท่านแสดงอาการละเมิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ เอาเถอะเขาแฉกันอย่างนั้นผมไม่เอามาร่วม ไม่เป็นไร แต่ผมจะถามสิครับว่ารายการความจริงวันนี้ออกอากาศคืนละ 45 นาที อาทิตย์ละ 6 คืน กับรายการโทรทัศน์อย่าง ASTV ออกอากาศ 24 ชั่วโมงเหมือน Reality show ด่าทอหยาบคายว่ากล่าวต่าง ๆ ไม่มีใครเขียนจดหมายไปถึง ป.ป.ช. ไม่มีใครเขียนอะไรอย่างไรเลย นี่เขาส่งมาให้ผม ที่บ้านมีอีกปึ๊งหนึ่ง สูงเป็นคืบครับ
สถานีโทรทัศน์ ASTV ใช้ถ้อยคำหยาบคายว่ากล่าวนายกฯ
หน้าซองผมจะอ่านหน้าซองให้ฟังครับ คือพวกที่บรรเลงกันทั้งหลายที่อยู่สะพานมัฆวานฯ นี่ สนธิ ลิ้ม รัฐบาลสัตว์นรกนี้อยู่ต่อไปอีกแม้วันเดียวก็ฉิบหายแล้ว นี่เทปนี้ เนื้อหาเขาโค้ดออกมาให้เลย นี่อย่างนี้เห็นไหมครับ ดูนะครับ สนธิ พิภพ สมศักดิ์ สมเกียรติ รัฐบาลสัตว์นรก นี่ม้วนนี้ สนธิ ลูกจีนรักชาติ ลูกพระยาขายชาติ นายกฯ ชาติชั่ว นี่อย่างนี้ครับ สุริยะใส นี่ตอนนี้ ตอนตีสอง จำลอง สนธิ สมศักดิ์ เวลาเท่าไร ตอนค่ำ 14 เดือน 8 ตีห้าสิบเอ็ด นี่อย่างนี้ Track 3 วัชระ เพ็ชรทอง ด่านายกรัฐมนตรีหยาบคายมาก เห็นไหมอย่างนี้ครับ ดูนี่ ๆ แหมสุดแต่จะพูด ผมจะบอกให้ท่านที่ส่งนี่มาให้ ผมได้รับ...นะครับ แต่บังเอิญผมได้ฟัง เมื่อคืนผมก็ได้ฟัง เมื่อคืนตื่นมาตี 3 มีอาการทำไมซี่โครงเดาะ นั่งรถไกลหรืออย่างไร ซี่โครงเดาะ นอนไม่ค่อยนั่นซี่โครงยอก ออกมาเปิดวิทยุฟัง ตี 3 เขาบอกว่ากำลังมีจันทรคราส จันทรคราส ใครเป็นคนบรรยาย พวกสะพานมัฆวาน จันทรคราสบอกเลย อย่างนี้นี่ดับแล้ว บ้านจันทร์ส่องหล้าดับแล้ว ยกมือไชโย
แล้วต่อไปอย่างไร ด่านายสมัครฯ หยาบคาย สาดเสีย เทเสีย สำนวนอย่างเมื่อสักครู่นี้ละครับ ต้องเอาสัตว์นรกนี้ออกจากทำเนียบฯ ให้ได้ รัฐบาลสัตว์นรก นี่อย่างนี้ครับ แล้วอย่างนี้ ป.ป.ช. ไม่คิดหรือครับว่าคนอย่างนายกรัฐมนตรีมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์เหมือนกัน ด่าหยาบ ด่าคาย ด่ามาแล้วเป็นปีครับ เวลาจะไปจัดการเข้าเขาก็ไปร้องศาล แล้วศาลท่านก็บอกว่า ศาลคุ้มครอง แล้วศาลก็ตัดสินบอกให้เขาทำได้ ต้องไปร้องขึ้นศาลข้างบนอีก ศาลสูงสุดก็ยังคุ้มครองกันอยู่ ยังคุ้มครองให้ด่าคนอื่น อย่างชนิดต้องฟ้องกันไม่มีวันจบ สาดเสียเทเสีย ชี้หน้าว่าไอ้รัฐบาลสัตว์นรก ต้องออกไปจากทำเนียบฯ อยู่ไปอีกวันหนึ่งบ้านเมืองก็ฉิบหายแล้ว ถ้อยคำอย่างนี้ไม่เป็นไรนะครับ แต่ว่า 3 คนที่เขาพูดกันในโทรทัศน์ผมก็ฟัง เขาพูดเข้าใจ เขาต้องใช้สำนวนที่คนอื่นเขาพูด เขาบอกเขา Classic ข้อมูลเขา Classic อธิบายความดัง ๆ เป็นที่เข้าใจ ไม่เหยียบย่ำไม่ดูหมิ่นอะไรต่าง ๆ อธิบายด้วยเหตุด้วยผล อย่างนี้ไม่ได้นะครับ อย่างนี้ต้องสำนวนผมที่เคยใช้ละครับ
ผมคิดว่าอย่างรายการความจริงวันนี้เป็นรายการที่ทำดีนะครับ รายการอย่างนี้เรียกว่าทำดีอัปรีย์กินหัวนะครับ เพราะว่าด้วย ป.ป.ช. ตั้งกรรมการเล่นงาน แต่การทำชั่วอย่างรายการ ASTV ออกอากาศ 24 ชั่วโมง ด่าหยาบ ด่าคาย แม้กระทั่งคนที่ว่าตัวเป็นพระก็ด่าด้วย เมื่อเช้าพระก็ด่าครับ สมณะที่เขานั่นน่ะ ประกาศเลยครับ อธิบายความเลยว่าบ้านเมืองจะต้องจบ อย่างไรจะต้องอย่างไร เรียกร้องคนมาให้เป็นล้านอย่างไร ต้องเอาให้ได้ จะต้องอยู่ นับกันเลยให้กี่เดือนกี่อะไร ต้องล้มรัฐบาลนี้ให้ได้ เวลาใกล้เข้ามา พระนะครับ แต่งตัวอ้างว่าเป็นพระ สมณะนี่ละครับมีพรรคพวกอยู่เป็นแสนทั่วประเทศ ที่ปลุกระดมกันได้ ที่ผมบอกแล้วบอกอีกว่าวันหนึ่งจะยึดศาลากลางแล้วก็จะเอาทหารออกมา
กลุ่มพันธมิตรจ้องล้มรัฐบาล
ผมอธิบายให้ฟังได้เลยครับ ผมมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลบ้านเมืองนี้อยู่ ผมจะบอกให้ฟังสิ่งที่จะทำไว้ ผมติดตามโดยตลอด จะล้มจะคว่ำให้อย่างไร เอาเถอะครับ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ของบ้านเมืองนั้นไม่ได้อยู่กับพวกท่าน แต่คนที่ท่านสั่งสมกันมา 40 ปีนี้ คณะหยุดวันพุธ กินนอนกันเกลือกกันนั่นน่ะ คณะนี้ละครับที่ถูกให้เลิกไปแล้ว ทางมหาเถระสมาคมสั่งให้จัดการ ก็ยังดื้อด้านขึ้นมาต่อสู้ แล้วมีคนไปสนับสนุน มีคนระดับที่เป็นนายพลตรีไปอยู่ข้างหลังเรื่องนี้ แล้วจะใช้กำลังพวกนี้ล้มล้างรัฐบาลให้ได้ ผมกล่าวหาอย่างนี้เลย เพราะการสอบสวนของเรามีอยู่พร้อมหมด ทำกันไป คิดว่าทำกันไป นักรบศรีวิชัยอย่างโน้นอย่างนี้ไปทำ กลางคืนผมก็นั่งนอนฟังดู ผมต้องฟังครับ ดุด่าว่ากล่าวอย่างไรผมต้องทนฟังได้ หยาบคายถ้อยคำต่าง ๆ ขึ้นศาลแล้วจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่ทราบได้ละครับ เพราะเราแน่ใจเลยว่าศาลนั้นท่านจะมีใจเป็นธรรม ศาลท่านอาจจะไม่เคยได้ฟัง ศาลอาจจะไม่ได้ยิน แต่ข้อความจะไปฟ้องศาลต้องมีแน่นอนครับ ดูหมิ่นหยาบคาย ไอ้นายกรัฐมนตรี ไอ้สัตว์นรก ต้องออกไปจากทำเนียบฯ ต้องเอาออกให้ได้ สนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่าไอ้สัตว์นรกในนั้น มึงอยู่ต่อไปอีกวันบ้านเมืองก็ฉิบหายแล้ว นี่สำนวนอย่างนี้ครับ ไม่เป็นไรนะครับ
ผมยืนยันเลยครับว่า อย่างรายการข้อเท็จจริงวันนี้ เป็นการทำดีอัปรีย์กินหัว เพราะถูกตั้งกรรมการสอบแล้วครับ ระดับชาติ ป.ป.ช. สอบ แต่คำชั่วแบบชนิดด่า 24 ชั่วโมงหยาบคายนั้น มีคนปกป้องให้ เพราะมีการคุ้มครอง แต่บ้านเมืองนี้เราต้องอยู่ครับ ต้องทนต่อไป แล้วผมก็ต้องอยู่ ผมไม่อยากจะพูดเรื่องตอนท้ายนี้ แต่ต้องพูดให้รู้เสียว่าผมเป็นคนถือหางเสือบ้านเมืองนี้อยู่ และผมรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ ผมทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองกลับมาสงบสุขเหมือนเดิม ให้คนไทยได้กลับมาสมัครสมานสามัคคีเป็นคนไทยเหมือนเดิม มีเจ้านายพระองค์เดียวกัน เหมือนเดิมครับ ซึ่งทำได้ และซึ่งเป็นไปได้ และผมแน่ใจว่าคนทั้งบ้านทั้งเมืองเป็นอย่างนี้ ส่วนคนหยิบมือหนึ่งจะทำอะไรอย่างไร สื่อสารมวลชนไหนจะถือหางคนอย่างนั้น คุณถือต่อไปเลย คุณถือต่อไป คุณประโคมต่อไป ดูหมิ่นเหยียดหยามรัฐบาลต่อไป ยกย่องคนพวกนี้ต่อไป แล้ววันหนึ่งจะได้รู้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร
ยืนยันไม่ยุบสภาและจะทำงานเพื่อบ้านเมือง
ผมไม่ถอยหรอกครับ จะไปบอกจะยุบสภาออก ผมไม่หรอกครับ ผมมีหน้าที่ทำของผม เรื่องที่เกิดในพรรคพลังประชาชนเป็นเรื่องที่ผมจะต้องดำเนินการกันเอง เป็นเรื่องที่ผมต้องจัดการแก้ไขของผมเอง แต่สำหรับบ้านเมืองนั้นพรรคพลังประชาชนเป็นคนดูแลให้รัฐบาลนี้อยู่ร่วมกับอีก 5 พรรคเมือง ถูกต้องตามกฎหมาย มีพรรคฝ่ายค้านอยู่ การเมืองจะดำเนินการต่อไปครับ ถ้าดำเนินการต่อไปได้ครบขบวนการ ผมก็จะอยู่ทั้งครบขบวนการ จะมีเหตุเภทภัยที่จะทำให้ผมจะต้องหัวทิ่มล้มลุกลงไปก็สุดแท้แต่ ว่าจะต้องเป็นไปอย่างนั้น ก็ต้องอย่างนั้นครับ สั่งว่าอย่างนี้ผิดก็ต้องผิดครับ สั่งต้องออกผมก็ต้องออก ผมบอกแล้วว่าผมเป็นสายการบิน Low cost ต้นทุนต่ำ เวลาเลิกไม่เป็นไร การบินไทยเลิกไม่ได้ครับ เลิกก็เรื่องใหญ่เลย แต่นกแอร์เลิกไม่เป็นปัญหา เพราะฉะนั้นก็ขอประทานโทษทั้งสองบริษัทนะครับ ยกตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ นะครับ เวลาหมดครับ วันนี้คุยกันแค่นี้ วันอาทิตย์หน้าคุยกัน ผมมีเรื่องมาคุยทุกอาทิตย์ละครับ เพราะยังทำงานอยู่ แล้วทำงานด้วยความตั้งใจ ผมจะรักษาบ้านเมืองนี้ไว้ให้กลับสู่ความเป็นอย่างเดิมให้ได้ครับ สวัสดีนะครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
รายการ “สนทนาประสาสมัคร”
โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม 2551 เวลา 08.30-09.30 น.
-------------------------------------
สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่เคารพ ท่านผู้ชมที่เคารพ ท่านผู้ฟังแปลว่ามีออกวิทยุด้วยนะครับ รายการสนทนาประสาสมัครกลับมาเหมือนเคยนะครับ 08.30 น. รายการของผมก็สนทนากันตามสบาย ไม่มีอะไรดุเดือดเลือดพล่าน และเรื่องที่จะทำให้ดุเดือดเลือดพล่านก็ทำได้ครับ แต่บอกไว้แล้วว่าไม่ทำ
รัฐบาลทำงานสนองพระราชเสาวนีย์
เริ่มต้นก็อยากจะพูดเรื่องนี้ก่อนครับว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์ต้องอย่างนั้น ๆ ๆ นายกรัฐมนตรีไม่ออกมาสนองงานอะไรต่าง ๆ เลย ผมจะบอกให้นะ ผมน่ะสนองตั้งแต่พอรับพระวรกายไป ผมถวายคำนับเสร็จ ก็ยังไม่ออกจากห้อง ต้องสนทนากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์) ซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วย สนทนากันครับ เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ต้องไปทำงาน เขาก็เอาหนังสือหนังหามาดู มีการตรวจสอบกันดู เพียงแต่ผม ๆ ไม่พูดกับผู้สื่อข่าวระหว่างอาทิตย์ เพราะเรื่องนี้ไปพูดเดี๋ยวก็แปลงไปอย่างโน้นอย่างนี้ ผมไม่พูด ผมกลั่นใจได้ แต่ว่าคุณหญิงกษมา (คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ก็เป็นคนพูดอธิบายความว่าอะไรเป็นอะไรอย่างไร รัฐมนตรีเขาทำหนังสือมาถึงผม เขามีหนังสือมาเล่มโต ผมอ่านแล้ว ผมก็เข้าใจ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องค่อย ๆ อธิบายความ ไม่ใช่โฉงฉ่างพัวะพะ ๆ ต้องอย่างนั้นอย่างนี้ จะแสดงความจงรักภักดีนั้น ก็ต้องค่อยดูว่าอะไรเป็นอะไรอย่างไร ไปอ่านหนังสือ คุณหญิงกษมาฯ ดูแลเรื่องนี้ เป็นคนอธิบายนั่นต่าง ๆ คำอธิบายก็จะต้องไปถึงพระกรรณสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ความเปลี่ยนแปลงจะมีแน่นอนครับ แต่อยู่ตรงไหนอย่างไรแต่ก่อน
อธิบายให้ฟังตรงนี้ก็ได้ครับว่า สมัยก่อนเขาว่าวิชาการไม่มาก เรียนภูมิศาสตร์หนึ่งวิชา เรียนประวัติศาสตร์หนึ่งวิชา ก็อย่างนั้นละครับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านพระชนมายุ 76 นะครับ ท่านก็เป็นคนเก่าแก่ของบ้านเมือง ทรงเรียนมาอย่างไรก็ต้องเอ่ยถึง ใครอายุมากก็บ่นอย่างนี้ทุกคนครับ พวกอายุน้อยเขาก็บอกว่าเขาจะทำอย่างนั้น ๆ คนอายุกลางก็ยังบอกว่า มีรับสั่งมาอย่างนั้น เราก็ต้องดูว่าแล้ว จริง ๆ เป็นอย่างไร ตรวจสอบดู น้อยไปหรือมากไป หรือไม่อยู่ หรือไม่มีเลย คำอธิบายเรื่องนี้ตอบ พรวดพราดกันไม่ได้ แต่ต้องอธิบาย ต้องสนองงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ ไม่เป็นปัญหา
ส่วนงานอื่นที่สนองกันจริง ๆ นั้น เขาอาจจะไม่สนใจ เพราะว่าพอมีนายสมัคร นายกรัฐมนตรี เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแล้ว ก็ละความสนใจไป เพราะอย่างไร เพราะต่อมาก็เป็นการโฆษณาให้รัฐบาลนี้ ซึ่งผมไม่ได้ถือว่าเป็นการจะต้องมาโฆษณาให้ผม ผมทำ รัฐมนตรีอนงค์วรรณ เทพสุทิน เธอเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับสั่งวันที่ 12 สิงหาคม นะครับ วันที่ 16 คือเมื่อวานนี้ไปทำงานใหญ่ สนองงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่รับสั่งหลายขั้นหลายตอนนั้น ไปทำนะครับ เล่าให้ฟังรายละเอียดหน่อยก็ได้
เดินทางไปห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี
ผมก็นัดหมาย ผมไม่ต้องการเอิกเกริก รายการบอกท่านรัฐมนตรีเป็นเจ้าของเรื่องทั้งหมด แต่กรมดำเนินการทั้งที่ตั้งใจจะทำ ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่จะไปร่วมงานด้วย และผมก็ไปของผมธรรมดา ผมไปรถของผมคันหนึ่ง มีรถตามหลังไปคัน 2 คันเท่านั้น ออกจากบ้าน...อยู่ไหน เขาบอกอยู่จังหวัดอุทัยธานี ทำไมเลือกจังหวัดอุทัยธานี เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังเหตุผล แล้วต้องเลือกที่ไหน เลือกห้วยขาแข้ง ผมก็ไม่เคยเข้าไปในห้วยขาแข้ง ผมไปถึงอุทัยธานีหลายหนอยู่ เมื่อเวลาที่สอบถามกัน ผมออกจากบ้านธรรมดา ท่านที่เคยดูหนัง จำได้ไหมครับ Have Gun Will Travel มือปืนพเนจร พระเอกแก่ ๆ Have Gun Will Travel ผมน่ะชอบ ....เพื่อนอเมริกันบอกว่าไม่ใช่หรอก มันต้อง Have Map Will Travel ต้องมีแผนที่ถึงจะเดินทางได้ ออกจากบ้านแต่เช้าเลยหกโมง ลืมแผนที่ ก็เลยแวะปั๊มเชลล์ใกล้ ๆ ขี้เกียจย้อนเข้าบ้าน ซื้อแผนที่ใหม่เปิดมาดู พอดูเส้นทาง คือถ้าวิ่งตรงขึ้น 32 สายเอเชียไปแล้ว ไปเลี้ยวเข้าจังหวัดอุทัยธานี ก็ต้องออกไปทางโน้น ทางนี้ไปหนองฉาง ไปลานสัก ว่าเส้นทางนี่มองเห็น แต่ว่าความที่เราเป็นคนชอบแผนที่ แล้วก็รู้ว่าออกจากกรุงเทพฯ วิ่งไปสุพรรณบุรี จึ๊กเดียวเท่านั้นเอง จากสุพรรณบุรีไปดอนเจดีย์ ถนนเจ๋ง ดอนเจดีย์เลี้ยวซ้ายหน่อยเข้า 333 เลข 3 ตัว จะผ่านอำเภอที่เราไม่เคยไป จะผ่านด่านช้าง บ้านไร่ บ้านไร่ก็ไม่เคยไป ออกจากบ้านไร่ไปถึงไปลานสัก อย่างนี้แน่นอนใกล้กว่า
นี่ความที่ดูแผนที่ก็ไม่มีปัญหา นัดกันสิบโมงครึ่งที่ลานสัก ผมก็ออกไปทางนั้นละครับ ขับสบาย ๆ ไม่เร่งร้อน เพราะดูเส้นทางดูอะไรแล้ว ก็เรียบร้อยดี ไปสุพรรณบุรีก็ปรื๊ดเดียวถึง ผ่านเข้าไปปั๊บก็ผ่านวัดหลวงพ่อ วัดป่าเรไลย์ก็ไปนมัสการพระนเรศวรที่ดอนเจดีย์ เลี้ยวซ้ายเข้าไป และก็เลข 4 ตัว พอออกไปก็ 3 ตัว 333 ตั้งเข็มขึ้นไป ไม่มีปัญหา ทางโน้นดีครับ ขึ้นไป อ๋อด่านช้างหน้าตาเป็นอย่างนี้ ขึ้นด่านช้างเลี้ยวซ้ายเข้าไปบ้านไร่ บ้านไร่หน้าตาเป็นอย่างนี้ พอออกจากบ้านไร่ไปลานสัก 59 กิโลเมตร ไม่ได้ขึ้นเขามา ขึ้นเนินครับ แต่ถนนเป็นถนนชั้น 3 ก็เอาล่ะขับได้แล้วกันครับ แทนที่จะว่า 59 กิโลฯ สัก 35 นาที 30 นาที ล่อไปชั่วโมงกว่า แต่ถึงกระนั้นพอสิบโมงครึ่งเป๊ง พอก็ไปถึงอำเภอลานสัก ถึงอำเภอลานสัก นี่ละข้อมูลคลาดเคลื่อน เป็นนายกรัฐมนตรีนะครับ ไม่ดูตรงปลายหางเท่าไร ต้องออกจากลานสักไปอีก 23 กิโลฯ จากลานสักต้องออกไปเลี้ยวเข้าไปอีกเกือบ 20 กิโลฯ เข้าไปในป่า เข้าไปในห้วยขาแข้ง ที่มีอนุสาวรีย์คุณสืบ นาคะเสถียร นี่ละครับ
ผมก็อยากจะไปดูเหมือนกัน เขาบอกว่าคุณสืบอยู่ตรงนั้น ๆ คุณสืบเป็นลูกชาย คุณพ่อเป็น ส.ส.พรรคเก่าของผม พรรคประชากรไทย คุณสลับ นาคะเสถียร ท่านเคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ต่อมา ๆ ลงสมัครกับผม ลูกชายท่านก็ทำชื่อเสียงอยู่ที่นั่น ขับเข้าไป บางทีเราก็ลืมว่าห้วยขาแข้งเป็นมรดกโลกนะครับ ติดป้ายมรดกโลกเข้าไป โอ้โห ป่าครึ้ม ๆ และก็ได้เจอในสิ่งที่คนอื่นเขาไปกันทั้งหมดไม่เจอ ผมเจอจะว่าอย่างไร รถวิ่งธรรมดา กวางวิ่งตัดหน้า ตัวขนาดลูกม้าครับ สีน้ำตาลเข้ม วิ่งพรวดปรั๊บ ๆ ๆ ๆ ผ่านหน้า ได้เห็น มันอะไร ต้องไปถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าเรียกว่า กวางม้า ตัวใหญ่มากเลยครับ ยังไม่มีเขา วิ่งพรวดผ่านหน้าเลย กลางวันนะครับ ก่อนสิบเอ็ดโมงเศษ ๆ นิดหน่อย ก็เข้าไปก็ได้ดู ก็ไปทำเรียบร้อยดีครับ
เข้าไปในนั้น ไปทำอะไรครับ ไปเซ็นสัญญา กองทัพบกเซ็นไว้แล้ว ที่รับสั่งที่สวนจิตรลดา กองทัพบกร่วมมือ แต่กองทัพบกไม่พอ ต้องกองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ เอามาร่วมมือหมดครับ ร่วมมือกันทำงานนี้เลย ทำงานถวายเลย ทำงานร่วมมือกันอย่างนี้รักษาป่า ดูแลต้นน้ำลำธาร รักษาป่าชายเลน ดูแลหมดครับ เซ็นสัญญา เซ็นที่ไหน เซ็นที่อนุสรณ์สถานสืบ นาคะเสถียร ก็เขาดี ได้เห็นหัวกะโหลกช้าง หัวกะโหลกจริงครับ เอามาตั้งให้ดูหัวเล็ก หัวกลาง หัวใหญ่ ไปเซ็น เขาเป็นเวทีนะครับ ไปนั่งเซ็น ผมเป็นสักขีพยาน และมีการปาฐกถาหน่อย พูดยาวไม่ได้ครับ วันก่อนโดนตำหนิไปพูดที่เมืองทองธานี ยาวไปหน่อย เจ้าภาพวิ่งพล่านไปพล่านมาเลย เพราะว่านายกฯ พูดยาวไป วันนี้นายกฯ เลยพูดสั้นหน่อย ก็เล่าให้เขาฟังว่าอย่างไร เราถึงได้ทำงานกันอย่างนี้
เสร็จแล้วก็มาดู มีนิทรรศการ ก็ได้รู้จักกับผู้คน คนนี้เชี่ยวชาญเรื่องวัวกระทิง คนนี้เชี่ยวชาญเรื่องเสือ คนนี้เชี่ยวชาญเรื่องช้าง คนนี้ปริญญาเอก แล้วเอกอะไร เอกกระทิง เอกเสือ เอกช้าง ของเขามี เขาไปรวมกันที่นั่น พวกสัตวแพทย์ขึ้นไปอะไรต่าง ๆ พอดูนิทรรศการ ก็ได้ซักได้ถามได้อะไรต่าง ๆ ดูเสือก็ได้คุยถึงเรื่องเสือนะครับ เพราะอย่างไร เขาตั้งกล้องสารคดีออกทีวี 2 วัน เขาตั้งกล้องนะครับ ห้วยขาแข้ง มันเขาซ้าย เขาขวา ตรงกลางเป็นหุบ เป็นเหมือน Valley เขามีลำธารวิ่ง เพราะฉะนั้น สัตว์ถึงไปชุมนุมกันไปอยู่ที่นั่น จากหัวถึงหาง 100 กิโลฯ หัวถึงหางนี่ 100 กิโลฯ เขาแสดงการตั้งเลยว่า เขาถ่ายเสืออย่างไร เสือเดินผ่านมาไม่ต้องมาสะดุด ไม่ต้องมีอะไรเดิน เข้ามาเหมือนแสงอินฟาแบบนี้ พอผ่านปั๊บ ก็ถ่ายแป๊บ ๆ ๆ อย่างอื่นด้วย แต่ว่าช่องเสือ เขาเอาเสือ 6 ตัวมาให้ดู นี่เสือ ๆ ของจริงทั้งนั้น เมื่อผมเวลาดูแล้ว ผมก็ถามเขาอย่างนั้นว่า แล้วเสืออ้วนหรือเสือผอม อย่างนี้ เขาบอกอ้วน พออ้วนผมก็บอกแสดงว่าคนโบราณนี่ ผมพูดกับพวกปริญญาเอกเขานะ บอกคนโบราณนี่เก่งจริง ๆ เขาก็ถามว่าทำไม ผมบอกเสืออ้วน โบราณเรียกว่า เสือพี ๆ แปลว่า เสืออ้วน โบราณเขียนว่า เสือพีเพราะป่าปก ป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง หญ้ายังเพราะดินดี” ก็เหมือน “น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัชฌาสัย เราก็จิตคิดดูเล่าเขาก็ใจ ปลูกอื่นใยปลูกไมตรีดีกว่าพาล” มีเป็นสุภาษิตทั้งนั้น แต่เสือพีเพราะป่าปก แปลว่า เสืออ้วนเพราะว่ามีหุ้มมันอยู่ ป่ารกเพราะเสือยัง เพราะเสืออยู่ในป่า ป่าถึงเรียกว่าเป็นป่า ดินเย็นเพราะหญ้าบัง หญ้ายังเพราะดินดี นี่คนโบราณนะครับก็บอกเขา
เสร็จแล้วอย่างไร คุยกันเรื่องช้าง แล้วช้างฉลาด ฉลาดครับ ช้างนี่รอบรู้สอนอะไรอย่างไร รู้หมด ผมบอกคุณรู้ไหมว่า ช้างในวรรณคดี อ่านแล้วน้ำตาจะไหลทุกที เขาถามถึงขนาดนั้น ถึงขนาดนั้น บอกคุณไม่เคยเรียนเหรอ เวลาคุณอยู่ ม. 5 เขาจะให้เรียนหนังสือปกสีน้ำตาลเล่มไม่ใหญ่เท่าไร เรียนเรื่องโคลงสี่สุภาพ แล้วก็มีโคลง ๆ ๆ เป็นโคลงเป็นส่วนใหญ่ครับ แล้วจะมีโคลงอยู่บทหนึ่งเป็นโคลงที่พม่ามาตี แล้วก็พระมหินทรากับพระราเมศวรเป็นลูกชาย พม่ามาตี พอเห็นพม่า พม่าทำอย่างไร พม่ามาล้อมเมืองอยู่ และปรากฏว่าน้ำท่วม ตามธรรมดาพอน้ำท่วม พม่าต้องถอยต้องไปหาที่นั่น ต้องขึ้นไปทางเหนือเพื่อจะไปหาที่ปลูกข้าวอะไรใหม่ ทางนี้ลูกชาย 2 องค์ พระเจ้าอยู่หัวก็ออกไปโจมตีเลย พระราเมศวรกับพระมหินทรา เข้าไปโจมตี ปรากฏว่าแพ้ครับ ถูกจับได้ในสนามรบ พม่าบอกว่าไปเอาช้างมา เอาช้างมาแลก อยากจะได้ช้าง ช้างมงคลทวีปกับช้างพลายสีมงคล 2 พลายนี่ แล้วปรากฏว่าลองฟังสิ ผมเลยต้องร่าย ท่องโคลงสมัย ม. 5 ให้ฟัง โคลงดีนะครับ แสดงว่าอย่างไร ผมก็ถามตอนท้ายว่า แล้วตกลงช้าง นอกจากฉลาดแล้ว ยังรักบ้านรักเมือง เขาบอกว่า
ปางมอญมวลม่านกลุ้ม รุมตี
กรุงทราวดี รบเร้า
ทัพไทยบ่ได้มีชัย ณ สนามเฮย
จำล่าทัพกลับเข้า มั่นไว้ในนคร
พลมอญอ่อนสิ้นสะ เบียงอา หารนา
ถอยจากศรีอยุธยา ยาตรเต้า
ทางเหนือเพื่อจักหา โภชน์ภักษ์
ราเมศวรมหินทรเจ้า จู่จ้วงโจมตี
เสียทีศึกจับได้ ทั้งสอง องค์เอย
ปิ่นตะเลงปรองดอง เปลี่ยนช้าง
มงคลทวีปของ จอมจักร พรรดิ์พ่อ
อีกหนึ่งพลายศรีอ้าง ชื่อท้ายมงคล
บันดลสองช้างแปลก เสียงหมอ ครวญเอย
อาละวาดฤาหวั่นขอ เข่นสู้
เหลือมือตะเลงรอ ราส่ง คืนแฮ
ดูแต่ช้างยังรู้ รักด้าวแดนตน
ผมบอกปริญญาเอกช้างว่า ไม่ได้ฉลาดเฉย ๆ นะครับ รักบ้านเมืองของตัวเองด้วย เรื่องนี้พูดกันได้เสมอ พูดกันที่ไหนก็ได้อย่างไรครับ แล้วมาอย่างไร ก็โคลงโลกนิติเขียนไว้ เป็นการสอนเรื่องโคลง ฉันท์ กาพย์กลอน แต่ทว่าได้มีประวัติศาสตร์ซึ่งเราได้ถูกอย่างนั้น และเล่าให้ฟัง และก็ขอแลกช้าง แล้วเอาไปไม่ได้ ก็คืน เห็นไหมครับ ไปแล้วก็ต้องสนทนากับพวกนั้นเขาตามสมควร
ผสมพันธุ์สัตว์ป่าที่หายาก
เรื่องวัวกระทิง ก็ถามว่าตัวนั้นทำไมต้องไปไล่ล่า มันหลุดมาอย่างไร เขาก็บอกว่า พอตัวผู้มันโต อายุมากแล้ว ต้องออกจากบ้าน ต้องแยกวง ผมก็ถามอายุเกิน 18 เหรอ เขาก็เข้าใจดีว่า เด็กอเมริกันอายุ 18 ปี ต้องออกจากบ้าน เขาบอกบางทีมันข้ามโขงแม่น้ำโขงมา ผมบอกอย่างนั้นเลย แล้วผมก็ถามว่า ตม. (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ว่าอย่างไร เขาบอกว่าไม่มี ตม. ไม่ดูเรื่องสัตว์ สัตว์จะข้ามไปข้ามมาไม่เป็นปัญหา ก็ได้รู้ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้นะครับ เสร็จแล้วเขาก็พาไปค่อย ๆ เวลาท่านดูกอล์ฟ ท่านจำได้ไหม เวลาไทเกอร์ วู้ดส์ หรือใครจะตี เขาจะมี บางทีเขาก็ทำมือ เดี๋ยวนี้เขาไม่ถ่ายทำมือ ก็เพียงแต่ยกป้าย quiet please เมื่อวานมีคนยกป้ายเลยครับ โปรดเงียบเสียง ทำไมครับ เดินเข้าไป ลงรถนะครับ ลงรถ 200 เมตร เดินไปอีก 100 เมตร เขาก็มีกรง ละมั่งนี่ครับเป็นสัตว์เกือบจะสูญพันธุ์ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ประกาศพระราชบัญญัติให้ละมั่งเป็นสัตว์.... ห้ามไม่ให้คนเอาไปเลี้ยง ก็มีคนเอามาคืน พอนายสัตวแพทย์เจอเข้ากลางคืน
ก็เอาที่เมื่อคืนนี้จัดการผสมพันธุ์ดูแล ใช้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการผสมเทียม ใช้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องชาติพันธุ์ ไม่ให้มาผสม ไม่ให้มันแต่งงานกันเองน่ะครับ ทำกัน คนนี้ดูเรื่องว่าถ้าสัตว์ส่งเข้าป่าต้องแข็งแรงอย่างไร จะดูเลือด ดูอะไร คนนี้จะดูเรื่องไมโครชิฟจะคล้องดี หรือจะใส่ดี ดูกันหมด 30 ปีครับ คนที่รายงานอายุ 50 กว่า บอกอายุ 20 กว่าเริ่มทำงานนี้ บัดนี้ได้ตัวละมั่งมา 77 ตัว แล้วก็ปล่อยทีละ 8 เขาปล่อยวันที่ 8 ไปชุดหนึ่งแล้ว เขาบอกวันที่ 8 เปิด กว่าจะออกมาดู ออกมาดูลาดเล่าตัวหนึ่ง อีก 8 ตัวกว่าจะออกมา ตั้งนาน นั่งรอกัน ผมไปก็ ท่านบอกว่าเงียบเสร็จปั๊บ ผมก็ตัดเส้นเอ็นปึ๊บเข้าไป ประตูเปิด ออกมาเลยครับ เดินออกมา 1-2-3-4 เรียงเลย ออกมาหมดเลยครับ ออกมาหยุดยืนแล้วก็เหลียวมาดู ช่างภาพก็ถ่ายกันฉับ ๆ ๆ เหลียวมาดูครับ แล้วเขาก็เดินดังกร๊อบ ๆ ๆ ตามกันไปเป็นฝูง เป็นภาพน่าประทับใจมาก ปล่อยเขากลับเข้าไปสู่ป่า เอามาเลี้ยงดูก่อน ให้อยู่ที่กว้าง อยู่ในกรงและออกมาอยู่นอกกรง ให้อยู่ที่กว้างขึ้น ในที่สุดก็เอามาปล่อยสู่อิสรภาพ ผมก็ถามเลย แล้วนี่จะเป็นเหยื่อของเสือไหม เป็น อ๋ออย่างนั้นเหรอ แล้วเสือมันกินอย่างไร เขาบอกเสือมันกิน อาทิตย์หนึ่งกิน 1 ตัว ปีหนึ่งกิน 52 ตัว เขาบอกใช่ แต่มันกิน 5 อย่าง มันกินกระทิง กินอะไร ตัวนี้เป็นตัวสุดท้าย
เพราะฉะนั้น ก็ได้รับความรอบรู้ครับ เสร็จเรียบร้อย ผมก็เกรงว่า แต่เล่าให้ฟังหน่อย เพราะว่าไปถึงกินข้าว ก็นั่งกินกับเขาเลยไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็เกิดบอกแหมนาน ๆ ได้คน ทำกับข้าวทางโทรทัศน์ไม่ได้ มาทำให้ทางนี้กินหน่อย ผมก็ทำ เขาเตรียมไว้หมดละครับ ทำก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ผมก็ทำให้เขา เพราะว่าเขาเตรียมไว้ ผู้คนไปก็ได้กินเปลี่ยนกัน และย้อนออกมาอีก 40 กิโลฯ 40 กิโลเมตรครับวิ่งเข้ามา โอ้โห ตอนนี้มาเจอภาพประทับใจ เด็กอำเภอลานสักและอำเภอใกล้เคียง เขามากัน ป่าไม้เขาเก่งนะครับ เห็นแล้วน่าชื่นชม เด็กทั้งนั้นเลยครับ 10-11-12-13-14-15 ปี ระหว่างนี้ ทำไมครับ ก็จะมาปลูกป่า 35,000 ต้น ปลูกอยู่บนเนินน่ะครับ เป็นพันไร่ข้างบนนั่น ปลูกบนเนินไหล่เขา ทำพิธีกันเชิงเขา ผมเห็นเด็กแล้ว ผมบอกไม่ได้ ๆ ขึ้นไปเวทีแล้วพูดกับเด็กไม่ได้ ผมต้องเดินเลยครับ ทวนนาฬิกาก็ทวนละครับ ลงไปคุย คนนั้นใส่สีชมพู คนนี้ใส่ฟ้า คนนี้ใส่เหลือง แล้วป่าไม้แจกหมวกหมด เขาก็เลี้ยงข้าวกัน มันน่าชื่นชมตรงเด็ก ๆ วีดว๊าดกระตู้หู๊กันทันที ผมต้องเดินเลย ยาวเหยียดเลยครับ เขาอุตส่าห์มากัน แล้วก็ออกมาช้าชั่วโมงหนึ่ง คิดดูสิครับ ฝนก็ตั้งเค้ามา เค้าก็อยากให้เสร็จ ๆ ผมบอกไม่ได้ ไม่มีปัญหา บอกฝนอย่างนี้ตกปรอย ๆ เดี๋ยวพรหมน้ำมนต์ไม่ต้องนั่น
เจอวงอังกะลุง ก็ต้องคุยกับอังกะลุงหน่อย เล่นเมดเลย์เลยครับ เพลง 1 เพลง 2 เพลง 3 เพลง 4 เขาเล่นให้ฟัง ฟังแล้วเดิน ก็ต้องรอ ๆ เสร็จต้องให้จบ แล้วต้องบอกหนูเพลงนี้อย่างนี้ใช่ไหม อันนี้เรียกอย่างไร เพลงบ้านนา แกงส้มถั่วฝักยาว น้ำพริกมะขาม ว่าดีจริง น้องต้องกินหลายชาม มะเขืองามจิ้มกับหลนปลา ทำเข้าท่า ยกเอามาไว ๆ เล่นอังกะลุงให้ฟัง เล่นเพลงอะไร เพลง .... อันนี้ทางใต้ใช่ไหม ใช่ อันนี้อีสาน แคนลำโขง ก็ต้องคุยกับเด็กที่เล่น เดินมาหน่อย อ้าว วงดนตรีโยธวาทิต เด็กอายุสัก 13-14 นั่งกัน 5 คน ใส่หมวกคาวบอย หมวก 7 แกลลอน 8 แกลลอน ใส่ มองเห็นข้างหน้า 5 คน สว่าง มองเข้าไปข้างในทั้งวงเลยครับ แต่งคาวบอยทั้งวงเลย โยธวาทิต คุยอะไร ไม่ค่อยช่างพูดเลย ไม่พูดยังไม่เล่น เดี๋ยวเขาจะเล่นประกอบเพลง เขาจะเล่นประกอบเพลงสดุดีมหาราชา เล่นเพลงสรรเสริญพระบารมี บอกโอเค ๆ ไปก็นั่น
ท่านรัฐมนตรีหญิงเป็นคนรายงาน บอกเอ้ารายงานเลย ปากเปล่าเลย ไม่ต้องไปนั่น รายงานว่าจะทำอย่างไร ผมก็ยังไม่กล่าวตอบ ไปถึงทำพิธีเปิดกรวยเสร็จ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เขามีแจกของไป แจกพวกยังชีพ พวกที่เขาเดินป่า แจกพวกนักกีฬาให้เด็ก ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลา เอ้า พอเสร็จแล้ว ๆ อย่างไร เขาบอกว่าเมื่อสักครู่นี้เห็นฝนตกปอย ๆ ไม่นั่นเลย เพลงสรรเสริญพระบารมี แล้วพอ ผมบอกไม่ได้หรอก เดี๋ยวก็ฝนก็หยุด ไม่นั่นละ ตกลงมาอย่างไร ก็ขอร้อง ผมก็ปราศรัย ก็คุยให้ฟังว่าวันนี้ทำอะไร ทำยังไง ๆ ผมก็ตื่นเต้นครับ ผู้คนมากมายก่ายกอง คนเป็นหมื่นคิดดูสิครับ แล้วมาช่วยกันปลูกป่า ปลูก 35,000 ต้น คนละ 3-4 ต้น ก็เหลือแหล่แล้ว ก็คุยให้ฟังเสร็จเรียบร้อย ถามว่าเอ้าตอนนี้ถึงเวลาร้องเพลงถวายหรือยัง เรียกโยธวาทิต แหม ผมปาฐกถาไม่นานละครับ นักเรียนกลัวฝนครับ วงโยธวาทิตทั้งวงขึ้นรถกลับเลย คือเกินเวลาเขาไปเยอะครับ ไม่มีเพลง ไม่มีเพลงก็เอาดีครับ ร้องเองเลย ผมอยู่หัวแถว ขึ้นมาข้างบนเลย ผมเป็นหัวหน้าต้นเสียง ร้องสดุดีมหาราชา ไม่มีดนตรีครับ เว้นตอนอะไร จังหวะดีหมด ลงตัวเป๊บเลยครับ 2 เที่ยว เรียบร้อยหมดทุกประการ แล้วก็ไปปลูกป่ากับเขา เสร็จแล้วบอกยังกลับไม่ได้ ต้องดูนิทรรศการอีก
รายแรกนะครับ โอ้โห กล้วยไข่ ผมไม่เคยเห็นอะไรงามอย่างนี้ ต้องขออภัยกำแพงเพชร กำแพงเพชรลูกเล็กไปนิดหนึ่ง นี่งามมากเลย แล้วผิวพรรณดี ลูกโตทั้งเครือเลยครับ 13-14 หวี เห็นแล้ว กินเอง 1 ลูก รสชาติดีด้วย ผมก็ทำในสิ่งที่ควรจะทำอย่างยิ่ง บอกตัดข้อมา ยกมาแข็งเลย บอกเอาเลยช่วยกันหน่อย คนละลูก เด็กบ้าง ผู้ใหญ่บ้าง โอ๊ย คนละลูก ๆ น้ำหนักลดไปเรื่อยครับ ถือกล้วยทั้งเครือ 13 หวี พักเดียวเหลือแต่โครงเปล่า ๆ หมดเลยเรียบร้อย จะกลับ บอกยังไม่ได้ ยังไม่ได้ดูนิทรรศการ ต้องไปดูนิทรรศการ ต้นหมากรากไม้ เขาดีนะครับ กรมป่าไม้เขาเอามา นี่อันนี้ทำจักสาน อันนี้ทำสวนครัว อันนี้ดูเรื่องดิน อันนี้เรื่องทอผ้า อันนี้ต่าง ๆ ดูหมดละครับ เสร็จเรียบร้อยถึงจะร่ำลากลับมา ถึงบ้านสี่ทุ่มครึ่ง ออกไปหกโมงเช้า
เล่าให้ฟังไว้เพื่อจะบอกว่า นี่ก็คือคำตอบที่เราไปทำงาน โดยไม่ต้องสัมภาษณ์ แล้วก็รอเอาไว้ ก็ไปวันเสาร์ วันอาทิตย์ก็ได้เล่าอย่างนี้ มันดี จะทำโน้นถวาย ทำนี่ถวาย ไปลงข่าว ลงผิดลงถูกอย่างไรสุดแท้แต่ แต่มาอย่างนี้ จากปากผมถึงท่านผู้ฟังทั้งประเทศดีกว่านะครับ กลั้นใจหน่อย โอ๊ย ไม่สนองงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ มีรับสั่งตั้งแต่วันจันทร์ นายกรัฐมนตรีสมัครไม่พูด ไม่พูด แต่ทำครับ แต่ดำเนินการ โอ้โห ไปดูที่เขาทำสิครับ รับสั่งวันที่ 11 สิงหาคม 12-13-14-15-16 สิงหาคม 5 วัน ออกมาเรียบร้อย มีวีดิทัศน์ให้ดู หมดเลยครับที่รับสั่งไว้ เขาทำสนองงานเสร็จ นี่เป็นป่าตะวันตกนะครับ และต่อไปยังมีป่าตะวันออกอีก 5 จังหวัดนี่ละครับ ระยอง จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี สระแก้ว ป่า 5 อันที่ชนอยู่นั้น นี่ป่าตะวันออก ผมคุยนี้ป่าตะวันตก ยังมีป่าทางด้านเหนือ ก็แปลว่าจะเอาป่าไว้ จะให้มีน้ำไว้ เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟังเวลาตามเสด็จ พวกชาวบ้านบอกว่าดี วันนั้นอยาก ที่จริงควรจะเล่าเรื่องห้วยฮ่องไคร้ ทีนี้ห้วยฮ่องไคร้ก็อย่างว่า มันมีเรื่องอื่นจะเล่า ๆ ก็ไปแล้วก็มีโอกาสผู้คนนั่งอยู่เต็ม ก็เล่าเรื่องว่าเคยตามเสด็จฯ เจ้านายท่านอย่างไร ๆ ก็เรื่องนี้ไม่มีใครเขาเขียนเขาทำหรอก ประสบการณ์ผมนี่ครับ และผมก็เล่าให้ฟังว่าผมถวายงานอย่างไรต่าง ๆ นี่ก็เป็นท่อนแรกที่จะเล่าให้ฟังในนี้ครับ
จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 สร้างสามัคคี
ถัดไปก็เรื่องงาน บอก 116 วันว่าอย่างไร ก็ได้กันมาเรียบร้อยแล้วครับ คือกราบบังคมทูลคร่าวไปให้ทรงเลือกวัน 26-29 สิงหาคม ทรงเลือกวันที่ 30 สิงหาคม สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จพระราชดำเนินมาที่ทำเนียบรัฐบาล นี่ละครับ ทรงจากสมเด็จพ่อ สมเด็จแม่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ก็จะมา ทำอย่างไรพิธีการ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ จะเสด็จฯ มาที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดมาหมด 76 จังหวัด ใครจะด้วยก็ตาม ก็จะมอบธง นายกรัฐมนตรีจะมอบธงให้ แปลว่าอย่างไร แปลให้ฟังวันนี้ครับว่า รับธงไปแล้ว ต่างคนก็ต่างเอาไปจังหวัดของตัว เช่น กรุงเทพมหานคร มีอยู่ 50 เขต คือ 50 อำเภอ เหลืออยู่สัก 100 วัน ก็แบ่งเลยเขตละ 2 วัน เห็นไหมครับ ยกตัวอย่างตรงนี้คือว่า มี 50 เขตละ 2 วัน แปลว่าเชิญไปปั๊บ คุณจะเอาธงมาส่งกันตอนเช้า คุณจะมาส่งกันแปดโมงก็สุดแท้แต่ คุณทำพิธี พิธีอย่างไร คุณเอาไปปักไว้ที่เขตของคุณ คุณจะหาที่ฉลอง ถ้าเขตคุณเรียบร้อยไม่ดี คุณจะเอาสนามกีฬาในเขตนั้น คุณเลือกสถานที่เหมาะสม เอาธงไปปัก ถ้าเวลาเขามีไฟพระฤกษ์ เขาเอาไฟพระฤกษ์ไปฉลอง นี่ก็เอาธงไป ไม่ต้องฉลองมากละครับ เอาธงเป็นหลักว่า นี่รับมาจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ แล้วก็จัดงาน
คุณจะจัดงานว่า คุณจะเล่นกีฬาแข่งขันตรงนั้น คุณจะมีหมากในร่ม มีหมากรุก หมากฮอต อะไรต่าง ๆ คุณจะทำกิจกรรมอะไร คุณจะมีการสนทนา สนทนาธรรมก็ได้ หรือจะสนทนาเรื่องปัญหาบ้านเมืองก็ได้ เอาสิสนทนา ใครไม่เข้าใจอย่างไร ตั้งวงสนทนากันเอง อย่าให้ลุกขึ้นมาฟัดกันก็แล้วกัน แปลว่าคนในเขตนั้น ก็แปลว่าตกลงทั้งเขตหมด ไปทางโน้นก็ทางโน้นคนจีนมากหน่อย คุณจะเลี้ยงโต๊ะจีนกันสักมื้อก็ตามใจคุณ คุณเอาไปทำ 2 วัน แล้วคุณก็นัด เข้าแถวแต่งตั้งใส่เสื้อกีฬา ไม่กีฬาสุดแท้แต่ วิ่งกันมาปั๊ป ๆ ๆ ทางโน้นก็รอรับไป ทางนี้ก็วิ่งปั๊ป ๆ ๆ ก็วิ่งจากสายเขต แบ่งกันตรงไหน ทางนี้จะไปบางรัก ก็ไปส่งกันสิ คุณอยู่เขตสัมพันธวงศ์ คุณอยู่เขตตรงนั้น ข้ามฟากไปบางรัก คุณก็ไปส่งกันตรงสะพานเหล็กล่าง (สะพานทิพยเสถียร) สะพานเหล็กบน (สะพานดำรงสถิตย์) ชื่อคล้องกัน คุณก็ไปส่งธงกันตรงนั้น หรือคุณจะเลือกตรงไหน คุณจะส่งตรงหัวลำโพง คุณจะส่งตรงไหน เขาก็มีเขต คือทุกคนรู้เขต ทำพิธีส่งมอบธง แล้วคุณก็วิ่งปั๊ป ๆ ๆ ไป ข้างหน้าก็จะเป็นธงสัญลักษณ์ที่จะไป และก็มีธงชาติ ธงสัญลักษณ์วิ่ง มีธงสมเด็จพระนางเจ้าฯ มีธงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมี 4 ธงแล้วก็วิ่งปั๊ป ๆ ข้างหน้า ข้างหลังก็เป็นธงชาติทั้งหมด หรือคุณจะเอาธงอะไร ธงแดงก่อน ธงแดงวิ่งสัก 4 แถว ธงขาววิ่ง 4 แถว ธงน้ำเงินวิ่ง 8 แถว เสร็จแล้วก็เอาธงอะไรอีก 4-4-4 ก็วิ่งเป็นริ้ว แถวละกี่อันก็สุดแท้แต่ คุณจะเดินก็ได้ เปิดเพลงมาร์ชชิ่งก็ได้ เดี๋ยวนี้วงดนตรีมีทุกเขต คุณก็ทำอย่างนี้ 2 วัน คุณทำไป นี่ก็หมายความว่า พอสุดท้ายก็ถึงวันที่ 3 นัดหมายเลย ท่านผู้ว่าฯ คนใหม่ ถึงตอนนั้นคนใหม่แล้ว คนใหม่ก็รับธงเอามา สุดท้ายมา ก็มาถวายคืนสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรวจพลวันที่ 2 ธันวาคม วันที่ 3 จะสร้างเวที คือไม่ใช้ของท่าน ตั้งเวทีเพื่อมารับธง ทั้งหมดก็มาเต็มกันหน้าลานพระรูปทรงม้า ก็ถวายธงคืน ว่าบัดนี้ได้เอาธงนี่เป็นหลักชัยเป็นสมานสามัคคี
ก็ต้องอธิบายให้ฟังอย่างนี้ครับ เขียนเป็นกระดาษอย่างไร ก็สู้อธิบายความอย่างนี้ไม่ได้ ใครไม่ฟังก็เล่าให้ผู้ว่าฯ ฟัง ไม่อย่างนั้นก็รองผู้ว่าฯ ดูอยู่ ก็เอาไปเล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างนี้ ทีนี้ไปอย่างไร โคราชมี 22 อำเภอ คุณก็ลองหารดูอำเภอละกี่วัน สมมติอำเภอละ 5 วัน ก็ไป 5 อำเภอ ใน 1 อำเภอคุณมีกี่ อบต. ล่ะ มี 5 อบต. คุณก็ไปที่อำเภอก่อน แล้วคุณก็ไป อบต. นี้ ๆ ๆ จังหวัดเล็กก็อยู่หลายวันหน่อย เอาหารจำนวน มีสัก 100 วัน ก็หารกันดู เห็นไหมครับ ผมยกโคราช 22 อำเภอ ไปเชียงใหม่ อำเภอมากก็วันน้อย อำเภอน้อยก็วันมาก อำเภอมากวันน้อย ก็ต้องมีไปดู ไปอบต. ไปให้เขาดู ใช้วิธีอย่างนี้ละครับ แปลว่าทุกคนในบ้านเมืองมีสิทธิ์ออกมาเล่นกีฬาด้วยกัน เล่นกีฬาในร่ม กีฬานอกร่ม เล่นกีฬา ได้คุยได้สัมมนา คุยสัมมนาสามัคคี คุยเรื่องวัดเรื่องบ้าน เรื่องบวร วัด บ้าน โรงเรียน สุดแท้แต่จะทำให้เกิดความเข้าใจกันขึ้นในหมู่ผู้คน เท่านั้นครับ 116 วัน เวลานั่น กว่าจะถึงวันที่ 3 ก็เหลือประมาณ 100 วัน ว่าเลยครับ ดำเนินการ นี่คือสิ่งที่จะได้บอกกันออกไป ทำก็ทำหน้าที่บอกเสียก่อนล่วงหน้า เขาอาจจะมีเอกสารไปตามที่ผมพูดนี่ละครับ นั่นคือเอาธงไปปักเหมือนกับว่าเวลาที่ได้รับพระราชทานไฟพระฤกษ์ ก็เอาไปตั้งไว้ แล้วก็ไปฉลองไฟพระฤกษ์ อย่างนี้ละครับ เอาธงไปฉลอง ระบบอะไรต่าง ๆ มี ท่านรัฐมนตรีมหาดไทยบอกจะฟื้นฟูลูกเสือชาวบ้าน จังหวัดได้เขตหนึ่ง 5 วัน ตรงนั้นบอกมีเลย มีงานลูกเสือชาวบ้าน ฟื้นฟูลูกเสือชาวบ้าน จัดลูกเสือชาวบ้านอบรม มีอย่างนั้นอย่างนี้ กีฬาตอนเย็น เต้นแอโรบิค 3 ชั่วโมงติดต่อกัน ผู้หญิงมา ผู้ชายมา คนแก่เต้นช้าหน่อย คนเด็กเล่นกระฉับกระเฉงหน่อย สุดแท้แต่จะจัดแจง นี่ก็เป็นอันที่สองที่จะเล่าให้ฟังว่า 116 วันจะทำอะไรอย่างไร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคิดทำน้ำมันแก๊สโซฮอล์ในพระตำหนักสวนจิตรลดา
ถัดไปก็มีเรื่องจะต้องเล่าให้ฟังก่อน เมื่อวันนั้นฝรั่งมา ฝรั่งจีเอ็มสำคัญอย่างไร ไม่สำคัญเท่าไรหรอกครับ มันสำคัญตรงที่ว่า แล้วรัฐบาลจะเอาอย่างไรแน่ กับเรื่องพลังงาน รัฐบาลไม่ต้องทำอะไรเวลามันขึ้นรัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไรให้มันขึ้น เวลามันลดรัฐบาลก็ไม่ได้ช่วยให้ลด แต่รัฐบาลก็เฝ้าดู เฝ้าตามดูอยู่ จะเรียนให้ทราบว่าเมื่อเวลาที่น้ำมันขึ้นราคา ทางฝ่ายที่จัดการเขาบอกว่า เอาละไหนคุณผลิตรถเก่ง คุณไปผลิตรถที่แต่ก่อนนี้ 8 กิโลฯ /ลิตร ไปผลิตมาสิ 40 กิโลฯ/ลิตร ทำได้ไหม เขาก็เรียกว่าอีโคคาร์ Economy car นะครับ เติมลิตรเดียวไปได้ 40 กิโลเมตร อย่างนี้ก็ไปทำ คุณทำอย่างนั้นเราจะลดนี่ ๆ ให้ ลดอย่างนี้มีประโยชน์เพราะใช้น้ำมันน้อย ใช่ไหมครับ เคยใช้ 4 ลิตรก็ใช้เหลือลิตรเดียว ลดไป 75 เปอร์เซ็นต์ อย่างนั้นคืออีโคคาร์ ก็ตกลงว่าอีโคคาร์มีส่วนลดให้ เสร็จแล้วบอก น้ำมันที่เรียกว่าแก๊สโซฮอล์ ที่เขาเรียกว่า E20 คือเติมแก๊สโซฮอล์ไป 20 เปอร์เซ็นต์ ใช้น้ำมันเบนซิน 80 เปอร์เซ็นต์ งานนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคิดดำเนินการ 20 กว่าปีมาแล้วนะครับ ผมได้เฝ้าฯ ตอนผมเป็นผู้ว่าฯ กทม. ปี 2543 คิดดูสิครับ เฝ้าฯ มาแล้ว 7 ปีตอนนั้นทำมานาน 10 กว่าปี 20 ปีแล้วที่ทรงทำแก๊สโซฮอล์ อยู่ในสวนจิตรลดาครับ ทรงใช้รถคันเล็ก ใช้คนรถไม่ต้องยี่ห้อ ชี้ให้ดูบอกนี่คันนี้ใช้แก๊สโซฮอล์และผลิตในนี้ โรงงานต้นแบบแก๊สโซฮอล์ผลิตในนี้
สนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ใช้แก๊สโซฮอล์
เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องพูดกันให้เข้าใจ เพราะแก๊สโซฮอล์เดี๋ยวนี้ทำจากอะไร แต่ก่อนเขาทำจากอ้อยส่วนใหญ่เขาไปได้จากโรงงานน้ำตาล เป็นผลพลอยได้ทำแอลกอฮอล์ แก๊สโซฮอล์คือแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง ปรับปรุงเข้ามาผสมกับน้ำมัน แต่ก่อนก็มาจากโรงงานน้ำตาล เดี๋ยวนี้เขาต้องการมากขึ้น เขาก็ตั้ง มีคนจดทะเบียน 42 บริษัท ดำเนินการแล้ว 12 บริษัท ปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลัง ทับที่กันไหม ไม่ทับเลยครับ ภาษาฝรั่งเขาเรียก Yield คือผลผลิตที่ได้ออกมา แต่ก่อนเป็นอย่างไรครับ แต่ก่อน 1 ไร่ปลูกอ้อยได้ 6 ตัน แล้วเป็นอย่างไร มีน้ำได้ 10 ตันก็ว่าดี แล้วบอกถ้าได้ 15 ตันจะดีมาก 15 ตันนี้ อ้อยปีนี้ 73 ล้านตันอ้อย ใช้ทำน้ำตาล 23 เหลือ 50 ทำแก๊สโซฮอล์ มันออกมาอย่างนี้แล้วจะทำอย่างไรได้ มันสำปะหลัง แต่ก่อนบอกเสียบลงไปปลูก ดึงขึ้นมาได้ 1 กิโลฯ ดึงกันนี้ได้ 1 กิโลฯ เดี๋ยวนี้เสียบปลูกไปแบบทันสมัย ดึงกันมาได้ 5 กิโลฯ ต้องขุดขึ้นมา 5 กิโลฯ ได้ 4 - 5 เท่า อ้อยก็ 4 -5 เท่า เดี๋ยวนี้อ้อยเท่าไร 25 ตันใน 1 ไร่ จาก 6 ตันเดี๋ยวนี้เป็น 25 ตัน เพราะฉะนั้นผลผลิตมันเพิ่ม เพิ่มแล้วทำอย่างไร น้ำตาลก็พอแล้ว มันสำปะหลังจะทำอะไรต่าง ๆ เอามาทำพรรค์อย่างนี้ได้ อเมริกันใช้ข้าวโพด ข้าวโพดให้สัตว์กินดีกว่า ของเราทำอันนี้แล้วต้องสนับสนุน แล้วเอาอย่างไร ก็มี E20 E20 แต่ก่อนซื้อมา 100 เดี๋ยวนี้ซื้อมาแค่ 80 แล้วเติมแก๊สโซฮอล์ลงไป เติมเอทานอลลงไป 20 เรียกว่า E20 คนทำรถมา ๆ บริษัททำรถมา ผมทำอย่างนี้ ๆ คุณทำได้นะ ทุ่นไป 20 เปอร์เซ็นต์ เราลดตรงนี้ให้ ๆ คุณผลิตมาเลย
จะลดภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E 85 ให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากอเมริกาและยุโรป
ตั้งรัฐบาลใหม่รัฐมนตรีผู้หญิงของผม พลโทหญิงฯ (พลโทหญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) ไปบราซิลเลย บอกดูที่ต้นฉบับ บราซิลใหญ่โตมโหฬาร ใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม ปลูกอ้อยทำแก๊สโซฮอล์ ของเราเขาบอกวันหนึ่ง ประเทศไทยบอกว่า E85 ผมก็บอกว่าอะไรก็ E20 มันย้อนกลับมา 85 คือเติมไป 20 แล้วถอยมาเติม 15 ได้อย่างไร เขาบอกไม่ใช่ค่ะ 85 นี้เป็นแก๊สโซฮอล์เติมเข้ามา เบนซินเพียง 15 ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อก็เป็นไปได้แล้ว มีอยู่จริง รถมีไหม เป็นปัญหาสังคม พวกผลิตทางเอเชียบอกยัง ๆ ๆ อีก 1 ปีครึ่งถึง 2 ปีถึงจะออกมา แปลว่าเราผลิตแก๊สโซฮอล์ได้ แต่ว่ารถไม่ออก แล้วจริง ๆ รัฐมนตรีหญิงฯ ไปบราซิล ออกครับ เมื่อออกแล้วเป็นอย่างไร ก็น้ำมันเขามี 100 E100 ครับ รถออกมาแล้วครับ รถอเมริกันผลิตยี่ห้อนี้ ๆ ออกมา รถทางยุโรปผลิตออกมา เอเชียจะขอเกือบ 2 ปี จะรอ ผมก็ต้องตัดสินใจผมบอกผมไม่รอ ผมบอกคุณเอารถเข้ามาเลย เอารถเข้ามาเลยผมให้เวลา 1 ปีครึ่ง แปลว่ารถ Import สั่งเข้ามา ภาษีแพงหน่อยแต่เราลดภาษีให้เยอะเพื่อจะดึงดูดความสนใจ ให้เอาเข้ามาปีครึ่งเสร็จแล้วคุณต้องตั้งโรงประกอบ ที่ผมต้องไปกับเขานี้ต้องไปตั้งโรงประกอบ ตั้งโรงประกอบทำไมครับ เขามาทำรถ เขามาตั้งโรงประกอบเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ดีเซล ทำในประเทศไทย ก็ต้องสนับสนุนส่งเสริม
เล่าประสบการณ์การทำงานที่บริษัทรถยนต์อังกฤษ
ตัวประธานจีเอ็มมา ผมก็ไป เอารถมาโชว์ 4 คัน คันแรกก็ E85 เลยครับ อีกคันหนึ่งเป็นรถเขาเรียกว่าไฮบริด แปลว่าใช้น้ำมันได้สองอย่าง สลับกันไปมา อีกคันหนึ่งรถไฮโดรเจน ไม่ใช้น้ำมัน แปลว่าต่อไปนี้น้ำมันแห้งหมดในโลก รถก็มีคันวิ่งได้ครับ ก็คันที่ผมทดลองขับ รถไฮโดรเจนมีอยู่ 100 คันในโลก เขาเอามาแสดงให้ดู เขาก็กลัวว่าผมจะขับรถไม่เป็น ก็ผมขับรถมาค่อนชีวิตผมกำลังนี้ ขับมา 40 ปีเพิ่งจะเลิกขับมาเป็นนายกรัฐมนตรีเขาไม่ให้ขับ วันนั้นไปแสดงผมขับ ทีแรกฝรั่งนั่ง พวงมาลัยซ้าย ก็นั่ง ฝรั่งขับให้ดูหน่อย เราขับเองเลยก็ขับได้ครับ ไฮโดรเจนนะครับ คันแรกที่มาถึงประเทศไทย ผมก็ได้ขับ ดีครับเงียบสนิท ได้ขับ E85 ทางนั้นก็ทำปั๊มเติมเสร็จ ใช้รถใช้แก๊ส ทำอย่างไร ใช้น้ำมันทำอย่างไร เอามาคันหนึ่ง มี Off road คันหนึ่ง ทาโฮ เขามีอิมพาล่าอะไรต่าง ๆ ก็มันดีก็ต้องสนับสนุน ผมก็ปาฐกถาให้เขาฟัง ดีที่เขามีคนแปลให้ฟัง ไม่ต้องพูดภาษาฝรั่ง ปาฐกถาภาษาไทยนั่นหละครับ คุยกับฝรั่งก็คุยข้างนอก ผมก็บอกว่าผมใช้เวลา 9 ปีผมทำงานบริษัทรถยนต์ ผมรู้จักตั้งแต่กันชนหน้าถึงกันชนหลังข้างในถอดเป็นชิ้น ๆ ผมเรียกเป็นภาษาฝรั่งมังค่าได้หมด ผมรู้จักหมดครับ ภาษานั่นเรียกอย่างไร ภาษาไทยเรียกอย่างไร ภาษาช่างเรียกอย่างไร นั่นโตงเตงแหนบ สะดือแหนบ นมหนู สกรูไล ภาษาช่างทั้งนั้นครับ ฟังออก เขาก็ไปบอกว่านายกฯ รู้เรื่องนี้อีกแล้ว ไม่รู้ได้อย่างไรครับทำงานเรื่องนี้มา 9 ปี ผมเป็น Part manager ผมเป็นผู้จัดการแผนกอะไหล่ ชิ้นอะไหล่ รถอังกฤษไม่ใช่รถอเมริกัน รถวูลสลี่ย์ รถเอ็มจี รถมอร์ริส ตระกูลนี้ตายไปหมดเรียบร้อยแล้วครับ แต่ประสบการณ์ในเรื่องนั้นยังอยู่ครับ เพราะฉะนั้นจะพูดจะถามได้ ออกมาจากเวทีก็คุยกับฝรั่งมังค่าได้ เพราะเรารู้เรื่องรถ ฟัง ๆ บอกเขาบอกเมื่อสักครู่นี้พูดรู้หมดเขามีคนแปล เราบอกโมทนาด้วยได้เข้าใจ รู้ว่าเป็นมาอย่างไรทำไมถึงต้องเป็นอย่างนี้
ผมก็บอกผมต้องตัดสินใจ พวกอังกฤษในเอเชียเขาจะว่าผมเฮงซวย ผมก็ต้องยอมรับว่าเอาก็มันมาจ่ออยู่แล้ว น้ำมันใช้เป็นแก๊สโซฮอล์ 85 เติมน้ำมันแค่ 15 ทำไมจะไม่เอา รออีก 2 ปีผมบอกผมไม่รอ จะโกรธก็โกรธ ก็โอเค แล้วต้องลดราคาต้องให้ เขาเรียกว่าให้ Privilege เขาจะได้เอามา เอาละครับใครจะเปลี่ยนรถก็รอนี่ละครับ ก็มันถูกนะครับ คือเขายังไม่กำหนดราคานะ แต่ว่าลดอะไรต่าง ๆ ถ้ามันถูก สมมติน้ำมันอยู่ที่ 40 แล้วขาย 27 - 28 จะดีกว่าไหมครับ มันต้องดีแน่ น้ำมันออกมานี่ก็จะลดไปตามส่วน เพราะฉะนั้นไม่เป็นปัญหาครับ
ปัญหาระบบน้ำชลประทานในพื้นที่การเกษตรจังหวัดอุทัยธานี
ปัญหาของผมอยู่ตรงนี้ครับ ผมพูดให้ฟังเรื่องนี้แล้วผมจะขอย้อนหลังไปนิดหนึ่ง ว่าบางครั้งผมพูดจากความจำของผม ท่านรองผู้ว่าฯ จังหวัดอุทัยธานี ผมบอกเมื่อสักครู่นี้ว่าทำไมผมเลือกจังหวัดอุทัยธานี เดี๋ยวจะเสียไมตรีกับชาวอุทัยฯ บอกมาแล้วบอกวันนี้จะเล่าให้ฟัง เพราะจังหวัดอุทัยธานี ไปฟังท่านรองผู้ว่าฯ ผู้ว่าฯ ท่านไม่อยู่ท่านไปภูฏาน เขาอธิบายความให้ฟัง ฟังแล้วเชื่อไหมครับ จังหวัดนี้มีที่ 44 ล้านกว่าตารางกิโลเมตร แบ่งออกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งอยู่ข้างแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเพาะปลูกเลยครับ แบ่งครึ่ง อีกข้างหนึ่งเป็นป่าครับ เป็นป่าคือป่าห้วยขาแข้ง ทุ่งนเรศวรนี่ละครับ ....นี่ข้างนี้ แล้วนี่ละครับห้วยขาแข้งอยู่ตรงกลาง เป็น Valley ไปตรงกลาง แล้วจากตรงนี้แล้วน้ำแม่วง แม่เปิน เข้าทางด้านหนึ่ง น้ำมาก็ท่วมทางด้านป่า น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาก็ท่วมทางด้านเกษตร ฟังทีแรกท่านรองฯ ท่านบอก จังหวัดนี้ละครับเป็นจังหวัดที่ว่าเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องเลือกจังหวัดนี้เป็นตัวอย่างต้นแบบเลยครับ เขาอยู่กันอย่างพอเพียง อาชญากรรมน้อย อาชญากรรมต่ำ ทุกอย่างดีหมด ที่อื่นมีเฉลี่ย 13 วัด แต่ว่าที่นี่มี 85 วัด แล้วอะไรต่ออะไรอาชญากรรมต่ำกว่าเขาหมด แต่อีกซีกหนึ่งบอก โปรดรับความเห็นใจ ผมบอกผมเห็นใจว่าอย่างไร บอกว่าเกษตร พื้นที่เกษตรทั่วประเทศเข้าสู่ระบบชลประทาน มีร้อยละ 27 จังหวัดอื่นได้เฉลี่ยร้อยละ 27 จังหวัดอุทัยธานีได้ 10 เกษตรนี่นะครับ เกษตรชลประทานที่อื่นเขาได้เฉลี่ย 27 เปอร์เซ็นต์จาก 100 ทางนี้ได้ 10 เห็นไหมครับ ระบบน้ำท่วม น้ำท่วมเกษตร น้ำท่วมป่า แต่ว่าจะสร้างเขื่อนแม่วง แม่เปิน เพื่อจะต้องเอาเก็บน้ำ ไม่ได้ครับ เอ็นจีโอไม่ให้สร้าง ต่อต้านอีกแล้ว น่าสงสารไหมครับแบบนี้
จังหวัดเขา ๆ บอกเลยว่าคนบ้านเขานี้เขานับว่าเป็นคนเศรษฐกิจพอเพียง พออยู่พอกินและอยู่อย่างมีเกียรติ มีป่าซีกหนึ่งต้องรักษาไว้ แล้วมีเกษตรกรรมซึ่งจะต้องดำเนินชีวิต ปลาดังของเขา เรากินปลาอะไรต่ออะไรตามร้าน ท่านไปดู จาระเม็ดหมด มีอะไร ปลาแรด มาตัวที่สามครับ แต่ความจริงมันใช้ได้และมันถูกกว่าตัวอื่น ปลาดีเนื้อดี ปลาแรดตัวโตนะครับ ที่เขากินปลาตัวโตกันนี้ ปลาแรด อยู่ที่นี่ครับแม่น้ำสะแกกรัง เป็นเมืองพระชนกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 อำเภอทับทัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน พระราชทาน พวก Mid road หมากลางถนน ตามสำนวนพระองค์ท่าน Mid road กทม. ตอนผมเป็นผู้ว่าฯ ผมไปสร้าง รับ Mid road ได้ 8,000 ตัว กทม.ไปสร้าง ไปสร้างที่นั่นได้อย่างไร มีบริษัทของ กทม.ครับ ซึ่งแต่ก่อนนี้ชื่อบริษัทสหสามัคคี มีที่อยู่ 1,400 ไร่ สำหรับใช้ สำหรับจะดูแลเรื่องหมู แล้วต่อมาก็เลยไปสร้างวัดสหสามัคคี ไม่ค้าหมูก็ให้ค้าสัตว์ เป็นที่ของ กทม.ครับ ไปอยู่ที่จังหวัดอุทัยธานี อำเภอทับทัน แล้วก็เลยไปจัดการสร้าง ผมทำเลยครับ สร้างมี 8 กรงหมา ตอนนั้นอยู่ที่นั่นตากแดด มีทั้งนั้นละครับ เราเอาหมาจรจัดไปอยู่ แล้วจับแยกกัน ผู้หญิงผู้ชายจับแยกกัน แล้วใครไปดูไปเยี่ยม ก็ดู ตัวนี้ดี ๆ จับคู่เอาพันธุ์เดียวกันมา เอาไปเลี้ยงสองตัว อย่างนี้ก็อยู่ที่นี่ละครับ
จังหวัดอุทัยธานีจะเป็นตัวแทนของความเป็นเศรษฐกิจพอเพียง
แต่ว่าถ้าไปห้วยขาแข้งแล้วก็จะได้แลเห็น เข้าไปทางใต้จากทางสุพรรณบุรี พอเข้าเขตสุพรรณบุรีเข้าไปถึงอุทัยธานีเจออะไร ห้วยแห้ง ตำบลห้วยแห้ง บอกอย่างนี้ก็เสร็จ ตำบลห้วยแห้ง ขับไปอีกนานเท่าไร คลองแห้ง ห้วยก็แห้งคลองก็แห้ง เข้าไป แต่ว่าไปถึงตัวห้วยขาแข้งแล้ว ของเขาชุมชื่น เขารักษา มันไม่ถึงกับป่าดิบชื้นร้อนแบบกับที่บอร์เนียว แต่ของเรามันแห้งครับ แต่ว่าเป็นป่าดิบแห้ง เป็นป่าไม้เบญจพรรณ ไม้ต่าง ๆ ไม้เต็งไม้รัง ไม้ไผ่ แล้วถนนนี้ใครไปซาฟารีเวิลด์จะนึกว่า ถนนดีบ้างเลวบ้าง แต่ว่าถ้าฝนไม่ตกก็วิ่งกันเรียบ ติดถนนกว้างทั้งนั้น นอกนั้นหมดเลย กวางวิ่งตัดหน้าละครับ เล่าย้อนหลังให้ฟังเพื่อจะบอกว่า จังหวัดอุทัยธานีเขามีภาคภูมิใจ เขานี่ละครับจะเป็นตัวแทนของความเป็นเศรษฐกิจพอเพียง พอมีพออยู่ ผมบอกท่านผู้ว่าฯ บอก นี่จังหวัดอุทัยฯ เขาบอกใครมาอุทัยฯ ต้องไม่อุทธรณ์ต้องนอนอุทัยฯ พอไปถึงนั่นแล้วกลับไม่ได้ แยกจากคลองก็เป็นแม่น้ำสะแกกรัง แล้วย้อนกลับมาหาแม่น้ำเจ้าพระยา ของเขาน่าอยู่ครับการพัฒนาต่าง ๆ ถนนหนทางเรียบร้อยดี นอกจากทางที่จะออกมาบ้านไร่ที่ผมไปเลือกเดินทาง ก็เล่าให้ฟังไว้ครับ
ได้ข้อยุติสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ในพื้นที่ 130 ไร่บริเวณแยกเกียกกาย
ต้องเล่าให้ฟังอีกเรื่องยังพอมีเวลา เรื่องอะไรครับ ก็เรื่องของรัฐสภา ผมไปช่วยเขาทำให้มันจบเรื่องได้ ก็เล่าให้ฟังแล้วครับ ที่ดี 200 กว่าไร่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเอาไม่ได้ครับ เขาบอกสหภาพไม่ให้ สหภาพคิดราคามากมายเป็นหมื่นล้าน จะต้องทำอย่างนั้น แล้วให้เช่า 30 ปี รัฐสภาไปเช่า 30 ปีได้อย่างไร ต้องเอาที่ราชพัสดุ ผมดูแลหาแล้ว เขามีที่เขาจะเลือกอยู่แล้วอยู่ที่ปากเกร็ด 200 กว่าไร่ ผมบอกเลือกตรงนี้ 130 ไร่พื้นที่ทั้งหมดได้ 130 ไร่ แล้วทำอย่างไร เขาก็มี ขสทบ. เขาก็จะย้ายได้ คนที่อยู่แฟลตเขาก็จะย้ายได้ มีอุตสาหกรรมป่าไม้เป็นไม้ซุงอยู่ 8 ไร่เขาก็จะย้ายได้ มีที่ที่เขาตกลงกันไว้เขาจะสร้างที่พักของราชองครักษ์ ต้องอยู่ใกล้สวนจิตรลดา จะสร้างที่คนที่อยู่เก่าที่โรงงานทอผ้าเก่าเขาก็ตกลงจะลงเซ็นสัญญาไว้กับกรมธนารักษ์ เขามีชุมชนเล็ก ๆ แล้วเขาก็มีโรงเรียนอยู่มุมหนึ่ง โรงเรียนโยธินบูรณะ ผมไม่มีโอกาสจะอธิบายให้ เพราะตั้งใจจะทำให้เสร็จ คุณหญิงกษมาฯ (คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน) ท่านก็ดูแลเรื่อง เขาแบ่งงานกันหมดครับ ผู้บัญชาการทหารบกยังมาร่วมประชุมเลยครับ ปลัดกระทรวงกลาโหมมา
การบริหารจัดการโยกย้ายหน่วยงาน-ประชาชนไปยังพื้นที่ใหม่ใกล้บริเวณเดิม
ผมไปช่วยเขาจบได้เพราะผมเป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร้อยละ 90 ของกลาโหม ผมก็การันตีกับกลาโหม ว่าตกลงตามนี้ค่าชดเชยต่าง ๆ ผมยืนยันผมเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันได้ว่าผมสั่งงานกับทางสำนักงบประมาณ ก็ดำเนินการให้เสร็จ ปลุกระดมกันคนโน้นคนนี้ เขาต้องจัดการโยกย้ายหมด ทำไม เขามีที่ 25 ไร่อยู่วัดสร้อยทอง อยู่ห่างจากตรงมุม มุมเกียกกายวัดสร้อยทอง 1,700 เมตร มุมเกียกกาย และข้ามสะพานพิบูลสงครามไปบางโพ แล้วเลยไปหน่อยก็ถึงวัดสร้อยทอง ไม่ได้อยู่ในวัด อยู่ทางมุม อยู่ถนนหัวมุม หัวโค้งเหมือนกันที่ 25 ไร่ ก็ผมไปหักคอกระทรวงกลาโหมเขา บอกเอา 25 ไร่มาเดี๋ยวผมไปหาที่ 30 ไร่แทนให้ มาคิดอย่างนี้ เพื่ออะไร โรงเรียนโยธินบูรณะเขามี 8 ไร่ ผมบอกให้ 16 โรงเรียนเก่ามี 8 ไปให้ 16 สร้างใหม่ ให้เงิน 1,000 ล้านไปสร้างโรงเรียนใหม่ ไปโรงเรียนไปไกลเพียง 1,700 เมตร บอกว่าอ้างมีคนไปยุยงบอกนักเรียนต้องเดินทางไกลขึ้น แล้วคนมาจากทางด้านบางซื่อไม่ใกล้เข้าหรือ 1,700 เมตรเท่านั้นละครับ แยกเกียกกาย แยกบางโพ แล้วก็ถึง 1,700 เมตร มีคนไปปลุกระดม คุณหญิงฯ ท่านก็เจรจาพูดกับผอ. ผอ.ก็พูดกับนักเรียน เอานักเรียนทั้งโรงเรียนมาบอกว่า ให้นักเรียนมาพูดจาหาว่าไม่หารือ บอกเรื่องพรรค์อย่างนี้ไม่ต้องหารือ ก็คุณมีอยู่เก่า 8 เราจะสร้างให้ใหม่ 16 สร้างใหม่ทั้งโรงเรียน อีก 2 ปีถึงจะไป โยธินบูรณะจะอยู่ เขาจะวางศิลาฤกษ์กันใหม่ เพราะที่ตรงนี้เพียงจะเอาออกจากมุมไปเท่านั้น ชาวบ้านให้สัมภาษณ์ช่อง 6 นี่ละครับ ปีละ 2,000 ล้าน สัมภาษณ์ชาวบ้านต่าง ๆ จะทำอย่างไร จะให้ไปอยู่นอก จะให้ไปอยู่ปากเกร็ด ได้อย่างไร แล้วให้อยู่ที่ไหนครับ ข้ามถนน ถนนเกียกกาย อยู่ตรงนี้ข้ามเกียกกายไป เดิมจะได้ 4 ไร่กว่า เราทำ 7 ไร่กว่า ข้ามเกียกกายไปก็อยู่ข้างวัดแก้วฟ้าจุฬามณี จะสร้างแฟลตให้อยู่เรียบร้อย เดินข้ามถนนไปเท่านั้นละครับ
ข้อเท็จจริงก็ต้องรู้ก็บอกกันไว้ แต่มีคนปลุกระดมบอกจะถูกไล่ไปอยู่อำเภอวัดสลาก ทหารเขาจะไปอยู่วัดสลาก ทหารเขาไปอยู่วัดสลากอุทิศเขาบอกไกลไปหน่อย เขาไปหาที่ของเขา 30 ไร่ โรงเรียนของเขาล่ะ โรงเรียนเขาจะไปสร้างไหม เขาบอกไม่ เขาบอกสร้างตรงนี้ แถว ๆ สามเสนเขาหามาแล้วเรียบร้อย ตกลงได้ แฟลตจะไปก่อนไหม จะไปก่อน ผมมี ผมเป็นคนจัดการให้ว่า ผมมีบ้านเอื้ออาทร เสร็จเรียบร้อย จะไปอยู่ ครอบครัวใหญ่ให้ 2 แฟลตเลย ครอบครัวเล็ก 1 แฟลต ไปอยู่ก่อนเลย 1 ปี - ปีครึ่งจนกว่าจะสร้างแฟลตที่ปากเกร็ดเสร็จ เห็นไหมครับ ก็เขาตกลงกัน 260 ไร่อยู่ปากเกร็ด แล้วได้มาตรงนี้ 130 ไร่ เอาครึ่งเดียวก็พอ เพราะที่เดิม 27 ที่นี่ 130 อยู่ริมน้ำครับ ต่อมาจะมีสะพานข้ามจากจรัญสนิทวงศ์ข้ามมาทางถนนทหาร จะร่นซ้ายร่นขวาก็จะได้เป็นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างรัฐสภา ยุติลงได้จบกันหมดครับ
เตรียมวางศิลาฤกษ์อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ภายในเดือนธันวาคมนี้
ขอบคุณเจ้าของมีที่เอกชนอยู่แปลงเดียว 3 ไร่กว่า ท่านรองนิคมฯ ท่านไปเจรจาความไปตามหาเจ้าของให้ เขาจะเอาราคาแพง บอกว่าถ้าเห็นแก่ราชการเขาก็ดูราคาลงมาต่ำให้ ราคาก็หลายหมื่นครับ แต่เราต้องซื้อได้ ชิ้นเดียวที่จะต้องซื้อตรงนั้น แต่เราต้องทำอย่างไร เราต้องไปซื้อที่อีกชิ้นตรงนั้นให้กระทรวงกลาโหม เอา 25 เขาไปอยู่ตรงโน้น 30 แล้วจะได้เอาโรงเรียนโยธินฯ 8 ให้ไปอยู่ 16 เอาราชองครักษ์ 4 ให้ไปเลย 7 ไปสร้างอยู่ตรงนั้น ไปซื้อที่ตรงนั้นเพื่อตรงนี้ออก ๆ ทำเสร็จหมดครับ ทุกคนต้องพอใจเพราะไม่ได้ไกลไปจากที่เลย บางรายย้ายจากตรงนั้นย้ายย้อนกลับเข้ามากิโลฯ เดียว อยู่เข้ามาในเมืองเข้ามาอีกด้วย เราทำให้เสร็จหมดครับ อย่างนี้เขาบอกไม่ฟังเสียงใครจัดการเซ็น ทำไมจะเซ็นไม่ได้ครับ ผมเป็นคนออกแบบรูปแบบให้ ต้องบอกท่านเลขาธิการสภาฯ คุณต้องเซ็นสัญญาหมดว่า สัญญามีกี่ข้อ ๆ ท่านประธานจับออกมาหมด ประชุมกัน เลิกแล้วต้องกินเลี้ยงกันเพื่อแสดงความยินดีว่า 16 ปี 16 ปีแห่งความหลัง พอ ๆ กับสุรพลฯ (สุรพล สมบัติเจริญ) สุรพลฯ น่ะ 40 ปีแล้ว สุรพลฯ เขา 2 -3 วันเขา 40 ปีจากไป แต่สภาฯ นี้ 16 ปี ก็เพลงสุรพลฯ 16 ปีแห่งความหลัง
เสร็จนะครับ ตรงนี้ลงมือเลย แล้วจัดการเสร็จเพียงแต่ว่า จะเอาตรงนั้นเขาบอกยังไม่ต้อง กั้นรั้วได้ โรงเรียนโยธินฯ กั้นรั้วแล้วจะเป็นที่ปรับราบไปหมดเพื่อจะได้วางศิลาฤกษ์ จะทำให้ได้ตอนปลายเดือนธันวาคมนี้จะทำให้ได้ เขาได้ลงมือก่อสร้าง ก่อสร้างไปเสร็จออกแบบไปเสร็จพอถึงนั่นปั๊บ แฟลตทางโน้นเสร็จเขาก็ทุบตรงนั้นออก มีโรงเรียนย้ายก็เอาโรงเรียนออก ก็จะได้รัฐสภา ถนนสามเสนตรงนั้นก็กั้นให้กว้างขึ้นกว่าธรรมดาหน่อย เห็นไหมครับ ถ้าใครไปลอนดอน ข้ามสะพานเวสมินเตอร์ทางซ้ายก็ซ้ายรัฐสภาอังกฤษ ต่อไปสะพานนี้ยังไม่ได้รับพระราชทานชื่อ จะข้ามตรงนี้ จากจรัญสนิทวงศ์ข้ามมานี้ บางอ้อ แล้วข้ามมาก็มาลงที่เกียกกาย อังกฤษข้ามสะพานเวสมินเตอร์รัฐสภาอยู่ซ้าย ข้ามสะพานไทยยังไม่มีชื่อ รัฐสภาอยู่ขวา ก็อยู่ในใกล้ ๆ เมือง ไม่ไกลจากศูนย์บริหารงานของบ้านเมืองต่าง ๆ ก็ต้องทำให้เสร็จครับ ต้องตัดสินใจ
ที่ดิน 130 ไร่บริเวณเกียกกายเหมาะสมสร้างรัฐสภาแห่งใหม่
ผมก็ไม่ได้คิดว่าเป็นหน้าเป็นตาอะไรของผม แต่ผมมีหน้าที่ต้องมาเล่าให้ฟัง ท่านประธานชัย ชิดชอบ ท่านประธานวุฒิสภา ผมนายสมัครฯ ร่วมมือกันประชุม ท่านผู้บัญชาการทหารบกมา ทหารมาหมดเลยครับ หน่วยนี้มา ราชองครักษ์มา เพื่อตกลงเซ็นสัญญากันหมด เซ็นสัญญากันหมด ตกลง เซ็นแล้วเรียบร้อยแล้วครับ ดำเนินการกันแล้ว งบประมาณมีแล้ว แปรญัตติไว้เสร็จเรียบร้อยแล้วเพื่อปีนี้จะเริ่มได้ แล้วก็จะเริ่มก่อสร้าง ถ้าเสร็จได้ภายใน 84 ก็จะได้มีงานฉลองกันนิดหน่อย จะเริ่มลงมือภายใน 3 ปีจะก่อสร้างให้เรียบร้อย โอ้...บ้านเมืองจะแย่ จะทำอย่างไร จะต้องอย่างไร จะอยู่อย่างไร ก็ตรงนั้นเป็นที่พระราชฐาน ไปขออยู่ชั่วคราว แล้วก็เป็นรัฐสภาไม่มีที่อยู่เป็นของตัวเอง ไม่ได้ทำ นี่ละครับ ทำเสร็จทั้งหมดราชพัสดุ ก็ทางฝ่ายกรมธนารักษ์เป็นคนดูแล รัฐสภาก็จะอยู่ไปตลอดชั่วลูกหลาน จะอยู่อีกกี่ร้อยปีก็เป็นของกรมธนารักษ์ ก็คือเป็นของรัฐบาล เป็นของรัฐสภา ตัดสินใจทำครับ 265 ที่คลองเตยไม่ได้ก็ไม่ว่ากัน แต่ว่า 130 ที่เกียกกาย กำลังพอดีกำลังพอเหมาะ กำลังพองาม เรียบร้อยครับ เห็นไหมครับเรื่องพรรค์อย่างนี้ก็ต้องเก็บมาเล่าให้ฟัง มาตอบคำถามหน่อย เดี๋ยวจะว่าโอยเล่าแจ๊บ ๆ ไป
ป.ป.ช. รับเรื่องร้องเรียนกรณีกล่าวหาอธิบดี กปส.- ผอ.สถานี NBT ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
นี่ครับต้องขอประทานโทษ ผมทำให้ท่านอธิบดีและผู้อำนวยการกองเดือดร้อน เพราะอะไรครับ ข่าวจากการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม วันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีเรื่องสำคัญที่ควรจะแถลงให้สื่อมวลชนทราบ 2 เรื่อง 1. เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีมีผู้กล่าวหาร้องเรียนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT ปฏิบัติการหรือละเว้นปฏิบัติการโดยมิชอบ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้หนึ่ง กล่าวหา อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้อำนวยการฯ ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ ปล่อยให้มีคนนี้ พวกนี้ ๆ มาจัดรายการออกอากาศชื่อรายการความจริงวันนี้ ออกออกอากาศพูดเอาได้ข้างเดียวที่ข้อเท็จจริงผิดวิสัยสื่อมวลชนชั้นดี อันเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่าคำกล่าวหาร้องเรียนเป็นไปตามหลักเกณฑ์มาตรา 84 ประกอบมาตรา 85 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปราบปรามทุจริต 84 12 จึงรับพิจารณาแต่งตั้งอนุกรรมการให้ นางสาวสมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน มีศาสตราจารย์เมธี กองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นอนุกรรมการอยู่ด้วย
ผมจะบอกให้ฟังครับ ผมเป็นนายกรัฐมนตรี มีโทรทัศน์ที่เรียกได้ว่าโทรทัศน์รัฐบาลอยู่ช่องนี้ ใช้อย่างกระเหม็ดกระแหม่ คือว่าอาทิตย์หนึ่ง ผมขอใช้อาทิตย์คุยของผม แล้วเขาก็มีภาคเอกชนมาช่วยจัดการ รายการชื่อความจริงวันนี้ ใครฟัง 4 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม ตอนนี้เลื่อนไปหน่อยเพราะโอลิมปิกมาแทน เขาพูดจาดีไหมครับ เขาพูดดีมีเหตุผล เรียบร้อยไม่ดูถูกดูหมิ่นใคร แล้เขาก็กล้าเชิญมาให้มาชี้แจง ไม่มาชี้แจง แต่มีประชาชนคนหนึ่งไปร้องทุกข์ เรื่องไหนละครับ ก็เรื่องของ ป.ป.ช. นี่ละครับ ที่ล่อกันมาไม่รู้จักจบ มีเหตุผลไหมครับ เขามีเหตุผล แต่เอาเถอะ ป.ป.ช. จะอ้างอย่างนี้ก็เอา ป.ป.ช. จะเอา แต่ทำเพราะว่าอายที่เป็นเรื่องของตัวจะต้องถูกมาแฉเรื่องอะไรต่าง ๆ แล้วเวลาที่พวกท่านแสดงอาการละเมิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ เอาเถอะเขาแฉกันอย่างนั้นผมไม่เอามาร่วม ไม่เป็นไร แต่ผมจะถามสิครับว่ารายการความจริงวันนี้ออกอากาศคืนละ 45 นาที อาทิตย์ละ 6 คืน กับรายการโทรทัศน์อย่าง ASTV ออกอากาศ 24 ชั่วโมงเหมือน Reality show ด่าทอหยาบคายว่ากล่าวต่าง ๆ ไม่มีใครเขียนจดหมายไปถึง ป.ป.ช. ไม่มีใครเขียนอะไรอย่างไรเลย นี่เขาส่งมาให้ผม ที่บ้านมีอีกปึ๊งหนึ่ง สูงเป็นคืบครับ
สถานีโทรทัศน์ ASTV ใช้ถ้อยคำหยาบคายว่ากล่าวนายกฯ
หน้าซองผมจะอ่านหน้าซองให้ฟังครับ คือพวกที่บรรเลงกันทั้งหลายที่อยู่สะพานมัฆวานฯ นี่ สนธิ ลิ้ม รัฐบาลสัตว์นรกนี้อยู่ต่อไปอีกแม้วันเดียวก็ฉิบหายแล้ว นี่เทปนี้ เนื้อหาเขาโค้ดออกมาให้เลย นี่อย่างนี้เห็นไหมครับ ดูนะครับ สนธิ พิภพ สมศักดิ์ สมเกียรติ รัฐบาลสัตว์นรก นี่ม้วนนี้ สนธิ ลูกจีนรักชาติ ลูกพระยาขายชาติ นายกฯ ชาติชั่ว นี่อย่างนี้ครับ สุริยะใส นี่ตอนนี้ ตอนตีสอง จำลอง สนธิ สมศักดิ์ เวลาเท่าไร ตอนค่ำ 14 เดือน 8 ตีห้าสิบเอ็ด นี่อย่างนี้ Track 3 วัชระ เพ็ชรทอง ด่านายกรัฐมนตรีหยาบคายมาก เห็นไหมอย่างนี้ครับ ดูนี่ ๆ แหมสุดแต่จะพูด ผมจะบอกให้ท่านที่ส่งนี่มาให้ ผมได้รับ...นะครับ แต่บังเอิญผมได้ฟัง เมื่อคืนผมก็ได้ฟัง เมื่อคืนตื่นมาตี 3 มีอาการทำไมซี่โครงเดาะ นั่งรถไกลหรืออย่างไร ซี่โครงเดาะ นอนไม่ค่อยนั่นซี่โครงยอก ออกมาเปิดวิทยุฟัง ตี 3 เขาบอกว่ากำลังมีจันทรคราส จันทรคราส ใครเป็นคนบรรยาย พวกสะพานมัฆวาน จันทรคราสบอกเลย อย่างนี้นี่ดับแล้ว บ้านจันทร์ส่องหล้าดับแล้ว ยกมือไชโย
แล้วต่อไปอย่างไร ด่านายสมัครฯ หยาบคาย สาดเสีย เทเสีย สำนวนอย่างเมื่อสักครู่นี้ละครับ ต้องเอาสัตว์นรกนี้ออกจากทำเนียบฯ ให้ได้ รัฐบาลสัตว์นรก นี่อย่างนี้ครับ แล้วอย่างนี้ ป.ป.ช. ไม่คิดหรือครับว่าคนอย่างนายกรัฐมนตรีมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์เหมือนกัน ด่าหยาบ ด่าคาย ด่ามาแล้วเป็นปีครับ เวลาจะไปจัดการเข้าเขาก็ไปร้องศาล แล้วศาลท่านก็บอกว่า ศาลคุ้มครอง แล้วศาลก็ตัดสินบอกให้เขาทำได้ ต้องไปร้องขึ้นศาลข้างบนอีก ศาลสูงสุดก็ยังคุ้มครองกันอยู่ ยังคุ้มครองให้ด่าคนอื่น อย่างชนิดต้องฟ้องกันไม่มีวันจบ สาดเสียเทเสีย ชี้หน้าว่าไอ้รัฐบาลสัตว์นรก ต้องออกไปจากทำเนียบฯ อยู่ไปอีกวันหนึ่งบ้านเมืองก็ฉิบหายแล้ว ถ้อยคำอย่างนี้ไม่เป็นไรนะครับ แต่ว่า 3 คนที่เขาพูดกันในโทรทัศน์ผมก็ฟัง เขาพูดเข้าใจ เขาต้องใช้สำนวนที่คนอื่นเขาพูด เขาบอกเขา Classic ข้อมูลเขา Classic อธิบายความดัง ๆ เป็นที่เข้าใจ ไม่เหยียบย่ำไม่ดูหมิ่นอะไรต่าง ๆ อธิบายด้วยเหตุด้วยผล อย่างนี้ไม่ได้นะครับ อย่างนี้ต้องสำนวนผมที่เคยใช้ละครับ
ผมคิดว่าอย่างรายการความจริงวันนี้เป็นรายการที่ทำดีนะครับ รายการอย่างนี้เรียกว่าทำดีอัปรีย์กินหัวนะครับ เพราะว่าด้วย ป.ป.ช. ตั้งกรรมการเล่นงาน แต่การทำชั่วอย่างรายการ ASTV ออกอากาศ 24 ชั่วโมง ด่าหยาบ ด่าคาย แม้กระทั่งคนที่ว่าตัวเป็นพระก็ด่าด้วย เมื่อเช้าพระก็ด่าครับ สมณะที่เขานั่นน่ะ ประกาศเลยครับ อธิบายความเลยว่าบ้านเมืองจะต้องจบ อย่างไรจะต้องอย่างไร เรียกร้องคนมาให้เป็นล้านอย่างไร ต้องเอาให้ได้ จะต้องอยู่ นับกันเลยให้กี่เดือนกี่อะไร ต้องล้มรัฐบาลนี้ให้ได้ เวลาใกล้เข้ามา พระนะครับ แต่งตัวอ้างว่าเป็นพระ สมณะนี่ละครับมีพรรคพวกอยู่เป็นแสนทั่วประเทศ ที่ปลุกระดมกันได้ ที่ผมบอกแล้วบอกอีกว่าวันหนึ่งจะยึดศาลากลางแล้วก็จะเอาทหารออกมา
กลุ่มพันธมิตรจ้องล้มรัฐบาล
ผมอธิบายให้ฟังได้เลยครับ ผมมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลบ้านเมืองนี้อยู่ ผมจะบอกให้ฟังสิ่งที่จะทำไว้ ผมติดตามโดยตลอด จะล้มจะคว่ำให้อย่างไร เอาเถอะครับ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ของบ้านเมืองนั้นไม่ได้อยู่กับพวกท่าน แต่คนที่ท่านสั่งสมกันมา 40 ปีนี้ คณะหยุดวันพุธ กินนอนกันเกลือกกันนั่นน่ะ คณะนี้ละครับที่ถูกให้เลิกไปแล้ว ทางมหาเถระสมาคมสั่งให้จัดการ ก็ยังดื้อด้านขึ้นมาต่อสู้ แล้วมีคนไปสนับสนุน มีคนระดับที่เป็นนายพลตรีไปอยู่ข้างหลังเรื่องนี้ แล้วจะใช้กำลังพวกนี้ล้มล้างรัฐบาลให้ได้ ผมกล่าวหาอย่างนี้เลย เพราะการสอบสวนของเรามีอยู่พร้อมหมด ทำกันไป คิดว่าทำกันไป นักรบศรีวิชัยอย่างโน้นอย่างนี้ไปทำ กลางคืนผมก็นั่งนอนฟังดู ผมต้องฟังครับ ดุด่าว่ากล่าวอย่างไรผมต้องทนฟังได้ หยาบคายถ้อยคำต่าง ๆ ขึ้นศาลแล้วจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่ทราบได้ละครับ เพราะเราแน่ใจเลยว่าศาลนั้นท่านจะมีใจเป็นธรรม ศาลท่านอาจจะไม่เคยได้ฟัง ศาลอาจจะไม่ได้ยิน แต่ข้อความจะไปฟ้องศาลต้องมีแน่นอนครับ ดูหมิ่นหยาบคาย ไอ้นายกรัฐมนตรี ไอ้สัตว์นรก ต้องออกไปจากทำเนียบฯ ต้องเอาออกให้ได้ สนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่าไอ้สัตว์นรกในนั้น มึงอยู่ต่อไปอีกวันบ้านเมืองก็ฉิบหายแล้ว นี่สำนวนอย่างนี้ครับ ไม่เป็นไรนะครับ
ผมยืนยันเลยครับว่า อย่างรายการข้อเท็จจริงวันนี้ เป็นการทำดีอัปรีย์กินหัว เพราะถูกตั้งกรรมการสอบแล้วครับ ระดับชาติ ป.ป.ช. สอบ แต่คำชั่วแบบชนิดด่า 24 ชั่วโมงหยาบคายนั้น มีคนปกป้องให้ เพราะมีการคุ้มครอง แต่บ้านเมืองนี้เราต้องอยู่ครับ ต้องทนต่อไป แล้วผมก็ต้องอยู่ ผมไม่อยากจะพูดเรื่องตอนท้ายนี้ แต่ต้องพูดให้รู้เสียว่าผมเป็นคนถือหางเสือบ้านเมืองนี้อยู่ และผมรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ ผมทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองกลับมาสงบสุขเหมือนเดิม ให้คนไทยได้กลับมาสมัครสมานสามัคคีเป็นคนไทยเหมือนเดิม มีเจ้านายพระองค์เดียวกัน เหมือนเดิมครับ ซึ่งทำได้ และซึ่งเป็นไปได้ และผมแน่ใจว่าคนทั้งบ้านทั้งเมืองเป็นอย่างนี้ ส่วนคนหยิบมือหนึ่งจะทำอะไรอย่างไร สื่อสารมวลชนไหนจะถือหางคนอย่างนั้น คุณถือต่อไปเลย คุณถือต่อไป คุณประโคมต่อไป ดูหมิ่นเหยียดหยามรัฐบาลต่อไป ยกย่องคนพวกนี้ต่อไป แล้ววันหนึ่งจะได้รู้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร
ยืนยันไม่ยุบสภาและจะทำงานเพื่อบ้านเมือง
ผมไม่ถอยหรอกครับ จะไปบอกจะยุบสภาออก ผมไม่หรอกครับ ผมมีหน้าที่ทำของผม เรื่องที่เกิดในพรรคพลังประชาชนเป็นเรื่องที่ผมจะต้องดำเนินการกันเอง เป็นเรื่องที่ผมต้องจัดการแก้ไขของผมเอง แต่สำหรับบ้านเมืองนั้นพรรคพลังประชาชนเป็นคนดูแลให้รัฐบาลนี้อยู่ร่วมกับอีก 5 พรรคเมือง ถูกต้องตามกฎหมาย มีพรรคฝ่ายค้านอยู่ การเมืองจะดำเนินการต่อไปครับ ถ้าดำเนินการต่อไปได้ครบขบวนการ ผมก็จะอยู่ทั้งครบขบวนการ จะมีเหตุเภทภัยที่จะทำให้ผมจะต้องหัวทิ่มล้มลุกลงไปก็สุดแท้แต่ ว่าจะต้องเป็นไปอย่างนั้น ก็ต้องอย่างนั้นครับ สั่งว่าอย่างนี้ผิดก็ต้องผิดครับ สั่งต้องออกผมก็ต้องออก ผมบอกแล้วว่าผมเป็นสายการบิน Low cost ต้นทุนต่ำ เวลาเลิกไม่เป็นไร การบินไทยเลิกไม่ได้ครับ เลิกก็เรื่องใหญ่เลย แต่นกแอร์เลิกไม่เป็นปัญหา เพราะฉะนั้นก็ขอประทานโทษทั้งสองบริษัทนะครับ ยกตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ นะครับ เวลาหมดครับ วันนี้คุยกันแค่นี้ วันอาทิตย์หน้าคุยกัน ผมมีเรื่องมาคุยทุกอาทิตย์ละครับ เพราะยังทำงานอยู่ แล้วทำงานด้วยความตั้งใจ ผมจะรักษาบ้านเมืองนี้ไว้ให้กลับสู่ความเป็นอย่างเดิมให้ได้ครับ สวัสดีนะครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--