แท็ก
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กระทรวงศึกษาธิการ
นายสมัคร สุนทรเวช
กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงกลาโหม
นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับ กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ
วันนี้ (16 ส.ค.) เวลา 11.15 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางโดยรถยนต์มายังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เพื่อเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับ กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ
นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้เป็นอย่างยิ่ง ทรงมีพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส พระราชเสาวนีย์ ในโอกาสต่าง ๆ ให้พสกนิกรทุกคนในชาติตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรป่าไม้ นอกจากนั้น ทั้งสองพระองค์ยังทรงพระราชทานโครงการพระราชดำริต่าง ๆ ให้เป็นต้นแบบของการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ที่ยั่งยืน ทุกพื้นที่ ทั่วราชอาณาจักร ประกอบกับนโยบายการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ของนายกรัฐมนตรีได้มุ่งเน้นการคงพื้นที่ป่าไม้ ไม่ให้มีการบุกรุกเพิ่มขึ้น และนำพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกบุกรุกกลับคืนมาฟื้นฟูให้คืนความสมบูรณ์ ดังนั้น เพื่อสนองแนวพระราชปณิธานของทั้งสองพระองค์ ตลอดจนนโยบายของนายกรัฐมนตรี จึงได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับ กองทัพบก ไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2551 ที่ทำเนียบรัฐบาล และเพื่อให้การดำเนินการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้เป็นไปอย่างครบถ้วน สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงได้จัดการประชุมหารือกับส่วนราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม คือ กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อร่วมมือกันปฏิบัติภารกิจดังกล่าว
สำหรับเนื้อหาของบันทึกข้อตกลงจะเกี่ยวข้องกับการลาดตระเวน การสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ การสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การดำเนินคดี การปรับปรุงกฎหมาย ตลอดจนการเสริมสร้างองค์ความรู้และศึกษาวิจัย การรณรงค์และสร้างความตระหนัก โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา รวมไปถึงการเสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า เมื่อตอนที่เข้ามารับตำแหน่งได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับสั่งว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับสั่งฝากให้ดูแล 3 เรื่อง คือ ป่าไม้ ต้นน้ำ และช้าง ซึ่งก็ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ในหลายครั้งพระองค์ท่านทรงห่วงใยในเรื่องนี้ และวันนี้เราทุกคนจะมาร่วมกันทำงานถวายเจ้านายทั้งสองพระองค์
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามดังกล่าว ก่อนที่จะวางพวงมาลาและเยี่ยมชมบ้านพักของนายสืบ นาคะเสถียร บริเวณอนุสรณ์สถาน สืบ นาคะเสถียร
ต่อมานายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังหน่วยวิจัยสัตว์ป่าซับฟ้าผ่า เพื่อปล่อยละอง ละมั่ง คืนสู่ธรรมชาติ จำนวน 9 ตัว และเสริมโป่งธรรมชาติ ตามโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 76 พรรษา พุทธศักราช2551
ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเป็นประธานในงาน ทส.สัญจร ปลูกป่า “พลิกฟื้นผืนป่า ด้วยพระบารมี”โครงการรักน้ำ รักษ์ป่า ร่วมใจถวายพระแม่ของแผ่นดิน ณ บริเวณบ้านเขาไม้นวน ตำบลป่าอ้อ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี โดยมีนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติงานป้องกันรักษาป่า และมอบอุปกรณ์การกีฬา พร้อมปลูกต้นสะเดา ซึ่งเป็นไม้ประจำจังหวัดอุทัยธานี และกล่าวให้โอวาทว่า เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดที่จะรักษาบ้านเมืองของเราให้มีป่าที่เขียวชอุ่ม มีป่าจะมีน้ำ รักษาป่าไว้ จะมีน้ำไว้ใช้ ปลูกป่าไว้วันนี้ วันข้างหน้าจะมีน้ำ ในวันนี้จึงนับเป็นโอกาสที่ดีที่พวกเราทุกคน โดยเฉพาะเยาวชนซึ่งเป็นทรัพยากรมนุษย์ของบ้านเมือง เป็นเจ้าของประเทศ ได้ร่วมกันปลูกป่าเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ทั้งสองพระองค์ และเพื่อให้ผืนป่าแห่งนี้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ (16 ส.ค.) เวลา 11.15 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางโดยรถยนต์มายังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เพื่อเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับ กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ
นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงานว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้เป็นอย่างยิ่ง ทรงมีพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส พระราชเสาวนีย์ ในโอกาสต่าง ๆ ให้พสกนิกรทุกคนในชาติตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรป่าไม้ นอกจากนั้น ทั้งสองพระองค์ยังทรงพระราชทานโครงการพระราชดำริต่าง ๆ ให้เป็นต้นแบบของการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ที่ยั่งยืน ทุกพื้นที่ ทั่วราชอาณาจักร ประกอบกับนโยบายการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ของนายกรัฐมนตรีได้มุ่งเน้นการคงพื้นที่ป่าไม้ ไม่ให้มีการบุกรุกเพิ่มขึ้น และนำพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกบุกรุกกลับคืนมาฟื้นฟูให้คืนความสมบูรณ์ ดังนั้น เพื่อสนองแนวพระราชปณิธานของทั้งสองพระองค์ ตลอดจนนโยบายของนายกรัฐมนตรี จึงได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับ กองทัพบก ไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2551 ที่ทำเนียบรัฐบาล และเพื่อให้การดำเนินการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้เป็นไปอย่างครบถ้วน สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงได้จัดการประชุมหารือกับส่วนราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม คือ กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อร่วมมือกันปฏิบัติภารกิจดังกล่าว
สำหรับเนื้อหาของบันทึกข้อตกลงจะเกี่ยวข้องกับการลาดตระเวน การสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ การสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การดำเนินคดี การปรับปรุงกฎหมาย ตลอดจนการเสริมสร้างองค์ความรู้และศึกษาวิจัย การรณรงค์และสร้างความตระหนัก โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา รวมไปถึงการเสริมสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า เมื่อตอนที่เข้ามารับตำแหน่งได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับสั่งว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับสั่งฝากให้ดูแล 3 เรื่อง คือ ป่าไม้ ต้นน้ำ และช้าง ซึ่งก็ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ในหลายครั้งพระองค์ท่านทรงห่วงใยในเรื่องนี้ และวันนี้เราทุกคนจะมาร่วมกันทำงานถวายเจ้านายทั้งสองพระองค์
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามดังกล่าว ก่อนที่จะวางพวงมาลาและเยี่ยมชมบ้านพักของนายสืบ นาคะเสถียร บริเวณอนุสรณ์สถาน สืบ นาคะเสถียร
ต่อมานายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังหน่วยวิจัยสัตว์ป่าซับฟ้าผ่า เพื่อปล่อยละอง ละมั่ง คืนสู่ธรรมชาติ จำนวน 9 ตัว และเสริมโป่งธรรมชาติ ตามโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 76 พรรษา พุทธศักราช2551
ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเป็นประธานในงาน ทส.สัญจร ปลูกป่า “พลิกฟื้นผืนป่า ด้วยพระบารมี”โครงการรักน้ำ รักษ์ป่า ร่วมใจถวายพระแม่ของแผ่นดิน ณ บริเวณบ้านเขาไม้นวน ตำบลป่าอ้อ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี โดยมีนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติงานป้องกันรักษาป่า และมอบอุปกรณ์การกีฬา พร้อมปลูกต้นสะเดา ซึ่งเป็นไม้ประจำจังหวัดอุทัยธานี และกล่าวให้โอวาทว่า เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดที่จะรักษาบ้านเมืองของเราให้มีป่าที่เขียวชอุ่ม มีป่าจะมีน้ำ รักษาป่าไว้ จะมีน้ำไว้ใช้ ปลูกป่าไว้วันนี้ วันข้างหน้าจะมีน้ำ ในวันนี้จึงนับเป็นโอกาสที่ดีที่พวกเราทุกคน โดยเฉพาะเยาวชนซึ่งเป็นทรัพยากรมนุษย์ของบ้านเมือง เป็นเจ้าของประเทศ ได้ร่วมกันปลูกป่าเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ทั้งสองพระองค์ และเพื่อให้ผืนป่าแห่งนี้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--