นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรี และพสกนิกรทุกหมู่เหล่าจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2551 โดยทุกคนต่างพร้อมใจกันใส่เสื้อสีฟ้าร่วมถวายพระพร
วันนี้ (12 ส.ค.) เวลา 19.19 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล งานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา “12 สิงหาพระบรมราชินีนาถ” พุทธศักราช 2551 โดยมี คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภริยา คณะรัฐมนตรี ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร นิสิต นักศึกษา พ่อค้า ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ร่วมในพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร โดยพร้อมใจกันใส่เสื้อสีฟ้าร่วมถวายพระพรอย่างพร้อมเพรียงกัน
รศ.พัชรี สวนแก้ว ประธานกรรมการจัดงาน 12 สิงหาพระบรมราชินีนาถ พุทธศักราช 2551 กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานว่า การจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ประจำปีนี้ คณะกรรมการจัดงาน อันประกอบด้วย มูลนิธิ 5 ธันวามหาราชเป็นองค์กรหลักในการจัดงาน พร้อมด้วยข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ต่างปลื้มปีติยินดีที่ได้แสดงความจงรักภักดีด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จึงได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ทั้งในส่วนกลางที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงแห่งนี้ และในต่างจังหวัดพร้อมกันทั่วราชอาณาจักร เพื่อถวายเป็นราชสักการะและถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมกันนี้คณะกรรมการจัดงานฯ ยังได้เชิญชวนรวมพลังคนทั้งชาติรู้ รัก สามัคคี โดยมุ่งเน้นให้คนทั้งชาติมีความรักและสามัคคี ปรองดองกัน โดยให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นเป้าหมายสูงสุด อีกด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีถวายคำนับ เปิดกรวยดอกไม้ถวายเครื่องราชสักการะ ถวายคำนับ จุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล แล้วกล่าวคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ดังนี้
ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยพสกนิกรทุกหมู่เหล่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเป็นล้นพ้น จึงพร้อมใจกันมาร่วมชุมนุม ณ บริเวณมณฑลพิธีแห่งนี้ พร้อมกับเหล่าพสกนิกรในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดี และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ซึ่งเวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ในวันที่ 12 สิงหาคม ศกนี้
ข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยต่างประจักษ์ว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจอันหนัก เพื่อปวงประชามาเป็นเวลานานกว่า 58 ปี ที่ทรงดำรงพระอิสริยศักดิ์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ คู่พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐปวงชนชาวไทยต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงตรากตรำพระวรกาย บำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน โดยมิได้ทรงย่อท้อต่อความเหนื่อยยาก ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา และพระราชทรัพย์ เพื่อทรงนำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่อาณาประชาราษฎร์ ด้วยพระเมตตากรุณา และพระราชจริยวัตรอันงดงาม เป็นที่ประจักษ์ของประชาชนชาวไทย และชาวต่างประเทศทั่วโลก
โครงการตามพระราชดำริต่าง ๆ ที่ได้รับการรังสรรค์ด้วยพระปรีชาญาณ และพระอัจฉริยภาพของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อันใหญ่หลวงแก่ประชากรสาขาอาชีพต่าง ๆ โดยเฉพาะเกษตรกรและราษฎรในชนบท ได้ใช้เวลาอย่างมีคุณค่า มีรายได้เพิ่มพูนเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ ทั้งยังทรงช่วยส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรม ส่งเสริมงานศิลปะช่างฝีมือทุกแขนง ให้ดำรงคงอยู่คู่ประเทศและสืบทอดถึงอนุชนอาณาประชาราษฎร์ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทอย่างทั่วถ้วน อีกทั้งพระปรีชาสามารถ และพระเกียรติคุณของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ยังเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกอย่างกว้างขวาง และเป็นที่ยกย่องเทิดทูนกันทั่วไป
ในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ศกนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาต นำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั่วพระราชอาณาจักรกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ดังต่อไปนี้
“ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและอานุภาพสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลประทานชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงพระเจริญสิริสวัสดิ์ พรั่งพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัย พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลไปทั่วทุกทิศานุทิศ มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด ขอจงสัมฤทธิ์ สมดังพระราชหฤทัยปรารถนา ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้า ของเหล่าพสกนิกรตราบกาลนิรันดร์ เทอญ” ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีนำร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และจุดเทียนชัยถวายพระพร แล้วร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราช
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ (12 ส.ค.) เวลา 19.19 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล งานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา “12 สิงหาพระบรมราชินีนาถ” พุทธศักราช 2551 โดยมี คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภริยา คณะรัฐมนตรี ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร นิสิต นักศึกษา พ่อค้า ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ร่วมในพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร โดยพร้อมใจกันใส่เสื้อสีฟ้าร่วมถวายพระพรอย่างพร้อมเพรียงกัน
รศ.พัชรี สวนแก้ว ประธานกรรมการจัดงาน 12 สิงหาพระบรมราชินีนาถ พุทธศักราช 2551 กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานว่า การจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ประจำปีนี้ คณะกรรมการจัดงาน อันประกอบด้วย มูลนิธิ 5 ธันวามหาราชเป็นองค์กรหลักในการจัดงาน พร้อมด้วยข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชนทุกสาขาอาชีพ ต่างปลื้มปีติยินดีที่ได้แสดงความจงรักภักดีด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จึงได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ทั้งในส่วนกลางที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวงแห่งนี้ และในต่างจังหวัดพร้อมกันทั่วราชอาณาจักร เพื่อถวายเป็นราชสักการะและถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมกันนี้คณะกรรมการจัดงานฯ ยังได้เชิญชวนรวมพลังคนทั้งชาติรู้ รัก สามัคคี โดยมุ่งเน้นให้คนทั้งชาติมีความรักและสามัคคี ปรองดองกัน โดยให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นเป้าหมายสูงสุด อีกด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีถวายคำนับ เปิดกรวยดอกไม้ถวายเครื่องราชสักการะ ถวายคำนับ จุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล แล้วกล่าวคำถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ดังนี้
ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยพสกนิกรทุกหมู่เหล่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเป็นล้นพ้น จึงพร้อมใจกันมาร่วมชุมนุม ณ บริเวณมณฑลพิธีแห่งนี้ พร้อมกับเหล่าพสกนิกรในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดี และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ซึ่งเวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ในวันที่ 12 สิงหาคม ศกนี้
ข้าพระพุทธเจ้าและปวงชนชาวไทยต่างประจักษ์ว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจอันหนัก เพื่อปวงประชามาเป็นเวลานานกว่า 58 ปี ที่ทรงดำรงพระอิสริยศักดิ์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ คู่พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐปวงชนชาวไทยต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงตรากตรำพระวรกาย บำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน โดยมิได้ทรงย่อท้อต่อความเหนื่อยยาก ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา และพระราชทรัพย์ เพื่อทรงนำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่อาณาประชาราษฎร์ ด้วยพระเมตตากรุณา และพระราชจริยวัตรอันงดงาม เป็นที่ประจักษ์ของประชาชนชาวไทย และชาวต่างประเทศทั่วโลก
โครงการตามพระราชดำริต่าง ๆ ที่ได้รับการรังสรรค์ด้วยพระปรีชาญาณ และพระอัจฉริยภาพของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อันใหญ่หลวงแก่ประชากรสาขาอาชีพต่าง ๆ โดยเฉพาะเกษตรกรและราษฎรในชนบท ได้ใช้เวลาอย่างมีคุณค่า มีรายได้เพิ่มพูนเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ ทั้งยังทรงช่วยส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรม ส่งเสริมงานศิลปะช่างฝีมือทุกแขนง ให้ดำรงคงอยู่คู่ประเทศและสืบทอดถึงอนุชนอาณาประชาราษฎร์ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทอย่างทั่วถ้วน อีกทั้งพระปรีชาสามารถ และพระเกียรติคุณของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ยังเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกอย่างกว้างขวาง และเป็นที่ยกย่องเทิดทูนกันทั่วไป
ในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ศกนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาต นำพสกนิกรทุกหมู่เหล่าทั่วพระราชอาณาจักรกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ดังต่อไปนี้
“ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและอานุภาพสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลประทานชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงพระเจริญสิริสวัสดิ์ พรั่งพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัย พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลไปทั่วทุกทิศานุทิศ มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด ขอจงสัมฤทธิ์ สมดังพระราชหฤทัยปรารถนา ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้า ของเหล่าพสกนิกรตราบกาลนิรันดร์ เทอญ” ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีนำร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และจุดเทียนชัยถวายพระพร แล้วร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราช
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--