นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงานแสดงเทคโนโลยียนตรกรรมพลังงานทางเลือกแห่งอนาคต ของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น จำกัด
วันนี้ เวลา 08.45 น. ณ ฮอลล์ 1 - 2 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงานแสดงเทคโนโลยียนตรกรรมพลังงานทางเลือกแห่งอนาคต ของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พลโทหญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าร่วมงาน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดงานสรุปสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า โดยส่วนตัวมีความสนใจในเรื่องรถยนต์เพราะในสมัยหนุ่มได้ทำงานที่บริษัทรถยนต์ของประเทศอังกฤษอยู่ 9 ปี ได้เห็นการพัฒนาของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเบนซินและดีเซล ซึ่งในสมัยก่อนน้ำมันดิบมีราคาเพียง 9 - 10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ปัจจุบันราคาขึ้นไปกว่า 100 เหรียญฯ ทำให้เกิดปัญหาราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมาก ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ก็ได้เริ่มคิดพัฒนารถยนต์อีโคคาร์หรือ economic car เพื่อทำให้รถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยลง และต่อมามีการพัฒนาพลังานทดแทนคือเอทานอลที่เป็นผลิตผลพลอยได้จากอ้อย น้ำตาล เพื่อผสมในน้ำมันเบนซินช่วยลดการใช้น้ำมันเบนซิน ซึ่งเอทานอลได้เกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา จากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงริเริ่มสร้างโรงงานผลิตเอทานอลในพระตำหนักสวนจิตรลดา เพื่อใช้กับรถยนต์ในอัตราส่วนเบนซินร้อยละ 80 ต่อเอทานอลร้อยละ 20 ที่เรียกว่าแก๊สโซฮอล์
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในปัจจุบันได้มีการสนับสนุนพัฒนารถยนต์ที่ใช้แก๊สโซฮอล์ E20 และ E85 ที่ใช้น้ำมันเบนซินเพียงร้อยละ 15 รวมทั้งรถยนต์ที่ใช้แก๊ส CNG หรือ NGV เพื่อใช้ทดแทนการใช้น้ำมันที่ราคาสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันทางยุโรปและอเมริกามีการผลิตรถยนต์ที่สามารถใช้พลังงาน E85 ได้แล้ว ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ในเอเชียขอเวลาพัฒนาอีก 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี โดยในวันนี้ บริษัท จีเอ็ม ได้ตั้งฐานการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยที่จังหวัดระยอง และได้นำรถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทนมาแสดงในวันนี้ เช่น แก๊สโซฮอล์ E20 / E85 รวมทั้งรถยนต์ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่จะมีการพัฒนาต่อไปในอนาคต ซึ่งวันนี้รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนบริษัทผลิตรถยนต์จากต่างชาติที่มีความพร้อม ให้มาสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยและใช้พลังงานทดแทนซึ่งไม่มีมลพิษในประเทศไทย
ภายหลังการกล่าวเปิดงาน นายกรัฐมนตรีได้ทดสอบและลองขับรถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทน ด้วยตนเอง และให้สัมภาษณ์ว่า จากการทดลองขับรถยนต์พลังงานทางเลือกนั้นดีมาก ซึ่งเชื่อว่าสำหรับประเทศไทยในการใช้พลังงานทางเลือกจะสามารถพัฒนาได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าไม่มีการจุดชนวนก็รออีก 2 ปี ซึ่งระยะเวลาที่ต้องรอนี้ไม่ใช่เพราะจะมีกลุ่มเอ็นจีโอต่อต้าน เพียงแต่ว่าบริษัทอื่นอย่างของญี่ปุ่นเขาผลิตออกมาได้ช้า ดังนั้น เราต้องเปิดโอกาสให้ทางอเมริกาและยุโรป
"พูดง่าย ๆ วันนี้ญี่ปุ่นช้ากว่า ก็ให้เวลาปีครึ่งเพื่อที่จะนำเข้ามาทั้งคัน แล้วขายไปก่อนจะได้มีการเริ่มต้น เอทานอลและแก๊สโซฮอล์จะได้เดินหน้า แต่ต่อไปก็ต้องมาประกอบในประเทศไทย ซึ่งถึงเวลานั้นญี่ปุ่นก็จะตามทัน เราลดให้ญี่ปุ่นได้ทำไมจะลดให้ทางอเมริกาไม่ได้" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการลดภาษีศุลกากรให้ด้วยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้มีการตกลงกันไว้หมดแล้ว เราจะลดให้ทุกอย่าง ส่วนจะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์นั้นตนไม่แน่ใจ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 08.45 น. ณ ฮอลล์ 1 - 2 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงานแสดงเทคโนโลยียนตรกรรมพลังงานทางเลือกแห่งอนาคต ของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พลโทหญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าร่วมงาน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดงานสรุปสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า โดยส่วนตัวมีความสนใจในเรื่องรถยนต์เพราะในสมัยหนุ่มได้ทำงานที่บริษัทรถยนต์ของประเทศอังกฤษอยู่ 9 ปี ได้เห็นการพัฒนาของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเบนซินและดีเซล ซึ่งในสมัยก่อนน้ำมันดิบมีราคาเพียง 9 - 10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ปัจจุบันราคาขึ้นไปกว่า 100 เหรียญฯ ทำให้เกิดปัญหาราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมาก ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ก็ได้เริ่มคิดพัฒนารถยนต์อีโคคาร์หรือ economic car เพื่อทำให้รถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยลง และต่อมามีการพัฒนาพลังานทดแทนคือเอทานอลที่เป็นผลิตผลพลอยได้จากอ้อย น้ำตาล เพื่อผสมในน้ำมันเบนซินช่วยลดการใช้น้ำมันเบนซิน ซึ่งเอทานอลได้เกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา จากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงริเริ่มสร้างโรงงานผลิตเอทานอลในพระตำหนักสวนจิตรลดา เพื่อใช้กับรถยนต์ในอัตราส่วนเบนซินร้อยละ 80 ต่อเอทานอลร้อยละ 20 ที่เรียกว่าแก๊สโซฮอล์
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในปัจจุบันได้มีการสนับสนุนพัฒนารถยนต์ที่ใช้แก๊สโซฮอล์ E20 และ E85 ที่ใช้น้ำมันเบนซินเพียงร้อยละ 15 รวมทั้งรถยนต์ที่ใช้แก๊ส CNG หรือ NGV เพื่อใช้ทดแทนการใช้น้ำมันที่ราคาสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันทางยุโรปและอเมริกามีการผลิตรถยนต์ที่สามารถใช้พลังงาน E85 ได้แล้ว ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ในเอเชียขอเวลาพัฒนาอีก 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี โดยในวันนี้ บริษัท จีเอ็ม ได้ตั้งฐานการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยที่จังหวัดระยอง และได้นำรถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทนมาแสดงในวันนี้ เช่น แก๊สโซฮอล์ E20 / E85 รวมทั้งรถยนต์ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่จะมีการพัฒนาต่อไปในอนาคต ซึ่งวันนี้รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนบริษัทผลิตรถยนต์จากต่างชาติที่มีความพร้อม ให้มาสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยและใช้พลังงานทดแทนซึ่งไม่มีมลพิษในประเทศไทย
ภายหลังการกล่าวเปิดงาน นายกรัฐมนตรีได้ทดสอบและลองขับรถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทน ด้วยตนเอง และให้สัมภาษณ์ว่า จากการทดลองขับรถยนต์พลังงานทางเลือกนั้นดีมาก ซึ่งเชื่อว่าสำหรับประเทศไทยในการใช้พลังงานทางเลือกจะสามารถพัฒนาได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าไม่มีการจุดชนวนก็รออีก 2 ปี ซึ่งระยะเวลาที่ต้องรอนี้ไม่ใช่เพราะจะมีกลุ่มเอ็นจีโอต่อต้าน เพียงแต่ว่าบริษัทอื่นอย่างของญี่ปุ่นเขาผลิตออกมาได้ช้า ดังนั้น เราต้องเปิดโอกาสให้ทางอเมริกาและยุโรป
"พูดง่าย ๆ วันนี้ญี่ปุ่นช้ากว่า ก็ให้เวลาปีครึ่งเพื่อที่จะนำเข้ามาทั้งคัน แล้วขายไปก่อนจะได้มีการเริ่มต้น เอทานอลและแก๊สโซฮอล์จะได้เดินหน้า แต่ต่อไปก็ต้องมาประกอบในประเทศไทย ซึ่งถึงเวลานั้นญี่ปุ่นก็จะตามทัน เราลดให้ญี่ปุ่นได้ทำไมจะลดให้ทางอเมริกาไม่ได้" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการลดภาษีศุลกากรให้ด้วยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้มีการตกลงกันไว้หมดแล้ว เราจะลดให้ทุกอย่าง ส่วนจะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์นั้นตนไม่แน่ใจ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--