รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่5/2551 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่5/2551 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้แถลงข่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ที่ประชุมรับทราบการกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคกรณีรถติดตั้งก๊าซเป็นเชื้อเพลิง ตามมติคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ในการประชุมครั้งที่ 4/2551 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2551 กำหนดมาตรฐานคุ้มครองผู้บริโภคกรณีติดตั้งก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ โดยให้แจ้งกรมการขนส่งทางบกดำเนินการโดยเร่งด่วน ซึ่งกรมการขนส่งทางบก ได้แจ้งผลการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแล้ว ดังนี้ 1) ร่างกฎกระทรวงกำหนดส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ของรถที่ใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป็นเชื้อเพลิง ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2551 ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนาม 2) การประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคทราบถึงสถานที่ติดตั้งก๊าซ และสถานที่ตรวจรถใช้ก๊าซที่ได้รับความเห็นชอบแล้วนั้น กรมการขนส่งทางบกได้ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ www.dlt.go.th/ngv และสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมี Call Center และโทรศัพท์หมายเลย 1584 ด้วย
พร้อมกันนี้ที่ประชุมเห็นชอบการพิจารณาออกคำสั่งห้ามขายสินค้าเครื่องทำน้ำเย็นที่ใช้ตะกั่วเป็นตัวประสานรอยเชื่อมต่อของตะเข็บถังน้ำหรือท่อส่งน้ำและภาชนะสำหรับปรุงหรือบรรจุอาหารที่ใช้ตะกั่วเป็นตัวประสานรอยเชื่อมต่อเป็นการถาวร ตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัย และเห็นชอบใช้อำนาจตามมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 เปรียบเทียบความผิดผู้ประกอบธุรกิจที่จัดทำฉลากสินค้าชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมไม่ถูกต้อง ดังนี้ เปรียบเทียบความผิด เจ้าของรุ่งเรืองพานิช ในฐานะผลิตสินค้าเพื่อขายสินค้าชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม โดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้องตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ 23 (พ.ศ.2550) เรื่อง ในชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากและเปรียเทียบความผิด 1) เจ้าของร้านเบ้ลีกิม 2) เจ้าของร้านอุทัยพาณิชย์ 3) เจ้าของร้านเจริญสุข 4) เจ้าของร้านวรชัย 5) เจ้าของร้านทรัพย์แก้วเวชภัณฑ์ 6) เจ้าของร้านพรสังฆภัณฑ์ 7) เจ้าของร้านวันดีสังฆภัณฑ์ 8) เจ้าของร้านศิลป์ดาวทอง 9) เจ้าของร้านดาวทอง 10) เจ้าของร้านนายสันต์ และ11) เจ้าของร้านห้างทองกิมหลี 9 ในฐานะผู้ผลิตสินค้าเพื่อขายสินค้าโดยไม่ดำเนินการแก้ไขฉลากให้ถูกต้องตามคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ซึ่งสั่งตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยปรับผู้ประกอบการทั้ง 12 ราย เป็นจำนวนเงินรายละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 60,000 บาท
นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นยังชอบยุทธศาสตร์การจัดตั้งสำนักงานประสานการคุ้มครองผู้บริโภคภูมิภาค จำนวน 9 เขต ภายในระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ.2552- พ.ศ.2556) โดยจะนำร่องจัดตั้งสำนักงานประสานการคุ้มครองผู้บริโภค เขต 1 ณ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ. 2552 ก่อน จากนั้นก็จะมีการขยายจนครบ 9 เขต ต่อไป ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กลไกการคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนภูมิภาคมีการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ เกิดความร่วมมือแบบบูรณาการ และส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเข้มแข็งในการดำเนินงานปกป้องคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ประชาชนได้รับความเป็นธรรม และปลอดภัย ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศมีความเข้มแข็งและยั่งยืน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่5/2551 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้แถลงข่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ที่ประชุมรับทราบการกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคกรณีรถติดตั้งก๊าซเป็นเชื้อเพลิง ตามมติคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ในการประชุมครั้งที่ 4/2551 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2551 กำหนดมาตรฐานคุ้มครองผู้บริโภคกรณีติดตั้งก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ โดยให้แจ้งกรมการขนส่งทางบกดำเนินการโดยเร่งด่วน ซึ่งกรมการขนส่งทางบก ได้แจ้งผลการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแล้ว ดังนี้ 1) ร่างกฎกระทรวงกำหนดส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ของรถที่ใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป็นเชื้อเพลิง ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2551 ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนาม 2) การประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคทราบถึงสถานที่ติดตั้งก๊าซ และสถานที่ตรวจรถใช้ก๊าซที่ได้รับความเห็นชอบแล้วนั้น กรมการขนส่งทางบกได้ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ www.dlt.go.th/ngv และสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมี Call Center และโทรศัพท์หมายเลย 1584 ด้วย
พร้อมกันนี้ที่ประชุมเห็นชอบการพิจารณาออกคำสั่งห้ามขายสินค้าเครื่องทำน้ำเย็นที่ใช้ตะกั่วเป็นตัวประสานรอยเชื่อมต่อของตะเข็บถังน้ำหรือท่อส่งน้ำและภาชนะสำหรับปรุงหรือบรรจุอาหารที่ใช้ตะกั่วเป็นตัวประสานรอยเชื่อมต่อเป็นการถาวร ตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัย และเห็นชอบใช้อำนาจตามมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 เปรียบเทียบความผิดผู้ประกอบธุรกิจที่จัดทำฉลากสินค้าชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมไม่ถูกต้อง ดังนี้ เปรียบเทียบความผิด เจ้าของรุ่งเรืองพานิช ในฐานะผลิตสินค้าเพื่อขายสินค้าชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม โดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้องตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ 23 (พ.ศ.2550) เรื่อง ในชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากและเปรียเทียบความผิด 1) เจ้าของร้านเบ้ลีกิม 2) เจ้าของร้านอุทัยพาณิชย์ 3) เจ้าของร้านเจริญสุข 4) เจ้าของร้านวรชัย 5) เจ้าของร้านทรัพย์แก้วเวชภัณฑ์ 6) เจ้าของร้านพรสังฆภัณฑ์ 7) เจ้าของร้านวันดีสังฆภัณฑ์ 8) เจ้าของร้านศิลป์ดาวทอง 9) เจ้าของร้านดาวทอง 10) เจ้าของร้านนายสันต์ และ11) เจ้าของร้านห้างทองกิมหลี 9 ในฐานะผู้ผลิตสินค้าเพื่อขายสินค้าโดยไม่ดำเนินการแก้ไขฉลากให้ถูกต้องตามคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ซึ่งสั่งตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยปรับผู้ประกอบการทั้ง 12 ราย เป็นจำนวนเงินรายละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 60,000 บาท
นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นยังชอบยุทธศาสตร์การจัดตั้งสำนักงานประสานการคุ้มครองผู้บริโภคภูมิภาค จำนวน 9 เขต ภายในระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ.2552- พ.ศ.2556) โดยจะนำร่องจัดตั้งสำนักงานประสานการคุ้มครองผู้บริโภค เขต 1 ณ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ. 2552 ก่อน จากนั้นก็จะมีการขยายจนครบ 9 เขต ต่อไป ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กลไกการคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนภูมิภาคมีการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ เกิดความร่วมมือแบบบูรณาการ และส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเข้มแข็งในการดำเนินงานปกป้องคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ประชาชนได้รับความเป็นธรรม และปลอดภัย ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศมีความเข้มแข็งและยั่งยืน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--