แท็ก
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
พระที่นั่งอนันตสมาคม
งานเฉลิมพระเกียรติ
นายสมัคร สุนทรเวช
สนทนาประสาสมัคร
งานศิลป์แผ่นดิน
นายกรัฐมนตรีเชิญชวนประชาชนร่วมชื่นชมพระบารมีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 10-12 ส.ค.นี้ พร้อมชมงานศิลป์แผ่นดินในพระที่นั่งอนันตสมาคม
รายการ “สนทนาประสาสมัคร”
โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2551 เวลา 08.30-09.30 น.
--------------------------------------
สวัสดีครับท่านผู้ชมที่เคารพ รายการวันนี้เริ่มต้นด้วยอัญเชิญเพลงใหม่ เป็นเพลงแต่งถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถนะครับ เราชาวไทยคุ้นเคยกับเพลงพ่อของแผ่นดิน คุ้นเคยมานาน ร้องกันได้หมดทั่วประเทศ คือเขาแถลงข่าวไว้วันที่ 4 สิงหาคม ผมเองก็ไม่ได้ฟังว่าแถลงข่าว แต่ว่ามีหน้าที่จะต้องมาแถลงด้วยตัวเอง เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) ลงจากเครื่องบินมาจะต้องไปที่อ่างทอง ก็เอาเทป เขาส่งมาให้ทันทีก็ได้ฟัง ครั้งแรกฟังเลย อย่างขึ้นต้นเมื่อสักครู่นี้ เขาเรียก กริ่น เพลงนี้ต้องเล่าให้ฟังนิดหนึ่งว่า เมื่อปีกลายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชทานเป็นกลอนแปด 4 บรรทัด
ข้าวในนาปลาในน้ำคำโบราณ คือตำนานความอุดมสมบูรณ์สิน
ฝากลูกไทยร่วมหวงแหนรักแผ่นดิน ถนอมไว้อย่าให้สิ้นแผ่นดินไทย
พระราชทานเป็นคำขวัญ 4 บรรทัด กลอนแปดนะครับ เขาก็เอานี่ไปเป็นกริ่น และก็เอากลอนแปดไปแต่งเป็นเนื้อเพลงอีก 3 บรรทัด เป็น 4 บรรทัดแรกแล้วเติมอีก 3 2 เติม 3 ก็กลายเป็นเพลงใหม่ คือเพลงพ่อของแผ่นดินที่ร้องกันได้ทั่วประเทศอย่างไร เพลงนี้ก็ ผมฟังครั้งที่ 1 ในรถ เสร็จแล้วก็ถึงงานเสร็จก็นั่น ก็กราบบังคมทูลเรื่องนี้บอกได้ฟังเป็นครั้งแรก ก็โปรดเกล้าฯ ให้ดนตรีอยู่ที่งานด้วย ก็บรรเลงก็เล่นหลายเพลง เพลงนี้ ๆ ๆ ก็มีเพลงนี้ด้วย ทีแรกฟังเขาจะร้องเดี่ยว เพลงร้องเดี่ยวนะครับ 1-2-3-4 ท่อน ผมก็บอกไปฟังเป็นครั้งแรก เพลงร้องเดี่ยว ประชาชนคงจะเอาไปร้อง เราตามลำบาก นักร้องศิลปาชีพมาเลยครับ ร้องหมู่ พอร้องหมู่ก็ได้ดูจังหวะจะโคน ก็ฟังได้เลย วันนี้ก็ต้องเอามาด้วย
เพลงแม่แห่งแผ่นดิน ทั้งหมดนี่วันนี้ใครโทรศัพท์เข้ามาก็มีอยู่ 100 แผ่น ส่งให้เลยนะครับ ส่งให้ถึงบ้านนะครับ ทั้งหมดก็เป็นเรื่องงานซึ่งวันนี้ก็จะเริ่มด้วยการ ผมคงจะถวายพระพรเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้เพราะมาอยู่คนเดียว แต่ก็เป็นเล่าถวายพระพรว่า วันพรุ่งนี้จะเป็นวันสุกดิบ วันก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษาจะมีวันเสด็จพระราชดำเนินออกให้เฝ้าฯ เหมือนกับออกสมาคมนะครับ แต่เขาไม่เรียก สมาคมจะใช้เวลาวันจริง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวออกวันมหาสมาคมวันที่ 5 ธันวาคม และทรงออกก่อนวันก็วันที่ 4 ธันวาคม สมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็เหมือนกัน วันพระองค์ท่าน 12 สิงหาคม แต่วันสุกดิบจะเสด็จฯ ที่สวนจิตรลดารโหฐาน ผู้คนก็ไปเฝ้าฯ จะครับ งานอย่างนี้ละครับเมื่อเวลาที่เราจะดำเนินการ ก็มีหน้าที่จะต้องมาลำดับความ
วันที่ 12 สิงหาคม 2551 จะมีพระชนมายุครบ 76 พรรษา แล้วถ้าเราลองดูย้อนหลัง สมเด็จพระนางเจ้าฯ ผมเชื่อว่าหลายบ้านมีนะครับ บังเอิญผมไปเยี่ยมพรรคพวกมา เขามีรูปเต็มพระองค์ 2 พระองค์ยืน สมเด็จพระนางเจ้าฯ ตอนนั้นทรงเป็นพระคู่หมั้นอุ้มแมวครับ ผมมีครึ่งบน ผมไปทีไรผมก็อวด เพราะรูปหายาก แต่ว่าหลายบ้านมี ผมก็ไปเจอเต็มพระองค์ บอกนี่บ้านผมก็มี แต่มีครึ่งข้างบน พระชนมายุยังไม่เต็ม 20 พรรษาละครับ นั่นเราก็ได้เห็น เสร็จแล้ว ก็ทรงอภิเษกสมรสกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 เมษายน ที่เราถือเป็นวันที่มีงานประจำ พอถึงปี 2493 ได้สถาปนาทรงเป็นพระบรมราชินีนาถในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน เราก็ต้องเห็น และทรงมีพระราชธิดาพระองค์แรก พระราชโอรส พระราชธิดาเรียกว่า พระเจ้าลูกเธอ พระราชโอรสเรียกว่า พระเจ้าลูกยาเธอ ก็มีพระเจ้าลูกเธอ พระเจ้าลูกยาเธอ และพระเจ้าลูกเธออีก 2 พระองค์ 4 พระองค์นี่ละครับ ถ้าใครอายุมากอย่างผมก็จะได้เห็นตั้งแต่ทรงพระเยาว์ลงมา จนกระทั่งบัดนี้เจริญพระชนมายุทุกพระองค์ได้เห็นกันมาเรียงแถวเลย สมเด็จแม่ก็ทรงมีพระชนมายุ 76 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุ 81 พรรษา ทรงมีพระชนมายุห่างกัน 5 พรรษา
ทั้งหมดนี้ได้เห็นเลยว่านี่คือสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เป็นสถาบันพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ นี่ต้องเล่าย้อนหลังนะครับ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ท่านทรง คือคนอื่นเอาดาบไปสู้กับปืน รับสั่งดาบสู้กับปืนไม่ได้ ถูกยึดประเทศแน่ บอกเราต้องยอมรับความเจริญของโลกตะวันตก รับความเจริญเขามา และเราจะอยู่ได้ ทรงทำอย่างนั้นจริง ๆ ครับ 2440 ก็เสด็จพระราชดำเนิน ผมเคยพูดไปทีแล้ว เสด็จพระราชดำเนินนานหลายเดือนนะครับ ทรงลงเรือไปเยี่ยมเขาเลยครับ เอาพระเจ้าลูกเธอทรงไม่ให้ไปสมัยก่อน ตามเสด็จฯ และส่งไปฝากเรียนหนังสือตามราชสำนัก 14 ราชสำนักในยุโรป ทั้งหมดละครับ อีก 10 ปีเสด็จพระราชดำเนินครั้งที่ 2 ไปทรงรับกลับ เรียนหนังสือ 10 ปีนะครับ ก็กลับมาก็ช่วยสมเด็จพระราชบิดาบริหารบ้านเมือง เพราะฉะนั้น ระหว่างเสด็จพระราชดำเนินหลายเดือน สมเด็จพระราชินี พระศรีนครินทราบรมราชินี ก็ทรงดูแลบ้านเมืองแทนคือหมายความว่าทรงเป็นผู้สำเร็จราชการ ก็โปรดเกล้าฯ ให้เติมคำว่า นาถ ลงท้าย สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทีนี้สมเด็จพระบรมราชินีพระองค์ปัจจุบัน พ.ศ. 2499 พระเจ้าอยู่หัวทรงผนวช เวลาที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงดูแลบ้านเมืองด้วย ก็พระราชทานให้ทรงเป็นพระบรมราชินีนาถ เหมือนกันกับสมัยรัชกาลที่ 5 ถ้าใครเกิดมาก็เจอสมเด็จพระบรมราชินีนาถ รัชกาลที่ 5 ก็ทรงมี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชินีนาถ นี่ก็สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เหมือนกัน ก็ทรงครองพระยศอันนี้ละครับตลอดมา เราก็จะได้เห็น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงสนพระราชหฤทัยเรื่องน้ำ เรื่องอะไรต่าง ๆ ทั้งหมด ก็โครงการพระราชดำริ ทั้งหมด สมเด็จพระบรมราชินีนาถก็ทรงอยู่ข้างหลังพระองค์ท่าน และวันหนึ่งก็จะต้องรับสั่งว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงคิด แล้วทรงรับมาปฏิบัติ คือเรื่องชาวไร่ ชาวนา นี่ คือชาวนาแต่ก่อนเขาทำนาปีละหน เดือนพฤษภาคมนี่ภาคกลางนะครับ พอเดือนเมษายนสงกรานต์ ฝนตกเชียงใหม่ ก็ตกไล่ขึ้นมาเลย พอถึง 17 พฤษภาคม กลางเดือน วันนักเรียนเปิดละก็ ฝนตกกรุงเทพฯ แปลว่าชาวนารอบกรุงเทพฯ ภาคกลางเขาก็เริ่มไถ เห็นไหมแต่ก่อนต้องไถ ไถแล้วทำอย่างไร ไถแล้วก็หว่าน หว่านเขาเรียกว่า ตกกล้า นะครับ ต้องให้ข้าวกล้ายืน 1 เดือน ตกกล้า พอเสร็จแล้วก็ถอนกล้าเอามา และก็เอากล้าไปดำเรียกว่า นาดำ ข้างหลังนี่ละครับที่ว่าหว่านน้ำตม ใครได้เห็นนาหว่านอีกแบบหนึ่ง เป็นกระแบะเล็ก ๆ เท่าหัวแม่มือ ใส่ดินไว้ และเอาข้าวใส่เมล็ดเดียว ๆ ๆ ๆ แทนที่จะปล่อยหมด ใส่เมล็ดเดียวครับ ขึ้นมาประมาณ 3 นิ้ว และก็จับโยนตูม ๆ ๆ ๆ ดินหนัก ก็ทิ้ง ๆ ๆ เป็นการปลูกแบบใหม่ ทุ่นพันธุ์ข้าว มีความเจริญ
เรื่องอย่างนี้ละครับ พระเจ้าอยู่หัวโปรดที่จะรู้เรื่องนั้นเหมือนกัน เสร็จเรียบร้อยแล้ว ชาวไร่ ชาวนา ทำนา นาปีเริ่มเดือนพฤษภาคมกลางเดือน เกี่ยวกันเดือนพฤศจิกายนปลายเดือน เดือน 11 น้ำนองคือเดือนตุลาคม เดือน 12 น้ำทรง เดือนอ้าย เดือนยี่ น้ำก็รี่ไหลลง ก็เกี่ยวข้าว ชาวนาก็จะว่างเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม 5 เดือน ชาวนาว่าง ชาวนาก็ตีไก่ ชาวนาจับปลา ชาวนาบวชลูก ชาวนาเล่นการพนัน ก็ถูกนินทาครับ ในที่สุดเรามีเขื่อนมหึมา 2 เขื่อน เขื่อนภูมิพล 13,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ดูแล 22 จังหวัด ทำระบบชลประทาน เขื่อนสิริกิติ์ก็ส่งลงมาสมทบ น้ำลงมาด้วย มาที่เขื่อน เขื่อนชัยนาทรองอยู่ข้างล่าง แม่น้ำปิงก็ลงมา ๆ ถึงนครสวรรค์ แม่น้ำน่านลงมาถึงนครสวรรค์ และน้ำก็กั้นไว้ เขื่อนชัยนาทเกิดก่อนนะครับ แล้วก็ส่งมา ระบบชลประทานก็ดี ทำให้เราปลูกข้าวได้ 2 หน และบัดนี้เราก็ปลูกข้าวได้ 3 หน ไม่น่าเชื่อนะครับปลูกข้าวได้ 3 หน ข้าวพันธุ์ใหม่ที่คิดมา 97 วัน แถมให้อีก 3 วันเป็น 100 วัน 100 วัน 3 หนก็ 300 เหลืออีก 60 กว่า เอา 3 หาร 13 X 5 = 65 เอา 3 หาร ได้ 22 วันครับ มีเวลาไถเวลาเก็บเวลาเกี่ยว 22 วัน และปลูกใหม่ ก็ต้องกันไม่ให้น้ำท่วม และน้ำท่วมตรงนั้นว่าอย่างไร น้ำแม่น้ำปิงท่วมไหม ไม่ท่วมครับ เพราะว่ามีเขื่อนมีระบบ แม่น้ำน่านท่วมไหม ไม่ท่วม มีเขื่อนมีระบบ และแม่น้ำอะไร อ๋อ แม่น้ำยมท่วม เพราะว่าไม่มีเขื่อน ก็ต้องทนน้ำท่วมกันไปครับ อย่างที่แลเห็นนี่ละครับ ไปแตะต้องเข้าก็โวยวาย พูดเข้าก็โวยวาย เห็นไหมครับ ตรงนี้ถ้ามีระบบเสีย คุณหญิงคุณนายน้ำท่วม ก็ไม่ต้องไปพายเรือแจกของ ไม่ต้องละครับ เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของผมต้องเจรจาความกัน
ทั้งหมดที่จะบอกก็คือว่า เราก็ปลูกข้าวได้มากขึ้น ชาวไร่ ชาวนา ก็ไม่มีใครว่า เพราะชาวนามัวแต่ปลูกข้าว ไม่ใช่มัวนะครับ ปลูกข้าว ข้าวราคาดีไหมครับ ข้าวราคาดี รัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ข้าวราคาต่ำ ปลูกให้น้อยกินมาก ไม่ใช่ครับ ต้องมีระบบมีวิธีการ ซึ่งวันนี้ไม่ได้บรรยายให้ฟัง แต่วันนี้จะมาเล่าให้ฟังถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในที่สุดก็ทรงเห็นว่าบรรดาชาวนาก็ทำงาน ชาวนาทำงานหนัก เอาชาวนามาทำ ไปอีสานไปเห็นชาวนานุ่งผ้า โอ้โห นี่ผ้ามัดหมี่ สนพระราชหฤทัยตามไปดู ไหนทำอย่างไร ไปดูสิ ก็คนแก่ก็นั่งทำไป ถ้าไม่ดูอีกหน่อยมัดหมี่ก็หมดครับ พอทรงเห็นมัดหมี่ เอาละครับ เอาลูกชาวนาทั้งหลายมาเรียน ทั้งหมดครับ คำว่า ย่านลิเภา เป็นเถาวัลย์เล็ก ๆ ผอม ๆ หนาก็มี บางก็มี เขาทำตั้งเมื่อไร ทำตั้งแต่รัชกาลที่ 5 กระเป๋าย่านลิเภา รัชกาลที่ 5 แต่มาถึงรัชกาลปัจจุบัน ย่านลิเภายังปลูกอยู่ ยังเก็บได้ที่ไหน ต้องทำให้เท่ากัน เมื่อวานนี้ได้เป็นบุญตาได้เห็น ย่านที่เป็นเส้นเล็ก ๆ งามมากเลยครับ ที่ทรงถือมีประดับเครื่องเพชร ผมประคองอยู่ เขาบอกสำคัญคือต้องอย่าให้ตรงแถว ๆ นี้หาย แต่ว่าเส้นนี่นะครับ ได้รับคำอธิบาย นางสนองอยู่ใกล้ ๆ ก็อธิบายเลยว่า ขูดให้เล็ก ทำให้เล็ก แล้วสานมา ก็แปลว่าอย่างไร อย่างนี้เขาเรียกว่า อภิชาตบุตร ทำดีกว่าสมัยก่อน แต่ไม่มีใครตำหนิละครับ แต่ก่อนเส้นใหญ่ อาจจะไม่เส้นไม่เท่ากันบ้าง เดี๋ยวนี้มีเครื่องรูดให้เส้นเท่ากัน มีเส้นยาวถักทอเสร็จเรียบร้อย นี่พูดถึงย่านลิเภา
แล้วไปอย่างไรอีก ทุกอย่างละครับ เอาลูกชาวนา เท่าไรครับ เป็นแสนครับ เอามาเข้าโรงเรียนเรียกว่า ศิลปาชีพ โรงเรียนอาชีพที่ทำศิลปะ ไม่มีความรู้อะไรต่าง ๆ เอามาเถอะครับ ลูกชาวนาไม่มีความรู้และเอามาทำ ในที่สุดก็ใส่ตะแกรงร่อน ๆ ไม่ใช่ทั้งแสนคนเป็นหมด ใส่ตะแกรงร่อน ๆ ในที่สุดก็ออกมาเป็นงานตั้งแต่ชิ้นยังหยาบยังดี จนกระทั่งถึงแบบชนิดยอดศิลปิน ถ้าใครไปที่ผมมาชวนเชิญที่พระที่นั่งอนันตสมาคม เข้าไป ข้างบนตัวพระที่นั่งอนันตสมาคมข้างนอกก็หินอ่อน จากเมืองคารารา ประเทศอิตาลี ข้างในก็สวยงามแบบยุโรป ฝีมือชั้นยอดที่ทรงสั่งเข้ามาทำ แต่ที่พื้นข้างล่าง มีบันดาลศิลปะ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงอยู่ข้างหลังเรื่องนี้ ทรงใช้เวลาอบรมบ่มนิสัยขึ้นมาหลายสิบปี ในที่สุดเมื่อก่อนนี้ตอนเสด็จพระราชดำเนินข้างนอก เราก็เห็นนกยูงหางอะไร ก็ไปประดับที่โต๊ะอะไรต่าง ๆ บัดนี้มีงานชิ้นใหญ่ขึ้น อะไรที่เป็นความงดงามของในวัง ตัวพระที่นั่ง ตัวบุษบก ตัวสีวิกากาญจน์ ซึ่งเขาคิดขึ้นมาใหม่ เป็นงานไม้ไม้สลัก งานแกะ งานคร่ำ แปลว่าอะไร เอาอะไรไปใส่ เอาทองไปใส่เงิน ไม่จับครับ ต้องเอาเหล็กมา ถักให้เป็นหนามขึ้นมาก่อน แล้วเอาทองใส่ลงไปแล้วปิด ลายรดน้ำไม่ยาก ลายรดน้ำวาดลายเสร็จ เอาตรงนี้มาทา เอารักมาปิดทา เสร็จแล้วก็รดน้ำลงไป ตรงที่ทองปิดอยู่กับรักก็อยู่ ตรงที่เป็นน้ำยาอยู่ก็หลุดออกมากับน้ำ ดูลายรดน้ำไม่ยาก
พอมาดูเรื่องคร่ำ เอาทองไปฝังไว้ในเหล็กครับ คนที่เหงื่อหยดลงไปก็ทำไม่ได้ บางคนมีเหงื่อมากไม่ได้ ทำแล้วจะเสียหาย ท่านหยิบมา 10 ได้ 2 คน งานสีวิกากาญจน์ ใช้คน 230 กว่าคนช่วยกันทำงาน 1 ปีครับ ออกมาก็เป็นเสลี่ยงที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ ประทับ ในอดีตนะประทับ เขาก็แบกน่ะละ สีวิกากาญจน์มีมาก ทำออกมาสุดจะงดงาม บางทีก็ทำเป็นปราสาท ข้างบน เป็นงานไม้ทั้งหมด และเอาที่เรียกว่า พระราชลัญจกร ตราประจำพระองค์ รัชกาลที่ 1 เป็นรูปอะไร รัชกาลที่ 2 เป็นรูปอะไร รัชกาลที่ 3 ทำปราสาท 5 ยอด เขามีถึงรัชกาลที่ 9 ในปัจจุบัน เลยจะต้องเอา 4 พระองค์ไว้ข้างนอก เอา 5 พระองค์ข้างใน เอารัชกาลที่ 3 เป็นรูปปราสาท 3 ยอด รัชกาลที่ 1 มีมงกุฎ รัชกาลที่ 4 มีมงกุฎ รัชกาลที่ 5 เป็นยอดพระมงกุฎ 1-2-3-4-5 อยู่ในอันเดียวไว้ตรงกลางครับ แล้วอีก 4 ยอดข้างนอกรอบ ก็รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 รัชกาลที่ 8 รัชกาลปัจจุบัน งานฝีมือชั้นเยี่ยมเลยครับ งานสลักไม้ที่ดูแล้ว ไม้เป็นแผ่นแต่ซ้อนไม่เห็น ทรงโชว์ให้ดูด้วยนะครับว่า 1-2-3 เวลาทำ แล้วทิ้งไว้ มันห่างเป็นร่อง แต่อันใหม่นั้นกลืนหมด ผู้คนมาช่วยกันสลักเป็นช้าง เป็นอะไรต่าง ๆ ปราสาทอยู่ข้างบน จนกระทั่งมาถึงยักษ์ที่มาถือศีล ต้นฉบับที่ได้มานี่ละครับ แก้ว 9 ประการน่ะละครับ ตำราเขียนไว้อย่างนั้น ก็ทำตามตำรา สลักเป็นไม้ ยักษ์ถือศีลนั่งอยู่ปราสาทข้างล่าง พระอิศวรอยู่ข้างบน ตาของยักษ์ของเป็นดวงแก้วอันนี้ ลิ้นของยักษ์เป็นอันนี้ อันหนึ่ง ออกมาเป็นโลหิต พญานาค ก็บรรยายเป็นภาพหมด ผมดูแล้วผมก็บอกท่านผู้หญิงบอกว่า นี่เขาไปแสดงในสภาฯ ก้อนเท่านี้ ส.ส.จันทบุรี 2,500 กะรัต ใหญ่ขนาดนี้ บอกอย่างนี้ต้องขอเอาโต๊ะมาตั้งข้างหน้าแผงใหญ่เบ้อเริ่ม เอาโต๊ะมาตั้ง เราก็บอกนี่ “เพชรดีมณีแดง เขียวใสแสงมรกต เหลืองใสสดบุษราคัม แดงแก่ก่ำโกเมนเอก สีหมอกเมฆนิลกาฬ มุกดาหารสีหมกมัว แดงสลัวเพทาย สังวาลสายไพฑูรย์” อย่างนี้ 9 อันมาวาง
งานอย่างนี้ละครับไปดูเถอะครับ ข้างบนข้างล่าง เรื่องผ้าอย่างนี้ เห็นได้ชัด ของเราไม่ฉูดฉาด แต่เนื้อข้างใน การพิมพ์การทอผ้า สุดท้ายแต่กระทั่งการเอาไม้มาแกะและเป็นเด็ก และติด ไม้ตัวต้นฉบับทำเป็นติดตู้เย็น 8 คน เด็กขี่ม้าก้านกล้วย เล็ก ๆ แล้วมีแม่เหล็กข้างหลัง ใครไปก็ต้องซื้ออยู่ในราคาที่ซื้อได้เป็นของที่ระลึก ที่โน่นที่นี่ต่าง ๆ งานนี้เรียกว่า “งานศิลป์แผ่นดิน” อยู่ข้างหลัง สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงอุทิศพระวรกายที่ทรงทำงานหนักเรื่องนี้ แล้วก็ทำมาตลอด ในที่สุดงานของพระองค์ท่าน ก็เอามาอวดได้ อวดชาวต่างชาติราคาแพงนะ เข้าไป 150 ไปชม โปรดเกล้าฯ บอกว่า รัฐบาลจัดงาน 3 วัน 10,11,12 สิงหาคม ให้เลยเข้าไป ราษฎรแต่งตัวบอกให้เรียบร้อยนิดหนึ่งเข้าไปในพระที่นั่ง เข้าไปชมไม่เก็บเงิน คนไทยธรรมดาไม่เก็บอยู่แล้ว แต่คนไทยไม่ค่อยเข้าไป ขอเชิญให้เอาไปดู และจะได้เห็นเลยครับ เราตื่นเต้น โอ้โหทางจีนปักผ้าไหม เห็น 2 ข้างก็เอาละโอเค แต่ของเราเขาปักกัน เขารู้ด้วยว่าทำอย่างไร ข้าง ๆ ภาพไหน เขาจะมีจอ 49 นิ้ว จอใหญ่ ๆ แล้วก็แสดงให้ดูหมดเลยครับ คร่ำขึ้นต้นทำอย่างไร ปักผ้าไหมทำอย่างไร ใบบัวนี่ละครับ ภาพใหญ่มหึมานะครับแล้วปักเป็นใบบัว ธรรมดาใบบัว ถ้าใครสังเกตจะเห็นว่ามีฝ้า เหมือนตัวอะไรไปถักไว้เป็นฝ้าขาว ๆ ที่เรียกว่า น้ำกลิ้งบนใบบัว ผมบอกนี่น้ำกลิ้งบนใบบัว มีหยดน้ำ ปักเป็นหยดน้ำ มีวาวด้วยนะครับ แปลว่าน้ำกลิ้งยังไม่ลงถึงก้นโคนของใบบัว เขาปักอย่างนี้มาให้ แล้วก็เป็นภาพปัก ๆ ปักเรื่องต่าง ๆ อ่านตำราขุนแผนฟันม่าน ขุนแผนเข้าไปบ้านนางวันทอง เจอ 3 ม่าน ชัวะ ๆ ๆ เขาอ่านในที่เขียนไว้ในโบราณน่ะละครับ เอาม่านที่ขุนแผนฟันอันใหญ่เบ้อเริ่ม มหึมาอย่างกับจอ Cinema Scope เราบอกอันนี้ถ้าเผื่อใหญ่ขนาดนี้จริง แต่จริง ๆ คงเล็กกว่า ถ้าขุนแผนไปฟันอย่างนี้ต้องเถียงกับขุนแผนแน่ว่า ความงดงามอย่างนี้ฟันได้อย่างไร ขุนแผนคงไม่มีเวลาดู ตอนนั้นคงโกรธ
ทั้งหมดนี่ละครับ ถูกถ่ายทอดลงมาอยู่ในงานศิลป์แผ่นดิน เสด็จพระราชดำเนินทรงตรวจงานอะไรต่าง ๆ ไม่น่าเชื่อครับ ทรงตรวจงาน ทรงใส่ฉลองพระเนตร เอาผ้ามาดู แล้วไม่มีละครับ ใครจะดีไม่ดี จะทรงปลอบใจ ตรงนั้นพระราชทานตรงนี้ก็พระราชทาน ขอทั้งหมดที่เอามา ก็ทรงคัดนะครับ ทรงคัดแจกันต่าง ๆ ทั้งหมดของศิลปาชีพจะเอามาขาย ขายทำอย่างไรครับ เพราะเหลือมาเยอะ วันที่ 10 สิงหาคม วันนี้นะครับ เดี๋ยวสี่โมงเย็นเปิด พอเปิดแล้วก็ไปดูนิทรรศการ อยู่ในเต็นท์ ฝนตกไม่กลัวนะครับ เพราะเต็นท์มีปรับอากาศ แล้วเอาของศิลปาชีพที่ทรงอุทิศตลอดเวลายาวนานมากนี่ละครับ ที่ทรงทำมานี่ ทุกภาคนะครับ นี่ทรงตรวจงานนะครับ เอางานมาแสดง เอางานมาเสนอ ทางนี้ใครทอผ้าอย่างไร จะโปรดเกล้าฯ ส่งไปก่อนนะครับ อย่างงานเขียนภาพอะไรต่าง ๆ ตั้งแต่เขียนใช้ได้ ใช้ไม่ได้ จนกระทั่งดีขึ้น ๆ ทั้งหมดมีครูมาสอน และก็ไปดู เห็นต่าง ๆ แล้ว อย่างเซรามิก กำลังนี้เซรามิก เขาทำดินปั้น เขาทำอิฐ มปก. เขาอยู่ที่อ่างทอง เดี๋ยวนี้อ่างทองมีอะไร อ่างทองมีตุ๊กตาชาววัง แล้วเป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้เคลื่อนมาเป็นงานเซรามิก ข้างหน้าเป็นโรงใหญ่เลย แต่ทอผ้าไหมข้างหน้า และข้างหลังเป็นโรงเซรามิก มีตั้งแต่เอาดินมาทำ มาแผ่ดิน มาทำต่าง ๆ มีการแสดง เขานั่งทำ และเขาก็เผาออกมาครั้งแรก และเขาก็มานั่งเขียน เสร็จแล้วเขาก็เอาไปเผาอีกที ความงามนี่ละครับ ใบบัวที่ทำนี่จะทำได้บางขนาดไหนอย่างไร เป็นเซรามิกนะครับ เป็นวัตถุจากพื้นดิน เอามาทำ แล้วมาใช้สี ใช้ชุบ จุ้มน่ะง่าย แต่มาเขียน และอย่างไร ก็ลูกชาวไร่ ชาวนา เอามาฝึกเอามาเขียน และเขาก็เป็นศิลปิน มีชื่อพวกนี้ไหมครับ ผมยังหาชื่อเอาใครมาเชิดชูไม่ได้ เขาทำงานเพื่องาน และงานที่เรียกว่า ศิลปาชีพพิเศษ ที่ฝรั่งเขาต้องใช้คำว่า Master Piece เอามาเลยครับ
ทั้งหมดนี่ละครับ งานสมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านทรงไว้ตลอด ชิ้นอะไรต่าง ๆ ทั้งผ้าทั้งอะไรต่าง ๆ ก็จะเอามาขายตั้งแต่วันนี้สิบโมงเช้า ไปเรื่อย 3 วัน 10,11,12 สิงหาคม แล้วก็มีการแสดงนิทรรศการ งานแสดงพระราชประวัติ งานอะไรต่าง ๆ เสร็จแล้วคงมีบันเทิง มีดนตรี ไม่ทราบจะเลือกวงที่ชาวบ้านชอบหรือเปล่านะครับ ก็ยังมีกับข้าว ท่านจะเอาหมึกแดงมาทำ ผมจะไปชิมดู ไปช่วยเขาสนทนา ไปสนทนาเรื่องกับข้าว ผมไม่ลงมือเองครับ เดี๋ยวเขาวิพากษ์วิจารณ์ ก็ทำทั้งหมดครับ ให้งาน 3 วัน เอาเท่านี้นะ แล้วอย่าลืมเขียนอันนี้มา เพลงแม่แห่งแผ่นดิน 100 แรกส่งไป ป่านนี้คงครบแล้ว
ก็จะเล่าให้ฟังไว้เท่านั้นนะครับว่า ในที่สุดสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมายุ 76 พรรษา และยังทรงงานอยู่ ยังทรงคล่องแคล่ว ยังทรงสั่งงาน ยังคงปลอบประโลมชาวบ้านอยู่ แล้วงานเมื่อวานที่เสด็จพระราชดำเนินที่อ่างทอง เนื่องจากเรื่องอะไรครับ ก็เป็นเรื่องที่ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีโรงเรียน หมายความว่าทางเหนือก็มีที่ห้วยฮ่องไคร้ ใครจากทางเหนือก็มาเรียนที่โรงเรียนห้วยฮ่องไคร้ ภาคกลางก็มีที่เขาหินซ้อน ทางโน้นก็มีที่สกลนคร ทางใต้ก็ไปที่นราธิวาส ทั้งหมดก็เป็นโรงเรียนของพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานให้ราษฎร เข้าไปแล้วก็ไปดูไปเรียนที่นั่น ตากธรรมชาติ อย่างที่ห้วยฮ่องไคร้ เขาโล้น ๆ ทรงหาน้ำ ปล่อยน้ำมา เอา Check Dam ใส่ แล้วก็เอาฝายนี่ละครับใส่ เอาน้ำใส่ จนกระทั่งกลายเป็นป่าขึ้นมาบนภูเขา และจะอยู่ตลอด ฝนลงก็จะอยู่จะซับน้ำต่าง ๆ อย่างนี้ นี่ทรงตั้งใจจะทำ สมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยม น้ำท่วมอ่างทอง น้ำท่วมในเมือง ทำกำแพงกั้น ท่วมน่ากลัวครับ เสด็จพระราชดำเนินทรงตรวจสอบ มีบริเวณหนึ่งครับอยู่ที่อำเภอแสวงหา เลยแสวงหาไปอีก 7-8 กิโลเมตร ตำบลชื่อสีบัวทอง อยู่ในอำเภอแสวงหา ปรากฏว่าบริเวณนั้นประมาณ 1,000 ไร่ น้ำไม่ท่วม ทรงบอกว่าตรงนี้จะทรงทำโครงการ เอาเรื่องข้าว เขาก็ปรับให้ ที่เขาเรียกว่าทำคอนทัว ทำอะไรต่าง ๆ และนี่ละครับ ทรงทำเรื่องนี้
ต้องเล่าให้ฟังนิดหนึ่งนะครับว่า แต่ก่อนนี้ข้าวเราเรียนกันมา เรียนกันมาจากฟิลิปปินส์ IRRI กลับมาของเรา วิชาการข้าว เขาไปอยู่ในกรมวิชาการเกษตร ทุกอย่างเกี่ยวกับอะไรต่าง ๆ อยู่กรมวิชาการเกษตร รับสั่งว่าข้าวเป็นชีวิตของบ้านเรา แยกออกมาหน่อยได้ไหม แยกออกมา เมื่อ 3 ปีที่แล้วได้รับแยกออกมาเป็นกรมการข้าว ดูแลโดยเฉพาะและ 3 ปีที่แล้วทำอะไรสำเร็จ ทำสำเร็จคือว่าไปค้นพบว่า พันธุ์ข้าวต้องออกปลูกปี 1 ปี 2 ปี 3 ไม่ต้องปลูก ปี 4 ห้ามปลูก ตัวพวกแมลงทั้งหลายรู้ทัน มันกิน เพราะฉะนั้น ปลูก 1 ปลูก 2 ออกใหม่ เขามีหน้าที่คิดพันธุ์ใหม่ออกมา เขาโดนเพลี้ยกินกัน ไทยไม่โดน เพราะระบบนี้ เพราะกรมการข้าวเป็นกรมดูแลเรื่องข้าวโดยเฉพาะ คิดหาหนทาง ถ้าใครไปลองฟังรายละเอียดแล้วไม่น่าเชื่อนะครับ ข้าวมีข้าวป่าอยู่ 3 พันธุ์ มีข้าวพันธุ์อินเดีย เขาเรียกว่า ข้าวพันธุ์อินดี้ คนนั้น ๆ ปลูก ข้าวบาสมาติ เขาเรียกว่า ข้าวอินดี้ ถัดไปก็ยาวี ทางเรานี่ และก็มีอีกอันหนึ่งซึ่งเราก็ไม่ได้ปลูก ผมจำแต่ 3 ชื่อนี้ อี้ ๆ เหมือนกับพวกคอเคซอยด์ พวกมองโกลอยด์ พวกนิกรอยด์ แบบนั้น ข้าวเหมือนกับคนอย่างนี้ละครับ เพียงแต่ว่าอยู่ทางเอเชีย และมีมากันแต่โบราณกาล เพราะฉะนั้น กรมการข้าวศึกษาหมด และทำอย่างไร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุ 80 พรรษา มีข้าวออกมา 5 พันธุ์ เวลานี้ที่ดังคือชัยนาท 80 อันอื่นก็ดังนะครับ ข้าวสุพรรณ เดี๋ยวนี้ใช้ 80 ถวายเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพราะฉะนั้น ข้าวพันธุ์ชัยนาท 80 ดีอย่างไร ดีสิครับ แต่ก่อนนี้ข้าวไร่หนึ่ง ธรรมดาชาวนานับเป็นถัง ทันสมัยต้องนับเป็นกิโลฯ
ผมเคยเฝ้าฯ เวลาที่เสด็จพระราชดำเนินวันแรกนา 400 600 ก็หูพึ่งแล้ว 600 กิโลฯ ต่อไร่ บัดนี้เขาขึ้นไป 1,000 กิโลฯ ต่อไร่ แต่ทว่าข้าวพันธุ์ชัยนาท 887 เกือบ 900 คือแปลว่าเกือบ 900 กิโลฯ ต่อไร่ แล้วดีอย่างไร ดีสิครับ ข้าวนี้อายุ 97 วัน คิดง่าย ๆ เอา 100 ต่อให้อีก 3 วัน ก็แปลว่า 3 คูณ ก็ 300 วัน เหลืออีก 65 วัน ก็ลองเอาไปหารดู แล้วจะได้วัน 22 วันเอาไปสำหรับจะเก็บเกี่ยว จะไถ จะคราด จะใส่อะไรต่าง ๆ มีวิธีการปลูกที่ทำให้เร็ว ทุกอย่างก็กลายเป็นว่าไม่ถึงอุตสาหกรรมครับ อุตสาหกรรมผมเคยดูแต่ก่อนที่เขมรที่ ฝรั่งเศสทำ ไถมา ใช้เครื่องจักรกลปลูกข้าว อุตสาหกรรมอย่างนั้นครับ ชาวนาไทยมีรถแทรกเตอร์ มีแทรกเตอร์มาไถมาเกี่ยว ยังใช้เครื่องเกี่ยว หลังขดหลังแข็ง ไม่ต้องแล้ว รถมาเกี่ยวมาเก็บ เพราะต้องการเร็ว แต่ว่าชาวนาไทยนั้น ยังมีการเก็บการเกี่ยว ประเภทที่ว่าเสร็จแล้วตาก ตากแล้วเข้า แล้วขาย วงจรของเรานี่คำนวณได้ แล้วก็ที่นี่ ผมกำลังนี้เติมมา 1 ล้านไร่ เอากลับมา ก็จะแบ่งปันกัน ตรงนี้ไหนที่ดอนหน่อยก็จะปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลัง และที่ช่วงไหนต่ำก็จะปลูกข้าว ก็ราคาดีขึ้น แปลว่าอย่างไร ผมบอกเลยว่า ห้ามประกาศว่าผลการส่งออก ผมใช้สำนวนแบบผมว่าเสียหลี่ยม ๆ ประเทศผลิตข้าว
ผมย้ำนะครับ เราขายข้าวมากที่สุดในโลก คือเขาขายกันทั้งโลก เรา 33 เปอร์เซ็นต์ ที่ 1 เลยครับ ถัดไปก็เวียดนาม ถัดไปก็อเมริกา แล้วคนอื่นก็นิด ๆ หน่อย ๆ จีนผลิต 125ล้านตัน กินหมดครับ อินเดียผลิต 84 ล้านตัน เอาบาสมาติมาขายข้าวแพง นอกนั้นก็กินหมด ของเราผลิต 30 ล้านตัน สีแล้วได้ 20 ล้านตัน ก็กิน 9 ล้านตัน ขาย 9 ล้านตัน แล้วเก็บเอาไว้ 2 ล้านตัน ต่อไปนี้จะไม่เก็บแบบข้าวขาว จะเก็บเป็นข้าวเปลือก จะชื้นอย่างไรก็จะเข้าเครื่องทำให้เสร็จเรียบร้อย แพคเสร็จแล้วก็ Freeze ให้เย็น อยู่ได้ 3 ปี สีออกมาเหมือนข้าวใหม่ เห็นไหมครับกำลังนี้ก็ระบบใหม่ที่จะทำ คือแทนที่จะเก็บ 2 ล้านตัน อาจจะเก็บสัก 5 ล้านตัน คนที่มากขึ้น เพราะฉะนั้น การค้าขายทำไปตามปกติ ก็คุณค้าไปใครขายไป พ่อค้าดำเนินการ คุณค้าขายของคุณไป แต่รัฐบาลมีสำรองเอาไว้ รัฐบาลไม่เอามาขายแข่ง รัฐบาลจะขายในที่คุณไม่ได้ขาย เพราะต่างชาติมีปัญหา ผมขายเรียกว่า G to G รัฐต่อรัฐ ก็ทำอยู่ครับ ดำเนินการอยู่ แต่ไม่ต้องการประกาศ เพราะราคาต้องการรักษาว่า เขาซื้อ 14,000 ซื้อได้แล้วกัน กำลังนี้ที่จะออกมา ตั้งใจเขาบอกว่ามีประมาณ 3 ล้าน รัฐบาลดีดลูกคิดบอกประมาณ 2.5 ล้าน ตรงนี้มาครึ่งทางก็ประมาณสัก 2 ล้าน ก็ซื้อได้หมดครับ ซื้อแล้วอย่างไร สีเลยครับ ใครจะซื้อก็ขายราคามาตรฐานในตลาด
เรื่องพรรค์อย่างนี้ก็ทำให้ราคารักษาไว้ เราเปิดมาเอามาเลย ข้าวนาปี เขาเก็บเยอะออกเยอะ เราก็ซื้อเยอะ ถ้าว่าคุณราคาตลาดดี คุณซื้อไปขายเลยไม่มีใครว่า แต่ถ้าคุณเล่นกันแบบแต่ก่อนนี้ ธรรมดานั่นปั๊บ คนขายไปกดโรงสี โรงสีกดชาวนา ราคาตลาดข้างนอกดี แต่ชาวนาขายนั่น ไม่ได้ครับ กรณีนี้ไม่ได้ครับ เราทำเรียบร้อยครับ แล้วไม่ให้ใครเสียหายด้วย พ่อค้ากับรัฐบาลเดินจูงมือไปด้วยกัน ในขนาดที่ว่าชาวนาไม่ถูกกด โรงสีไม่กด ชาวนาไม่กด ระบบนี้ทำได้ ทำได้ครับ และทำได้ต้องอย่างไร ต้องพูดจากันสิครับ ใครเคยทำอะไรไว้อย่างไร เราบอกไม่ได้ ต้องทำแบบอย่างนี้ เพราะว่า คือที่ดำเนินการกันถึงได้แก้ไขปัญหาได้ พัวะเดียวออกมาเอาแล้วเริ่มแล้ว คือพวกที่เขาเคยกันมานั่นแป๊บเดียว รัฐมนตรีใหม่ยังไม่ทันถวายสัตย์เลยครับ ต้องพูดแบบราชการพูด บอกไม่ได้ ผมก็ยังไม่ทันจะกระซิบกัน ไม่ได้ เราดูอยู่ แต่เราทำเพื่อแก้ปัญหาไว้ให้ ปกติพอพ้นปัญหาปั๊บ เอ้าคุณเอากลับไป พ้นปัญหาไปว่ากันเลยธรรมดา แต่เราจะดูคุณ ปล่อยให้คุณทำอย่างนั้นไม่ได้ละครับ ถ้าปฏิบัติอย่างนั้นปั๊บ คราวที่แล้วมาอย่างไร ก็ข้าวราคาดี แต่ชาวนาราคาต่ำ แล้วทางนี้ได้อย่างไร ไม่ได้ เพราะไม่ได้ จึงต้องเข้าไปดูหน่อย เสร็จเรียบร้อยแล้ว 1-2-3 ที่เราจะดู
ทำไมนายกฯ แส่เข้าไปตรงนั้น ไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ไม่ใช่ ต้องเข้าไปตรงนี้เพื่อตั้งหลักให้ก่อน แล้วเอาตามหลักนี้ เสร็จเรียบร้อยแล้ว พ่อค้าก็อยู่ได้ โรงสีก็อยู่ได้ ชาวนาต้องอยู่ได้ครับ รัฐบาลถึงจะอยู่ได้ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแล ๆ ใคร ดูแลชาวนาครับ ดูแลโรงสี ดูแลพ่อค้าส่งออก และแน่นอนครับดูแลข้าราชการด้วย เห็นไหมครับ ลูกคู่เอามาทันทีเลยครับ รัฐมนตรีรับตำแหน่งปั๊บจัดการจะเอาเข้ากลับมากระทรวงพาณิชย์ อย่างนี้ทันที ผมอ่านแล้วบอกอย่างนี้ได้เรื่องแล้ว รัฐมนตรีโผล่เข้ามาเอาข้าวกลับมาพาณิชย์ แล้วทำไมนายกฯ เอาออกไปจากพาณิชย์ตรงนั้น ก็ไม่ถึงกับเอาออกไป แต่ให้พาณิชย์มาช่วยทำ ไม่ให้ทำคนเดียว ต้องเอากระทรวงการคลังเข้ามาช่วย เอาธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้ามาอะไรต่าง ๆ ก็ยังซื้อกันอยู่ ของคุณซื้อคนเดียวทำคนเดียว เราบอกมีปัญหาอย่างไรจะเข้ามาช่วยทำ เห็นไหมครับ เปลี่ยนรัฐมนตรีใหม่ จ้องกันอยู่เลยเชียวครับ รัฐมนตรีใหม่โผล่เข้ามาปั๊บ ให้สัมภาษณ์ทันทีว่าอย่างไรเอาข้าวกลับมาอยู่พาณิชย์ แล้วนายกฯ ว่าอย่างไรวันนี้ นายกฯ บอกเดี๋ยวต้องคุยกับรัฐมนตรีก่อน กระทรวงพาณิชย์ต้องได้ทำหน้าที่กระทรวงพาณิชย์แน่ แต่ที่บกพร่องมาที่แล้วนั่น รัฐบาลสอดแทรกเข้าไปถึงต้องเอามาทำ และก็มีนั่นทางนี้เสร็จคุณก็ดำเนินการต่อไป ต่อไปนี้เราจะเฝ้าดู
เห็นไหมครับหัวเลี้ยวหัวต่อ เลี้ยวปั๊บจะนั่นทันที นี่ละครับที่การเมืองจะต้องทันกับราชการประจำ หากินกับใครครับ ไม่อยากจะกล่าวหาละครับว่าไปหากินกับคนส่งออก คนส่งออกว่าอย่างไร กำไรเยอะครับ ผมบอกคุณกำไรเยอะเกินไป คุณต้องกำไรแน่นอน คุณต้องกำไร โรงสีก็ต้องอยู่ได้ แต่ชาวนาต้องอยู่ได้ ไม่ใช่มาขูดรีดกันคนหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน เสร็จแล้วไปโรงสีเป็นตัวกลาง เขาบอกไม่มี order ไม่มีเรื่องมากดชาวนา ไม่ได้ คุณไม่ซื้อ เราซื้อ เราดำเนินการ และแก้ไขปัญหา แก้แล้วครับ ดำเนินการแล้ว และเราจะต้องขายอย่างไร ขายสิครับ ผมต้องเอาของใหม่เข้า ผมเอาของเก่าออก และเสียตลาด ไม่เสียครับ เพราะตกลงแล้ว สอบถามหมดถ้าขายเป็นรัฐต่อรัฐ ไม่เกี่ยวข้อง ราคาไม่ตกต่ำ แล้วคุยกับใคร คุยกับเวียดนาม ผมโทรศัพท์คุยกับนายกฯ เวียดนาม บอกเลยครับ ขายน่ะขายก่อนเลย ตั้งราคาสูงนะอย่าให้ต่ำนะ ขายสูงไว้ก่อน แล้วไทยจะตามราคา เขาเป็นเบอร์ 2 ของเราครับ แต่เราให้เขาขายก่อน นี่ก็เป็นการเมืองระหว่างประเทศนิดหน่อย เรา 2 คนขายเยอะ เขาขายน้อยกว่าเราหน่อย แต่เราบอกขายก่อน เศรษฐกิจคุณมีปัญหาคุณขายเลย ตั้งราคาสูงไว้นะ
คืองานอย่างนี้คืองานที่ได้ช่วย ย้อนกลับเข้ามา ที่เมื่อวานนี้ไปตามเสด็จฯ ที่ต่าง ๆ ได้แลเห็นเลยครับว่าเขาทำงานกัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ โปรดเกล้าฯ บอก 1,000 ไร่ขอเป็นเหมือนกับฟาร์มทดลองจัดการทำ แล้วก็ทำคอนทัวต่าง ๆ นั้น แล้วในที่สุดก็ทำพิธี ชาวบ้านก็บอกว่ามีพิธีการ ภาคเหนือก็ทำอย่างนี้ ภาคกลาง นานี้เป็นนาที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงกอบกู้เอาไว้ และน้ำท่วมมาตรงนี้ ก็ไม่ท่วม ก็จะปลูกข้าวตลอด ถ้าจะปลูก 3 หนต้องปลูกตรงนี้ โดยไม่ต้องใส่กำแพงล้อมรอบ 3 หนที่บางระกำ ที่พิษณุโลก ต้องกำแพงล้อมรอบนะครับ แต่ตรงนี้ไม่ต้องล้อมรอบ แล้วก็ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะใช้ข้าวอย่างพันธุ์ชัยนาท 80 ก็จะปลูก 3 หน ๆ ละ 97 วัน ระบบทดน้ำ ระบบธรรมดา การหว่านต่าง ๆ ข้าราชการเขาเก่งครับ อธิบายเป็นแผง ๆ ผมบังเอิญมาอยู่ 6 เดือน ผมศึกษาเรื่องนี้ทะลุปรุโปร่ง ก็ตามเสด็จฯ ก็อธิบายกราบบังคมทูล ส่วนราชการเขาทำแต่นี้ทำใส่ลิ้นชัก ทำปิดทองหลังพระ เดี๋ยวนี้เขามีนะครับเหมือนกับว่าให้ดูทองหลังพระ งานนี้เขาทำถวายพระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงปิดทองมาตลอดพระชนชีวิตท่านตลอด เขาก็ทำ เอางานพระองค์ท่านมาประกาศ
ทีนี้พอเสร็จเรียบร้อย เล่าให้ฟังตรงนี้เพื่อจะบอกว่างานเมื่อวานนี้ เสด็จพระราชดำเนินสามโมงเย็น เสด็จพระราชดำเนินกลับทุ่มครึ่ง 4 ชั่วโมงครึ่ง ท่อนใหญ่ก็เรื่องข้าว ต่อไปก็เรื่องเซรามิก ศิลปาชีพพิเศษเคลื่อนเข้าไปอยู่ในจังหวัดอ่างทอง และจังหวัดอ่างทองนั่นละครับที่ข้าราชการได้มีโอกาสกราบบังคมทูล เมื่อท่านโปรดให้มีกรมการข้าว เขาก็แสดงให้ดูหมด และผมก็ต้องศึกษาเรื่องนี้ ผมตามเสด็จฯ เมื่อวาน ต้องบอกข้าราชการว่าเขาทำอย่างไร ๆ อธิบายความต่าง ๆ คือสรุปให้ฟังทีละท่อน ๆ ก็ตามเสด็จฯ ครับ จนกระทั่งเสร็จหมดเรียบร้อยก็มาดูเรื่องเซรามิก ผมไม่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ ผมก็ยืนดูห่าง ๆ ตามเสด็จฯ ก็ได้ชื่นชมกับผลงานของเขา ถ้าอะไรเรารู้ก็ต้องกราบบังคมทูล ต้องให้ข้าราชการประจำเขาได้รู้ว่างานที่เขาทำนั้น เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินต้องทรงทราบ เอาเรื่องนี้มาเล่า ก็เป็นการถวายสิ่งต่าง ๆ ที่ท่านได้ทรงมา ให้รู้ว่าราษฎรนั้นได้รู้ว่าพระองค์ท่านได้ทรงทำอย่างไร จะเป็นถวายพระเกียรติยศ ถวายพระเกียรติศักดิ์ ถวายงานต่าง ๆ ก็เวลาที่เจ้านายทรงทำงานมา มาถึง 76 พรรษา นี่ละครับ เราต้องกราบบังคมทูล ประชาชนจะได้รู้ว่าบัดนี้สิ่งที่เราได้เคารพสักการะบูชากันอยู่นั้น เป็นวันสำคัญของพระองค์ท่าน คือวันมะรืนนะครับ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ก็จะทำให้รู้กันเสียว่างานต่าง ๆ ของบ้านเมืองนั้น เจ้านายท่านเห็นว่าอย่างไร แล้วพวกดนตรีก็ยังอุตส่าห์ วงดัง ๆ เขาไปทำกันที่ทหารเรือ ก็อยากจะแผ่มาที่ว่านี้ ความสนพระราชหฤทัยต้องเดินตามพระองค์ ไม่ได้ถ่ายทอดสด ทรงซักทรงถามเรื่องนั้น ๆ ทูตจีนก็อุตส่าห์นะครับ ทูตจีนนี่ละครับ เอาห่านมาถวายครับ เราเลี้ยงห่านจีนอยู่แล้ว เลี้ยงไป ๆ ตัวเล็กครับ ทูตจีนแต่พูดไทยนะครับ กราบบังคมทูลภาษาไทยด้วย เอาห่านมาถวาย ร้องกันโฮกฮาก ๆ ๆ เลย ตัวอายุห่างกันไม่กี่ตัว ตัวโตเกือบเท่าตัว ก็เป็นหน้าที่ที่ผมต้องกราบบังคมทูลว่า เป็ดย่างตัวละ 350 บาท แต่ห่านย่าง 800 บาท
งานนี้เป็นงานที่มาถวายวันใกล้วันเฉลิมพระชนมพรรษา ประชาชนทั่วไปก็ขอเชิญชวนแล้วกันนะครับ พระราชทานสิ่งต่าง ๆ ลงมา เราก็ลงไป วันนี้สี่โมงเย็นมีพิธีเปิดและเข้าไปเดินดูได้ ทางศิลป์แผ่นดินก็โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ประชาชนเข้าไปชมได้ ไปดูหน่อยครับเป็นความหมายแห่งชีวิตว่าได้ดูว่าบ้านเรานั้นมีศิลปะชั้นสูง ทำมาจากฝีมือลูกชาวไร่ ชาวนา ซึ่งเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สนับสนุนทุกวิถีทางมา จนกระทั่งเรียกว่าสำเร็จ หนังสือเล่มหนึ่ง 2,500 บาท ใครมีสตางค์ก็ซื้อแล้วกันครับ ดูแล้ว ก็นั่งอ่านไปเถอะครับ แล้วให้ลูกให้หลานไว้ดูเลยว่า งานนี้เขาทำละเอียดหมดเลย คืออ่านแล้วไม่รู้ จะได้รู้ เป็นความฉลาดในส่วนตัว นี่คืออะไรทำอย่างไร ได้รู้ด้วย แล้วทั้งหมดได้รู้ว่า เป็นงานที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงปลุกปล้ำมาทุกอย่าง นี่ก็เป็นพวกย่านลิเภา พวกกระเป๋าถือ พวกผ้าอะไรต่าง ๆ ขอเท่านี้ครับ เอาสรุปเท่านี้
ทีนี้ขอเวลาที่เหลือจากงานถวายพระพรอันนี้แล้ว นี่เขาบอกว่าท่านผู้หญิงวิลาวัณย์ วีรานุวัตติ์ ทำงานร่วมกับผม นี่เขาเรียกริสต์แบนด์ ภาษาฝรั่ง สายรัดข้อมือ 2 สาย ไขว้กันนะครับ สีเหลืองกับสีฟ้านะครับ ไขว้กัน ทำ 100 ล้านคู่ ๆ ละ 100 บาท ทั้งหมดจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถวายไปละครับ ทรงใช้ตลอดหมด ไม่ว่าเหนือ ใต้ ออก ตก เงินส่วนพระองค์ใช้อยู่แล้วครับ งานพวกนี้ละครับที่เอาไป ก็จะทรงใช้สอยว่าจะทำโน้นทำนี่ทำอะไรต่าง ๆ ทรงซื้อที่ไว้ จัดการราษฎรมาอยู่ 500 ตรงนี้ เอาที่มาทำใหม่ จัดการไป รัฐบาลก็จะต้องเข้าไปช่วยดูด้วยว่าต้องไปแค่ไหนอย่างไร งานนี้ธรรมดาเขาไม่เล่านะครับ ผมก็เล่าให้ฟังไว้ว่า ผมต้องถวายงานอะไรต่าง ๆ เมื่อวานนี้ก็ 4 ชั่วโมงครึ่ง
พอเสร็จแล้วก็ขอเล่าถึงบรรยากาศ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จพระราชดำเนิน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ งานเขานี่ ค.ศ. 2001 เริ่ม คือเหลือ 3 ประเทศ ไทยแพ้ เหลือคู่ต่อสู้ จีนชนะ มีเวลา 7 ปีทำทุกอย่าง รอจนกระทั่งถึงเวลาที่เขานับกัน 8-7-6-5-4-3-2-1 ก็ถึงเวลาเลย เวลาเป็นมงคล ประกาศเปิดโอลิมปิก จีนสัญญาว่าอย่างไร จีนสัญญาว่าจะทำโอลิมปิกใน 3 หลัก หนึ่ง คือ เป็น กรีน โอลิมปิก แปลว่า บรรยากาศดี ปลูกต้นหมากรากไม้ สนามกีฬาแข่งขันทุกอย่างเจ๋งทั้งนั้นละครับ สอง ไฮเทค โอลิมปิก เขาแสดงไว้ ตอนเปิดไม่ยอมบอกไฮเทคอย่างไร ทุกอย่างละครับไฮเทค สุดท้ายบอก พีเพิล โอลิมปิก เป็นโอลิมปิกสำหรับประชาชนทุกคน แปลว่าสิทธิเสรีภาพของคนในประเทศ 1,300 ล้านต้องได้มีส่วน พวกนั้นก็คอยดูคอยนั่น พวกคอยต้อนคอยอะไร จะให้เกิดอะไร คือจะให้ล้มโอลิมปิกให้ได้ สุดท้ายก็ถึงเวลา ก็เรียบร้อยดีครับ เขาทำ เขาเชิญคนนั้นบอกไม่ไป ๆ สุดท้ายก็ไป ๆ ๆ ๆ ท่านประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ไปกับภรรยา เห็นเอาลูกสาวมาด้วย เอาน้องชายมาด้วย เอาคุณพ่อมาด้วย ไปก็วีไอพี 10,000 แต่วีวีไอพีจาก 86 ประเทศ เขาก็ทำ จัดการไป ทุกคนเข้าไปที่พัก อยู่โรงแรมเดียวกันนั่นละครับ เข้า ๆ ออก ๆ และพอเสร็จเรียบร้อย ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ก็ถวายพระกระยาหาร ความจริงทั้งหมดครับ ทำไมต้องรับ เจ้านายก็เสด็จฯ มากมายหลายพระองค์ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน สมเด็จพระนโรดมสีหมุนี แห่งกัมพูชา ผมก็ได้เฝ้าฯ รับสั่งยาวเลยเชียวครับ ผมเคยได้ไปเฝ้าฯ ตอนผมไปกัมพูชา คือในงานนี้ 86 ประเทศ ต่างฝ่ายต่างแนะนำกันเองหมด ผมเข้าไปผมเจอใคร ประธานาธิบดีฮาร์มิด คาร์ไซ ทำไมถึงต้องจำท่านได้ ก็ดูโทรทัศน์ หน้าท่านขาว ๆ ทำผมเกรียนและใส่มีผ้าคลุมไหล่สีเขียวน้ำเงินของท่าน ผมก็ไป พอเจอผมก็แนะนำตัวผม นายกรัฐมนตรีประเทศไทย ผมบอกท่านไม่ต้องแนะนำท่านหรอก เพราะผมดูท่านมาตั้งแต่ท่านรับตำแหน่ง อย่างนี้เหรอ คุยกันถูกอัธยาศัย คุยกันเรื่องทาลิบัน เรื่องพระพุทธรูปที่ถูกทำลายลงไป พุทธศาสนา นั่งคุย เชื่อไหมครับเจ้านายเสด็จฯ มาทรงเข้ามาทักทายประธานาธิบดี เหมือนกันครับ พระองค์ท่านทรงรับสั่งว่า รู้จักประธานาธิบดีอัฟกานิสถานทางโทรทัศน์ เจ้านายรับสั่งอย่างเดียวกันเลยว่าทรงดู และทรงสนทนาด้วย ก็เจอใคร ๆ ก็ต่างทักทายต่าง ๆ กัน ประธานาธิบดีแห่งบรูไน พระมหากษัตริย์
ก็ทั้งหมดเขาไม่มี Protocal เข้าไม่ได้ครับ อย่างประธานาธิบดีบุชเข้าไปกับภรรยาสองคน นั่งดูแถบนั้นปรากฏว่าบอดี้การ์ดก็ไม่ให้เข้าครับ บอดี้การ์ดต้องอยู่ข้างนอก เข้าไปตรงนั้นไม่ได้ เฉพาะแขกที่รับเชิญ สอง สอง สอง แล้วก็ตามนั้นเลย ประธานาธิบดีบุชนั่ง คุณลอรา บุช นั่ง สมเด็จพระนโรดมสีหมุนีนั่ง นายกรัฐมนตรีปูตินนั่ง แต่ละคนวีวีไอพีทั้งนั้นเลย ท่านอยากจะรู้ว่าผมนั่งกับใคร ผมนั่งกับท่านนายกรัฐมนตรีเต็ง เส็ง แห่งพม่า ถูกอัธยาศัยกันนะครับ เขารู้เลยจับนั่งคู่กัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั่งทางโน้น รองนายกรัฐมนตรีสหัส บัณฑิตกุล ก็ไปรู้จักกัน ก็ไปดูที่สิงคโปร์ ก็เรียบร้อยดีครับ ตั้ง 3 ชั่วโมง คนที่ไปดูตั้ง 6 ชั่วโมงประชาชนคนดู สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ล่วงหน้าชั่วโมงครึ่งครับ ที่เรียกเจ้านายเสด็จฯ ท่านทรงทักทายหมด ผมก็เดินตามเสด็จฯ ห่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ผมก็ต้องออกมา กลับมา ก่อนจะออกจากโรงแรมเขาบอกกินข้าวเสียก่อน เดี๋ยวไปตั้งหลายชั่วโมง เขาทำโต๊ะกิน ๆ พอเข้าไปข้างบน ข้างหลังที่เข้าไปนั่ง ตั้งโต๊ะบุฟเฟ่ต์ 1 ล็อก 2 ล็อก ๆ ละ 10 อย่าง ข้าง ๆ มีน้ำ ข้างล่างมีห้องน้ำ เรียกว่ายอด ไปถึงก็ได้แต่เดินดู เพราะกินไปแล้ว ทุกคนกิน ฝรั่งมังค่ากินกันหมด แล้วก็มีโต๊ะข้างล่างนั่ง กินไปคุยไปทานไปทักทายกันไป วีวีไอพี ทางนี้ก็เข้าช่อง 303 เข้าไปไม่ต้องมีใครนำละครับ เข้าไป 303 พอลงไปปั๊บก็แถว 13 อยู่ที่พื้น ของผม 19-20 ก็เข้าไปขอนั่ง ไม่ต้องมีใครพา ทุกอย่างเรียบร้อยหมด
แล้วไฮเทคเป็นอย่างไร ปิดบังไว้ ของเขาดีสมควรจะปิดครับ แปลอักษรแทนที่จะอยู่บนอัฒจันทร์ ลงไปอยู่กับพื้น นั่นละที่ตีตุ้ง ๆ ๆ นั่นละครับ แบตเตอรี่อยู่ข้างใต้ ไฟอิเล็กทรอนิกส์ข้างบน แปลอักษรให้คนอัฒจันทร์แสนคน ดูลงไปข้างล่าง อัฒจันทร์เป็น 3 ชั้น 3 เชิง นั่นละครับ รังนกหุ้มอยู่ข้างนอก แต่ความจริงข้างในเขาแข็งแรง ไม่ได้เป็นรังนกจริง ๆ ละครับ กินข้าวกลางวันนั่นครับ ไก๋หล่านผัดน้ำมัน หอยวางไปข้างล่าง เขาเอาเส้นเหมือนกับวุ้นเส้นถักมาเหมือนรังนก เปิดข้างบนครอบมาบนไก๋หล่าน เวลากิน ตัวรังนกก็กินได้นะครับ บอกถ้าหากว่าคนไทยเขาบอกเวลาไปเมืองจีน ต้องเอารังนกไปฝากคนจีน เขาชอบ ผมไปก็คือคิดเอาไว้ แต่ไม่ได้ทำ ความจริงไม่ทำไม่ได้ คือแพง ความจริงผมซื้อเองก็ได้ คือหลิว ฉี เขาเป็นประธานโอลิมปิก เขากับแฟนรู้จักกันมา 8 ปี เจอกันแล้ว 5-6 หนก็คุยกันเสมอ เขาให้รังนกผมเป็นแผ่นแท่งแล้วก็เป็นถักเป็นเงิน แบบสแตนเลส เป็นรังนก ผมควรจะต้องมีรังนกสักกล่องหนึ่ง บอกนี่ถ้ารังนกนี้กินไม่ได้ แต่อันโน้นกินได้ ได้แต่คิดครับ กล่องหนึ่งเขาบอกดี ๆ แสนหนึ่งครับ เงินเดือน ๆ หนึ่งนายกฯ ก็คงเอาไปให้เขาได้ แต่มันฉุกเฉินไป
จะเล่าให้ฟังไว้เท่านั้นครับว่า เขาเชิญไป เขาถวายพระกระยาหารต่าง ๆ นายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดี โต๊ะต่าง ๆ โต๊ะหนึ่งโต๊ะละ 28 คน ทั้งหมด 9 โต๊ะ ๆ ละ 28 คน เขาจะเอาประธานาธิบดีกับเจ้านายอยู่โต๊ะ หู จิ่นเทา ผมนั่งคุยกับนายกรัฐมนตรีเซิร์ฟ ข้างล่างนี้ก็นายกรัฐมนตรีจีน และนางอินทิรา คานธี เรารู้จักเขา เขารู้จักเราไม่รู้จัก เราอาจจะไม่ป๊อปปูล่าเท่าคนอื่น วันเปิดงานปรากฏว่าจอร์เจีย ยืนกับ รัสเซีย ประธานาธิบดีปูตินท่านย้ายมาเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านให้ลูกน้องท่านขึ้นไปเป็นประธานาธิบดี หนุ่มเลยครับ แล้วเขาก็ฟัดกัน ก็จะทำอย่างไร ก็ได้เอกราชไป จอร์เจียไป แล้วเขาก็มีตรงนี้เป็นเขต ทางนั้นก็ขึ้นมา รัสเซียถือหางทางนี้ ฟัดกันเลยครับ ยิงกันเป็นสงครามยิง ยิงกันจริง ๆ ยิงกันตูมตาม ๆ ฉลองเลยครับ ไม่รู้จะทำอย่างไรละครับ มีสงครามจริง และมีสงครามกีฬา ซึ่งเขาก็ต่อสู้กัน เราก็นึกว่าเหรียญแรกเราจะได้ จีนก็คว้าเอาไปครับ เมื่อวานนี้ลงมา ผมก็ไปเฝ้าฯ เสร็จแล้วทางนี้ก็บอกว่า ข่าวเข้ามาว่ามวยไทยเราชนะเกาหลี ค่อยยังชั่ว แต่ต่อไปนี้ไม่นั่นละครับ ผมก็บอกประธานาธิบดีเวิน เจียเป่า ผมกับเขาให้คุย แล้วก็คุยกับประธานสภา เหมือนกับประธานวุฒิฯ ประธานวุฒิฯ ท่านเป็นลูกพี่ของหลิว ฉี เวลาผมไปพบกับหลิว ฉี เขาจะต้องให้ผมได้เข้าเยี่ยมคำนับกับลูกพี่เขาคนนี้ และผมก็ถามว่าท่านนี้หายไปไหน ท่านลูกพี่คนนี้น่าตาเหมือนเพื่อนผมชื่อคุณสุบิน สินชัย คุณสุบินเป็นชาวใต้ เป็นเพื่อนเรียน ผมบอกใคร ๆ บอกนี่คุณสุบินหน้าอูม ๆ หน่อย คนนี้เลยหายไปไหน ปรากฏไปเป็นประธานวุฒิฯ ตำแหน่งอยู่ใน Police Bereau เขาให้ไปเยี่ยม 15 นาที คุยกัน 25 นาที ท่านบอกว่าผมเป็นตลกเฮ่งอี๊ เคยเจอท่าน 4 หนมาแล้ว ตอนนี้ท่านมานั่งอยู่ตรงนี้ ก็คุยกันครับ ทั้งหมดก็ได้คุยกับท่านเวิน เจียเป่า คุยกัน 20 นาที เขาให้ 15 นาที ติดพันนี่ทำอย่างไรครับ จนกระทั่งโค้ชสั่ง 20 เขาให้คุย 15 แต่คุย 25 เพราะเป็นเล่าเพ่งอิ้ว
ก็เล่าให้ฟังไว้เท่านั้นครับ เขาทำเขาเสร็จเรียบร้อยหมดทุกคน ไม่มีอะไรกระดิกเลยครับทุกอย่าง เขาไม่บังคับขู่เข็ญ ถนนหนทางเป็นอย่างไร รถเยอะครับ แต่เขาทำอย่างไร ถนนทั้งหมด วงแหวน 6 วง ทุกถนนต่าง ๆ เขามีโอลิมปิก เลน เรามีบัสเลน รู้จักบัสเลนไหมครับ นี่ 5 ห่วงติดไว้ ลูกศรชี้ เขาเคารพช่อง ของเราบัสเลนไม่เคารพ นี่โอลิมปิก เลน นะครับ พอขบวนออกมาปั๊บ เข้าโอลิมปิก เลน ก็วิ่งกันฉวัดเฉวียงไป ทุกอันจะมีโอลิมปิก เลน ไว้หมดเลย ก็ไม่เป็นปัญหา เข้าได้ตรงเวลาออกตรงเวลา ผมตอนที่คบเพลิงเขากำลังวิ่งบนอวกาศ ผมก็ขออนุญาตลาท่านเต็ง เส็ง นายกฯ พม่า บอกผมไม่อยากดูยืดเยื้อ ออกมายืนตรงประตู พอเขาจุดไฟ พรึบขึ้นมาปั๊บ ผมก็ลา ถอยออกมา ก็ได้ออกมา ท่านประธานาธิบดีจอร์จ บุช ท่าน Security ท่านออกไปก่อนผม ถึงกระนั้นก็สองยามครึ่ง ทุกอย่างเรียบร้อยครับ เล่าให้ฟังถึงบรรยากาศ งานการต่าง ๆ
ทั้งหมดนี้เป็นงานที่ต้องชื่นชมเขา แปลว่าอย่างไร แปลว่าอังกฤษ คุณโทนี่ แบลร์ เป็นคนดูแลเรื่องนี้นะครับ คุณโทนี่ แบลร์ น่าจะไป คุณซาร์โคซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ต่อต้านว่ากล่าวเรื่องโน้นเรื่องนี้ เอ้าไปครับ แต่ไม่ค่อยดังเท่าไร ผมดูตอนที่เขาจับมือกับท่านประธานาธิบดีหู จินเทา ใคร ๆ ก็ไปครับ เพราะกีฬาครับ และเขาไม่มีการเมือง เขาไม่พูดการเมืองเลยครับ ไม่มีใครไปแอะนั่นเลย วันที่ 8 สิงหาคม วันเกิดอาเซียน ท่านนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ท่านยังจำได้ วันนี้บอกแสดงความยินดีกับอาเซียน นี่ประธานอาเซียนคนใหม่ วันที่ 8 เราเปิดของเราวันดี ก็บอกว่าเป็นวันเกิดอาเซียน ท่านจำได้นะท่านมาอวยพร ของเราทำอย่างไรครับ เราวางศิลาฤกษ์สถานทูตใหม่ สร้างออกแบบใหม่ทุกอย่างหมด สถานทูตเก่าธรรมดาแต่ก่อนเป็นบ้านทูต แล้วก็ไปอยู่ปรับปรุงเป็นสถานทูต บัดนี้สถานทูตอยู่ตรงกันข้าม เยื้องนิดเดียว สถานทูตใหม่อยู่ตรงนั้น บ้านทูตก็จะอยู่ที่เก่า ก็เรียบร้อยดี มีคนถามแล้วทำกับข้าว ทำข้าวหน้าไก่ ทำไมต้องหน้าไก่ เขาเป็นมุสลิม เป็นมุสลิมหลายคน นักกีฬา 51 โค้ชด้วยทั้งหมดก็เกือบ 100 และผู้คนมา ก็มาสถานทูตกันเต็ม ผมทำไก่ 10 กิโลฯ นะ ข้าวหน้าไก่แบบสมัคร ทุกอย่างเรียบร้อยดี และผมเข้าเฝ้าฯ ข้างใน ออกมาถามเรียบร้อยครับ อุตส่าห์บอกว่าตักใส่ข้าวราดข้าวไปกินที่บ้านด้วย บอกอร่อย ก็เรียบร้อยดีทุกอย่าง ทุกประการ ทุกคนชื่นชม ไม่ใช่เรื่องกับข้าวผมนะครับ ทั้งบ้านทั้งเมืองเขานั่น
ผมบอกท่านเวิน เจียเป่า บอกบ้านผมหลังจากฟุตบอลยุโรปเลิกเสร็จแล้ว ไม่ได้คุยอะไรล่ะ โอลิมปิกทั้งนั้น โอลิมปิกกันทั้งเดือนมานี่ และก็อวยพรกับท่านบอกว่าแสดงความยินดีบอกในที่สุดก็สำเร็จ แปลอักษรบนพื้น ไม่น่าเชื่อเลย 2,800 คน ถ้าสนามเขาเปิดได้ อย่างกับท้องเรือรบเลย เดี๋ยวขึ้นมาลอย แล้วม้วนกระดาษ 2 ม้วนน่ะ เล่าเรื่องต่าง ๆ ผู้หญิงนางงามทั้งหลายแทบจะเอาเชือกขึงความสูง เท่ากันหมดเลยครับ มีแต่เด็กผู้หญิงนุ่งกระโปรงสั้นคาดเอวแดง ท่านก็ทำคึกครื้นตามจังหวะ หลายชั่วโมงเป็นลมหามมา 1 คน นอกนั้นเดินขาเตะไปเตะมา ตอนจบก็หมดแรงขา เรียบร้อยดี น่าชื่นชมกับเขาครับ งานเขาสำเร็จ ของเราจะเท่าไร ไม่เท่าไร กีฬาโอลิมปิก ประเทศไทยเรา เมื่อก่อนนี้ ตอนที่ยังไม่ qualify เขาส่งไปแข่งกับเขา ไม่เคยได้เหรียญเลย เราพูดโอลิมปิกก็บอก โอลิมปิกแพ้ชนะไม่สำคัญ สำคัญให้ได้ร่วม สำนวนนะครับให้ได้ร่วม ต่อมาพเยาว์ พูนธรัตน์ ได้เหรียญทองแดงนักมวยมา ต่อมาได้ 1 ต่อมาได้ 2 ต่อมาได้ 3 ต่อไปนี้ไม่พูด ไม่สำคัญที่ได้ร่วมละครับ สำคัญจะได้กี่เหรียญ
แต่ถึงบัดนี้ก็ยังต้องพูดครับ เรายังต้องพูดว่า การได้ไปร่วมกันนั้น ผมไม่คิดว่าบรรยากาศฟุตบอลโลกที่เขาเคยมีกัน เขาจะนั่นอย่างไร แต่โอลิมปิกเป็นยอดของมหกรรมกีฬาครับ งานพิธีการต่าง ๆ ผมก็ไม่เคยได้รับชวนไป ไปก็จังหวะพอดี ก็ไปเจอที่เอเชียของเราทำ พิธีการของเราทำ ด้วยการที่คนดูแคลน ๆ ตั้งหลักให้เขาไว้ 3 หลัก เพราะเขาคน 1,300 ล้าน เขาจะต้องจัด สนามกีฬาเป็นอย่างไรครับ จุแสนคน สนามอเมริกาผมดูมาหลายสนามมากมาย อันนี้เขาเจ๋งครับ สร้างเป็นรังนกนี่ และข้างในแข็งแรง อัฒจันทร์ 3 ชั้น บนพื้น จะเอาอะไรมาอวดกันทำได้หมด ผู้คน 2,500-3,000 เปลี่ยนเข้าเปลี่ยนออก ยังกับมดกับปลวก วิ่งเข้าวิ่งออก ดับไฟเปิดไฟ คนดูเขาไม่ได้จ้างมานะครับ เขาแจกให้เขย่า ๆ จังหวะไหนพอเขาปิดไฟปั๊บเขย่าวอบแวบ ๆ ๆ เขียวแดง ๆ รอบสนาม คนดูร่วมด้วย มีโห่มีฮาป่า มีอะไรไหม ไม่ครับ นักกีฬาจีนเข้าเสียงดังหน่อย ดีใจหน่อย พอดังแล้วเขาก็หยุด ไม่มีการอะไรอย่างไรเลย แต่ก่อนขาเข้าต้องมีดนตรีแล้วเดินมาร์ชชิ่งเข้า เดี๋ยวนี้เปลี่ยน ขาเข้าเหมือนขาออก คือขาตอนเลิกเดินกันตามสบาย นักกีฬากลับบ้านไปแล้วบ้าง คนแพ้บ้าง หงอยเหงาบ้างอะไรต่าง ๆ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ กองทัพนักกีฬาเขาเข้ามาก็นั่น เข้ามาตั้งแต่แรก พม่าไป 15 คน ถามท่านนายกฯ บอกว่าแล้วพม่าแข่งอะไร เรือแคนูคายัก เขาก็มีดีของเขานะ ท่านประธานยังรู้ว่าไทยเก่งตรงไหน ไทยหวังจากยกน้ำหนัก ไทยหวังจากยิงปืน ไทยหวังจากอะไรต่าง ๆ ท่านรู้หมด แสดงว่าเขาตามข่าวกันหมดครับ
งานทั้งหมดก็เป็นอย่างนี้ละครับ งานนี้นะครับ ใครที่นั่งดูโทรทัศน์ นายกรัฐมนตรีเอาอีกแล้วไม่ยอมพูดเรื่องการบ้านการเมือง ไม่ต้องพูดละครับ การบ้านการเมืองสถานการณ์มันจะปรับสภาพตัวของมัน โดยนายกรัฐมนตรีไม่ต้องไปพูดไม่ต้องไปย้ำ แต่งานที่ได้บอกไว้นั้นหนังสือพิมพ์จะเขียนหนังสือวิพากษ์วิจารณ์ว่าผมไม่ได้ทำอย่างที่พูด ผมพูดครับแต่ว่าไม่ได้รุนแรงอย่างที่ท่านมีความหมาย แต่ผมกำลังทำอย่างที่ผมได้กราบบังคมทูลไว้ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้การเมืองจะเข้าที่เข้าทางอย่างไร ปล่อยไปตามสภาพ ถูกต้องละครับ จะมีแก๊งเท่าไร ๆ ๆ แก๊งออฟไฟร์ ผมยังไม่เอ่ยถึงละ ต้องถึงเอ่ยถึงแก๊งออฟโฟร์ เพราะฉะนั้น เรื่องต่าง ๆ จะจบลงด้วยสถานะ ด้วยความเป็นอยู่ของมัน ไม่มีปัญหาละครับ นักข่าวก็คอยตามไล่ คือจะจุดชนวนให้ลุกอยู่เรื่อย ไม่ครับ พรุ่งนี้จะเป็นวันสุกดิบ วันที่ 12 สิงหาคมจะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เรามีงานถวาย 3 วัน และจะมีตลอดอีก 9 วันของรัชกาลที่ 5 จะมี 1 วัน วันถวายพระเพลิง วันที่ 15 พฤศจิกายน ถวายพระเพลิง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนครธิวาสราชนครินทร์ เสร็จแล้วจะมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานธง ทรงรับธงคืนฉลอง ก็เอาสิครับ เราก็ทำอย่างนี้ละครับ และงานการเมือง ผมก็จะทำหน้าที่ของผม ครม.ก็ปรับแล้ว ทุกอย่างจะเดินหน้าไป ไม่ต้องตอบคำถาม วันนี้ขออภัยสำหรับท่านที่ถามมาเพราะจะไม่คุยการเมือง ถือว่าเป็นวันมงคลในวันพรุ่งนี้ต่อไป และจะต้องถือว่าได้ขอพระราชทานไว้แล้วว่า ต้องอาศัยพระบารมีที่จะทำให้คนไทยหันหน้าเข้าหากัน จะได้ไม่ได้ ก็อยู่ที่ในหัวใจของท่านทั้งหลายซึ่งเป็นพสกนิกร วันนี้เวลาหมดนะครับ วันนี้สี่โมงเย็นก็มีพิธีเปิดท่านที่ว่างก็เชิญไปร่วมพิธี และก็งาน 3 วัน วันข้างหน้าต่อไปก็ยังจะได้มาบอกมาเล่า แล้วก็อย่าลืมนะครับ ถ้าใครได้รับไปแล้วฟังเพลงแม่แห่งแผ่นดิน เพลงนี้ต่อไปจะดังเท่ากับเพลงพ่อแห่งแผ่นดิน ที่เคยดังมาแล้ว เวลาหมดแล้วนะครับ สวัสดีครับ อาทิตย์หน้าพบกันใหม่ครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
รายการ “สนทนาประสาสมัคร”
โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2551 เวลา 08.30-09.30 น.
--------------------------------------
สวัสดีครับท่านผู้ชมที่เคารพ รายการวันนี้เริ่มต้นด้วยอัญเชิญเพลงใหม่ เป็นเพลงแต่งถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถนะครับ เราชาวไทยคุ้นเคยกับเพลงพ่อของแผ่นดิน คุ้นเคยมานาน ร้องกันได้หมดทั่วประเทศ คือเขาแถลงข่าวไว้วันที่ 4 สิงหาคม ผมเองก็ไม่ได้ฟังว่าแถลงข่าว แต่ว่ามีหน้าที่จะต้องมาแถลงด้วยตัวเอง เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) ลงจากเครื่องบินมาจะต้องไปที่อ่างทอง ก็เอาเทป เขาส่งมาให้ทันทีก็ได้ฟัง ครั้งแรกฟังเลย อย่างขึ้นต้นเมื่อสักครู่นี้ เขาเรียก กริ่น เพลงนี้ต้องเล่าให้ฟังนิดหนึ่งว่า เมื่อปีกลายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชทานเป็นกลอนแปด 4 บรรทัด
ข้าวในนาปลาในน้ำคำโบราณ คือตำนานความอุดมสมบูรณ์สิน
ฝากลูกไทยร่วมหวงแหนรักแผ่นดิน ถนอมไว้อย่าให้สิ้นแผ่นดินไทย
พระราชทานเป็นคำขวัญ 4 บรรทัด กลอนแปดนะครับ เขาก็เอานี่ไปเป็นกริ่น และก็เอากลอนแปดไปแต่งเป็นเนื้อเพลงอีก 3 บรรทัด เป็น 4 บรรทัดแรกแล้วเติมอีก 3 2 เติม 3 ก็กลายเป็นเพลงใหม่ คือเพลงพ่อของแผ่นดินที่ร้องกันได้ทั่วประเทศอย่างไร เพลงนี้ก็ ผมฟังครั้งที่ 1 ในรถ เสร็จแล้วก็ถึงงานเสร็จก็นั่น ก็กราบบังคมทูลเรื่องนี้บอกได้ฟังเป็นครั้งแรก ก็โปรดเกล้าฯ ให้ดนตรีอยู่ที่งานด้วย ก็บรรเลงก็เล่นหลายเพลง เพลงนี้ ๆ ๆ ก็มีเพลงนี้ด้วย ทีแรกฟังเขาจะร้องเดี่ยว เพลงร้องเดี่ยวนะครับ 1-2-3-4 ท่อน ผมก็บอกไปฟังเป็นครั้งแรก เพลงร้องเดี่ยว ประชาชนคงจะเอาไปร้อง เราตามลำบาก นักร้องศิลปาชีพมาเลยครับ ร้องหมู่ พอร้องหมู่ก็ได้ดูจังหวะจะโคน ก็ฟังได้เลย วันนี้ก็ต้องเอามาด้วย
เพลงแม่แห่งแผ่นดิน ทั้งหมดนี่วันนี้ใครโทรศัพท์เข้ามาก็มีอยู่ 100 แผ่น ส่งให้เลยนะครับ ส่งให้ถึงบ้านนะครับ ทั้งหมดก็เป็นเรื่องงานซึ่งวันนี้ก็จะเริ่มด้วยการ ผมคงจะถวายพระพรเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้เพราะมาอยู่คนเดียว แต่ก็เป็นเล่าถวายพระพรว่า วันพรุ่งนี้จะเป็นวันสุกดิบ วันก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษาจะมีวันเสด็จพระราชดำเนินออกให้เฝ้าฯ เหมือนกับออกสมาคมนะครับ แต่เขาไม่เรียก สมาคมจะใช้เวลาวันจริง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวออกวันมหาสมาคมวันที่ 5 ธันวาคม และทรงออกก่อนวันก็วันที่ 4 ธันวาคม สมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็เหมือนกัน วันพระองค์ท่าน 12 สิงหาคม แต่วันสุกดิบจะเสด็จฯ ที่สวนจิตรลดารโหฐาน ผู้คนก็ไปเฝ้าฯ จะครับ งานอย่างนี้ละครับเมื่อเวลาที่เราจะดำเนินการ ก็มีหน้าที่จะต้องมาลำดับความ
วันที่ 12 สิงหาคม 2551 จะมีพระชนมายุครบ 76 พรรษา แล้วถ้าเราลองดูย้อนหลัง สมเด็จพระนางเจ้าฯ ผมเชื่อว่าหลายบ้านมีนะครับ บังเอิญผมไปเยี่ยมพรรคพวกมา เขามีรูปเต็มพระองค์ 2 พระองค์ยืน สมเด็จพระนางเจ้าฯ ตอนนั้นทรงเป็นพระคู่หมั้นอุ้มแมวครับ ผมมีครึ่งบน ผมไปทีไรผมก็อวด เพราะรูปหายาก แต่ว่าหลายบ้านมี ผมก็ไปเจอเต็มพระองค์ บอกนี่บ้านผมก็มี แต่มีครึ่งข้างบน พระชนมายุยังไม่เต็ม 20 พรรษาละครับ นั่นเราก็ได้เห็น เสร็จแล้ว ก็ทรงอภิเษกสมรสกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 เมษายน ที่เราถือเป็นวันที่มีงานประจำ พอถึงปี 2493 ได้สถาปนาทรงเป็นพระบรมราชินีนาถในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน เราก็ต้องเห็น และทรงมีพระราชธิดาพระองค์แรก พระราชโอรส พระราชธิดาเรียกว่า พระเจ้าลูกเธอ พระราชโอรสเรียกว่า พระเจ้าลูกยาเธอ ก็มีพระเจ้าลูกเธอ พระเจ้าลูกยาเธอ และพระเจ้าลูกเธออีก 2 พระองค์ 4 พระองค์นี่ละครับ ถ้าใครอายุมากอย่างผมก็จะได้เห็นตั้งแต่ทรงพระเยาว์ลงมา จนกระทั่งบัดนี้เจริญพระชนมายุทุกพระองค์ได้เห็นกันมาเรียงแถวเลย สมเด็จแม่ก็ทรงมีพระชนมายุ 76 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุ 81 พรรษา ทรงมีพระชนมายุห่างกัน 5 พรรษา
ทั้งหมดนี้ได้เห็นเลยว่านี่คือสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เป็นสถาบันพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ นี่ต้องเล่าย้อนหลังนะครับ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ท่านทรง คือคนอื่นเอาดาบไปสู้กับปืน รับสั่งดาบสู้กับปืนไม่ได้ ถูกยึดประเทศแน่ บอกเราต้องยอมรับความเจริญของโลกตะวันตก รับความเจริญเขามา และเราจะอยู่ได้ ทรงทำอย่างนั้นจริง ๆ ครับ 2440 ก็เสด็จพระราชดำเนิน ผมเคยพูดไปทีแล้ว เสด็จพระราชดำเนินนานหลายเดือนนะครับ ทรงลงเรือไปเยี่ยมเขาเลยครับ เอาพระเจ้าลูกเธอทรงไม่ให้ไปสมัยก่อน ตามเสด็จฯ และส่งไปฝากเรียนหนังสือตามราชสำนัก 14 ราชสำนักในยุโรป ทั้งหมดละครับ อีก 10 ปีเสด็จพระราชดำเนินครั้งที่ 2 ไปทรงรับกลับ เรียนหนังสือ 10 ปีนะครับ ก็กลับมาก็ช่วยสมเด็จพระราชบิดาบริหารบ้านเมือง เพราะฉะนั้น ระหว่างเสด็จพระราชดำเนินหลายเดือน สมเด็จพระราชินี พระศรีนครินทราบรมราชินี ก็ทรงดูแลบ้านเมืองแทนคือหมายความว่าทรงเป็นผู้สำเร็จราชการ ก็โปรดเกล้าฯ ให้เติมคำว่า นาถ ลงท้าย สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทีนี้สมเด็จพระบรมราชินีพระองค์ปัจจุบัน พ.ศ. 2499 พระเจ้าอยู่หัวทรงผนวช เวลาที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงดูแลบ้านเมืองด้วย ก็พระราชทานให้ทรงเป็นพระบรมราชินีนาถ เหมือนกันกับสมัยรัชกาลที่ 5 ถ้าใครเกิดมาก็เจอสมเด็จพระบรมราชินีนาถ รัชกาลที่ 5 ก็ทรงมี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชินีนาถ นี่ก็สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เหมือนกัน ก็ทรงครองพระยศอันนี้ละครับตลอดมา เราก็จะได้เห็น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงสนพระราชหฤทัยเรื่องน้ำ เรื่องอะไรต่าง ๆ ทั้งหมด ก็โครงการพระราชดำริ ทั้งหมด สมเด็จพระบรมราชินีนาถก็ทรงอยู่ข้างหลังพระองค์ท่าน และวันหนึ่งก็จะต้องรับสั่งว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงคิด แล้วทรงรับมาปฏิบัติ คือเรื่องชาวไร่ ชาวนา นี่ คือชาวนาแต่ก่อนเขาทำนาปีละหน เดือนพฤษภาคมนี่ภาคกลางนะครับ พอเดือนเมษายนสงกรานต์ ฝนตกเชียงใหม่ ก็ตกไล่ขึ้นมาเลย พอถึง 17 พฤษภาคม กลางเดือน วันนักเรียนเปิดละก็ ฝนตกกรุงเทพฯ แปลว่าชาวนารอบกรุงเทพฯ ภาคกลางเขาก็เริ่มไถ เห็นไหมแต่ก่อนต้องไถ ไถแล้วทำอย่างไร ไถแล้วก็หว่าน หว่านเขาเรียกว่า ตกกล้า นะครับ ต้องให้ข้าวกล้ายืน 1 เดือน ตกกล้า พอเสร็จแล้วก็ถอนกล้าเอามา และก็เอากล้าไปดำเรียกว่า นาดำ ข้างหลังนี่ละครับที่ว่าหว่านน้ำตม ใครได้เห็นนาหว่านอีกแบบหนึ่ง เป็นกระแบะเล็ก ๆ เท่าหัวแม่มือ ใส่ดินไว้ และเอาข้าวใส่เมล็ดเดียว ๆ ๆ ๆ แทนที่จะปล่อยหมด ใส่เมล็ดเดียวครับ ขึ้นมาประมาณ 3 นิ้ว และก็จับโยนตูม ๆ ๆ ๆ ดินหนัก ก็ทิ้ง ๆ ๆ เป็นการปลูกแบบใหม่ ทุ่นพันธุ์ข้าว มีความเจริญ
เรื่องอย่างนี้ละครับ พระเจ้าอยู่หัวโปรดที่จะรู้เรื่องนั้นเหมือนกัน เสร็จเรียบร้อยแล้ว ชาวไร่ ชาวนา ทำนา นาปีเริ่มเดือนพฤษภาคมกลางเดือน เกี่ยวกันเดือนพฤศจิกายนปลายเดือน เดือน 11 น้ำนองคือเดือนตุลาคม เดือน 12 น้ำทรง เดือนอ้าย เดือนยี่ น้ำก็รี่ไหลลง ก็เกี่ยวข้าว ชาวนาก็จะว่างเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม 5 เดือน ชาวนาว่าง ชาวนาก็ตีไก่ ชาวนาจับปลา ชาวนาบวชลูก ชาวนาเล่นการพนัน ก็ถูกนินทาครับ ในที่สุดเรามีเขื่อนมหึมา 2 เขื่อน เขื่อนภูมิพล 13,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ดูแล 22 จังหวัด ทำระบบชลประทาน เขื่อนสิริกิติ์ก็ส่งลงมาสมทบ น้ำลงมาด้วย มาที่เขื่อน เขื่อนชัยนาทรองอยู่ข้างล่าง แม่น้ำปิงก็ลงมา ๆ ถึงนครสวรรค์ แม่น้ำน่านลงมาถึงนครสวรรค์ และน้ำก็กั้นไว้ เขื่อนชัยนาทเกิดก่อนนะครับ แล้วก็ส่งมา ระบบชลประทานก็ดี ทำให้เราปลูกข้าวได้ 2 หน และบัดนี้เราก็ปลูกข้าวได้ 3 หน ไม่น่าเชื่อนะครับปลูกข้าวได้ 3 หน ข้าวพันธุ์ใหม่ที่คิดมา 97 วัน แถมให้อีก 3 วันเป็น 100 วัน 100 วัน 3 หนก็ 300 เหลืออีก 60 กว่า เอา 3 หาร 13 X 5 = 65 เอา 3 หาร ได้ 22 วันครับ มีเวลาไถเวลาเก็บเวลาเกี่ยว 22 วัน และปลูกใหม่ ก็ต้องกันไม่ให้น้ำท่วม และน้ำท่วมตรงนั้นว่าอย่างไร น้ำแม่น้ำปิงท่วมไหม ไม่ท่วมครับ เพราะว่ามีเขื่อนมีระบบ แม่น้ำน่านท่วมไหม ไม่ท่วม มีเขื่อนมีระบบ และแม่น้ำอะไร อ๋อ แม่น้ำยมท่วม เพราะว่าไม่มีเขื่อน ก็ต้องทนน้ำท่วมกันไปครับ อย่างที่แลเห็นนี่ละครับ ไปแตะต้องเข้าก็โวยวาย พูดเข้าก็โวยวาย เห็นไหมครับ ตรงนี้ถ้ามีระบบเสีย คุณหญิงคุณนายน้ำท่วม ก็ไม่ต้องไปพายเรือแจกของ ไม่ต้องละครับ เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของผมต้องเจรจาความกัน
ทั้งหมดที่จะบอกก็คือว่า เราก็ปลูกข้าวได้มากขึ้น ชาวไร่ ชาวนา ก็ไม่มีใครว่า เพราะชาวนามัวแต่ปลูกข้าว ไม่ใช่มัวนะครับ ปลูกข้าว ข้าวราคาดีไหมครับ ข้าวราคาดี รัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ข้าวราคาต่ำ ปลูกให้น้อยกินมาก ไม่ใช่ครับ ต้องมีระบบมีวิธีการ ซึ่งวันนี้ไม่ได้บรรยายให้ฟัง แต่วันนี้จะมาเล่าให้ฟังถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในที่สุดก็ทรงเห็นว่าบรรดาชาวนาก็ทำงาน ชาวนาทำงานหนัก เอาชาวนามาทำ ไปอีสานไปเห็นชาวนานุ่งผ้า โอ้โห นี่ผ้ามัดหมี่ สนพระราชหฤทัยตามไปดู ไหนทำอย่างไร ไปดูสิ ก็คนแก่ก็นั่งทำไป ถ้าไม่ดูอีกหน่อยมัดหมี่ก็หมดครับ พอทรงเห็นมัดหมี่ เอาละครับ เอาลูกชาวนาทั้งหลายมาเรียน ทั้งหมดครับ คำว่า ย่านลิเภา เป็นเถาวัลย์เล็ก ๆ ผอม ๆ หนาก็มี บางก็มี เขาทำตั้งเมื่อไร ทำตั้งแต่รัชกาลที่ 5 กระเป๋าย่านลิเภา รัชกาลที่ 5 แต่มาถึงรัชกาลปัจจุบัน ย่านลิเภายังปลูกอยู่ ยังเก็บได้ที่ไหน ต้องทำให้เท่ากัน เมื่อวานนี้ได้เป็นบุญตาได้เห็น ย่านที่เป็นเส้นเล็ก ๆ งามมากเลยครับ ที่ทรงถือมีประดับเครื่องเพชร ผมประคองอยู่ เขาบอกสำคัญคือต้องอย่าให้ตรงแถว ๆ นี้หาย แต่ว่าเส้นนี่นะครับ ได้รับคำอธิบาย นางสนองอยู่ใกล้ ๆ ก็อธิบายเลยว่า ขูดให้เล็ก ทำให้เล็ก แล้วสานมา ก็แปลว่าอย่างไร อย่างนี้เขาเรียกว่า อภิชาตบุตร ทำดีกว่าสมัยก่อน แต่ไม่มีใครตำหนิละครับ แต่ก่อนเส้นใหญ่ อาจจะไม่เส้นไม่เท่ากันบ้าง เดี๋ยวนี้มีเครื่องรูดให้เส้นเท่ากัน มีเส้นยาวถักทอเสร็จเรียบร้อย นี่พูดถึงย่านลิเภา
แล้วไปอย่างไรอีก ทุกอย่างละครับ เอาลูกชาวนา เท่าไรครับ เป็นแสนครับ เอามาเข้าโรงเรียนเรียกว่า ศิลปาชีพ โรงเรียนอาชีพที่ทำศิลปะ ไม่มีความรู้อะไรต่าง ๆ เอามาเถอะครับ ลูกชาวนาไม่มีความรู้และเอามาทำ ในที่สุดก็ใส่ตะแกรงร่อน ๆ ไม่ใช่ทั้งแสนคนเป็นหมด ใส่ตะแกรงร่อน ๆ ในที่สุดก็ออกมาเป็นงานตั้งแต่ชิ้นยังหยาบยังดี จนกระทั่งถึงแบบชนิดยอดศิลปิน ถ้าใครไปที่ผมมาชวนเชิญที่พระที่นั่งอนันตสมาคม เข้าไป ข้างบนตัวพระที่นั่งอนันตสมาคมข้างนอกก็หินอ่อน จากเมืองคารารา ประเทศอิตาลี ข้างในก็สวยงามแบบยุโรป ฝีมือชั้นยอดที่ทรงสั่งเข้ามาทำ แต่ที่พื้นข้างล่าง มีบันดาลศิลปะ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงอยู่ข้างหลังเรื่องนี้ ทรงใช้เวลาอบรมบ่มนิสัยขึ้นมาหลายสิบปี ในที่สุดเมื่อก่อนนี้ตอนเสด็จพระราชดำเนินข้างนอก เราก็เห็นนกยูงหางอะไร ก็ไปประดับที่โต๊ะอะไรต่าง ๆ บัดนี้มีงานชิ้นใหญ่ขึ้น อะไรที่เป็นความงดงามของในวัง ตัวพระที่นั่ง ตัวบุษบก ตัวสีวิกากาญจน์ ซึ่งเขาคิดขึ้นมาใหม่ เป็นงานไม้ไม้สลัก งานแกะ งานคร่ำ แปลว่าอะไร เอาอะไรไปใส่ เอาทองไปใส่เงิน ไม่จับครับ ต้องเอาเหล็กมา ถักให้เป็นหนามขึ้นมาก่อน แล้วเอาทองใส่ลงไปแล้วปิด ลายรดน้ำไม่ยาก ลายรดน้ำวาดลายเสร็จ เอาตรงนี้มาทา เอารักมาปิดทา เสร็จแล้วก็รดน้ำลงไป ตรงที่ทองปิดอยู่กับรักก็อยู่ ตรงที่เป็นน้ำยาอยู่ก็หลุดออกมากับน้ำ ดูลายรดน้ำไม่ยาก
พอมาดูเรื่องคร่ำ เอาทองไปฝังไว้ในเหล็กครับ คนที่เหงื่อหยดลงไปก็ทำไม่ได้ บางคนมีเหงื่อมากไม่ได้ ทำแล้วจะเสียหาย ท่านหยิบมา 10 ได้ 2 คน งานสีวิกากาญจน์ ใช้คน 230 กว่าคนช่วยกันทำงาน 1 ปีครับ ออกมาก็เป็นเสลี่ยงที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ ประทับ ในอดีตนะประทับ เขาก็แบกน่ะละ สีวิกากาญจน์มีมาก ทำออกมาสุดจะงดงาม บางทีก็ทำเป็นปราสาท ข้างบน เป็นงานไม้ทั้งหมด และเอาที่เรียกว่า พระราชลัญจกร ตราประจำพระองค์ รัชกาลที่ 1 เป็นรูปอะไร รัชกาลที่ 2 เป็นรูปอะไร รัชกาลที่ 3 ทำปราสาท 5 ยอด เขามีถึงรัชกาลที่ 9 ในปัจจุบัน เลยจะต้องเอา 4 พระองค์ไว้ข้างนอก เอา 5 พระองค์ข้างใน เอารัชกาลที่ 3 เป็นรูปปราสาท 3 ยอด รัชกาลที่ 1 มีมงกุฎ รัชกาลที่ 4 มีมงกุฎ รัชกาลที่ 5 เป็นยอดพระมงกุฎ 1-2-3-4-5 อยู่ในอันเดียวไว้ตรงกลางครับ แล้วอีก 4 ยอดข้างนอกรอบ ก็รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 รัชกาลที่ 8 รัชกาลปัจจุบัน งานฝีมือชั้นเยี่ยมเลยครับ งานสลักไม้ที่ดูแล้ว ไม้เป็นแผ่นแต่ซ้อนไม่เห็น ทรงโชว์ให้ดูด้วยนะครับว่า 1-2-3 เวลาทำ แล้วทิ้งไว้ มันห่างเป็นร่อง แต่อันใหม่นั้นกลืนหมด ผู้คนมาช่วยกันสลักเป็นช้าง เป็นอะไรต่าง ๆ ปราสาทอยู่ข้างบน จนกระทั่งมาถึงยักษ์ที่มาถือศีล ต้นฉบับที่ได้มานี่ละครับ แก้ว 9 ประการน่ะละครับ ตำราเขียนไว้อย่างนั้น ก็ทำตามตำรา สลักเป็นไม้ ยักษ์ถือศีลนั่งอยู่ปราสาทข้างล่าง พระอิศวรอยู่ข้างบน ตาของยักษ์ของเป็นดวงแก้วอันนี้ ลิ้นของยักษ์เป็นอันนี้ อันหนึ่ง ออกมาเป็นโลหิต พญานาค ก็บรรยายเป็นภาพหมด ผมดูแล้วผมก็บอกท่านผู้หญิงบอกว่า นี่เขาไปแสดงในสภาฯ ก้อนเท่านี้ ส.ส.จันทบุรี 2,500 กะรัต ใหญ่ขนาดนี้ บอกอย่างนี้ต้องขอเอาโต๊ะมาตั้งข้างหน้าแผงใหญ่เบ้อเริ่ม เอาโต๊ะมาตั้ง เราก็บอกนี่ “เพชรดีมณีแดง เขียวใสแสงมรกต เหลืองใสสดบุษราคัม แดงแก่ก่ำโกเมนเอก สีหมอกเมฆนิลกาฬ มุกดาหารสีหมกมัว แดงสลัวเพทาย สังวาลสายไพฑูรย์” อย่างนี้ 9 อันมาวาง
งานอย่างนี้ละครับไปดูเถอะครับ ข้างบนข้างล่าง เรื่องผ้าอย่างนี้ เห็นได้ชัด ของเราไม่ฉูดฉาด แต่เนื้อข้างใน การพิมพ์การทอผ้า สุดท้ายแต่กระทั่งการเอาไม้มาแกะและเป็นเด็ก และติด ไม้ตัวต้นฉบับทำเป็นติดตู้เย็น 8 คน เด็กขี่ม้าก้านกล้วย เล็ก ๆ แล้วมีแม่เหล็กข้างหลัง ใครไปก็ต้องซื้ออยู่ในราคาที่ซื้อได้เป็นของที่ระลึก ที่โน่นที่นี่ต่าง ๆ งานนี้เรียกว่า “งานศิลป์แผ่นดิน” อยู่ข้างหลัง สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงอุทิศพระวรกายที่ทรงทำงานหนักเรื่องนี้ แล้วก็ทำมาตลอด ในที่สุดงานของพระองค์ท่าน ก็เอามาอวดได้ อวดชาวต่างชาติราคาแพงนะ เข้าไป 150 ไปชม โปรดเกล้าฯ บอกว่า รัฐบาลจัดงาน 3 วัน 10,11,12 สิงหาคม ให้เลยเข้าไป ราษฎรแต่งตัวบอกให้เรียบร้อยนิดหนึ่งเข้าไปในพระที่นั่ง เข้าไปชมไม่เก็บเงิน คนไทยธรรมดาไม่เก็บอยู่แล้ว แต่คนไทยไม่ค่อยเข้าไป ขอเชิญให้เอาไปดู และจะได้เห็นเลยครับ เราตื่นเต้น โอ้โหทางจีนปักผ้าไหม เห็น 2 ข้างก็เอาละโอเค แต่ของเราเขาปักกัน เขารู้ด้วยว่าทำอย่างไร ข้าง ๆ ภาพไหน เขาจะมีจอ 49 นิ้ว จอใหญ่ ๆ แล้วก็แสดงให้ดูหมดเลยครับ คร่ำขึ้นต้นทำอย่างไร ปักผ้าไหมทำอย่างไร ใบบัวนี่ละครับ ภาพใหญ่มหึมานะครับแล้วปักเป็นใบบัว ธรรมดาใบบัว ถ้าใครสังเกตจะเห็นว่ามีฝ้า เหมือนตัวอะไรไปถักไว้เป็นฝ้าขาว ๆ ที่เรียกว่า น้ำกลิ้งบนใบบัว ผมบอกนี่น้ำกลิ้งบนใบบัว มีหยดน้ำ ปักเป็นหยดน้ำ มีวาวด้วยนะครับ แปลว่าน้ำกลิ้งยังไม่ลงถึงก้นโคนของใบบัว เขาปักอย่างนี้มาให้ แล้วก็เป็นภาพปัก ๆ ปักเรื่องต่าง ๆ อ่านตำราขุนแผนฟันม่าน ขุนแผนเข้าไปบ้านนางวันทอง เจอ 3 ม่าน ชัวะ ๆ ๆ เขาอ่านในที่เขียนไว้ในโบราณน่ะละครับ เอาม่านที่ขุนแผนฟันอันใหญ่เบ้อเริ่ม มหึมาอย่างกับจอ Cinema Scope เราบอกอันนี้ถ้าเผื่อใหญ่ขนาดนี้จริง แต่จริง ๆ คงเล็กกว่า ถ้าขุนแผนไปฟันอย่างนี้ต้องเถียงกับขุนแผนแน่ว่า ความงดงามอย่างนี้ฟันได้อย่างไร ขุนแผนคงไม่มีเวลาดู ตอนนั้นคงโกรธ
ทั้งหมดนี่ละครับ ถูกถ่ายทอดลงมาอยู่ในงานศิลป์แผ่นดิน เสด็จพระราชดำเนินทรงตรวจงานอะไรต่าง ๆ ไม่น่าเชื่อครับ ทรงตรวจงาน ทรงใส่ฉลองพระเนตร เอาผ้ามาดู แล้วไม่มีละครับ ใครจะดีไม่ดี จะทรงปลอบใจ ตรงนั้นพระราชทานตรงนี้ก็พระราชทาน ขอทั้งหมดที่เอามา ก็ทรงคัดนะครับ ทรงคัดแจกันต่าง ๆ ทั้งหมดของศิลปาชีพจะเอามาขาย ขายทำอย่างไรครับ เพราะเหลือมาเยอะ วันที่ 10 สิงหาคม วันนี้นะครับ เดี๋ยวสี่โมงเย็นเปิด พอเปิดแล้วก็ไปดูนิทรรศการ อยู่ในเต็นท์ ฝนตกไม่กลัวนะครับ เพราะเต็นท์มีปรับอากาศ แล้วเอาของศิลปาชีพที่ทรงอุทิศตลอดเวลายาวนานมากนี่ละครับ ที่ทรงทำมานี่ ทุกภาคนะครับ นี่ทรงตรวจงานนะครับ เอางานมาแสดง เอางานมาเสนอ ทางนี้ใครทอผ้าอย่างไร จะโปรดเกล้าฯ ส่งไปก่อนนะครับ อย่างงานเขียนภาพอะไรต่าง ๆ ตั้งแต่เขียนใช้ได้ ใช้ไม่ได้ จนกระทั่งดีขึ้น ๆ ทั้งหมดมีครูมาสอน และก็ไปดู เห็นต่าง ๆ แล้ว อย่างเซรามิก กำลังนี้เซรามิก เขาทำดินปั้น เขาทำอิฐ มปก. เขาอยู่ที่อ่างทอง เดี๋ยวนี้อ่างทองมีอะไร อ่างทองมีตุ๊กตาชาววัง แล้วเป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้เคลื่อนมาเป็นงานเซรามิก ข้างหน้าเป็นโรงใหญ่เลย แต่ทอผ้าไหมข้างหน้า และข้างหลังเป็นโรงเซรามิก มีตั้งแต่เอาดินมาทำ มาแผ่ดิน มาทำต่าง ๆ มีการแสดง เขานั่งทำ และเขาก็เผาออกมาครั้งแรก และเขาก็มานั่งเขียน เสร็จแล้วเขาก็เอาไปเผาอีกที ความงามนี่ละครับ ใบบัวที่ทำนี่จะทำได้บางขนาดไหนอย่างไร เป็นเซรามิกนะครับ เป็นวัตถุจากพื้นดิน เอามาทำ แล้วมาใช้สี ใช้ชุบ จุ้มน่ะง่าย แต่มาเขียน และอย่างไร ก็ลูกชาวไร่ ชาวนา เอามาฝึกเอามาเขียน และเขาก็เป็นศิลปิน มีชื่อพวกนี้ไหมครับ ผมยังหาชื่อเอาใครมาเชิดชูไม่ได้ เขาทำงานเพื่องาน และงานที่เรียกว่า ศิลปาชีพพิเศษ ที่ฝรั่งเขาต้องใช้คำว่า Master Piece เอามาเลยครับ
ทั้งหมดนี่ละครับ งานสมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านทรงไว้ตลอด ชิ้นอะไรต่าง ๆ ทั้งผ้าทั้งอะไรต่าง ๆ ก็จะเอามาขายตั้งแต่วันนี้สิบโมงเช้า ไปเรื่อย 3 วัน 10,11,12 สิงหาคม แล้วก็มีการแสดงนิทรรศการ งานแสดงพระราชประวัติ งานอะไรต่าง ๆ เสร็จแล้วคงมีบันเทิง มีดนตรี ไม่ทราบจะเลือกวงที่ชาวบ้านชอบหรือเปล่านะครับ ก็ยังมีกับข้าว ท่านจะเอาหมึกแดงมาทำ ผมจะไปชิมดู ไปช่วยเขาสนทนา ไปสนทนาเรื่องกับข้าว ผมไม่ลงมือเองครับ เดี๋ยวเขาวิพากษ์วิจารณ์ ก็ทำทั้งหมดครับ ให้งาน 3 วัน เอาเท่านี้นะ แล้วอย่าลืมเขียนอันนี้มา เพลงแม่แห่งแผ่นดิน 100 แรกส่งไป ป่านนี้คงครบแล้ว
ก็จะเล่าให้ฟังไว้เท่านั้นนะครับว่า ในที่สุดสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมายุ 76 พรรษา และยังทรงงานอยู่ ยังทรงคล่องแคล่ว ยังทรงสั่งงาน ยังคงปลอบประโลมชาวบ้านอยู่ แล้วงานเมื่อวานที่เสด็จพระราชดำเนินที่อ่างทอง เนื่องจากเรื่องอะไรครับ ก็เป็นเรื่องที่ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีโรงเรียน หมายความว่าทางเหนือก็มีที่ห้วยฮ่องไคร้ ใครจากทางเหนือก็มาเรียนที่โรงเรียนห้วยฮ่องไคร้ ภาคกลางก็มีที่เขาหินซ้อน ทางโน้นก็มีที่สกลนคร ทางใต้ก็ไปที่นราธิวาส ทั้งหมดก็เป็นโรงเรียนของพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานให้ราษฎร เข้าไปแล้วก็ไปดูไปเรียนที่นั่น ตากธรรมชาติ อย่างที่ห้วยฮ่องไคร้ เขาโล้น ๆ ทรงหาน้ำ ปล่อยน้ำมา เอา Check Dam ใส่ แล้วก็เอาฝายนี่ละครับใส่ เอาน้ำใส่ จนกระทั่งกลายเป็นป่าขึ้นมาบนภูเขา และจะอยู่ตลอด ฝนลงก็จะอยู่จะซับน้ำต่าง ๆ อย่างนี้ นี่ทรงตั้งใจจะทำ สมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยม น้ำท่วมอ่างทอง น้ำท่วมในเมือง ทำกำแพงกั้น ท่วมน่ากลัวครับ เสด็จพระราชดำเนินทรงตรวจสอบ มีบริเวณหนึ่งครับอยู่ที่อำเภอแสวงหา เลยแสวงหาไปอีก 7-8 กิโลเมตร ตำบลชื่อสีบัวทอง อยู่ในอำเภอแสวงหา ปรากฏว่าบริเวณนั้นประมาณ 1,000 ไร่ น้ำไม่ท่วม ทรงบอกว่าตรงนี้จะทรงทำโครงการ เอาเรื่องข้าว เขาก็ปรับให้ ที่เขาเรียกว่าทำคอนทัว ทำอะไรต่าง ๆ และนี่ละครับ ทรงทำเรื่องนี้
ต้องเล่าให้ฟังนิดหนึ่งนะครับว่า แต่ก่อนนี้ข้าวเราเรียนกันมา เรียนกันมาจากฟิลิปปินส์ IRRI กลับมาของเรา วิชาการข้าว เขาไปอยู่ในกรมวิชาการเกษตร ทุกอย่างเกี่ยวกับอะไรต่าง ๆ อยู่กรมวิชาการเกษตร รับสั่งว่าข้าวเป็นชีวิตของบ้านเรา แยกออกมาหน่อยได้ไหม แยกออกมา เมื่อ 3 ปีที่แล้วได้รับแยกออกมาเป็นกรมการข้าว ดูแลโดยเฉพาะและ 3 ปีที่แล้วทำอะไรสำเร็จ ทำสำเร็จคือว่าไปค้นพบว่า พันธุ์ข้าวต้องออกปลูกปี 1 ปี 2 ปี 3 ไม่ต้องปลูก ปี 4 ห้ามปลูก ตัวพวกแมลงทั้งหลายรู้ทัน มันกิน เพราะฉะนั้น ปลูก 1 ปลูก 2 ออกใหม่ เขามีหน้าที่คิดพันธุ์ใหม่ออกมา เขาโดนเพลี้ยกินกัน ไทยไม่โดน เพราะระบบนี้ เพราะกรมการข้าวเป็นกรมดูแลเรื่องข้าวโดยเฉพาะ คิดหาหนทาง ถ้าใครไปลองฟังรายละเอียดแล้วไม่น่าเชื่อนะครับ ข้าวมีข้าวป่าอยู่ 3 พันธุ์ มีข้าวพันธุ์อินเดีย เขาเรียกว่า ข้าวพันธุ์อินดี้ คนนั้น ๆ ปลูก ข้าวบาสมาติ เขาเรียกว่า ข้าวอินดี้ ถัดไปก็ยาวี ทางเรานี่ และก็มีอีกอันหนึ่งซึ่งเราก็ไม่ได้ปลูก ผมจำแต่ 3 ชื่อนี้ อี้ ๆ เหมือนกับพวกคอเคซอยด์ พวกมองโกลอยด์ พวกนิกรอยด์ แบบนั้น ข้าวเหมือนกับคนอย่างนี้ละครับ เพียงแต่ว่าอยู่ทางเอเชีย และมีมากันแต่โบราณกาล เพราะฉะนั้น กรมการข้าวศึกษาหมด และทำอย่างไร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุ 80 พรรษา มีข้าวออกมา 5 พันธุ์ เวลานี้ที่ดังคือชัยนาท 80 อันอื่นก็ดังนะครับ ข้าวสุพรรณ เดี๋ยวนี้ใช้ 80 ถวายเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพราะฉะนั้น ข้าวพันธุ์ชัยนาท 80 ดีอย่างไร ดีสิครับ แต่ก่อนนี้ข้าวไร่หนึ่ง ธรรมดาชาวนานับเป็นถัง ทันสมัยต้องนับเป็นกิโลฯ
ผมเคยเฝ้าฯ เวลาที่เสด็จพระราชดำเนินวันแรกนา 400 600 ก็หูพึ่งแล้ว 600 กิโลฯ ต่อไร่ บัดนี้เขาขึ้นไป 1,000 กิโลฯ ต่อไร่ แต่ทว่าข้าวพันธุ์ชัยนาท 887 เกือบ 900 คือแปลว่าเกือบ 900 กิโลฯ ต่อไร่ แล้วดีอย่างไร ดีสิครับ ข้าวนี้อายุ 97 วัน คิดง่าย ๆ เอา 100 ต่อให้อีก 3 วัน ก็แปลว่า 3 คูณ ก็ 300 วัน เหลืออีก 65 วัน ก็ลองเอาไปหารดู แล้วจะได้วัน 22 วันเอาไปสำหรับจะเก็บเกี่ยว จะไถ จะคราด จะใส่อะไรต่าง ๆ มีวิธีการปลูกที่ทำให้เร็ว ทุกอย่างก็กลายเป็นว่าไม่ถึงอุตสาหกรรมครับ อุตสาหกรรมผมเคยดูแต่ก่อนที่เขมรที่ ฝรั่งเศสทำ ไถมา ใช้เครื่องจักรกลปลูกข้าว อุตสาหกรรมอย่างนั้นครับ ชาวนาไทยมีรถแทรกเตอร์ มีแทรกเตอร์มาไถมาเกี่ยว ยังใช้เครื่องเกี่ยว หลังขดหลังแข็ง ไม่ต้องแล้ว รถมาเกี่ยวมาเก็บ เพราะต้องการเร็ว แต่ว่าชาวนาไทยนั้น ยังมีการเก็บการเกี่ยว ประเภทที่ว่าเสร็จแล้วตาก ตากแล้วเข้า แล้วขาย วงจรของเรานี่คำนวณได้ แล้วก็ที่นี่ ผมกำลังนี้เติมมา 1 ล้านไร่ เอากลับมา ก็จะแบ่งปันกัน ตรงนี้ไหนที่ดอนหน่อยก็จะปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลัง และที่ช่วงไหนต่ำก็จะปลูกข้าว ก็ราคาดีขึ้น แปลว่าอย่างไร ผมบอกเลยว่า ห้ามประกาศว่าผลการส่งออก ผมใช้สำนวนแบบผมว่าเสียหลี่ยม ๆ ประเทศผลิตข้าว
ผมย้ำนะครับ เราขายข้าวมากที่สุดในโลก คือเขาขายกันทั้งโลก เรา 33 เปอร์เซ็นต์ ที่ 1 เลยครับ ถัดไปก็เวียดนาม ถัดไปก็อเมริกา แล้วคนอื่นก็นิด ๆ หน่อย ๆ จีนผลิต 125ล้านตัน กินหมดครับ อินเดียผลิต 84 ล้านตัน เอาบาสมาติมาขายข้าวแพง นอกนั้นก็กินหมด ของเราผลิต 30 ล้านตัน สีแล้วได้ 20 ล้านตัน ก็กิน 9 ล้านตัน ขาย 9 ล้านตัน แล้วเก็บเอาไว้ 2 ล้านตัน ต่อไปนี้จะไม่เก็บแบบข้าวขาว จะเก็บเป็นข้าวเปลือก จะชื้นอย่างไรก็จะเข้าเครื่องทำให้เสร็จเรียบร้อย แพคเสร็จแล้วก็ Freeze ให้เย็น อยู่ได้ 3 ปี สีออกมาเหมือนข้าวใหม่ เห็นไหมครับกำลังนี้ก็ระบบใหม่ที่จะทำ คือแทนที่จะเก็บ 2 ล้านตัน อาจจะเก็บสัก 5 ล้านตัน คนที่มากขึ้น เพราะฉะนั้น การค้าขายทำไปตามปกติ ก็คุณค้าไปใครขายไป พ่อค้าดำเนินการ คุณค้าขายของคุณไป แต่รัฐบาลมีสำรองเอาไว้ รัฐบาลไม่เอามาขายแข่ง รัฐบาลจะขายในที่คุณไม่ได้ขาย เพราะต่างชาติมีปัญหา ผมขายเรียกว่า G to G รัฐต่อรัฐ ก็ทำอยู่ครับ ดำเนินการอยู่ แต่ไม่ต้องการประกาศ เพราะราคาต้องการรักษาว่า เขาซื้อ 14,000 ซื้อได้แล้วกัน กำลังนี้ที่จะออกมา ตั้งใจเขาบอกว่ามีประมาณ 3 ล้าน รัฐบาลดีดลูกคิดบอกประมาณ 2.5 ล้าน ตรงนี้มาครึ่งทางก็ประมาณสัก 2 ล้าน ก็ซื้อได้หมดครับ ซื้อแล้วอย่างไร สีเลยครับ ใครจะซื้อก็ขายราคามาตรฐานในตลาด
เรื่องพรรค์อย่างนี้ก็ทำให้ราคารักษาไว้ เราเปิดมาเอามาเลย ข้าวนาปี เขาเก็บเยอะออกเยอะ เราก็ซื้อเยอะ ถ้าว่าคุณราคาตลาดดี คุณซื้อไปขายเลยไม่มีใครว่า แต่ถ้าคุณเล่นกันแบบแต่ก่อนนี้ ธรรมดานั่นปั๊บ คนขายไปกดโรงสี โรงสีกดชาวนา ราคาตลาดข้างนอกดี แต่ชาวนาขายนั่น ไม่ได้ครับ กรณีนี้ไม่ได้ครับ เราทำเรียบร้อยครับ แล้วไม่ให้ใครเสียหายด้วย พ่อค้ากับรัฐบาลเดินจูงมือไปด้วยกัน ในขนาดที่ว่าชาวนาไม่ถูกกด โรงสีไม่กด ชาวนาไม่กด ระบบนี้ทำได้ ทำได้ครับ และทำได้ต้องอย่างไร ต้องพูดจากันสิครับ ใครเคยทำอะไรไว้อย่างไร เราบอกไม่ได้ ต้องทำแบบอย่างนี้ เพราะว่า คือที่ดำเนินการกันถึงได้แก้ไขปัญหาได้ พัวะเดียวออกมาเอาแล้วเริ่มแล้ว คือพวกที่เขาเคยกันมานั่นแป๊บเดียว รัฐมนตรีใหม่ยังไม่ทันถวายสัตย์เลยครับ ต้องพูดแบบราชการพูด บอกไม่ได้ ผมก็ยังไม่ทันจะกระซิบกัน ไม่ได้ เราดูอยู่ แต่เราทำเพื่อแก้ปัญหาไว้ให้ ปกติพอพ้นปัญหาปั๊บ เอ้าคุณเอากลับไป พ้นปัญหาไปว่ากันเลยธรรมดา แต่เราจะดูคุณ ปล่อยให้คุณทำอย่างนั้นไม่ได้ละครับ ถ้าปฏิบัติอย่างนั้นปั๊บ คราวที่แล้วมาอย่างไร ก็ข้าวราคาดี แต่ชาวนาราคาต่ำ แล้วทางนี้ได้อย่างไร ไม่ได้ เพราะไม่ได้ จึงต้องเข้าไปดูหน่อย เสร็จเรียบร้อยแล้ว 1-2-3 ที่เราจะดู
ทำไมนายกฯ แส่เข้าไปตรงนั้น ไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ไม่ใช่ ต้องเข้าไปตรงนี้เพื่อตั้งหลักให้ก่อน แล้วเอาตามหลักนี้ เสร็จเรียบร้อยแล้ว พ่อค้าก็อยู่ได้ โรงสีก็อยู่ได้ ชาวนาต้องอยู่ได้ครับ รัฐบาลถึงจะอยู่ได้ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแล ๆ ใคร ดูแลชาวนาครับ ดูแลโรงสี ดูแลพ่อค้าส่งออก และแน่นอนครับดูแลข้าราชการด้วย เห็นไหมครับ ลูกคู่เอามาทันทีเลยครับ รัฐมนตรีรับตำแหน่งปั๊บจัดการจะเอาเข้ากลับมากระทรวงพาณิชย์ อย่างนี้ทันที ผมอ่านแล้วบอกอย่างนี้ได้เรื่องแล้ว รัฐมนตรีโผล่เข้ามาเอาข้าวกลับมาพาณิชย์ แล้วทำไมนายกฯ เอาออกไปจากพาณิชย์ตรงนั้น ก็ไม่ถึงกับเอาออกไป แต่ให้พาณิชย์มาช่วยทำ ไม่ให้ทำคนเดียว ต้องเอากระทรวงการคลังเข้ามาช่วย เอาธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้ามาอะไรต่าง ๆ ก็ยังซื้อกันอยู่ ของคุณซื้อคนเดียวทำคนเดียว เราบอกมีปัญหาอย่างไรจะเข้ามาช่วยทำ เห็นไหมครับ เปลี่ยนรัฐมนตรีใหม่ จ้องกันอยู่เลยเชียวครับ รัฐมนตรีใหม่โผล่เข้ามาปั๊บ ให้สัมภาษณ์ทันทีว่าอย่างไรเอาข้าวกลับมาอยู่พาณิชย์ แล้วนายกฯ ว่าอย่างไรวันนี้ นายกฯ บอกเดี๋ยวต้องคุยกับรัฐมนตรีก่อน กระทรวงพาณิชย์ต้องได้ทำหน้าที่กระทรวงพาณิชย์แน่ แต่ที่บกพร่องมาที่แล้วนั่น รัฐบาลสอดแทรกเข้าไปถึงต้องเอามาทำ และก็มีนั่นทางนี้เสร็จคุณก็ดำเนินการต่อไป ต่อไปนี้เราจะเฝ้าดู
เห็นไหมครับหัวเลี้ยวหัวต่อ เลี้ยวปั๊บจะนั่นทันที นี่ละครับที่การเมืองจะต้องทันกับราชการประจำ หากินกับใครครับ ไม่อยากจะกล่าวหาละครับว่าไปหากินกับคนส่งออก คนส่งออกว่าอย่างไร กำไรเยอะครับ ผมบอกคุณกำไรเยอะเกินไป คุณต้องกำไรแน่นอน คุณต้องกำไร โรงสีก็ต้องอยู่ได้ แต่ชาวนาต้องอยู่ได้ ไม่ใช่มาขูดรีดกันคนหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน เสร็จแล้วไปโรงสีเป็นตัวกลาง เขาบอกไม่มี order ไม่มีเรื่องมากดชาวนา ไม่ได้ คุณไม่ซื้อ เราซื้อ เราดำเนินการ และแก้ไขปัญหา แก้แล้วครับ ดำเนินการแล้ว และเราจะต้องขายอย่างไร ขายสิครับ ผมต้องเอาของใหม่เข้า ผมเอาของเก่าออก และเสียตลาด ไม่เสียครับ เพราะตกลงแล้ว สอบถามหมดถ้าขายเป็นรัฐต่อรัฐ ไม่เกี่ยวข้อง ราคาไม่ตกต่ำ แล้วคุยกับใคร คุยกับเวียดนาม ผมโทรศัพท์คุยกับนายกฯ เวียดนาม บอกเลยครับ ขายน่ะขายก่อนเลย ตั้งราคาสูงนะอย่าให้ต่ำนะ ขายสูงไว้ก่อน แล้วไทยจะตามราคา เขาเป็นเบอร์ 2 ของเราครับ แต่เราให้เขาขายก่อน นี่ก็เป็นการเมืองระหว่างประเทศนิดหน่อย เรา 2 คนขายเยอะ เขาขายน้อยกว่าเราหน่อย แต่เราบอกขายก่อน เศรษฐกิจคุณมีปัญหาคุณขายเลย ตั้งราคาสูงไว้นะ
คืองานอย่างนี้คืองานที่ได้ช่วย ย้อนกลับเข้ามา ที่เมื่อวานนี้ไปตามเสด็จฯ ที่ต่าง ๆ ได้แลเห็นเลยครับว่าเขาทำงานกัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ โปรดเกล้าฯ บอก 1,000 ไร่ขอเป็นเหมือนกับฟาร์มทดลองจัดการทำ แล้วก็ทำคอนทัวต่าง ๆ นั้น แล้วในที่สุดก็ทำพิธี ชาวบ้านก็บอกว่ามีพิธีการ ภาคเหนือก็ทำอย่างนี้ ภาคกลาง นานี้เป็นนาที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงกอบกู้เอาไว้ และน้ำท่วมมาตรงนี้ ก็ไม่ท่วม ก็จะปลูกข้าวตลอด ถ้าจะปลูก 3 หนต้องปลูกตรงนี้ โดยไม่ต้องใส่กำแพงล้อมรอบ 3 หนที่บางระกำ ที่พิษณุโลก ต้องกำแพงล้อมรอบนะครับ แต่ตรงนี้ไม่ต้องล้อมรอบ แล้วก็ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะใช้ข้าวอย่างพันธุ์ชัยนาท 80 ก็จะปลูก 3 หน ๆ ละ 97 วัน ระบบทดน้ำ ระบบธรรมดา การหว่านต่าง ๆ ข้าราชการเขาเก่งครับ อธิบายเป็นแผง ๆ ผมบังเอิญมาอยู่ 6 เดือน ผมศึกษาเรื่องนี้ทะลุปรุโปร่ง ก็ตามเสด็จฯ ก็อธิบายกราบบังคมทูล ส่วนราชการเขาทำแต่นี้ทำใส่ลิ้นชัก ทำปิดทองหลังพระ เดี๋ยวนี้เขามีนะครับเหมือนกับว่าให้ดูทองหลังพระ งานนี้เขาทำถวายพระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงปิดทองมาตลอดพระชนชีวิตท่านตลอด เขาก็ทำ เอางานพระองค์ท่านมาประกาศ
ทีนี้พอเสร็จเรียบร้อย เล่าให้ฟังตรงนี้เพื่อจะบอกว่างานเมื่อวานนี้ เสด็จพระราชดำเนินสามโมงเย็น เสด็จพระราชดำเนินกลับทุ่มครึ่ง 4 ชั่วโมงครึ่ง ท่อนใหญ่ก็เรื่องข้าว ต่อไปก็เรื่องเซรามิก ศิลปาชีพพิเศษเคลื่อนเข้าไปอยู่ในจังหวัดอ่างทอง และจังหวัดอ่างทองนั่นละครับที่ข้าราชการได้มีโอกาสกราบบังคมทูล เมื่อท่านโปรดให้มีกรมการข้าว เขาก็แสดงให้ดูหมด และผมก็ต้องศึกษาเรื่องนี้ ผมตามเสด็จฯ เมื่อวาน ต้องบอกข้าราชการว่าเขาทำอย่างไร ๆ อธิบายความต่าง ๆ คือสรุปให้ฟังทีละท่อน ๆ ก็ตามเสด็จฯ ครับ จนกระทั่งเสร็จหมดเรียบร้อยก็มาดูเรื่องเซรามิก ผมไม่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ ผมก็ยืนดูห่าง ๆ ตามเสด็จฯ ก็ได้ชื่นชมกับผลงานของเขา ถ้าอะไรเรารู้ก็ต้องกราบบังคมทูล ต้องให้ข้าราชการประจำเขาได้รู้ว่างานที่เขาทำนั้น เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินต้องทรงทราบ เอาเรื่องนี้มาเล่า ก็เป็นการถวายสิ่งต่าง ๆ ที่ท่านได้ทรงมา ให้รู้ว่าราษฎรนั้นได้รู้ว่าพระองค์ท่านได้ทรงทำอย่างไร จะเป็นถวายพระเกียรติยศ ถวายพระเกียรติศักดิ์ ถวายงานต่าง ๆ ก็เวลาที่เจ้านายทรงทำงานมา มาถึง 76 พรรษา นี่ละครับ เราต้องกราบบังคมทูล ประชาชนจะได้รู้ว่าบัดนี้สิ่งที่เราได้เคารพสักการะบูชากันอยู่นั้น เป็นวันสำคัญของพระองค์ท่าน คือวันมะรืนนะครับ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ก็จะทำให้รู้กันเสียว่างานต่าง ๆ ของบ้านเมืองนั้น เจ้านายท่านเห็นว่าอย่างไร แล้วพวกดนตรีก็ยังอุตส่าห์ วงดัง ๆ เขาไปทำกันที่ทหารเรือ ก็อยากจะแผ่มาที่ว่านี้ ความสนพระราชหฤทัยต้องเดินตามพระองค์ ไม่ได้ถ่ายทอดสด ทรงซักทรงถามเรื่องนั้น ๆ ทูตจีนก็อุตส่าห์นะครับ ทูตจีนนี่ละครับ เอาห่านมาถวายครับ เราเลี้ยงห่านจีนอยู่แล้ว เลี้ยงไป ๆ ตัวเล็กครับ ทูตจีนแต่พูดไทยนะครับ กราบบังคมทูลภาษาไทยด้วย เอาห่านมาถวาย ร้องกันโฮกฮาก ๆ ๆ เลย ตัวอายุห่างกันไม่กี่ตัว ตัวโตเกือบเท่าตัว ก็เป็นหน้าที่ที่ผมต้องกราบบังคมทูลว่า เป็ดย่างตัวละ 350 บาท แต่ห่านย่าง 800 บาท
งานนี้เป็นงานที่มาถวายวันใกล้วันเฉลิมพระชนมพรรษา ประชาชนทั่วไปก็ขอเชิญชวนแล้วกันนะครับ พระราชทานสิ่งต่าง ๆ ลงมา เราก็ลงไป วันนี้สี่โมงเย็นมีพิธีเปิดและเข้าไปเดินดูได้ ทางศิลป์แผ่นดินก็โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ประชาชนเข้าไปชมได้ ไปดูหน่อยครับเป็นความหมายแห่งชีวิตว่าได้ดูว่าบ้านเรานั้นมีศิลปะชั้นสูง ทำมาจากฝีมือลูกชาวไร่ ชาวนา ซึ่งเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สนับสนุนทุกวิถีทางมา จนกระทั่งเรียกว่าสำเร็จ หนังสือเล่มหนึ่ง 2,500 บาท ใครมีสตางค์ก็ซื้อแล้วกันครับ ดูแล้ว ก็นั่งอ่านไปเถอะครับ แล้วให้ลูกให้หลานไว้ดูเลยว่า งานนี้เขาทำละเอียดหมดเลย คืออ่านแล้วไม่รู้ จะได้รู้ เป็นความฉลาดในส่วนตัว นี่คืออะไรทำอย่างไร ได้รู้ด้วย แล้วทั้งหมดได้รู้ว่า เป็นงานที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงปลุกปล้ำมาทุกอย่าง นี่ก็เป็นพวกย่านลิเภา พวกกระเป๋าถือ พวกผ้าอะไรต่าง ๆ ขอเท่านี้ครับ เอาสรุปเท่านี้
ทีนี้ขอเวลาที่เหลือจากงานถวายพระพรอันนี้แล้ว นี่เขาบอกว่าท่านผู้หญิงวิลาวัณย์ วีรานุวัตติ์ ทำงานร่วมกับผม นี่เขาเรียกริสต์แบนด์ ภาษาฝรั่ง สายรัดข้อมือ 2 สาย ไขว้กันนะครับ สีเหลืองกับสีฟ้านะครับ ไขว้กัน ทำ 100 ล้านคู่ ๆ ละ 100 บาท ทั้งหมดจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถวายไปละครับ ทรงใช้ตลอดหมด ไม่ว่าเหนือ ใต้ ออก ตก เงินส่วนพระองค์ใช้อยู่แล้วครับ งานพวกนี้ละครับที่เอาไป ก็จะทรงใช้สอยว่าจะทำโน้นทำนี่ทำอะไรต่าง ๆ ทรงซื้อที่ไว้ จัดการราษฎรมาอยู่ 500 ตรงนี้ เอาที่มาทำใหม่ จัดการไป รัฐบาลก็จะต้องเข้าไปช่วยดูด้วยว่าต้องไปแค่ไหนอย่างไร งานนี้ธรรมดาเขาไม่เล่านะครับ ผมก็เล่าให้ฟังไว้ว่า ผมต้องถวายงานอะไรต่าง ๆ เมื่อวานนี้ก็ 4 ชั่วโมงครึ่ง
พอเสร็จแล้วก็ขอเล่าถึงบรรยากาศ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเสด็จพระราชดำเนิน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ งานเขานี่ ค.ศ. 2001 เริ่ม คือเหลือ 3 ประเทศ ไทยแพ้ เหลือคู่ต่อสู้ จีนชนะ มีเวลา 7 ปีทำทุกอย่าง รอจนกระทั่งถึงเวลาที่เขานับกัน 8-7-6-5-4-3-2-1 ก็ถึงเวลาเลย เวลาเป็นมงคล ประกาศเปิดโอลิมปิก จีนสัญญาว่าอย่างไร จีนสัญญาว่าจะทำโอลิมปิกใน 3 หลัก หนึ่ง คือ เป็น กรีน โอลิมปิก แปลว่า บรรยากาศดี ปลูกต้นหมากรากไม้ สนามกีฬาแข่งขันทุกอย่างเจ๋งทั้งนั้นละครับ สอง ไฮเทค โอลิมปิก เขาแสดงไว้ ตอนเปิดไม่ยอมบอกไฮเทคอย่างไร ทุกอย่างละครับไฮเทค สุดท้ายบอก พีเพิล โอลิมปิก เป็นโอลิมปิกสำหรับประชาชนทุกคน แปลว่าสิทธิเสรีภาพของคนในประเทศ 1,300 ล้านต้องได้มีส่วน พวกนั้นก็คอยดูคอยนั่น พวกคอยต้อนคอยอะไร จะให้เกิดอะไร คือจะให้ล้มโอลิมปิกให้ได้ สุดท้ายก็ถึงเวลา ก็เรียบร้อยดีครับ เขาทำ เขาเชิญคนนั้นบอกไม่ไป ๆ สุดท้ายก็ไป ๆ ๆ ๆ ท่านประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ไปกับภรรยา เห็นเอาลูกสาวมาด้วย เอาน้องชายมาด้วย เอาคุณพ่อมาด้วย ไปก็วีไอพี 10,000 แต่วีวีไอพีจาก 86 ประเทศ เขาก็ทำ จัดการไป ทุกคนเข้าไปที่พัก อยู่โรงแรมเดียวกันนั่นละครับ เข้า ๆ ออก ๆ และพอเสร็จเรียบร้อย ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ก็ถวายพระกระยาหาร ความจริงทั้งหมดครับ ทำไมต้องรับ เจ้านายก็เสด็จฯ มากมายหลายพระองค์ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน สมเด็จพระนโรดมสีหมุนี แห่งกัมพูชา ผมก็ได้เฝ้าฯ รับสั่งยาวเลยเชียวครับ ผมเคยได้ไปเฝ้าฯ ตอนผมไปกัมพูชา คือในงานนี้ 86 ประเทศ ต่างฝ่ายต่างแนะนำกันเองหมด ผมเข้าไปผมเจอใคร ประธานาธิบดีฮาร์มิด คาร์ไซ ทำไมถึงต้องจำท่านได้ ก็ดูโทรทัศน์ หน้าท่านขาว ๆ ทำผมเกรียนและใส่มีผ้าคลุมไหล่สีเขียวน้ำเงินของท่าน ผมก็ไป พอเจอผมก็แนะนำตัวผม นายกรัฐมนตรีประเทศไทย ผมบอกท่านไม่ต้องแนะนำท่านหรอก เพราะผมดูท่านมาตั้งแต่ท่านรับตำแหน่ง อย่างนี้เหรอ คุยกันถูกอัธยาศัย คุยกันเรื่องทาลิบัน เรื่องพระพุทธรูปที่ถูกทำลายลงไป พุทธศาสนา นั่งคุย เชื่อไหมครับเจ้านายเสด็จฯ มาทรงเข้ามาทักทายประธานาธิบดี เหมือนกันครับ พระองค์ท่านทรงรับสั่งว่า รู้จักประธานาธิบดีอัฟกานิสถานทางโทรทัศน์ เจ้านายรับสั่งอย่างเดียวกันเลยว่าทรงดู และทรงสนทนาด้วย ก็เจอใคร ๆ ก็ต่างทักทายต่าง ๆ กัน ประธานาธิบดีแห่งบรูไน พระมหากษัตริย์
ก็ทั้งหมดเขาไม่มี Protocal เข้าไม่ได้ครับ อย่างประธานาธิบดีบุชเข้าไปกับภรรยาสองคน นั่งดูแถบนั้นปรากฏว่าบอดี้การ์ดก็ไม่ให้เข้าครับ บอดี้การ์ดต้องอยู่ข้างนอก เข้าไปตรงนั้นไม่ได้ เฉพาะแขกที่รับเชิญ สอง สอง สอง แล้วก็ตามนั้นเลย ประธานาธิบดีบุชนั่ง คุณลอรา บุช นั่ง สมเด็จพระนโรดมสีหมุนีนั่ง นายกรัฐมนตรีปูตินนั่ง แต่ละคนวีวีไอพีทั้งนั้นเลย ท่านอยากจะรู้ว่าผมนั่งกับใคร ผมนั่งกับท่านนายกรัฐมนตรีเต็ง เส็ง แห่งพม่า ถูกอัธยาศัยกันนะครับ เขารู้เลยจับนั่งคู่กัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั่งทางโน้น รองนายกรัฐมนตรีสหัส บัณฑิตกุล ก็ไปรู้จักกัน ก็ไปดูที่สิงคโปร์ ก็เรียบร้อยดีครับ ตั้ง 3 ชั่วโมง คนที่ไปดูตั้ง 6 ชั่วโมงประชาชนคนดู สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ล่วงหน้าชั่วโมงครึ่งครับ ที่เรียกเจ้านายเสด็จฯ ท่านทรงทักทายหมด ผมก็เดินตามเสด็จฯ ห่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ผมก็ต้องออกมา กลับมา ก่อนจะออกจากโรงแรมเขาบอกกินข้าวเสียก่อน เดี๋ยวไปตั้งหลายชั่วโมง เขาทำโต๊ะกิน ๆ พอเข้าไปข้างบน ข้างหลังที่เข้าไปนั่ง ตั้งโต๊ะบุฟเฟ่ต์ 1 ล็อก 2 ล็อก ๆ ละ 10 อย่าง ข้าง ๆ มีน้ำ ข้างล่างมีห้องน้ำ เรียกว่ายอด ไปถึงก็ได้แต่เดินดู เพราะกินไปแล้ว ทุกคนกิน ฝรั่งมังค่ากินกันหมด แล้วก็มีโต๊ะข้างล่างนั่ง กินไปคุยไปทานไปทักทายกันไป วีวีไอพี ทางนี้ก็เข้าช่อง 303 เข้าไปไม่ต้องมีใครนำละครับ เข้าไป 303 พอลงไปปั๊บก็แถว 13 อยู่ที่พื้น ของผม 19-20 ก็เข้าไปขอนั่ง ไม่ต้องมีใครพา ทุกอย่างเรียบร้อยหมด
แล้วไฮเทคเป็นอย่างไร ปิดบังไว้ ของเขาดีสมควรจะปิดครับ แปลอักษรแทนที่จะอยู่บนอัฒจันทร์ ลงไปอยู่กับพื้น นั่นละที่ตีตุ้ง ๆ ๆ นั่นละครับ แบตเตอรี่อยู่ข้างใต้ ไฟอิเล็กทรอนิกส์ข้างบน แปลอักษรให้คนอัฒจันทร์แสนคน ดูลงไปข้างล่าง อัฒจันทร์เป็น 3 ชั้น 3 เชิง นั่นละครับ รังนกหุ้มอยู่ข้างนอก แต่ความจริงข้างในเขาแข็งแรง ไม่ได้เป็นรังนกจริง ๆ ละครับ กินข้าวกลางวันนั่นครับ ไก๋หล่านผัดน้ำมัน หอยวางไปข้างล่าง เขาเอาเส้นเหมือนกับวุ้นเส้นถักมาเหมือนรังนก เปิดข้างบนครอบมาบนไก๋หล่าน เวลากิน ตัวรังนกก็กินได้นะครับ บอกถ้าหากว่าคนไทยเขาบอกเวลาไปเมืองจีน ต้องเอารังนกไปฝากคนจีน เขาชอบ ผมไปก็คือคิดเอาไว้ แต่ไม่ได้ทำ ความจริงไม่ทำไม่ได้ คือแพง ความจริงผมซื้อเองก็ได้ คือหลิว ฉี เขาเป็นประธานโอลิมปิก เขากับแฟนรู้จักกันมา 8 ปี เจอกันแล้ว 5-6 หนก็คุยกันเสมอ เขาให้รังนกผมเป็นแผ่นแท่งแล้วก็เป็นถักเป็นเงิน แบบสแตนเลส เป็นรังนก ผมควรจะต้องมีรังนกสักกล่องหนึ่ง บอกนี่ถ้ารังนกนี้กินไม่ได้ แต่อันโน้นกินได้ ได้แต่คิดครับ กล่องหนึ่งเขาบอกดี ๆ แสนหนึ่งครับ เงินเดือน ๆ หนึ่งนายกฯ ก็คงเอาไปให้เขาได้ แต่มันฉุกเฉินไป
จะเล่าให้ฟังไว้เท่านั้นครับว่า เขาเชิญไป เขาถวายพระกระยาหารต่าง ๆ นายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดี โต๊ะต่าง ๆ โต๊ะหนึ่งโต๊ะละ 28 คน ทั้งหมด 9 โต๊ะ ๆ ละ 28 คน เขาจะเอาประธานาธิบดีกับเจ้านายอยู่โต๊ะ หู จิ่นเทา ผมนั่งคุยกับนายกรัฐมนตรีเซิร์ฟ ข้างล่างนี้ก็นายกรัฐมนตรีจีน และนางอินทิรา คานธี เรารู้จักเขา เขารู้จักเราไม่รู้จัก เราอาจจะไม่ป๊อปปูล่าเท่าคนอื่น วันเปิดงานปรากฏว่าจอร์เจีย ยืนกับ รัสเซีย ประธานาธิบดีปูตินท่านย้ายมาเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านให้ลูกน้องท่านขึ้นไปเป็นประธานาธิบดี หนุ่มเลยครับ แล้วเขาก็ฟัดกัน ก็จะทำอย่างไร ก็ได้เอกราชไป จอร์เจียไป แล้วเขาก็มีตรงนี้เป็นเขต ทางนั้นก็ขึ้นมา รัสเซียถือหางทางนี้ ฟัดกันเลยครับ ยิงกันเป็นสงครามยิง ยิงกันจริง ๆ ยิงกันตูมตาม ๆ ฉลองเลยครับ ไม่รู้จะทำอย่างไรละครับ มีสงครามจริง และมีสงครามกีฬา ซึ่งเขาก็ต่อสู้กัน เราก็นึกว่าเหรียญแรกเราจะได้ จีนก็คว้าเอาไปครับ เมื่อวานนี้ลงมา ผมก็ไปเฝ้าฯ เสร็จแล้วทางนี้ก็บอกว่า ข่าวเข้ามาว่ามวยไทยเราชนะเกาหลี ค่อยยังชั่ว แต่ต่อไปนี้ไม่นั่นละครับ ผมก็บอกประธานาธิบดีเวิน เจียเป่า ผมกับเขาให้คุย แล้วก็คุยกับประธานสภา เหมือนกับประธานวุฒิฯ ประธานวุฒิฯ ท่านเป็นลูกพี่ของหลิว ฉี เวลาผมไปพบกับหลิว ฉี เขาจะต้องให้ผมได้เข้าเยี่ยมคำนับกับลูกพี่เขาคนนี้ และผมก็ถามว่าท่านนี้หายไปไหน ท่านลูกพี่คนนี้น่าตาเหมือนเพื่อนผมชื่อคุณสุบิน สินชัย คุณสุบินเป็นชาวใต้ เป็นเพื่อนเรียน ผมบอกใคร ๆ บอกนี่คุณสุบินหน้าอูม ๆ หน่อย คนนี้เลยหายไปไหน ปรากฏไปเป็นประธานวุฒิฯ ตำแหน่งอยู่ใน Police Bereau เขาให้ไปเยี่ยม 15 นาที คุยกัน 25 นาที ท่านบอกว่าผมเป็นตลกเฮ่งอี๊ เคยเจอท่าน 4 หนมาแล้ว ตอนนี้ท่านมานั่งอยู่ตรงนี้ ก็คุยกันครับ ทั้งหมดก็ได้คุยกับท่านเวิน เจียเป่า คุยกัน 20 นาที เขาให้ 15 นาที ติดพันนี่ทำอย่างไรครับ จนกระทั่งโค้ชสั่ง 20 เขาให้คุย 15 แต่คุย 25 เพราะเป็นเล่าเพ่งอิ้ว
ก็เล่าให้ฟังไว้เท่านั้นครับ เขาทำเขาเสร็จเรียบร้อยหมดทุกคน ไม่มีอะไรกระดิกเลยครับทุกอย่าง เขาไม่บังคับขู่เข็ญ ถนนหนทางเป็นอย่างไร รถเยอะครับ แต่เขาทำอย่างไร ถนนทั้งหมด วงแหวน 6 วง ทุกถนนต่าง ๆ เขามีโอลิมปิก เลน เรามีบัสเลน รู้จักบัสเลนไหมครับ นี่ 5 ห่วงติดไว้ ลูกศรชี้ เขาเคารพช่อง ของเราบัสเลนไม่เคารพ นี่โอลิมปิก เลน นะครับ พอขบวนออกมาปั๊บ เข้าโอลิมปิก เลน ก็วิ่งกันฉวัดเฉวียงไป ทุกอันจะมีโอลิมปิก เลน ไว้หมดเลย ก็ไม่เป็นปัญหา เข้าได้ตรงเวลาออกตรงเวลา ผมตอนที่คบเพลิงเขากำลังวิ่งบนอวกาศ ผมก็ขออนุญาตลาท่านเต็ง เส็ง นายกฯ พม่า บอกผมไม่อยากดูยืดเยื้อ ออกมายืนตรงประตู พอเขาจุดไฟ พรึบขึ้นมาปั๊บ ผมก็ลา ถอยออกมา ก็ได้ออกมา ท่านประธานาธิบดีจอร์จ บุช ท่าน Security ท่านออกไปก่อนผม ถึงกระนั้นก็สองยามครึ่ง ทุกอย่างเรียบร้อยครับ เล่าให้ฟังถึงบรรยากาศ งานการต่าง ๆ
ทั้งหมดนี้เป็นงานที่ต้องชื่นชมเขา แปลว่าอย่างไร แปลว่าอังกฤษ คุณโทนี่ แบลร์ เป็นคนดูแลเรื่องนี้นะครับ คุณโทนี่ แบลร์ น่าจะไป คุณซาร์โคซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ต่อต้านว่ากล่าวเรื่องโน้นเรื่องนี้ เอ้าไปครับ แต่ไม่ค่อยดังเท่าไร ผมดูตอนที่เขาจับมือกับท่านประธานาธิบดีหู จินเทา ใคร ๆ ก็ไปครับ เพราะกีฬาครับ และเขาไม่มีการเมือง เขาไม่พูดการเมืองเลยครับ ไม่มีใครไปแอะนั่นเลย วันที่ 8 สิงหาคม วันเกิดอาเซียน ท่านนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ท่านยังจำได้ วันนี้บอกแสดงความยินดีกับอาเซียน นี่ประธานอาเซียนคนใหม่ วันที่ 8 เราเปิดของเราวันดี ก็บอกว่าเป็นวันเกิดอาเซียน ท่านจำได้นะท่านมาอวยพร ของเราทำอย่างไรครับ เราวางศิลาฤกษ์สถานทูตใหม่ สร้างออกแบบใหม่ทุกอย่างหมด สถานทูตเก่าธรรมดาแต่ก่อนเป็นบ้านทูต แล้วก็ไปอยู่ปรับปรุงเป็นสถานทูต บัดนี้สถานทูตอยู่ตรงกันข้าม เยื้องนิดเดียว สถานทูตใหม่อยู่ตรงนั้น บ้านทูตก็จะอยู่ที่เก่า ก็เรียบร้อยดี มีคนถามแล้วทำกับข้าว ทำข้าวหน้าไก่ ทำไมต้องหน้าไก่ เขาเป็นมุสลิม เป็นมุสลิมหลายคน นักกีฬา 51 โค้ชด้วยทั้งหมดก็เกือบ 100 และผู้คนมา ก็มาสถานทูตกันเต็ม ผมทำไก่ 10 กิโลฯ นะ ข้าวหน้าไก่แบบสมัคร ทุกอย่างเรียบร้อยดี และผมเข้าเฝ้าฯ ข้างใน ออกมาถามเรียบร้อยครับ อุตส่าห์บอกว่าตักใส่ข้าวราดข้าวไปกินที่บ้านด้วย บอกอร่อย ก็เรียบร้อยดีทุกอย่าง ทุกประการ ทุกคนชื่นชม ไม่ใช่เรื่องกับข้าวผมนะครับ ทั้งบ้านทั้งเมืองเขานั่น
ผมบอกท่านเวิน เจียเป่า บอกบ้านผมหลังจากฟุตบอลยุโรปเลิกเสร็จแล้ว ไม่ได้คุยอะไรล่ะ โอลิมปิกทั้งนั้น โอลิมปิกกันทั้งเดือนมานี่ และก็อวยพรกับท่านบอกว่าแสดงความยินดีบอกในที่สุดก็สำเร็จ แปลอักษรบนพื้น ไม่น่าเชื่อเลย 2,800 คน ถ้าสนามเขาเปิดได้ อย่างกับท้องเรือรบเลย เดี๋ยวขึ้นมาลอย แล้วม้วนกระดาษ 2 ม้วนน่ะ เล่าเรื่องต่าง ๆ ผู้หญิงนางงามทั้งหลายแทบจะเอาเชือกขึงความสูง เท่ากันหมดเลยครับ มีแต่เด็กผู้หญิงนุ่งกระโปรงสั้นคาดเอวแดง ท่านก็ทำคึกครื้นตามจังหวะ หลายชั่วโมงเป็นลมหามมา 1 คน นอกนั้นเดินขาเตะไปเตะมา ตอนจบก็หมดแรงขา เรียบร้อยดี น่าชื่นชมกับเขาครับ งานเขาสำเร็จ ของเราจะเท่าไร ไม่เท่าไร กีฬาโอลิมปิก ประเทศไทยเรา เมื่อก่อนนี้ ตอนที่ยังไม่ qualify เขาส่งไปแข่งกับเขา ไม่เคยได้เหรียญเลย เราพูดโอลิมปิกก็บอก โอลิมปิกแพ้ชนะไม่สำคัญ สำคัญให้ได้ร่วม สำนวนนะครับให้ได้ร่วม ต่อมาพเยาว์ พูนธรัตน์ ได้เหรียญทองแดงนักมวยมา ต่อมาได้ 1 ต่อมาได้ 2 ต่อมาได้ 3 ต่อไปนี้ไม่พูด ไม่สำคัญที่ได้ร่วมละครับ สำคัญจะได้กี่เหรียญ
แต่ถึงบัดนี้ก็ยังต้องพูดครับ เรายังต้องพูดว่า การได้ไปร่วมกันนั้น ผมไม่คิดว่าบรรยากาศฟุตบอลโลกที่เขาเคยมีกัน เขาจะนั่นอย่างไร แต่โอลิมปิกเป็นยอดของมหกรรมกีฬาครับ งานพิธีการต่าง ๆ ผมก็ไม่เคยได้รับชวนไป ไปก็จังหวะพอดี ก็ไปเจอที่เอเชียของเราทำ พิธีการของเราทำ ด้วยการที่คนดูแคลน ๆ ตั้งหลักให้เขาไว้ 3 หลัก เพราะเขาคน 1,300 ล้าน เขาจะต้องจัด สนามกีฬาเป็นอย่างไรครับ จุแสนคน สนามอเมริกาผมดูมาหลายสนามมากมาย อันนี้เขาเจ๋งครับ สร้างเป็นรังนกนี่ และข้างในแข็งแรง อัฒจันทร์ 3 ชั้น บนพื้น จะเอาอะไรมาอวดกันทำได้หมด ผู้คน 2,500-3,000 เปลี่ยนเข้าเปลี่ยนออก ยังกับมดกับปลวก วิ่งเข้าวิ่งออก ดับไฟเปิดไฟ คนดูเขาไม่ได้จ้างมานะครับ เขาแจกให้เขย่า ๆ จังหวะไหนพอเขาปิดไฟปั๊บเขย่าวอบแวบ ๆ ๆ เขียวแดง ๆ รอบสนาม คนดูร่วมด้วย มีโห่มีฮาป่า มีอะไรไหม ไม่ครับ นักกีฬาจีนเข้าเสียงดังหน่อย ดีใจหน่อย พอดังแล้วเขาก็หยุด ไม่มีการอะไรอย่างไรเลย แต่ก่อนขาเข้าต้องมีดนตรีแล้วเดินมาร์ชชิ่งเข้า เดี๋ยวนี้เปลี่ยน ขาเข้าเหมือนขาออก คือขาตอนเลิกเดินกันตามสบาย นักกีฬากลับบ้านไปแล้วบ้าง คนแพ้บ้าง หงอยเหงาบ้างอะไรต่าง ๆ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ กองทัพนักกีฬาเขาเข้ามาก็นั่น เข้ามาตั้งแต่แรก พม่าไป 15 คน ถามท่านนายกฯ บอกว่าแล้วพม่าแข่งอะไร เรือแคนูคายัก เขาก็มีดีของเขานะ ท่านประธานยังรู้ว่าไทยเก่งตรงไหน ไทยหวังจากยกน้ำหนัก ไทยหวังจากยิงปืน ไทยหวังจากอะไรต่าง ๆ ท่านรู้หมด แสดงว่าเขาตามข่าวกันหมดครับ
งานทั้งหมดก็เป็นอย่างนี้ละครับ งานนี้นะครับ ใครที่นั่งดูโทรทัศน์ นายกรัฐมนตรีเอาอีกแล้วไม่ยอมพูดเรื่องการบ้านการเมือง ไม่ต้องพูดละครับ การบ้านการเมืองสถานการณ์มันจะปรับสภาพตัวของมัน โดยนายกรัฐมนตรีไม่ต้องไปพูดไม่ต้องไปย้ำ แต่งานที่ได้บอกไว้นั้นหนังสือพิมพ์จะเขียนหนังสือวิพากษ์วิจารณ์ว่าผมไม่ได้ทำอย่างที่พูด ผมพูดครับแต่ว่าไม่ได้รุนแรงอย่างที่ท่านมีความหมาย แต่ผมกำลังทำอย่างที่ผมได้กราบบังคมทูลไว้ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้การเมืองจะเข้าที่เข้าทางอย่างไร ปล่อยไปตามสภาพ ถูกต้องละครับ จะมีแก๊งเท่าไร ๆ ๆ แก๊งออฟไฟร์ ผมยังไม่เอ่ยถึงละ ต้องถึงเอ่ยถึงแก๊งออฟโฟร์ เพราะฉะนั้น เรื่องต่าง ๆ จะจบลงด้วยสถานะ ด้วยความเป็นอยู่ของมัน ไม่มีปัญหาละครับ นักข่าวก็คอยตามไล่ คือจะจุดชนวนให้ลุกอยู่เรื่อย ไม่ครับ พรุ่งนี้จะเป็นวันสุกดิบ วันที่ 12 สิงหาคมจะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เรามีงานถวาย 3 วัน และจะมีตลอดอีก 9 วันของรัชกาลที่ 5 จะมี 1 วัน วันถวายพระเพลิง วันที่ 15 พฤศจิกายน ถวายพระเพลิง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนครธิวาสราชนครินทร์ เสร็จแล้วจะมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานธง ทรงรับธงคืนฉลอง ก็เอาสิครับ เราก็ทำอย่างนี้ละครับ และงานการเมือง ผมก็จะทำหน้าที่ของผม ครม.ก็ปรับแล้ว ทุกอย่างจะเดินหน้าไป ไม่ต้องตอบคำถาม วันนี้ขออภัยสำหรับท่านที่ถามมาเพราะจะไม่คุยการเมือง ถือว่าเป็นวันมงคลในวันพรุ่งนี้ต่อไป และจะต้องถือว่าได้ขอพระราชทานไว้แล้วว่า ต้องอาศัยพระบารมีที่จะทำให้คนไทยหันหน้าเข้าหากัน จะได้ไม่ได้ ก็อยู่ที่ในหัวใจของท่านทั้งหลายซึ่งเป็นพสกนิกร วันนี้เวลาหมดนะครับ วันนี้สี่โมงเย็นก็มีพิธีเปิดท่านที่ว่างก็เชิญไปร่วมพิธี และก็งาน 3 วัน วันข้างหน้าต่อไปก็ยังจะได้มาบอกมาเล่า แล้วก็อย่าลืมนะครับ ถ้าใครได้รับไปแล้วฟังเพลงแม่แห่งแผ่นดิน เพลงนี้ต่อไปจะดังเท่ากับเพลงพ่อแห่งแผ่นดิน ที่เคยดังมาแล้ว เวลาหมดแล้วนะครับ สวัสดีครับ อาทิตย์หน้าพบกันใหม่ครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--