นายฟูคูจิโร่ ยามาเบะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในโอกาสเข้าดำรงตำแหน่ง พร้อมทั้ง เสนอข้อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมและการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น
วันนี้ เวลา 15.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายฟูคูจิโร่ ยามาเบะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้าดำรงตำแหน่ง มีการสนทนาสรุปดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับนายยามาเบะ พร้อมแสดงความยินดีต่อนายยามาเบะในโอกาสดำรงตำแหน่ง ประธานหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ คนใหม่ จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้แจ้งให้ประธานหอการค้าฯ ทราบถึงกำหนดการเยือนประเทศญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีในวันที่ 3-4 กันยายน 2551 ที่จะถึงนี้ โดยการเยือนในครั้งนี้เป็นการเยือนทั้งในฐานะนายกรัฐมนตรี และ ประธานอาเซียน ซึ่งจะมีการหารือในประเด็นทวิภาคี และระดับภูมิภาค โดยมีประเด็นหลักคือการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น และความร่วมมือด้านอื่น ๆ
ในโอกาสนี้นายยามาเบะได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีพร้อมทั้งแนะนำคณะกรรมการหอการค้า ชุดปัจจุบัน รวมทั้งแนะนำบทบาทการทำงานของหอการค้าญี่ปุ่นฯ โดยในปัจจุบันหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ ถือได้ว่าเป็นหอการค้าญ่ปุ่นในต่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากนครเซี่ยงไฮ้ โดยมีสมาชิกกว่า 1,289 ราย (ข้อมูลล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2008) ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย และมีบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยกว่า 7,000 แห่ง
ในระหว่างการสนทนา ประธานหอการค้าญี่ปุ่นฯ ได้เสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลไทย 3 ประการ ได้แก่ ข้อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมและการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น , ข้อเรียกร้องในฐานะที่ ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน และ ข้อสรุปและทางออกของประเด็นทางการค้าระหว่างสองประเทศที่ยังไม่ยุติ ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้รับทราบข้อเรียกร้องดังกล่าวเพื่อนำไปพิจารณาต่อไป
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีเสนอให้สภาหอการค้าญี่ปุ่นฯ ส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคเอกชนของญี่ปุ่นมี การค้นคว้าและวิจัยเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สนับสนุนพลังงาน E85 เพื่อจะช่วยเป็นอีกช่องทางใน การสนับสนุนการพัฒนาพลังงานดังกล่าว และ เป็นทางออกต่อปัญหาพลังงานของโลกในอนาคต
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 15.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายฟูคูจิโร่ ยามาเบะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้าดำรงตำแหน่ง มีการสนทนาสรุปดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับนายยามาเบะ พร้อมแสดงความยินดีต่อนายยามาเบะในโอกาสดำรงตำแหน่ง ประธานหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ คนใหม่ จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้แจ้งให้ประธานหอการค้าฯ ทราบถึงกำหนดการเยือนประเทศญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีในวันที่ 3-4 กันยายน 2551 ที่จะถึงนี้ โดยการเยือนในครั้งนี้เป็นการเยือนทั้งในฐานะนายกรัฐมนตรี และ ประธานอาเซียน ซึ่งจะมีการหารือในประเด็นทวิภาคี และระดับภูมิภาค โดยมีประเด็นหลักคือการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่น และความร่วมมือด้านอื่น ๆ
ในโอกาสนี้นายยามาเบะได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีพร้อมทั้งแนะนำคณะกรรมการหอการค้า ชุดปัจจุบัน รวมทั้งแนะนำบทบาทการทำงานของหอการค้าญี่ปุ่นฯ โดยในปัจจุบันหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ ถือได้ว่าเป็นหอการค้าญ่ปุ่นในต่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากนครเซี่ยงไฮ้ โดยมีสมาชิกกว่า 1,289 ราย (ข้อมูลล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2008) ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย และมีบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยกว่า 7,000 แห่ง
ในระหว่างการสนทนา ประธานหอการค้าญี่ปุ่นฯ ได้เสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลไทย 3 ประการ ได้แก่ ข้อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมและการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น , ข้อเรียกร้องในฐานะที่ ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียน และ ข้อสรุปและทางออกของประเด็นทางการค้าระหว่างสองประเทศที่ยังไม่ยุติ ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้รับทราบข้อเรียกร้องดังกล่าวเพื่อนำไปพิจารณาต่อไป
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีเสนอให้สภาหอการค้าญี่ปุ่นฯ ส่งเสริมสนับสนุนให้ภาคเอกชนของญี่ปุ่นมี การค้นคว้าและวิจัยเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สนับสนุนพลังงาน E85 เพื่อจะช่วยเป็นอีกช่องทางใน การสนับสนุนการพัฒนาพลังงานดังกล่าว และ เป็นทางออกต่อปัญหาพลังงานของโลกในอนาคต
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--