นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวการเตรียมจัดงานในวาระสำคัญของประเทศ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ NBT
ท่านผู้ชมที่เคารพ ผมขออนุญาตได้รายงานเพิ่มเติมหน่อยนะครับ ผมออกรายการสนทนาประสาสมัครเมื่อวันอาทิตย์ (3 สิงหาคม 2551) ก็พูดจากราว ๆ ไปเฉย ๆ ไม่มีรายละเอียด ขออนุญาตใช้เวลาตรงนี้ไม่กี่นาทีครับอธิบายรายละเอียดของงานที่จะทำ คือเรามีงาน 5 งานใหญ่ ๆ ที่จะทำตั้งแต่บัดนี้ถึงปลายปี จะนับว่าเป็นของขวัญก็ได้ จะนับเป็นเรื่องอะไรอย่างไรก็สุดแท้แต่เถอะครับ วันที่ 10 สิงหาคม ถึงวันที่ 12 สิงหาคมนี้ เราจะทำงานถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะมีงานออกร้านออกบูธอะไรต่าง ๆ แต่อยู่ในเต็นท์ปรับอากาศ อยู่รอบลานพระราชวังดุสิต แล้วโปรดเกล้าฯ ที่จะให้เชิญผู้ที่จะไปร่วมงานเข้าไปที่พระที่นั่งอนันตสมาคม มีประตูเข้าไป ถ้ามีร่มติดไปด้วยก็ดี ถ้ามีฝนจะได้กัน มีแดดจะได้กัน เข้าไปพระที่นั่งอนันตสมาคมก็แต่งตัวเรียบร้อยนะครับ เข้าไปชมจะไม่เก็บค่าอะไรทั้งสิ้นครับ เข้าไปเถอะครับเป็นขวัญตาขวัญใจขวัญชีวิตของเรา ทั้งชั้นบนชั้นล่าง จะซื้อของกลับหรือไม่ไม่สำคัญ แต่ขอให้ไปดูว่าศิลปะข้างบนทั้งหมดนี้ยอดฝีมือจากยุโรปมาทำ แต่ของที่วางโชว์อยู่ในพระที่นั่งหลังนี้เป็นฝีมือของลูกชาวไร่ชาวนา ซึ่งสั่งสมฝีมือกัน บางชิ้นทำคนเดียว บางชิ้นทำ 8 คน บางชิ้นทำ 230 กว่าคน ใช้เวลา 1 ปีก็มี เวลา 2 ปีก็มี ทั้งหมดนะครับมีรายละเอียดอยากขอเชิญ เพราะฉะนั้นของขวัญชิ้นแรกคือทำถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ วันที่ 10 วันที่ 11 วันที่ 12 ขอเชิญมาร่วมงานครับ สินค้าต่าง ๆ ของมูลนิธิศิลปาชีพพิเศษนั้นจะเอามาขายในราคาที่เรียกว่าตัดราคา คือขายให้ได้เต็มที่ที่สุดที่จะทำได้ แล้วก็มีซุ้มมีที่อาหารการกินไปแสดงนิดหน่อย คือมาแล้วก็ไม่อดอยากหรอกครับ
ถัดไปงานที่สอง จะไปตกงาน 116 วัน จากวันแม่ถึงวันพ่อ ที่คิดอย่างนี้ก็คือว่า ก็พูดกันตรงไปตรงมาผู้คนแบ่งแยกกันในบ้านเมือง เราไม่คิดจะแยกหรอกครับ แล้วทางพวกผมที่เป็นรัฐบาลก็แยกไม่ได้ครับ จะต้องทำให้รวมกัน จะรวมกันได้ขนาดไหนอย่างไรจะทูลเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระราชโอรส วันแม่ถึงวันพ่อ 116 ก็เชิญพระราชโอรสท่าน พระองค์ท่านมา ก็จะเสด็จฯ มาที่ทำเนียบรัฐบาล กำลังกำหนดวันอยู่ มาพระราชทานธง 76 จังหวัด พระราชธงออกไป ผู้ว่าฯ มาหมดครับ รับธงพระราชทาน เขาจะไปวิ่งกัน 116 วัน มีสัญญากันว่าวันที่ 3 ธันวาคม จะกลับมาที่ลานพระราชวังดุสิต เอาธงมาถวายคืนสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ กิจกรรม 116 วันนี้แต่ละจังหวัดจะจัดของตัวเอง จะจัดวิ่งไปแต่ละอำเภอ จะส่งอะไรอย่างไรเป็นงานในรายละเอียด แปลว่าแสดงความผูกพันว่าชีวิตของคนไทยนั้น เราเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้คนที่คิดแตกแยกกันก็คิดว่าสิ่งที่เราจะทำนี้จะช่วยให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมกัน นี่เป็นงานที่สองครับ
งานที่สามจะมีตั้งแต่วันที่ 14 - 23 ตุลาคม 2551 พระราชอนุสาวรีย์เรียกว่า 100 ปีพระราชอนุสาวรีย์พระพุทธเจ้าหลวง ใคร ๆ ก็นึกว่า 23 ตุลาคม ก็นับว่าสวรรคต 2453 แต่พระราชอนุสาวรีย์เริ่มต้น 2451 ครับ ประชาชนทำถวายครับ เปิดอนุสาวรีย์วันที่ 10 พฤศจิกายน แต่เราจะใช้วาระพระองค์ท่านคือวันที่วางพวงมาลากันนี้ ก็ 9 วันครับ ถ้าเรียกภาษาฝรั่งก็ The EXPO ครับ Exposition แปลว่าเป็นการแสดง ไม่ใช่การสมโภชไม่มีมหรสพ แต่ว่าจะมีการแสดงของทุกหน่วยราชการ ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินยุโรป 2 หน ครั้งแรก 2440 ครั้งหลัง 2450 ทุกครั้งที่เสด็จฯ ทั้งสองครั้งเสด็จฯ ก็เอาความเจริญกลับมา ยกตัวอย่างยุโรปเขามีไปรษณีย์กันมา ของไทยเรามีหลังยุโรป 9 ปีครับ ปีนี้ไทยฉลองไปรษณีย์ไทย 125 ปี ยุโรปฉลอง 134 นอกนั้นยุโรปมีรถราง 3 ปี ไทยมีรถราง รถยนต์ โรงไฟฟ้า 3 ปีไทยมีโรงไฟฟ้า เขามีตู้เย็นใช้เรามีตู้เย็นเข้ามา เขามีรถไฟเรามีรถไฟ ทั้งหมดนี้โทรเลข โทรศัพท์ แสตมป์ ไปรษณียากร น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ ทั้งหมด พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเอามาเริ่มต้นครับ
เพราะฉะนั้นหน่วยงานเขาจะมาแสดงให้ดูว่า น้ำประปาเมื่อ 100 ปีก่อนเป็นอย่างไร แท็งก์มันอยู่ที่ไหนเขากรองอย่างไรเขาทำอย่างไร จนกระทั่งน้ำประปาปัจจุบันที่ว่าดื่มได้นั้นเขาทำกันอย่างไร เห็นไหมครับ ไปรษณีย์ดวงแรกดวงนี้มาดู แล้วดวงที่ 125 ปีหน้าตาเป็นอย่างไร เห็นไหมครับ ไปรษณีย์เอิกเกริกที่สุดเป็นการแสดงที่น่าชื่นชมที่สุด เขาจะขายแสตมป์ใหม่ แสตมป์เก่า ขายซองวันนั้น ทุกคนมีงานใหญ่ทั้งนั้นครับ ไฟฟ้าเริ่มต้นไฟฟ้ามาเมืองไทยโรงไฟฟ้าแรกหน้าตาเป็นอย่างไร ต่อมาอย่างไร ไฟฟ้าสมัยสงครามเป็นอย่างไร ไฟฟ้าปัจจุบันเป็นอย่างไร ปิดตรงนี้เปิดตรงโน้น กดจึ๊ง ที่เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนภูมิพล ออกมาปั๊บไฟฟ้าออกมา 32 จังหวัด เขาเรียกว่า Grid ภาษาฝรั่ง คือจะทำให้เห็นว่าเขาควบคุมได้ เขาปิดตรงโน้นเขาเปิดตรงนี้ ตรงนี้ใช้แก๊ส ตรงนี้ใช้น้ำมันเตา ตรงนี้ใช้น้ำมันดีเซล ตรงนี้ใช้ไฮโดรคือน้ำ เขาจะแสดงให้ดูว่า 100 ปีนั้นเราได้มีความก้าวหน้าทางไฟฟ้าอย่างไร ทั้งหมดจะมีการแสดงทั้งในพระราชวังดุสิต ในสวนอัมพร เป็นการแสดง 9 วัน 9 คืนติดต่อกัน เป็นการสมโภช 100 ปีอนุสาวรีย์พระพุทธเจ้าหลวง
ถัดไปจะมีวันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 วันนี้คืองานที่ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ก็หมายความว่าจะต้องเลือกทำให้คนทั้งประเทศหยุดนิ่งใน 1 เวลาที่จะทำ ส่งเสด็จท่านสู่สรวงสวรรค์ วันพระราชทานเพลิงพระศพ ถวายพระเพลิง จะเรียกอย่างไรก็สุดแท้แต่ครับ ในกรุงเทพฯ จะมี ทั่วทุกจังหวัดจะมี ก็จะเลือกระยะเวลา เขาจะให้ค่ำนิดหนึ่ง พอตอนนั้นมืดเร็วแล้วครับ 18.00 น. ก็จุดเทียนส่งเสด็จฯ ทำกันพร้อมทั้งประเทศ จะหยุดนิ่ง 1 นาทีทำพร้อมกัน วิทยุก็จะนั่นโทรทัศน์จัดการทำให้ แปลว่าถวายสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ท่านมากัน 5 พระองค์นะครับ สมเด็จพระราชบิดา สมเด็จพระราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน มากัน 5 พระองค์ครับ สุดท้ายกำลังนี้ก็เหลือ 2 พระองค์ ก็เสด็จสู่สวรรคาลัย 1 พระองค์ เพราะฉะนั้นธรรมเนียมไทยครับ เราทำก็เพื่อจะนึกถึงพระองค์ที่ยังทรงอยู่ ฉะนั้นพร้อมใจกันทั่วประเทศ วันที่จะถวายพระเพลิงก็จะจุดเทียนกันทั้งประเทศ ส่งดวงพระวิญญาณสู่สวรรคาลัย ก็เป็นการรวมใจถึงเจ้านายที่คนไทยรักและระลึกถึง
ถัดไปจะถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2551 คือวันที่ 3 ธันวาคมจะมีงานก่อน แล้วมารวมธงกันเสร็จ วันที่ 5 จะเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว งานใหญ่เอิกเกริก ลองดูภาพที่พิธีกรมาให้ดูก็แล้วกัน
จะมีงานผูกพันกันอย่างนี้ครับ ร้อยเรียงกันไปไว้ เพราะฉะนั้นก็ขอเรียนให้ทราบไว้ ในโทรทัศน์ไม่ได้พูดถึงขนาดนี้ครับ พูดรวดเร็วไปหน่อย ก็ถามมาละครับว่าไหน ๆ คุณสมัครฯ ว่าอย่างไรบ้าง ผมก็มาว่าให้ฟังอย่างนี้ครับ อธิบายความให้ฟัง มีงานใหญ่ ๆ 5 ชิ้น วันที่ 10 - 12 สิงหาคม เฉลิมพระชนมพรรษา ใกล้ ๆ อาทิตย์หน้านี้ละครับ ลานพระราชวังดุสิต แล้วก็ทรงโปรดฯ ให้เข้าไปในพระที่นั่งอนันตสมาคมด้วย ขอให้เข้าไปนะครับ ขอให้แต่งกายเรียบร้อยหน่อย ให้เกียรติกับสถานที่ เข้าไปดูแล้วจะนึกภาคภูมิใจในคนไทยว่า คนที่ทำมานี้ไม่ใช่ยอดฝีมือของใคร แต่เป็นลูกหลานชาวนาซึ่งมาฝึกปรือทั้งหมดครับ มีหนังสือมีของที่ระลึกขายอย่างไรก็มาหน่อย
ถัดไปนะครับ 116 วันทุกจังหวัดจะมีรายละเอียดให้ดูทีหลัง 116 วันครับจากวันแม่สู่วันพ่อ แล้วก็ต่อไปก็วันที่ 14 - 23 ตุลาคม 2551 วันพระพุทธเจ้าหลวง 100 ปีอนุเสาวรีย์ พระบรมรูปทรงม้า ถัดไปวันที่ 14 พฤศจิกายน วันถวายพระเพลิง ก็จะส่งดวงพระวิญญาณ ทั้งประเทศจะเงียบสงบ 1 นาทีจะจุดเทียนพร้อมกัน ส่งดวงพระวิญญาณพระองค์ท่าน แล้ววันที่ 3 ธันวาคม จะกลับมาเอาธงมารวมกันที่หน้าลานพระบรมรูปทรงม้า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงรับธงที่ประชาชนวิ่งกันไปทั่ว ทั่วประเทศได้ทำกันมาแล้วกลับมา วันที่ 5 ธันวาคม จะเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาอย่างปกติธรรมดา ก็ขออนุญาตใช้เวลาเพียงเท่านี้ครับ เล่าให้ท่านพี่น้องทั้งหลายซึ่งสอบถามมาว่าพูดอะไรเร็ว ฟังไม่ทัน วันนี้พูดช้านะครับ ขอบพระคุณครับ สวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ท่านผู้ชมที่เคารพ ผมขออนุญาตได้รายงานเพิ่มเติมหน่อยนะครับ ผมออกรายการสนทนาประสาสมัครเมื่อวันอาทิตย์ (3 สิงหาคม 2551) ก็พูดจากราว ๆ ไปเฉย ๆ ไม่มีรายละเอียด ขออนุญาตใช้เวลาตรงนี้ไม่กี่นาทีครับอธิบายรายละเอียดของงานที่จะทำ คือเรามีงาน 5 งานใหญ่ ๆ ที่จะทำตั้งแต่บัดนี้ถึงปลายปี จะนับว่าเป็นของขวัญก็ได้ จะนับเป็นเรื่องอะไรอย่างไรก็สุดแท้แต่เถอะครับ วันที่ 10 สิงหาคม ถึงวันที่ 12 สิงหาคมนี้ เราจะทำงานถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะมีงานออกร้านออกบูธอะไรต่าง ๆ แต่อยู่ในเต็นท์ปรับอากาศ อยู่รอบลานพระราชวังดุสิต แล้วโปรดเกล้าฯ ที่จะให้เชิญผู้ที่จะไปร่วมงานเข้าไปที่พระที่นั่งอนันตสมาคม มีประตูเข้าไป ถ้ามีร่มติดไปด้วยก็ดี ถ้ามีฝนจะได้กัน มีแดดจะได้กัน เข้าไปพระที่นั่งอนันตสมาคมก็แต่งตัวเรียบร้อยนะครับ เข้าไปชมจะไม่เก็บค่าอะไรทั้งสิ้นครับ เข้าไปเถอะครับเป็นขวัญตาขวัญใจขวัญชีวิตของเรา ทั้งชั้นบนชั้นล่าง จะซื้อของกลับหรือไม่ไม่สำคัญ แต่ขอให้ไปดูว่าศิลปะข้างบนทั้งหมดนี้ยอดฝีมือจากยุโรปมาทำ แต่ของที่วางโชว์อยู่ในพระที่นั่งหลังนี้เป็นฝีมือของลูกชาวไร่ชาวนา ซึ่งสั่งสมฝีมือกัน บางชิ้นทำคนเดียว บางชิ้นทำ 8 คน บางชิ้นทำ 230 กว่าคน ใช้เวลา 1 ปีก็มี เวลา 2 ปีก็มี ทั้งหมดนะครับมีรายละเอียดอยากขอเชิญ เพราะฉะนั้นของขวัญชิ้นแรกคือทำถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ วันที่ 10 วันที่ 11 วันที่ 12 ขอเชิญมาร่วมงานครับ สินค้าต่าง ๆ ของมูลนิธิศิลปาชีพพิเศษนั้นจะเอามาขายในราคาที่เรียกว่าตัดราคา คือขายให้ได้เต็มที่ที่สุดที่จะทำได้ แล้วก็มีซุ้มมีที่อาหารการกินไปแสดงนิดหน่อย คือมาแล้วก็ไม่อดอยากหรอกครับ
ถัดไปงานที่สอง จะไปตกงาน 116 วัน จากวันแม่ถึงวันพ่อ ที่คิดอย่างนี้ก็คือว่า ก็พูดกันตรงไปตรงมาผู้คนแบ่งแยกกันในบ้านเมือง เราไม่คิดจะแยกหรอกครับ แล้วทางพวกผมที่เป็นรัฐบาลก็แยกไม่ได้ครับ จะต้องทำให้รวมกัน จะรวมกันได้ขนาดไหนอย่างไรจะทูลเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระราชโอรส วันแม่ถึงวันพ่อ 116 ก็เชิญพระราชโอรสท่าน พระองค์ท่านมา ก็จะเสด็จฯ มาที่ทำเนียบรัฐบาล กำลังกำหนดวันอยู่ มาพระราชทานธง 76 จังหวัด พระราชธงออกไป ผู้ว่าฯ มาหมดครับ รับธงพระราชทาน เขาจะไปวิ่งกัน 116 วัน มีสัญญากันว่าวันที่ 3 ธันวาคม จะกลับมาที่ลานพระราชวังดุสิต เอาธงมาถวายคืนสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ กิจกรรม 116 วันนี้แต่ละจังหวัดจะจัดของตัวเอง จะจัดวิ่งไปแต่ละอำเภอ จะส่งอะไรอย่างไรเป็นงานในรายละเอียด แปลว่าแสดงความผูกพันว่าชีวิตของคนไทยนั้น เราเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้คนที่คิดแตกแยกกันก็คิดว่าสิ่งที่เราจะทำนี้จะช่วยให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมกัน นี่เป็นงานที่สองครับ
งานที่สามจะมีตั้งแต่วันที่ 14 - 23 ตุลาคม 2551 พระราชอนุสาวรีย์เรียกว่า 100 ปีพระราชอนุสาวรีย์พระพุทธเจ้าหลวง ใคร ๆ ก็นึกว่า 23 ตุลาคม ก็นับว่าสวรรคต 2453 แต่พระราชอนุสาวรีย์เริ่มต้น 2451 ครับ ประชาชนทำถวายครับ เปิดอนุสาวรีย์วันที่ 10 พฤศจิกายน แต่เราจะใช้วาระพระองค์ท่านคือวันที่วางพวงมาลากันนี้ ก็ 9 วันครับ ถ้าเรียกภาษาฝรั่งก็ The EXPO ครับ Exposition แปลว่าเป็นการแสดง ไม่ใช่การสมโภชไม่มีมหรสพ แต่ว่าจะมีการแสดงของทุกหน่วยราชการ ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินยุโรป 2 หน ครั้งแรก 2440 ครั้งหลัง 2450 ทุกครั้งที่เสด็จฯ ทั้งสองครั้งเสด็จฯ ก็เอาความเจริญกลับมา ยกตัวอย่างยุโรปเขามีไปรษณีย์กันมา ของไทยเรามีหลังยุโรป 9 ปีครับ ปีนี้ไทยฉลองไปรษณีย์ไทย 125 ปี ยุโรปฉลอง 134 นอกนั้นยุโรปมีรถราง 3 ปี ไทยมีรถราง รถยนต์ โรงไฟฟ้า 3 ปีไทยมีโรงไฟฟ้า เขามีตู้เย็นใช้เรามีตู้เย็นเข้ามา เขามีรถไฟเรามีรถไฟ ทั้งหมดนี้โทรเลข โทรศัพท์ แสตมป์ ไปรษณียากร น้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ ทั้งหมด พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเอามาเริ่มต้นครับ
เพราะฉะนั้นหน่วยงานเขาจะมาแสดงให้ดูว่า น้ำประปาเมื่อ 100 ปีก่อนเป็นอย่างไร แท็งก์มันอยู่ที่ไหนเขากรองอย่างไรเขาทำอย่างไร จนกระทั่งน้ำประปาปัจจุบันที่ว่าดื่มได้นั้นเขาทำกันอย่างไร เห็นไหมครับ ไปรษณีย์ดวงแรกดวงนี้มาดู แล้วดวงที่ 125 ปีหน้าตาเป็นอย่างไร เห็นไหมครับ ไปรษณีย์เอิกเกริกที่สุดเป็นการแสดงที่น่าชื่นชมที่สุด เขาจะขายแสตมป์ใหม่ แสตมป์เก่า ขายซองวันนั้น ทุกคนมีงานใหญ่ทั้งนั้นครับ ไฟฟ้าเริ่มต้นไฟฟ้ามาเมืองไทยโรงไฟฟ้าแรกหน้าตาเป็นอย่างไร ต่อมาอย่างไร ไฟฟ้าสมัยสงครามเป็นอย่างไร ไฟฟ้าปัจจุบันเป็นอย่างไร ปิดตรงนี้เปิดตรงโน้น กดจึ๊ง ที่เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนภูมิพล ออกมาปั๊บไฟฟ้าออกมา 32 จังหวัด เขาเรียกว่า Grid ภาษาฝรั่ง คือจะทำให้เห็นว่าเขาควบคุมได้ เขาปิดตรงโน้นเขาเปิดตรงนี้ ตรงนี้ใช้แก๊ส ตรงนี้ใช้น้ำมันเตา ตรงนี้ใช้น้ำมันดีเซล ตรงนี้ใช้ไฮโดรคือน้ำ เขาจะแสดงให้ดูว่า 100 ปีนั้นเราได้มีความก้าวหน้าทางไฟฟ้าอย่างไร ทั้งหมดจะมีการแสดงทั้งในพระราชวังดุสิต ในสวนอัมพร เป็นการแสดง 9 วัน 9 คืนติดต่อกัน เป็นการสมโภช 100 ปีอนุสาวรีย์พระพุทธเจ้าหลวง
ถัดไปจะมีวันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 วันนี้คืองานที่ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ก็หมายความว่าจะต้องเลือกทำให้คนทั้งประเทศหยุดนิ่งใน 1 เวลาที่จะทำ ส่งเสด็จท่านสู่สรวงสวรรค์ วันพระราชทานเพลิงพระศพ ถวายพระเพลิง จะเรียกอย่างไรก็สุดแท้แต่ครับ ในกรุงเทพฯ จะมี ทั่วทุกจังหวัดจะมี ก็จะเลือกระยะเวลา เขาจะให้ค่ำนิดหนึ่ง พอตอนนั้นมืดเร็วแล้วครับ 18.00 น. ก็จุดเทียนส่งเสด็จฯ ทำกันพร้อมทั้งประเทศ จะหยุดนิ่ง 1 นาทีทำพร้อมกัน วิทยุก็จะนั่นโทรทัศน์จัดการทำให้ แปลว่าถวายสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ท่านมากัน 5 พระองค์นะครับ สมเด็จพระราชบิดา สมเด็จพระราชชนนี สมเด็จพระเจ้าพี่นางฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน มากัน 5 พระองค์ครับ สุดท้ายกำลังนี้ก็เหลือ 2 พระองค์ ก็เสด็จสู่สวรรคาลัย 1 พระองค์ เพราะฉะนั้นธรรมเนียมไทยครับ เราทำก็เพื่อจะนึกถึงพระองค์ที่ยังทรงอยู่ ฉะนั้นพร้อมใจกันทั่วประเทศ วันที่จะถวายพระเพลิงก็จะจุดเทียนกันทั้งประเทศ ส่งดวงพระวิญญาณสู่สวรรคาลัย ก็เป็นการรวมใจถึงเจ้านายที่คนไทยรักและระลึกถึง
ถัดไปจะถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2551 คือวันที่ 3 ธันวาคมจะมีงานก่อน แล้วมารวมธงกันเสร็จ วันที่ 5 จะเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว งานใหญ่เอิกเกริก ลองดูภาพที่พิธีกรมาให้ดูก็แล้วกัน
จะมีงานผูกพันกันอย่างนี้ครับ ร้อยเรียงกันไปไว้ เพราะฉะนั้นก็ขอเรียนให้ทราบไว้ ในโทรทัศน์ไม่ได้พูดถึงขนาดนี้ครับ พูดรวดเร็วไปหน่อย ก็ถามมาละครับว่าไหน ๆ คุณสมัครฯ ว่าอย่างไรบ้าง ผมก็มาว่าให้ฟังอย่างนี้ครับ อธิบายความให้ฟัง มีงานใหญ่ ๆ 5 ชิ้น วันที่ 10 - 12 สิงหาคม เฉลิมพระชนมพรรษา ใกล้ ๆ อาทิตย์หน้านี้ละครับ ลานพระราชวังดุสิต แล้วก็ทรงโปรดฯ ให้เข้าไปในพระที่นั่งอนันตสมาคมด้วย ขอให้เข้าไปนะครับ ขอให้แต่งกายเรียบร้อยหน่อย ให้เกียรติกับสถานที่ เข้าไปดูแล้วจะนึกภาคภูมิใจในคนไทยว่า คนที่ทำมานี้ไม่ใช่ยอดฝีมือของใคร แต่เป็นลูกหลานชาวนาซึ่งมาฝึกปรือทั้งหมดครับ มีหนังสือมีของที่ระลึกขายอย่างไรก็มาหน่อย
ถัดไปนะครับ 116 วันทุกจังหวัดจะมีรายละเอียดให้ดูทีหลัง 116 วันครับจากวันแม่สู่วันพ่อ แล้วก็ต่อไปก็วันที่ 14 - 23 ตุลาคม 2551 วันพระพุทธเจ้าหลวง 100 ปีอนุเสาวรีย์ พระบรมรูปทรงม้า ถัดไปวันที่ 14 พฤศจิกายน วันถวายพระเพลิง ก็จะส่งดวงพระวิญญาณ ทั้งประเทศจะเงียบสงบ 1 นาทีจะจุดเทียนพร้อมกัน ส่งดวงพระวิญญาณพระองค์ท่าน แล้ววันที่ 3 ธันวาคม จะกลับมาเอาธงมารวมกันที่หน้าลานพระบรมรูปทรงม้า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงรับธงที่ประชาชนวิ่งกันไปทั่ว ทั่วประเทศได้ทำกันมาแล้วกลับมา วันที่ 5 ธันวาคม จะเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาอย่างปกติธรรมดา ก็ขออนุญาตใช้เวลาเพียงเท่านี้ครับ เล่าให้ท่านพี่น้องทั้งหลายซึ่งสอบถามมาว่าพูดอะไรเร็ว ฟังไม่ทัน วันนี้พูดช้านะครับ ขอบพระคุณครับ สวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--