แท็ก
พระราชพิธีพระราชทานเพลิง
พิธีพระราชทานเพลิงพระศพ
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
ทำเนียบรัฐบาล
รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดการพระราชพิธีพระราชเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ครั้งที่ 3/2551 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดการพระราชพิธีพระราชเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ครั้งที่ 3/2551 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ภายหลังการประชุม นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แถลงว่า วันนี้ได้ไปตรวจเยี่ยมการก่อสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุ การบูรณปฏิสังขรณ์ ราชรถ และพระยานมาศ ปรากฏมีความก้าวหน้าไปมาก ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ และจะได้ไปตรวจเยี่ยมอีกเป็นระยะ ๆ ต่อไป
สำหรับการประชุมวันนี้มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้ ที่ประชุมรับทราบการฝึกซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ฯ โดยกองทัพซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการจัด ได้กำหนดการฝึกซ้อมริ้วขบวน จำนวน 5 ครั้ง เป็นการฝึกซ้อมย่อย จำนวน 4 ครั้ง และฝึกซ้อมใหญ่ 1 ครั้ง ดังนี้ ซ้อมย่อยครั้งที่ 1 กำหนดในวันพุทธที่ 1 ตุลาคม 2551 เป็นการฝึกของกองบังคับการกองผสม ขบวนทหารนำและทหารตาม สถานที่ฝึกซ้อมกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน ซ้อมย่อยครั้งที่ 2 กำหนดในวันพุธที่ 8 ตุลาคม 2551 เป็นการฝึกซ้อมริ้วขบวนที่ 1 , 2 และ 3 สถานที่ฝึกซ้อมที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน ซ้อมย่อยครั้งที่ 3 กำหนดในวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2551 เป็นการฝึกซ้อมริ้วขบวนที่ 1 สถานที่ฝึกซ้อมในพื้นที่จริง ตั้งแต่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปยังหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซ้อมย่อยครั้งที่ 4 กำหนดในวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2551 เป็นการฝึกซ้อมทุกริ้วขบวน สถานที่ฝึกซ้อมในพื้นที่จริง ตั้งแต่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปยังพระเมรุ ท้องสนามหลวง ซ้อมใหญ่ กำหนดในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2551 เป็นการฝึกซ้อมทุกริ้วขบวนในพื้นที่จริง แต่งกายเหมือนวันจริงทุกประการ ทั้งนี้การฝึกซ้อม ริ้วขบวนดังกล่าว รองนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปตรวจเยี่ยม เพื่อเป็นการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน และเป็นการให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานด้วย
นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบ กำหนดให้มีการยกสัปตปฎลเศวตฉัตรยอดพระเมรุ ภายหลังเสร็จสิ้นการก่อสร้างพระเมรุ โดยจะได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยในการเสด็จพระราชดำเนิน ส่วนจะเป็นวันและเวลาใด สุดแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ และกำหนดให้มีการเชิญผู้ไปร่วมเฝ้าฯ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ ในวันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา 16.30 น. ซึ่งคาดว่าจะเรียนเชิญผู้ไปร่วมเฝ้าฯ ได้ประมาณ 3,000 คน
โดยในส่วนของภาคประชาชนนั้น สามารถไปร่วมถวายดอกไม้จันทน์ได้ตามซุ้มรับดอกไม้จันทน์ซึ่งจัดตั้งไว้รวม 8 ซุ้ม ได้แก่ บริเวณท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือ บริเวณหน้าศาลหลักเมือง บริเวณฝั่งตรงข้ามพระแม่ธรณีบีบมวยผม และบริเวณถนนราชดำเนิน โดยบริเวณใกล้เคียงท้องสนามหลวงจะจัดตั้งหน่วยบริการประชาชนเพื่อให้บริการด้านอาหารและเครื่องดื่มตลอดเวลาของการจัด พระราชพิธีฯ รวมทั้งได้ติดตั้งโทรทัศน์จอ LED ตามจุดต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้ชมการถ่ายทอดสดพระราชพิธีฯ พร้อมกันนี้ได้มีการจัดถวายดอกไม้จันทน์ตามวัดต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตเป็นผู้พิจารณาจัดหาวัดที่เหมาะสม และในส่วนภูมิภาคได้มีการจัดถวายดอกไม้จันทน์ตามวัดต่างๆ ของทุกจังหวัดและทุกอำเภอไว้ด้วย สำหรับดอกไม้จันทน์ที่จะถวายนั้น รัฐบาลได้เตรียมไว้ให้ส่วนหนึ่ง และขอเรียนเชิญผู้มีจิตกุศลได้ร่วมบริจาคดอกไม้จันทน์อีกส่วนหนึ่งด้วย
พร้อมเห็นชอบการจัดนักเรียนเตรียมทหารยืนตามรายทางในขบวนพระอิสริยยศในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ ตามที่ฝ่ายเลขานุการได้รับการประสานงานจากผู้แทนกองงานในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร แจ้งว่า ผู้ที่ยืนตามรายทางให้เป็นนักเรียนเตรียมทหาร โดยกองงานในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะจัดทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ยืนตามรายทางด้วย ทั้งนี้ เพื่อความสวยงาม ส่วนด้านการรักษาความปลอดภัยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามปกติ ดังนั้น จึงเห็นสมควรมอบให้กองทัพไทยจัดนักเรียนเตรียมทหาร เพื่อยืนตามรายทาง ในระหว่างที่มีริ้วขบวนพระอิสริยยศ โดยให้ประสานการปฏิบัติกับกองงานใน พระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรงต่อไป
อีกทั้งที่ประชุมเห็นชอบการจัดแสดงมหรสพสมโภชงานออกพระเมรุ ตามโบราณราชประเพณี ถือว่า เมื่อออกพระเมรุแล้ว จะต้องมีการจัดแสดงมหรสพสมโภช สำหรับการจัดงาน พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ครั้งนี้ กรมศิลปากรได้จัดแสดงมหรสพสมโภชไว้รวม 3 เวที ที่บริเวณท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือ โดยมีการแสดงต่าง ๆ ดังนี้ เวทีกลาง เป็นการแสดงหนังใหญ่และโขนเรื่องรามเกียรติ์ เวทีด้านขวา ฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา เป็นการแสดงหุ่นกระบอกเรื่องพระอภัยมณี หุ่นละครเล็กเรื่องกำเนิดพระคเณศร์ของคณะโจหลุยส์ และละครนอกเรื่องสุวรรณหงส์เสี่ยงว่าว — กุมภณฑ์ถวายม้า เวทีด้านซ้าย ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นการแสดงวงดุริยางค์เยาวชน T.Y.O. (THAILAND YOUTH SYMPHONY ORCHESTRA) การแสดงวงซิมโฟนีออร์เคสตร้าของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การแสดงวงดุริยางค์สากลของกรมศิลปากร NSO (NATIONAL SYMPHONY ORCHESTRA) และการแสดงวงดุริยางค์ผสมพลเรือน ตำรวจ และทหาร
ทั้งนี้การจัดแสดงมหรสพสมโภชจะเริ่มการแสดงตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันที่ 15พฤศจิกายน 2551 และเมื่อถึงเวลา 21.30 น. โดยประมาณ จะพักการแสดงเพื่อเข้าสู่ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ (จริง) ต่อจากนั้นเวลา 23.00 น. โดยประมาณ จะเริ่มการแสดงมหรสพสมโภชต่อถึงวันรุ่งขึ้นของวันที่ 16 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งจะเสร็จสิ้นการแสดงเวลา 03.00 น. โดยประมาณ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดการพระราชพิธีพระราชเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ครั้งที่ 3/2551 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ภายหลังการประชุม นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แถลงว่า วันนี้ได้ไปตรวจเยี่ยมการก่อสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุ การบูรณปฏิสังขรณ์ ราชรถ และพระยานมาศ ปรากฏมีความก้าวหน้าไปมาก ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ และจะได้ไปตรวจเยี่ยมอีกเป็นระยะ ๆ ต่อไป
สำหรับการประชุมวันนี้มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้ ที่ประชุมรับทราบการฝึกซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ฯ โดยกองทัพซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการจัด ได้กำหนดการฝึกซ้อมริ้วขบวน จำนวน 5 ครั้ง เป็นการฝึกซ้อมย่อย จำนวน 4 ครั้ง และฝึกซ้อมใหญ่ 1 ครั้ง ดังนี้ ซ้อมย่อยครั้งที่ 1 กำหนดในวันพุทธที่ 1 ตุลาคม 2551 เป็นการฝึกของกองบังคับการกองผสม ขบวนทหารนำและทหารตาม สถานที่ฝึกซ้อมกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน ซ้อมย่อยครั้งที่ 2 กำหนดในวันพุธที่ 8 ตุลาคม 2551 เป็นการฝึกซ้อมริ้วขบวนที่ 1 , 2 และ 3 สถานที่ฝึกซ้อมที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บางเขน ซ้อมย่อยครั้งที่ 3 กำหนดในวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2551 เป็นการฝึกซ้อมริ้วขบวนที่ 1 สถานที่ฝึกซ้อมในพื้นที่จริง ตั้งแต่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปยังหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซ้อมย่อยครั้งที่ 4 กำหนดในวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2551 เป็นการฝึกซ้อมทุกริ้วขบวน สถานที่ฝึกซ้อมในพื้นที่จริง ตั้งแต่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปยังพระเมรุ ท้องสนามหลวง ซ้อมใหญ่ กำหนดในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2551 เป็นการฝึกซ้อมทุกริ้วขบวนในพื้นที่จริง แต่งกายเหมือนวันจริงทุกประการ ทั้งนี้การฝึกซ้อม ริ้วขบวนดังกล่าว รองนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปตรวจเยี่ยม เพื่อเป็นการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน และเป็นการให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานด้วย
นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบ กำหนดให้มีการยกสัปตปฎลเศวตฉัตรยอดพระเมรุ ภายหลังเสร็จสิ้นการก่อสร้างพระเมรุ โดยจะได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยในการเสด็จพระราชดำเนิน ส่วนจะเป็นวันและเวลาใด สุดแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ และกำหนดให้มีการเชิญผู้ไปร่วมเฝ้าฯ ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ ในวันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา 16.30 น. ซึ่งคาดว่าจะเรียนเชิญผู้ไปร่วมเฝ้าฯ ได้ประมาณ 3,000 คน
โดยในส่วนของภาคประชาชนนั้น สามารถไปร่วมถวายดอกไม้จันทน์ได้ตามซุ้มรับดอกไม้จันทน์ซึ่งจัดตั้งไว้รวม 8 ซุ้ม ได้แก่ บริเวณท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือ บริเวณหน้าศาลหลักเมือง บริเวณฝั่งตรงข้ามพระแม่ธรณีบีบมวยผม และบริเวณถนนราชดำเนิน โดยบริเวณใกล้เคียงท้องสนามหลวงจะจัดตั้งหน่วยบริการประชาชนเพื่อให้บริการด้านอาหารและเครื่องดื่มตลอดเวลาของการจัด พระราชพิธีฯ รวมทั้งได้ติดตั้งโทรทัศน์จอ LED ตามจุดต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้ชมการถ่ายทอดสดพระราชพิธีฯ พร้อมกันนี้ได้มีการจัดถวายดอกไม้จันทน์ตามวัดต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตเป็นผู้พิจารณาจัดหาวัดที่เหมาะสม และในส่วนภูมิภาคได้มีการจัดถวายดอกไม้จันทน์ตามวัดต่างๆ ของทุกจังหวัดและทุกอำเภอไว้ด้วย สำหรับดอกไม้จันทน์ที่จะถวายนั้น รัฐบาลได้เตรียมไว้ให้ส่วนหนึ่ง และขอเรียนเชิญผู้มีจิตกุศลได้ร่วมบริจาคดอกไม้จันทน์อีกส่วนหนึ่งด้วย
พร้อมเห็นชอบการจัดนักเรียนเตรียมทหารยืนตามรายทางในขบวนพระอิสริยยศในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ ตามที่ฝ่ายเลขานุการได้รับการประสานงานจากผู้แทนกองงานในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร แจ้งว่า ผู้ที่ยืนตามรายทางให้เป็นนักเรียนเตรียมทหาร โดยกองงานในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะจัดทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ยืนตามรายทางด้วย ทั้งนี้ เพื่อความสวยงาม ส่วนด้านการรักษาความปลอดภัยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามปกติ ดังนั้น จึงเห็นสมควรมอบให้กองทัพไทยจัดนักเรียนเตรียมทหาร เพื่อยืนตามรายทาง ในระหว่างที่มีริ้วขบวนพระอิสริยยศ โดยให้ประสานการปฏิบัติกับกองงานใน พระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรงต่อไป
อีกทั้งที่ประชุมเห็นชอบการจัดแสดงมหรสพสมโภชงานออกพระเมรุ ตามโบราณราชประเพณี ถือว่า เมื่อออกพระเมรุแล้ว จะต้องมีการจัดแสดงมหรสพสมโภช สำหรับการจัดงาน พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ครั้งนี้ กรมศิลปากรได้จัดแสดงมหรสพสมโภชไว้รวม 3 เวที ที่บริเวณท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือ โดยมีการแสดงต่าง ๆ ดังนี้ เวทีกลาง เป็นการแสดงหนังใหญ่และโขนเรื่องรามเกียรติ์ เวทีด้านขวา ฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา เป็นการแสดงหุ่นกระบอกเรื่องพระอภัยมณี หุ่นละครเล็กเรื่องกำเนิดพระคเณศร์ของคณะโจหลุยส์ และละครนอกเรื่องสุวรรณหงส์เสี่ยงว่าว — กุมภณฑ์ถวายม้า เวทีด้านซ้าย ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นการแสดงวงดุริยางค์เยาวชน T.Y.O. (THAILAND YOUTH SYMPHONY ORCHESTRA) การแสดงวงซิมโฟนีออร์เคสตร้าของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การแสดงวงดุริยางค์สากลของกรมศิลปากร NSO (NATIONAL SYMPHONY ORCHESTRA) และการแสดงวงดุริยางค์ผสมพลเรือน ตำรวจ และทหาร
ทั้งนี้การจัดแสดงมหรสพสมโภชจะเริ่มการแสดงตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันที่ 15พฤศจิกายน 2551 และเมื่อถึงเวลา 21.30 น. โดยประมาณ จะพักการแสดงเพื่อเข้าสู่ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ (จริง) ต่อจากนั้นเวลา 23.00 น. โดยประมาณ จะเริ่มการแสดงมหรสพสมโภชต่อถึงวันรุ่งขึ้นของวันที่ 16 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งจะเสร็จสิ้นการแสดงเวลา 03.00 น. โดยประมาณ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--