ดาโต๊ะ ซารานี บิน อิบราฮิม (H.E. Dato’ Shaarani bin Ibrahim) เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นจากตำแหน่ง
วันนี้ เวลา 9.15 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ดาโต๊ะ ซารานี บิน อิบราฮิม (H.E. Dato’ Shaarani bin Ibrahim) เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นจากตำแหน่ง สรุปสาระสำคัญของการสนทนา ดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันความร่วมมือระหว่างไทย-มาเลเซีย ตลอดระยะเวลาดำรงตำแหน่งในประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-มาเลเซียเป็นไปด้วยความราบรื่น
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ ได้หารือถึงความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัท SKS Corporation ของมาเลเซีย โดยจะมีการวางท่อส่งน้ำมันจากโรงกลั่นมาเลเซียมายังจังหวัดสงขลาของไทย ทั้งนี้รัฐบาลมาเลเซียยินดีให้ความช่วยเหลือต่อทั้งสองบริษัท และหวังว่าทางรัฐบาลไทยจะให้ความช่วยเหลือเช่นเดียวกัน
เอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ กล่าวว่ามาเลเซียได้พยายามผลักดันการท่องเที่ยว ภายใต้แคมเปญ “Malaysia truly Asia” โดยหวังเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางไปมาเลเซีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่ากรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย เป็นเมืองที่สวยงาม น่าท่องเที่ยว
ระหว่างการสนทนานายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการขยายเส้นทางคมนาคมในกรุงเทพมหานคร ทั้งถนนวงแหวน รถไฟฟ้า รถราง โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าขณะนี้มีโครงการเส้นทางรถไฟฟ้าขยายไปยังแถบชานเมือง ทั้งหมด 9 สาย ด้วยกัน ทั้งนี้เอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ เห็นว่าการขยายเส้นทางคมนาคมนี้ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก และมาเลเซียพร้อมเป็นแหล่งเงินทุนให้แก่ประเทศไทย
ก่อนจบการสนทนา เอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าพบ และหวังว่าความสัมพันธ์ไทย-มาเลเซียจะแน่นแฟ้นตลอดไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 9.15 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ดาโต๊ะ ซารานี บิน อิบราฮิม (H.E. Dato’ Shaarani bin Ibrahim) เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นจากตำแหน่ง สรุปสาระสำคัญของการสนทนา ดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันความร่วมมือระหว่างไทย-มาเลเซีย ตลอดระยะเวลาดำรงตำแหน่งในประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-มาเลเซียเป็นไปด้วยความราบรื่น
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ ได้หารือถึงความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัท SKS Corporation ของมาเลเซีย โดยจะมีการวางท่อส่งน้ำมันจากโรงกลั่นมาเลเซียมายังจังหวัดสงขลาของไทย ทั้งนี้รัฐบาลมาเลเซียยินดีให้ความช่วยเหลือต่อทั้งสองบริษัท และหวังว่าทางรัฐบาลไทยจะให้ความช่วยเหลือเช่นเดียวกัน
เอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ กล่าวว่ามาเลเซียได้พยายามผลักดันการท่องเที่ยว ภายใต้แคมเปญ “Malaysia truly Asia” โดยหวังเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางไปมาเลเซีย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่ากรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย เป็นเมืองที่สวยงาม น่าท่องเที่ยว
ระหว่างการสนทนานายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการขยายเส้นทางคมนาคมในกรุงเทพมหานคร ทั้งถนนวงแหวน รถไฟฟ้า รถราง โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าขณะนี้มีโครงการเส้นทางรถไฟฟ้าขยายไปยังแถบชานเมือง ทั้งหมด 9 สาย ด้วยกัน ทั้งนี้เอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ เห็นว่าการขยายเส้นทางคมนาคมนี้ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก และมาเลเซียพร้อมเป็นแหล่งเงินทุนให้แก่ประเทศไทย
ก่อนจบการสนทนา เอกอัครราชทูตมาเลเซียฯ แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าพบ และหวังว่าความสัมพันธ์ไทย-มาเลเซียจะแน่นแฟ้นตลอดไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--