แท็ก
คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย
สาธารณรัฐประชาชนจีน
ตึกสันติไมตรี
ทำเนียบรัฐบาล
กีฬาโอลิมปิค
นายกรัฐมนตรี
พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไนำคณะเจ้าหน้าที่และนักกีฬาทีมชาติไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายกรัฐมนตรี เพื่ออำลาและรับโอวาทก่อนเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมส์ ครั้งที่ 29 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
วันนี้ เวลา 16.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้นำคณะเจ้าหน้าที่และนักกีฬาทีมชาติไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่ออำลาและรับโอวาทก่อนเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา โอลิมปิคเกมส์ ครั้งที่ 29 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 8 - 24 สิงหาคม 2551 โดยมี พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาร่วมให้กำลังใจแก่นักกีฬาทุกคนด้วย
พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กล่าวรายงานว่า การเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมส์ ครั้งที่ 29 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลผ่านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากองค์กรกีฬาทั้งภาครัฐ และเอกชนในรูปแบบ ต่าง ๆ อาทิ เครื่องแต่งกาย อุปกรณ์การฝึกซ้อม/แข่งขัน
สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ ประเทศไทยได้ส่งนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมส์ ครั้งที่ 29 รวมทั้งสิ้น 13 ชนิดกีฬา ได้แก่ ว่ายน้ำ กรีฑา แบดมินตัน มวยสากล จักรยาน ฟันดาบ เทนนิส วินด์เซิร์ฟ ยิงปืน ยิงเป้าบิน เทเบิลเทนนิส เทควันโด และยกน้ำหนัก โดยมีนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขัน 50 คน แบ่งเป็นนักกีฬาชาย 24 คน นักกีฬาหญิง 27คน และเจ้าหน้าที่ 38 คน รวมทั้งสิ้น 89 คน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้โอวาทว่า การแข่งขันกีฬาอย่าถือเรื่องของการแพ้ชนะเป็นสิ่งสำคัญ แพ้ได้พอ ๆ กับชนะได้ แต่เชื่อมั่นว่าการแข่งขันในครั้งนี้ นักกีฬาไทยจะชนะและได้รับเหรียญใดเหรียญหนึ่งกลับมา ขอให้นักกีฬาทุกคนมีความอุตสาหะในการแข่งขัน
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความรู้สึกของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมส์ ครั้งที่ 29 ว่า มีความผูกพันกว่าการแข่งขันทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะประเทศไทยและจีน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และที่สำคัญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ ไปให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่และทีมนักกีฬาไทยในวันเปิดการแข่งขัน ณ กรุงปักกิ่ง พร้อมพระราชทานเลี้ยงอาหารให้แก่เจ้าหน้าที่และทีมนักกีฬาไทยทุกคน โดยนายกรัฐมนตรีก็จะ เดินทางไปร่วมให้กำลังใจพร้อมทำอาหารเลี้ยงนักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนเช่นเดียวกัน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้นักกีฬาไทยทุกคนมีความสุขตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศจีน การแข่งขันย่อมจะมีแพ้และชนะ แต่ถือว่าทุกคนได้ทำหน้าที่ของนักกีฬาอย่างเต็มความสามารถแล้ว ถ้าชนะก็เพราะเรามีความสามารถ มีสติ มีความตั้งใจ และเพราะเราเก่ง ขอให้ทุกคนจงภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย และคนไทยทุกคนก็มีความสุขที่ได้ส่งทีมนักกีฬาไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมส์ในครั้งนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 16.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้นำคณะเจ้าหน้าที่และนักกีฬาทีมชาติไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่ออำลาและรับโอวาทก่อนเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา โอลิมปิคเกมส์ ครั้งที่ 29 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 8 - 24 สิงหาคม 2551 โดยมี พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาร่วมให้กำลังใจแก่นักกีฬาทุกคนด้วย
พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กล่าวรายงานว่า การเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมส์ ครั้งที่ 29 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลผ่านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากองค์กรกีฬาทั้งภาครัฐ และเอกชนในรูปแบบ ต่าง ๆ อาทิ เครื่องแต่งกาย อุปกรณ์การฝึกซ้อม/แข่งขัน
สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ ประเทศไทยได้ส่งนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมส์ ครั้งที่ 29 รวมทั้งสิ้น 13 ชนิดกีฬา ได้แก่ ว่ายน้ำ กรีฑา แบดมินตัน มวยสากล จักรยาน ฟันดาบ เทนนิส วินด์เซิร์ฟ ยิงปืน ยิงเป้าบิน เทเบิลเทนนิส เทควันโด และยกน้ำหนัก โดยมีนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขัน 50 คน แบ่งเป็นนักกีฬาชาย 24 คน นักกีฬาหญิง 27คน และเจ้าหน้าที่ 38 คน รวมทั้งสิ้น 89 คน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้โอวาทว่า การแข่งขันกีฬาอย่าถือเรื่องของการแพ้ชนะเป็นสิ่งสำคัญ แพ้ได้พอ ๆ กับชนะได้ แต่เชื่อมั่นว่าการแข่งขันในครั้งนี้ นักกีฬาไทยจะชนะและได้รับเหรียญใดเหรียญหนึ่งกลับมา ขอให้นักกีฬาทุกคนมีความอุตสาหะในการแข่งขัน
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความรู้สึกของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมส์ ครั้งที่ 29 ว่า มีความผูกพันกว่าการแข่งขันทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะประเทศไทยและจีน มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และที่สำคัญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ ไปให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่และทีมนักกีฬาไทยในวันเปิดการแข่งขัน ณ กรุงปักกิ่ง พร้อมพระราชทานเลี้ยงอาหารให้แก่เจ้าหน้าที่และทีมนักกีฬาไทยทุกคน โดยนายกรัฐมนตรีก็จะ เดินทางไปร่วมให้กำลังใจพร้อมทำอาหารเลี้ยงนักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนเช่นเดียวกัน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้นักกีฬาไทยทุกคนมีความสุขตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศจีน การแข่งขันย่อมจะมีแพ้และชนะ แต่ถือว่าทุกคนได้ทำหน้าที่ของนักกีฬาอย่างเต็มความสามารถแล้ว ถ้าชนะก็เพราะเรามีความสามารถ มีสติ มีความตั้งใจ และเพราะเราเก่ง ขอให้ทุกคนจงภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย และคนไทยทุกคนก็มีความสุขที่ได้ส่งทีมนักกีฬาไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเกมส์ในครั้งนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--