นายจักร บุญ-หลง กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา นำคณะเยาวชน ผู้ปกครอง และสื่อมวลชนไทยในสหรัฐอเมริกา ในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ รวม 190 คน เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายจักร บุญ-หลง กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวแทนคณะกรรมการโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ (2551) นำคณะเยาวชน ผู้ปกครอง และสื่อมวลชนไทยในสหรัฐอเมริกา ในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ (2551) รวม 190 คน เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาท จากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม - 25 กรกฎาคม 2551
กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิสฯ กล่าวรายงานโดยสรุปว่า โครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ เป็นโครงการที่จัดต่อเนื่องจากโครงการวัฒนธรรมไทยคืนถิ่น เริ่มจัดโครงการครั้งแรกเมื่อปี 2539 โดยได้นำเยาวชนไทยจากรัฐต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกาเดินทางมาเยือนประเทศไทย ทัศนศึกษา และเปลี่ยนวัฒนธรรมการเรียนการสอน และทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ศึกษาสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และชมความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทยทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด สำหรับปีนี้คณะกรรมการได้จัดโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ มาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม - 25 กรกฎาคม 2551 มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 190 คน แยกเป็นเยาวชน 85 คน ผู้ปกครองและกรรมการ 90 คน และสื่อมวลชนไทยในสหรัฐอเมริกา 15 คนจาก 9 รัฐ นอกจากนี้ยังมีโครงการวัฒนธรรมไทยคืนถิ่น นิวยอร์กสู่แผ่นดินแม่ ของศูนย์วัฒนธรรมไทยแห่งรัฐนิวยอร์ก ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ได้จัดโปรแกรมนำเยาวชนมาสมทบอีก 60 คน และนอกจากการจัดโครงการมาเยือนประเทศไทยแล้ว ทางโครงการได้จัด "โครงการสายสัมพันธ์น้ำใจไทยอเมริกัน" เพื่อนำนักเรียนด้อยโอกาสจากประเทศไทยและครูไปเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 1 เดือน โดยคณะ กรรมการและผู้ปกครองที่ร่วมโครงการเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวมอบโอวาทสรุปสาระสำคัญว่า โครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ เป็นโครงการที่ดี ขอขอบคุณคณะกรรมการที่นำเยาวชนไทยที่เกิดในต่างประเทศกลับมาดูมาเยี่ยมบ้านเกิด ให้ทุกคนได้รู้จักประเทศไทยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประวัติ ศาสตร์สำคัญยาวนานกว่า 800 ปี ราชวงศ์จักรีในปัจจุบันก็มีอายุถึง 226 ปี ทั้งนี้ ประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยที่มีความใกล้เคียงกันมาก และมีความสัมพันธ์กันมายาวนานกว่า 175 ปี ซึ่งจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นประเทศเอกราชประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เด็กไทยทุกคนที่เติบโตในต่างประเทศควรต้องรู้เรื่องพื้นฐานวัฒนธรรมไทย นอกเหนือไปจากการเรียนรู้ในวัดไทยและการเรียนดนตรีไทย โดยพ่อแม่ผู้ปกครองต้องเป็นผู้ถ่ายทอดวัฒนธรรมไทยให้เด็ก ๆ ได้รับทราบ ทั้งนี้ ขอให้เยาวชนทุกคนได้ภูมิใจในภาษาไทยที่เป็นวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ภาษาไทยมีทั้งภาษาเขียน ภาษาพูด มีสระ วรรณยุกต์ ที่ทำให้อ่านออกเสียงภาษาไทยได้หลายเสียง รวมทั้งมีหลักเกณฑ์ของภาษา และภาษาไทยเมื่อนำไปแต่งเป็นโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน แล้วจะมีความไพเราะในการสัมผัสมากกว่าโคลงของภาษาต่างประเทศ จึงขอให้เยาวชนได้เรียนรู้ภาษาที่เป็นรากฐานของตนเองให้มากขึ้น
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีขอให้เยาวชนไทยทุกคนที่ได้มาดูบ้านเกิดในวันนี้ ได้เดินทางดูสถานที่ต่าง ๆ ให้ทั่ว ทั้งพระบรมมหาราชวัง วัดไทย อาหารไทย โรงแรม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ให้ดูหมดทุกอย่าง รวมทั้งขอให้ดูคอลเลคชั่นเสื้อที่ร้านภูฟ้า ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ปีนี้เป็นตราหนูมี 7 สีตามวัน ที่ทรงทำขายเพื่อนำเงินไปช่วยการศึกษาและความเป็นอยู่ของคนในชนบทที่ช่วยตัวเองไม่ได้ และขอให้ดูว่ามาเมืองไทยแล้วได้อะไรบ้างเพื่อกลับไปบอกคนที่อเมริกาว่าได้มาอยู่เมืองไทยเหมือนกัน เมื่อเรียนจบมีงานทำที่โน่นแล้วขอให้กลับมาเยี่ยมประเทศไทยกับครอบครัวปีละ 1- 2 หน ซึ่งเมื่อกลับมาเมืองไทยแล้วขอให้ทุกคนได้มีความภาคภูมิใจว่าคือบ้านของเรา ถึงเราจะไม่ได้เกิดที่เมืองไทยแต่บุพการีของเราก็เกิดที่นี่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่าขอให้ทุกคนดูเมืองไทยในสิ่งที่ดี สิ่งใดที่ดูแล้วไม่ดีก็ขอให้ทำความเข้าใจเพราะเมืองไทยอยู่ระหว่างการเปลี่ยนถ่าย คนเกลียดคนชอบคนชังยังมี แต่สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอยู่มั่นคง ประชาชนคนไทยทุกคนจงรักภักดีในสถาบัน ขอให้เยาวชนได้ใช้วิจารณญาณคิดให้ดีว่าอะไรเป็นอะไรอย่างไร และขอให้พ่อแม่ช่วยอธิบายให้ลูก ๆ ฟังด้วย คนไทยทุกคนยินดีต้อนรับเยาวชนทุกคน โดยขอให้อยู่เมืองไทยอย่างมีความสุข ให้สนุกในการมาเยี่ยมครั้งนี้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอให้เยาวชนได้ระมัดระวังเรื่องการกินอาหาร ที่ควรเลือกกินอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ ๆ ดื่มน้ำที่สะอาด เนื่องจากทุกคนที่มาจากสหรัฐอเมริกายังไม่มีภูมิคุ้มกันเชื้อโรคได้ดีเหมือนกับคนไทยที่อยู่ในเมืองไทย และขอให้ปลอดภัยตลอดการเดินทางในเมืองไทยและเดินทางกลับสหรัฐอเมริกาโดยสวัสดิภาพทุกคน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายจักร บุญ-หลง กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวแทนคณะกรรมการโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ (2551) นำคณะเยาวชน ผู้ปกครอง และสื่อมวลชนไทยในสหรัฐอเมริกา ในโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ (2551) รวม 190 คน เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาท จากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม - 25 กรกฎาคม 2551
กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิสฯ กล่าวรายงานโดยสรุปว่า โครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ เป็นโครงการที่จัดต่อเนื่องจากโครงการวัฒนธรรมไทยคืนถิ่น เริ่มจัดโครงการครั้งแรกเมื่อปี 2539 โดยได้นำเยาวชนไทยจากรัฐต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกาเดินทางมาเยือนประเทศไทย ทัศนศึกษา และเปลี่ยนวัฒนธรรมการเรียนการสอน และทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ศึกษาสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และชมความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทยทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด สำหรับปีนี้คณะกรรมการได้จัดโครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ มาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม - 25 กรกฎาคม 2551 มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 190 คน แยกเป็นเยาวชน 85 คน ผู้ปกครองและกรรมการ 90 คน และสื่อมวลชนไทยในสหรัฐอเมริกา 15 คนจาก 9 รัฐ นอกจากนี้ยังมีโครงการวัฒนธรรมไทยคืนถิ่น นิวยอร์กสู่แผ่นดินแม่ ของศูนย์วัฒนธรรมไทยแห่งรัฐนิวยอร์ก ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ได้จัดโปรแกรมนำเยาวชนมาสมทบอีก 60 คน และนอกจากการจัดโครงการมาเยือนประเทศไทยแล้ว ทางโครงการได้จัด "โครงการสายสัมพันธ์น้ำใจไทยอเมริกัน" เพื่อนำนักเรียนด้อยโอกาสจากประเทศไทยและครูไปเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 1 เดือน โดยคณะ กรรมการและผู้ปกครองที่ร่วมโครงการเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวมอบโอวาทสรุปสาระสำคัญว่า โครงการเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกา เยือนแผ่นดินแม่ เป็นโครงการที่ดี ขอขอบคุณคณะกรรมการที่นำเยาวชนไทยที่เกิดในต่างประเทศกลับมาดูมาเยี่ยมบ้านเกิด ให้ทุกคนได้รู้จักประเทศไทยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประวัติ ศาสตร์สำคัญยาวนานกว่า 800 ปี ราชวงศ์จักรีในปัจจุบันก็มีอายุถึง 226 ปี ทั้งนี้ ประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยที่มีความใกล้เคียงกันมาก และมีความสัมพันธ์กันมายาวนานกว่า 175 ปี ซึ่งจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นประเทศเอกราชประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เด็กไทยทุกคนที่เติบโตในต่างประเทศควรต้องรู้เรื่องพื้นฐานวัฒนธรรมไทย นอกเหนือไปจากการเรียนรู้ในวัดไทยและการเรียนดนตรีไทย โดยพ่อแม่ผู้ปกครองต้องเป็นผู้ถ่ายทอดวัฒนธรรมไทยให้เด็ก ๆ ได้รับทราบ ทั้งนี้ ขอให้เยาวชนทุกคนได้ภูมิใจในภาษาไทยที่เป็นวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ภาษาไทยมีทั้งภาษาเขียน ภาษาพูด มีสระ วรรณยุกต์ ที่ทำให้อ่านออกเสียงภาษาไทยได้หลายเสียง รวมทั้งมีหลักเกณฑ์ของภาษา และภาษาไทยเมื่อนำไปแต่งเป็นโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน แล้วจะมีความไพเราะในการสัมผัสมากกว่าโคลงของภาษาต่างประเทศ จึงขอให้เยาวชนได้เรียนรู้ภาษาที่เป็นรากฐานของตนเองให้มากขึ้น
พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีขอให้เยาวชนไทยทุกคนที่ได้มาดูบ้านเกิดในวันนี้ ได้เดินทางดูสถานที่ต่าง ๆ ให้ทั่ว ทั้งพระบรมมหาราชวัง วัดไทย อาหารไทย โรงแรม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ให้ดูหมดทุกอย่าง รวมทั้งขอให้ดูคอลเลคชั่นเสื้อที่ร้านภูฟ้า ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ปีนี้เป็นตราหนูมี 7 สีตามวัน ที่ทรงทำขายเพื่อนำเงินไปช่วยการศึกษาและความเป็นอยู่ของคนในชนบทที่ช่วยตัวเองไม่ได้ และขอให้ดูว่ามาเมืองไทยแล้วได้อะไรบ้างเพื่อกลับไปบอกคนที่อเมริกาว่าได้มาอยู่เมืองไทยเหมือนกัน เมื่อเรียนจบมีงานทำที่โน่นแล้วขอให้กลับมาเยี่ยมประเทศไทยกับครอบครัวปีละ 1- 2 หน ซึ่งเมื่อกลับมาเมืองไทยแล้วขอให้ทุกคนได้มีความภาคภูมิใจว่าคือบ้านของเรา ถึงเราจะไม่ได้เกิดที่เมืองไทยแต่บุพการีของเราก็เกิดที่นี่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่าขอให้ทุกคนดูเมืองไทยในสิ่งที่ดี สิ่งใดที่ดูแล้วไม่ดีก็ขอให้ทำความเข้าใจเพราะเมืองไทยอยู่ระหว่างการเปลี่ยนถ่าย คนเกลียดคนชอบคนชังยังมี แต่สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอยู่มั่นคง ประชาชนคนไทยทุกคนจงรักภักดีในสถาบัน ขอให้เยาวชนได้ใช้วิจารณญาณคิดให้ดีว่าอะไรเป็นอะไรอย่างไร และขอให้พ่อแม่ช่วยอธิบายให้ลูก ๆ ฟังด้วย คนไทยทุกคนยินดีต้อนรับเยาวชนทุกคน โดยขอให้อยู่เมืองไทยอย่างมีความสุข ให้สนุกในการมาเยี่ยมครั้งนี้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอให้เยาวชนได้ระมัดระวังเรื่องการกินอาหาร ที่ควรเลือกกินอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ ๆ ดื่มน้ำที่สะอาด เนื่องจากทุกคนที่มาจากสหรัฐอเมริกายังไม่มีภูมิคุ้มกันเชื้อโรคได้ดีเหมือนกับคนไทยที่อยู่ในเมืองไทย และขอให้ปลอดภัยตลอดการเดินทางในเมืองไทยและเดินทางกลับสหรัฐอเมริกาโดยสวัสดิภาพทุกคน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--