นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับคณะครูและนักเรียนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และแสดงความยินดีที่คณะนักเรียนได้มีโอกาสมาทัศนศึกษาในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 12-18 กรกฏาคม 2551 โดยกล่าวว่าเป็นโอกาสอันดีที่คณะนักเรียนจะได้มีโอกาสชมโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ณ ฐานทัพเรือสัตหีบ และโครงการในพระราชดำริ ฯลฯ และเชื่อว่า การมาเยือนในครั้งนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศต่อไป
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล นายรัฐกิจ มานะทัต เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง นำคณะนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 110 คน เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย มีการสนทนาสรุปดังนี้
เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง กล่าวรายงานโครงการคณะนักเรียนจากประเทศจีนเดินทางเยือนประเทศไทย ว่าประกอบด้วยตัวแทนนักเรียนจาก 8 เมือง ได้แก่ กรุงปักกิ่ง, นครซีอาน, นครหนานหนิง, เมืองเซี่ยเหมิน, นครคุนหมิง, นครกวางโจว, นครเซี่ยงไฮ้, นครเฉิงตู และมีคณะนักเรียนจากโรงเรียนจิตรลดา ซึ่งจะนำคณะ นักเรียนจีนเข้าค่ายอนุรักษ์เต่าทะเลในไทย ระหว่างวันที่ 12-18 ก.ค. 2551 พร้อมทั้งทัศนศึกษาสถานที่สำคัญต่าง ๆ อันได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดารามฯ, พระบรมมหาราชวัง, โครงการพระราชดำริ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน รวมถึงการเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อันเป็นสถานที่บางส่วนที่คณะได้เยี่ยมชม มาแล้ว และในเย็นวันนี้ ทางคณะจะออกเดินทางไปยังฐานทัพเรือสัตหีบ เพื่อเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ (Sea Turtles Conservation Center)
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต้อนรับ คณะครู และ นักเรียนทั้ง 110 คน จากประเทศจีน พร้อมทั้งสื่อมวลชนที่ติดตามคณะ โดยกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นไปอย่างแน้นแฟ้นตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา พร้อมกล่าวถึงการเดินทางเยือนประเทศจีนของนายกรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รู้สึกประทับใจในอัธยาศัยไมตรี อันดีของประชาชนจีน ซึ่งตนเองก็ยังมีเชื้อสายจีน คนจีนกับคนไทยจึงเป็นเสมือนพี่น้องกัน และแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ การค้า มาอย่างยาวนาน รวมทั้ง เรื่องภาษา ภาษาจีนเป็นอีกหนึ่งภาษาที่คนไทยนิยมเรียนรู้ ในขณะเดียวกันประเทศจีนก็มีสถาบันสอนภาษาที่เปิดสอนภาษาไทยอยู่ในเมืองต่างๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะ กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี มีความยินดีที่ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยของคณะครู และ นักเรียนในครั้งนี้จะได้มีโอกาสไปทัศนศึกษาและเยี่ยมชม ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพราะจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้พบเห็นการดูแลและอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ปัจจุบันเป็นสายพันธุ์ที่มีอยู่น้อยลงทุกที คนไทยก็มีโอกาสน้อยที่จะได้ไปเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลแห่งนี้ โดยเต่าทะเลนับว่ามีความสำคัญต่อ ประเทศไทยเช่นเดียวกับหมีแพนด้าที่มีความสำคัญต่อประเทศจีน ซึ่งรัฐบาลของทั้งสองประเทศต่างตระหนัก ถึงความสำคัญของสัตว์ทั้งสองประเทศและได้ช่วยกันอนุรักษ์สัตว์ทั้งสองสายพันธุ์ให้รอดพ้นจากการสูญพันธุ์
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงโครงการที่อยากให้คณะครูและนักเรียนจีนได้เยี่ยมชมและได้ศึกษา คือ โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้แก่ โรงกลั่นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ซึ่งได้ทรงริเริ่ม และทดลองเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมาก่อนที่จะเป็นที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน โรงนม ซึ่งได้นำไปผลิตเป็นนมอัดเม็ด รวมทั้ง โครงการทดลองปลูกข้าวในวัง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ที่คณะนักเรียนจะได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับตัวแทนนักเรียน จาก 8 เมือง ซึ่งตัวแทนนักเรียนได้กล่าวชื่นชมความสวยงามของประเทศไทย และชื่นชมในรสชาติของอาหารไทย พร้อมทั้งมอบของที่ระลึกให้นายกรัฐมนตรีในโอกาสเดินทางเยือนครั้งนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล นายรัฐกิจ มานะทัต เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง นำคณะนักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 110 คน เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย มีการสนทนาสรุปดังนี้
เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง กล่าวรายงานโครงการคณะนักเรียนจากประเทศจีนเดินทางเยือนประเทศไทย ว่าประกอบด้วยตัวแทนนักเรียนจาก 8 เมือง ได้แก่ กรุงปักกิ่ง, นครซีอาน, นครหนานหนิง, เมืองเซี่ยเหมิน, นครคุนหมิง, นครกวางโจว, นครเซี่ยงไฮ้, นครเฉิงตู และมีคณะนักเรียนจากโรงเรียนจิตรลดา ซึ่งจะนำคณะ นักเรียนจีนเข้าค่ายอนุรักษ์เต่าทะเลในไทย ระหว่างวันที่ 12-18 ก.ค. 2551 พร้อมทั้งทัศนศึกษาสถานที่สำคัญต่าง ๆ อันได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดารามฯ, พระบรมมหาราชวัง, โครงการพระราชดำริ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน รวมถึงการเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อันเป็นสถานที่บางส่วนที่คณะได้เยี่ยมชม มาแล้ว และในเย็นวันนี้ ทางคณะจะออกเดินทางไปยังฐานทัพเรือสัตหีบ เพื่อเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ (Sea Turtles Conservation Center)
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต้อนรับ คณะครู และ นักเรียนทั้ง 110 คน จากประเทศจีน พร้อมทั้งสื่อมวลชนที่ติดตามคณะ โดยกล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นไปอย่างแน้นแฟ้นตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา พร้อมกล่าวถึงการเดินทางเยือนประเทศจีนของนายกรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รู้สึกประทับใจในอัธยาศัยไมตรี อันดีของประชาชนจีน ซึ่งตนเองก็ยังมีเชื้อสายจีน คนจีนกับคนไทยจึงเป็นเสมือนพี่น้องกัน และแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ การค้า มาอย่างยาวนาน รวมทั้ง เรื่องภาษา ภาษาจีนเป็นอีกหนึ่งภาษาที่คนไทยนิยมเรียนรู้ ในขณะเดียวกันประเทศจีนก็มีสถาบันสอนภาษาที่เปิดสอนภาษาไทยอยู่ในเมืองต่างๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะ กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี มีความยินดีที่ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยของคณะครู และ นักเรียนในครั้งนี้จะได้มีโอกาสไปทัศนศึกษาและเยี่ยมชม ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพราะจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้พบเห็นการดูแลและอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ปัจจุบันเป็นสายพันธุ์ที่มีอยู่น้อยลงทุกที คนไทยก็มีโอกาสน้อยที่จะได้ไปเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลแห่งนี้ โดยเต่าทะเลนับว่ามีความสำคัญต่อ ประเทศไทยเช่นเดียวกับหมีแพนด้าที่มีความสำคัญต่อประเทศจีน ซึ่งรัฐบาลของทั้งสองประเทศต่างตระหนัก ถึงความสำคัญของสัตว์ทั้งสองประเทศและได้ช่วยกันอนุรักษ์สัตว์ทั้งสองสายพันธุ์ให้รอดพ้นจากการสูญพันธุ์
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงโครงการที่อยากให้คณะครูและนักเรียนจีนได้เยี่ยมชมและได้ศึกษา คือ โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้แก่ โรงกลั่นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ซึ่งได้ทรงริเริ่ม และทดลองเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมาก่อนที่จะเป็นที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน โรงนม ซึ่งได้นำไปผลิตเป็นนมอัดเม็ด รวมทั้ง โครงการทดลองปลูกข้าวในวัง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ที่คณะนักเรียนจะได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับตัวแทนนักเรียน จาก 8 เมือง ซึ่งตัวแทนนักเรียนได้กล่าวชื่นชมความสวยงามของประเทศไทย และชื่นชมในรสชาติของอาหารไทย พร้อมทั้งมอบของที่ระลึกให้นายกรัฐมนตรีในโอกาสเดินทางเยือนครั้งนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--