แท็ก
สำนักนายกรัฐมนตรี
รัฐบาลเร่งดำเนินการฟื้นฟูปรับปรุงแหล่งน้ำครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ 6,552 แห่ง ใช้งบประมาณ 14,942 ล้านบาท เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มมากขึ้น
วันนี้ (12 ก.ค.) เวลา 11.30 น. พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คุยนอกทำเนียบกับทีมโฆษกรัฐบาล” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ถึงการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีการฟื้นฟูปรับปรุงแหล่งน้ำครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ 6,552 แห่ง ใช้งบประมาณ 14,942 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (ปี 2552-2554) โดยในปี 2552 จะดำเนินการฟื้นฟูแหล่งน้ำที่มีความเสื่อมโทรมมากและมีความพร้อมจำนวน 1,013 แห่ง วงเงินลงทุน 4,477 ล้านบาท ทั้งนี้ จะใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วยในการดำเนินการขุดลอกคูคลอง หนอง บึง ทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น ซึ่งได้ขอความร่วมมือกับทางการจีนในด้านเทคโนโลยีและเครื่องจักรกลไกขนาดใหญ่ในการขุดลอกแหล่งน้ำ เพราะฉะนั้น จะทำให้พื้นที่ที่ขุดลอกแล้วมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 834 ลบ.ม. ประชาชนได้รับประโยชน์ทั่วประเทศ 359,562 ครัวเรือน พื้นที่ซึ่งได้รับประโยชน์ในการเกษตร 2.20 ล้านไร่ และจะทำให้มีน้ำใช้ในการเกษตรกรรมตลอดทั้งปี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงแผนปรับปรุงการบริหารจัดการและบริการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ในส่วนของการจัดหารถโดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี จำนวน 6,000 คัน โดยวิธีการเช่า เพื่อปรับปรุงระบบขนส่งมวลชนทั้งหมดของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบด้วยการปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางหลักของ ขสมก. 15 เส้นทาง เส้นทางวงแหวนชั้นใน 2 เส้นทาง ชั้นนอก 4 เส้นทาง เส้นทางด่วน 15 เส้นทาง เส้นทางสายรอง 109 เส้นทาง ทั้งนี้ จะมีการดำเนินการประกวดราคาโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e — Auction เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งบริษัทที่เข้าประมูลจะต้องสามารถจัดหารถมาให้เช่าตรงตามสเป็กที่กำหนด ทั้ง 26 รายการ และจะนำร่าง TOR ประกาศในเว็บไซต์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และกรมบัญชีกลาง เพื่อทำประชาพิจารณ์ นอกจากนี้ ในระบบตั๋วโดยสารรถเมล์ จะให้มีการใช้ e — ticket ซึ่งจะทำให้ค่าโดยสารถูกลง เพราะจะจ่ายเที่ยวเดียว 15 บาทตลอดสาย และจะมีตั๋วโดยสารรายเดือนจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปราคา 900 บาทต่อเดือน ผู้มีรายได้น้อย ผู้มีบัตรประกันสังคม กบข. หรือผู้ที่ลงทะเบียนว่าเป็นผู้มีรายได้น้อย และนักเรียนที่เรียนสูงกว่า ม.3 ซื้อตั๋วโดยสารรายเดือนได้ในราคา 600 บาทต่อเดือน สำหรับผู้สูงอายุและพิการ ราคาเดือนละ 450 บาท ส่วนนักเรียนตั้งแต่ ม.3 ลงมา ราคาเดือนละ 300 บาท ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองและประชาชน รวมทั้งช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางและประหยัดพลังงานด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ (12 ก.ค.) เวลา 11.30 น. พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คุยนอกทำเนียบกับทีมโฆษกรัฐบาล” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ถึงการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีการฟื้นฟูปรับปรุงแหล่งน้ำครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ 6,552 แห่ง ใช้งบประมาณ 14,942 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (ปี 2552-2554) โดยในปี 2552 จะดำเนินการฟื้นฟูแหล่งน้ำที่มีความเสื่อมโทรมมากและมีความพร้อมจำนวน 1,013 แห่ง วงเงินลงทุน 4,477 ล้านบาท ทั้งนี้ จะใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วยในการดำเนินการขุดลอกคูคลอง หนอง บึง ทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น ซึ่งได้ขอความร่วมมือกับทางการจีนในด้านเทคโนโลยีและเครื่องจักรกลไกขนาดใหญ่ในการขุดลอกแหล่งน้ำ เพราะฉะนั้น จะทำให้พื้นที่ที่ขุดลอกแล้วมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 834 ลบ.ม. ประชาชนได้รับประโยชน์ทั่วประเทศ 359,562 ครัวเรือน พื้นที่ซึ่งได้รับประโยชน์ในการเกษตร 2.20 ล้านไร่ และจะทำให้มีน้ำใช้ในการเกษตรกรรมตลอดทั้งปี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงแผนปรับปรุงการบริหารจัดการและบริการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ในส่วนของการจัดหารถโดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี จำนวน 6,000 คัน โดยวิธีการเช่า เพื่อปรับปรุงระบบขนส่งมวลชนทั้งหมดของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบด้วยการปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางหลักของ ขสมก. 15 เส้นทาง เส้นทางวงแหวนชั้นใน 2 เส้นทาง ชั้นนอก 4 เส้นทาง เส้นทางด่วน 15 เส้นทาง เส้นทางสายรอง 109 เส้นทาง ทั้งนี้ จะมีการดำเนินการประกวดราคาโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e — Auction เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งบริษัทที่เข้าประมูลจะต้องสามารถจัดหารถมาให้เช่าตรงตามสเป็กที่กำหนด ทั้ง 26 รายการ และจะนำร่าง TOR ประกาศในเว็บไซต์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และกรมบัญชีกลาง เพื่อทำประชาพิจารณ์ นอกจากนี้ ในระบบตั๋วโดยสารรถเมล์ จะให้มีการใช้ e — ticket ซึ่งจะทำให้ค่าโดยสารถูกลง เพราะจะจ่ายเที่ยวเดียว 15 บาทตลอดสาย และจะมีตั๋วโดยสารรายเดือนจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปราคา 900 บาทต่อเดือน ผู้มีรายได้น้อย ผู้มีบัตรประกันสังคม กบข. หรือผู้ที่ลงทะเบียนว่าเป็นผู้มีรายได้น้อย และนักเรียนที่เรียนสูงกว่า ม.3 ซื้อตั๋วโดยสารรายเดือนได้ในราคา 600 บาทต่อเดือน สำหรับผู้สูงอายุและพิการ ราคาเดือนละ 450 บาท ส่วนนักเรียนตั้งแต่ ม.3 ลงมา ราคาเดือนละ 300 บาท ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองและประชาชน รวมทั้งช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางและประหยัดพลังงานด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--