นายกรัฐมนตรีปาฐกถาพิเศษเรื่อง "สื่อของรัฐในมุมมองของนายกรัฐมนตรี" ในพิธีเปิดงาน "2 ทศวรรษ โทรทัศน์แห่งประเทศไทย" โดยเน้นให้สถานี NBT ยึดหลักเป็นกลาง โดยไม่ต้องมีรายการสนับสนุนรัฐบาล
วันนี้ เวลา 17.00 น. ณ ห้องส่งใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษเรื่อง "สื่อของรัฐในมุมมองของนายกรัฐมนตรี" ในพิธีเปิดงาน "2 ทศวรรษ โทรทัศน์แห่งประเทศไทย" สรุปดังนี้
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยซึ่งเป็นหน่วยงานราชการ ได้ดำเนินการมาเป็นเวลาถึง 20 ปี โดยเริ่มจากสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย กรมโฆษณาการ ซึ่งเป็นสถานีวิทยุที่มีทั้งรายการบันเทิง รายการข่าว และรายการสนทนาเรื่องบ้านเมือง จากนั้นจึงเริ่มมีสถานีวิทยุ 1 ปณ. ซึ่งเป็นสถานีของทางราชการเช่นกัน จนกระทั่งพัฒนามาเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2531 ทั้งนี้ การก่อตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้รัฐสื่อสารกับประชาชนโดยตรง โดยมีการขยายสถานีไปยังต่างจังหวัดทั่วประเทศ
รัฐบาลมีนโยบายที่จะพัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ให้เป็นสถานีแห่งความเป็นกลาง โปร่งใส ฉับไวทุกสถานการณ์ และเป็นสถานีข่าวที่ให้สาระความรู้อย่างมีคุณภาพ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นสถานีข่าวของประชาชน ดังนั้น สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 จึงปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์เป็น สถานีวิทยุโทรทัศน์ NBT (National Broadcasting Service of Thailand) โดยเริ่มออกอากาศในภาพลักษณ์ใหม่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2551 และมีไอคอนที่แสดงประเภทของรายการจำนวน 9 ไอคอน ซึ่งถือเป็นความอุตสาหะของข้าราชการที่ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว โดยยึดหลักเป็นกลาง ไม่ต้องมีรายการสนับสนุนรัฐบาล แต่เชิญรัฐมนตรีมาอธิบายการดำเนินการตามนโยบายของรัฐให้ประชาชนได้รับทราบในรายการกรองสถานการณ์ สำหรับรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ก็เป็นอีกรายการหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีมาเล่าเรื่องต่างๆ ให้ประชาชนได้รับทราบ ซึ่งวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2551 นี้ จะเป็นเรื่องการดำเนินการด้านพลังงานของรัฐบาล และเรื่องการเมืองที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งประเทศบรูไน และมณฑลกวางสี ประเทศจีน เป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างกัน
ทั้งนี้ การดำเนินการของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในอนาคต จะเป็นการแบ่งช่องเพื่อออกอากาศรายการเฉพาะ เช่น รายการกีฬา (sport channel) รายการอาหาร (food channel) เป็นต้น ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงหวังว่าสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจะคงความเป็นตัวของตัวเองและรักษาการดำเนินการที่แข็งขันเพื่อความก้าวหน้าต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 17.00 น. ณ ห้องส่งใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษเรื่อง "สื่อของรัฐในมุมมองของนายกรัฐมนตรี" ในพิธีเปิดงาน "2 ทศวรรษ โทรทัศน์แห่งประเทศไทย" สรุปดังนี้
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยซึ่งเป็นหน่วยงานราชการ ได้ดำเนินการมาเป็นเวลาถึง 20 ปี โดยเริ่มจากสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย กรมโฆษณาการ ซึ่งเป็นสถานีวิทยุที่มีทั้งรายการบันเทิง รายการข่าว และรายการสนทนาเรื่องบ้านเมือง จากนั้นจึงเริ่มมีสถานีวิทยุ 1 ปณ. ซึ่งเป็นสถานีของทางราชการเช่นกัน จนกระทั่งพัฒนามาเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2531 ทั้งนี้ การก่อตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้รัฐสื่อสารกับประชาชนโดยตรง โดยมีการขยายสถานีไปยังต่างจังหวัดทั่วประเทศ
รัฐบาลมีนโยบายที่จะพัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ให้เป็นสถานีแห่งความเป็นกลาง โปร่งใส ฉับไวทุกสถานการณ์ และเป็นสถานีข่าวที่ให้สาระความรู้อย่างมีคุณภาพ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นสถานีข่าวของประชาชน ดังนั้น สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 จึงปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์เป็น สถานีวิทยุโทรทัศน์ NBT (National Broadcasting Service of Thailand) โดยเริ่มออกอากาศในภาพลักษณ์ใหม่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2551 และมีไอคอนที่แสดงประเภทของรายการจำนวน 9 ไอคอน ซึ่งถือเป็นความอุตสาหะของข้าราชการที่ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว โดยยึดหลักเป็นกลาง ไม่ต้องมีรายการสนับสนุนรัฐบาล แต่เชิญรัฐมนตรีมาอธิบายการดำเนินการตามนโยบายของรัฐให้ประชาชนได้รับทราบในรายการกรองสถานการณ์ สำหรับรายการ "สนทนาประสาสมัคร" ก็เป็นอีกรายการหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีมาเล่าเรื่องต่างๆ ให้ประชาชนได้รับทราบ ซึ่งวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2551 นี้ จะเป็นเรื่องการดำเนินการด้านพลังงานของรัฐบาล และเรื่องการเมืองที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งประเทศบรูไน และมณฑลกวางสี ประเทศจีน เป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างกัน
ทั้งนี้ การดำเนินการของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในอนาคต จะเป็นการแบ่งช่องเพื่อออกอากาศรายการเฉพาะ เช่น รายการกีฬา (sport channel) รายการอาหาร (food channel) เป็นต้น ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงหวังว่าสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจะคงความเป็นตัวของตัวเองและรักษาการดำเนินการที่แข็งขันเพื่อความก้าวหน้าต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--