รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงนายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลงนามสั่งตรวจสอบพฤติการณ์ของพลเอก ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ กรณีแต่งเครื่องแบบทหารขึ้นปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลบนเวทีพันธมิตรฯ
วันนี้ (11 ก.ค.) เวลา 14.15 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามในบันทึกข้อความ ด่วนที่สุด เพื่อให้กรมพระธรรมนูญ กรมเสมียนตรา และกองบัญชาการกองทัพไทย ตรวจสอบกรณีพลเอก ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด แต่งเครื่องแบบทหารขึ้นปราศรัยเวทีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกล่าวโจมตีรัฐบาลเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามที่พลเอก อุดมชัย องคสิงห เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเสนอ โดยให้ดำเนินการตรวจสอบว่าการกระทำของพลเอก ปฐมพงษ์ฯ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แบบธรรมเนียม และข้อบังคับต่าง ๆ ของกระทรวงกลาโหมหรือกองบัญชาการกองทัพไทย หรือไม่ และมีแนวทางปฏิบัติต่อกรณีนี้อย่างไร นอกจากนี้ ควรชี้แจงทำความเข้าใจให้ส่วนราชการในกระทรวงกลาโหมยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบโดยเร่งด่วน และรายงานผลการดำเนินการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทราบ ทั้งนี้ เนื่องจากพฤติการณ์ของพลเอก ปฐมพงษ์ฯ อาจส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อภาพลักษณ์ จุดยืน และความสามัคคีของกองทัพและกำลังพลในกองทัพ นอกจากนี้อาจทำให้ประชาชนสับสน และขาดความเชื่อมั่นต่อบทบาทสำคัญยิ่งในการปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า พฤติการณ์ของพลเอก ปฐมพงษ์ฯ นั้น ขัดต่อข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยข้าราชการกลาโหมกับการเมือง พ.ศ. 2499 ข้อ 8 ที่ระบุว่าข้าราชการกลาโหมจะต้องไม่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้าม ไม่วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของรัฐบาลให้ปรากฏแก่ประชาชน และไม่แต่งเครื่องแบบซึ่งทางราชการกำหนดไว้ร่วมประชุมพรรคการเมือง หรือไปร่วมประชุมในที่สาธารณะใด ๆ อันเป็นการประชุมที่มีลักษณะทางการเมือง อย่างชัดแจ้ง เพราะการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้นเป็นการชุมนุมที่มีลักษณะทางการเมือง อีกทั้งการแต่งเครื่องแบบทหาร คงไม่ใช่เป็นเครื่องแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือแสดงจุดยืนถึงความรักชาติ เพราะประชาชนที่อยู่ในเครื่องแต่งกายอื่น ๆ ก็เป็นคนไทยใต้ร่มพระบารมีซึ่งต้องมีจุดยืนเช่นเดียวกัน จึงอยากถามพลเอก ปฐมพงษ์ฯ ว่าการแต่งเครื่องแบบทหารไปปิดถนน และขึ้นเวทีร่วมกับกลุ่มคนที่และขึ้นเวทีร่วมกับกลุ่มคนที่กำลังขับไล่รัฐบาลของประชาชน และเป็นกลุ่มคนที่ประกาศการเมืองใหม่ที่ไม่ได้ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น ถือว่าเหมาะสมและสมควรหรือไม่
นอกจากนั้นอย่าพยายามตอกลิ่มความขัดแย้งระหว่างคนไทยและกัมพูชาด้วยข้อความที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงกรณีปราสาทพระวิหาร หากพลเอก ปฐมพงษ์ฯ ลืมข้อเท็จจริงกรณีนี้ ให้หาโอกาสดูรายการ ”ถ้าคุณแน่อย่าแพ้ ป.4 “ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จะทำให้มีความรู้และได้ข้อเท็จจริงมากขึ้น
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ (11 ก.ค.) เวลา 14.15 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามในบันทึกข้อความ ด่วนที่สุด เพื่อให้กรมพระธรรมนูญ กรมเสมียนตรา และกองบัญชาการกองทัพไทย ตรวจสอบกรณีพลเอก ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด แต่งเครื่องแบบทหารขึ้นปราศรัยเวทีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกล่าวโจมตีรัฐบาลเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามที่พลเอก อุดมชัย องคสิงห เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเสนอ โดยให้ดำเนินการตรวจสอบว่าการกระทำของพลเอก ปฐมพงษ์ฯ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แบบธรรมเนียม และข้อบังคับต่าง ๆ ของกระทรวงกลาโหมหรือกองบัญชาการกองทัพไทย หรือไม่ และมีแนวทางปฏิบัติต่อกรณีนี้อย่างไร นอกจากนี้ ควรชี้แจงทำความเข้าใจให้ส่วนราชการในกระทรวงกลาโหมยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบโดยเร่งด่วน และรายงานผลการดำเนินการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทราบ ทั้งนี้ เนื่องจากพฤติการณ์ของพลเอก ปฐมพงษ์ฯ อาจส่งผลเสียหายร้ายแรงต่อภาพลักษณ์ จุดยืน และความสามัคคีของกองทัพและกำลังพลในกองทัพ นอกจากนี้อาจทำให้ประชาชนสับสน และขาดความเชื่อมั่นต่อบทบาทสำคัญยิ่งในการปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า พฤติการณ์ของพลเอก ปฐมพงษ์ฯ นั้น ขัดต่อข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยข้าราชการกลาโหมกับการเมือง พ.ศ. 2499 ข้อ 8 ที่ระบุว่าข้าราชการกลาโหมจะต้องไม่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้าม ไม่วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของรัฐบาลให้ปรากฏแก่ประชาชน และไม่แต่งเครื่องแบบซึ่งทางราชการกำหนดไว้ร่วมประชุมพรรคการเมือง หรือไปร่วมประชุมในที่สาธารณะใด ๆ อันเป็นการประชุมที่มีลักษณะทางการเมือง อย่างชัดแจ้ง เพราะการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้นเป็นการชุมนุมที่มีลักษณะทางการเมือง อีกทั้งการแต่งเครื่องแบบทหาร คงไม่ใช่เป็นเครื่องแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือแสดงจุดยืนถึงความรักชาติ เพราะประชาชนที่อยู่ในเครื่องแต่งกายอื่น ๆ ก็เป็นคนไทยใต้ร่มพระบารมีซึ่งต้องมีจุดยืนเช่นเดียวกัน จึงอยากถามพลเอก ปฐมพงษ์ฯ ว่าการแต่งเครื่องแบบทหารไปปิดถนน และขึ้นเวทีร่วมกับกลุ่มคนที่และขึ้นเวทีร่วมกับกลุ่มคนที่กำลังขับไล่รัฐบาลของประชาชน และเป็นกลุ่มคนที่ประกาศการเมืองใหม่ที่ไม่ได้ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น ถือว่าเหมาะสมและสมควรหรือไม่
นอกจากนั้นอย่าพยายามตอกลิ่มความขัดแย้งระหว่างคนไทยและกัมพูชาด้วยข้อความที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงกรณีปราสาทพระวิหาร หากพลเอก ปฐมพงษ์ฯ ลืมข้อเท็จจริงกรณีนี้ ให้หาโอกาสดูรายการ ”ถ้าคุณแน่อย่าแพ้ ป.4 “ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จะทำให้มีความรู้และได้ข้อเท็จจริงมากขึ้น
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--