สุลต่าน ฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ สมเด็จพระราชาธิบดี แห่งบรูไนดารุสซาลาม พระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและคณะ
สุลต่าน ฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ (H.M. Sultan Haji Hassanal Bolkiah Mu’izzaddin Waddaulah) สมเด็จพระราชาธิบดี แห่งบรูไนดารุสซาลาม พระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและคณะ ในโอกาสเดินทางมาเยือนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 3-4 กรกฎาคม 2551 ณ พระราชวังนุรุล อิมาน
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระราชาธิบดี แห่งบรูไนดารุสซาลาม ได้กล่าวสุนทรพจน์ ต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม ทรงมีพระราชดำรัสแสดงความยินดีแก่นายกรัฐมนตรีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้นำรัฐบาล ประสบการณ์ที่ยาวนานของนายกรัฐมนตรี จะเป็นประโยชน์ในการบริหารประเทศ และมีความประสงค์ที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และส่งเสริมความร่วมมือที่มีค่าระหว่างกัน การเดินทางมาเยือนบรูไนในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสดีที่จะมีการทบทวน พัฒนาแนวทางความร่วมมือเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ
ในปีหน้า ไทยและบรูไนจะได้ร่วมกันเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน โดยจะได้มีการพัฒนาความร่วมมือในทุกด้าน เพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศสามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและความมั่นคง รวมทั้งจะได้มีการให้ความสำคัญต่อมิติประชาชน การขยายความรู้ การแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชื่อ และวัฒนธรรม
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระราชาธิบดี แห่งบรูไนดารุสซาลาม ยังทรงมีพระราชดำรัส เกี่ยวกับประเทศไทยในฐานะหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งอาเซียน และไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปลายปีนี้ ความมุ่งมั่นผู้นำอาเซียน จะนำไปสู่ความเจริญ และความทันสมัยของภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนอาเซียนเชื่อมั่นในอนาคตได้
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสนุทรพจน์สรุปใจความสำคัญว่า มีความซาบซึ้งต่อการต้อนรับอันอบอุ่นของรัฐบาลและประชาชนบรูไน และขอถวายพระพรในโอกาสที่จะทรงเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ 62 พรรษา ในปีนี้ รวมทั้ง การเฉลิมฉลองครบรอบความสัมพันธ์ 25 ปี ไทย-บรูไน ในปีหน้า ซึ่งมีรากฐานความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดของทั้งสองพระราชวงศ์ และในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนไทย เพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองราชย์ครบ 60 ปี ทรงมีพระราชดำรัส ที่ยังความประทับใจคนไทยมาถึงทุกวันนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
สุลต่าน ฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ (H.M. Sultan Haji Hassanal Bolkiah Mu’izzaddin Waddaulah) สมเด็จพระราชาธิบดี แห่งบรูไนดารุสซาลาม พระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและคณะ ในโอกาสเดินทางมาเยือนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 3-4 กรกฎาคม 2551 ณ พระราชวังนุรุล อิมาน
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระราชาธิบดี แห่งบรูไนดารุสซาลาม ได้กล่าวสุนทรพจน์ ต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม ทรงมีพระราชดำรัสแสดงความยินดีแก่นายกรัฐมนตรีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้นำรัฐบาล ประสบการณ์ที่ยาวนานของนายกรัฐมนตรี จะเป็นประโยชน์ในการบริหารประเทศ และมีความประสงค์ที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และส่งเสริมความร่วมมือที่มีค่าระหว่างกัน การเดินทางมาเยือนบรูไนในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสดีที่จะมีการทบทวน พัฒนาแนวทางความร่วมมือเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ
ในปีหน้า ไทยและบรูไนจะได้ร่วมกันเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน โดยจะได้มีการพัฒนาความร่วมมือในทุกด้าน เพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศสามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและความมั่นคง รวมทั้งจะได้มีการให้ความสำคัญต่อมิติประชาชน การขยายความรู้ การแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชื่อ และวัฒนธรรม
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระราชาธิบดี แห่งบรูไนดารุสซาลาม ยังทรงมีพระราชดำรัส เกี่ยวกับประเทศไทยในฐานะหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งอาเซียน และไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปลายปีนี้ ความมุ่งมั่นผู้นำอาเซียน จะนำไปสู่ความเจริญ และความทันสมัยของภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนอาเซียนเชื่อมั่นในอนาคตได้
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสนุทรพจน์สรุปใจความสำคัญว่า มีความซาบซึ้งต่อการต้อนรับอันอบอุ่นของรัฐบาลและประชาชนบรูไน และขอถวายพระพรในโอกาสที่จะทรงเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ 62 พรรษา ในปีนี้ รวมทั้ง การเฉลิมฉลองครบรอบความสัมพันธ์ 25 ปี ไทย-บรูไน ในปีหน้า ซึ่งมีรากฐานความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดของทั้งสองพระราชวงศ์ และในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนไทย เพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองราชย์ครบ 60 ปี ทรงมีพระราชดำรัส ที่ยังความประทับใจคนไทยมาถึงทุกวันนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--