ภารกิจของนายกรัฐมนตรีในการเยือนจีนวันสุดท้ายได้เยี่ยมชมตลาดตงชวน และบ้านตระกูลเฉิน ก่อนเดินทางเยือนบรูไนดารุสซาลาม พร้อมระบุมีการปล่อยข่าวเตรียมจับนายกฯ ที่สุวรรณภูมิหลังกลับถึงไทย
ภารกิจวันสุดท้าย (3 ก.ค.) ในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครกวางโจว นายกรัฐมนตรีได้ไปเดินชมตลาดตงชวน ของนครกวางโจว ซึ่งเป็นตลาดขายผัก ผลไม้ อาหารแห้ง และเนื้อสัตว์ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปเยี่ยมชมบ้านตระกูลเฉิน ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของนครกวางโจว สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง ก่อนที่จะออกเดินทางจากนครกวางโจว ด้วยเครื่องบินพิเศษของกองทัพอากาศเพื่อเดินทางเยือนบูรไนดารุสซาลามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 3-4 กรกฎาคมนี้
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทางการไทยภายหลังเยี่ยมชมบ้านตระกูลเฉิน ว่า ยังคงมีความพยายามที่จะเอาตนเองออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ โดยปล่อยข่าวว่าจะมีการจับกุมนายกฯ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อเดินทางกลับจากเยือนบรูไน ทั้งที่คดีความต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคดีหมิ่นประมาท หรือคดีที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 29 คน ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติของนายกฯ ที่จัดรายการ “ชิมไป บ่นไป” ก็ยังอยู่ในชั้นศาล โดยเฉพาะคดีคุณสมบัติ ยังมีเวลา 15 วัน ที่จะส่งเอกสารชี้แจงไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ
"คนที่ทำคือ ส.ว. 29 คน ทำเหมือนว่า ผมเป็นคนน่าชิงชัง ต้องปลดเอาออกให้ได้ และยังเอาคดีหมิ่นประมาทมาโยง เพื่อหาทางเอาผมออก เพราะฉะนั้น ตอนนี้ผมยังมีโอกาสชี้แจง ก็ขอชี้แจงบ้างว่ายังมีความพยายามที่จะปลิดผมทิ้งจากวงการเมืองอยู่ วงการที่ปล่อยข่าวว่า ผมจะถูกจับที่สุวรรณภูมิ อยากจะตอบโต้กลับไปว่า จะปล่อยข่าวลืออะไรให้ปรึกษากับฝ่ายกฎหมายด้วย จะจับผมได้อย่างไร เพราะศาลยังไม่ได้แจ้งผมว่าจะอ่านคำพิพากษา ถ้าแจ้งแล้วผมไม่ไปถึงจะจับ ถ้าแจ้งแล้วผมไป ก็ไปนั่งรอฟัง ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่โหรทำนายว่า วันที่ 2 กรกฎาคมจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงว่า วันนี้ก็วันที่ 3 กรกฎาคมแล้ว ไม่เห็นว่าประเทศไทยจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ เหตุการณ์บ้านเมืองก็ยังเรียบร้อยดี และต้องย้อนถามว่า พวกที่ทายมาจะว่าอย่างไร
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังตอบข้อซักถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 14 จังหวัดภาคใต้ประกาศไม่ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดภาคใต้ว่า ต้องยอมรับว่านายกฯ มีจิตใจดี และสูงกว่าคนพวกนั้น เพราะไม่เคยประกาศว่าถ้าคนเหล่านั้นมากรุงเทพฯ แล้วจะไล่ จึงต้องการให้ทุกคนพิจารณาว่าใครเป็นคนทำบรรยากาศในบ้านเมืองให้เกิดความเสียหาย และต้องการให้สื่อใช้วิจารณญาณในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งคงจะไม่ไปดำเนินการอะไร ใครจะแสดงออกอย่างไรก็ต้องปล่อยให้ทำไป นายกฯ ไม่เสียหาย คนที่ทำจะเกิดความเสียหายเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศเช่นนี้จะไม่ทำให้สถานการณ์ปั่นป่วนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเพราะคนพูดเช่นนี้หรือ ถ้าคนเหล่านั้นประกาศว่า สมัครเป็นนายกฯ ไม่ได้ ต้องออกไปเดี๋ยวนี้ตนไม่ต้องออกไปเลยหรือ ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์เช่นนี้ถือเป็นการปลุกระดมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นพฤติการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ต้องไปถามกลุ่มพันธมิตรฯ และขอย้ำว่าเรื่องการชุมนุมเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องดูแล
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กัมพูชาใช้แถลงการณ์ร่วมที่นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปลงนามร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมาในการยื่นขอจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเป็นความผิดอย่างไร ขอให้บอกมา และขณะนี้รัฐบาลได้ทำทุกอย่างตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง และส่งเรื่องไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว ซึ่งได้ทำอย่างตรงไปตรงมาตามกฎหมายทุกอย่าง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
ภารกิจวันสุดท้าย (3 ก.ค.) ในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ นครกวางโจว นายกรัฐมนตรีได้ไปเดินชมตลาดตงชวน ของนครกวางโจว ซึ่งเป็นตลาดขายผัก ผลไม้ อาหารแห้ง และเนื้อสัตว์ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปเยี่ยมชมบ้านตระกูลเฉิน ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของนครกวางโจว สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง ก่อนที่จะออกเดินทางจากนครกวางโจว ด้วยเครื่องบินพิเศษของกองทัพอากาศเพื่อเดินทางเยือนบูรไนดารุสซาลามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 3-4 กรกฎาคมนี้
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทางการไทยภายหลังเยี่ยมชมบ้านตระกูลเฉิน ว่า ยังคงมีความพยายามที่จะเอาตนเองออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ โดยปล่อยข่าวว่าจะมีการจับกุมนายกฯ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อเดินทางกลับจากเยือนบรูไน ทั้งที่คดีความต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคดีหมิ่นประมาท หรือคดีที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 29 คน ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติของนายกฯ ที่จัดรายการ “ชิมไป บ่นไป” ก็ยังอยู่ในชั้นศาล โดยเฉพาะคดีคุณสมบัติ ยังมีเวลา 15 วัน ที่จะส่งเอกสารชี้แจงไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ
"คนที่ทำคือ ส.ว. 29 คน ทำเหมือนว่า ผมเป็นคนน่าชิงชัง ต้องปลดเอาออกให้ได้ และยังเอาคดีหมิ่นประมาทมาโยง เพื่อหาทางเอาผมออก เพราะฉะนั้น ตอนนี้ผมยังมีโอกาสชี้แจง ก็ขอชี้แจงบ้างว่ายังมีความพยายามที่จะปลิดผมทิ้งจากวงการเมืองอยู่ วงการที่ปล่อยข่าวว่า ผมจะถูกจับที่สุวรรณภูมิ อยากจะตอบโต้กลับไปว่า จะปล่อยข่าวลืออะไรให้ปรึกษากับฝ่ายกฎหมายด้วย จะจับผมได้อย่างไร เพราะศาลยังไม่ได้แจ้งผมว่าจะอ่านคำพิพากษา ถ้าแจ้งแล้วผมไม่ไปถึงจะจับ ถ้าแจ้งแล้วผมไป ก็ไปนั่งรอฟัง ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่โหรทำนายว่า วันที่ 2 กรกฎาคมจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงว่า วันนี้ก็วันที่ 3 กรกฎาคมแล้ว ไม่เห็นว่าประเทศไทยจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ เหตุการณ์บ้านเมืองก็ยังเรียบร้อยดี และต้องย้อนถามว่า พวกที่ทายมาจะว่าอย่างไร
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังตอบข้อซักถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 14 จังหวัดภาคใต้ประกาศไม่ให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดภาคใต้ว่า ต้องยอมรับว่านายกฯ มีจิตใจดี และสูงกว่าคนพวกนั้น เพราะไม่เคยประกาศว่าถ้าคนเหล่านั้นมากรุงเทพฯ แล้วจะไล่ จึงต้องการให้ทุกคนพิจารณาว่าใครเป็นคนทำบรรยากาศในบ้านเมืองให้เกิดความเสียหาย และต้องการให้สื่อใช้วิจารณญาณในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งคงจะไม่ไปดำเนินการอะไร ใครจะแสดงออกอย่างไรก็ต้องปล่อยให้ทำไป นายกฯ ไม่เสียหาย คนที่ทำจะเกิดความเสียหายเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศเช่นนี้จะไม่ทำให้สถานการณ์ปั่นป่วนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเพราะคนพูดเช่นนี้หรือ ถ้าคนเหล่านั้นประกาศว่า สมัครเป็นนายกฯ ไม่ได้ ต้องออกไปเดี๋ยวนี้ตนไม่ต้องออกไปเลยหรือ ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์เช่นนี้ถือเป็นการปลุกระดมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นพฤติการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ต้องไปถามกลุ่มพันธมิตรฯ และขอย้ำว่าเรื่องการชุมนุมเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องดูแล
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กัมพูชาใช้แถลงการณ์ร่วมที่นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปลงนามร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมาในการยื่นขอจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเป็นความผิดอย่างไร ขอให้บอกมา และขณะนี้รัฐบาลได้ทำทุกอย่างตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง และส่งเรื่องไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว ซึ่งได้ทำอย่างตรงไปตรงมาตามกฎหมายทุกอย่าง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--