นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชาชนจีน เห็นพ้องร่วมกันรักษาและพัฒนาความสัมพันธ์ในทุกระดับ พร้อมทั้งขยายความร่วมมือทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี มุ่งส่งเสริมสนับสนุนการค้าและการลงทุน โดยคาดว่า มูลค่าการค้าระหว่างกันจะเพิ่มถึง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2010 ตามที่ตั้งไว้
วันนี้ เวลา 17.15 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงมหาศาลาประชาชน เพื่อร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ซึ่งภายหลังพิธีต้อนรับฯ นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้หารือข้อราชการเต็มคณะกับนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ห้องอันฮุย ภายในมหาศาลาประชาชน สรุปดังนี้
นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวแสดงความยินดีต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะ พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณพระบรมวงศานุวงศ์และประชาชนไทย สำหรับความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในจีน ซึ่งนับเป็นมิตรไมตรีที่จีนรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ การเยือนจีนเป็นประเทศแรกนอกอาเซียน แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพและการให้ความสัมพันธ์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย - จีน
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจีนได้กล่าวชื่นชมการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย -จีน ตลอดระยะเวลา 33 ปีที่ผ่านมา นับว่าดียิ่ง และไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ไทยและจีนยังคงร่วมมือและสนับสนุนกันมาโดยตลอด และจะยังคงดำรงต่อไป นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงการลงนามในแผนปฏิบัติการร่วมไทย-จีน ในเดือนพฤษภาคม 2550 ซึ่งเป็นการวางกรอบการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันใน 5 ปี ( 2550-2554) โดยจีนขอเน้นย้ำในประเด็นต่างๆ ได้แก่
- การรักษาการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับ
- การยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า ซึ่งการค้าได้ตั้งเป้าไว้ที่ 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2010 ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเร่งเจรจาความร่วมมือทางการค้าต่างๆ
- ยินดีสนับสนุนบริษัทเอกชนของจีนที่มีศักยภาพเข้าไปลงทุนในไทย เช่น ด้านระบบการคมนาคม รถไฟฟ้า โดยจีนได้ประกาศสนับสนุนเงินกู้ 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของไทย
- เสริมสร้างความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการศึกษา โดยยินดีสนับสนุนไทยสร้างศูนย์วัฒนธรรมไทยในจีน และยินดีร่วมลงนามความตกลงความร่วมมือด้านการศึกษากับไทย
- เร่งขยายความร่วมมือด้านการเกษตรและสาธารณสุข โดยยินดีสนับสนุนการจัดตั้งโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และฝึกอบรมและบุคลากรไทย
- ความร่วมมือในเอเชียตะวันออก โดยยินดีประสานงานและร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด และชื่นชมบทบาทของไทยในการพัฒนาความสัมพันธ์อาเซียน-จีน
- ความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยจีนยินดีสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางทหารแก่ไทย พร้อมทั้งสนับสนุนการฝึกร่วม 2 ฝ่าย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว ในจีนเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มณฑลเสฉวน พร้อมทั้งขอบคุณรัฐบาลจีนสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นประทับใจ โดยยืนยันความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นฉันท์พี่น้อง และเป็นมิตรที่ดีต่อกันมาโดยตลอด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่าประเทศไทยจะต้องเร่งพัฒนาด้านต่างๆ โดยเฉพาะระบบการคมนาคมขนส่ง ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากจีนที่มีสถานะทางการเงินที่มั่นคงและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โยเสนอให้เอกชนที่มีศักยภาพของจีนเข้าไปลงทุนร่วมกับเอกชนของไทย เพื่อพัฒนาระบบคมนาคมของไทย นอกจากนี้ ไทยเร่งแก้ปัญหาการกักเก็บน้ำ โดยวางแผนจะขุดลอกคลอง หนองบึงต่างๆ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรและแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยขอความร่วมมือจากจีน ที่มีความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี เข้าไปช่วยขุดลอกคลอง หนอง บึงต่างๆ นอกจานี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยขอให้จีนส่งเสริมนักท่องเที่ยวจีนไปไทยให้มากขึ้น ซึ่งจีนได้ตอบรับข้อเสนอ โดยจะให้ไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวของจีน และมั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางไปไทยมากขึ้น
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีจีนเยือนไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี ซึ่งนายกรัฐมนตรีจีนได้ตอบรับคำเชิญด้วยความยินดียิ่ง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 17.15 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงมหาศาลาประชาชน เพื่อร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ซึ่งภายหลังพิธีต้อนรับฯ นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้หารือข้อราชการเต็มคณะกับนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ห้องอันฮุย ภายในมหาศาลาประชาชน สรุปดังนี้
นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวแสดงความยินดีต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะ พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณพระบรมวงศานุวงศ์และประชาชนไทย สำหรับความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในจีน ซึ่งนับเป็นมิตรไมตรีที่จีนรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ การเยือนจีนเป็นประเทศแรกนอกอาเซียน แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพและการให้ความสัมพันธ์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย - จีน
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจีนได้กล่าวชื่นชมการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย -จีน ตลอดระยะเวลา 33 ปีที่ผ่านมา นับว่าดียิ่ง และไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ไทยและจีนยังคงร่วมมือและสนับสนุนกันมาโดยตลอด และจะยังคงดำรงต่อไป นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงการลงนามในแผนปฏิบัติการร่วมไทย-จีน ในเดือนพฤษภาคม 2550 ซึ่งเป็นการวางกรอบการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันใน 5 ปี ( 2550-2554) โดยจีนขอเน้นย้ำในประเด็นต่างๆ ได้แก่
- การรักษาการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับ
- การยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า ซึ่งการค้าได้ตั้งเป้าไว้ที่ 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2010 ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเร่งเจรจาความร่วมมือทางการค้าต่างๆ
- ยินดีสนับสนุนบริษัทเอกชนของจีนที่มีศักยภาพเข้าไปลงทุนในไทย เช่น ด้านระบบการคมนาคม รถไฟฟ้า โดยจีนได้ประกาศสนับสนุนเงินกู้ 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของไทย
- เสริมสร้างความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการศึกษา โดยยินดีสนับสนุนไทยสร้างศูนย์วัฒนธรรมไทยในจีน และยินดีร่วมลงนามความตกลงความร่วมมือด้านการศึกษากับไทย
- เร่งขยายความร่วมมือด้านการเกษตรและสาธารณสุข โดยยินดีสนับสนุนการจัดตั้งโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และฝึกอบรมและบุคลากรไทย
- ความร่วมมือในเอเชียตะวันออก โดยยินดีประสานงานและร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด และชื่นชมบทบาทของไทยในการพัฒนาความสัมพันธ์อาเซียน-จีน
- ความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยจีนยินดีสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางทหารแก่ไทย พร้อมทั้งสนับสนุนการฝึกร่วม 2 ฝ่าย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว ในจีนเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มณฑลเสฉวน พร้อมทั้งขอบคุณรัฐบาลจีนสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นประทับใจ โดยยืนยันความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นฉันท์พี่น้อง และเป็นมิตรที่ดีต่อกันมาโดยตลอด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่าประเทศไทยจะต้องเร่งพัฒนาด้านต่างๆ โดยเฉพาะระบบการคมนาคมขนส่ง ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากจีนที่มีสถานะทางการเงินที่มั่นคงและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โยเสนอให้เอกชนที่มีศักยภาพของจีนเข้าไปลงทุนร่วมกับเอกชนของไทย เพื่อพัฒนาระบบคมนาคมของไทย นอกจากนี้ ไทยเร่งแก้ปัญหาการกักเก็บน้ำ โดยวางแผนจะขุดลอกคลอง หนองบึงต่างๆ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรและแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยขอความร่วมมือจากจีน ที่มีความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี เข้าไปช่วยขุดลอกคลอง หนอง บึงต่างๆ นอกจานี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยขอให้จีนส่งเสริมนักท่องเที่ยวจีนไปไทยให้มากขึ้น ซึ่งจีนได้ตอบรับข้อเสนอ โดยจะให้ไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวของจีน และมั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางไปไทยมากขึ้น
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีจีนเยือนไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี ซึ่งนายกรัฐมนตรีจีนได้ตอบรับคำเชิญด้วยความยินดียิ่ง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--