นายกรัฐมนตรีชี้แจงภายหลังนายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในประเด็นการประกันราคาข้าวของรัฐบาลและการจำหน่ายข้าวถุงธงฟ้า
วันนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 11.00 น. ณ อาคารรัฐสภา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ชี้แจงภายหลังนายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในประเด็นการประกันราคาข้าวของรัฐบาลและการจำหน่ายข้าวถุงธงฟ้า ดังนี้
ท่านประธานที่เคารพ ผมสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ผมจะเรียนตอบท่านสมาชิกผู้มีเกียรติที่เพิ่งพูดจบไปเมื่อสักครู่นี้ คนที่ดึงเอกสารชิ้นนั้นออกชื่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ผมเป็นผู้บริหารบ้านเมืองนี้ครับ ผมเป็นผู้ไปเจรจากับประธานาธิบดีอาร์โรโย เรื่องต่าง ๆ นั้นบางสิ่งบางอย่างก็มาพูดในนี้ไม่ได้ครับ เพราะต้องรักษาสัมพันธไมตรี แต่สิ่งที่ผมจะพูดให้ฟังได้คือว่า ความบกพร่องของท่านรัฐมนตรี (นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์) อาจจะมีอยู่บ้าง ตั้งแต่ต้น แต่การที่พูดว่าผมปลดรัฐมนตรีออกมาจากนั่น ไม่ได้หรอกครับ เวลาที่บ้านเมืองมีปัญหา และข้าราชการส่วนหนึ่งก่อให้เกิดปัญหา วิธีการแก้ไขปัญหาก็อย่างที่ผมได้ดำเนินการ ท่านรัฐมนตรีท่านไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไรผมเลย จังหวะเวลานั้นใครจะนัดหมายกันอย่างไรไม่ทราบได้ ชาวนาบอกจะปิดถนน 4 ทิศเข้ากรุงเทพฯ ท่านรัฐมนตรีอยู่ประเทศเปรู แล้วผมไม่มีทางจะไปลากท่านมานั่งเป็นประธานได้เลย ผมต้องแก้วิกฤตการณ์ด้วยตัวผมเอง ด้วยสิ่งที่เราได้ตรวจสอบทั้งหมดแล้ว
ผมเรียนอย่างนี้นะครับว่า เมื่อเวลาที่เข้ามาทำหน้าที่นั้น เราก็แบ่งงานแบ่งหน้าที่กัน ปัญหาเรื่องข้าวที่ท่านบรรยายมาตลอดทั้งหมด ความจริงก็มีปัญหาอยู่บ้าง แต่ว่าปัญหาเรื่องนี้ก็มีสูตรที่เราคิดกันอยู่ตลอดเวลา ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ผมก็ต้องดูคนที่เป็นรัฐมนตรีที่ดูตัวเลขอยู่ ข้อขัดแย้งในระหว่างปัญหาเรื่องข้าวนั้นอยู่ที่ข้าราชการประจำกับคนที่เป็นรัฐบาล ผมไม่ยอมปล่อยให้เรื่องจะเป็นไปอย่างที่เป็น ถ้าผมไม่จัดการแก้ไขก็จะเป็นไปอย่างนี้ ท่านรัฐมนตรีเป็นคนอยู่ซีกรัฐบาล แล้วผมก็ไม่สามารถจะปล่อยให้ท่านนั่งอยู่ตรงนั้น แล้วผู้คนข้างล่างทำกันตามใจชอบ แล้วท่านก็จะไปเห็นดีเห็นงามตามกับเขา
เหตุแก้ไขทั้งหมดนั้นเกิดจากที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรี และผมไม่เห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่ข้าราชการประจำทำกันมาตลอด ปัญหานั้นถ้ามีวิกฤตอยู่บ้างก็พอแก้ไขได้ครับ พูดกันง่าย ๆ บอกว่านายกฯ ท่องตัวเลขมา ก็เขาให้ข้อมูลมาอย่างนี้นี่ครับ วันนี้ขออนุญาต ผมจะตอบปัญหาเรื่องข้าวและก็ออกรับแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไม่ใช่หน้าที่ของผมหรอกครับ แต่เป็นยิ่งกว่าหน้าที่ เพราะผมเป็นคนดึงเอกสารชิ้นนั้นออกเอง จะลำดับความให้ฟังก่อนว่า บ้านเมืองนี้เมื่อเวลาที่คนมารับหน้าที่ต่าง ๆ ก็มีข้อมูลส่งมาให้ดู สิ่งที่ผมจะต้องดูคือว่าอยู่เฉย ๆ ราคาข้าวก็ขึ้นไปแพงมาก ต้นเหตุอยู่ที่เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา ต้นเหตุอยู่ที่ว่าราคาน้ำมันขึ้น ทุกอย่างขึ้นหมด ราคาพืชผลขึ้นหมด เสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าวก็ไปขึ้นกับเขาด้วย
คงจำได้นะครับว่าผมตอบโต้ มีคนวิพากษ์วิจารณ์ คนหนึ่งเป็นประธานธนาคารโลกเขาประชุมกัน และอีกคนคือนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เขาประชุมกันเสร็จ เขาแถลงบอกว่าตำหนิติเตียนประเทศที่ปลูกข้าวว่าเป็นปัญหา ทำให้ราคาข้าวในโลกแพงขึ้น เพราะประเทศเหล่านั้นมัวไปปลูกพืชน้ำมัน ผมก็ตรวจสอบไปธรรมดา เวลานั้นใช้สำนวนแบบของผม ซึ่งถูกตำหนิติเตียนอยู่ แต่ว่ามีอาจารย์ท่านหนึ่งช่วยแปลให้ คำว่า “มึง” นั้น ภาษาอังกฤษแปลว่า you ผมถามว่าพวกมึงขึ้นราคาน้ำมันกันตามใจชอบพวกนี้อะไรต่าง ๆ เป็นสำนวนอย่างนั้นละครับ ก็ตำหนิติเตียนไปว่าขึ้นราคาน้ำมันพรวด ๆ ๆ ๆ ๆ ตั้งแต่ 9 เหรียญ 10 เหรียญ 50 เหรียญ 60 เหรียญ จนกระทั่งตอนที่พูดตอนนั้น 130 เหรียญ และผมบอกข้าวขึ้นไปเท่าไร ข้าวขึ้นไป 100 เปอร์เซ็นต์ คิดคำนวณให้ดูด้วยว่าข้าวจานหนึ่งธรรมดาเคยราคา 1.50 บาท ผลิตออกมาแล้ว 1.50 บาท ราคาใหม่เป็น 3 บาทขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ ดูเหมือนน่ากลัว น้ำมันถ้า 10 ขึ้น 100 ก็เป็นเหลือ 20 ถ้า 20 ขึ้น 100 ก็เป็น 40 แต่ว่าจาก 10 ขึ้นไปถึง 130 ขึ้น 1,300 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเวลาพูดตำหนิติเตียน ผู้คนก็ตำหนิผม ไม่เป็นไรหรอกครับพูดจากกันได้ แล้วประธานธนาคารโลกก็ขออภัยมาว่า เขาไม่ได้พูดอย่างนั้น เขาพูดจาว่ากล่าวเป็นทำนองว่าผมไปพูดจาอย่างนั้นทำไม เอาละนั่นเป็นต้นเหตุ เพราะราคาข้าวขึ้นไปดุเดือดเลือดพล่าน ผู้คนตื่นเต้นไม่เคยขายข้าวได้ราคานี้ เวลานั้นใครมีสต็อกมีข้าวพ่อค้าก็ขายกันได้แพงหมด 1,400 กว่าเหรียญ ข้าวธรรมดายังได้ 1,000 เหรียญ มาเกิดเหตุอย่างนั้น ผมก็จำเป็นจะต้องเป็นคนรู้เรื่องของข้าว ผมก็รู้อย่างที่เขาอธิบายให้ฟังว่า ในโลกนี้มีข้าวผลิตอยู่ประมาณปีละ 600 ล้านตันข้าวเปลือก และในโลกนี้ 600 ล้านตันข้าวเปลือก ประเทศไทยผลิตข้าว 30 ล้านตันข้าวเปลือก แปลว่า 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นครับ เขาเขียนชาร์ทให้ดูแปลว่า 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นครับ ผมเห็นจะร้องอุทานเลยบอกอย่างนั้นเหรอ เพราะประเทศไทยมีชื่อว่าเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก เป็นไปได้อย่างไรครับ 600 ล้านตัน เราผลิต 30 ล้านตัน 5 เปอร์เซ็นต์ของโลก ความจริงเขาใส่ 4 จุดทศนิยมกว่า ผมใช้ว่า 5 เปอร์เซ็นต์ เขาผลิตกัน 100 เปอร์เซ็นต์ เราผลิต 5 เปอร์เซ็นต์ 5 เปอร์เซ็นต์คือ 30 ล้านตัน เขาใช้ตัวเลขคร่าว ๆ กัน 30 ล้านตัน สีแล้วเป็น 20 ล้านตันข้าวสาร เขาก็พูดกันคร่าว ๆ อีกใน 20 ล้านตันนั้น 9 ล้านสำหรับกิน 9 ล้านสำหรับขาย 2 ล้านสำหรับสำรอง
นั่นละครับมีคนบอกว่าสมัครท่องตัวเลขคล่อง แน่นอนครับ ถ้าบอกแล้วผมต้องจำได้ ผมรู้รายละเอียดยิ่งกว่านั้นอีกว่าที่จริง ๆ ไม่ถึง 9 ล้าน เรากิน 6.5 ล้าน 2.5 ล้านเป็นพืชพันธุ์ เป็นข้าวที่สำหรับเอาไปใช้สำหรับทำพันธุ์ แต่ว่าใช้ตัวเลขกันคร่าว ๆ ง่าย ๆ ไม่เอารายละเอียดลงมา ก็คือว่าผลิตได้ 30 ล้านตัน สีได้ 20 ล้านตันข้าวสาร และก็ขาย 9 ล้าน กิน 9 ล้าน เก็บไว้ 2 ล้าน ขาย 9 ล้านนั่นละครับเอาทั้งโลกมาแพกันแล้ว คนไทยขายมากที่สุดในโลกคือขาย 33 เปอร์เซ็นต์ อเมริกายังขายน้อยกว่า ไม่ว่าใครจะขาย ๆ น้อยกว่าไทยทั้งนั้น ไทยจึงเป็นคนขายข้าวมากที่สุดในโลกคือ 33 เปอร์เซ็นต์ ตัวเลขอย่างนี้ไม่มาเป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่รู้ละครับ แต่อาจจะรู้ตอนเขาเป็นวิกฤตการณ์ เพราะผมชอบอ่านเรื่องพวกนี้
เมื่อรู้ข่าวอย่างนี้แล้วก็มองไปที่…ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็ขอดู บอกเลยครับมีข้าวหอมมะลิอยู่ 3 แสนตัน มีข้าวนั่นอยู่ 1 ล้านกว่าตัน บวกกันแล้ว 2.1 ล้านตัน ก็ข่าวมาหนาหูนี่ครับ ว่าข้าวที่ตอบไว้ไม่เป็นความจริงหรอก มีตัวเลขอย่างนั้น สต๊อกลม ผมก็ต้องมีคำสั่งบอกไหนช่วยตรวจสอบ เขาก็รีบส่งมาเลย นี่ละ 2 ล้านตันอยู่นั่น ๆ ๆ ๆ รัฐมนตรีคนนี้ละบอกข้าราชการ คุณยืนยันนะ ไม่มีตามนี้คุณติดตารางนะ นี่เป็นคุณภาพของรัฐมนตรีของเรา ซึ่งลงไปเล่นข้าราชการประจำ เขาจะดำเนินการอย่างไรไม่ทราบได้ละครับ แต่ว่าเราขอตรวจสอบ การตรวจสอบก็ยืดเยื้อเยิ่นเย้อ จึงต้องตั้งกรรมการตรวจสอบ จึงต้องเอาตำรวจไปตรวจ ท่านสมาชิกอภิปรายเมื่อสักครู่นี้ นั่นละครับเป็นความจริง ท่านก็รู้อย่างที่ผมรู้ วิ่งซื้อข้าวมาใส่ตรงนั้นราคาแพง เขาหาซื้อกันตรงนั้นครับ เราก็รู้วิกฤตการณ์ทั้งหมด ผมบอกแล้วคณะรัฐบาลชุดนี้เราทำให้ ไม่ได้ทำเอา แต่ว่าถ้าใครไปทำเอา รู้ต้องมาบอกผมด้วยนะครับ ผมจะได้จัดการ
เพราะฉะนั้น ใครจะใส่สูทใส่เสื้อเชิ้ตไม่ทราบได้ละครับ แต่ผมเมื่อก่อนใส่สูท เดี๋ยวนี้ ครม. ถอดสูทแล้วครับคงปลอดภัยไป เพราะไม่ได้ใส่สูทมานานแล้ว ใส่แต่เสื้อเชิ้ตนั่งประชุมกัน วันที่ถอดเอาจดหมายฉบับนี้ออกก็ใส่เสื้อเชิ้ตครับ ผมจะเรียนให้ทราบว่าทำไมผมถึงถอดเรื่องนี้ออก เมื่อดำเนินการเจรจาความกัน ผมอยู่ระหว่างการเยี่ยมเยียนอะไรต่าง ๆ 8 ประเทศ เวลาที่ผมจะพูดนั้น ผมต้องรู้พื้นฐาน เมื่อผมไปมาเลเซีย ๆ บอกว่ามีข้าวจะกิน เหลืออยู่อีกเพียงได้ 15 วัน ผมบอกท่านรัฐมนตรีเวลาที่เขานั่ง 4 eye คือนั่งคุยกัน 2 คน บอกท่านรัฐมนตรีมีปัญหาแล้วบอกมา เราอาเซียนด้วยกัน เราขายให้เลยครับ ท่านต้องการเท่าไร เขาบอกต้องการ 5 แสน บอกมาเลยครับ หลักการที่ผมอยู่ในใจไม่ได้เป็นพ่อค้าข้าว แต่ต้องการจะขายข้าวพวกนี้ออก แต่คนในกระทรวงเขาไม่อยากขาย ถูกต้องครับที่บอกไว้ว่าคนในกระทรวงเขาอยากเอาไปทำข้าวธงฟ้า ถูกต้องครับ ทำแล้วราคาข้าว ชาวนาตก ถูกต้อง เมื่อเวลาที่มีข้อเสนอมาทีแรก ผมบอกจะไปทำอย่างนั้นทำไม จะหาดิบหาดีเอาชื่อเสียงทำไม ไม่ต้องทำ ไป ๆ มา ๆ ก็ทำจนได้ ท่านรัฐมนตรีก็ไปฟังข้าราชการประจำ ท่านนั่งอยู่กับเขา ท่านก็ต้องเชื่อฟังหน่อย เพราะมาเป็นฝูง ก็ตกลงทำ เมื่อทำไปได้พักหนึ่งราคาข้าวตกวูบ ผมสั่งระงับเลยครับ ให้ทำแค่ 2 แสนถุง พัวะไปเพราะตอนสั่งบอกไป 3 แสนถุงแล้ว ไปเบรกตอน 3 แสนถุงแล้ว ก็เห็นนี่ครับอะไรต่าง ๆ ผมก็รู้เท่าที่ท่านสมาชิกรู้ครับ ก็เขาอย่างนั้นกันทำให้ราคาตก หน้าที่ของผมคือต้องไม่ให้ทำข้าวราคาตก ข้าวในโลกจะอะไรต่าง ๆ แต่เราต้องรักษาราคา
เมื่อการรักษาข้าวคือได้ตัดสินใจว่าชาวนาจะดำเนินการ ผมก็ไม่อยากให้เกิดเหตุว่าชาวนาต้องมาปิด 4 ทิศ ผมก็ดำเนินการ ผมประกาศทันที การประกาศเลยว่าเรารับซื้อที่ 14,000 ข้าวความชื้นไม่ต่ำกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ดำเนินการมาก่อน 14 เดี๋ยวนี้เพิ่ม 15 ก็เสร็จเรียบร้อยหมด แต่ก่อนมีท่าข้าว เดี๋ยวนี้เลิกท่าข้าว มันเปลี่ยนสภาพไปหมด เราศึกษาหมดครับ เมื่อเวลาที่คุณมิ่งขวัญฯ ท่านไม่อยู่ รัฐมนตรีมิ่งขวัญฯ ไม่อยู่ ผมเรียกประชุม ประชุมใครครับ ไม่ใช่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจหรอกครับ ประชุมรัฐมนตรีคนไหนที่อยู่ต่างจังหวัดและรู้เรื่องข้าว ได้มา 11 คน มาประชุมกันก่อน ข้าราชการนั่งอยู่ในห้อง ผมนั่งอีกห้องหนึ่ง ประชุมกันก่อนว่าอะไรอย่างไร ซักซ้อมชั่วโมงหนึ่งครับพูดกัน เมื่อรู้ลู่ทางเสร็จแล้ว ผมจึงไปนั่ง และก็บอกเราจะเอาอย่างนี้ อย่างนี้ ๆ ๆ ๆ ๆ เมื่อเวลาเข้าไปนั้นเราขอตั้งราคาที่ 14,000 แปลว่าชาวนาพออยู่ได้ เพราะเหตุไหนครับ เพราะเหตุว่าเมื่อเวลาที่ข้างนอกมี order เรารู้ว่า order รออยู่ แต่ว่าคนที่มีหน้าที่ บรรดาที่เขาเรียกว่า 5 เสือนั้น บอกโรงสีไม่มี order โรงสีก็กดข้าวชาวนา ในเว็บไซต์เขาก็ออกมา บอกเป็นไปได้อย่างไรเสนอตั้งราคาขาย 800, 900 แต่ว่าซื้อจากชาวนา 590 พอถอดออกมาเสร็จเรียบร้อยดูหมด ข้าวเปลือก ข้าวเหนียว ก็มีปัญหาครับ ให้แห้งจะเอา 9,000 ข้าวเหนียวมีไม่มาก เราตกลงแก้ไขปัญหาได้ ที่ปลุกระดมกันนั่นเพื่อเหตุ แต่เราบอกโอเคครับ ถ้า 15 เปอร์เซ็นต์ ตั้ง 9,000 เลย ถ้าไม่นั่นก็ตั้งราคา 8,000 ความชื้นลดตามระดับ ก็แก้ไขปัญหา
แน่นอนครับเป็นรัฐบาลต้องดูวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นผู้คนคลาดเคลื่อน ทั้งหมดเกิดจากอะไร เกิดจากน้ำมันในโลกขึ้นมา เปลี่ยนแปลงหมดครับ ปุ๋ยที่พูดเมื่อสักครู่นี้ คนที่อภิปรายแล้วให้ข้อมูลผม ผมเรียนกับอาจารย์ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อภิปรายอย่างนี้ละครับที่จะไม่มีใครไปทักไปท้วง คนท้วงก็เหมือนอารมณ์ขันบอกให้พูดช้าหน่อย แต่ผมฟังทันครับ ท่านประธานก็ฟังทัน นี่ละครับที่ให้ประโยชน์ ผมไม่ได้เป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ ผมเรียนเศรษฐศาสตร์กับอาจารย์ไตรรงค์ฯ เมื่อสักครู่ รู้ทันทีเลยครับ เอา Marco ไปแก้ Micro เวลาจะต้องแก้เอา Marco มาแก้ไม่ได้ เรียนรวดเร็วทันใจ เมื่อสักครู่นี้ชั่วโมงกว่า ไม่ต้องมีประกาศนียบัตรหรอกครับ แต่เป็นความรอบรู้ เขาก็มาถ่ายทอด ทางนี้เขาไม่ได้เรียนเศรษฐศาสตร์มา ตอนนี้เรียนเศรษฐศาสตร์มา ผมจะทำได้ยังไงครับ จะเอาฝ่ายค้านมาเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ โลกเขาต้องหัวเราะกันทั้งโลกเลย เอาฝ่ายค้านมาเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ ก็ประโยชน์ได้จากการอภิปรายก็อย่างนี้ นี่ละครับประโยชน์อย่างยิ่งเลย และยังไงครับ ก็พอจะรู้ทั้งหมดที่ท่านรู้มา วันนี้ท่านอภิปรายท่านที่ 2 วันนี้พูดกันเรื่องนี้ ก็ตรงกันครับ เรื่องที่ว่าข้าวหายไป ต้องวิ่งไปซื้อข้าวให้ข้าวขึ้น มือใหม่หัดขับก็มา แต่ก็ขับเป็นครับ พอขับได้ ยังอยู่บนถนน แต่ว่าที่เล่าให้ฟังตรงนี้แล้วออกมาตอบคำถามทันทีนั้น เพราะท่านต้องการจะถาม ก็ต้องเล่าอ้อมไปหน่อย
รัฐมนตรีบอกว่าผมมีข้าวเหลือ 15 วัน บอกมาเลย เขาส่งคนตามมา ผมก็บอกตกลง ความตื่นเต้นที่ประสบการณ์เขา มันอะไรกันนักหนา ผมยินดีจะขายข้าวจากสต็อกให้ แต่กระทรวงไม่อยากให้ขาย ไม่อยากขายข้าวสต็อก แล้วข้าว 5 แสนออกจากสต็อกจะต้องไปเจออะไรอย่างไร ผมก็บอกไหนลองพูด เอาด่วน ๆ คือคำนวณทั้งการขนเลย จะไปเรือไปรถไปต่าง ๆ เรากลัวเขาจะมีข้าวกิน จะเอาไปรถไฟ นั่งคำนวณตู้ เอาคอนเทนเนอร์นั่งได้ 27 ตัน เอาทั้งขบวนได้เท่าไร นั่งคำนวณหมด จะช่วยเขา ไป ๆ มา ๆ เขาบอกเอาใส่เรือธรรมดา ขึ้นปอดทางด้านนี้ ต้องได้ปอดกลาง ไปอ้อมแหลมช่องแคบ แต่ไม่เป็นไรครับ ตกลงฉุกเฉิน 2 แสนตัน ตรวจดูนะครับว่าเราตามดูขนาดไหน เพราะว่าผมประชุมอยู่ที่เอราวัณ ท่านทูตจะต้องพารัฐมนตรีเกษตรไปเจรจาเรื่องข้าว 5 แสนตัน เจรจากับนายกรัฐมนตรีเรื่องข้าว รัฐมนตรีพาณิชย์อยู่เจรจาความกัน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศนั่งกันเต็มหมดครับ แล้วตกลง ผมบอกไม่ขัดข้อง 5 แสนโอเค เขาเอา 2 แสนก่อน ก็ตกลงซื้อขาย
ผมพูดกับปลัดกระทรวง อธิบดีกรมการค้า ต่อหน้าท่านทูตมาเลเซียก็นั่งอยู่ ท่านรัฐมนตรีเกษตรที่มาซื้อก็นั่งอยู่ ตกลงผมบอกผมยินดีขาย ผมจะขายในสต็อก บอกยินดีขาย เอาเถอะ แล้วก็ตกลงราคาขอให้เป็นราคาในตลาดวันนี้ ท่านอธิบดีครับราคาเท่าไรตลาดวันนี้ 850 ตกลงท่านทูตโอเค ท่านรัฐมนตรีโอเค 850 2 แสนก่อนส่งทันทีเลย ผมบอกให้เสร็จภายใน 3 วันเขาจะไม่มีข้าวกิน 15 วัน ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย เชื่อไหมละครับให้ไปตกลงกันธรรมดา ข้าราชการไม่ให้เอาข้าวในสต็อก ข้าราชการไปเอาข้าวข้างนอกขาย ตกลงเจรจาความกัน รุ่งขึ้นท่านทูตต้องมาพบอีก บอกพูดจากันแล้ว ท่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียถามว่าเป็นยังไง บอกเขาพูดกัน 850 หลังจากนั้น 3 วัน เปลี่ยนแปลง ท่านทูตต้องมาขอพบ ถามมีอะไรครับ ท่านนายกฯ ฝากจดหมายขอบคุณมา ขอบคุณยังไงตกลงเราต้องเจรจาความกัน ก็เจรจา 850 เข้าไปกลายเป็นขาย 925 ตกลง 925 ท่านทูตตอบไปที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จาก 2 แสนตัน 925 เขาตกลงนะครับ
เสร็จเรียบร้อยท่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียส่งจดหมายขอบคุณมา ทางพ่อค้าบอกไม่ได้ ต้องเอา 950 ผมก็ว๊ากเลยสิครับ ผมบอกอะไร ข้าราชการไม่รักษาหน้านายกรัฐมนตรี ก็ตกลงกับเขา 850 วันนั้น เพียงรุ่งขึ้น 2 วัน ไปทำเป็น 925 นายกฯ มาเลเซีย บอกโอเค 925 พ่อค้าบอกจะเอา 970 ตกลงข้าวชุดนั้นซื้อขายกันราคา 940 เหรียญต่อตัน ผมฟังแล้วผมบอกอย่างนี้ใช้ไม่ได้เลยจริง ๆ ผมต้องเชิญรัฐมนตรีเกษตรมา เชื่อไหมครับจะต้องซื้อเครื่องหุงข้าว ต้องหุงข้าวให้ผู้แทนต่างประเทศมาดูครับว่ายังไง ความคิดของผม ผมต้องการขายข้าวข้างในนั้น ที่เรารีสต๊อกในราคาแพ็ค
ตกลงต้องขอเรียนอย่างนี้นะครับ เขาซื้อขายกันในราคา 940 ซึ่งเป็นความขมขื่นมาก ผมละอายท่านนายกฯ มาเลเซีย ไม่รู้เท่าไร ๆ ๆ ท่านขอบคุณมาที่ตกลง 925 แต่วันมาเจรจาความ 850 ราคาขึ้นไปเพราะจะขายได้ ผมก็ต้องเรียนบทเรียนเรื่องนี้ว่าตกลงซื้อขายกัน 3 แสน ผมก็อธิบายความให้ฟังเลย นี่พูดกันกลางสภา เพราะผมก็มีความรู้เรื่องเอาข้าวใส่ถุงขาย ข้าวมันข้าวเก่า ข้าราชการบอก old rice ไม่มี แต่ธรรมดาเขาเรียกว่าข้าวในสต๊อก ปีนี้ 08 เขาเรียก 07 06 ข้าว 08 07 ก็เป็นข้าวเก่า เรารู้ดีข้าวเก่าหุงขึ้นหม้อ แต่ไม่มียาง กินแล้วไม่มีบุญคุณ แต่ถ้าเผื่อข้าวใหม่หุงแล้วมียางแฉะ ผมก็ขายข้าวมาแล้วครับ ปี 28 ผมขายข้าวประชากรไทย เพราะกระทรวงพาณิชย์ทำปัญหา เอาข้าวใหม่ใส่ถุงขาย หุงเช้าเย็นบูด ผมต้องเอาข้าวเก่า 5 ส่วน ผมเป็นคนค้นพบเรื่องนี้คือข้าวเก่า 5 ข้าวใหม่ 2 ผสมกัน เขาเรียกว่า blend ผสมกันแล้วหุงออกมาข้าวขึ้นหม้อพอสมควร และนุ่มนวล นั่นละครับข้าวที่เอามาผสมกัน ผมก็ใช้สูตรนี้
ผมต้องบอกผู้แทนมาเลเซียซึ่งมารอบที่ 2 จะเอา 3 แสน ผมบอกนี่ผมจะช่วยทำความเข้าใจให้ท่าน ไปดูข้าวก่อนว่า 3 แสนหน้าตาเป็นอย่างนี้ แล้วข้าวก็เป็นข้าวเก่า แต่ว่าข้าวเก่าคนไทยก็กินกันอยู่ ไม่มียางแต่ขึ้นหม้อ แต่ถ้ากินข้าวให้ดีเอาข้าวใหม่ ผมรับประกันราคาข้าวไว้เวลานี้ ผมบอกราคาข้าวใหม่ของผม 14,000 กับชาวนาข้าวกำลังออกทุกวัน เรากำลังรับซื้ออยู่ ซื้อแล้วเข้าอบแล้วสีเลย ชาวไร่ชาวนาภายใน 3 เดือนเรียกว่าจำนำ เพราะระหว่างนี้ถ้าราคาขึ้นไป 15,000 เอาใบประทวนมาเติมให้ 1,000 ระหว่างนี้ขึ้นไป 16,000 เอาใบมาเติม 2,000 เพราะข้าวที่รับไว้นั้น อบแห้งแล้วสีเลย เพื่ออะไรครับ เพื่อผมจะต้องระบายข้าวในสต๊อก 2.1 ล้านเอาออก เพราะต้องเอาสตางค์มาเตรียมจะซื้อปลายปี ระหว่างนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ระหว่างนี้ ธ.ก.ส.มาดำเนินการ เอา 2.5 ล้านตัน ตั้งวงเงินไว้ 20,000 ล้าน จะเอาตรงนี้ก่อน
มีคนมาต่อว่า ถูกต้องครับ ตอนผมเข้ามายังไม่มีปัญหา พอผมเข้ามาอยู่ได้หน่อยมีปัญหา ผมก็เริ่มทำตรงนี้ ผมทำวันที่ 15 มิถุนายน ก็ดำเนินการให้ ทำไมยืดยาด มีปัญหาตามแก้ไขหมด ทำไมกรรมการต้อง 4 ชุด ต้อง 4 ชุดครับ เพราะให้ตรวจเช็คซึ่งกันและกัน ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้เป็นใครครับ เป็นนักการเมืองร่วมรัฐบาล ต้องให้เกียรติยศท่านหน่อย ท่านคือรัฐมนตรีสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านมีโรงสีครับ ท่านขายข้าวครับ ทุกอย่างที่เป็นข้อบกพร่อง คุณสมศักดิ์ฯ มานั่ง และไปเป็นที่ปรึกษาใหญ่ในการดำเนินการเขียนสเป็กทั้งหมดเลย เพื่อไม่ให้มีการคดโกงกัน ท่านได้ช่วยดูแลทุกอย่าง เพราะท่านมีประสบการณ์ เอากี่ลูกไปกี่วัน เขาเอาไปกี่วัน 7 ลูก หรือ 7 บาท ท่านเรียกถูกหมดเลยครับ สีแล้วได้กี่ลูกมาคิดได้เท่าไร เขาเรียกว่าได้ 6 ลูก แต่ 6 ลูกกว่า ถ้าสีแค่นั้นเหลือ 5 เขาเสนอมา 5.83 ท่านบอกไม่ได้ เขาเสนอเอาค่าข้าว 550 ท่านบอกไม่ได้ 450 ก็แย่งกันสี เรื่องนี้เรารู้หมดครับ และทำกันแบบว่าทำให้ไม่ทำเอา เอาผู้เชี่ยวชาญซึ่ง ส.ส.เป็นรัฐมนตรีเกษตร และเชี่ยวชาญเรื่องนี้เพราะมีโรงสีเอง เราตรวจสอบหมดดำเนินการ และเมื่อทำเสร็จแล้ว ผมบอกรัฐมนตรีเลยมาใหม่อีกแล้ว ต้องเอาไปดูบอกข้าวเก่าอย่างนี้นะ 5 เปอร์เซ็นต์ Old Rice ก็ Old Rice ก็ตามแต่ แต่ผมเอาข้าวใหม่ ท่านจะซื้ออย่างนี้ ผมอธิบายให้ฟังเลย แล้วไม่ปิดบัง ท่านซื้อผมเพื่อไม่ให้ใครมาต่อว่าได้ ไม่ได้พวกที่จะแย่งประมูลเอาข้าวไปขาย ผมจะขายเอง จะทำ G to G แต่ทว่าจะเป็น G to G แบบชนิดที่เรียกว่าใครด่าไม่ได้
ตอนนี้ถ้าผมขายข้าว 5 เปอร์เซ็นต์ 900 เหรียญ ใครด่าผมไม่ได้หรอกครับ ผมถึงบอกว่าถ้าจะซื้อเท่านี้ จำนวนขนาดนี้ คิดอัตราส่วนซื้อ 5 ส่วนตันละ 900 และไปซื้อข้าวใหม่ที่เราสีไว้แล้วตรงนี้ บวกกำไรเสร็จตกประมาณ 700 เอาข้าว 500 900 5 ส่วน 700 2 ส่วน เอามา blend กันออกมาจะได้ราคาตรงนี้ พอใจไหมราคานี้ แล้วข้าวหุงมาแล้วเป็นอย่างนี้ ก็จะเอาข้าว 2.1 ต้องเอาออกหมดครับ เพราะว่าข้าวใหม่จะออกมา จะต้องแยกซื้อ ที่บอกวิกฤตการณ์นั้น ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญละครับ แต่เราจะต้องขายข้าวตรงนี้ กำไรครับ สิ่งที่แอบทำเงียบ ๆ ไม่เป็นข่าวไม่ออก ก็เช่นว่า คุก เขาจะตายไม่ตาย เราจะช่วยคุก แปลว่าไม่ให้คุกต้องไปซื้อ ทหารเกณฑ์ไม่เยอะหรอกครับ แต่ทหารเกณฑ์ซื้อข้าวกระสอบละ 1,200 บัดนี้ขึ้น ผมไปเยี่ยมทหารเกณฑ์ 2,400 ข้าวราคาเท่าตัว แต่กับข้าวถูกลดหมด
ผมบอกเอาเถอะสต๊อกผมมี ผมจะขายสต๊อกให้อย่างนั้น ก็เป็นเรื่องภายใน ก็ทำกันภายในไม่เอิกเกริก ไม่ให้กระทบกระเทือน แต่ต้องพยายามขายข้าวอันนี้ พูดไปอย่างนี้ ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ฟังไม่ชอบละครับ เขาไม่อยากให้ขาย แต่ผมต้องเอาออก เพราะผมกำลังจะซื้อนาปรังเดือนกรกฎาคม และผมจะซื้อนาปรังเดือนพฤศจิกายน ธันวาคม ต้องเอาสตางค์มาเตรียมการไว้ เพื่อไม่ให้ข้าวราคาตกต่ำ เจรจาความกันขนาดโทรศัพท์ไปถึงนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ผมโทรศัพท์ไปครับกำลังประชุมอยู่กระทรวงการต่างประเทศ ต้องหยุดชั่วคราวให้คนนั้นเป็นประธานแทน ผมต้องมาพูดโทรศัพท์กับนายกฯ เวียดนาม ผมบอกตกลงราคาเราต้องมาตกลง ไม่ใช่ฮั้วกันนะครับ บอกยืนราคาสูงที่สุดจะสูงยังไง เราจะตามดู จะให้ขายก่อน ผมจะขายทีหลัง ไม่เป็นไร ทำไมครับ เขากำลังเกิดวิกฤตการณ์ของเขา เขากำลังจะเกิดต้มยำกุ้ง ถ้าเป็นเพื่อนบ้านมา ผมต้องโทรศัพท์ไปหาบอกเอาเลย ขายก่อนเลย แต่ตั้งราคาให้สูงไว้นะ เพราะเรารู้ว่าเหลือเรากับเวียดนามเท่านั้นที่จะตั้งราคาได้ ก็ตั้งครับ
เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับ แต่บางสิ่งบางอย่างที่ไม่ต้องการเปิด เพราะพูดกับท่านประธานาธิบดีเอาไว้ ฟิลิปปินส์เขาไม่ขาดข้าว ผมไปตลาดทำไมครับ เมืองไทยไปตลาดมีร้านข้าว 2 ร้าน ฟิลิปปินส์ไปตลาดมีร้านข้าว 10 ร้าน ผมตรวจสอบหมดครับ และท่านทูตต้องให้ข้อมูลผม ผมบอกประธานาธิบดีอาร์โรโยว่าถ้าท่านต้องการข้าว ต้องการจริง ๆ บอกเลยครับเราเป็นเพื่อนบ้าน ผมมีสต๊อกอย่างนั้น ก่อนเลยเอาเลยได้ทันทีในราคาที่จะตกลงกันเป็นราคามิตรภาพ แต่ถ้าท่านอยากประมูล ท่านให้ฝ่ายพ่อค้าประมูล พ่อค้าประมูลแล้วเราจะไม่สลักหลัง เพราะว่าในวิกฤตการณ์อย่างนี้ในอาเซียน 10 ประเทศ เราจะขายข้าวประเภทราคา Friendship ก็ตกลงกันอย่างนี้ครับ ข้าราชการก็นั่งอยู่ตรงนั้น เมื่อเสร็จแล้วทำมาบอกให้ยื่นประมูล ข้าราชการที่เราส่งไปประจำที่โน่น เขาก็กระซิบมาบอกว่าไม่ต้องยื่น ถ้าจะขายตรงขายได้ แต่ถ้ายื่นแล้วให้เป็นพ่อค้าเขาดำเนินการ ไม่มีอะไรเสียหายเลยครับ เพราะพ่อค้าเขา เราไม่ยื่นเขาก็ดำเนินการ เขาบอกแล้ว G to G ไม่ยื่นประมูล พูดกับประธานาธิบดีเองครับว่า G to G ไม่ยื่นประมูล เพราะทางที่จริงคือกระทรวงพาณิชย์ไม่ต้องทำมาเข้า ครม. เพราะว่า G to G ไม่ยื่นประมูล G to G พร้อมจะขาย ถ้าจะยื่นประมูลให้พ่อค้าประมูล ตกลงกันแบบนี้ แต่ทำหนังสือจะให้รัฐบาลไทยยื่นประมูล ผมบอกไม่ ผมพูดกับท่านประธานาธิบดีเอง พูดกันมาแล้ว เราจะขาย G to G ผมจะข้าวนี้ออกให้หมด ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ไม่อยากให้ออก แต่ให้ยื่นประมูล ยื่นประมูลต้องคนอื่นได้ครับ
เพราะเหตุว่าเขามีระบบของเขา ที่พูดมาเมื่อสักครู่ ผมไม่ต้องพูดซ้ำหรอกครับ เรื่องระบบใต้โต๊ะของเขา เพราะฉะนั้น เมื่อเรารู้อะไรอย่างนี้ เราก็ไม่มาพูดจาอย่างนั้น ผมแน่ใจว่าผมทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าเขาต้องการข้าวจริง รัฐบาลกับรัฐบาลขายให้ในราคาสูงพอสมควร ผมมีหนทางออกที่จะระบาย ผมเรียกว่าข้าวที่ชนิดว่าเป็นข้าว blend ผสมกัน เก่า 5 ใหม่ 2 และเขาก็มาตรวจสอบแล้ว หุงกันดูแล้ว เราก็จะขายข้าวเก่าได้ในราคาสูงและกำไรเยอะด้วย แต่เงินที่จะได้จะใช้สำหรับปลายปี เพราะฉะนั้น เรื่องพรรค์อย่างนี้ผมก็ขอเรียนให้ทราบว่าเราทำทุกระยะทุกขนาด เมื่อเวลาที่เห็นบอกว่าจะทำธงฟ้า พอธงฟ้าทำให้ราคาตก ถูกต้อง ท่านสมาชิกอภิปรายถูกต้องเลยครับ รู้เลยว่าทำให้กระทบกระเทือน ก็ใครเป็นคนสั่งหยุดละครับ นายสมัครเป็นคนสั่งเลย ทำหนังสือบอกขอให้หยุด ข้าราชการไม่พอใจ
ผมบอกอย่างนี้ว่าเวลาจะทำ ผมบอกให้สลิปออกไปในตลาดให้ซึมออกไป ที่เคยซื้อเคยขายก็ทำไป ไม่ต้องแถลงได้ไหม บอกอธิบายชัดเจนไม่ต้องแถลงเวลาส่งข้าวออกไป ออกข่าวเลยที่โน่นเท่านั้นเท่านี้ บอกไม่ต้องแถลงได้ไหม พอทำเสร็จแล้วออกข่าว นี่แปลว่าพูดภาษาคนกันไม่รู้เรื่องเหรอ บอกถ้าอยากจะทำ ให้ทำไป เพื่อจะช่วยเหลือคนยากจน ไม่ต้องออกข่าว ออกข่าวทุกครั้งที่จะเอาออกไป แปลว่ายังไงครับ แปลว่าต้องการจะทำให้ข้าวราคาตก เจตนาเลยครับ บอก 2 หน 3 หนว่าไม่ให้แถลงก็แถลง เอิกเกริก ทีวีก็ประโคมข่าวทำข้าวธงฟ้าออก ผมบอกไม่ได้หยุดเลย ผมก็ให้หยุด ผมไม่ได้เป็นรัฐมนตรีพาณิชย์หรอกครับ รัฐมนตรีพาณิชย์เป็นพวกผม แต่ไปนั่งตรงนั้นเขาก็จะพยายามยื้อยุด ผมบอกไม่ได้ ผมต้องช่วย ผมต้องคอยดูแล เพราะฉะนั้น งานพรรค์อย่างนี้ก็เป็นหน้าที่รับผิดชอบของผม ผมดูแลกันอยู่ครับ อยู่ในทีมเดียวกันทั้ง 35 คน รายละเอียดจะถลกกันยังไงไม่มีปัญหาครับ
เรื่องปุ๋ยก็เหมือนกัน ทำครับ ก็ตามไปดู เขาอ้างว่าน้ำมันขึ้น ปุ๋ยต้องขึ้น ผมบอกไม่จริงเลย เพราะเหตุว่าเมื่อเวลาที่เราตรวจสอบ คุณบอกราคาทุน 16,000 คุณขายราคา 20,000 กว่า แต่เราตรวจสอบแล้วราคาจริง ๆ คาซัคสถาน ราคา 9,400 เท่านั้นเท่านี้ รัฐมนตรีเกษตรขอ 3,000 ล้าน ผมบอกเอา 10 เปอร์เซ็นต์ไปลองให้ผมดูหน่อย เป็นการทดลอง รัฐมนตรีก็ทำเลย คนละพรรคนะครับ บอกช่วยทดลองหน่อย ก็ซื้อได้ 9,400 จริง ๆ เพราะฉะนั้น ระบบที่บอกกันที่ทำอย่างนั้นกัน เจตนาท่านอาจจะดี แต่อาจจะไปถูกพ่อค้าทำ
ก็ขอบพระคุณที่ได้มาฟัง ถ้าระบบเป็นอย่างนั้นจริง คือเจตนาดีไปทำ แต่ว่ามีคนไปหากิน เรื่องนี้ก็ตรวจสอบ ผมขอยืนยันครับว่าสถานการณ์นั้นก็มองดูอยู่ ที่เข้าไปดูแลนั้นเป็นฝูง แต่ไม่ใช่เหลือบ เป็นคนที่เข้ามาช่วยคนละไม้คนละมือ และคนที่ตรวจสอบผมอยู่เวลานี้เป็นรัฐมนตรีสังกัดพรรคชาติไทย ผมไปค้นพบเองว่ารัฐมนตรีสมศักดิ์ฯ ท่านตกลงตรวจสอบหมดว่ายังไม่มีอะไรพัวพันนะ จะมาส่งข้าวให้รัฐบาลเดี๋ยวบรรลัย บอกไม่มี เขาจัดการไม่นั่น แต่ความชำนาญนั้นมีอยู่ คนตรวจสอบเบื้องต้น ผมไม่ได้เอาคนในพรรคพลังประชาชน เอาคนพรรคชาติไทยเป็นคนตรวจสอบ เป็นผู้เชี่ยวชาญ ไปทำกันอย่างนี้แปลว่าไม่หากิน และไม่ฮั้ว ที่ต้องดำเนินการนั้น การขายนั้น ผมจะบอกให้ฟัง ผมจะต้องเอาข้าวที่สต๊อกออก แต่ว่าต่อไปอาจจะสต๊อกมากขึ้น เพราะอะไรครับ เพราะเขาต้องปลูกกันมากขึ้น ต่อไปกำลังทำระบบอย่างไร ต้องระบบไซโล ที่ยังไม่ทั่วถึงนั้น 270 เอามาได้ 170 หายไป 100 เขาบอกว่าไม่ได้สีขาว มีคนบอกเอาสีเทาไหม บอกอย่าเพิ่ง ที่พูดไว้ชัดเจนเลยครับ บอกต้องจน บอกลองขีดเป็นเส้น ไม่ได้ห้าม คือถ้าที่นี่เบี้ยวไปอีกอันหนึ่ง เป็นกรุ๊ป 3 จังหวัดเป็นคลัสเตอร์ 3 จังหวัด 2 จังหวัด ให้ทำได้
และมีคุยกันเรื่องไซโลว่าต้องลงทุนเท่าไร มีคนลงทุนไซโลมหึมา แต่ว่าถูกเป็นแบล็กลิสต์ มีคนลงทุนไซโลราคา 2,000 ล้าน อยู่ที่จังหวัดใกล้ ที่ป่าโมกครับ 2,000 ล้าน ข้าวเก่าข้าวใหม่เอาไป blend หมด จะแยกข้าวเปลือกจะทำยังไง พอแห้งแล้วเอาความเย็นใส่จะอยู่ 3 ปี สีเป็นข้าวใหม่ ศึกษาหมดทุกอย่างครับ และกำลังแก้ไขว่าจะทำยังไง เพราะระบบไซโลครับ ต่อไปนี้ใครจะปลูกยังไง ผมไม่ได้มีคุณพ่อเป็นชาวนา แต่ชอบเรื่องนี้ครับ เพราะว่าไปปาฐกถาเรื่องพระพุทธรูปที่เชียงแสน สุโขทัย คำเดียวที่บอกว่าทำไมพระพุทธรูปสุโขทัยถึงหน้าตาดี ยิ้ม ลงไปถึงว่าเขาบอกว่าการจะปั้นพระพุทธรูปนั้น ต้องคนหน้าตาดีที่สุด ที่สุโขทัยทำไมดี เพราะสุโขทัยมีดีครับ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว พ่อเมืองบ่เอาจังกอบในไพร่ลู่ทาง คุยกันเรื่องข้าว เวลาขับรถจากพิษณุโลกไปสุโขทัย 2 ข้างเป็นทุ่งรวงทอง มีนามีปลา มันต้องสนใจ และที่สุดก็สนใจ สนใจขนาดไหนปาฐกถาเรื่องข้าวได้ครับ อะไรคือข้าวนาปี ข้าวหนีน้ำยังไง ข้าวไวแสง ไม่ไวแสง ต้องรู้หมดเลยครับ ข้าวนาปรังทำได้ภาคกลาง กำลังจะเอาน้ำให้ทางอีสานทำ ข้าวดีที่สุดอยู่ทางภาคอีสาน ราคาดีหอมมะลิอยู่ที่นั่น ปีหนึ่งทำข้าวเปลือก 10 ล้านตันที่นั่น ทางใต้ข้าวน้อยกว่าเพื่อน
ศึกษาหมดครับ ศึกษาแม้กระทั่งโกพงษ์ที่อยู่จังหวัดพิษณุโลก บางระกำ ขายทอง ขุดทองทำเหมืองทองเจ๊ง เอาเครื่องมือมาทำ ผมคุยเรื่องโกพงษ์ ปาฐกถาเรื่องนี้ไม่มีใครไปดู ตามไปดูสิครับ ซื้อที่มา 1,000 ไร่ แบ่ง 500 ไร่ไถเป็นคัน เรื่องแม่น้ำยม วันก่อนก็พูดถึง หน้าน้ำน้ำท่วม หน้าแล้งลองไปขุด ต้องเอาไปสูบน้ำที่ก้นแม่น้ำ แต่ว่าเขาทำคันกัน 4 เมตรสูง และปลูกข้าว ข้าวใหม่นะครับ 105 วัน เอา 3 คูณ ก็ 315 เหลือ 51 เอา 3 หาร ภายใน 17 วันหลังจากเกี่ยว ผมนี่ละครับโฆษณารถคันที่ว่ามาจากจีน แต่ก่อนเรียกจีนแดง ขึ้นมาปั๊บโยนมาใส่ถุง ๆ ๆ ๆ ผู้จัดการเป็นผู้หญิง มาเกี่ยวเลยครับ ต้องทำให้เสร็จ เกี่ยวแล้วก็โยนใส่ถุง 17 วันต้องใส่ให้เสร็จ เวลามาทำน้ำตม ที่อื่นเขาให้ 100 แกให้ 200 ทำเป็นอุตสาหกรรมครับ
แต่ก่อนข้าวนาปี พอโรงเรียนเปิดเทอมเริ่มแล้วตกกล้ากัน เสร็จแล้วก็ทำกล้าออกไปดำ 5-6 เดือนกว่าจะนั่น เดือน 11 น้ำนอง เดือน 12 น้ำทรง พอเสร็จแล้วข้าวก็หนีน้ำ เดือนอ้าย เดือนยี่ น้ำก็รี่ไหลลง ข้าวแห้ง ตัดมาต้องเผาฟาง เล่าหมดครับ ชาวนาเสร็จก็ตีไก่ กัดปลา บวชลูก ต่อมาก็มีเขื่อนภูมิพล มีเขื่อนสิริกิติ์ ดูแล 22 จังหวัด ระบบชลประทาน แล้วก็ปลูกข้าวนาปรังได้ ใครปลูก 2 crop เก่งมาก ต่อมาก็ 5 crop ใน 2 ปี ยิ่งเก่งใหญ่ เดี๋ยวนี้ปีละ 3 crop เดี๋ยวนี้ยิ่งกว่าปีละ 3 crop คือเขาเกี่ยวข้าววันที่ฝนไม่ตก น้ำนองอยู่ก็เกี่ยวได้ ซื้อมาจากนอกคันละ 2.5 ล้าน ลงไปไม่ได้จมครับ เมคอินไทยแลนด์ ราคา 8.5 แสน ฝนไม่ตกเกี่ยวเลยครับ เปียก ๆ นั่นละครับ ราคายอมรับความชื้นแล้วก็เอาไปอบ ขอเล่าให้ฟังเท่านั้นเพื่อจะบอกว่าได้เข้าใจเรื่องนี้ ได้รู้เรื่องนี้ และก็รักชาวนาเหมือนกัน ขอบคุณครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 11.00 น. ณ อาคารรัฐสภา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ชี้แจงภายหลังนายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในประเด็นการประกันราคาข้าวของรัฐบาลและการจำหน่ายข้าวถุงธงฟ้า ดังนี้
ท่านประธานที่เคารพ ผมสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ผมจะเรียนตอบท่านสมาชิกผู้มีเกียรติที่เพิ่งพูดจบไปเมื่อสักครู่นี้ คนที่ดึงเอกสารชิ้นนั้นออกชื่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ผมเป็นผู้บริหารบ้านเมืองนี้ครับ ผมเป็นผู้ไปเจรจากับประธานาธิบดีอาร์โรโย เรื่องต่าง ๆ นั้นบางสิ่งบางอย่างก็มาพูดในนี้ไม่ได้ครับ เพราะต้องรักษาสัมพันธไมตรี แต่สิ่งที่ผมจะพูดให้ฟังได้คือว่า ความบกพร่องของท่านรัฐมนตรี (นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์) อาจจะมีอยู่บ้าง ตั้งแต่ต้น แต่การที่พูดว่าผมปลดรัฐมนตรีออกมาจากนั่น ไม่ได้หรอกครับ เวลาที่บ้านเมืองมีปัญหา และข้าราชการส่วนหนึ่งก่อให้เกิดปัญหา วิธีการแก้ไขปัญหาก็อย่างที่ผมได้ดำเนินการ ท่านรัฐมนตรีท่านไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไรผมเลย จังหวะเวลานั้นใครจะนัดหมายกันอย่างไรไม่ทราบได้ ชาวนาบอกจะปิดถนน 4 ทิศเข้ากรุงเทพฯ ท่านรัฐมนตรีอยู่ประเทศเปรู แล้วผมไม่มีทางจะไปลากท่านมานั่งเป็นประธานได้เลย ผมต้องแก้วิกฤตการณ์ด้วยตัวผมเอง ด้วยสิ่งที่เราได้ตรวจสอบทั้งหมดแล้ว
ผมเรียนอย่างนี้นะครับว่า เมื่อเวลาที่เข้ามาทำหน้าที่นั้น เราก็แบ่งงานแบ่งหน้าที่กัน ปัญหาเรื่องข้าวที่ท่านบรรยายมาตลอดทั้งหมด ความจริงก็มีปัญหาอยู่บ้าง แต่ว่าปัญหาเรื่องนี้ก็มีสูตรที่เราคิดกันอยู่ตลอดเวลา ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ผมก็ต้องดูคนที่เป็นรัฐมนตรีที่ดูตัวเลขอยู่ ข้อขัดแย้งในระหว่างปัญหาเรื่องข้าวนั้นอยู่ที่ข้าราชการประจำกับคนที่เป็นรัฐบาล ผมไม่ยอมปล่อยให้เรื่องจะเป็นไปอย่างที่เป็น ถ้าผมไม่จัดการแก้ไขก็จะเป็นไปอย่างนี้ ท่านรัฐมนตรีเป็นคนอยู่ซีกรัฐบาล แล้วผมก็ไม่สามารถจะปล่อยให้ท่านนั่งอยู่ตรงนั้น แล้วผู้คนข้างล่างทำกันตามใจชอบ แล้วท่านก็จะไปเห็นดีเห็นงามตามกับเขา
เหตุแก้ไขทั้งหมดนั้นเกิดจากที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรี และผมไม่เห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่ข้าราชการประจำทำกันมาตลอด ปัญหานั้นถ้ามีวิกฤตอยู่บ้างก็พอแก้ไขได้ครับ พูดกันง่าย ๆ บอกว่านายกฯ ท่องตัวเลขมา ก็เขาให้ข้อมูลมาอย่างนี้นี่ครับ วันนี้ขออนุญาต ผมจะตอบปัญหาเรื่องข้าวและก็ออกรับแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไม่ใช่หน้าที่ของผมหรอกครับ แต่เป็นยิ่งกว่าหน้าที่ เพราะผมเป็นคนดึงเอกสารชิ้นนั้นออกเอง จะลำดับความให้ฟังก่อนว่า บ้านเมืองนี้เมื่อเวลาที่คนมารับหน้าที่ต่าง ๆ ก็มีข้อมูลส่งมาให้ดู สิ่งที่ผมจะต้องดูคือว่าอยู่เฉย ๆ ราคาข้าวก็ขึ้นไปแพงมาก ต้นเหตุอยู่ที่เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา ต้นเหตุอยู่ที่ว่าราคาน้ำมันขึ้น ทุกอย่างขึ้นหมด ราคาพืชผลขึ้นหมด เสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าวก็ไปขึ้นกับเขาด้วย
คงจำได้นะครับว่าผมตอบโต้ มีคนวิพากษ์วิจารณ์ คนหนึ่งเป็นประธานธนาคารโลกเขาประชุมกัน และอีกคนคือนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เขาประชุมกันเสร็จ เขาแถลงบอกว่าตำหนิติเตียนประเทศที่ปลูกข้าวว่าเป็นปัญหา ทำให้ราคาข้าวในโลกแพงขึ้น เพราะประเทศเหล่านั้นมัวไปปลูกพืชน้ำมัน ผมก็ตรวจสอบไปธรรมดา เวลานั้นใช้สำนวนแบบของผม ซึ่งถูกตำหนิติเตียนอยู่ แต่ว่ามีอาจารย์ท่านหนึ่งช่วยแปลให้ คำว่า “มึง” นั้น ภาษาอังกฤษแปลว่า you ผมถามว่าพวกมึงขึ้นราคาน้ำมันกันตามใจชอบพวกนี้อะไรต่าง ๆ เป็นสำนวนอย่างนั้นละครับ ก็ตำหนิติเตียนไปว่าขึ้นราคาน้ำมันพรวด ๆ ๆ ๆ ๆ ตั้งแต่ 9 เหรียญ 10 เหรียญ 50 เหรียญ 60 เหรียญ จนกระทั่งตอนที่พูดตอนนั้น 130 เหรียญ และผมบอกข้าวขึ้นไปเท่าไร ข้าวขึ้นไป 100 เปอร์เซ็นต์ คิดคำนวณให้ดูด้วยว่าข้าวจานหนึ่งธรรมดาเคยราคา 1.50 บาท ผลิตออกมาแล้ว 1.50 บาท ราคาใหม่เป็น 3 บาทขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ ดูเหมือนน่ากลัว น้ำมันถ้า 10 ขึ้น 100 ก็เป็นเหลือ 20 ถ้า 20 ขึ้น 100 ก็เป็น 40 แต่ว่าจาก 10 ขึ้นไปถึง 130 ขึ้น 1,300 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเวลาพูดตำหนิติเตียน ผู้คนก็ตำหนิผม ไม่เป็นไรหรอกครับพูดจากกันได้ แล้วประธานธนาคารโลกก็ขออภัยมาว่า เขาไม่ได้พูดอย่างนั้น เขาพูดจาว่ากล่าวเป็นทำนองว่าผมไปพูดจาอย่างนั้นทำไม เอาละนั่นเป็นต้นเหตุ เพราะราคาข้าวขึ้นไปดุเดือดเลือดพล่าน ผู้คนตื่นเต้นไม่เคยขายข้าวได้ราคานี้ เวลานั้นใครมีสต็อกมีข้าวพ่อค้าก็ขายกันได้แพงหมด 1,400 กว่าเหรียญ ข้าวธรรมดายังได้ 1,000 เหรียญ มาเกิดเหตุอย่างนั้น ผมก็จำเป็นจะต้องเป็นคนรู้เรื่องของข้าว ผมก็รู้อย่างที่เขาอธิบายให้ฟังว่า ในโลกนี้มีข้าวผลิตอยู่ประมาณปีละ 600 ล้านตันข้าวเปลือก และในโลกนี้ 600 ล้านตันข้าวเปลือก ประเทศไทยผลิตข้าว 30 ล้านตันข้าวเปลือก แปลว่า 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นครับ เขาเขียนชาร์ทให้ดูแปลว่า 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นครับ ผมเห็นจะร้องอุทานเลยบอกอย่างนั้นเหรอ เพราะประเทศไทยมีชื่อว่าเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก เป็นไปได้อย่างไรครับ 600 ล้านตัน เราผลิต 30 ล้านตัน 5 เปอร์เซ็นต์ของโลก ความจริงเขาใส่ 4 จุดทศนิยมกว่า ผมใช้ว่า 5 เปอร์เซ็นต์ เขาผลิตกัน 100 เปอร์เซ็นต์ เราผลิต 5 เปอร์เซ็นต์ 5 เปอร์เซ็นต์คือ 30 ล้านตัน เขาใช้ตัวเลขคร่าว ๆ กัน 30 ล้านตัน สีแล้วเป็น 20 ล้านตันข้าวสาร เขาก็พูดกันคร่าว ๆ อีกใน 20 ล้านตันนั้น 9 ล้านสำหรับกิน 9 ล้านสำหรับขาย 2 ล้านสำหรับสำรอง
นั่นละครับมีคนบอกว่าสมัครท่องตัวเลขคล่อง แน่นอนครับ ถ้าบอกแล้วผมต้องจำได้ ผมรู้รายละเอียดยิ่งกว่านั้นอีกว่าที่จริง ๆ ไม่ถึง 9 ล้าน เรากิน 6.5 ล้าน 2.5 ล้านเป็นพืชพันธุ์ เป็นข้าวที่สำหรับเอาไปใช้สำหรับทำพันธุ์ แต่ว่าใช้ตัวเลขกันคร่าว ๆ ง่าย ๆ ไม่เอารายละเอียดลงมา ก็คือว่าผลิตได้ 30 ล้านตัน สีได้ 20 ล้านตันข้าวสาร และก็ขาย 9 ล้าน กิน 9 ล้าน เก็บไว้ 2 ล้าน ขาย 9 ล้านนั่นละครับเอาทั้งโลกมาแพกันแล้ว คนไทยขายมากที่สุดในโลกคือขาย 33 เปอร์เซ็นต์ อเมริกายังขายน้อยกว่า ไม่ว่าใครจะขาย ๆ น้อยกว่าไทยทั้งนั้น ไทยจึงเป็นคนขายข้าวมากที่สุดในโลกคือ 33 เปอร์เซ็นต์ ตัวเลขอย่างนี้ไม่มาเป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่รู้ละครับ แต่อาจจะรู้ตอนเขาเป็นวิกฤตการณ์ เพราะผมชอบอ่านเรื่องพวกนี้
เมื่อรู้ข่าวอย่างนี้แล้วก็มองไปที่…ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็ขอดู บอกเลยครับมีข้าวหอมมะลิอยู่ 3 แสนตัน มีข้าวนั่นอยู่ 1 ล้านกว่าตัน บวกกันแล้ว 2.1 ล้านตัน ก็ข่าวมาหนาหูนี่ครับ ว่าข้าวที่ตอบไว้ไม่เป็นความจริงหรอก มีตัวเลขอย่างนั้น สต๊อกลม ผมก็ต้องมีคำสั่งบอกไหนช่วยตรวจสอบ เขาก็รีบส่งมาเลย นี่ละ 2 ล้านตันอยู่นั่น ๆ ๆ ๆ รัฐมนตรีคนนี้ละบอกข้าราชการ คุณยืนยันนะ ไม่มีตามนี้คุณติดตารางนะ นี่เป็นคุณภาพของรัฐมนตรีของเรา ซึ่งลงไปเล่นข้าราชการประจำ เขาจะดำเนินการอย่างไรไม่ทราบได้ละครับ แต่ว่าเราขอตรวจสอบ การตรวจสอบก็ยืดเยื้อเยิ่นเย้อ จึงต้องตั้งกรรมการตรวจสอบ จึงต้องเอาตำรวจไปตรวจ ท่านสมาชิกอภิปรายเมื่อสักครู่นี้ นั่นละครับเป็นความจริง ท่านก็รู้อย่างที่ผมรู้ วิ่งซื้อข้าวมาใส่ตรงนั้นราคาแพง เขาหาซื้อกันตรงนั้นครับ เราก็รู้วิกฤตการณ์ทั้งหมด ผมบอกแล้วคณะรัฐบาลชุดนี้เราทำให้ ไม่ได้ทำเอา แต่ว่าถ้าใครไปทำเอา รู้ต้องมาบอกผมด้วยนะครับ ผมจะได้จัดการ
เพราะฉะนั้น ใครจะใส่สูทใส่เสื้อเชิ้ตไม่ทราบได้ละครับ แต่ผมเมื่อก่อนใส่สูท เดี๋ยวนี้ ครม. ถอดสูทแล้วครับคงปลอดภัยไป เพราะไม่ได้ใส่สูทมานานแล้ว ใส่แต่เสื้อเชิ้ตนั่งประชุมกัน วันที่ถอดเอาจดหมายฉบับนี้ออกก็ใส่เสื้อเชิ้ตครับ ผมจะเรียนให้ทราบว่าทำไมผมถึงถอดเรื่องนี้ออก เมื่อดำเนินการเจรจาความกัน ผมอยู่ระหว่างการเยี่ยมเยียนอะไรต่าง ๆ 8 ประเทศ เวลาที่ผมจะพูดนั้น ผมต้องรู้พื้นฐาน เมื่อผมไปมาเลเซีย ๆ บอกว่ามีข้าวจะกิน เหลืออยู่อีกเพียงได้ 15 วัน ผมบอกท่านรัฐมนตรีเวลาที่เขานั่ง 4 eye คือนั่งคุยกัน 2 คน บอกท่านรัฐมนตรีมีปัญหาแล้วบอกมา เราอาเซียนด้วยกัน เราขายให้เลยครับ ท่านต้องการเท่าไร เขาบอกต้องการ 5 แสน บอกมาเลยครับ หลักการที่ผมอยู่ในใจไม่ได้เป็นพ่อค้าข้าว แต่ต้องการจะขายข้าวพวกนี้ออก แต่คนในกระทรวงเขาไม่อยากขาย ถูกต้องครับที่บอกไว้ว่าคนในกระทรวงเขาอยากเอาไปทำข้าวธงฟ้า ถูกต้องครับ ทำแล้วราคาข้าว ชาวนาตก ถูกต้อง เมื่อเวลาที่มีข้อเสนอมาทีแรก ผมบอกจะไปทำอย่างนั้นทำไม จะหาดิบหาดีเอาชื่อเสียงทำไม ไม่ต้องทำ ไป ๆ มา ๆ ก็ทำจนได้ ท่านรัฐมนตรีก็ไปฟังข้าราชการประจำ ท่านนั่งอยู่กับเขา ท่านก็ต้องเชื่อฟังหน่อย เพราะมาเป็นฝูง ก็ตกลงทำ เมื่อทำไปได้พักหนึ่งราคาข้าวตกวูบ ผมสั่งระงับเลยครับ ให้ทำแค่ 2 แสนถุง พัวะไปเพราะตอนสั่งบอกไป 3 แสนถุงแล้ว ไปเบรกตอน 3 แสนถุงแล้ว ก็เห็นนี่ครับอะไรต่าง ๆ ผมก็รู้เท่าที่ท่านสมาชิกรู้ครับ ก็เขาอย่างนั้นกันทำให้ราคาตก หน้าที่ของผมคือต้องไม่ให้ทำข้าวราคาตก ข้าวในโลกจะอะไรต่าง ๆ แต่เราต้องรักษาราคา
เมื่อการรักษาข้าวคือได้ตัดสินใจว่าชาวนาจะดำเนินการ ผมก็ไม่อยากให้เกิดเหตุว่าชาวนาต้องมาปิด 4 ทิศ ผมก็ดำเนินการ ผมประกาศทันที การประกาศเลยว่าเรารับซื้อที่ 14,000 ข้าวความชื้นไม่ต่ำกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ดำเนินการมาก่อน 14 เดี๋ยวนี้เพิ่ม 15 ก็เสร็จเรียบร้อยหมด แต่ก่อนมีท่าข้าว เดี๋ยวนี้เลิกท่าข้าว มันเปลี่ยนสภาพไปหมด เราศึกษาหมดครับ เมื่อเวลาที่คุณมิ่งขวัญฯ ท่านไม่อยู่ รัฐมนตรีมิ่งขวัญฯ ไม่อยู่ ผมเรียกประชุม ประชุมใครครับ ไม่ใช่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจหรอกครับ ประชุมรัฐมนตรีคนไหนที่อยู่ต่างจังหวัดและรู้เรื่องข้าว ได้มา 11 คน มาประชุมกันก่อน ข้าราชการนั่งอยู่ในห้อง ผมนั่งอีกห้องหนึ่ง ประชุมกันก่อนว่าอะไรอย่างไร ซักซ้อมชั่วโมงหนึ่งครับพูดกัน เมื่อรู้ลู่ทางเสร็จแล้ว ผมจึงไปนั่ง และก็บอกเราจะเอาอย่างนี้ อย่างนี้ ๆ ๆ ๆ ๆ เมื่อเวลาเข้าไปนั้นเราขอตั้งราคาที่ 14,000 แปลว่าชาวนาพออยู่ได้ เพราะเหตุไหนครับ เพราะเหตุว่าเมื่อเวลาที่ข้างนอกมี order เรารู้ว่า order รออยู่ แต่ว่าคนที่มีหน้าที่ บรรดาที่เขาเรียกว่า 5 เสือนั้น บอกโรงสีไม่มี order โรงสีก็กดข้าวชาวนา ในเว็บไซต์เขาก็ออกมา บอกเป็นไปได้อย่างไรเสนอตั้งราคาขาย 800, 900 แต่ว่าซื้อจากชาวนา 590 พอถอดออกมาเสร็จเรียบร้อยดูหมด ข้าวเปลือก ข้าวเหนียว ก็มีปัญหาครับ ให้แห้งจะเอา 9,000 ข้าวเหนียวมีไม่มาก เราตกลงแก้ไขปัญหาได้ ที่ปลุกระดมกันนั่นเพื่อเหตุ แต่เราบอกโอเคครับ ถ้า 15 เปอร์เซ็นต์ ตั้ง 9,000 เลย ถ้าไม่นั่นก็ตั้งราคา 8,000 ความชื้นลดตามระดับ ก็แก้ไขปัญหา
แน่นอนครับเป็นรัฐบาลต้องดูวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นผู้คนคลาดเคลื่อน ทั้งหมดเกิดจากอะไร เกิดจากน้ำมันในโลกขึ้นมา เปลี่ยนแปลงหมดครับ ปุ๋ยที่พูดเมื่อสักครู่นี้ คนที่อภิปรายแล้วให้ข้อมูลผม ผมเรียนกับอาจารย์ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อภิปรายอย่างนี้ละครับที่จะไม่มีใครไปทักไปท้วง คนท้วงก็เหมือนอารมณ์ขันบอกให้พูดช้าหน่อย แต่ผมฟังทันครับ ท่านประธานก็ฟังทัน นี่ละครับที่ให้ประโยชน์ ผมไม่ได้เป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ ผมเรียนเศรษฐศาสตร์กับอาจารย์ไตรรงค์ฯ เมื่อสักครู่ รู้ทันทีเลยครับ เอา Marco ไปแก้ Micro เวลาจะต้องแก้เอา Marco มาแก้ไม่ได้ เรียนรวดเร็วทันใจ เมื่อสักครู่นี้ชั่วโมงกว่า ไม่ต้องมีประกาศนียบัตรหรอกครับ แต่เป็นความรอบรู้ เขาก็มาถ่ายทอด ทางนี้เขาไม่ได้เรียนเศรษฐศาสตร์มา ตอนนี้เรียนเศรษฐศาสตร์มา ผมจะทำได้ยังไงครับ จะเอาฝ่ายค้านมาเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ โลกเขาต้องหัวเราะกันทั้งโลกเลย เอาฝ่ายค้านมาเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ ก็ประโยชน์ได้จากการอภิปรายก็อย่างนี้ นี่ละครับประโยชน์อย่างยิ่งเลย และยังไงครับ ก็พอจะรู้ทั้งหมดที่ท่านรู้มา วันนี้ท่านอภิปรายท่านที่ 2 วันนี้พูดกันเรื่องนี้ ก็ตรงกันครับ เรื่องที่ว่าข้าวหายไป ต้องวิ่งไปซื้อข้าวให้ข้าวขึ้น มือใหม่หัดขับก็มา แต่ก็ขับเป็นครับ พอขับได้ ยังอยู่บนถนน แต่ว่าที่เล่าให้ฟังตรงนี้แล้วออกมาตอบคำถามทันทีนั้น เพราะท่านต้องการจะถาม ก็ต้องเล่าอ้อมไปหน่อย
รัฐมนตรีบอกว่าผมมีข้าวเหลือ 15 วัน บอกมาเลย เขาส่งคนตามมา ผมก็บอกตกลง ความตื่นเต้นที่ประสบการณ์เขา มันอะไรกันนักหนา ผมยินดีจะขายข้าวจากสต็อกให้ แต่กระทรวงไม่อยากให้ขาย ไม่อยากขายข้าวสต็อก แล้วข้าว 5 แสนออกจากสต็อกจะต้องไปเจออะไรอย่างไร ผมก็บอกไหนลองพูด เอาด่วน ๆ คือคำนวณทั้งการขนเลย จะไปเรือไปรถไปต่าง ๆ เรากลัวเขาจะมีข้าวกิน จะเอาไปรถไฟ นั่งคำนวณตู้ เอาคอนเทนเนอร์นั่งได้ 27 ตัน เอาทั้งขบวนได้เท่าไร นั่งคำนวณหมด จะช่วยเขา ไป ๆ มา ๆ เขาบอกเอาใส่เรือธรรมดา ขึ้นปอดทางด้านนี้ ต้องได้ปอดกลาง ไปอ้อมแหลมช่องแคบ แต่ไม่เป็นไรครับ ตกลงฉุกเฉิน 2 แสนตัน ตรวจดูนะครับว่าเราตามดูขนาดไหน เพราะว่าผมประชุมอยู่ที่เอราวัณ ท่านทูตจะต้องพารัฐมนตรีเกษตรไปเจรจาเรื่องข้าว 5 แสนตัน เจรจากับนายกรัฐมนตรีเรื่องข้าว รัฐมนตรีพาณิชย์อยู่เจรจาความกัน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศนั่งกันเต็มหมดครับ แล้วตกลง ผมบอกไม่ขัดข้อง 5 แสนโอเค เขาเอา 2 แสนก่อน ก็ตกลงซื้อขาย
ผมพูดกับปลัดกระทรวง อธิบดีกรมการค้า ต่อหน้าท่านทูตมาเลเซียก็นั่งอยู่ ท่านรัฐมนตรีเกษตรที่มาซื้อก็นั่งอยู่ ตกลงผมบอกผมยินดีขาย ผมจะขายในสต็อก บอกยินดีขาย เอาเถอะ แล้วก็ตกลงราคาขอให้เป็นราคาในตลาดวันนี้ ท่านอธิบดีครับราคาเท่าไรตลาดวันนี้ 850 ตกลงท่านทูตโอเค ท่านรัฐมนตรีโอเค 850 2 แสนก่อนส่งทันทีเลย ผมบอกให้เสร็จภายใน 3 วันเขาจะไม่มีข้าวกิน 15 วัน ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย เชื่อไหมละครับให้ไปตกลงกันธรรมดา ข้าราชการไม่ให้เอาข้าวในสต็อก ข้าราชการไปเอาข้าวข้างนอกขาย ตกลงเจรจาความกัน รุ่งขึ้นท่านทูตต้องมาพบอีก บอกพูดจากันแล้ว ท่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียถามว่าเป็นยังไง บอกเขาพูดกัน 850 หลังจากนั้น 3 วัน เปลี่ยนแปลง ท่านทูตต้องมาขอพบ ถามมีอะไรครับ ท่านนายกฯ ฝากจดหมายขอบคุณมา ขอบคุณยังไงตกลงเราต้องเจรจาความกัน ก็เจรจา 850 เข้าไปกลายเป็นขาย 925 ตกลง 925 ท่านทูตตอบไปที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จาก 2 แสนตัน 925 เขาตกลงนะครับ
เสร็จเรียบร้อยท่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียส่งจดหมายขอบคุณมา ทางพ่อค้าบอกไม่ได้ ต้องเอา 950 ผมก็ว๊ากเลยสิครับ ผมบอกอะไร ข้าราชการไม่รักษาหน้านายกรัฐมนตรี ก็ตกลงกับเขา 850 วันนั้น เพียงรุ่งขึ้น 2 วัน ไปทำเป็น 925 นายกฯ มาเลเซีย บอกโอเค 925 พ่อค้าบอกจะเอา 970 ตกลงข้าวชุดนั้นซื้อขายกันราคา 940 เหรียญต่อตัน ผมฟังแล้วผมบอกอย่างนี้ใช้ไม่ได้เลยจริง ๆ ผมต้องเชิญรัฐมนตรีเกษตรมา เชื่อไหมครับจะต้องซื้อเครื่องหุงข้าว ต้องหุงข้าวให้ผู้แทนต่างประเทศมาดูครับว่ายังไง ความคิดของผม ผมต้องการขายข้าวข้างในนั้น ที่เรารีสต๊อกในราคาแพ็ค
ตกลงต้องขอเรียนอย่างนี้นะครับ เขาซื้อขายกันในราคา 940 ซึ่งเป็นความขมขื่นมาก ผมละอายท่านนายกฯ มาเลเซีย ไม่รู้เท่าไร ๆ ๆ ท่านขอบคุณมาที่ตกลง 925 แต่วันมาเจรจาความ 850 ราคาขึ้นไปเพราะจะขายได้ ผมก็ต้องเรียนบทเรียนเรื่องนี้ว่าตกลงซื้อขายกัน 3 แสน ผมก็อธิบายความให้ฟังเลย นี่พูดกันกลางสภา เพราะผมก็มีความรู้เรื่องเอาข้าวใส่ถุงขาย ข้าวมันข้าวเก่า ข้าราชการบอก old rice ไม่มี แต่ธรรมดาเขาเรียกว่าข้าวในสต๊อก ปีนี้ 08 เขาเรียก 07 06 ข้าว 08 07 ก็เป็นข้าวเก่า เรารู้ดีข้าวเก่าหุงขึ้นหม้อ แต่ไม่มียาง กินแล้วไม่มีบุญคุณ แต่ถ้าเผื่อข้าวใหม่หุงแล้วมียางแฉะ ผมก็ขายข้าวมาแล้วครับ ปี 28 ผมขายข้าวประชากรไทย เพราะกระทรวงพาณิชย์ทำปัญหา เอาข้าวใหม่ใส่ถุงขาย หุงเช้าเย็นบูด ผมต้องเอาข้าวเก่า 5 ส่วน ผมเป็นคนค้นพบเรื่องนี้คือข้าวเก่า 5 ข้าวใหม่ 2 ผสมกัน เขาเรียกว่า blend ผสมกันแล้วหุงออกมาข้าวขึ้นหม้อพอสมควร และนุ่มนวล นั่นละครับข้าวที่เอามาผสมกัน ผมก็ใช้สูตรนี้
ผมต้องบอกผู้แทนมาเลเซียซึ่งมารอบที่ 2 จะเอา 3 แสน ผมบอกนี่ผมจะช่วยทำความเข้าใจให้ท่าน ไปดูข้าวก่อนว่า 3 แสนหน้าตาเป็นอย่างนี้ แล้วข้าวก็เป็นข้าวเก่า แต่ว่าข้าวเก่าคนไทยก็กินกันอยู่ ไม่มียางแต่ขึ้นหม้อ แต่ถ้ากินข้าวให้ดีเอาข้าวใหม่ ผมรับประกันราคาข้าวไว้เวลานี้ ผมบอกราคาข้าวใหม่ของผม 14,000 กับชาวนาข้าวกำลังออกทุกวัน เรากำลังรับซื้ออยู่ ซื้อแล้วเข้าอบแล้วสีเลย ชาวไร่ชาวนาภายใน 3 เดือนเรียกว่าจำนำ เพราะระหว่างนี้ถ้าราคาขึ้นไป 15,000 เอาใบประทวนมาเติมให้ 1,000 ระหว่างนี้ขึ้นไป 16,000 เอาใบมาเติม 2,000 เพราะข้าวที่รับไว้นั้น อบแห้งแล้วสีเลย เพื่ออะไรครับ เพื่อผมจะต้องระบายข้าวในสต๊อก 2.1 ล้านเอาออก เพราะต้องเอาสตางค์มาเตรียมจะซื้อปลายปี ระหว่างนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ระหว่างนี้ ธ.ก.ส.มาดำเนินการ เอา 2.5 ล้านตัน ตั้งวงเงินไว้ 20,000 ล้าน จะเอาตรงนี้ก่อน
มีคนมาต่อว่า ถูกต้องครับ ตอนผมเข้ามายังไม่มีปัญหา พอผมเข้ามาอยู่ได้หน่อยมีปัญหา ผมก็เริ่มทำตรงนี้ ผมทำวันที่ 15 มิถุนายน ก็ดำเนินการให้ ทำไมยืดยาด มีปัญหาตามแก้ไขหมด ทำไมกรรมการต้อง 4 ชุด ต้อง 4 ชุดครับ เพราะให้ตรวจเช็คซึ่งกันและกัน ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้เป็นใครครับ เป็นนักการเมืองร่วมรัฐบาล ต้องให้เกียรติยศท่านหน่อย ท่านคือรัฐมนตรีสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านมีโรงสีครับ ท่านขายข้าวครับ ทุกอย่างที่เป็นข้อบกพร่อง คุณสมศักดิ์ฯ มานั่ง และไปเป็นที่ปรึกษาใหญ่ในการดำเนินการเขียนสเป็กทั้งหมดเลย เพื่อไม่ให้มีการคดโกงกัน ท่านได้ช่วยดูแลทุกอย่าง เพราะท่านมีประสบการณ์ เอากี่ลูกไปกี่วัน เขาเอาไปกี่วัน 7 ลูก หรือ 7 บาท ท่านเรียกถูกหมดเลยครับ สีแล้วได้กี่ลูกมาคิดได้เท่าไร เขาเรียกว่าได้ 6 ลูก แต่ 6 ลูกกว่า ถ้าสีแค่นั้นเหลือ 5 เขาเสนอมา 5.83 ท่านบอกไม่ได้ เขาเสนอเอาค่าข้าว 550 ท่านบอกไม่ได้ 450 ก็แย่งกันสี เรื่องนี้เรารู้หมดครับ และทำกันแบบว่าทำให้ไม่ทำเอา เอาผู้เชี่ยวชาญซึ่ง ส.ส.เป็นรัฐมนตรีเกษตร และเชี่ยวชาญเรื่องนี้เพราะมีโรงสีเอง เราตรวจสอบหมดดำเนินการ และเมื่อทำเสร็จแล้ว ผมบอกรัฐมนตรีเลยมาใหม่อีกแล้ว ต้องเอาไปดูบอกข้าวเก่าอย่างนี้นะ 5 เปอร์เซ็นต์ Old Rice ก็ Old Rice ก็ตามแต่ แต่ผมเอาข้าวใหม่ ท่านจะซื้ออย่างนี้ ผมอธิบายให้ฟังเลย แล้วไม่ปิดบัง ท่านซื้อผมเพื่อไม่ให้ใครมาต่อว่าได้ ไม่ได้พวกที่จะแย่งประมูลเอาข้าวไปขาย ผมจะขายเอง จะทำ G to G แต่ทว่าจะเป็น G to G แบบชนิดที่เรียกว่าใครด่าไม่ได้
ตอนนี้ถ้าผมขายข้าว 5 เปอร์เซ็นต์ 900 เหรียญ ใครด่าผมไม่ได้หรอกครับ ผมถึงบอกว่าถ้าจะซื้อเท่านี้ จำนวนขนาดนี้ คิดอัตราส่วนซื้อ 5 ส่วนตันละ 900 และไปซื้อข้าวใหม่ที่เราสีไว้แล้วตรงนี้ บวกกำไรเสร็จตกประมาณ 700 เอาข้าว 500 900 5 ส่วน 700 2 ส่วน เอามา blend กันออกมาจะได้ราคาตรงนี้ พอใจไหมราคานี้ แล้วข้าวหุงมาแล้วเป็นอย่างนี้ ก็จะเอาข้าว 2.1 ต้องเอาออกหมดครับ เพราะว่าข้าวใหม่จะออกมา จะต้องแยกซื้อ ที่บอกวิกฤตการณ์นั้น ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญละครับ แต่เราจะต้องขายข้าวตรงนี้ กำไรครับ สิ่งที่แอบทำเงียบ ๆ ไม่เป็นข่าวไม่ออก ก็เช่นว่า คุก เขาจะตายไม่ตาย เราจะช่วยคุก แปลว่าไม่ให้คุกต้องไปซื้อ ทหารเกณฑ์ไม่เยอะหรอกครับ แต่ทหารเกณฑ์ซื้อข้าวกระสอบละ 1,200 บัดนี้ขึ้น ผมไปเยี่ยมทหารเกณฑ์ 2,400 ข้าวราคาเท่าตัว แต่กับข้าวถูกลดหมด
ผมบอกเอาเถอะสต๊อกผมมี ผมจะขายสต๊อกให้อย่างนั้น ก็เป็นเรื่องภายใน ก็ทำกันภายในไม่เอิกเกริก ไม่ให้กระทบกระเทือน แต่ต้องพยายามขายข้าวอันนี้ พูดไปอย่างนี้ ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ฟังไม่ชอบละครับ เขาไม่อยากให้ขาย แต่ผมต้องเอาออก เพราะผมกำลังจะซื้อนาปรังเดือนกรกฎาคม และผมจะซื้อนาปรังเดือนพฤศจิกายน ธันวาคม ต้องเอาสตางค์มาเตรียมการไว้ เพื่อไม่ให้ข้าวราคาตกต่ำ เจรจาความกันขนาดโทรศัพท์ไปถึงนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ผมโทรศัพท์ไปครับกำลังประชุมอยู่กระทรวงการต่างประเทศ ต้องหยุดชั่วคราวให้คนนั้นเป็นประธานแทน ผมต้องมาพูดโทรศัพท์กับนายกฯ เวียดนาม ผมบอกตกลงราคาเราต้องมาตกลง ไม่ใช่ฮั้วกันนะครับ บอกยืนราคาสูงที่สุดจะสูงยังไง เราจะตามดู จะให้ขายก่อน ผมจะขายทีหลัง ไม่เป็นไร ทำไมครับ เขากำลังเกิดวิกฤตการณ์ของเขา เขากำลังจะเกิดต้มยำกุ้ง ถ้าเป็นเพื่อนบ้านมา ผมต้องโทรศัพท์ไปหาบอกเอาเลย ขายก่อนเลย แต่ตั้งราคาให้สูงไว้นะ เพราะเรารู้ว่าเหลือเรากับเวียดนามเท่านั้นที่จะตั้งราคาได้ ก็ตั้งครับ
เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับ แต่บางสิ่งบางอย่างที่ไม่ต้องการเปิด เพราะพูดกับท่านประธานาธิบดีเอาไว้ ฟิลิปปินส์เขาไม่ขาดข้าว ผมไปตลาดทำไมครับ เมืองไทยไปตลาดมีร้านข้าว 2 ร้าน ฟิลิปปินส์ไปตลาดมีร้านข้าว 10 ร้าน ผมตรวจสอบหมดครับ และท่านทูตต้องให้ข้อมูลผม ผมบอกประธานาธิบดีอาร์โรโยว่าถ้าท่านต้องการข้าว ต้องการจริง ๆ บอกเลยครับเราเป็นเพื่อนบ้าน ผมมีสต๊อกอย่างนั้น ก่อนเลยเอาเลยได้ทันทีในราคาที่จะตกลงกันเป็นราคามิตรภาพ แต่ถ้าท่านอยากประมูล ท่านให้ฝ่ายพ่อค้าประมูล พ่อค้าประมูลแล้วเราจะไม่สลักหลัง เพราะว่าในวิกฤตการณ์อย่างนี้ในอาเซียน 10 ประเทศ เราจะขายข้าวประเภทราคา Friendship ก็ตกลงกันอย่างนี้ครับ ข้าราชการก็นั่งอยู่ตรงนั้น เมื่อเสร็จแล้วทำมาบอกให้ยื่นประมูล ข้าราชการที่เราส่งไปประจำที่โน่น เขาก็กระซิบมาบอกว่าไม่ต้องยื่น ถ้าจะขายตรงขายได้ แต่ถ้ายื่นแล้วให้เป็นพ่อค้าเขาดำเนินการ ไม่มีอะไรเสียหายเลยครับ เพราะพ่อค้าเขา เราไม่ยื่นเขาก็ดำเนินการ เขาบอกแล้ว G to G ไม่ยื่นประมูล พูดกับประธานาธิบดีเองครับว่า G to G ไม่ยื่นประมูล เพราะทางที่จริงคือกระทรวงพาณิชย์ไม่ต้องทำมาเข้า ครม. เพราะว่า G to G ไม่ยื่นประมูล G to G พร้อมจะขาย ถ้าจะยื่นประมูลให้พ่อค้าประมูล ตกลงกันแบบนี้ แต่ทำหนังสือจะให้รัฐบาลไทยยื่นประมูล ผมบอกไม่ ผมพูดกับท่านประธานาธิบดีเอง พูดกันมาแล้ว เราจะขาย G to G ผมจะข้าวนี้ออกให้หมด ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ไม่อยากให้ออก แต่ให้ยื่นประมูล ยื่นประมูลต้องคนอื่นได้ครับ
เพราะเหตุว่าเขามีระบบของเขา ที่พูดมาเมื่อสักครู่ ผมไม่ต้องพูดซ้ำหรอกครับ เรื่องระบบใต้โต๊ะของเขา เพราะฉะนั้น เมื่อเรารู้อะไรอย่างนี้ เราก็ไม่มาพูดจาอย่างนั้น ผมแน่ใจว่าผมทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าเขาต้องการข้าวจริง รัฐบาลกับรัฐบาลขายให้ในราคาสูงพอสมควร ผมมีหนทางออกที่จะระบาย ผมเรียกว่าข้าวที่ชนิดว่าเป็นข้าว blend ผสมกัน เก่า 5 ใหม่ 2 และเขาก็มาตรวจสอบแล้ว หุงกันดูแล้ว เราก็จะขายข้าวเก่าได้ในราคาสูงและกำไรเยอะด้วย แต่เงินที่จะได้จะใช้สำหรับปลายปี เพราะฉะนั้น เรื่องพรรค์อย่างนี้ผมก็ขอเรียนให้ทราบว่าเราทำทุกระยะทุกขนาด เมื่อเวลาที่เห็นบอกว่าจะทำธงฟ้า พอธงฟ้าทำให้ราคาตก ถูกต้อง ท่านสมาชิกอภิปรายถูกต้องเลยครับ รู้เลยว่าทำให้กระทบกระเทือน ก็ใครเป็นคนสั่งหยุดละครับ นายสมัครเป็นคนสั่งเลย ทำหนังสือบอกขอให้หยุด ข้าราชการไม่พอใจ
ผมบอกอย่างนี้ว่าเวลาจะทำ ผมบอกให้สลิปออกไปในตลาดให้ซึมออกไป ที่เคยซื้อเคยขายก็ทำไป ไม่ต้องแถลงได้ไหม บอกอธิบายชัดเจนไม่ต้องแถลงเวลาส่งข้าวออกไป ออกข่าวเลยที่โน่นเท่านั้นเท่านี้ บอกไม่ต้องแถลงได้ไหม พอทำเสร็จแล้วออกข่าว นี่แปลว่าพูดภาษาคนกันไม่รู้เรื่องเหรอ บอกถ้าอยากจะทำ ให้ทำไป เพื่อจะช่วยเหลือคนยากจน ไม่ต้องออกข่าว ออกข่าวทุกครั้งที่จะเอาออกไป แปลว่ายังไงครับ แปลว่าต้องการจะทำให้ข้าวราคาตก เจตนาเลยครับ บอก 2 หน 3 หนว่าไม่ให้แถลงก็แถลง เอิกเกริก ทีวีก็ประโคมข่าวทำข้าวธงฟ้าออก ผมบอกไม่ได้หยุดเลย ผมก็ให้หยุด ผมไม่ได้เป็นรัฐมนตรีพาณิชย์หรอกครับ รัฐมนตรีพาณิชย์เป็นพวกผม แต่ไปนั่งตรงนั้นเขาก็จะพยายามยื้อยุด ผมบอกไม่ได้ ผมต้องช่วย ผมต้องคอยดูแล เพราะฉะนั้น งานพรรค์อย่างนี้ก็เป็นหน้าที่รับผิดชอบของผม ผมดูแลกันอยู่ครับ อยู่ในทีมเดียวกันทั้ง 35 คน รายละเอียดจะถลกกันยังไงไม่มีปัญหาครับ
เรื่องปุ๋ยก็เหมือนกัน ทำครับ ก็ตามไปดู เขาอ้างว่าน้ำมันขึ้น ปุ๋ยต้องขึ้น ผมบอกไม่จริงเลย เพราะเหตุว่าเมื่อเวลาที่เราตรวจสอบ คุณบอกราคาทุน 16,000 คุณขายราคา 20,000 กว่า แต่เราตรวจสอบแล้วราคาจริง ๆ คาซัคสถาน ราคา 9,400 เท่านั้นเท่านี้ รัฐมนตรีเกษตรขอ 3,000 ล้าน ผมบอกเอา 10 เปอร์เซ็นต์ไปลองให้ผมดูหน่อย เป็นการทดลอง รัฐมนตรีก็ทำเลย คนละพรรคนะครับ บอกช่วยทดลองหน่อย ก็ซื้อได้ 9,400 จริง ๆ เพราะฉะนั้น ระบบที่บอกกันที่ทำอย่างนั้นกัน เจตนาท่านอาจจะดี แต่อาจจะไปถูกพ่อค้าทำ
ก็ขอบพระคุณที่ได้มาฟัง ถ้าระบบเป็นอย่างนั้นจริง คือเจตนาดีไปทำ แต่ว่ามีคนไปหากิน เรื่องนี้ก็ตรวจสอบ ผมขอยืนยันครับว่าสถานการณ์นั้นก็มองดูอยู่ ที่เข้าไปดูแลนั้นเป็นฝูง แต่ไม่ใช่เหลือบ เป็นคนที่เข้ามาช่วยคนละไม้คนละมือ และคนที่ตรวจสอบผมอยู่เวลานี้เป็นรัฐมนตรีสังกัดพรรคชาติไทย ผมไปค้นพบเองว่ารัฐมนตรีสมศักดิ์ฯ ท่านตกลงตรวจสอบหมดว่ายังไม่มีอะไรพัวพันนะ จะมาส่งข้าวให้รัฐบาลเดี๋ยวบรรลัย บอกไม่มี เขาจัดการไม่นั่น แต่ความชำนาญนั้นมีอยู่ คนตรวจสอบเบื้องต้น ผมไม่ได้เอาคนในพรรคพลังประชาชน เอาคนพรรคชาติไทยเป็นคนตรวจสอบ เป็นผู้เชี่ยวชาญ ไปทำกันอย่างนี้แปลว่าไม่หากิน และไม่ฮั้ว ที่ต้องดำเนินการนั้น การขายนั้น ผมจะบอกให้ฟัง ผมจะต้องเอาข้าวที่สต๊อกออก แต่ว่าต่อไปอาจจะสต๊อกมากขึ้น เพราะอะไรครับ เพราะเขาต้องปลูกกันมากขึ้น ต่อไปกำลังทำระบบอย่างไร ต้องระบบไซโล ที่ยังไม่ทั่วถึงนั้น 270 เอามาได้ 170 หายไป 100 เขาบอกว่าไม่ได้สีขาว มีคนบอกเอาสีเทาไหม บอกอย่าเพิ่ง ที่พูดไว้ชัดเจนเลยครับ บอกต้องจน บอกลองขีดเป็นเส้น ไม่ได้ห้าม คือถ้าที่นี่เบี้ยวไปอีกอันหนึ่ง เป็นกรุ๊ป 3 จังหวัดเป็นคลัสเตอร์ 3 จังหวัด 2 จังหวัด ให้ทำได้
และมีคุยกันเรื่องไซโลว่าต้องลงทุนเท่าไร มีคนลงทุนไซโลมหึมา แต่ว่าถูกเป็นแบล็กลิสต์ มีคนลงทุนไซโลราคา 2,000 ล้าน อยู่ที่จังหวัดใกล้ ที่ป่าโมกครับ 2,000 ล้าน ข้าวเก่าข้าวใหม่เอาไป blend หมด จะแยกข้าวเปลือกจะทำยังไง พอแห้งแล้วเอาความเย็นใส่จะอยู่ 3 ปี สีเป็นข้าวใหม่ ศึกษาหมดทุกอย่างครับ และกำลังแก้ไขว่าจะทำยังไง เพราะระบบไซโลครับ ต่อไปนี้ใครจะปลูกยังไง ผมไม่ได้มีคุณพ่อเป็นชาวนา แต่ชอบเรื่องนี้ครับ เพราะว่าไปปาฐกถาเรื่องพระพุทธรูปที่เชียงแสน สุโขทัย คำเดียวที่บอกว่าทำไมพระพุทธรูปสุโขทัยถึงหน้าตาดี ยิ้ม ลงไปถึงว่าเขาบอกว่าการจะปั้นพระพุทธรูปนั้น ต้องคนหน้าตาดีที่สุด ที่สุโขทัยทำไมดี เพราะสุโขทัยมีดีครับ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว พ่อเมืองบ่เอาจังกอบในไพร่ลู่ทาง คุยกันเรื่องข้าว เวลาขับรถจากพิษณุโลกไปสุโขทัย 2 ข้างเป็นทุ่งรวงทอง มีนามีปลา มันต้องสนใจ และที่สุดก็สนใจ สนใจขนาดไหนปาฐกถาเรื่องข้าวได้ครับ อะไรคือข้าวนาปี ข้าวหนีน้ำยังไง ข้าวไวแสง ไม่ไวแสง ต้องรู้หมดเลยครับ ข้าวนาปรังทำได้ภาคกลาง กำลังจะเอาน้ำให้ทางอีสานทำ ข้าวดีที่สุดอยู่ทางภาคอีสาน ราคาดีหอมมะลิอยู่ที่นั่น ปีหนึ่งทำข้าวเปลือก 10 ล้านตันที่นั่น ทางใต้ข้าวน้อยกว่าเพื่อน
ศึกษาหมดครับ ศึกษาแม้กระทั่งโกพงษ์ที่อยู่จังหวัดพิษณุโลก บางระกำ ขายทอง ขุดทองทำเหมืองทองเจ๊ง เอาเครื่องมือมาทำ ผมคุยเรื่องโกพงษ์ ปาฐกถาเรื่องนี้ไม่มีใครไปดู ตามไปดูสิครับ ซื้อที่มา 1,000 ไร่ แบ่ง 500 ไร่ไถเป็นคัน เรื่องแม่น้ำยม วันก่อนก็พูดถึง หน้าน้ำน้ำท่วม หน้าแล้งลองไปขุด ต้องเอาไปสูบน้ำที่ก้นแม่น้ำ แต่ว่าเขาทำคันกัน 4 เมตรสูง และปลูกข้าว ข้าวใหม่นะครับ 105 วัน เอา 3 คูณ ก็ 315 เหลือ 51 เอา 3 หาร ภายใน 17 วันหลังจากเกี่ยว ผมนี่ละครับโฆษณารถคันที่ว่ามาจากจีน แต่ก่อนเรียกจีนแดง ขึ้นมาปั๊บโยนมาใส่ถุง ๆ ๆ ๆ ผู้จัดการเป็นผู้หญิง มาเกี่ยวเลยครับ ต้องทำให้เสร็จ เกี่ยวแล้วก็โยนใส่ถุง 17 วันต้องใส่ให้เสร็จ เวลามาทำน้ำตม ที่อื่นเขาให้ 100 แกให้ 200 ทำเป็นอุตสาหกรรมครับ
แต่ก่อนข้าวนาปี พอโรงเรียนเปิดเทอมเริ่มแล้วตกกล้ากัน เสร็จแล้วก็ทำกล้าออกไปดำ 5-6 เดือนกว่าจะนั่น เดือน 11 น้ำนอง เดือน 12 น้ำทรง พอเสร็จแล้วข้าวก็หนีน้ำ เดือนอ้าย เดือนยี่ น้ำก็รี่ไหลลง ข้าวแห้ง ตัดมาต้องเผาฟาง เล่าหมดครับ ชาวนาเสร็จก็ตีไก่ กัดปลา บวชลูก ต่อมาก็มีเขื่อนภูมิพล มีเขื่อนสิริกิติ์ ดูแล 22 จังหวัด ระบบชลประทาน แล้วก็ปลูกข้าวนาปรังได้ ใครปลูก 2 crop เก่งมาก ต่อมาก็ 5 crop ใน 2 ปี ยิ่งเก่งใหญ่ เดี๋ยวนี้ปีละ 3 crop เดี๋ยวนี้ยิ่งกว่าปีละ 3 crop คือเขาเกี่ยวข้าววันที่ฝนไม่ตก น้ำนองอยู่ก็เกี่ยวได้ ซื้อมาจากนอกคันละ 2.5 ล้าน ลงไปไม่ได้จมครับ เมคอินไทยแลนด์ ราคา 8.5 แสน ฝนไม่ตกเกี่ยวเลยครับ เปียก ๆ นั่นละครับ ราคายอมรับความชื้นแล้วก็เอาไปอบ ขอเล่าให้ฟังเท่านั้นเพื่อจะบอกว่าได้เข้าใจเรื่องนี้ ได้รู้เรื่องนี้ และก็รักชาวนาเหมือนกัน ขอบคุณครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--