นายกรัฐมนตรีชี้แจงภายหลังแพทย์หญิง มาลินี สุขเวชชวรกิจ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายกล่าวหานายกรัฐมนตรีมีอาการทางจิตควรยื่นถอดถอน
วันนี้ (25 มิ.ย.) ณ อาคารรัฐสภา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ชี้แจงภายหลังแพทย์หญิง มาลินี สุขเวชชวรกิจ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายกล่าวหานายกรัฐมนตรีมีอาการทางจิตควรยื่นถอดถอน ดังนี้
ท่านประธานที่เคารพ ผมสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ผมไม่เคยคาดคิดเลยนะครับว่าอยู่สภามาจนป่านนี้แล้ว มาเจออะไรที่แปลกประหลาด คุณหมอเข้าสภาก็เข้ากันมาเยอะนะครับ แต่วันนี้อภิปรายไม่ไว้วางใจ และก็เขียน ผมบอกแล้วไงเขียนญัตติแบบนี้ แล้วก็เอาคุณหมอมานั่งวิเคราะห์ ผมจะบอกคุณหมอนะครับว่าคนอายุ 40-50 โง่เง่าปัญญาอ่อนก็มีครับ อายุเยอะแต่ปัญญายังดี ก็มีนะครับ วุฒิภาวะแปลว่าต้องพูดกันไม่รู้เรื่อง มือมันสั่น 2 เล่มนั่นผมอ่านแล้วครับ ปล่อยให้คนป่วยครองโลก ผมอ่านหนังสือเยอะครับ
ผมจะบอกคุณหมอนะครับว่า จะ EQ IQ ก็สุดแท้แต่ครับ แต่อยู่ที่การแสดงออก ถ้าหากว่าการไปจ้องหน้าคนแล้วเป็นคนบ้า นักแสดงคงแสดงอะไรไม่ได้ละครับ บ้ากันทั้งเรื่อง ทีวีกลางคืนบ้าทั้งนั้นเลย ละครกี่เรื่องกี่เรื่องบ้าทั้งนั้นละครับ เพราะคนธรรมดาไม่ได้พูดอย่างนั้นครับ ตัวละครที่แสดงทุกตัวบ้าหมดครับ เพราะเขาแสดงตามบทบาทที่เขียน แต่ว่าผมนี่ครับ ถ้าเผื่อคุณหมอไม่ทราบผมจะบอกให้ทราบ นั่งสังเกต กินน้ำแดงกินขนมเค้ก อะไรถึงขนาดนั้นละครับ ผมไม่รู้เลยนะครับว่ามีหมอมาคอยนั่งสังเกตผม แต่รู้ไหมครับคุณหมอนามสกุลอะไร มีเวช ๆ ผมนามสกุลสุนทรเวช แปลว่าหมอดี พี่สาวผมก็หมอครับ ลูกพี่ลูกน้องผมก็หมอ ผมมีหมอรังสี หมอทั้งนั้นละครับ แล้วผมก็รู้จักหมอ ผมก็หาหมอครับ
ผมจะบอกให้ฟังนะครับ จะวิพากษ์วิจารณ์อะไรอย่างไร ผมเรียนจริง ๆ นึกถึงใบที่เขาอนุญาตให้น่ะ นึกให้ดีนะครับ มาใช้ในสภามันผิดที่ผิดทางนะครับ เอาละครับเป็นของใหม่จะลองดู แต่มาวิเคราะห์วิจารณ์โรคคนกลางสภา เขาสอนให้ทำอย่างนี้หรือครับ ผมจะบอกให้ฟังนะสติปัญญาของคนมันจะรู้กันต่อเมื่อมานั่งคุยกันครับ ลองถามสิครับว่าในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่นั่ง 35 คน มีคนตรวจผม 35 คนทุก ๆ วันอังคารประมาณ 4 ชั่วโมง ลองว่าง ๆ ถามนะครับไปดูรายชื่อ ครม. แล้วไปถามว่าคนนั่งหัวโต๊ะผิดปกติหรือเปล่า ผมไม่ได้มาอวดอะไรอย่างไรละครับ ถ้าผมทำไม่ได้ผมก็ทำไม่ได้ครับ แต่ถ้าอยากจะรู้สถิติผม ไปขอตรวจดูที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ผมตรวจโรคทุก 3 เดือน และตัวเลขที่ออกมาล่าสุด ปกติคนเกิน 60 ความดัน 140 , 90 ผมอายุ 73 จะวัดวันไหนก็ 130, 80 แย่ไหมครับ ดีหรือเลวครับ น้ำตาลให้เท่าไรครับ น้ำตาลผมบางทีก็ 90 บางทีก็ 106 คอเลสเตอรอลเขาไม่ให้เกิน 200 ผม 140 ใช้ได้ไหมครับ ค่าของไต ผมก็ตรวจ ค่าของตับผมก็ตรวจ
เรื่องสมองเอาไหมครับ คุณหมอมาจำอะไรกับผมแข่งกันไหม ถ้าคุณหมอว่าเฝ้าดูต้องใกล้ชิด แสดงว่าเที่ยวแต่นั่งดูเท่านั้นเองครับ ดูว่ากินน้ำแดงกับขนมเค้ก และก็หวาดวิตก เป็นหมอเห็นคนกินเท่านี้แล้วหวาดวิตก ทำไมถึงตื่นเต้นขนาดนั้นละครับ ผมก็ขอโทษจริง ๆ นะครับ คุณอภิสิทธิ์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) ผมจะบอกให้เมื่อเวลาคุณอภิสิทธิ์เดินจะขึ้น นี่เหตุเกิดทำไมเรื่องไหว้ไม่ไหว้ เขาเดินเข้ามาผมนั่งอยู่บนเวที ผมก็รับไหว้ แต่ขึ้นมาบนเวที ผมนั่งไหว้อีก ผมไม่ต้องรับละครับตอนนั้น แต่ว่าตอนที่ผมรับไหว้นั้น ทีวีไม่ได้ถ่าย ตอนมาไหว้ผมตรงนี้ก็ไหว้กันหยก ๆ แล้ว ผมก็ไม่ได้รับไหว้ด้วย ที่พูดเมื่อกี้ไปรับใบอะไรต่าง ๆ ผมไม่ได้สังเกตละครับ ผมไม่ทราบด้วยซ้ำว่าคุณอภิสิทธิ์ฯ ไปตรงนั้น ถ้าเห็นทำไมผมจะไม่ไหว้ครับ
คุณหมอรู้ไหมครับว่าเมื่อวันงานศพ คุณแม่ของผู้บัญชาการทหารบก (พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา) ผมจะบอกให้ฟังนะ ถามคุณอภิสิทธิ์ฯ ก็ได้ครับ เขาเชิญผมเป็นประธานที่จะไปวางดอกไม้ ผมรู้ทันทีเพราะคุณอภิสิทธิ์ฯ ไปด้วย คุณอภิสิทธิ์ฯ นั่งเหลื่อมผมด้านหลัง รองนายกรัฐมนตรีไปหลายคนวันนั้น ถ้าผมเป็นคนไม่มีความคิด ผมก็วางเสร็จ พรรคพวกผมก็วาง แล้วผมก็เดินออก ถ้าผมเป็นอย่างที่ว่าอย่าว่าแต่รับไหว้เลยครับ ผมก็ทำได้ แต่คุณหมอรู้ไหมสิ่งที่ผม ๆ ทำอย่างไร ผมวางดอกไม้เสร็จ ผมกวักมือเรียกคุณอภิสิทธิ์ฯ คุณอภิสิทธิ์ฯ ยังเหรอ บอกมานี่ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ มาวางต่อจากผม ผมเป็นนายกรัฐมนตรี คุณอภิสิทธิ์ฯ ก็วาง วางเสร็จ ท่านผู้บัญชาการทหารบก บอกยังไม่ต้องส่ง ผมเดินจูงมืออภิสิทธิ์ฯ มาคุยกันเรื่องอะไรครับ คุยกันเรื่องว่าคุณแม่สบายดีหรือ ความจริงผมต้องถามถึงคุณพ่อนะ แต่ถามถึงคุณแม่ เขาบอกท่านสบายดีครับ คุณอภิสิทธิ์ฯ ก็บอกได้ยื่น ผมก็บอกดีแล้วเราช่วยกัน ก็เดินทาง ภาพก็ออก คนผิดปกติเขาทำอย่างนี้หรือครับ นายกฯ สติปัญญาป่วย เดินคุยกับหัวหน้าฝ่ายค้านอย่างนี้หรือครับ พฤติกรรมพฤติการณ์อย่างนี้ คุณหมอไม่มีโอกาสได้แลเห็นผมละครับ ไม่ต้องรีบร้อนอะไรครับ ผมพูดเรื่องนี้ไม่มีอะไรเสียหาย
จะบอกให้ฟังเพียงแต่ว่าผมประหลาดใจวันนี้เท่านั้นเองครับ ว่าอะไรกันนักกันหนา ไป ๆ มา ๆ วงจรวันนี้ เขียนญัตติตรงนี้ ข้อ 9 ข้อ 5 ก็ฟังดูก็น่าตื่นเต้นครับ ผมก็ตื่นเต้นครับ เพราะเหตุว่าญัตติเขียนเอาไว้จะต้องวิเคราะห์วิจารณ์ผม และคุณหมอก็เลยมาวิจารณ์ผม ผมก็บอกแล้วในสภาเป็นอย่างนี้ได้ ในสภาอาจจะทำได้นะครับ แต่ว่าใบอนุญาตของคุณหมอ เขาให้ทำได้เหรอครับ คือไปวิเคราะห์วิจารณ์ใครเขานอกห้องตรวจ แล้วก็ไปนั่น หมอธรรมดาเขาทำกันเหรอครับ คิดหน่อยนะครับ ผมไม่ได้อะไรครับ ผมนั่งดูเออประหลาด รายเมื่อกี้ผมไม่ตอบละครับ เพราะผมอาย อายแทนนะครับไม่ได้อายตัวผม แต่ที่คุณหมอพูดเมื่อกี้นี้ลองคิดดูหน่อยนะครับ ผมก็ไม่เคยคิดว่าการเมืองมันจะโคจรเหมือนกัน หมอเข้ามาในสภาเยอะ แต่ไม่เคยมีหมอมาแสดงอย่างนี้ ไม่เคยมีหมออภิปรายไม่ไว้วางใจแบบนี้ แต่คุณหมอมานั่งทำอะไรอย่างนี้ ไม่ใช่นั่งหัวเราะงอหายอย่างนี้ละครับ ต้องคิดด้วยครับ
ลองคิดดูสิครับว่าเพราะอ่านญัตติมาถือญัตติ ผมก็บอกโอเค ญัตติก็เข้า แต่มาวิเคราะห์วิจารณ์ จะเอาวุฒิภาวะก็คงต้องเป็นทำนองยั่วเย้ากระเซ้าแหย่อย่างนี้ แต่ว่ามาวิเคราะห์จะเอาจริง ๆ เหมือนกับว่าผมป่วยจริง หนังสือ 2 เล่มผมอ่านครับเรื่องนั้น เขาปล่อยให้คนป่วยครองโลก อ่านครับ เรื่องมุสโสลินี เรื่องฮิตเลอร์ ก็อ่าน เรื่องประวัติอะไรต่าง ๆ เรื่องเมื่อสักครู่นี้ส่งคนไปช่วยเมื่อกี้ไปพูดไม่เป็น 2 เดือนตัด นั่นไม่ได้อ่าน ไม่รู้จักคนนี้ แต่ทว่าลองคิดหน่อยสิครับ การเมืองคน 73 ใช้ไม่ได้แล้วเหรอครับ แล้วคนอื่น ๆ ที่อายุมากกว่าผมละครับ มีคนอายุมากกว่าผมเยอะนะครับข้างบนนี้ สติปัญญายังเฉียบแหลม ยังใช้ได้ เห็นยกย่องสรรเสริญกัน แล้วทำไมคนอายุ 73 ผมทำไม่ได้ ผมต้องไม่อยู่ละครับ ต้องทำให้ได้ ผมอาจจะเดินช้าหน่อยครับ เพราะว่าขาตึง ก็เดินระมัดระวังหน่อย เท่านั้นละครับ นอกนั้นจะทำอย่างไร เดินเข้ามือไขว้หลังก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์
ผมไปจ้องหน้าผู้สื่อข่าวเป็นสิทธิของผมนะครับ ผมตรวจดูแล้วไม่มีมาตราไหนเลยห้ามจ้องหน้าผู้สื่อข่าว ผมจ้องครับเพราะผมเล่าให้ฟังแล้วว่า ผมนัดด้วยตัวผมเอง อะไรกันขึ้นไปกินชั้น 32 คนกิน 8 คน คนตั้งร้อยขึ้นไปยืนถ่ายกันหมด ผมก็เลยยืนมองดูว่าเขามาทำไม มากันได้ยังไงนี่ เท่านั้นละครับ ไม่นานเท่าไรครับ หนังสือพิมพ์บางฉบับบอก 2 นาที 3 นาที ไม่นานขนาดนั้นละครับอย่างมากสักนาทีกว่า ๆ ตามประสาหนังสือพิมพ์เขาก็ทำข่าว มันเสียหายยังไงครับ ผมเป็นนักแสดงนะครับ ผมแสดงครับ ผมแสดงความไม่พอใจให้เห็น ไม่เห็นเสียหายยังไง
แต่ว่าผมประหลาดใจตรงนี้ว่าผมต้องมานั่งฟังหมอมาวิเคราะห์กันกลางสภา ออกอากาศไปทั่วประเทศ ฟังหมดเลยครับ เอาละคุณหมอว่าคุณหมอดี อายุเท่าไรครับประทานโทษ ไม่ใช่อะไรนะครับ คุณหมอพูดเร็วเท่าผมไหมครับ คุณหมอคิดได้เร็วอย่างผมไหมครับ การตัดสินใจของผมมีอะไรเสียหายบ้างหรือยังครับ มีสติปัญญาไหมครับ ผมทำอะไรเสียหายในเวลา 4 เดือนนี้บ้างหรือยังครับ ได้ถลุงเงินของบ้านเมืองไปแล้ว ได้ฉกฉวยอะไรไปยังไง โกงบ้างหรือยังครับ แต่การจะพูดกันจะแสดงความคิดเห็น นี่ไงครับกำลังแสดงกันอยู่นี่ ฟังคุณหมอพูดแล้วผมก็เป็นนักวิเคราะห์วิจารณ์ คุณหมอวิจารณ์ผม ๆ ก็วิจารณ์คุณหมอได้ เห็นไหมครับ ต้องการแสดงให้เห็นเท่านั้นละครับ เพราะญัตติเขียนอย่างนี้ จึงต้องแสดงต้องเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ เรื่องอะไรต่าง ๆ ต้องเล่าให้ฟังครับ
พูดไปพูดมาเหมือนกับมาคุยอวด นั่นละครับเป็นการแสดงให้ดูว่าสติปัญญานั้นยังพอบริหารบ้านเมืองนี้ได้ ใครต่อใครไปดูเลยครับ ไปดูที่ทำเนียบมี 24 คน ไปดูสิครับเป็นอย่างไรบ้าง ผมไม่เคยดูแคลนท่านที่มาเป็นเลย ผมก็อยู่ตอนนี้ 25 ต่อไปจะมีคน 26, 27 คนไหนก็ยังไม่รู้ได้ แต่ทว่าผมกำลังอยู่ในตำแหน่งอย่างนี้ แต่วันหนึ่งนั้นอดรนทนไม่ได้ก็ยื่นมา ผมก็อดรนทนไม่ได้ ผมก็ให้เปิดอภิปรายแล้วก็อย่างนี้ละครับ 7 คน 8 คนเท่านั้นละครับ เวลานั่นก็บ่ายโมงครึ่งวานนี้ ยังเดินหน้าไปได้แค่ไหนละครับ คือจะนวดเอาผมให้ได้เพราะเขียนมา 9 ข้อ ก็เอาซะให้ครบเถิดครับไม่มีปัญหา ผมนั่งทนได้ ไม่มีปัญหาละครับ แต่สงสารพวกที่มานั่งรอจะให้สับกันนี่ ยังไม่โดนสักคนเดียว มีท่านนพดล (นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) โดนไปเมื่อคืนนี้
โปรดเข้าใจเถิดครับว่าเขียนมาอย่างนี้ และจะต้องมาพิสูจน์อย่างที่เขียน วันหน้าวันหลังเขียนระมัดระวังหน่อยครับ ผมเห็นด้วยกับคุณจตุพร (นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน) เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยว่าถ้าจะอภิปรายจะเอาผมเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ต้องไปยื่นถอดถอนผมครับ เพราะปล่อยไว้ไม่ได้ครับ เป็นคนป่วย คนป่วยเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ครับ ต้องไปยื่นถอดถอนเลยครับ เอาไว้ได้อย่างไรครับ อภิปรายไม่ไว้วางใจแป๊ะ ๆ ๆ ๆ แล้วก็ว่ากันรุนแรง แต่ว่าไม่ถอดถอน ก็พอสมควรนะครับ เสียเวลา ๆ ท่านเหลือน้อยแล้ว ขอบคุณครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ (25 มิ.ย.) ณ อาคารรัฐสภา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ชี้แจงภายหลังแพทย์หญิง มาลินี สุขเวชชวรกิจ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายกล่าวหานายกรัฐมนตรีมีอาการทางจิตควรยื่นถอดถอน ดังนี้
ท่านประธานที่เคารพ ผมสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ผมไม่เคยคาดคิดเลยนะครับว่าอยู่สภามาจนป่านนี้แล้ว มาเจออะไรที่แปลกประหลาด คุณหมอเข้าสภาก็เข้ากันมาเยอะนะครับ แต่วันนี้อภิปรายไม่ไว้วางใจ และก็เขียน ผมบอกแล้วไงเขียนญัตติแบบนี้ แล้วก็เอาคุณหมอมานั่งวิเคราะห์ ผมจะบอกคุณหมอนะครับว่าคนอายุ 40-50 โง่เง่าปัญญาอ่อนก็มีครับ อายุเยอะแต่ปัญญายังดี ก็มีนะครับ วุฒิภาวะแปลว่าต้องพูดกันไม่รู้เรื่อง มือมันสั่น 2 เล่มนั่นผมอ่านแล้วครับ ปล่อยให้คนป่วยครองโลก ผมอ่านหนังสือเยอะครับ
ผมจะบอกคุณหมอนะครับว่า จะ EQ IQ ก็สุดแท้แต่ครับ แต่อยู่ที่การแสดงออก ถ้าหากว่าการไปจ้องหน้าคนแล้วเป็นคนบ้า นักแสดงคงแสดงอะไรไม่ได้ละครับ บ้ากันทั้งเรื่อง ทีวีกลางคืนบ้าทั้งนั้นเลย ละครกี่เรื่องกี่เรื่องบ้าทั้งนั้นละครับ เพราะคนธรรมดาไม่ได้พูดอย่างนั้นครับ ตัวละครที่แสดงทุกตัวบ้าหมดครับ เพราะเขาแสดงตามบทบาทที่เขียน แต่ว่าผมนี่ครับ ถ้าเผื่อคุณหมอไม่ทราบผมจะบอกให้ทราบ นั่งสังเกต กินน้ำแดงกินขนมเค้ก อะไรถึงขนาดนั้นละครับ ผมไม่รู้เลยนะครับว่ามีหมอมาคอยนั่งสังเกตผม แต่รู้ไหมครับคุณหมอนามสกุลอะไร มีเวช ๆ ผมนามสกุลสุนทรเวช แปลว่าหมอดี พี่สาวผมก็หมอครับ ลูกพี่ลูกน้องผมก็หมอ ผมมีหมอรังสี หมอทั้งนั้นละครับ แล้วผมก็รู้จักหมอ ผมก็หาหมอครับ
ผมจะบอกให้ฟังนะครับ จะวิพากษ์วิจารณ์อะไรอย่างไร ผมเรียนจริง ๆ นึกถึงใบที่เขาอนุญาตให้น่ะ นึกให้ดีนะครับ มาใช้ในสภามันผิดที่ผิดทางนะครับ เอาละครับเป็นของใหม่จะลองดู แต่มาวิเคราะห์วิจารณ์โรคคนกลางสภา เขาสอนให้ทำอย่างนี้หรือครับ ผมจะบอกให้ฟังนะสติปัญญาของคนมันจะรู้กันต่อเมื่อมานั่งคุยกันครับ ลองถามสิครับว่าในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่นั่ง 35 คน มีคนตรวจผม 35 คนทุก ๆ วันอังคารประมาณ 4 ชั่วโมง ลองว่าง ๆ ถามนะครับไปดูรายชื่อ ครม. แล้วไปถามว่าคนนั่งหัวโต๊ะผิดปกติหรือเปล่า ผมไม่ได้มาอวดอะไรอย่างไรละครับ ถ้าผมทำไม่ได้ผมก็ทำไม่ได้ครับ แต่ถ้าอยากจะรู้สถิติผม ไปขอตรวจดูที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ผมตรวจโรคทุก 3 เดือน และตัวเลขที่ออกมาล่าสุด ปกติคนเกิน 60 ความดัน 140 , 90 ผมอายุ 73 จะวัดวันไหนก็ 130, 80 แย่ไหมครับ ดีหรือเลวครับ น้ำตาลให้เท่าไรครับ น้ำตาลผมบางทีก็ 90 บางทีก็ 106 คอเลสเตอรอลเขาไม่ให้เกิน 200 ผม 140 ใช้ได้ไหมครับ ค่าของไต ผมก็ตรวจ ค่าของตับผมก็ตรวจ
เรื่องสมองเอาไหมครับ คุณหมอมาจำอะไรกับผมแข่งกันไหม ถ้าคุณหมอว่าเฝ้าดูต้องใกล้ชิด แสดงว่าเที่ยวแต่นั่งดูเท่านั้นเองครับ ดูว่ากินน้ำแดงกับขนมเค้ก และก็หวาดวิตก เป็นหมอเห็นคนกินเท่านี้แล้วหวาดวิตก ทำไมถึงตื่นเต้นขนาดนั้นละครับ ผมก็ขอโทษจริง ๆ นะครับ คุณอภิสิทธิ์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) ผมจะบอกให้เมื่อเวลาคุณอภิสิทธิ์เดินจะขึ้น นี่เหตุเกิดทำไมเรื่องไหว้ไม่ไหว้ เขาเดินเข้ามาผมนั่งอยู่บนเวที ผมก็รับไหว้ แต่ขึ้นมาบนเวที ผมนั่งไหว้อีก ผมไม่ต้องรับละครับตอนนั้น แต่ว่าตอนที่ผมรับไหว้นั้น ทีวีไม่ได้ถ่าย ตอนมาไหว้ผมตรงนี้ก็ไหว้กันหยก ๆ แล้ว ผมก็ไม่ได้รับไหว้ด้วย ที่พูดเมื่อกี้ไปรับใบอะไรต่าง ๆ ผมไม่ได้สังเกตละครับ ผมไม่ทราบด้วยซ้ำว่าคุณอภิสิทธิ์ฯ ไปตรงนั้น ถ้าเห็นทำไมผมจะไม่ไหว้ครับ
คุณหมอรู้ไหมครับว่าเมื่อวันงานศพ คุณแม่ของผู้บัญชาการทหารบก (พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา) ผมจะบอกให้ฟังนะ ถามคุณอภิสิทธิ์ฯ ก็ได้ครับ เขาเชิญผมเป็นประธานที่จะไปวางดอกไม้ ผมรู้ทันทีเพราะคุณอภิสิทธิ์ฯ ไปด้วย คุณอภิสิทธิ์ฯ นั่งเหลื่อมผมด้านหลัง รองนายกรัฐมนตรีไปหลายคนวันนั้น ถ้าผมเป็นคนไม่มีความคิด ผมก็วางเสร็จ พรรคพวกผมก็วาง แล้วผมก็เดินออก ถ้าผมเป็นอย่างที่ว่าอย่าว่าแต่รับไหว้เลยครับ ผมก็ทำได้ แต่คุณหมอรู้ไหมสิ่งที่ผม ๆ ทำอย่างไร ผมวางดอกไม้เสร็จ ผมกวักมือเรียกคุณอภิสิทธิ์ฯ คุณอภิสิทธิ์ฯ ยังเหรอ บอกมานี่ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ มาวางต่อจากผม ผมเป็นนายกรัฐมนตรี คุณอภิสิทธิ์ฯ ก็วาง วางเสร็จ ท่านผู้บัญชาการทหารบก บอกยังไม่ต้องส่ง ผมเดินจูงมืออภิสิทธิ์ฯ มาคุยกันเรื่องอะไรครับ คุยกันเรื่องว่าคุณแม่สบายดีหรือ ความจริงผมต้องถามถึงคุณพ่อนะ แต่ถามถึงคุณแม่ เขาบอกท่านสบายดีครับ คุณอภิสิทธิ์ฯ ก็บอกได้ยื่น ผมก็บอกดีแล้วเราช่วยกัน ก็เดินทาง ภาพก็ออก คนผิดปกติเขาทำอย่างนี้หรือครับ นายกฯ สติปัญญาป่วย เดินคุยกับหัวหน้าฝ่ายค้านอย่างนี้หรือครับ พฤติกรรมพฤติการณ์อย่างนี้ คุณหมอไม่มีโอกาสได้แลเห็นผมละครับ ไม่ต้องรีบร้อนอะไรครับ ผมพูดเรื่องนี้ไม่มีอะไรเสียหาย
จะบอกให้ฟังเพียงแต่ว่าผมประหลาดใจวันนี้เท่านั้นเองครับ ว่าอะไรกันนักกันหนา ไป ๆ มา ๆ วงจรวันนี้ เขียนญัตติตรงนี้ ข้อ 9 ข้อ 5 ก็ฟังดูก็น่าตื่นเต้นครับ ผมก็ตื่นเต้นครับ เพราะเหตุว่าญัตติเขียนเอาไว้จะต้องวิเคราะห์วิจารณ์ผม และคุณหมอก็เลยมาวิจารณ์ผม ผมก็บอกแล้วในสภาเป็นอย่างนี้ได้ ในสภาอาจจะทำได้นะครับ แต่ว่าใบอนุญาตของคุณหมอ เขาให้ทำได้เหรอครับ คือไปวิเคราะห์วิจารณ์ใครเขานอกห้องตรวจ แล้วก็ไปนั่น หมอธรรมดาเขาทำกันเหรอครับ คิดหน่อยนะครับ ผมไม่ได้อะไรครับ ผมนั่งดูเออประหลาด รายเมื่อกี้ผมไม่ตอบละครับ เพราะผมอาย อายแทนนะครับไม่ได้อายตัวผม แต่ที่คุณหมอพูดเมื่อกี้นี้ลองคิดดูหน่อยนะครับ ผมก็ไม่เคยคิดว่าการเมืองมันจะโคจรเหมือนกัน หมอเข้ามาในสภาเยอะ แต่ไม่เคยมีหมอมาแสดงอย่างนี้ ไม่เคยมีหมออภิปรายไม่ไว้วางใจแบบนี้ แต่คุณหมอมานั่งทำอะไรอย่างนี้ ไม่ใช่นั่งหัวเราะงอหายอย่างนี้ละครับ ต้องคิดด้วยครับ
ลองคิดดูสิครับว่าเพราะอ่านญัตติมาถือญัตติ ผมก็บอกโอเค ญัตติก็เข้า แต่มาวิเคราะห์วิจารณ์ จะเอาวุฒิภาวะก็คงต้องเป็นทำนองยั่วเย้ากระเซ้าแหย่อย่างนี้ แต่ว่ามาวิเคราะห์จะเอาจริง ๆ เหมือนกับว่าผมป่วยจริง หนังสือ 2 เล่มผมอ่านครับเรื่องนั้น เขาปล่อยให้คนป่วยครองโลก อ่านครับ เรื่องมุสโสลินี เรื่องฮิตเลอร์ ก็อ่าน เรื่องประวัติอะไรต่าง ๆ เรื่องเมื่อสักครู่นี้ส่งคนไปช่วยเมื่อกี้ไปพูดไม่เป็น 2 เดือนตัด นั่นไม่ได้อ่าน ไม่รู้จักคนนี้ แต่ทว่าลองคิดหน่อยสิครับ การเมืองคน 73 ใช้ไม่ได้แล้วเหรอครับ แล้วคนอื่น ๆ ที่อายุมากกว่าผมละครับ มีคนอายุมากกว่าผมเยอะนะครับข้างบนนี้ สติปัญญายังเฉียบแหลม ยังใช้ได้ เห็นยกย่องสรรเสริญกัน แล้วทำไมคนอายุ 73 ผมทำไม่ได้ ผมต้องไม่อยู่ละครับ ต้องทำให้ได้ ผมอาจจะเดินช้าหน่อยครับ เพราะว่าขาตึง ก็เดินระมัดระวังหน่อย เท่านั้นละครับ นอกนั้นจะทำอย่างไร เดินเข้ามือไขว้หลังก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์
ผมไปจ้องหน้าผู้สื่อข่าวเป็นสิทธิของผมนะครับ ผมตรวจดูแล้วไม่มีมาตราไหนเลยห้ามจ้องหน้าผู้สื่อข่าว ผมจ้องครับเพราะผมเล่าให้ฟังแล้วว่า ผมนัดด้วยตัวผมเอง อะไรกันขึ้นไปกินชั้น 32 คนกิน 8 คน คนตั้งร้อยขึ้นไปยืนถ่ายกันหมด ผมก็เลยยืนมองดูว่าเขามาทำไม มากันได้ยังไงนี่ เท่านั้นละครับ ไม่นานเท่าไรครับ หนังสือพิมพ์บางฉบับบอก 2 นาที 3 นาที ไม่นานขนาดนั้นละครับอย่างมากสักนาทีกว่า ๆ ตามประสาหนังสือพิมพ์เขาก็ทำข่าว มันเสียหายยังไงครับ ผมเป็นนักแสดงนะครับ ผมแสดงครับ ผมแสดงความไม่พอใจให้เห็น ไม่เห็นเสียหายยังไง
แต่ว่าผมประหลาดใจตรงนี้ว่าผมต้องมานั่งฟังหมอมาวิเคราะห์กันกลางสภา ออกอากาศไปทั่วประเทศ ฟังหมดเลยครับ เอาละคุณหมอว่าคุณหมอดี อายุเท่าไรครับประทานโทษ ไม่ใช่อะไรนะครับ คุณหมอพูดเร็วเท่าผมไหมครับ คุณหมอคิดได้เร็วอย่างผมไหมครับ การตัดสินใจของผมมีอะไรเสียหายบ้างหรือยังครับ มีสติปัญญาไหมครับ ผมทำอะไรเสียหายในเวลา 4 เดือนนี้บ้างหรือยังครับ ได้ถลุงเงินของบ้านเมืองไปแล้ว ได้ฉกฉวยอะไรไปยังไง โกงบ้างหรือยังครับ แต่การจะพูดกันจะแสดงความคิดเห็น นี่ไงครับกำลังแสดงกันอยู่นี่ ฟังคุณหมอพูดแล้วผมก็เป็นนักวิเคราะห์วิจารณ์ คุณหมอวิจารณ์ผม ๆ ก็วิจารณ์คุณหมอได้ เห็นไหมครับ ต้องการแสดงให้เห็นเท่านั้นละครับ เพราะญัตติเขียนอย่างนี้ จึงต้องแสดงต้องเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ เรื่องอะไรต่าง ๆ ต้องเล่าให้ฟังครับ
พูดไปพูดมาเหมือนกับมาคุยอวด นั่นละครับเป็นการแสดงให้ดูว่าสติปัญญานั้นยังพอบริหารบ้านเมืองนี้ได้ ใครต่อใครไปดูเลยครับ ไปดูที่ทำเนียบมี 24 คน ไปดูสิครับเป็นอย่างไรบ้าง ผมไม่เคยดูแคลนท่านที่มาเป็นเลย ผมก็อยู่ตอนนี้ 25 ต่อไปจะมีคน 26, 27 คนไหนก็ยังไม่รู้ได้ แต่ทว่าผมกำลังอยู่ในตำแหน่งอย่างนี้ แต่วันหนึ่งนั้นอดรนทนไม่ได้ก็ยื่นมา ผมก็อดรนทนไม่ได้ ผมก็ให้เปิดอภิปรายแล้วก็อย่างนี้ละครับ 7 คน 8 คนเท่านั้นละครับ เวลานั่นก็บ่ายโมงครึ่งวานนี้ ยังเดินหน้าไปได้แค่ไหนละครับ คือจะนวดเอาผมให้ได้เพราะเขียนมา 9 ข้อ ก็เอาซะให้ครบเถิดครับไม่มีปัญหา ผมนั่งทนได้ ไม่มีปัญหาละครับ แต่สงสารพวกที่มานั่งรอจะให้สับกันนี่ ยังไม่โดนสักคนเดียว มีท่านนพดล (นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) โดนไปเมื่อคืนนี้
โปรดเข้าใจเถิดครับว่าเขียนมาอย่างนี้ และจะต้องมาพิสูจน์อย่างที่เขียน วันหน้าวันหลังเขียนระมัดระวังหน่อยครับ ผมเห็นด้วยกับคุณจตุพร (นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน) เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยว่าถ้าจะอภิปรายจะเอาผมเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ต้องไปยื่นถอดถอนผมครับ เพราะปล่อยไว้ไม่ได้ครับ เป็นคนป่วย คนป่วยเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ครับ ต้องไปยื่นถอดถอนเลยครับ เอาไว้ได้อย่างไรครับ อภิปรายไม่ไว้วางใจแป๊ะ ๆ ๆ ๆ แล้วก็ว่ากันรุนแรง แต่ว่าไม่ถอดถอน ก็พอสมควรนะครับ เสียเวลา ๆ ท่านเหลือน้อยแล้ว ขอบคุณครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--