โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุวันพรุ่งนี้ ครม.ยังประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล และขณะนี้รัฐบาลเปิดให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ซึ่งประชาชนจะได้รับฟังข้อมูลข่าวสารจากรัฐบาล
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยืนยันว่าภารกิจของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในวันนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อหลบหนีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมทั้งยืนยันว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 24 มิถุนายนนี้ ยังคงประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้กระบวนการต่างๆ เข้าสู่ระบบรัฐสภาแล้วที่มีการเปิดให้มีการอภิปรายกันอย่างเต็มที่ และมีการถ่ายทอดให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะที่ผ่านมาประชาชนได้รับรู้ข้อมูลเพียงด้านเดียว คิดว่าภายใน 3 วันนี้เหตุการณ์ต่างๆ น่าจะคลี่คลาย เพราะเชื่อว่าประชาชนที่มาร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อได้รับฟังคำชี้แจงของรัฐบาลแล้วน่าจะมีวิจารณญาณว่า รัฐบาลทำผิดหรือถูกอย่างไร เพียงแต่ขอให้เป็นไปตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบรัฐบาลนั้นได้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในส่วนนครบาลและภูธร ซึ่งจำเป็นต้องสลับหมุนเวียนกำลัง เพราะตำรวจในพื้นที่กรุงเทพฯ จะต้องดูแลความปลอดภัยของประชาชนด้วย อาจจะทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง อย่างกรณีที่มีเหตุการณ์ปล้นธนาคารในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นเพราะตำรวจต้องเข้ามาดูแลในส่วนกลางที่จำเป็นต้องดูแลรักษาทำเนียบรัฐบาล เพราะทำเนียบรัฐบาลเป็นหัวใจของระบอบประชาธิปไตย นอกจากนั้นตำรวจยังต้องดูแลกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย เพราะถ้าหากมีมือที่ 3 เข้าไปทำอะไรจะโทษว่ารัฐบาลไม่ดูแล และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้จุดชนวนอะไรอย่างแน่นอน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการที่หารือกับพลตำรวจโท อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทราบว่าขณะนี้มีการรายงานทางการข่าวว่ากลุ่มพันธมิตรฯ กำลังเตรียมคนจำนวนหนึ่งไปลุยกับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่ทับซ้อนใกล้เขาพระวิหาร ซึ่งคนเหล่านั้นเป็นชาวกัมพูชาที่เข้ามาอาศัยในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2543 สมัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัย และต้องการให้เกิดปัญหา ดังนั้น จึงขอเตือนว่าทหารกัมพูชาไม่เหมือนตำรวจไทยที่มีความอดทนอดกลั้นสูง หากทางการกัมพูชาต้องการปกป้องคนของเขาขึ้นมาก็จะเกิดปัญหา หรืออาจจะเป็นสงครามขึ้นมาได้ ก็ขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าทำอย่างนั้นเลย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยืนยันว่าภารกิจของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในวันนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อหลบหนีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมทั้งยืนยันว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 24 มิถุนายนนี้ ยังคงประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้กระบวนการต่างๆ เข้าสู่ระบบรัฐสภาแล้วที่มีการเปิดให้มีการอภิปรายกันอย่างเต็มที่ และมีการถ่ายทอดให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะที่ผ่านมาประชาชนได้รับรู้ข้อมูลเพียงด้านเดียว คิดว่าภายใน 3 วันนี้เหตุการณ์ต่างๆ น่าจะคลี่คลาย เพราะเชื่อว่าประชาชนที่มาร่วมการชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อได้รับฟังคำชี้แจงของรัฐบาลแล้วน่าจะมีวิจารณญาณว่า รัฐบาลทำผิดหรือถูกอย่างไร เพียงแต่ขอให้เป็นไปตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบรัฐบาลนั้นได้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในส่วนนครบาลและภูธร ซึ่งจำเป็นต้องสลับหมุนเวียนกำลัง เพราะตำรวจในพื้นที่กรุงเทพฯ จะต้องดูแลความปลอดภัยของประชาชนด้วย อาจจะทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง อย่างกรณีที่มีเหตุการณ์ปล้นธนาคารในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นเพราะตำรวจต้องเข้ามาดูแลในส่วนกลางที่จำเป็นต้องดูแลรักษาทำเนียบรัฐบาล เพราะทำเนียบรัฐบาลเป็นหัวใจของระบอบประชาธิปไตย นอกจากนั้นตำรวจยังต้องดูแลกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย เพราะถ้าหากมีมือที่ 3 เข้าไปทำอะไรจะโทษว่ารัฐบาลไม่ดูแล และยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้จุดชนวนอะไรอย่างแน่นอน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการที่หารือกับพลตำรวจโท อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ทราบว่าขณะนี้มีการรายงานทางการข่าวว่ากลุ่มพันธมิตรฯ กำลังเตรียมคนจำนวนหนึ่งไปลุยกับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่ทับซ้อนใกล้เขาพระวิหาร ซึ่งคนเหล่านั้นเป็นชาวกัมพูชาที่เข้ามาอาศัยในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2543 สมัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัย และต้องการให้เกิดปัญหา ดังนั้น จึงขอเตือนว่าทหารกัมพูชาไม่เหมือนตำรวจไทยที่มีความอดทนอดกลั้นสูง หากทางการกัมพูชาต้องการปกป้องคนของเขาขึ้นมาก็จะเกิดปัญหา หรืออาจจะเป็นสงครามขึ้นมาได้ ก็ขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าทำอย่างนั้นเลย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--