นายกรัฐมนตรียันขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทพระวิหาร โดยไทยไม่ได้เสียดินแดนแต่อย่างใด ส่วนพื้นที่ทับซ้อนต้องเจรจาร่วมกับกัมพูชาใน 2 ปี ขณะเดียวกันจะเปิดให้ ส.ว.และ ส.ส.อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
รายการ “สนทนาประสาสมัคร”
โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2551 เวลา 08.30-09.30 น.
------------------------
สวัสดีครับท่านผู้ชมที่เคารพ ขอเรียนให้ทราบนิดหนึ่ง เมื่อวานนี้โดนต่อว่าคือจะไปร้องเพลงปลุกใจที่กรมประชาสัมพันธ์ รับปากกันไว้แน่นหนาเลยครับ แต่ว่ามีคนเขาบอกมาว่าถึงว่างก็ไม่ควรไป จะเป็นการยั่วกิเลสชาวบ้านเกินไป ที่จะไปร้องเพลงปลุกใจกันตอนนั้น ผมก็เชื่อคำแนะนำ แต่ก็ขออภัยท่านที่ไปรอฟัง
ความหมายชื่อสะพานชมัยมรุเชฐ
เช้านี้มีคำถามก่อนเพื่อนเลย ขอให้ตอบก่อนพูด เพราะกลัวว่าวันนี้พูดเยอะแล้วจะหมดเวลา ช่วยแปลคำว่า สะพานชมัยมรุเชฐ ให้ฟังหน่อย เพราะลูกถามแปลให้ลูกฟังไม่ได้ รู้คำว่าเดียว คำว่า “เชษฐ์” แปลว่า พี่ แต่ ชมัย กับ มรุ ไม่รู้แปลว่าอะไร สะพานอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาลครับ คำว่า “ชมัย” แปลว่า ทั้งสอง ถ้าจะเทียบให้ใช้ภาษาอังกฤษก็ both แปลว่าทั้งสอง “มรุ” แปลว่าที่ล่วงลับไปแล้ว เจ้านายท่านสร้างสะพานนี้อุทิศให้พระเชษฐาที่ล่วงลับไปแล้วสองพระองค์ ชมัยมรุเชฐ สะพานนี้มีสร้างคู่กัน มีอีกสะพานหนึ่งอยู่ถนนราชวิถี ตรงผ่านสวนจิตรลดาที่จะขึ้นทางรถไฟ ชื่อสะพานอุภัยเจษฎุทิศ แปลเหมือนกัน ชื่อคล้องกันด้วย ชมัยมรุเชฐขึ้นก่อน และอุภัยเจษฎุทิศ แปลเหมือนกันเลยครับ อุภัย แปลว่า ทั้งสอง เจษฎา แปลว่า พี่ อุทิศ ก็อุทิศ อุทิศให้พี่ทั้งสองที่ล่วงลับไปแล้ว ทางเมืองไทยเราก็มีวิธีการอย่างนี้ครับ บางสะพานก็ใส่หมายเลขตรงท้าย ในกรุงเทพฯ มีสะพานหมายเลขท้าย ๆ บอก พ.ศ. เช่น สะพานเจริญศรี 42 อยู่ที่หน้าศาลคลองหลอด ตรงนั้นเป็นสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2442 สะพานเฉลิมโลก 55 แปลว่ารัชกาลที่ 6 เพราะท่านขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2453 ,2454, 2455 เฉลิมโลก 55 แปลว่าสร้างสะพานเฉลิมโลก พ.ศ. 2455 ถัดมาสะพานหัวช้าง ก็เฉลิมหล้า 56 ถ้าใครเกิดทันโตเห็นแถว ๆ หน้าวัดสระปทุม ตรงหัวถนนอังรีดูนังค์ แต่ก่อนมีสะพานชื่อสะพานเฉลิมเผ่า 57 แปลว่าปีที่สร้าง เดี๋ยวนี้ก็ลบเลือนไปเยอะ ถามเรื่องสะพานก็ตอบให้กว้างขวางไปนิดหนึ่ง
ชี้แจงกรณีขึ้นทะเบียนเฉพาะปราสาทพระวิหาร
คำถามถัดไปอันนี้ถามหมดทั้งโทรศัพท์ ทั้งถามทั้งสั่งเลยว่าให้พูดเสียก่อนที่จะพูดเรื่องอะไรอื่นในทางการบ้านการเมืองอะไรที่ตั้งใจจะพูดวันนี้ คือว่าวันนี้ถ้าไม่อธิบายความเรื่องเขาพระวิหารให้ฟังดูเหมือนจะว่า จะให้เขาจุดชนวนให้ลุกลามกันต่อไป ผมต้องบอกว่าวันนั้นไปประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ก็ปราศรัยกับชาว กอ.รมน. 450 คนมาจากทั่วประเทศ ผมก็พูดไปหน่อยว่าผมคันปากเต็มทีอยากจะพูดเรื่องนี้ คือว่าคนที่มาซักไซ้ไล่เรียงไล่ต้อนจะเอาอย่างโน้นอย่างนี้ พวกนี้ไม่ถามลูกพี่ตัวที่อายุมาก ๆ อยู่ในพรรคเดียวกัน ถามสิเกิดเหตุอย่างไรมา
ผมต้องอธิบายให้ฟังให้ชัดเจนนะครับเรื่องนี้ ตอนปลายที่มาทำ เกิดเอาเรื่องนี้มาปลุกระดมกัน และปลุกระดมขนาดไหน ปลุกระดมแล้วน่ากลัวครับ ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นช่างตัดเสื้อ ตัดเสื้อแพงด้วยนะครับ ตัวหนึ่งแต่ก่อนตัดเป็นพัน เดี๋ยวนี้ตัดเป็นชุดละหมื่น ผู้หญิงนี่ครับบอกวันนี้ไม่รับแขกไม่เอาอะไรแล้วจะไปอะไร จะไปประชุมกับเขา บอกว่าจะต้องไปเอาให้ได้เรื่องนี้ เรื่องเขาพระวิหาร ไทยจะเสียเขาพระวิหาร คือพูดแล้วสรุปคำได้ว่า ถ้าฉันจะตายเพราะเรื่องเขาพระวิหารก็จะยอมตาย ผมฟังแล้วบอกโอ้โห นี่การปลุกระดมมันได้ผลถึงขนาด คนเราเป็นช่างตัดเสื้อ ไม่มีความคิดเลยฟังแล้ว คือผมอธิบายให้ฟังได้ชัดเจนว่าเรื่องนี้เอามาปลุกระดมกันเกินเหตุ นี่เกินเหตุถึงขนาดจะเอาไปศาลปกครอง แต่ผมเชื่อว่าทางศาลปกครองก็อายุมากพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรยังไง คือ พ.ศ. 2505 เขมรฟ้องศาลโลกว่าเขาพระวิหารเป็นของเขา และเราก็สู้คดีศาลโลก บริจาคกันคนละบาท และก็ไปสู้คดี ก็บังเอิญท่านที่ไปสู้คดีท่านเชื่อมั่นในเรื่องแผนที่ เขาถามว่ารับแผนที่ไหม ที่ฝรั่งเศสขีดไว้ ท่านไปยืนยันว่ารับแผนที่ที่ขีด เท่านั้นละครับ เมื่อขีดลงไปแล้ว ตรงนี้ คือถ้าไปบอกว่าจะเอาสันปันน้ำไม่รับแผนที่ที่ขีด ก็ยังสู้กันได้นาน บอกรับแผนที่ที่ขีด ฝรั่งคนขีดก็ไม่ได้ไปดูของจริง ดูแผนที่ ตรงนี้สันปันน้ำคือเป็นหินเป็นแนวยื่นเข้าไปทางโน้น ข้างล่างต่ำแล้วยื่นเข้าไปก็สร้างปราสาทตรงแนวยื่นเข้าไป เวลามันเขียนแผนที่ก็ขีดแผนที่มา ตัวแนวที่ยื่นไปในอากาศตรงนี้ คือถ้าคิดสันปันน้ำก็เป็นของไทย แต่ว่าฝรั่งขีดเส้น ฝรั่งเศสนี่ละครับขีดเส้นมาตรงตีนบันได ไม่ได้ตั้งใจตีนบันได ขีดตรงนั้นเลยครับ เวลาไปต่อสู้กัน ทนายของเราไปยอมรับ ๆ แผนที่ ไปยอมรับแผนที่ก็แพ้คดีเลยครับ เอาแผนที่มากางเสร็จปั๊บ บริเวณที่ยื่นไปนั้นอยู่นอกแผนที่ เท่ากับอย่างนั้นก็อยู่ในเขตเขมร เท่านั้นละครับก็แพ้คดีครับ ศาลโลกตัดสินแพ้คดี ต้องยกเขาพระวิหารให้เขาไป นี่คดีความระหว่างศาลโลกนะครับ แม้จะมาพูดจากัน 2-3 วันนี้ มาบอกว่า 20 วันหลังจากนั่นได้ไปยื่นทักท้วงไว้ว่าจะไม่สละสิทธิ์
แล้วยังไงครับ เวลาผ่านมา 45 ปี มีใครได้ไปเริ่มทำสิทธิ์ ไปเปิดคดีใหม่หรือยัง 45 ปีครับ มันแพ้คดีเขา แล้วตกลงขีดเส้นกันตรงนั้น ที่อยู่กันมาได้เพราะประโยชน์ร่วมกัน เพราะนักท่องเที่ยวขึ้นได้ทางนี้ ทางโน้นขึ้นไม่ได้ต้องขึ้นทางเรา สะดวก นักท่องเที่ยวก็มาทางเรา ก็ถึงอยู่กันมาว่าเส้นดินเขาชนะ ศาลโลกเขาเอาไปแล้ว เขาชักธงอยู่บนนั้น 45 ปี ถ้าปีละผืนก็ 45 ผืนแล้ว เปลี่ยนธงมานั่น ไม่มีใครทักไม่มีใครท้วงอยู่กันมาอย่างเรียบร้อยดี ก็ตกลงเราแพ้คดีเขา เขาก็เอาที่ตรงนั้นไป ก็เป็นของเขา จะคาบลูกคาบดอกยังไงจะสงวนสิทธิ์ยังไง 45 ปี ไม่มีใครทักไม่มีใครท้วงอะไรยังไงเลย
พื้นที่ทับซ้อน 4 ตารางกิโลเมตรกว่าจะเจรจากันภายใน 2 ปี
เสร็จเรียบร้อยแล้วเกิดอะไรขึ้น เกิดว่าวันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ เขมรเขาจะเอาเขาพระวิหารไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เราก็ต้องท้วงทันที บอกถ้าขึ้นทะเบียนมรดกโลกนี่ รอบ ๆ เป็นภูเขาอยู่ข้างล่าง เขาเรียกว่าพื้นที่ทับซ้อนมีอยู่ 4 ตารางกิโลเมตรกว่า ยังตกลงกันไม่ได้พื้นที่ทับซ้อนนี่ ก็บอกว่าไม่ได้ คุณไปขึ้นอย่างนั้นได้ยังไง เขาบอกเขาจะขึ้นทะเบียน เราบอกว่าไม่ได้ ทางนายกรัฐมนตรีฮุนเซนบอกว่าจะแก้ปัญหาเพื่อจะขึ้นทะเบียน ก็บอกจะเอาเฉพาะตัวปราสาท เราก็บอกตัวปราสาทได้ แต่ต้องไปตกลงกันที่ยูเนสโก ก็ตกลงไปที่ปารีส มันไม่ใช่ตกลงกันในที่ของเขา ไม่ใช่เรื่องของเราเลย ไม่ใช่ที่ของเรา และไม่ได้เข้ามาตรา 190 อะไรเลย เรื่องของเขา เพียงแต่บอกว่ามีพื้นที่ทับซ้อนอยู่ เราไม่เห็นด้วยถ้าเขาจะเอาพื้นที่ทับซ้อนไปด้วย เขาก็อยากจะขึ้นทะเบียนของเขา เขาก็ไปพูดกันที่โน่น เจรจากัน 12 ชั่วโมง ก็ตกลงกันเรียบร้อย ขึ้นเฉพาะตัวปราสาท ผมอธิบายปากเปล่าโดยไม่ต้องเอาแผนที่มากาง ทหารเขาก็ไปดูครับ เจ้ากรมแผนที่ทหาร ก็ตกลงว่าตัวที่ของเขาในเขตแดนของเขา ขีดขอบเป็น parameter รอบ ๆ วันนั้นเขาใส่มาสีชมพู แปลว่าขีดขอบปราสาทเอาแค่ตัวปราสาท ก็อยู่ในที่เขา ขีดขอบเขตของเขานั่นละครับ แล้วก็ตกลงว่าขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท ก็ของ ๆ เขาอยู่ในนั้นของเขา ขึ้นทะเบียนตกลง บอกถ้าอย่างนี้ได้ไม่มีปัญหา และพื้นที่ทับซ้อน เขาก็บอกว่าภายใน 2 ปีค่อยเจรจากัน เจรจาคือยังไง คือที่ทับซ้อนที่มีคนเขมรเข้ามาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 มาตั้งบ้านตั้งวัด รัฐบาลไหนก็ไม่ทราบ 2543 ไปนับดูก็แล้วกัน เขาเข้าไปอยู่ตรงนั้นก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร และก็อยู่กันมาตรงนั้น นี่ละครับคราวนี้ก็ภายใน 2 ปีจะต้องเอาตรงนั้นออกไป ก็เป็นพื้นที่ทับซ้อน
ทั้งหมดมีเท่านี้เท่านั้นเองครับ เขาก็ไปตกลงว่าโอเค ถ้าอย่างนี้ขึ้นทะเบียน วันที่ 5 กรกฎาคมนี้เขาจะขึ้นทะเบียนที่ควิเบก แคนาดา ก็เขาขึ้นทะเบียนปราสาทที่อยู่ในเขตของเขา ไม่มีสนธิสัญญาอะไรเกี่ยวข้องกันเลย เราทักท้วงถ้าว่าจะเอาพื้นที่รอบปราสาท เขียนมาด้วย บอกไม่ได้อย่างนี้ไม่ได้ อย่างนี้ทับซ้อนกัน ต้องเจรจาอยู่ที่ที่ทับซ้อน เราก็ท้วงและก็ท้วงสำเร็จ แปลว่าพื้นที่ทับซ้อนไม่เอาไปขึ้น ขึ้นเฉพาะตัวปราสาท คำว่าพื้นที่ทับซ้อน ยังมีอีกว่าชายแดนที่ยังเจรจาไม่เสร็จ ยังเถียงกันตรงไหน ก็เป็นพื้นที่ทับซ้อน ก็ต้องถือ รอบเขาพระวิหารมีอยู่ 4 ตารางกิโลเมตรกว่า ต้องยังเจรจาต่อ ตรงชายแดนก็เจรจาต่อ รวมทั้งในทะเลที่เอามาด่ากันนี่ ในทะเลจะกี่พันตารางกิโลเมตรก็สุดแท้แต่ทับซ้อนกันอยู่ เพราะไม่เจรจา ทิ้งไว้อย่างนั้นเพราะเขาพระวิหารก็ยังไม่เจรจา ชายแดนก็ไม่เจรจา พื้นที่ทับซ้อนทั้งหมดไม่มีการเจรจา และเขาก็เอาของเขาในที่ของเขา ขอบเขตเรียบร้อยนั่นละครับ เขาไปขึ้นทะเบียน ก็ตกลงกันเท่านี้เอง เขาก็แถลงการณ์ร่วมว่าตกลง ถ้าเผื่อเขมรจะเอาเฉพาะรอบ ๆ ตรงนั้น เราก็ไม่ขัดข้อง เขาก็เรียก joint Communiqne ก็ต้องเซ็น มันไม่ใช่สนธิสัญญาอะไรนี่ครับ ตกลงว่าโอเค
มีการปลุกระดมว่าไทยจะเสียดินแดน
ของที่ของเขานะครับ เพราะฉะนั้น อยู่ดี ๆ เอามาปลุกระดม เอาไปนั่นกัน นายกฯ ทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) เกิดไปตีกอล์ฟกับฮุนเซน บอกว่าจะไปแลกเปลี่ยน แลกเปลี่ยนอะไรละครับ ผมฟ้องคดีอยู่ในศาลนะครับ เป็นทำนองว่ารัฐบาลนี้เอาเขาพระวิหารไปยกให้เขมรเพื่อจะแลกเปลี่ยนไปขุดน้ำมัน น้ำมันก็ไม่ได้ขุด แลกก็ไม่ได้แลก เพราะของ ๆ เขา เราทำหน้าที่รัฐบาลนี้ทักท้วง เอาละไม่ไว้ใจรัฐมนตรีนพดล (นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) คือพูดเท่าไรก็ไม่ฟัง แม่ทัพนายกองออกมา ผู้บัญชาการทหารบกออกมา อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เจ้ากรมแผนที่ทหาร ออกมา ก็ยืนยันชัดเจนว่ามันขอบเขตของเขาที่ของเขาเท่านั้น ไม่มีพื้นที่ เราไม่เคยเสียอะไรไป ก็ยังไม่ฟัง ปลุกระดมกัน ได้ระดับไหน ขนาดผู้หญิงตัดเสื้อชุดละหมื่นนั่นละครับ แสดงอาการบอกไม่ได้เลย ฉันจะต้องไปร่วมชุมนุม จะเสียเขาพระวิหารไป ฉันยอมตาย ยอมเสียชีวิต มันอะไรกันขนาดนี้ละครับ การปลุกระดมได้ผลถึงขนาดนั้นหรือครับ ทำไมคนเราเกิดอาการรักชาติขึ้นมาจะเป็นจะตาย และทำไมละครับก่อนหน้าที่ถ้าเขมรไม่ขึ้นทะเบียนก็อยู่กันมาต่อไป จะอยู่กันมาอีก 50 ปีก็อาจจะอยู่อย่างนี้อีก 50 ปีต่อไปข้างหน้า เขาไม่ขึ้นทะเบียน เขาอยากจะเอาหน้าเอาตา เขาจะขึ้นทะเบียน ก็บ้านเราก็ขึ้นทะเบียนในแผ่นดินของเรา เขาก็ขึ้นทะเบียนเป็นแผ่นดินของเขา แล้วมันอะไรกันนักหนาถึงอย่างนี้ ผมอธิบายให้ฟังชัดเจนแล้ว ผมต้องรับผิดชอบในหัวหน้ารัฐบาล จะไปเกลียดแค้นชิงชังไม่ชอบรัฐมนตรีนพดล รัฐมนตรีนพดลเคยเป็นทนายให้นายกฯ ทักษิณในอดีต ทุกอย่างมันจบสิ้นไปหมดแล้ว มันไปโยงใยมันไปแลกเปลี่ยนอะไรละครับ
โรงไฟฟ้าที่เกาะกงที่จะสร้าง รัฐบาลนี้เป็นคนเจรจานะครับ ไม่ใช่นายกฯ ทักษิณ ของเราจะสร้างโรงไฟฟ้า 2 โรง ตกลงถ่านหินเผา 7,000 บีทียู ถ่านหินที่แม่เมาะเผา 2,400 บีทียู มันมีซัลเฟอร์ ตกลงเราจะสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ 2 โรงที่หินกรูดที่อะไรต่าง ๆ ตกลงเอาถ่านหินชนิดที่เผา 7,000 บีทียู เผาแล้วหมดไม่มีมลพิษ ต่อต้านกัน 10 ปี สร้างไม่ได้ ก็เจรจากันละครับ ผมเดินทางไป เขาตกลงว่าเขาบอกยินดีให้สร้างโรงไฟฟ้า แล้วไฟฟ้าก็มาขายบ้านเรา โรงไฟฟ้าสร้างในเมืองเขา แล้วส่งไฟฟ้ามาขายบ้านเรา เดี๋ยวนี้ที่ลาวทำไมทำอย่างนั้นละครับ น้ำเทิน 1 น้ำเทิน 2 ก็เอาไฟฟ้าบ้านเขามาขายบ้านเรา มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนอะไรนั่นเลย ทำไมทำกันได้ถึงขนาดนี้ ผมไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจละครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองที่มีเจ้าหน้าที่ของพรรคโผล่มาแสดงอะไรต่าง ๆ ผมดูอายุอานามจะเกิดทันไม่ทันไม่รู้ แต่ควรจะถามให้คนแก่ ๆ ได้พักดูบ้าง เกิดอะไรขึ้นตั้งแต่เมื่อ 45 ปีที่แล้ว
เอาละครับ ก็หวังใจว่าคงเข้าใจนะครับ แล้วผมรับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะมันไม่ได้เป็นสนธิสัญญาเลย เขาตกลงในที่ของเขา แต่บังเอิญการขึ้นทะเบียนยูเนสโกจะเอาบริเวณด้วย เราบอกไม่ได้ บริเวณทับซ้อนยังเถียงกันอยู่ ก็ไปตกลงกันที่ปารีส บอกเอาเฉพาะตัวปราสาท เขาก็ขึ้นเฉพาะตัวปราสาทในเขตของเขา แล้วถึงอะไร ผมต้องใช้คำว่าอะไรกันนักหนาถึงปลุกระดมกันว่าเสียดินแดน มันเสียอะไรละครับ มันเสียไปเมื่อ 45 ปีที่แล้ว มันในแผ่นดินของเขานะครับ แล้วขึ้นก็ขึ้นปราสาทอย่างนั้น ทำให้คนไทยเข้าใจผิด เกิดไม่ทันยังไง จะเป็นจะตายขึ้นมาว่าจะเสียดินแดน ไม่มีเสียละครับ แม่ทัพนายกองเขามารับรอง เขาดูแผนที่ ไม่มีเรื่องอะไรเลย แต่ทำไมใช้วิธีการกันอย่างนี้ ผมไม่เข้าใจ
เอาละครับถัดไปเรื่องที่ผมต้องการจะพูดเสียวันนี้ ความจริงจะต้องพูดเรื่องการเกษตร อุตส่าห์ไปศึกษามาต่าง ๆจะคุยเรื่องวิชาพัฒนาเกษตร เดี๋ยวไว้ต่อหางตอนท้าย ถ้าไม่ทันต้องเอาไว้ต่ออาทิตย์หน้า วันนี้ผมจะต้องพูดให้ฟังให้เข้าใจหน่อยนะครับ คือจะต้องทบทวนให้ฟังว่าประเทศไทย เรามีการปกครองที่เปลี่ยนแปลงเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 มาถึงบัดนี้ก็ 76 ปีแล้วครับ จะกระโดกกระเดกจะเปลี่ยนแปลงยังไง มีทหารเคยมีอำนาจยึดอำนาจ ประชาธิปไตยเต็มใบ ครึ่งใบ เรียกว่ากระโดกกระเดกกันมานี่ สุดท้ายก็ยังมีปฏิวัติเปลี่ยนแปลงยึดอำนาจ ก็ยังมีอยู่นะครับ แต่ว่าเมื่อเสร็จเรียบร้อยถอยไปแล้ว เราก็จะกลับคืนสู่สภาพปกติคือมีรัฐธรรมนูญมาใช้รับรอง และจากรัฐธรรมนูญจะมีการเลือกตั้ง มีการเลือกตั้งสมัยนี้ทันสมัย แต่ก่อนนี้ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นคนดูแล ถ้าทันสมัยจริง ๆ เขาจะต้องมีคณะกรรมการเลือกตั้ง เหมือนในโลกเขานี้ ฟิลิปปินส์เขามีก่อนหน้าเรา เขาเรียก นัมเฟรล ของเราสังเกตการณ์วันสุดท้าย เราก็มีองค์กรพิเศษเรียกว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการทำให้ทัน แต่ก่อนรอศาล 4 ปี หมดวาระสภา คดียังอยู่ในศาล เดี๋ยวนี้เขาจัดการเลย 1 เดือนทำอย่างนี้ ต่อไปทำอย่างนี้ มีกฎเกณฑ์ ก็เลือกตั้งมีกฎเกณฑ์ ต่างชาติก็เข้ามาดู
กลุ่มพันธมิตรฯ เปลี่ยนมาขับไล่รัฐบาล
เสร็จแล้วก็เลือกตั้งตามระบบมาตรฐาน พื้นฐานจะเป็นยังไงมายังไงก็สุดแท้แต่ แต่ว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อ 23 ธันวาคม 2550 เป็นการตกลงแบบชาวโลกเขาดูกันทั่วโลก แล้วตกลงเรียบร้อยแล้ว พรรคการเมืองได้ 233 พรรคการเมือง 164 ที่เหลือมีอีก 5 พรรคการเมือง เสร็จแล้วรวบรวมกัน ใช้เวลาพักหนึ่งก็ตกลงกันได้ว่า พรรคที่ได้ 233 คือพลังพลังประชาชน รวมกันอีก 5 พรรคได้ 316 อีกพรรคหนึ่งเหลือ 164 ก็เป็นฝ่ายค้าน ก็เริ่มต้นออกกันมาอย่างนี้ นี่ก็มาตรฐานสากลนะครับ และข้อสำคัญที่สุดคือว่า ในรัฐธรรมนูญเขาบอกเลยว่าวิธีการแก้ไขจะเป็นยังไง ก็มีข้อบกพร่องอยู่ต้องแก้ ก็พูดกัน คนร่างบอกว่าเอาเถอะใช้ไปก่อนแล้วไปแก้ทีหลัง ก็ถึงคราวจะแก้ เกิดอาการไม่ได้ขึ้นมา จะไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ ทั้งหมดก็พูดกันตรงไปตรงมา ความเคียดแค้นชิงชัง การไล่นายกฯ คนเก่า ยังไม่จบ นายกฯ คนเก่าก็กลับมาขึ้นศาล เขามาขึ้นศาลนะครับ ไปไหนไม่รอดต้องขึ้นศาล เป็นจำเลยในคดีในศาล ต้องมาขึ้นศาล ก็เรียกร้องขึ้นศาล เขาก็มาขึ้นศาล แต่ว่านั่งจ้องดูหาเหตุกัน เอาเหตุตรงไหน พอจะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ เอาเลยครับโดดลงมาทันที แก้รัฐธรรมนูญ พอถัดมาอีกหน่อยมีการเริ่มหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เอาสองแล้วกระโดดมาเอาด้วย ถ้าบังเอิญรัฐธรรมนูญตกไปเรียบร้อย คนหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก็ถอยออกไป เขาก็ลาออก พอตำรวจชี้ว่ามีมูลเขาก็ลาออก แล้วไง เปลี่ยนทันทีเลยครับ ขับไล่รัฐบาล ไล่รัฐบาลผม ๆ เป็นหัวหน้านี่ละครับ ไล่รัฐบาล
เสร็จแล้วผมก็ต้องทำหน้าที่ของผม ผมบอกไปทำอยู่ตรงนั้นไม่ได้ ผมก็อธิบายความเลยว่าคุณทำอย่างนี้ไม่ได้ มันขวางทาง หน้าองค์การสหประชาชาติขายหน้าเขาไปทั่วโลก ทำอย่างนี้ได้ยังไง ไม่เคารพกฎบัตรกฎหมาย อธิบายความเท่านั้นละครับ โอ้โหกลายเป็นเรื่องใหญ่ นายกรัฐมนตรีกลายเป็นคนร้ายภายในพริบตา ยังไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์บอกตำรวจว่าจะต้องทำยังไง วิธีการจะต้องยังไง จะดูจังหวะจะโคนแล้วต้องพูด เอาโทรทัศน์ไปถ่าย ต้องรอให้เขาเป็นคนไปรื้อเอง เขาไม่รื้อ เราถึงจะรื้อ ถ่ายให้คนเห็นว่าเป็นยังไง ก็ซักซ้อมไว้อย่างนั้น จะเมื่อไรยังไงก็ไม่รู้ ปรากฏว่าห้าโมงเย็นประกาศเองเลยครับ ห้าโมงเย็นตำรวจจะสลาย เสร็จแล้วนักวิชาการออกมาล่อกันนัวไปเลย กลายเป็นว่ารัฐบาลจะนั่น รัฐบาลนี้โง่จะสลาย ผมก็เอาละครับยอมไม่สลาย ก็ไม่สลาย พูดไปก็นั่นไป ตำรวจก็รับผิดชอบ ทีแรกว่าตำรวจยังไม่มีสถานะ ตำรวจได้รับโปรดเกล้าฯ มารับตำแหน่ง คุณดูหน่อย คุณรับเรื่องไปดูเลย ก็อย่างนั้นละครับ ผมก็อดทนนะครับ ขายหน้าเขาก็ขายหน้า เจอทูตขรตรีเศียรเขาถามผม ๆ ก็บอกยังไม่ทราบ กำลังจะแก้ไขยังไง เพราะว่าผู้คนก็ยื้อยุด บอกอย่า ๆ ทำอะไรยังไงจะเสียหาย สุดท้ายก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยละครับ ขับไล่ ๆ ๆ ๆ ๆ แต่ไป ๆ มา ๆ นั่งฟังดูก็อ๋อด่าอดีตนายกฯ ไม่พอใจ สุดท้ายเอาผมเข้าไปพ่วงด้วย ผมจะถามสิครับว่าอย่างนี้ยุติธรรมไหม ผมมาถูกต้องตามกฎหมาย อดีตนายกฯ เขาก็เป็นอดีตนายกฯ และเขาก็กำลังจะขึ้นศาล ขึ้นศาลไปแล้วคดีความอยู่ในศาล และจะพยายาม จนความเกลียดชังไม่หาย จะเอากันให้เป็นให้ตาย และจะลากเอาผมไปประกบด้วย จะกล่าวหาว่าเป็นนอมินี กรรมการบอกไม่เป็นนอมินี จะทำยังไงก็บอกไม่ใช่ จะเอาอย่างนั้นก็ไม่ใช่ พยายามจ้องทุกวิถีทางคือจะเอาออกให้ได้ แล้วยังไงจุดหมายปลายทางอยู่ที่ไหนครับ
เปิดให้ ส.ว.และส.ส.อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
มีคน 5 คนมาตั้งขบวนการเสร็จเรียบร้อย ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ เอาละสมมติว่ามันจะเกิดกลับข้างกัน อย่างที่กำลังนี้ที่ว่าตกลงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เปิดไม่ไว้วางใจ มีเวลาจัดการทำเสียให้จบเรื่องไป ก็เอาไปวันครึ่งไม่ไว้วางใจ ต่อไป 2 หรือ 3 วันที่จะงบประมาณ ก็จบสิ้นไป ก็จะทำจะครับ วุฒิสมาชิกขอพูด วันจันทร์จะไปฟังวุฒิสมาชิก อีกวันครึ่งจะให้จัดการทำให้จบสิ้นไป เมื่อเวลาที่เห็นอย่างนี้แล้ว เราก็ทำครับ ทำไมถึงตัดสินใจอย่างนี้ เราก็สังเกตเห็นว่าเขาอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง คือยังไง ก็นี่กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา พอยื่นญัตติมา มี 35 คน 6 พรรคร่วมกัน ก็ล่อพรรคเดียวเท่านั้นเอง เล่นพรรคพลังประชาชนพรรคเดียวเท่านั้น 7 คน ต้องการอะไร นี่ละกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา อีก 5 พรรคไม่แตะ เพื่อยังไงครับ เพื่อจะได้เข้าสภาแล้วก็ถล่มทลายเอาให้ชอกช้ำเลย เข้าสภามีภูมิคุ้มกัน จะเอาอะไรมาขุดมาด่าก็เอา ผมก็บอกทีแรกก็นั่งลังเลใจว่าเรายังไม่ได้ทำอะไร สัญญาอะไรก็ยังไม่เซ็น โครงการอะไรต่างๆ ก็กำลังจะเริ่มดำเนินการ แต่ทำไมจะเอากันให้เป็นให้ตาย ไปดูสิครับ 9 ข้อที่เขียนมา แต่ละข้อ ๆ เหมือนกับแค่นต้องเขียนมา 9 ข้อ เสร็จแล้วก็ยื่น เมื่อเราเห็นว่าเอาละ ถ้าจะตกลงให้ดับชนวนไม่ให้มีเรื่องคาราคาซัง เอาละให้คุณวันครึ่ง ประชุมครม.เช้า บ่ายมาให้ครึ่งวัน รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง ต่อไปให้งบประมาณอีก 2 หรือ 3 วัน ก็จะได้เสร็จสิ้นกันไป
ผมจะถามตรงนี้เท่านั้นละครับว่าถ้าสมมติว่าทางผมเลวทรามต่ำช้าจริง ทางฝ่ายค้านด่าทอว่ากล่าวเสร็จเรียบร้อย ลงคะแนน และคณะ 5 พรรคเขาก็บอกเห็นว่าเลวจริง เลยไปลงคะแนนโหวตไม่ไว้วางใจ ได้ไป 247 ไม่ไว้วางใจ เอาละผมแพ้ ผมถอยออกไป แล้วไงก็ได้รัฐบาลใหม่ คุณอภิสิทธิ์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) เป็นนายกฯ 5 พรรคไปรวมทางพรรคประชาธิปัตย์ และถ้าคณะผมมีคนที่ไม่ได้รับเลือกตั้งเยอะนะครับ ถ้าผมอยู่ข้างหลัง ผมชักใยเลยว่าเอามาเลย ออกมาเลย เอามาสัก 5 คน ตั้งวงกันเลย ออกไปข้างถนนบ้าง ล่อมันทุกวันเลย ล่อทุกวัน ทำอย่างเดียวกันน่ะ ยึดถนนโน้นยึดถนนนี้ ทำแล้ว 5-6 กองล่อทั้งเมืองเลย แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองนี้ ระบบที่เป็นทางราชการที่จะอย่างถูกต้อง แปลว่ายังไงครับ ที่ล่อกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เอาละกลั้นใจไม่อยากให้เกิดจลาจล ตำรวจเขาเล่าให้ฟังครับ ที่เข้ามา เขาปล่อยให้เข้ามาตรงนั้น เพราะเขาล่อจะให้นั่น คือจะเอากระบองฟาด มีเสียงปืนยิงสักนัดหนึ่งเท่านั้นละครับ ในอดีตมีแล้วนี่ครับ คนที่เขายืนเขาเล่าให้ฟังมีเสียงปืนดังปัง โอ้โหบอกเราชนะแล้ว พอเสียงปืนนัดเดียว บอกเราชนะแล้ว
และผมจะถามว่ามันแพ้ชนะกันตรงไหนยังไงครับ เคลื่อนจากสะพานมัฆวานฯ มายึดตรงนี้ได้ เราชนะแล้ว แล้วยังไงต่อไปละครับ ปลุกระดมจนกระทั่งบ้านเมืองจลาจล บ้านเมืองนี้มี 63 ล้านคนนะครับ ผมไม่อยากใช้คำว่าคนหยิบมือหนึ่ง เอามาจากไหนยังไงไม่อยากวิจารณ์ให้เสียปาก จะมาจากไหน ก็เอาสิครับจะทำก็ลองทำดู และจุดหมายปลายทาง แปลว่าคน 5 คนตั้งคณะขึ้นมาแล้วเล่นกันข้างถนนอย่างนี้ เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีต้องพ้นไป แล้วบ้านเมืองอย่างนี้มันอยู่ได้ยังไงครับ เอาหน้าตาไว้ที่ไหนกับประเทศในโลกเขา ผมบอกถ้าอภิปรายสำเร็จแล้วผมแพ้ คณะ 5 พรรคของผมที่ไม่แตะต้องเลย เพื่อจะเปิดช่องไปรวมทางโน้น ลงคะแนนไล่ผมออกมา พอคุณตั้งรัฐบาลเสร็จปั๊บ ผมก็ตั้งแก๊งเล่นข้างถนนบ้าง แล้วยังไงจะมีใครมาเห็นใจผมไหมครับ จะมีใครมายื้อยุดฉุดมือคุณอภิสิทธิ์ไหมว่าไม่ให้มาแตะต้อง ผมยึดถนนหมด ผมไม่ทำ ผมให้คนที่สอบตก 5-6 คนล่ออย่างนี้เหมือนกัน และบ้านเมืองอยู่ได้หรือครับ บ้านเมืองมีหลักเกณฑ์ ผมถึงได้ร้องถาม คุณมาจากไหน 5 คน คุณเลือกตั้งเมื่อไร คุณมีสถานะยังไงทางกฎหมาย แต่กำลังนี้บรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลายประโคมข่าวกันเป็นทำนองเหมือนว่าทั้ง 5 คนนี้มีสิทธิ์ที่จะมาตั้งข้างถนนมาปลุกระดม จะปิดถนนไปแตะต้องไม่ได้ ผมชอบใจคำพูดของท่านโฆษกรัฐบาล (พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์) ท่านเป็นตำรวจเก่า ท่านจำได้นะครับ ตำรวจจะสลายม็อบ พอผมพูดวันเสาร์วันอาทิตย์ ห้าโมงเย็นตำรวจจะสลายม็อบ แปลว่าตำรวจจะเข้าไปนั่นแปลว่าตำรวจสลายม็อบ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 วัน ม็อบสลายตำรวจ เป็นยังไงไหมครับ ม็อบสลายตำรวจพูดได้ไหมครับ ม็อบสลายตำรวจ บุกเข้ามารุกเข้ามา ก็ตำรวจเล่าให้ผมฟังนี่ครับว่าเขากระเหี้ยนกระหือรือ ทำไมตำรวจไม่ตี ทำไมตำรวจไม่ทำ ทำไมตำรวจปล่อยทะลักเข้ามา เขาหวังใจให้ปะทะ เพื่อจะเกิดเรื่อง จะได้เอาไปเป็นคดีความ ไม่สำเร็จละครับ เพราะตำรวจเขาร่วมมือ คือร่วมมือว่าคุณจะเอาอย่างนี้ก็ตามใจ ไม่ปะทะ บาดเจ็บไป 4 คน ก็ยอมเจ็บ พระสงฆ์องคเจ้าก็บอกว่าคุณสมัครรอดตัวไป ผมก็ยังไม่รู้จะรอดแค่ไหน วันไหนเขาอดกลั้นไม่ได้ ฟาดเข้าไปก็เกิดเรื่องเท่านั้นเอง
แต่ถามว่าคณะนี้มันต้องการทำให้เกิดเรื่องเพื่อจะเอาเหตุ โดยยังไงครับ สื่อสารมวลชนทั้งหลายก็คอยจะประโคม ผมถึงบอกว่าสมัครปากไม่ดีว่าถึงคนอื่นอีกแล้ว ก็ดูสิครับดูหนังสือพิมพ์ ดูพาดหัวเอิกเกริก เหมือนกับว่าคนทั้ง 5 นั้นมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกับคณะผม คือมีสิทธิเสรีภาพต่อต้านกันอยู่ข้างถนน ทำให้ยุ่งยาก เด็กนักเรียนไปไม่ได้ นั่นถูกต้อง เพราะสิทธิในการอ้างรัฐธรรมนูญมาตรานั้นมาตรานี้ แค่นอ้างมาอย่างนั้นเอง ที่ผมรำคาญใจคือว่าสื่อสารมวลชนนั้นเทียบยกน้ำหนักสองข้างเท่ากัน นั่นละครับคือความไม่เป็นธรรมในสังคม ผมมาถูกต้องตามกฎหมายนี่ครับ คุณอภิสิทธิ์ก็ถูกต้องตามกฎหมาย 5 พรรคที่ร่วมกับผม เขาก็มาถูกต้องตามกฎหมาย ก็เราทำตามกฎหมายถูกต้อง บ้านเมืองมาถึงตรงนี้ ทหารเขาก็บอกว่าเรื่องของรัฐบาลเขาไม่เกี่ยวข้อง บรรยากาศที่จะปลุกระดมให้นั่น เขาก็ไม่ต้องเข้ามาแล้ว
ทุกอย่างก็กำลังดำเนินการ โครงการต่าง ๆ ใน 4 เดือนนี้ทำกันตัวเป็นเกลียวเลยครับ หรือว่าที่กำลังจะทำใหญ่เป็นโอกาสจะทำมาหากิน จะทำโครงการรถไฟต่อทั้งหมด ที่แล้วมาเวลาผ่านมาทำกัน 24 หยุดอยู่ข้างบนทำยกระดับผ่ากลางเมือง ทำใต้ยึกยัก ๆ อีก 20 นี่แค่นี้ ต่อไปนี้จะทำประมาณ 300 กิโลเมตร เริ่มต้นลงมือแล้วนะครับ ทั้งรถไฟชานเมืองรถไฟในเมือง นี่เป็นโอกาสของรัฐบาลก๊อกแก็ก ๆ นี้จะได้เป็นคนทำ จะทำรถไฟรางคู่ น้ำก็มาทางการเกษตร จะขุดรอบบึงหมดกำลังนี้ ทุกบึงจะเอาดินขึ้นหมด จะปรับหมด จะเก็บน้ำหมด จะลงมือทำหมด มันเป็นโอกาสหรือไงครับ โอกาสก็มีคนทนไม่ได้หรือไงครับ แล้วทำไมรัฐบาลก๊อกแก๊กเส็งเคร็งคนนี้จะได้โอกาสตัดสินใจจะทำโครงการทั้งหมด แม้กระทั่งอย่างรถเมล์ เรื่องโครงการรถเมล์ให้ผมพูดให้ฟังหน่อยเถอะครับว่า เรื่องรถเมล์เพียงแต่คิดแนวทางมาจะแก้ไข แสดงความรับผิดชอบเท่านั้นละครับ โน่นเอาไปยื่นไม่ไว้วางใจ ทั้ง ๆ ที่อยู่ในกระดาษ ยังไม่ได้ประมูลสักแกรก ยังไม่ได้ทำอะไรสักอัน
การเช่ารถเมล์แอร์ 6,000 คันมาวิ่งให้บริการ
ผมเล่าให้ฟังก็ได้นะครับ รถเมล์อยู่ในกรุงเทพฯ แต่ก่อนเรามีรถ 6,000 คัน ดำเนินการใช้กันมาเป็นรถใช้เครื่องยนต์ดีเซล และก็ใช้ดำเนินการกันมา และทำกันบกพร่องเสียหาย จนกระทั่งรถเหลือ 3,500 คัน หายไป 2,500 คัน เสียหายต่างๆ จนกระทั่งเอกชนต้องเข้ามาช่วย และก็ดำเนินการกัน เอกชนได้สายดี ๆ ตัวรัฐบาลได้สายไม่ดีวิ่ง และก็อยู่กันมาอย่างนั้น และเป็นยังไงไหมครับ แต่ก่อนมีคน 22,000 และก็กลับมาเดี๋ยวนี้เหลือ 18,000 แต่รถอยู่ 3,500 กับคน 18,000 ไม่สัมพันธ์กัน แต่ก่อน 1 ต่อ 4 รถ 1 คัน คน 4 คน เดี๋ยวนี้รถ 1 คัน คน 6 คน แบกน้ำหนัก แล้วเป็นไงครับ ก็รถที่ซื้อมา รถจะต้องซ่อม ระบบเท่ากับมาทำต่อเพิ่มเติม ก็ได้บทเรียนมาแล้วนี่ครับ รถที่เอามาซื้อมันต้องซ่อม อะไหล่ก็หากิน ยางก็หากิน น้ำมันก็ดูดกันออกไปได้ แล้วยังไงตั๋วก็ขี่ช้าง ไม่เข้าใจว่าขี่ช้างเป็นยังไง ตั๋ว 10 ใบขี่กันได้ 12 ใบ อย่างนี้เสียหาย ตอนผมอยู่ติดลบอยู่ 2,000 ล้าน ก็มโหฬารเต็มทีแล้วเป็นหนี้ ขสมก.เป็นหนี้ 2,000 ล้าน
บัดนี้ผมกลับเข้ามาใหม่ ขสมก.เป็นหนี้ตัวเลขพูดคร่าว ๆ 69,000 ล้าน ตัวเลขที่แสดงเอกสารเห็น 74,000 ล้าน ผมนั่งไม่รู้ไม่ชี้เสียอีกหน่อยผมก็ไป ก็ถึง 100,000 ล้าน แล้วมีใครรับผิดชอบไหมครับ ปล่อยไว้อย่างนี้ เขาก็มีความคิดว่าคนมีความคิด รัฐบาลที่ดูท่าลงไม่ได้แต่มีความคิดว่าต้องแก้ไขปัญหา เขาก็เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ก็คร่าว ๆ ง่าย ๆ อย่างนี้ครับ โละรถทั้งหมดขายไป แล้วเอารถใหม่เข้ามา 6,000 คัน สภาพรถใหม่ปรับอากาศทั้งหมด แล้วก็ใช้แก๊ส เมื่อใช้แก๊สเสร็จเรียบร้อยก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายลงไปเหลือ 1 ใน 3 เคยใช้ 100 ก็ใช้ 33 บาทในการที่จะเดินรถ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็จะพอปรับปรุงได้ เขาก็จะทำ คน 18,000 เขาก็ใช้เงิน 6,000 ล้านเขาบอกเอา early retire ออกไปสักครึ่ง ที่เหลือก็จะอยู่สัมพันธ์กับตัวรถ เอาแก๊สใส่ลงไป ทั้งคัน 6,000 ก็ขโมยแก๊สไปขายไม่ได้เพราะมันอัด เอาขโมยไปขายไม่ได้ ตั๋วก็เป็น e - ticket คือขึ้นไปก็เสียบ แปลว่าขี่ช้างไม่ได้ ผู้คนก็ early retire ออกไป เสีย 6,000 ล้านให้เขาออกไปสักครึ่งหนึ่ง และก็นี่ที่เขาจะแก้ไขได้ เขาก็บอกอย่างนี้พอจะแก้ไขได้ แล้วรายได้ที่จะต่อมานอกจากจะจ่ายเลี้ยงตัวเองได้ ก็จะมีเหลือที่จะใช้หนี้ 74,000 ล้าน
คิดเท่านั้นละครับถูกกล่าวหาว่าทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวงจะหากินกับรถ ว่าอย่างไรครับ ว่าได้คันละ 1,000,000 ไม่ได้ซื้อรถนะครับ ซื้อไม่ได้นะครับ รถซื้อมานี้ 3 ปีต้องซ่อม หากินกับอะไหล่ รถ 100 คันก็วิ่งได้ 70 คัน เขาที่ให้เช่านี้แปลว่าตลอดเวลา 10 ปีรถต้องเอารถใหม่มาทุกวัน รถต้องใช้งานได้ ใหม่หรือไม่ใหม่ก็ต้องใช้งานได้ ต้องเปลี่ยนยางต้องมีแบตเตอรี่ต้องมีอะไรเสร็จ เราเติมแก๊สของเราเองเท่านั้น ก็ยังไม่ทันจะเริ่มต้นนับ ก. ข. อย่างไร ยังไม่ได้ประมูลเลยครับกล่าวหาแล้วว่าเลือกบริษัทไว้แล้ว ก็รอก่อนสิครับรอให้เลือกบริษัทก่อนค่อยล่อกัน นี่ผมก็บอกให้ชะลอ เอามาเขียนให้ดูสิว่าวิธีการจะออกประมูลจะเชิญชวนอย่างไร สมัครดึงออกเพราะสมัครกลัวจะไม่ไว้วางใจ นี่อย่างไรครับ แล้ววันอังคารนี้ผมเชิญให้ไม่ไว้วางใจ เอาเลยถลกกันเลยว่าเป็นอย่างไร ดูสิมันมีอย่างไร มันมีอย่างไรมันมีหลักฐานการทุจริตอย่างไร เซ็นสัญญากับใครไปแล้ว จ่ายเงินวางมัดจำใครไปแล้ว ไม่มีสักบาทหนึ่ง ยังอยู่ในกระดาษทั้งสิ้น ตัวที่จะเขียน specification ก็ยังไม่ได้เขียน เพียงแต่เกิดความคิดในแนวทางเท่านั้น ก็ล่อกันอย่างนี้แล้ว เห็นไหมครับ
เพราะฉะนั้น ผมบอกว่าเรื่องอย่างนี้ผมจะถามเอาไว้เลยครับว่า ใครจะยกย่องสรรเสริญ 5 พระหน่อที่ปลุกระดมกันอยู่อย่างนี้ก็เชิญเถอะครับ แต่ผมมีสิทธิเรียกร้องได้ว่าในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีชีวิตยืนยาวของประเทศไทยมาตั้งแต่คนจำนวนไม่เท่าไร เดี๋ยวนี้ 63 ล้านคน บ้านเมืองก็มีชื่อเสียง ทั่วโลกรู้จักประเทศไทยเป็นอย่างไร แต่ว่ามามีแผลอยู่กลางใจพระนครอย่างนี้มันใช้ได้หรือครับ ผมจะถามสิ ผมจะย้ำนะครับว่าเอาละถ้ามัน twist อย่างนี้ทำมือได้คุณอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ทั้งหมดไปหมด ผมเหลือ 233 ผมเป็นฝ่ายค้าน แล้วผมตั้งใจประกาศเลยผมจะเก็บฝ่ายที่สอบไม่ได้ 5 คนนี้ตั้งเป็นแก๊งเลยแล้วระดมอยู่กลางถนนอย่างนี้ เอาอย่างเดียวกันอย่างนี้ ไหวไหมครับ คนที่ชอบผมก็มี คนที่ไม่ชอบพรรคโน้นก็มี เอาละผมจะเรียกระดม เอาไหม แล้วบ้านเมืองอยู่ได้ไหมครับอย่างนี้ จุดหมายปลายทางอยู่ที่ไหนครับ เคียดแค้นชิงชังไม่ชอบ เขามาขึ้นศาลแล้ว แต่ผมต้องถือว่าไม่ใช่เรื่องของผมนะครับ แต่ผมมาทำหน้าที่ของผม ผมเข้าตามตรอกออกตามประตู จะมาคาดคั้นมาเค้นอย่างไรไม่มีทางหรอกครับ
เอาละวันจันทร์ผมจะพูดกับวุฒิสมาชิก วันอังคาร วันพุธ ผมจะพูดกับทางฝ่ายค้าน วันพฤหัสบดี วันศุกร์ ผมจะพูดงบประมาณ ผมก็ทำหน้าที่ของผม ก็เวลามีเท่านี้ก็ถูกต้อง ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะมาพูดจางอแงอะไรนั้น ทีคาดคั้นให้ผมเปิด พอผมเปิดแล้วว่าผมอีก ตกลงเอาอย่างไรละครับ ผมบอกว่าผมไม่พร้อมเพราะเวลาน้อย ก็ขอว่าจะไม่เปิด ว่ากล่าวอย่างโน้นอย่างนี้ ขึ้นมายื่นมาจะต้องบรรจุ จะต้องอะไร ๆ พอบรรจุเสร็จเรียบร้อย พอบรรจุผมบอกเอาเลยเอา ผมตัดสินใจให้ ประชุมครม. ให้เลิกเร็วหน่อยแล้วก็ไปอยู่สภาฯ วันครึ่ง จะอะไรกันนักหนาละครับ 4 เดือนนี้ ถ้าผมอยู่มา 4 ปีแล้วจะถลกหนังเอาให้หมด เอาสัก 7 วันแบบสมัยประชาธิปัตย์ล่อแต่ก่อน เอาสิครับ นี่อยู่มา 4 เดือนครับ สัญญายังไม่ได้เซ็นกันเลยสักฉบับหนึ่ง งานการยังอยู่ในระหว่าง ต้องอธิบายให้ฟังเรื่องนั้นกำลังอย่างนั้น ยังทั้งนั้นละครับ แล้วจะเอาอะไรมาด่ากันได้นักหนา ผมอยากจะรู้ จะเชี่ยวชาญการขุดมา เอาสิผมจะยอมให้ขุดเอามาด่า เอาสักวันครึ่งพอสมควรแก่เหตุ ต่อไปก็งบประมาณ ไม่มีงบประมาณบ้านเมืองบริหารไม่ได้ นั่นละครับสำคัญ ชัดเจนนะครับ
เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศ ผมต้องการพูดเพียงเท่านี้ให้รู้นะครับว่า การเปิดสภาวันจันทร์ผมก็เปิดให้วุฒิสมาชิก วันอังคารวันพุธผมเปิดให้พรรคการเมืองฝ่ายค้านแล้วนักการเมืองจะล่อกันอย่างไรสุดแท้แต่ จะเล่นผมพรรคเดียวอีก 5 พรรคเก็บไว้เพื่อจะให้เขาไป ได้ครับ แต่พรรคการเมืองทั้ง 5 เขาก็รู้ครับว่าเขาอยู่กับใครเป็นอย่างไร อยู่กับนายกฯ คนนี้มันเค็มหรือมันจืด รู้ดีครับ นั่งกันมา 4 เดือนรู้รสชาติว่าเป็นคนเค็มหรือเป็นคนจืด เป็นคนร้ายกาจหรือเป็นคนที่คบได้ ผมถึงไม่เดือดร้อน อยู่กันมา 6 พรรคนี้อยู่กันมาเรียบร้อยดี ก็เอาสิครับลองดู วันพุธเอาเลยล่อกันให้ช้ำเลย แล้วดูสิ 5 พรรคเขาเปลี่ยนใจไหม เปลี่ยนใจอย่างไรแล้ว ผมบอกไว้ล่วงหน้าเลย ถ้าคุณทำอย่างนั้นสำเร็จเรียบร้อยคุณตั้งนายกฯ ชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้วจะมี 5 คนที่สอบไม่ได้อยู่ตามถนนเหมือนกันเลย ล่อมันทุกวันเลย หาเรื่องลากขึ้นมาเลย ไอ้โน่นไอ้นี่ล่อกันทุกวัน ทำอย่างเดียวกัน แล้วบ้านเมืองอยู่ได้ไหมครับ ผมจะถาม เอาหน้าไว้ที่ไหนครับ เท่านั้นละครับผมไม่พูดอะไรเยอะ วันนี้เอาเท่านี้พอสมควร
โครงการทำปุ๋ยหมักจากจุลินทรีย์ของ กอ.รมน.ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต
ผมอยากให้ดูตรงนี้ ดูนี่ดีกว่า ลองดูครับ ผมอยากจะพูดให้ฟังครับ ผมไปประชุม กอ.รมน. แล้วนายทหารเขาทำ นี่งานของทหารครับ จะให้ดู ดูตั้งแต่เริ่มต้น จุดแดง ๆ นี้ถ่ายเรียงแถวไปเลย ถ่ายไล่ไปเรื่อยครับ ผมจะคุยเรื่อย ๆ เขาเรียกว่า คือปุ๋ยธรรมดามีปุ๋ยเคมี มีปุ๋ยอินทรีย์ อันนี้ปุ๋ยหมักจากจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ปี 50 เขาทำ ส่วนผสมที่เขาทำนี้เขาใช้แกลบที่ยังไม่ได้เผา เขาใช้มูลสัตว์ที่เอามารวมกัน เขามีจุลินทรีย์ที่ผสม ผมอ่านตัวเลขให้ฟังหน่อยครับ เขาใช้งบประมาณเพื่อโครงการนี้ ทดลองครับ เขาใช้โครงการนี้ 2,000,000 บาทใน 138 ชุมชน นี่งาน กอ.รมน. ครับ 138 ชุมชนได้ปุ๋ยหมัก EM นี้ 4,000 ตัน 2,000,000 บาทได้ 4,000 ตันครับ มูลค่า 8,000,000 บาทเพราะว่ากิโลกรัมละ 2 บาท ปุ๋ยเคมีกิโลกรัมละ 25 บาท ปุ๋ยที่เขาทำนี้กิโลกรัมละ 2 บาท ถูกกว่ากันเท่าไรดูสิครับ แล้วทั้งหมดนี้ 4,000 ตันเขาเอาไปปลูกข้าวได้ 40,000 ไร่ ปุ๋ย 4,000 ตันไปปลูกข้าวได้ 40,000 ไร่ได้ข้าวมา 24 ล้านกิโลกรัม ได้ 600 กิโลกรัมต่อไร่ครับ ข้าวได้มูลค่า 360 ล้าน กิโลกรัมละ 15 บาทข้าวเปลือก ถ้าใช้ปุ๋ยเคมี 40,000 ไร่ ๆ ละ 600 บาทคือ 24 ล้าน ต้องใช้เงิน 24 ล้าน เขาประหยัดเงินช่วยชาวนาได้ 22 ล้าน นี่ละครับ ปุ๋ยหมักจุลินทรีย์มีประสิทธิภาพ เวลานี้เกษตรได้ผลิตปุ๋ย EM เพื่อการนี้ 5,000 ตัน ชาวนา 50,000 ไร่ เขาทำกันที่อุบลราชธานี ผมจะไปชี้ให้ดู ให้ดูอย่างนี้ครับ ผมไปฟังเขาคุยมาแล้ว ผมต้องให้ดู เวลาที่เขาผสม เขาใช้แกลบ 1 ส่วน รำ 1 ส่วน มูลสัตว์ 1 ส่วน เขาผสม ทำมูลสัตว์ใช้น้ำจุลินทรีย์ใส่แล้วเขาก็ผสม ใช้เครื่องจักรมาคลุกเคล้า นี่เขาทำได้ถุงอย่างนี้ครับ ใส่ได้ถุงอย่างนี้ครับ แล้วเขาก็เริ่มใช้ เขาโปรย ใส่ในข้าว ทีนี้พอเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาได้ข้าวอย่างนี้ นา 1 ไร่ใช้ปุ๋ยเคมีครึ่งกระสอบ 600 แต่จุลินทรีย์ 1 ไร่ 100 บาท ถูกกว่ากัน เห็นไหมครับ ดูข้าวนี่เขาเอาข้าวน้ำรูมาให้ดู
ทีนี้ดูมันสำปะหลังน่าตื่นเต้นครับ นี่ที่ขุดธรรมดา ๆ ที่ใช้ปุ๋ยธรรมดา ปุ๋ยเคมีนะครับ มันสำปะหลังเคมีเฉลี่ยได้ 3 - 5 ตันต่อไร่ ปุ๋ยเคมี 3 ตันต่อไร่ มันสำปะหลังเฉลี่ยได้ 3 - 5 ตันต่อไร่ นี่ครับ แต่ว่าจุลินทรีย์นี้ มันสำปะหลัง 9 เดือน 17 ตันต่อไร่ เวลาเท่ากันนี้ 3 -5 ตันต่อไร่ เห็นไหมครับ นี่เก่านี่ใหม่ ดูเขาทำเห็นไหมครับ เพราะฉะนั้นถ้าดูในน้ำสิ่งแวดล้อมไม่เสียครับ ใส่ปุ๋ยเคมีในนา ปลา กบ ไม่อยู่ แต่ว่าใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ปลากลับมา กบกลับมา ปลากลับมา เห็นไหมครับ นี่ผลไม้ สวนทุเรียน มะละกอ ขนุน ยาง ทุกอย่างใช้ได้หมด ทบทวนให้ฟังอย่างนี้นะครับว่า เมื่อเวลาที่ใช้ปุ๋ยเคมีครึ่งกระสอบ 600 ปุ๋ยจุลินทรีย์ 100 บาทถูกกว่ากัน คุยให้ฟังอย่างนี้แล้วจะบอกว่า ถ้าหากว่ารัฐบาลใช้เงินไป 4,100 ล้านทำอะไรทราบไหมครับ ไปชักชวนให้ราษฎรทั้งประเทศเลิกใช้ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยเคมีเลิกได้หมดไหมครับ เลิกไม่หมดหรอกครับ เขาเอาปุ๋ยเคมีส่วนหนึ่งมาผสมกับปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์มาจากกากอ้อย กากน้ำตาล เขามีส่วนผสมครับ แล้วเคมีผสมหน่อย ไม่ได้ใช้เงินเพื่อการอื่นครับ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรเชื่อว่าใช้ปุ๋ยอินทรีย์ดีกว่า แม้ว่าจะเขียวอะไรช้ากว่าหน่อย นี่มาเจอปุ๋ยจุลินทรีย์ คนที่ทำเป็นทหาร เขาอยู่ กอ.รมน. ส่วนหนึ่งของงาน กอ.รมน. ส่วนสุดท้ายเลยคือเข้าไปช่วยราษฎรพัฒนา แล้วนี่คืองานที่เขาเข้าไปพัฒนา ปุ๋ยหมักจากจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ปี 50 เขาดำเนินการได้ปุ๋ย 4,000 ตันปลูกข้าวได้ 40,000 ไร่ เห็นไหมครับ แล้วเวลาที่จริง ๆ แล้วถ้าจะใช้เคมีต้องใช้ 24 ล้าน แต่ว่าถ้าใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์นี้ 2,000,000 ครับ ลงทุน 2,000,000 ได้ปุ๋ย 4,000 ตันมูลค่ากิโลกรัมละ 2 บาท เสร็จเรียบร้อยแล้วปลูกข้าวได้ 40,000 ไร่ ได้ข้าวอีก 24 ล้านกิโลกรัม มีมูลค่า 360 ล้านบาท ใช้ปุ๋ยเคมีต้องใช้ 24 ล้านครับ กำลังนี้ปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ปี 51 ที่รายงานนี้ปี 50 ปี 51 เวลานี้เกษตรกรได้ปุ๋ย EM 50,000 ไร่ 5,000 ตันได้ 50,000 ไร่ ที่อุบลราชธานีกับศรีสะเกษ ผมจะตามไปดูเขา วันนี้เป็นปั๊บผมบอกขอยืมเลยทันที ยกมาเลย
สนับสนุนการปลูกพืชพลังงานทำเอทานอล
วันนี้แม้จะต้องคุยเรื่องการเมืองมาค่อนทาง แต่ว่าคุยเรื่องนี้ให้ฟังว่านี่ละครับงานที่รัฐบาลทำ งานที่รัฐบาลสนับสนุน แน่นอนหน่วยงาน กอ.รมน. เขาทำของเขามาก่อน แต่ผมต้องสนับสนุนให้แพร่ออกไปทั่วประเทศ ไม่กลืนทั้งหมดหรอกครับ แต่ว่าถ้าพอเพียงแล้วลักษณะนี้ใช้ได้ เขาพิสูจน์ด้วยตัวเอง ถัดไปก็อินทรีย์ แปลว่ามากกว่านี้หน่อย แพงกว่านี้หน่อย แต่ได้ประโยชน์คือทำให้ดินดี เราจะหลีกเลี่ยงเคมี ไม่หมดครับ เคมียังต้องมา ปุ๋ย NPK ยังต้องมาเป็นส่วนผสม นี่ละครับคืองานที่รัฐบาลสนใจว่าไม่ต้องการเสียเงินให้แพงมากเกินเหตุ ก็เหมือนอะไรครับ ก็เหมือนที่เราทำเอทานอลได้สำเร็จ แต่ก่อนเอา 5 ใส่ไปเบนซิน 95 ต่อไปใส่ไป 10 เดี๋ยวนี้ใส่ 20 เบนซิน 80 แต่ในทางปฏิภาคกลับเดี๋ยวนี้เราผลิตเอทานอลได้ E85 คือเอทานอล 85 เบนซิน 15 กำลังปรับปรุงเรื่องรถอยู่ นี่ละครับงานของรัฐบาลนี้มันเกิดขึ้นตรงนี้พอดี ก็เอาละเราดำเนินการ แปลว่ามีพืชทดแทน แล้วอย่างไรครับ เลิกปลูกฝ้ายปลูกข้าว มาปลูกอ้อย เปล่าครับ เลิกปลูกข้าวมาปลูกมัน มันสำปะหลังเขาก็อยู่ส่วนมันสำปะหลัง อ้อยก็อยู่ส่วนอ้อย แต่ว่าผลิตผลซึ่งเคยได้ไร่ละ 6 ตัน เป็นไร่ละ 10 เดี๋ยวนี้อยู่ที่ไร่ละ 15 กำลังยืน 15 แต่ว่าเขาปลูกกัน 20 ได้สบาย ๆ แล้ว อ้อยนะครับ คุณเสนาะ เทียนทอง บอกที่บ้านปลูก 25 ตันต่อไร่ เราเพิ่มผลผลิตต่างหากครับ ปีนี้เราได้อ้อยมา 73 ล้านตันอ้อย น้ำตาลแค่ 23 เหลือ 50 ทำเอทานอล ต่อไปได้มากขึ้นอีกก็เอทานอล มันสำปะหลัง ระยอง 9 มันงาม ทั้ง corn starch ข้างในมากมายก่ายกอง จนกระทั่งเราสามารถ 42 โรงจดทะเบียน 12 โรงดำเนินการแล้ว แล้วตกลงถ้าน้ำมันยังแพงบ้าเลือดอยู่เขาก็ต้องจัดการ เขาต้องจัดการแน่นอน คือเรื่องระบบเขาตกลงหมดแล้วครับ ต่อไปจะใช้น้ำมันเคยซื้อเขา 100 ลิตรก็ซื้อ 15 ลิตร เราผลิตได้เอง 85 นี่มหัศจรรย์ไหมละครับ มหัศจรรย์ครับ แปลว่ารถยังมี รถยังวิ่งได้ แล้วเราปลูกพืชน้ำมัน พืช energy ปลูกบนแผ่นดินของเราเอง บริษัทที่ประเทศบราซิลเขาใช้ 100 เปอร์เซ็นต์ครับ เขาใหญ่โตมโหฬาร เขาทำสำเร็จ รัฐมนตรีของเราไปบราซิลเพิ่งกลับมา เพื่อจะดูว่าอะไรอย่างไร
เรื่องแก๊สเป็นอย่างไร ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะบอกให้ฟังนะครับ เรื่องแก๊สเขาคำนวณแล้วจะใช้ได้ 26 ปี รถยนต์ เร่งการเติมเท่านั้นละครับ ต่อไปจะต้องเติมได้เร็ว จะต้องเติมได้กี่ปั๊ม จะต้องมีได้มาก นี่คือการจะต้องแก้ไข วันจันทร์นี้รัฐมนตรีจะไปเซ็นสัญญาที่พม่า เพราะอะไร ตั้งนมนานกาเลแต่เขาก็ไม่ตกลง ก็ผมไปเยี่ยมนั่นละครับ พูดจากัน หลังจากนั้นปั๊บ เราจัดการช่วยเหลือ เขาจัดการขอเชิญเซ็นสัญญาซื้อก๊าซจากแหล่งใหม่ แต่ก่อนเราใช้เยกุนยากาน่าสองอัน เดี๋ยวนี้เป็นอันที่สาม M9 เขาเชิญไปเซ็นสัญญา แปลว่าเราจะมีแก๊สใช้ จากอ่าวของเพื่อนบ้าน เป็น reserve ของเพื่อนบ้านครับ เขาก็ช่วยเรา กำลังนี้โรงไฟฟ้าราชบุรีก็ใช้จากที่นั่น เดี๋ยวนี้จะออกมาจะใช้อะไรก็ M9 วันจันทร์นี้เซ็นสัญญา ที่ สปป.ลาว เขื่อนน้ำเทิน 1 น้ำเทิน 2 น้ำเทิน 3 ก็ทำไฟ 100 นั้น ลาวใช้ 15 ไทยใช้ 85 ลาวใช้ 10 ไทยใช้ 90 นั่นเพื่อนบ้านครับ นี่คือเพื่อนบ้านครับ
ยืนยันไม่มีการเสียดินแดนกรณีเขาพระวิหาร
แล้วเพื่อนบ้าน กัมพูชาเขาก็เพื่อนบ้าน แล้วอย่างไรครับ คือที่จะปลุกระดมจะเอาเรื่องเอาราวกันนั้นต้องการอะไรครับ ต้องการอะไร ถ้าเพื่อนบ้านนี่รักษาไมตรี เราเสียดินแดนอะไรไปครับ เสียไปแล้ว 45 ปีครับ เขาจะเอา ถ้ามีขอบเขตเราบอกไม่ได้ต้องเอาเฉพาะจุด เขาเอาเฉพาะตัวไปแล้วของ ๆ เขาครับ ต้องพูดไว้ให้ชัดเจน ไม่มีเสียดินแดนไหนสักกระเบียดนิ้วหนึ่ง ไม่มีอะไรเลย แต่จะเอากันให้ได้ เอาไปผูกเอาไปโยง ให้คนที่เกิดไม่ทัน 45 ปีเข้าใจว่าเราเสียดินแดน ผมย้ำนะครับว่าดินแดนที่เสียไปแล้ว 45 ปี ปักธงเขามาแล้ว 45 ปีไม่เคยมีใครโผล่หน้าไปท้วง อ้างบอกว่า reserve ไว้ 20 วันหลังจากนั้น แล้วอย่างไร 45 ปีทำอะไร เสร็จแล้วเราทำให้สงบเรียบร้อยได้ ตกลงเรียบร้อยได้ แทนที่จะได้รับคำชมเชยกลับจะเอาเรื่องเอาราวเอาไปโยงใย จะเอาไปโยงใยกับอดีตนายกรัฐมนตรี แล้วแลกอะไรเปลี่ยนอะไรอย่างไรละครับ ก็เอาละครับจะถล่มทลายกันวันอังคารบ่ายโมงครึ่งเชิญเลยจะเอาอย่างไรก็ รถเมล์จะถล่มอย่างไรก็มาเลย ผมเล่าให้ประชาชนให้บ้านเมืองฟังเสียก่อนว่าเป็นอย่างไร เขาพระวิหารผมเล่าให้ฟังเสียก่อนว่าเป็นอย่างไร การเมืองผมอธิบายให้ฟังเลยว่าจะมีแก๊ง 5 คนถล่มอยู่อย่างนี้ละก็ ถ้าเปลี่ยนขั้วเมื่อไร ผมก็จะตั้งแก๊ง 5 คนมาเอาอย่างนี้บ้าง แล้วบ้านเมืองเป็นอย่างไรครับลองคิดดู แล้วผมจะดูสิสื่อสารมวลชนจะอยู่ข้างไหน หรือว่าพาดหัวด่าแก๊ง 5 คนที่เกิดใหม่ขึ้นทุกวัน เดี๋ยวตอบคำถามหน่อยวันนี้
ตอบคำถามประชาชน
คำถาม นายกรัฐมนตรีสมควรให้นักวิชาการพูดเรื่องเขาพระวิหาร อธิบายเสริมเพราะประชาชนฟังพันธมิตรมาก นักวิชาการพูดมีน้ำหนักกว่า
นายกรัฐมนตรี นักวิชาการจะพูดมีน้ำหนักอย่างไรละก็ผมนี่ละครับรู้เรื่อง ถ้าฟังคนอย่างผมพูดไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องฟังใครแล้วครับ มันไม่มีหลักวิชาการอะไรอย่างไรเลย แม่ทัพนายกองมาออก อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มาออก แม่ทัพบกมาออก เจ้ากรมแผนที่ทหารมาออก ยังไม่ฟังยังไม่เชื่อนะครับ ผมก็พูดให้ฟังชัดเจนครับ ไม่ต้องนักวิชาการที่ไหนหรอกครับ ผมนี่ละครับผมรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย
คำถาม เรื่องเขาพระวิหารให้ลงเรื่องที่แท้จริง ประวัติในหนังสือพิมพ์ รวมทั้งผลงาน
นายกรัฐมนตรี เขาไม่ลงหรอกครับหนังสือพิมพ์
คำถาม ขอให้ท่านนายฯ จัดแถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเรื่องเขาพระวิหาร แถลงร่วมกับ ผบ.ทบ. เจ้ากรมแผนที่ทหาร รัฐมนตรีฯ
นายกรัฐมนตรี เขาทำไปแล้วครับแต่ไม่มีใครสนใจ นี่ละครับวันนี้ ผบ.ทบ. เจ้ากรมแผนที่ทหาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเขาออกโทรทัศน์ไปแล้ว แล้วยังไปปลุกระดมด่ากันว่าคนไทยเสียดินแดน ถามสิครับว่าดินแดนที่เสียเขาไปแล้ว 45 ปี เขาปักธงมา 45 ปี ไม่มีใครมีเรื่อง เขาจะขอเอาไปขึ้นทะเบียน เราบอกขึ้นทะเบียนตรงนั้นซ้อนไม่ได้ เราท้วง ต้องเฉพาะตึก เขาเอาไปขึ้นเฉพาะตึกของเขาครับ เท่านี้ไม่เข้าใจเรื่อง ไม่ทราบจะทำอย่างไรแล้วครับ
คำถาม อยากให้รายการนี้มี call center 24 ชั่วโมงอยากให้สื่อความประชาชนทั่วประเทศคิดอย่างไร ให้ท่านพูดไปข้างหน้า
นายกรัฐมนตรี เรียกภาษาฝรั่งนะนี่ ศูนย์โทรศัพท์ก็เรียกไม่ได้นะ อาทิตย์ละหนนั่นละครับ มีคนฟังเยอะดี วันนี้อาจารย์สุขุมฯ (รองศาสตราจารย์สุขุม นวลสกุล) บอกเมื่อเช้า บอกว่าคนฟังเยอะ ก็เยอะละครับ ผมก็มีสารคดีเรื่องโน่นเรื่องนี้เหมือนเดิม วันนี้สารคดีก็ออกได้แต่แค่เรื่องรถเมล์ เรื่องมันสำปะหลัง เรื่องอ้อย เรื่องปุ๋ย
คำถาม ทำไมไม่มีใครพูดถึงนักเรียนจะเรียนอย่างไร เพราะเสียงดังมากจากพันธมิตร
นายกรัฐมนตรี ก็ลองดูวันจันทร์ก็แล้วกันครับว่าเขาจะทนกันได้อย่างไรแค่ไหน ก็ต้องช่วยกันดูสิครับ ก็ปล่อยกันเหลือเกินนี่ครับ ปล่อยกันเหลือเกินยกย่องกันเหลือเกิน ไม่รู้ประชาธิปไตยแขนงไหนอย่างไร ผมเรียกว่าผมไม่เคยเจอ ยกย่องกันเหลือเกิน
คำถาม ประชาชนอยู่ข้างรัฐบาลเยอะ อยากให้แสดงพลังอย่างไร
นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องหรอกครับ กรุณาอยู่ในที่ตั้ง กรุณาเถอะ ไม่ต้องแสดงหรอกครับ
คำถาม หัวจ่ายแก๊สติดมิเตอร์ขนส่งแก๊สแล้ววิ่งบริการจอดตามจุด
นายกรัฐมนตรี เขาจะทำทุกวิถีทางให้เติมมากเติมเร็ว กำลังนี้ ต้องยืนยันอยู่ว่าแก๊สทั่วจะใช้ได้ 26 ปี นี่เซ็นสัญญา M9 กับพม่าอาจจะได้มากกว่า 26 ปี และกำลังจะเจรจากับรัสเซีย ซึ่งรัสเซียก็จะเอาแก๊ส ใครจะดูถูกดูแคลนรัสเซีย คุณปูติน (นายวลาดิมีร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย) เขาชวนผมว่าให้ไปพบ ผมก็เดือนตุลาคมนัดกันจะไปคุย ก็กำลังจะดูเรื่องใช้แก๊ส เขายินดีสนับสนุนครับ รวมทั้งน้ำมันดีเซลราคาถูก กำลังเจรจาความกันอยู่ ผมก็ทำหน้าที่ครับ เขาก็เห็นว่าเขาคงพอคบได้ พอนั่นได้เขาติดต่อมา
คำถาม ควรมีมาตรการและบทลงโทษรถบรรทุกน้ำหนักเกิน
นายกรัฐมนตรี ครับ ๆ เรื่องนี้เขามีมาตรการอยู่
คำถาม ทุนการศึกษาสมัยนายกรัฐมนตรีอยากให้มีอีก
นายกรัฐมนตรี ก็มีกำลังดำเนินการครับเรื่องนี้
คำถาม อยากจะทราบเรื่องถังแก๊สเอ็นจีวี ลดราคา 50 เปอร์เซ็นต์จริงไหมลดเมื่อไรตอบด้วย
นายกรัฐมนตรี เขาต้องการจะให้ใช้ เขาต้องพยายามทุกวิถีทาง แต่บัดนี้กำลังพูดกับทางจีน ถ้าพิสูจน์ได้ว่าของจีนก็ดี ราคาถูกกว่ากันครึ่งหนึ่งก็จะเอาของจีน ของฮาร์ดี ของอิตาลีเขาเจ๋งครับ แต่ว่าทางจีนเขาก็ว่าของเขาดีครับ เขาต้องหาทางปรับปรุง
คำถาม ให้กำลังใจนายกฯ อย่าไปหลงกลหลงทางฝ่ายยั่วยุให้ตบะแตก ไม่ต้องไปโกรธพวกเขา
นายกรัฐมนตรี ไม่โกรธหรอกครับ และขอประกาศไว้ด้วย โครงการต่อไปจะส่งสื่อสารมวลชนมารุมล้อมและจะถามยั่วยุให้ผมตบะแตก บอกไว้ล่วงหน้าเลยครับ ไม่แตกครับ เพราะปกตินั้นก็ไม่เปิดโอกาสให้ยั่วยุอยู่แล้ว ผมจะทำเรื่องนี้เพื่อบ้านเมืองของเรา ผมจะพยายามอดกลั้นทั้งหลาย เพราะผมก็เป็นคนธรรมดา เป็นคนเหมือนกันครับ ปลุกระดมปลุกได้คุณก็คนคุณก็กินข้าว ผมก็คนผมก็กินข้าว ดูสิครับว่าใครจะอึดกว่ากันอย่างไร ผมแน่ใจว่าผมทำสิ่งที่ถูกต้อง แล้วบรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลายท่านใช้วิจารณญาณของท่านให้ดีเถิดครับว่ามันควรจะสนับสนุนคนที่ทำผิดกฎหมายหรือไม่ แล้วควรจะพูดถึงคนที่ทำถูกกฎหมายในแง่ทางที่ดีบ้างหรือไม่ ผมไม่ได้ดีวิเศษกว่าคนอื่นหรอกครับ แต่ผมมีความตั้งใจดีที่จะทำงานให้บ้านเมืองนี้ ผมทำงานทุกอย่าง ผมจะทำให้ ผมบอกแล้วผมทำให้ผมไม่ทำเอา ผมเดินทางไปจนสุดท้ายปลายชีวิตของผมแล้ว แต่ว่าผมเขาห้ามพูดว่าจะไปเมื่อไรอย่างไร แต่ผมจะอยู่ ถ้าอยู่ได้ 4 ปีผมทำให้ 4 ปี โครงการทั้งหลายทั้งปวงผมจะเริ่มต้นขึ้นให้ได้ครับ ผมไปประเทศจีนแล้วจะเจรจาความ เจรจาความกับท่านประธานาธิบดีจีน เรื่องอาวุธยุทธภัณฑ์ซึ่งทหารฝากไป แล้วผมจะเจรจาท่านนายกฯ เรื่องการช่วยเหลือเรื่องการจะขุดโครงการต่าง ๆ เรื่องทั้งเงินกู้เรื่องทั้งโครงการเทคนิค เริ่มต้นที่สุดคือว่าขุดลอกคูคลองน้ำทั้งหมดด้วยเครื่องมือทันสมัยจากส่วนกลาง ซึ่งไม่หวังพึ่งกับใครอีกแล้ว ฟังดูแล้วไม่มีใครรับผิดชอบเลยครับ พูดไปวนไปวนมา เชื่อไหมครับกรมชลประทาน เรือขุดตั้งแต่สมัยซื้อมา 70-80 ปีแล้วไม่เคยซื้ออีกเลย บัดนี้จะเอาความทันสมัย จะขุดหมดเลยครับ ลึก 1 ลึก 2 จะเอาให้ลึกให้มากกว่านั้น เดี๋ยวอีกคำถามหนึ่งสุดท้าย
คำถาม เป็นนักเรียนอยู่โรงเรียนราชวินิต มัธยม วันจันทร์โรงเรียนจะเปิด อยากให้นายกฯ ช่วยจัดการม็อบพันธมิตร อยากให้ด้วยความปลอดภัยด้วย
นายกรัฐมนตรี กรุณาเถอะครับ ผมจะหลีกเลี่ยงที่จะไปปะทะกับพันธมิตร บรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลายจะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ให้หนู เขาจะใช้วิจารณญาณของเขา ว่าเขาควรจะมีบทความจะพาดหัวเตือนม็อบอย่างไรต่ออะไรบ้าง เดือดร้อนไปหมดครับ เดือดร้อนไปทั่วไป แต่รัฐบาลไม่เดือดร้อนครับ ผมยืนยันตรงนี้ครับว่าวันจันทร์ผมจะเข้าไปนั่งทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะยังมีทางเข้า-ออกอยู่ ไม่มีปัญหา วันอังคารก็ประชุมคณะรัฐมนตรีในทำเนียบฯ บ้านเมืองยังดำเนินการตามปกติเหมือนเดิมทุกประการ ใครจะแสดงอำนาจบาตรใหญ่อย่างไรผมจะปล่อยให้แสดงตามสมควรแก่เหตุ ถึงเวลาถ้าประชาชนทนไม่ได้อย่างไรก็พยักหน้าให้สัญญาณผมแล้วกัน ผมจะทำหน้าที่ เวลานี้ต้องใช้ตรงนี้แล้วครับ ไม่ได้หรอกครับ เพราะเวลานี้มีคนสนับสนุนคนที่ทำผิดกฎหมายและเหยียบย่ำคนที่ทำถูกกฎหมาย น่าเสียใจไหมครับ แต่ว่าผมทนได้ ผมจะอดทนเพื่อบ้านเมืองของเรา พูดให้โก้ไปหน่อย ที่พูดได้เพราะอะไร บังเอิญผมเป็นนายกรัฐมนตรี บังเอิญเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และบังเอิญได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด บริหารมา 4 เดือนนี่ละครับ ไหวครับ ผมคิดว่าผมเอาได้ ผมเอาอยู่ เพียงแต่ว่าขอให้ตัวบทกฎหมายยังคงศักดิ์สิทธิ์อยู่ในบ้านเมืองนี้ ขอให้บรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลายใช้วิจารณญาณว่า คนที่ทำผิดกฎหมายยังจะยกย่องสรรเสริญกันต่อไป ขณะที่คนมีหน้าที่ทำตามกฎหมายถูกเหยียบย่ำ ใครเป็นเจ้าของประเทศ ช่วยดูด้วยครับ เวลาเกินมานิดครับ วันอาทิตย์หน้าพบกันใหม่ วันนี้ลาก่อนครับสวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
รายการ “สนทนาประสาสมัคร”
โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2551 เวลา 08.30-09.30 น.
------------------------
สวัสดีครับท่านผู้ชมที่เคารพ ขอเรียนให้ทราบนิดหนึ่ง เมื่อวานนี้โดนต่อว่าคือจะไปร้องเพลงปลุกใจที่กรมประชาสัมพันธ์ รับปากกันไว้แน่นหนาเลยครับ แต่ว่ามีคนเขาบอกมาว่าถึงว่างก็ไม่ควรไป จะเป็นการยั่วกิเลสชาวบ้านเกินไป ที่จะไปร้องเพลงปลุกใจกันตอนนั้น ผมก็เชื่อคำแนะนำ แต่ก็ขออภัยท่านที่ไปรอฟัง
ความหมายชื่อสะพานชมัยมรุเชฐ
เช้านี้มีคำถามก่อนเพื่อนเลย ขอให้ตอบก่อนพูด เพราะกลัวว่าวันนี้พูดเยอะแล้วจะหมดเวลา ช่วยแปลคำว่า สะพานชมัยมรุเชฐ ให้ฟังหน่อย เพราะลูกถามแปลให้ลูกฟังไม่ได้ รู้คำว่าเดียว คำว่า “เชษฐ์” แปลว่า พี่ แต่ ชมัย กับ มรุ ไม่รู้แปลว่าอะไร สะพานอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาลครับ คำว่า “ชมัย” แปลว่า ทั้งสอง ถ้าจะเทียบให้ใช้ภาษาอังกฤษก็ both แปลว่าทั้งสอง “มรุ” แปลว่าที่ล่วงลับไปแล้ว เจ้านายท่านสร้างสะพานนี้อุทิศให้พระเชษฐาที่ล่วงลับไปแล้วสองพระองค์ ชมัยมรุเชฐ สะพานนี้มีสร้างคู่กัน มีอีกสะพานหนึ่งอยู่ถนนราชวิถี ตรงผ่านสวนจิตรลดาที่จะขึ้นทางรถไฟ ชื่อสะพานอุภัยเจษฎุทิศ แปลเหมือนกัน ชื่อคล้องกันด้วย ชมัยมรุเชฐขึ้นก่อน และอุภัยเจษฎุทิศ แปลเหมือนกันเลยครับ อุภัย แปลว่า ทั้งสอง เจษฎา แปลว่า พี่ อุทิศ ก็อุทิศ อุทิศให้พี่ทั้งสองที่ล่วงลับไปแล้ว ทางเมืองไทยเราก็มีวิธีการอย่างนี้ครับ บางสะพานก็ใส่หมายเลขตรงท้าย ในกรุงเทพฯ มีสะพานหมายเลขท้าย ๆ บอก พ.ศ. เช่น สะพานเจริญศรี 42 อยู่ที่หน้าศาลคลองหลอด ตรงนั้นเป็นสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2442 สะพานเฉลิมโลก 55 แปลว่ารัชกาลที่ 6 เพราะท่านขึ้นครองราชย์ พ.ศ. 2453 ,2454, 2455 เฉลิมโลก 55 แปลว่าสร้างสะพานเฉลิมโลก พ.ศ. 2455 ถัดมาสะพานหัวช้าง ก็เฉลิมหล้า 56 ถ้าใครเกิดทันโตเห็นแถว ๆ หน้าวัดสระปทุม ตรงหัวถนนอังรีดูนังค์ แต่ก่อนมีสะพานชื่อสะพานเฉลิมเผ่า 57 แปลว่าปีที่สร้าง เดี๋ยวนี้ก็ลบเลือนไปเยอะ ถามเรื่องสะพานก็ตอบให้กว้างขวางไปนิดหนึ่ง
ชี้แจงกรณีขึ้นทะเบียนเฉพาะปราสาทพระวิหาร
คำถามถัดไปอันนี้ถามหมดทั้งโทรศัพท์ ทั้งถามทั้งสั่งเลยว่าให้พูดเสียก่อนที่จะพูดเรื่องอะไรอื่นในทางการบ้านการเมืองอะไรที่ตั้งใจจะพูดวันนี้ คือว่าวันนี้ถ้าไม่อธิบายความเรื่องเขาพระวิหารให้ฟังดูเหมือนจะว่า จะให้เขาจุดชนวนให้ลุกลามกันต่อไป ผมต้องบอกว่าวันนั้นไปประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ก็ปราศรัยกับชาว กอ.รมน. 450 คนมาจากทั่วประเทศ ผมก็พูดไปหน่อยว่าผมคันปากเต็มทีอยากจะพูดเรื่องนี้ คือว่าคนที่มาซักไซ้ไล่เรียงไล่ต้อนจะเอาอย่างโน้นอย่างนี้ พวกนี้ไม่ถามลูกพี่ตัวที่อายุมาก ๆ อยู่ในพรรคเดียวกัน ถามสิเกิดเหตุอย่างไรมา
ผมต้องอธิบายให้ฟังให้ชัดเจนนะครับเรื่องนี้ ตอนปลายที่มาทำ เกิดเอาเรื่องนี้มาปลุกระดมกัน และปลุกระดมขนาดไหน ปลุกระดมแล้วน่ากลัวครับ ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นช่างตัดเสื้อ ตัดเสื้อแพงด้วยนะครับ ตัวหนึ่งแต่ก่อนตัดเป็นพัน เดี๋ยวนี้ตัดเป็นชุดละหมื่น ผู้หญิงนี่ครับบอกวันนี้ไม่รับแขกไม่เอาอะไรแล้วจะไปอะไร จะไปประชุมกับเขา บอกว่าจะต้องไปเอาให้ได้เรื่องนี้ เรื่องเขาพระวิหาร ไทยจะเสียเขาพระวิหาร คือพูดแล้วสรุปคำได้ว่า ถ้าฉันจะตายเพราะเรื่องเขาพระวิหารก็จะยอมตาย ผมฟังแล้วบอกโอ้โห นี่การปลุกระดมมันได้ผลถึงขนาด คนเราเป็นช่างตัดเสื้อ ไม่มีความคิดเลยฟังแล้ว คือผมอธิบายให้ฟังได้ชัดเจนว่าเรื่องนี้เอามาปลุกระดมกันเกินเหตุ นี่เกินเหตุถึงขนาดจะเอาไปศาลปกครอง แต่ผมเชื่อว่าทางศาลปกครองก็อายุมากพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรยังไง คือ พ.ศ. 2505 เขมรฟ้องศาลโลกว่าเขาพระวิหารเป็นของเขา และเราก็สู้คดีศาลโลก บริจาคกันคนละบาท และก็ไปสู้คดี ก็บังเอิญท่านที่ไปสู้คดีท่านเชื่อมั่นในเรื่องแผนที่ เขาถามว่ารับแผนที่ไหม ที่ฝรั่งเศสขีดไว้ ท่านไปยืนยันว่ารับแผนที่ที่ขีด เท่านั้นละครับ เมื่อขีดลงไปแล้ว ตรงนี้ คือถ้าไปบอกว่าจะเอาสันปันน้ำไม่รับแผนที่ที่ขีด ก็ยังสู้กันได้นาน บอกรับแผนที่ที่ขีด ฝรั่งคนขีดก็ไม่ได้ไปดูของจริง ดูแผนที่ ตรงนี้สันปันน้ำคือเป็นหินเป็นแนวยื่นเข้าไปทางโน้น ข้างล่างต่ำแล้วยื่นเข้าไปก็สร้างปราสาทตรงแนวยื่นเข้าไป เวลามันเขียนแผนที่ก็ขีดแผนที่มา ตัวแนวที่ยื่นไปในอากาศตรงนี้ คือถ้าคิดสันปันน้ำก็เป็นของไทย แต่ว่าฝรั่งขีดเส้น ฝรั่งเศสนี่ละครับขีดเส้นมาตรงตีนบันได ไม่ได้ตั้งใจตีนบันได ขีดตรงนั้นเลยครับ เวลาไปต่อสู้กัน ทนายของเราไปยอมรับ ๆ แผนที่ ไปยอมรับแผนที่ก็แพ้คดีเลยครับ เอาแผนที่มากางเสร็จปั๊บ บริเวณที่ยื่นไปนั้นอยู่นอกแผนที่ เท่ากับอย่างนั้นก็อยู่ในเขตเขมร เท่านั้นละครับก็แพ้คดีครับ ศาลโลกตัดสินแพ้คดี ต้องยกเขาพระวิหารให้เขาไป นี่คดีความระหว่างศาลโลกนะครับ แม้จะมาพูดจากัน 2-3 วันนี้ มาบอกว่า 20 วันหลังจากนั่นได้ไปยื่นทักท้วงไว้ว่าจะไม่สละสิทธิ์
แล้วยังไงครับ เวลาผ่านมา 45 ปี มีใครได้ไปเริ่มทำสิทธิ์ ไปเปิดคดีใหม่หรือยัง 45 ปีครับ มันแพ้คดีเขา แล้วตกลงขีดเส้นกันตรงนั้น ที่อยู่กันมาได้เพราะประโยชน์ร่วมกัน เพราะนักท่องเที่ยวขึ้นได้ทางนี้ ทางโน้นขึ้นไม่ได้ต้องขึ้นทางเรา สะดวก นักท่องเที่ยวก็มาทางเรา ก็ถึงอยู่กันมาว่าเส้นดินเขาชนะ ศาลโลกเขาเอาไปแล้ว เขาชักธงอยู่บนนั้น 45 ปี ถ้าปีละผืนก็ 45 ผืนแล้ว เปลี่ยนธงมานั่น ไม่มีใครทักไม่มีใครท้วงอยู่กันมาอย่างเรียบร้อยดี ก็ตกลงเราแพ้คดีเขา เขาก็เอาที่ตรงนั้นไป ก็เป็นของเขา จะคาบลูกคาบดอกยังไงจะสงวนสิทธิ์ยังไง 45 ปี ไม่มีใครทักไม่มีใครท้วงอะไรยังไงเลย
พื้นที่ทับซ้อน 4 ตารางกิโลเมตรกว่าจะเจรจากันภายใน 2 ปี
เสร็จเรียบร้อยแล้วเกิดอะไรขึ้น เกิดว่าวันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ เขมรเขาจะเอาเขาพระวิหารไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เราก็ต้องท้วงทันที บอกถ้าขึ้นทะเบียนมรดกโลกนี่ รอบ ๆ เป็นภูเขาอยู่ข้างล่าง เขาเรียกว่าพื้นที่ทับซ้อนมีอยู่ 4 ตารางกิโลเมตรกว่า ยังตกลงกันไม่ได้พื้นที่ทับซ้อนนี่ ก็บอกว่าไม่ได้ คุณไปขึ้นอย่างนั้นได้ยังไง เขาบอกเขาจะขึ้นทะเบียน เราบอกว่าไม่ได้ ทางนายกรัฐมนตรีฮุนเซนบอกว่าจะแก้ปัญหาเพื่อจะขึ้นทะเบียน ก็บอกจะเอาเฉพาะตัวปราสาท เราก็บอกตัวปราสาทได้ แต่ต้องไปตกลงกันที่ยูเนสโก ก็ตกลงไปที่ปารีส มันไม่ใช่ตกลงกันในที่ของเขา ไม่ใช่เรื่องของเราเลย ไม่ใช่ที่ของเรา และไม่ได้เข้ามาตรา 190 อะไรเลย เรื่องของเขา เพียงแต่บอกว่ามีพื้นที่ทับซ้อนอยู่ เราไม่เห็นด้วยถ้าเขาจะเอาพื้นที่ทับซ้อนไปด้วย เขาก็อยากจะขึ้นทะเบียนของเขา เขาก็ไปพูดกันที่โน่น เจรจากัน 12 ชั่วโมง ก็ตกลงกันเรียบร้อย ขึ้นเฉพาะตัวปราสาท ผมอธิบายปากเปล่าโดยไม่ต้องเอาแผนที่มากาง ทหารเขาก็ไปดูครับ เจ้ากรมแผนที่ทหาร ก็ตกลงว่าตัวที่ของเขาในเขตแดนของเขา ขีดขอบเป็น parameter รอบ ๆ วันนั้นเขาใส่มาสีชมพู แปลว่าขีดขอบปราสาทเอาแค่ตัวปราสาท ก็อยู่ในที่เขา ขีดขอบเขตของเขานั่นละครับ แล้วก็ตกลงว่าขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาท ก็ของ ๆ เขาอยู่ในนั้นของเขา ขึ้นทะเบียนตกลง บอกถ้าอย่างนี้ได้ไม่มีปัญหา และพื้นที่ทับซ้อน เขาก็บอกว่าภายใน 2 ปีค่อยเจรจากัน เจรจาคือยังไง คือที่ทับซ้อนที่มีคนเขมรเข้ามาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 มาตั้งบ้านตั้งวัด รัฐบาลไหนก็ไม่ทราบ 2543 ไปนับดูก็แล้วกัน เขาเข้าไปอยู่ตรงนั้นก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร และก็อยู่กันมาตรงนั้น นี่ละครับคราวนี้ก็ภายใน 2 ปีจะต้องเอาตรงนั้นออกไป ก็เป็นพื้นที่ทับซ้อน
ทั้งหมดมีเท่านี้เท่านั้นเองครับ เขาก็ไปตกลงว่าโอเค ถ้าอย่างนี้ขึ้นทะเบียน วันที่ 5 กรกฎาคมนี้เขาจะขึ้นทะเบียนที่ควิเบก แคนาดา ก็เขาขึ้นทะเบียนปราสาทที่อยู่ในเขตของเขา ไม่มีสนธิสัญญาอะไรเกี่ยวข้องกันเลย เราทักท้วงถ้าว่าจะเอาพื้นที่รอบปราสาท เขียนมาด้วย บอกไม่ได้อย่างนี้ไม่ได้ อย่างนี้ทับซ้อนกัน ต้องเจรจาอยู่ที่ที่ทับซ้อน เราก็ท้วงและก็ท้วงสำเร็จ แปลว่าพื้นที่ทับซ้อนไม่เอาไปขึ้น ขึ้นเฉพาะตัวปราสาท คำว่าพื้นที่ทับซ้อน ยังมีอีกว่าชายแดนที่ยังเจรจาไม่เสร็จ ยังเถียงกันตรงไหน ก็เป็นพื้นที่ทับซ้อน ก็ต้องถือ รอบเขาพระวิหารมีอยู่ 4 ตารางกิโลเมตรกว่า ต้องยังเจรจาต่อ ตรงชายแดนก็เจรจาต่อ รวมทั้งในทะเลที่เอามาด่ากันนี่ ในทะเลจะกี่พันตารางกิโลเมตรก็สุดแท้แต่ทับซ้อนกันอยู่ เพราะไม่เจรจา ทิ้งไว้อย่างนั้นเพราะเขาพระวิหารก็ยังไม่เจรจา ชายแดนก็ไม่เจรจา พื้นที่ทับซ้อนทั้งหมดไม่มีการเจรจา และเขาก็เอาของเขาในที่ของเขา ขอบเขตเรียบร้อยนั่นละครับ เขาไปขึ้นทะเบียน ก็ตกลงกันเท่านี้เอง เขาก็แถลงการณ์ร่วมว่าตกลง ถ้าเผื่อเขมรจะเอาเฉพาะรอบ ๆ ตรงนั้น เราก็ไม่ขัดข้อง เขาก็เรียก joint Communiqne ก็ต้องเซ็น มันไม่ใช่สนธิสัญญาอะไรนี่ครับ ตกลงว่าโอเค
มีการปลุกระดมว่าไทยจะเสียดินแดน
ของที่ของเขานะครับ เพราะฉะนั้น อยู่ดี ๆ เอามาปลุกระดม เอาไปนั่นกัน นายกฯ ทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) เกิดไปตีกอล์ฟกับฮุนเซน บอกว่าจะไปแลกเปลี่ยน แลกเปลี่ยนอะไรละครับ ผมฟ้องคดีอยู่ในศาลนะครับ เป็นทำนองว่ารัฐบาลนี้เอาเขาพระวิหารไปยกให้เขมรเพื่อจะแลกเปลี่ยนไปขุดน้ำมัน น้ำมันก็ไม่ได้ขุด แลกก็ไม่ได้แลก เพราะของ ๆ เขา เราทำหน้าที่รัฐบาลนี้ทักท้วง เอาละไม่ไว้ใจรัฐมนตรีนพดล (นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) คือพูดเท่าไรก็ไม่ฟัง แม่ทัพนายกองออกมา ผู้บัญชาการทหารบกออกมา อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เจ้ากรมแผนที่ทหาร ออกมา ก็ยืนยันชัดเจนว่ามันขอบเขตของเขาที่ของเขาเท่านั้น ไม่มีพื้นที่ เราไม่เคยเสียอะไรไป ก็ยังไม่ฟัง ปลุกระดมกัน ได้ระดับไหน ขนาดผู้หญิงตัดเสื้อชุดละหมื่นนั่นละครับ แสดงอาการบอกไม่ได้เลย ฉันจะต้องไปร่วมชุมนุม จะเสียเขาพระวิหารไป ฉันยอมตาย ยอมเสียชีวิต มันอะไรกันขนาดนี้ละครับ การปลุกระดมได้ผลถึงขนาดนั้นหรือครับ ทำไมคนเราเกิดอาการรักชาติขึ้นมาจะเป็นจะตาย และทำไมละครับก่อนหน้าที่ถ้าเขมรไม่ขึ้นทะเบียนก็อยู่กันมาต่อไป จะอยู่กันมาอีก 50 ปีก็อาจจะอยู่อย่างนี้อีก 50 ปีต่อไปข้างหน้า เขาไม่ขึ้นทะเบียน เขาอยากจะเอาหน้าเอาตา เขาจะขึ้นทะเบียน ก็บ้านเราก็ขึ้นทะเบียนในแผ่นดินของเรา เขาก็ขึ้นทะเบียนเป็นแผ่นดินของเขา แล้วมันอะไรกันนักหนาถึงอย่างนี้ ผมอธิบายให้ฟังชัดเจนแล้ว ผมต้องรับผิดชอบในหัวหน้ารัฐบาล จะไปเกลียดแค้นชิงชังไม่ชอบรัฐมนตรีนพดล รัฐมนตรีนพดลเคยเป็นทนายให้นายกฯ ทักษิณในอดีต ทุกอย่างมันจบสิ้นไปหมดแล้ว มันไปโยงใยมันไปแลกเปลี่ยนอะไรละครับ
โรงไฟฟ้าที่เกาะกงที่จะสร้าง รัฐบาลนี้เป็นคนเจรจานะครับ ไม่ใช่นายกฯ ทักษิณ ของเราจะสร้างโรงไฟฟ้า 2 โรง ตกลงถ่านหินเผา 7,000 บีทียู ถ่านหินที่แม่เมาะเผา 2,400 บีทียู มันมีซัลเฟอร์ ตกลงเราจะสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ 2 โรงที่หินกรูดที่อะไรต่าง ๆ ตกลงเอาถ่านหินชนิดที่เผา 7,000 บีทียู เผาแล้วหมดไม่มีมลพิษ ต่อต้านกัน 10 ปี สร้างไม่ได้ ก็เจรจากันละครับ ผมเดินทางไป เขาตกลงว่าเขาบอกยินดีให้สร้างโรงไฟฟ้า แล้วไฟฟ้าก็มาขายบ้านเรา โรงไฟฟ้าสร้างในเมืองเขา แล้วส่งไฟฟ้ามาขายบ้านเรา เดี๋ยวนี้ที่ลาวทำไมทำอย่างนั้นละครับ น้ำเทิน 1 น้ำเทิน 2 ก็เอาไฟฟ้าบ้านเขามาขายบ้านเรา มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนอะไรนั่นเลย ทำไมทำกันได้ถึงขนาดนี้ ผมไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจละครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองที่มีเจ้าหน้าที่ของพรรคโผล่มาแสดงอะไรต่าง ๆ ผมดูอายุอานามจะเกิดทันไม่ทันไม่รู้ แต่ควรจะถามให้คนแก่ ๆ ได้พักดูบ้าง เกิดอะไรขึ้นตั้งแต่เมื่อ 45 ปีที่แล้ว
เอาละครับ ก็หวังใจว่าคงเข้าใจนะครับ แล้วผมรับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะมันไม่ได้เป็นสนธิสัญญาเลย เขาตกลงในที่ของเขา แต่บังเอิญการขึ้นทะเบียนยูเนสโกจะเอาบริเวณด้วย เราบอกไม่ได้ บริเวณทับซ้อนยังเถียงกันอยู่ ก็ไปตกลงกันที่ปารีส บอกเอาเฉพาะตัวปราสาท เขาก็ขึ้นเฉพาะตัวปราสาทในเขตของเขา แล้วถึงอะไร ผมต้องใช้คำว่าอะไรกันนักหนาถึงปลุกระดมกันว่าเสียดินแดน มันเสียอะไรละครับ มันเสียไปเมื่อ 45 ปีที่แล้ว มันในแผ่นดินของเขานะครับ แล้วขึ้นก็ขึ้นปราสาทอย่างนั้น ทำให้คนไทยเข้าใจผิด เกิดไม่ทันยังไง จะเป็นจะตายขึ้นมาว่าจะเสียดินแดน ไม่มีเสียละครับ แม่ทัพนายกองเขามารับรอง เขาดูแผนที่ ไม่มีเรื่องอะไรเลย แต่ทำไมใช้วิธีการกันอย่างนี้ ผมไม่เข้าใจ
เอาละครับถัดไปเรื่องที่ผมต้องการจะพูดเสียวันนี้ ความจริงจะต้องพูดเรื่องการเกษตร อุตส่าห์ไปศึกษามาต่าง ๆจะคุยเรื่องวิชาพัฒนาเกษตร เดี๋ยวไว้ต่อหางตอนท้าย ถ้าไม่ทันต้องเอาไว้ต่ออาทิตย์หน้า วันนี้ผมจะต้องพูดให้ฟังให้เข้าใจหน่อยนะครับ คือจะต้องทบทวนให้ฟังว่าประเทศไทย เรามีการปกครองที่เปลี่ยนแปลงเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 มาถึงบัดนี้ก็ 76 ปีแล้วครับ จะกระโดกกระเดกจะเปลี่ยนแปลงยังไง มีทหารเคยมีอำนาจยึดอำนาจ ประชาธิปไตยเต็มใบ ครึ่งใบ เรียกว่ากระโดกกระเดกกันมานี่ สุดท้ายก็ยังมีปฏิวัติเปลี่ยนแปลงยึดอำนาจ ก็ยังมีอยู่นะครับ แต่ว่าเมื่อเสร็จเรียบร้อยถอยไปแล้ว เราก็จะกลับคืนสู่สภาพปกติคือมีรัฐธรรมนูญมาใช้รับรอง และจากรัฐธรรมนูญจะมีการเลือกตั้ง มีการเลือกตั้งสมัยนี้ทันสมัย แต่ก่อนนี้ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นคนดูแล ถ้าทันสมัยจริง ๆ เขาจะต้องมีคณะกรรมการเลือกตั้ง เหมือนในโลกเขานี้ ฟิลิปปินส์เขามีก่อนหน้าเรา เขาเรียก นัมเฟรล ของเราสังเกตการณ์วันสุดท้าย เราก็มีองค์กรพิเศษเรียกว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการทำให้ทัน แต่ก่อนรอศาล 4 ปี หมดวาระสภา คดียังอยู่ในศาล เดี๋ยวนี้เขาจัดการเลย 1 เดือนทำอย่างนี้ ต่อไปทำอย่างนี้ มีกฎเกณฑ์ ก็เลือกตั้งมีกฎเกณฑ์ ต่างชาติก็เข้ามาดู
กลุ่มพันธมิตรฯ เปลี่ยนมาขับไล่รัฐบาล
เสร็จแล้วก็เลือกตั้งตามระบบมาตรฐาน พื้นฐานจะเป็นยังไงมายังไงก็สุดแท้แต่ แต่ว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อ 23 ธันวาคม 2550 เป็นการตกลงแบบชาวโลกเขาดูกันทั่วโลก แล้วตกลงเรียบร้อยแล้ว พรรคการเมืองได้ 233 พรรคการเมือง 164 ที่เหลือมีอีก 5 พรรคการเมือง เสร็จแล้วรวบรวมกัน ใช้เวลาพักหนึ่งก็ตกลงกันได้ว่า พรรคที่ได้ 233 คือพลังพลังประชาชน รวมกันอีก 5 พรรคได้ 316 อีกพรรคหนึ่งเหลือ 164 ก็เป็นฝ่ายค้าน ก็เริ่มต้นออกกันมาอย่างนี้ นี่ก็มาตรฐานสากลนะครับ และข้อสำคัญที่สุดคือว่า ในรัฐธรรมนูญเขาบอกเลยว่าวิธีการแก้ไขจะเป็นยังไง ก็มีข้อบกพร่องอยู่ต้องแก้ ก็พูดกัน คนร่างบอกว่าเอาเถอะใช้ไปก่อนแล้วไปแก้ทีหลัง ก็ถึงคราวจะแก้ เกิดอาการไม่ได้ขึ้นมา จะไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญ ทั้งหมดก็พูดกันตรงไปตรงมา ความเคียดแค้นชิงชัง การไล่นายกฯ คนเก่า ยังไม่จบ นายกฯ คนเก่าก็กลับมาขึ้นศาล เขามาขึ้นศาลนะครับ ไปไหนไม่รอดต้องขึ้นศาล เป็นจำเลยในคดีในศาล ต้องมาขึ้นศาล ก็เรียกร้องขึ้นศาล เขาก็มาขึ้นศาล แต่ว่านั่งจ้องดูหาเหตุกัน เอาเหตุตรงไหน พอจะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ เอาเลยครับโดดลงมาทันที แก้รัฐธรรมนูญ พอถัดมาอีกหน่อยมีการเริ่มหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เอาสองแล้วกระโดดมาเอาด้วย ถ้าบังเอิญรัฐธรรมนูญตกไปเรียบร้อย คนหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก็ถอยออกไป เขาก็ลาออก พอตำรวจชี้ว่ามีมูลเขาก็ลาออก แล้วไง เปลี่ยนทันทีเลยครับ ขับไล่รัฐบาล ไล่รัฐบาลผม ๆ เป็นหัวหน้านี่ละครับ ไล่รัฐบาล
เสร็จแล้วผมก็ต้องทำหน้าที่ของผม ผมบอกไปทำอยู่ตรงนั้นไม่ได้ ผมก็อธิบายความเลยว่าคุณทำอย่างนี้ไม่ได้ มันขวางทาง หน้าองค์การสหประชาชาติขายหน้าเขาไปทั่วโลก ทำอย่างนี้ได้ยังไง ไม่เคารพกฎบัตรกฎหมาย อธิบายความเท่านั้นละครับ โอ้โหกลายเป็นเรื่องใหญ่ นายกรัฐมนตรีกลายเป็นคนร้ายภายในพริบตา ยังไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์บอกตำรวจว่าจะต้องทำยังไง วิธีการจะต้องยังไง จะดูจังหวะจะโคนแล้วต้องพูด เอาโทรทัศน์ไปถ่าย ต้องรอให้เขาเป็นคนไปรื้อเอง เขาไม่รื้อ เราถึงจะรื้อ ถ่ายให้คนเห็นว่าเป็นยังไง ก็ซักซ้อมไว้อย่างนั้น จะเมื่อไรยังไงก็ไม่รู้ ปรากฏว่าห้าโมงเย็นประกาศเองเลยครับ ห้าโมงเย็นตำรวจจะสลาย เสร็จแล้วนักวิชาการออกมาล่อกันนัวไปเลย กลายเป็นว่ารัฐบาลจะนั่น รัฐบาลนี้โง่จะสลาย ผมก็เอาละครับยอมไม่สลาย ก็ไม่สลาย พูดไปก็นั่นไป ตำรวจก็รับผิดชอบ ทีแรกว่าตำรวจยังไม่มีสถานะ ตำรวจได้รับโปรดเกล้าฯ มารับตำแหน่ง คุณดูหน่อย คุณรับเรื่องไปดูเลย ก็อย่างนั้นละครับ ผมก็อดทนนะครับ ขายหน้าเขาก็ขายหน้า เจอทูตขรตรีเศียรเขาถามผม ๆ ก็บอกยังไม่ทราบ กำลังจะแก้ไขยังไง เพราะว่าผู้คนก็ยื้อยุด บอกอย่า ๆ ทำอะไรยังไงจะเสียหาย สุดท้ายก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยละครับ ขับไล่ ๆ ๆ ๆ ๆ แต่ไป ๆ มา ๆ นั่งฟังดูก็อ๋อด่าอดีตนายกฯ ไม่พอใจ สุดท้ายเอาผมเข้าไปพ่วงด้วย ผมจะถามสิครับว่าอย่างนี้ยุติธรรมไหม ผมมาถูกต้องตามกฎหมาย อดีตนายกฯ เขาก็เป็นอดีตนายกฯ และเขาก็กำลังจะขึ้นศาล ขึ้นศาลไปแล้วคดีความอยู่ในศาล และจะพยายาม จนความเกลียดชังไม่หาย จะเอากันให้เป็นให้ตาย และจะลากเอาผมไปประกบด้วย จะกล่าวหาว่าเป็นนอมินี กรรมการบอกไม่เป็นนอมินี จะทำยังไงก็บอกไม่ใช่ จะเอาอย่างนั้นก็ไม่ใช่ พยายามจ้องทุกวิถีทางคือจะเอาออกให้ได้ แล้วยังไงจุดหมายปลายทางอยู่ที่ไหนครับ
เปิดให้ ส.ว.และส.ส.อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
มีคน 5 คนมาตั้งขบวนการเสร็จเรียบร้อย ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ เอาละสมมติว่ามันจะเกิดกลับข้างกัน อย่างที่กำลังนี้ที่ว่าตกลงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เปิดไม่ไว้วางใจ มีเวลาจัดการทำเสียให้จบเรื่องไป ก็เอาไปวันครึ่งไม่ไว้วางใจ ต่อไป 2 หรือ 3 วันที่จะงบประมาณ ก็จบสิ้นไป ก็จะทำจะครับ วุฒิสมาชิกขอพูด วันจันทร์จะไปฟังวุฒิสมาชิก อีกวันครึ่งจะให้จัดการทำให้จบสิ้นไป เมื่อเวลาที่เห็นอย่างนี้แล้ว เราก็ทำครับ ทำไมถึงตัดสินใจอย่างนี้ เราก็สังเกตเห็นว่าเขาอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง คือยังไง ก็นี่กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา พอยื่นญัตติมา มี 35 คน 6 พรรคร่วมกัน ก็ล่อพรรคเดียวเท่านั้นเอง เล่นพรรคพลังประชาชนพรรคเดียวเท่านั้น 7 คน ต้องการอะไร นี่ละกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา อีก 5 พรรคไม่แตะ เพื่อยังไงครับ เพื่อจะได้เข้าสภาแล้วก็ถล่มทลายเอาให้ชอกช้ำเลย เข้าสภามีภูมิคุ้มกัน จะเอาอะไรมาขุดมาด่าก็เอา ผมก็บอกทีแรกก็นั่งลังเลใจว่าเรายังไม่ได้ทำอะไร สัญญาอะไรก็ยังไม่เซ็น โครงการอะไรต่างๆ ก็กำลังจะเริ่มดำเนินการ แต่ทำไมจะเอากันให้เป็นให้ตาย ไปดูสิครับ 9 ข้อที่เขียนมา แต่ละข้อ ๆ เหมือนกับแค่นต้องเขียนมา 9 ข้อ เสร็จแล้วก็ยื่น เมื่อเราเห็นว่าเอาละ ถ้าจะตกลงให้ดับชนวนไม่ให้มีเรื่องคาราคาซัง เอาละให้คุณวันครึ่ง ประชุมครม.เช้า บ่ายมาให้ครึ่งวัน รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง ต่อไปให้งบประมาณอีก 2 หรือ 3 วัน ก็จะได้เสร็จสิ้นกันไป
ผมจะถามตรงนี้เท่านั้นละครับว่าถ้าสมมติว่าทางผมเลวทรามต่ำช้าจริง ทางฝ่ายค้านด่าทอว่ากล่าวเสร็จเรียบร้อย ลงคะแนน และคณะ 5 พรรคเขาก็บอกเห็นว่าเลวจริง เลยไปลงคะแนนโหวตไม่ไว้วางใจ ได้ไป 247 ไม่ไว้วางใจ เอาละผมแพ้ ผมถอยออกไป แล้วไงก็ได้รัฐบาลใหม่ คุณอภิสิทธิ์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) เป็นนายกฯ 5 พรรคไปรวมทางพรรคประชาธิปัตย์ และถ้าคณะผมมีคนที่ไม่ได้รับเลือกตั้งเยอะนะครับ ถ้าผมอยู่ข้างหลัง ผมชักใยเลยว่าเอามาเลย ออกมาเลย เอามาสัก 5 คน ตั้งวงกันเลย ออกไปข้างถนนบ้าง ล่อมันทุกวันเลย ล่อทุกวัน ทำอย่างเดียวกันน่ะ ยึดถนนโน้นยึดถนนนี้ ทำแล้ว 5-6 กองล่อทั้งเมืองเลย แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองนี้ ระบบที่เป็นทางราชการที่จะอย่างถูกต้อง แปลว่ายังไงครับ ที่ล่อกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เอาละกลั้นใจไม่อยากให้เกิดจลาจล ตำรวจเขาเล่าให้ฟังครับ ที่เข้ามา เขาปล่อยให้เข้ามาตรงนั้น เพราะเขาล่อจะให้นั่น คือจะเอากระบองฟาด มีเสียงปืนยิงสักนัดหนึ่งเท่านั้นละครับ ในอดีตมีแล้วนี่ครับ คนที่เขายืนเขาเล่าให้ฟังมีเสียงปืนดังปัง โอ้โหบอกเราชนะแล้ว พอเสียงปืนนัดเดียว บอกเราชนะแล้ว
และผมจะถามว่ามันแพ้ชนะกันตรงไหนยังไงครับ เคลื่อนจากสะพานมัฆวานฯ มายึดตรงนี้ได้ เราชนะแล้ว แล้วยังไงต่อไปละครับ ปลุกระดมจนกระทั่งบ้านเมืองจลาจล บ้านเมืองนี้มี 63 ล้านคนนะครับ ผมไม่อยากใช้คำว่าคนหยิบมือหนึ่ง เอามาจากไหนยังไงไม่อยากวิจารณ์ให้เสียปาก จะมาจากไหน ก็เอาสิครับจะทำก็ลองทำดู และจุดหมายปลายทาง แปลว่าคน 5 คนตั้งคณะขึ้นมาแล้วเล่นกันข้างถนนอย่างนี้ เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีต้องพ้นไป แล้วบ้านเมืองอย่างนี้มันอยู่ได้ยังไงครับ เอาหน้าตาไว้ที่ไหนกับประเทศในโลกเขา ผมบอกถ้าอภิปรายสำเร็จแล้วผมแพ้ คณะ 5 พรรคของผมที่ไม่แตะต้องเลย เพื่อจะเปิดช่องไปรวมทางโน้น ลงคะแนนไล่ผมออกมา พอคุณตั้งรัฐบาลเสร็จปั๊บ ผมก็ตั้งแก๊งเล่นข้างถนนบ้าง แล้วยังไงจะมีใครมาเห็นใจผมไหมครับ จะมีใครมายื้อยุดฉุดมือคุณอภิสิทธิ์ไหมว่าไม่ให้มาแตะต้อง ผมยึดถนนหมด ผมไม่ทำ ผมให้คนที่สอบตก 5-6 คนล่ออย่างนี้เหมือนกัน และบ้านเมืองอยู่ได้หรือครับ บ้านเมืองมีหลักเกณฑ์ ผมถึงได้ร้องถาม คุณมาจากไหน 5 คน คุณเลือกตั้งเมื่อไร คุณมีสถานะยังไงทางกฎหมาย แต่กำลังนี้บรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลายประโคมข่าวกันเป็นทำนองเหมือนว่าทั้ง 5 คนนี้มีสิทธิ์ที่จะมาตั้งข้างถนนมาปลุกระดม จะปิดถนนไปแตะต้องไม่ได้ ผมชอบใจคำพูดของท่านโฆษกรัฐบาล (พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์) ท่านเป็นตำรวจเก่า ท่านจำได้นะครับ ตำรวจจะสลายม็อบ พอผมพูดวันเสาร์วันอาทิตย์ ห้าโมงเย็นตำรวจจะสลายม็อบ แปลว่าตำรวจจะเข้าไปนั่นแปลว่าตำรวจสลายม็อบ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 วัน ม็อบสลายตำรวจ เป็นยังไงไหมครับ ม็อบสลายตำรวจพูดได้ไหมครับ ม็อบสลายตำรวจ บุกเข้ามารุกเข้ามา ก็ตำรวจเล่าให้ผมฟังนี่ครับว่าเขากระเหี้ยนกระหือรือ ทำไมตำรวจไม่ตี ทำไมตำรวจไม่ทำ ทำไมตำรวจปล่อยทะลักเข้ามา เขาหวังใจให้ปะทะ เพื่อจะเกิดเรื่อง จะได้เอาไปเป็นคดีความ ไม่สำเร็จละครับ เพราะตำรวจเขาร่วมมือ คือร่วมมือว่าคุณจะเอาอย่างนี้ก็ตามใจ ไม่ปะทะ บาดเจ็บไป 4 คน ก็ยอมเจ็บ พระสงฆ์องคเจ้าก็บอกว่าคุณสมัครรอดตัวไป ผมก็ยังไม่รู้จะรอดแค่ไหน วันไหนเขาอดกลั้นไม่ได้ ฟาดเข้าไปก็เกิดเรื่องเท่านั้นเอง
แต่ถามว่าคณะนี้มันต้องการทำให้เกิดเรื่องเพื่อจะเอาเหตุ โดยยังไงครับ สื่อสารมวลชนทั้งหลายก็คอยจะประโคม ผมถึงบอกว่าสมัครปากไม่ดีว่าถึงคนอื่นอีกแล้ว ก็ดูสิครับดูหนังสือพิมพ์ ดูพาดหัวเอิกเกริก เหมือนกับว่าคนทั้ง 5 นั้นมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกับคณะผม คือมีสิทธิเสรีภาพต่อต้านกันอยู่ข้างถนน ทำให้ยุ่งยาก เด็กนักเรียนไปไม่ได้ นั่นถูกต้อง เพราะสิทธิในการอ้างรัฐธรรมนูญมาตรานั้นมาตรานี้ แค่นอ้างมาอย่างนั้นเอง ที่ผมรำคาญใจคือว่าสื่อสารมวลชนนั้นเทียบยกน้ำหนักสองข้างเท่ากัน นั่นละครับคือความไม่เป็นธรรมในสังคม ผมมาถูกต้องตามกฎหมายนี่ครับ คุณอภิสิทธิ์ก็ถูกต้องตามกฎหมาย 5 พรรคที่ร่วมกับผม เขาก็มาถูกต้องตามกฎหมาย ก็เราทำตามกฎหมายถูกต้อง บ้านเมืองมาถึงตรงนี้ ทหารเขาก็บอกว่าเรื่องของรัฐบาลเขาไม่เกี่ยวข้อง บรรยากาศที่จะปลุกระดมให้นั่น เขาก็ไม่ต้องเข้ามาแล้ว
ทุกอย่างก็กำลังดำเนินการ โครงการต่าง ๆ ใน 4 เดือนนี้ทำกันตัวเป็นเกลียวเลยครับ หรือว่าที่กำลังจะทำใหญ่เป็นโอกาสจะทำมาหากิน จะทำโครงการรถไฟต่อทั้งหมด ที่แล้วมาเวลาผ่านมาทำกัน 24 หยุดอยู่ข้างบนทำยกระดับผ่ากลางเมือง ทำใต้ยึกยัก ๆ อีก 20 นี่แค่นี้ ต่อไปนี้จะทำประมาณ 300 กิโลเมตร เริ่มต้นลงมือแล้วนะครับ ทั้งรถไฟชานเมืองรถไฟในเมือง นี่เป็นโอกาสของรัฐบาลก๊อกแก็ก ๆ นี้จะได้เป็นคนทำ จะทำรถไฟรางคู่ น้ำก็มาทางการเกษตร จะขุดรอบบึงหมดกำลังนี้ ทุกบึงจะเอาดินขึ้นหมด จะปรับหมด จะเก็บน้ำหมด จะลงมือทำหมด มันเป็นโอกาสหรือไงครับ โอกาสก็มีคนทนไม่ได้หรือไงครับ แล้วทำไมรัฐบาลก๊อกแก๊กเส็งเคร็งคนนี้จะได้โอกาสตัดสินใจจะทำโครงการทั้งหมด แม้กระทั่งอย่างรถเมล์ เรื่องโครงการรถเมล์ให้ผมพูดให้ฟังหน่อยเถอะครับว่า เรื่องรถเมล์เพียงแต่คิดแนวทางมาจะแก้ไข แสดงความรับผิดชอบเท่านั้นละครับ โน่นเอาไปยื่นไม่ไว้วางใจ ทั้ง ๆ ที่อยู่ในกระดาษ ยังไม่ได้ประมูลสักแกรก ยังไม่ได้ทำอะไรสักอัน
การเช่ารถเมล์แอร์ 6,000 คันมาวิ่งให้บริการ
ผมเล่าให้ฟังก็ได้นะครับ รถเมล์อยู่ในกรุงเทพฯ แต่ก่อนเรามีรถ 6,000 คัน ดำเนินการใช้กันมาเป็นรถใช้เครื่องยนต์ดีเซล และก็ใช้ดำเนินการกันมา และทำกันบกพร่องเสียหาย จนกระทั่งรถเหลือ 3,500 คัน หายไป 2,500 คัน เสียหายต่างๆ จนกระทั่งเอกชนต้องเข้ามาช่วย และก็ดำเนินการกัน เอกชนได้สายดี ๆ ตัวรัฐบาลได้สายไม่ดีวิ่ง และก็อยู่กันมาอย่างนั้น และเป็นยังไงไหมครับ แต่ก่อนมีคน 22,000 และก็กลับมาเดี๋ยวนี้เหลือ 18,000 แต่รถอยู่ 3,500 กับคน 18,000 ไม่สัมพันธ์กัน แต่ก่อน 1 ต่อ 4 รถ 1 คัน คน 4 คน เดี๋ยวนี้รถ 1 คัน คน 6 คน แบกน้ำหนัก แล้วเป็นไงครับ ก็รถที่ซื้อมา รถจะต้องซ่อม ระบบเท่ากับมาทำต่อเพิ่มเติม ก็ได้บทเรียนมาแล้วนี่ครับ รถที่เอามาซื้อมันต้องซ่อม อะไหล่ก็หากิน ยางก็หากิน น้ำมันก็ดูดกันออกไปได้ แล้วยังไงตั๋วก็ขี่ช้าง ไม่เข้าใจว่าขี่ช้างเป็นยังไง ตั๋ว 10 ใบขี่กันได้ 12 ใบ อย่างนี้เสียหาย ตอนผมอยู่ติดลบอยู่ 2,000 ล้าน ก็มโหฬารเต็มทีแล้วเป็นหนี้ ขสมก.เป็นหนี้ 2,000 ล้าน
บัดนี้ผมกลับเข้ามาใหม่ ขสมก.เป็นหนี้ตัวเลขพูดคร่าว ๆ 69,000 ล้าน ตัวเลขที่แสดงเอกสารเห็น 74,000 ล้าน ผมนั่งไม่รู้ไม่ชี้เสียอีกหน่อยผมก็ไป ก็ถึง 100,000 ล้าน แล้วมีใครรับผิดชอบไหมครับ ปล่อยไว้อย่างนี้ เขาก็มีความคิดว่าคนมีความคิด รัฐบาลที่ดูท่าลงไม่ได้แต่มีความคิดว่าต้องแก้ไขปัญหา เขาก็เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ก็คร่าว ๆ ง่าย ๆ อย่างนี้ครับ โละรถทั้งหมดขายไป แล้วเอารถใหม่เข้ามา 6,000 คัน สภาพรถใหม่ปรับอากาศทั้งหมด แล้วก็ใช้แก๊ส เมื่อใช้แก๊สเสร็จเรียบร้อยก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายลงไปเหลือ 1 ใน 3 เคยใช้ 100 ก็ใช้ 33 บาทในการที่จะเดินรถ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็จะพอปรับปรุงได้ เขาก็จะทำ คน 18,000 เขาก็ใช้เงิน 6,000 ล้านเขาบอกเอา early retire ออกไปสักครึ่ง ที่เหลือก็จะอยู่สัมพันธ์กับตัวรถ เอาแก๊สใส่ลงไป ทั้งคัน 6,000 ก็ขโมยแก๊สไปขายไม่ได้เพราะมันอัด เอาขโมยไปขายไม่ได้ ตั๋วก็เป็น e - ticket คือขึ้นไปก็เสียบ แปลว่าขี่ช้างไม่ได้ ผู้คนก็ early retire ออกไป เสีย 6,000 ล้านให้เขาออกไปสักครึ่งหนึ่ง และก็นี่ที่เขาจะแก้ไขได้ เขาก็บอกอย่างนี้พอจะแก้ไขได้ แล้วรายได้ที่จะต่อมานอกจากจะจ่ายเลี้ยงตัวเองได้ ก็จะมีเหลือที่จะใช้หนี้ 74,000 ล้าน
คิดเท่านั้นละครับถูกกล่าวหาว่าทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวงจะหากินกับรถ ว่าอย่างไรครับ ว่าได้คันละ 1,000,000 ไม่ได้ซื้อรถนะครับ ซื้อไม่ได้นะครับ รถซื้อมานี้ 3 ปีต้องซ่อม หากินกับอะไหล่ รถ 100 คันก็วิ่งได้ 70 คัน เขาที่ให้เช่านี้แปลว่าตลอดเวลา 10 ปีรถต้องเอารถใหม่มาทุกวัน รถต้องใช้งานได้ ใหม่หรือไม่ใหม่ก็ต้องใช้งานได้ ต้องเปลี่ยนยางต้องมีแบตเตอรี่ต้องมีอะไรเสร็จ เราเติมแก๊สของเราเองเท่านั้น ก็ยังไม่ทันจะเริ่มต้นนับ ก. ข. อย่างไร ยังไม่ได้ประมูลเลยครับกล่าวหาแล้วว่าเลือกบริษัทไว้แล้ว ก็รอก่อนสิครับรอให้เลือกบริษัทก่อนค่อยล่อกัน นี่ผมก็บอกให้ชะลอ เอามาเขียนให้ดูสิว่าวิธีการจะออกประมูลจะเชิญชวนอย่างไร สมัครดึงออกเพราะสมัครกลัวจะไม่ไว้วางใจ นี่อย่างไรครับ แล้ววันอังคารนี้ผมเชิญให้ไม่ไว้วางใจ เอาเลยถลกกันเลยว่าเป็นอย่างไร ดูสิมันมีอย่างไร มันมีอย่างไรมันมีหลักฐานการทุจริตอย่างไร เซ็นสัญญากับใครไปแล้ว จ่ายเงินวางมัดจำใครไปแล้ว ไม่มีสักบาทหนึ่ง ยังอยู่ในกระดาษทั้งสิ้น ตัวที่จะเขียน specification ก็ยังไม่ได้เขียน เพียงแต่เกิดความคิดในแนวทางเท่านั้น ก็ล่อกันอย่างนี้แล้ว เห็นไหมครับ
เพราะฉะนั้น ผมบอกว่าเรื่องอย่างนี้ผมจะถามเอาไว้เลยครับว่า ใครจะยกย่องสรรเสริญ 5 พระหน่อที่ปลุกระดมกันอยู่อย่างนี้ก็เชิญเถอะครับ แต่ผมมีสิทธิเรียกร้องได้ว่าในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีชีวิตยืนยาวของประเทศไทยมาตั้งแต่คนจำนวนไม่เท่าไร เดี๋ยวนี้ 63 ล้านคน บ้านเมืองก็มีชื่อเสียง ทั่วโลกรู้จักประเทศไทยเป็นอย่างไร แต่ว่ามามีแผลอยู่กลางใจพระนครอย่างนี้มันใช้ได้หรือครับ ผมจะถามสิ ผมจะย้ำนะครับว่าเอาละถ้ามัน twist อย่างนี้ทำมือได้คุณอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ทั้งหมดไปหมด ผมเหลือ 233 ผมเป็นฝ่ายค้าน แล้วผมตั้งใจประกาศเลยผมจะเก็บฝ่ายที่สอบไม่ได้ 5 คนนี้ตั้งเป็นแก๊งเลยแล้วระดมอยู่กลางถนนอย่างนี้ เอาอย่างเดียวกันอย่างนี้ ไหวไหมครับ คนที่ชอบผมก็มี คนที่ไม่ชอบพรรคโน้นก็มี เอาละผมจะเรียกระดม เอาไหม แล้วบ้านเมืองอยู่ได้ไหมครับอย่างนี้ จุดหมายปลายทางอยู่ที่ไหนครับ เคียดแค้นชิงชังไม่ชอบ เขามาขึ้นศาลแล้ว แต่ผมต้องถือว่าไม่ใช่เรื่องของผมนะครับ แต่ผมมาทำหน้าที่ของผม ผมเข้าตามตรอกออกตามประตู จะมาคาดคั้นมาเค้นอย่างไรไม่มีทางหรอกครับ
เอาละวันจันทร์ผมจะพูดกับวุฒิสมาชิก วันอังคาร วันพุธ ผมจะพูดกับทางฝ่ายค้าน วันพฤหัสบดี วันศุกร์ ผมจะพูดงบประมาณ ผมก็ทำหน้าที่ของผม ก็เวลามีเท่านี้ก็ถูกต้อง ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะมาพูดจางอแงอะไรนั้น ทีคาดคั้นให้ผมเปิด พอผมเปิดแล้วว่าผมอีก ตกลงเอาอย่างไรละครับ ผมบอกว่าผมไม่พร้อมเพราะเวลาน้อย ก็ขอว่าจะไม่เปิด ว่ากล่าวอย่างโน้นอย่างนี้ ขึ้นมายื่นมาจะต้องบรรจุ จะต้องอะไร ๆ พอบรรจุเสร็จเรียบร้อย พอบรรจุผมบอกเอาเลยเอา ผมตัดสินใจให้ ประชุมครม. ให้เลิกเร็วหน่อยแล้วก็ไปอยู่สภาฯ วันครึ่ง จะอะไรกันนักหนาละครับ 4 เดือนนี้ ถ้าผมอยู่มา 4 ปีแล้วจะถลกหนังเอาให้หมด เอาสัก 7 วันแบบสมัยประชาธิปัตย์ล่อแต่ก่อน เอาสิครับ นี่อยู่มา 4 เดือนครับ สัญญายังไม่ได้เซ็นกันเลยสักฉบับหนึ่ง งานการยังอยู่ในระหว่าง ต้องอธิบายให้ฟังเรื่องนั้นกำลังอย่างนั้น ยังทั้งนั้นละครับ แล้วจะเอาอะไรมาด่ากันได้นักหนา ผมอยากจะรู้ จะเชี่ยวชาญการขุดมา เอาสิผมจะยอมให้ขุดเอามาด่า เอาสักวันครึ่งพอสมควรแก่เหตุ ต่อไปก็งบประมาณ ไม่มีงบประมาณบ้านเมืองบริหารไม่ได้ นั่นละครับสำคัญ ชัดเจนนะครับ
เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศ ผมต้องการพูดเพียงเท่านี้ให้รู้นะครับว่า การเปิดสภาวันจันทร์ผมก็เปิดให้วุฒิสมาชิก วันอังคารวันพุธผมเปิดให้พรรคการเมืองฝ่ายค้านแล้วนักการเมืองจะล่อกันอย่างไรสุดแท้แต่ จะเล่นผมพรรคเดียวอีก 5 พรรคเก็บไว้เพื่อจะให้เขาไป ได้ครับ แต่พรรคการเมืองทั้ง 5 เขาก็รู้ครับว่าเขาอยู่กับใครเป็นอย่างไร อยู่กับนายกฯ คนนี้มันเค็มหรือมันจืด รู้ดีครับ นั่งกันมา 4 เดือนรู้รสชาติว่าเป็นคนเค็มหรือเป็นคนจืด เป็นคนร้ายกาจหรือเป็นคนที่คบได้ ผมถึงไม่เดือดร้อน อยู่กันมา 6 พรรคนี้อยู่กันมาเรียบร้อยดี ก็เอาสิครับลองดู วันพุธเอาเลยล่อกันให้ช้ำเลย แล้วดูสิ 5 พรรคเขาเปลี่ยนใจไหม เปลี่ยนใจอย่างไรแล้ว ผมบอกไว้ล่วงหน้าเลย ถ้าคุณทำอย่างนั้นสำเร็จเรียบร้อยคุณตั้งนายกฯ ชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้วจะมี 5 คนที่สอบไม่ได้อยู่ตามถนนเหมือนกันเลย ล่อมันทุกวันเลย หาเรื่องลากขึ้นมาเลย ไอ้โน่นไอ้นี่ล่อกันทุกวัน ทำอย่างเดียวกัน แล้วบ้านเมืองอยู่ได้ไหมครับ ผมจะถาม เอาหน้าไว้ที่ไหนครับ เท่านั้นละครับผมไม่พูดอะไรเยอะ วันนี้เอาเท่านี้พอสมควร
โครงการทำปุ๋ยหมักจากจุลินทรีย์ของ กอ.รมน.ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต
ผมอยากให้ดูตรงนี้ ดูนี่ดีกว่า ลองดูครับ ผมอยากจะพูดให้ฟังครับ ผมไปประชุม กอ.รมน. แล้วนายทหารเขาทำ นี่งานของทหารครับ จะให้ดู ดูตั้งแต่เริ่มต้น จุดแดง ๆ นี้ถ่ายเรียงแถวไปเลย ถ่ายไล่ไปเรื่อยครับ ผมจะคุยเรื่อย ๆ เขาเรียกว่า คือปุ๋ยธรรมดามีปุ๋ยเคมี มีปุ๋ยอินทรีย์ อันนี้ปุ๋ยหมักจากจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ปี 50 เขาทำ ส่วนผสมที่เขาทำนี้เขาใช้แกลบที่ยังไม่ได้เผา เขาใช้มูลสัตว์ที่เอามารวมกัน เขามีจุลินทรีย์ที่ผสม ผมอ่านตัวเลขให้ฟังหน่อยครับ เขาใช้งบประมาณเพื่อโครงการนี้ ทดลองครับ เขาใช้โครงการนี้ 2,000,000 บาทใน 138 ชุมชน นี่งาน กอ.รมน. ครับ 138 ชุมชนได้ปุ๋ยหมัก EM นี้ 4,000 ตัน 2,000,000 บาทได้ 4,000 ตันครับ มูลค่า 8,000,000 บาทเพราะว่ากิโลกรัมละ 2 บาท ปุ๋ยเคมีกิโลกรัมละ 25 บาท ปุ๋ยที่เขาทำนี้กิโลกรัมละ 2 บาท ถูกกว่ากันเท่าไรดูสิครับ แล้วทั้งหมดนี้ 4,000 ตันเขาเอาไปปลูกข้าวได้ 40,000 ไร่ ปุ๋ย 4,000 ตันไปปลูกข้าวได้ 40,000 ไร่ได้ข้าวมา 24 ล้านกิโลกรัม ได้ 600 กิโลกรัมต่อไร่ครับ ข้าวได้มูลค่า 360 ล้าน กิโลกรัมละ 15 บาทข้าวเปลือก ถ้าใช้ปุ๋ยเคมี 40,000 ไร่ ๆ ละ 600 บาทคือ 24 ล้าน ต้องใช้เงิน 24 ล้าน เขาประหยัดเงินช่วยชาวนาได้ 22 ล้าน นี่ละครับ ปุ๋ยหมักจุลินทรีย์มีประสิทธิภาพ เวลานี้เกษตรได้ผลิตปุ๋ย EM เพื่อการนี้ 5,000 ตัน ชาวนา 50,000 ไร่ เขาทำกันที่อุบลราชธานี ผมจะไปชี้ให้ดู ให้ดูอย่างนี้ครับ ผมไปฟังเขาคุยมาแล้ว ผมต้องให้ดู เวลาที่เขาผสม เขาใช้แกลบ 1 ส่วน รำ 1 ส่วน มูลสัตว์ 1 ส่วน เขาผสม ทำมูลสัตว์ใช้น้ำจุลินทรีย์ใส่แล้วเขาก็ผสม ใช้เครื่องจักรมาคลุกเคล้า นี่เขาทำได้ถุงอย่างนี้ครับ ใส่ได้ถุงอย่างนี้ครับ แล้วเขาก็เริ่มใช้ เขาโปรย ใส่ในข้าว ทีนี้พอเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาได้ข้าวอย่างนี้ นา 1 ไร่ใช้ปุ๋ยเคมีครึ่งกระสอบ 600 แต่จุลินทรีย์ 1 ไร่ 100 บาท ถูกกว่ากัน เห็นไหมครับ ดูข้าวนี่เขาเอาข้าวน้ำรูมาให้ดู
ทีนี้ดูมันสำปะหลังน่าตื่นเต้นครับ นี่ที่ขุดธรรมดา ๆ ที่ใช้ปุ๋ยธรรมดา ปุ๋ยเคมีนะครับ มันสำปะหลังเคมีเฉลี่ยได้ 3 - 5 ตันต่อไร่ ปุ๋ยเคมี 3 ตันต่อไร่ มันสำปะหลังเฉลี่ยได้ 3 - 5 ตันต่อไร่ นี่ครับ แต่ว่าจุลินทรีย์นี้ มันสำปะหลัง 9 เดือน 17 ตันต่อไร่ เวลาเท่ากันนี้ 3 -5 ตันต่อไร่ เห็นไหมครับ นี่เก่านี่ใหม่ ดูเขาทำเห็นไหมครับ เพราะฉะนั้นถ้าดูในน้ำสิ่งแวดล้อมไม่เสียครับ ใส่ปุ๋ยเคมีในนา ปลา กบ ไม่อยู่ แต่ว่าใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ปลากลับมา กบกลับมา ปลากลับมา เห็นไหมครับ นี่ผลไม้ สวนทุเรียน มะละกอ ขนุน ยาง ทุกอย่างใช้ได้หมด ทบทวนให้ฟังอย่างนี้นะครับว่า เมื่อเวลาที่ใช้ปุ๋ยเคมีครึ่งกระสอบ 600 ปุ๋ยจุลินทรีย์ 100 บาทถูกกว่ากัน คุยให้ฟังอย่างนี้แล้วจะบอกว่า ถ้าหากว่ารัฐบาลใช้เงินไป 4,100 ล้านทำอะไรทราบไหมครับ ไปชักชวนให้ราษฎรทั้งประเทศเลิกใช้ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยเคมีเลิกได้หมดไหมครับ เลิกไม่หมดหรอกครับ เขาเอาปุ๋ยเคมีส่วนหนึ่งมาผสมกับปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์มาจากกากอ้อย กากน้ำตาล เขามีส่วนผสมครับ แล้วเคมีผสมหน่อย ไม่ได้ใช้เงินเพื่อการอื่นครับ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรเชื่อว่าใช้ปุ๋ยอินทรีย์ดีกว่า แม้ว่าจะเขียวอะไรช้ากว่าหน่อย นี่มาเจอปุ๋ยจุลินทรีย์ คนที่ทำเป็นทหาร เขาอยู่ กอ.รมน. ส่วนหนึ่งของงาน กอ.รมน. ส่วนสุดท้ายเลยคือเข้าไปช่วยราษฎรพัฒนา แล้วนี่คืองานที่เขาเข้าไปพัฒนา ปุ๋ยหมักจากจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ปี 50 เขาดำเนินการได้ปุ๋ย 4,000 ตันปลูกข้าวได้ 40,000 ไร่ เห็นไหมครับ แล้วเวลาที่จริง ๆ แล้วถ้าจะใช้เคมีต้องใช้ 24 ล้าน แต่ว่าถ้าใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์นี้ 2,000,000 ครับ ลงทุน 2,000,000 ได้ปุ๋ย 4,000 ตันมูลค่ากิโลกรัมละ 2 บาท เสร็จเรียบร้อยแล้วปลูกข้าวได้ 40,000 ไร่ ได้ข้าวอีก 24 ล้านกิโลกรัม มีมูลค่า 360 ล้านบาท ใช้ปุ๋ยเคมีต้องใช้ 24 ล้านครับ กำลังนี้ปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ปี 51 ที่รายงานนี้ปี 50 ปี 51 เวลานี้เกษตรกรได้ปุ๋ย EM 50,000 ไร่ 5,000 ตันได้ 50,000 ไร่ ที่อุบลราชธานีกับศรีสะเกษ ผมจะตามไปดูเขา วันนี้เป็นปั๊บผมบอกขอยืมเลยทันที ยกมาเลย
สนับสนุนการปลูกพืชพลังงานทำเอทานอล
วันนี้แม้จะต้องคุยเรื่องการเมืองมาค่อนทาง แต่ว่าคุยเรื่องนี้ให้ฟังว่านี่ละครับงานที่รัฐบาลทำ งานที่รัฐบาลสนับสนุน แน่นอนหน่วยงาน กอ.รมน. เขาทำของเขามาก่อน แต่ผมต้องสนับสนุนให้แพร่ออกไปทั่วประเทศ ไม่กลืนทั้งหมดหรอกครับ แต่ว่าถ้าพอเพียงแล้วลักษณะนี้ใช้ได้ เขาพิสูจน์ด้วยตัวเอง ถัดไปก็อินทรีย์ แปลว่ามากกว่านี้หน่อย แพงกว่านี้หน่อย แต่ได้ประโยชน์คือทำให้ดินดี เราจะหลีกเลี่ยงเคมี ไม่หมดครับ เคมียังต้องมา ปุ๋ย NPK ยังต้องมาเป็นส่วนผสม นี่ละครับคืองานที่รัฐบาลสนใจว่าไม่ต้องการเสียเงินให้แพงมากเกินเหตุ ก็เหมือนอะไรครับ ก็เหมือนที่เราทำเอทานอลได้สำเร็จ แต่ก่อนเอา 5 ใส่ไปเบนซิน 95 ต่อไปใส่ไป 10 เดี๋ยวนี้ใส่ 20 เบนซิน 80 แต่ในทางปฏิภาคกลับเดี๋ยวนี้เราผลิตเอทานอลได้ E85 คือเอทานอล 85 เบนซิน 15 กำลังปรับปรุงเรื่องรถอยู่ นี่ละครับงานของรัฐบาลนี้มันเกิดขึ้นตรงนี้พอดี ก็เอาละเราดำเนินการ แปลว่ามีพืชทดแทน แล้วอย่างไรครับ เลิกปลูกฝ้ายปลูกข้าว มาปลูกอ้อย เปล่าครับ เลิกปลูกข้าวมาปลูกมัน มันสำปะหลังเขาก็อยู่ส่วนมันสำปะหลัง อ้อยก็อยู่ส่วนอ้อย แต่ว่าผลิตผลซึ่งเคยได้ไร่ละ 6 ตัน เป็นไร่ละ 10 เดี๋ยวนี้อยู่ที่ไร่ละ 15 กำลังยืน 15 แต่ว่าเขาปลูกกัน 20 ได้สบาย ๆ แล้ว อ้อยนะครับ คุณเสนาะ เทียนทอง บอกที่บ้านปลูก 25 ตันต่อไร่ เราเพิ่มผลผลิตต่างหากครับ ปีนี้เราได้อ้อยมา 73 ล้านตันอ้อย น้ำตาลแค่ 23 เหลือ 50 ทำเอทานอล ต่อไปได้มากขึ้นอีกก็เอทานอล มันสำปะหลัง ระยอง 9 มันงาม ทั้ง corn starch ข้างในมากมายก่ายกอง จนกระทั่งเราสามารถ 42 โรงจดทะเบียน 12 โรงดำเนินการแล้ว แล้วตกลงถ้าน้ำมันยังแพงบ้าเลือดอยู่เขาก็ต้องจัดการ เขาต้องจัดการแน่นอน คือเรื่องระบบเขาตกลงหมดแล้วครับ ต่อไปจะใช้น้ำมันเคยซื้อเขา 100 ลิตรก็ซื้อ 15 ลิตร เราผลิตได้เอง 85 นี่มหัศจรรย์ไหมละครับ มหัศจรรย์ครับ แปลว่ารถยังมี รถยังวิ่งได้ แล้วเราปลูกพืชน้ำมัน พืช energy ปลูกบนแผ่นดินของเราเอง บริษัทที่ประเทศบราซิลเขาใช้ 100 เปอร์เซ็นต์ครับ เขาใหญ่โตมโหฬาร เขาทำสำเร็จ รัฐมนตรีของเราไปบราซิลเพิ่งกลับมา เพื่อจะดูว่าอะไรอย่างไร
เรื่องแก๊สเป็นอย่างไร ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะบอกให้ฟังนะครับ เรื่องแก๊สเขาคำนวณแล้วจะใช้ได้ 26 ปี รถยนต์ เร่งการเติมเท่านั้นละครับ ต่อไปจะต้องเติมได้เร็ว จะต้องเติมได้กี่ปั๊ม จะต้องมีได้มาก นี่คือการจะต้องแก้ไข วันจันทร์นี้รัฐมนตรีจะไปเซ็นสัญญาที่พม่า เพราะอะไร ตั้งนมนานกาเลแต่เขาก็ไม่ตกลง ก็ผมไปเยี่ยมนั่นละครับ พูดจากัน หลังจากนั้นปั๊บ เราจัดการช่วยเหลือ เขาจัดการขอเชิญเซ็นสัญญาซื้อก๊าซจากแหล่งใหม่ แต่ก่อนเราใช้เยกุนยากาน่าสองอัน เดี๋ยวนี้เป็นอันที่สาม M9 เขาเชิญไปเซ็นสัญญา แปลว่าเราจะมีแก๊สใช้ จากอ่าวของเพื่อนบ้าน เป็น reserve ของเพื่อนบ้านครับ เขาก็ช่วยเรา กำลังนี้โรงไฟฟ้าราชบุรีก็ใช้จากที่นั่น เดี๋ยวนี้จะออกมาจะใช้อะไรก็ M9 วันจันทร์นี้เซ็นสัญญา ที่ สปป.ลาว เขื่อนน้ำเทิน 1 น้ำเทิน 2 น้ำเทิน 3 ก็ทำไฟ 100 นั้น ลาวใช้ 15 ไทยใช้ 85 ลาวใช้ 10 ไทยใช้ 90 นั่นเพื่อนบ้านครับ นี่คือเพื่อนบ้านครับ
ยืนยันไม่มีการเสียดินแดนกรณีเขาพระวิหาร
แล้วเพื่อนบ้าน กัมพูชาเขาก็เพื่อนบ้าน แล้วอย่างไรครับ คือที่จะปลุกระดมจะเอาเรื่องเอาราวกันนั้นต้องการอะไรครับ ต้องการอะไร ถ้าเพื่อนบ้านนี่รักษาไมตรี เราเสียดินแดนอะไรไปครับ เสียไปแล้ว 45 ปีครับ เขาจะเอา ถ้ามีขอบเขตเราบอกไม่ได้ต้องเอาเฉพาะจุด เขาเอาเฉพาะตัวไปแล้วของ ๆ เขาครับ ต้องพูดไว้ให้ชัดเจน ไม่มีเสียดินแดนไหนสักกระเบียดนิ้วหนึ่ง ไม่มีอะไรเลย แต่จะเอากันให้ได้ เอาไปผูกเอาไปโยง ให้คนที่เกิดไม่ทัน 45 ปีเข้าใจว่าเราเสียดินแดน ผมย้ำนะครับว่าดินแดนที่เสียไปแล้ว 45 ปี ปักธงเขามาแล้ว 45 ปีไม่เคยมีใครโผล่หน้าไปท้วง อ้างบอกว่า reserve ไว้ 20 วันหลังจากนั้น แล้วอย่างไร 45 ปีทำอะไร เสร็จแล้วเราทำให้สงบเรียบร้อยได้ ตกลงเรียบร้อยได้ แทนที่จะได้รับคำชมเชยกลับจะเอาเรื่องเอาราวเอาไปโยงใย จะเอาไปโยงใยกับอดีตนายกรัฐมนตรี แล้วแลกอะไรเปลี่ยนอะไรอย่างไรละครับ ก็เอาละครับจะถล่มทลายกันวันอังคารบ่ายโมงครึ่งเชิญเลยจะเอาอย่างไรก็ รถเมล์จะถล่มอย่างไรก็มาเลย ผมเล่าให้ประชาชนให้บ้านเมืองฟังเสียก่อนว่าเป็นอย่างไร เขาพระวิหารผมเล่าให้ฟังเสียก่อนว่าเป็นอย่างไร การเมืองผมอธิบายให้ฟังเลยว่าจะมีแก๊ง 5 คนถล่มอยู่อย่างนี้ละก็ ถ้าเปลี่ยนขั้วเมื่อไร ผมก็จะตั้งแก๊ง 5 คนมาเอาอย่างนี้บ้าง แล้วบ้านเมืองเป็นอย่างไรครับลองคิดดู แล้วผมจะดูสิสื่อสารมวลชนจะอยู่ข้างไหน หรือว่าพาดหัวด่าแก๊ง 5 คนที่เกิดใหม่ขึ้นทุกวัน เดี๋ยวตอบคำถามหน่อยวันนี้
ตอบคำถามประชาชน
คำถาม นายกรัฐมนตรีสมควรให้นักวิชาการพูดเรื่องเขาพระวิหาร อธิบายเสริมเพราะประชาชนฟังพันธมิตรมาก นักวิชาการพูดมีน้ำหนักกว่า
นายกรัฐมนตรี นักวิชาการจะพูดมีน้ำหนักอย่างไรละก็ผมนี่ละครับรู้เรื่อง ถ้าฟังคนอย่างผมพูดไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องฟังใครแล้วครับ มันไม่มีหลักวิชาการอะไรอย่างไรเลย แม่ทัพนายกองมาออก อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มาออก แม่ทัพบกมาออก เจ้ากรมแผนที่ทหารมาออก ยังไม่ฟังยังไม่เชื่อนะครับ ผมก็พูดให้ฟังชัดเจนครับ ไม่ต้องนักวิชาการที่ไหนหรอกครับ ผมนี่ละครับผมรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย
คำถาม เรื่องเขาพระวิหารให้ลงเรื่องที่แท้จริง ประวัติในหนังสือพิมพ์ รวมทั้งผลงาน
นายกรัฐมนตรี เขาไม่ลงหรอกครับหนังสือพิมพ์
คำถาม ขอให้ท่านนายฯ จัดแถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเรื่องเขาพระวิหาร แถลงร่วมกับ ผบ.ทบ. เจ้ากรมแผนที่ทหาร รัฐมนตรีฯ
นายกรัฐมนตรี เขาทำไปแล้วครับแต่ไม่มีใครสนใจ นี่ละครับวันนี้ ผบ.ทบ. เจ้ากรมแผนที่ทหาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเขาออกโทรทัศน์ไปแล้ว แล้วยังไปปลุกระดมด่ากันว่าคนไทยเสียดินแดน ถามสิครับว่าดินแดนที่เสียเขาไปแล้ว 45 ปี เขาปักธงมา 45 ปี ไม่มีใครมีเรื่อง เขาจะขอเอาไปขึ้นทะเบียน เราบอกขึ้นทะเบียนตรงนั้นซ้อนไม่ได้ เราท้วง ต้องเฉพาะตึก เขาเอาไปขึ้นเฉพาะตึกของเขาครับ เท่านี้ไม่เข้าใจเรื่อง ไม่ทราบจะทำอย่างไรแล้วครับ
คำถาม อยากให้รายการนี้มี call center 24 ชั่วโมงอยากให้สื่อความประชาชนทั่วประเทศคิดอย่างไร ให้ท่านพูดไปข้างหน้า
นายกรัฐมนตรี เรียกภาษาฝรั่งนะนี่ ศูนย์โทรศัพท์ก็เรียกไม่ได้นะ อาทิตย์ละหนนั่นละครับ มีคนฟังเยอะดี วันนี้อาจารย์สุขุมฯ (รองศาสตราจารย์สุขุม นวลสกุล) บอกเมื่อเช้า บอกว่าคนฟังเยอะ ก็เยอะละครับ ผมก็มีสารคดีเรื่องโน่นเรื่องนี้เหมือนเดิม วันนี้สารคดีก็ออกได้แต่แค่เรื่องรถเมล์ เรื่องมันสำปะหลัง เรื่องอ้อย เรื่องปุ๋ย
คำถาม ทำไมไม่มีใครพูดถึงนักเรียนจะเรียนอย่างไร เพราะเสียงดังมากจากพันธมิตร
นายกรัฐมนตรี ก็ลองดูวันจันทร์ก็แล้วกันครับว่าเขาจะทนกันได้อย่างไรแค่ไหน ก็ต้องช่วยกันดูสิครับ ก็ปล่อยกันเหลือเกินนี่ครับ ปล่อยกันเหลือเกินยกย่องกันเหลือเกิน ไม่รู้ประชาธิปไตยแขนงไหนอย่างไร ผมเรียกว่าผมไม่เคยเจอ ยกย่องกันเหลือเกิน
คำถาม ประชาชนอยู่ข้างรัฐบาลเยอะ อยากให้แสดงพลังอย่างไร
นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องหรอกครับ กรุณาอยู่ในที่ตั้ง กรุณาเถอะ ไม่ต้องแสดงหรอกครับ
คำถาม หัวจ่ายแก๊สติดมิเตอร์ขนส่งแก๊สแล้ววิ่งบริการจอดตามจุด
นายกรัฐมนตรี เขาจะทำทุกวิถีทางให้เติมมากเติมเร็ว กำลังนี้ ต้องยืนยันอยู่ว่าแก๊สทั่วจะใช้ได้ 26 ปี นี่เซ็นสัญญา M9 กับพม่าอาจจะได้มากกว่า 26 ปี และกำลังจะเจรจากับรัสเซีย ซึ่งรัสเซียก็จะเอาแก๊ส ใครจะดูถูกดูแคลนรัสเซีย คุณปูติน (นายวลาดิมีร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย) เขาชวนผมว่าให้ไปพบ ผมก็เดือนตุลาคมนัดกันจะไปคุย ก็กำลังจะดูเรื่องใช้แก๊ส เขายินดีสนับสนุนครับ รวมทั้งน้ำมันดีเซลราคาถูก กำลังเจรจาความกันอยู่ ผมก็ทำหน้าที่ครับ เขาก็เห็นว่าเขาคงพอคบได้ พอนั่นได้เขาติดต่อมา
คำถาม ควรมีมาตรการและบทลงโทษรถบรรทุกน้ำหนักเกิน
นายกรัฐมนตรี ครับ ๆ เรื่องนี้เขามีมาตรการอยู่
คำถาม ทุนการศึกษาสมัยนายกรัฐมนตรีอยากให้มีอีก
นายกรัฐมนตรี ก็มีกำลังดำเนินการครับเรื่องนี้
คำถาม อยากจะทราบเรื่องถังแก๊สเอ็นจีวี ลดราคา 50 เปอร์เซ็นต์จริงไหมลดเมื่อไรตอบด้วย
นายกรัฐมนตรี เขาต้องการจะให้ใช้ เขาต้องพยายามทุกวิถีทาง แต่บัดนี้กำลังพูดกับทางจีน ถ้าพิสูจน์ได้ว่าของจีนก็ดี ราคาถูกกว่ากันครึ่งหนึ่งก็จะเอาของจีน ของฮาร์ดี ของอิตาลีเขาเจ๋งครับ แต่ว่าทางจีนเขาก็ว่าของเขาดีครับ เขาต้องหาทางปรับปรุง
คำถาม ให้กำลังใจนายกฯ อย่าไปหลงกลหลงทางฝ่ายยั่วยุให้ตบะแตก ไม่ต้องไปโกรธพวกเขา
นายกรัฐมนตรี ไม่โกรธหรอกครับ และขอประกาศไว้ด้วย โครงการต่อไปจะส่งสื่อสารมวลชนมารุมล้อมและจะถามยั่วยุให้ผมตบะแตก บอกไว้ล่วงหน้าเลยครับ ไม่แตกครับ เพราะปกตินั้นก็ไม่เปิดโอกาสให้ยั่วยุอยู่แล้ว ผมจะทำเรื่องนี้เพื่อบ้านเมืองของเรา ผมจะพยายามอดกลั้นทั้งหลาย เพราะผมก็เป็นคนธรรมดา เป็นคนเหมือนกันครับ ปลุกระดมปลุกได้คุณก็คนคุณก็กินข้าว ผมก็คนผมก็กินข้าว ดูสิครับว่าใครจะอึดกว่ากันอย่างไร ผมแน่ใจว่าผมทำสิ่งที่ถูกต้อง แล้วบรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลายท่านใช้วิจารณญาณของท่านให้ดีเถิดครับว่ามันควรจะสนับสนุนคนที่ทำผิดกฎหมายหรือไม่ แล้วควรจะพูดถึงคนที่ทำถูกกฎหมายในแง่ทางที่ดีบ้างหรือไม่ ผมไม่ได้ดีวิเศษกว่าคนอื่นหรอกครับ แต่ผมมีความตั้งใจดีที่จะทำงานให้บ้านเมืองนี้ ผมทำงานทุกอย่าง ผมจะทำให้ ผมบอกแล้วผมทำให้ผมไม่ทำเอา ผมเดินทางไปจนสุดท้ายปลายชีวิตของผมแล้ว แต่ว่าผมเขาห้ามพูดว่าจะไปเมื่อไรอย่างไร แต่ผมจะอยู่ ถ้าอยู่ได้ 4 ปีผมทำให้ 4 ปี โครงการทั้งหลายทั้งปวงผมจะเริ่มต้นขึ้นให้ได้ครับ ผมไปประเทศจีนแล้วจะเจรจาความ เจรจาความกับท่านประธานาธิบดีจีน เรื่องอาวุธยุทธภัณฑ์ซึ่งทหารฝากไป แล้วผมจะเจรจาท่านนายกฯ เรื่องการช่วยเหลือเรื่องการจะขุดโครงการต่าง ๆ เรื่องทั้งเงินกู้เรื่องทั้งโครงการเทคนิค เริ่มต้นที่สุดคือว่าขุดลอกคูคลองน้ำทั้งหมดด้วยเครื่องมือทันสมัยจากส่วนกลาง ซึ่งไม่หวังพึ่งกับใครอีกแล้ว ฟังดูแล้วไม่มีใครรับผิดชอบเลยครับ พูดไปวนไปวนมา เชื่อไหมครับกรมชลประทาน เรือขุดตั้งแต่สมัยซื้อมา 70-80 ปีแล้วไม่เคยซื้ออีกเลย บัดนี้จะเอาความทันสมัย จะขุดหมดเลยครับ ลึก 1 ลึก 2 จะเอาให้ลึกให้มากกว่านั้น เดี๋ยวอีกคำถามหนึ่งสุดท้าย
คำถาม เป็นนักเรียนอยู่โรงเรียนราชวินิต มัธยม วันจันทร์โรงเรียนจะเปิด อยากให้นายกฯ ช่วยจัดการม็อบพันธมิตร อยากให้ด้วยความปลอดภัยด้วย
นายกรัฐมนตรี กรุณาเถอะครับ ผมจะหลีกเลี่ยงที่จะไปปะทะกับพันธมิตร บรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลายจะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ให้หนู เขาจะใช้วิจารณญาณของเขา ว่าเขาควรจะมีบทความจะพาดหัวเตือนม็อบอย่างไรต่ออะไรบ้าง เดือดร้อนไปหมดครับ เดือดร้อนไปทั่วไป แต่รัฐบาลไม่เดือดร้อนครับ ผมยืนยันตรงนี้ครับว่าวันจันทร์ผมจะเข้าไปนั่งทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะยังมีทางเข้า-ออกอยู่ ไม่มีปัญหา วันอังคารก็ประชุมคณะรัฐมนตรีในทำเนียบฯ บ้านเมืองยังดำเนินการตามปกติเหมือนเดิมทุกประการ ใครจะแสดงอำนาจบาตรใหญ่อย่างไรผมจะปล่อยให้แสดงตามสมควรแก่เหตุ ถึงเวลาถ้าประชาชนทนไม่ได้อย่างไรก็พยักหน้าให้สัญญาณผมแล้วกัน ผมจะทำหน้าที่ เวลานี้ต้องใช้ตรงนี้แล้วครับ ไม่ได้หรอกครับ เพราะเวลานี้มีคนสนับสนุนคนที่ทำผิดกฎหมายและเหยียบย่ำคนที่ทำถูกกฎหมาย น่าเสียใจไหมครับ แต่ว่าผมทนได้ ผมจะอดทนเพื่อบ้านเมืองของเรา พูดให้โก้ไปหน่อย ที่พูดได้เพราะอะไร บังเอิญผมเป็นนายกรัฐมนตรี บังเอิญเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และบังเอิญได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด บริหารมา 4 เดือนนี่ละครับ ไหวครับ ผมคิดว่าผมเอาได้ ผมเอาอยู่ เพียงแต่ว่าขอให้ตัวบทกฎหมายยังคงศักดิ์สิทธิ์อยู่ในบ้านเมืองนี้ ขอให้บรรดาสื่อสารมวลชนทั้งหลายใช้วิจารณญาณว่า คนที่ทำผิดกฎหมายยังจะยกย่องสรรเสริญกันต่อไป ขณะที่คนมีหน้าที่ทำตามกฎหมายถูกเหยียบย่ำ ใครเป็นเจ้าของประเทศ ช่วยดูด้วยครับ เวลาเกินมานิดครับ วันอาทิตย์หน้าพบกันใหม่ วันนี้ลาก่อนครับสวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--