รองนายกรัฐมนตรีเผยกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน และกระทรวงการคลังจะประชุมร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในประเด็นปัญหาต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้เอทานอลมากขึ้น
วันนี้ (13 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมส่งเสริมการใช้เอทานอล ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ตึกทำเนียบรัฐบาล โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ภายหลังการประชุม นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังมีประเด็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องรับไปพิจารณา เช่น โครงสร้างภาษีสรรพสามิตน้ำมัน E 10 E 20 และ E 85 ยังแตกต่างกัน เพราะไม่ได้คิดบนพื้นฐานเดียวกัน ทางกระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตจะต้องไปพิจารณาว่าจะคิดภาษีสรรพาสามิตให้อยู่บนฐานเดียวกันได้อย่างไร รวมทั้งให้ไปศึกษาเพิ่มเติมถึงกระบวนการการคิดภาษีเพื่อให้เกิดแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมัน E 85 มากขึ้น ส่วนมาตรการภาษีศุลกากรในส่วนของอุปกรณ์ชิ้นส่วนที่จะต้องนำเข้า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดที่ชัดเจนว่าอุปกรณ์ชิ้นส่วนที่จะต้องนำเข้าโดยได้รับการยกเว้นอากรมีอะไรบ้าง ซึ่งได้มอบให้สถาบันยานยนต์และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เข้าไปดูกับภาคอุตสาหกรรมแล้วว่า ถ้าจะทำให้เกิดการใช้ E 85 ในประเทศไทยควรจะต้องทำอะไรบ้างอย่างไร รวมทั้งการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์มาใช้ E 85 จะต้องยกเว้นภาษีเหมือน NGV หรือไม่ หรือเครื่องยนต์ที่จะใช้กับ E 85 จะต้องเป็นเครื่องยนต์ที่มีการปรับปรุงในส่วนของบ่าวาวล์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องใช้กับ E 85 จะต้องดำเนินการเป็นพิเศษ แต่เครื่องยนต์ เทคโนโลยีเหล่านี้มีอยู่แล้วในต่างประเทศ สามารถนำเข้าได้เลย ดังนั้น ถ้าจะนำเข้าเครื่องยนต์จะได้รับการยกเว้นอากรหรือไม่อย่างไร เพื่อให้เกิดการประกอบรถยนต์ E 85 ในประเทศไทย ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องชัดเจน ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลัง จะต้องไปประชุมร่วมกันให้เกิดความรอบคอบอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะผลกระทบด้านภาษีต้องพิจารณาในภาพรวมด้วย
“วันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งประเด็นปัญหาที่มีอยู่ แต่ละหน่วยงานจะต้องไปนำเสนอรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อหาข้อยุติในส่วนเหล่านี้ให้เกิดความชัดเจนและเร็วที่สุด เพราะอุตสาหกรรมรถยนต์กว่าจะปรับเปลี่ยนใช้เวลาพอสมควร เพราะฉะนั้น ถ้าจะส่งเสริมให้เกิดการใช้เอทานอลให้เร็วเพื่อที่จะลดผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในขณะนี้ และลดปัญหาการนำเข้าน้ำมัน ปัญหาค่าครองชีพ รวมทั้งเงินเฟ้อ คิดว่าตรงนี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งเหมือนกันที่จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้ ที่สำคัญคือ E 85 คนที่จะได้ประโยชน์คือเกษตรกร ชาวไร่อ้อย ชาวไร่มันสำปะหลัง จะได้รับประโยชน์ตรงนี้โดยตรง ถ้าเราทำเร็วที่สุด เกษตรกรจะได้รับประโยชน์เร็วขึ้น” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ (13 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมส่งเสริมการใช้เอทานอล ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ตึกทำเนียบรัฐบาล โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ภายหลังการประชุม นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังมีประเด็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องรับไปพิจารณา เช่น โครงสร้างภาษีสรรพสามิตน้ำมัน E 10 E 20 และ E 85 ยังแตกต่างกัน เพราะไม่ได้คิดบนพื้นฐานเดียวกัน ทางกระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตจะต้องไปพิจารณาว่าจะคิดภาษีสรรพาสามิตให้อยู่บนฐานเดียวกันได้อย่างไร รวมทั้งให้ไปศึกษาเพิ่มเติมถึงกระบวนการการคิดภาษีเพื่อให้เกิดแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้น้ำมัน E 85 มากขึ้น ส่วนมาตรการภาษีศุลกากรในส่วนของอุปกรณ์ชิ้นส่วนที่จะต้องนำเข้า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดที่ชัดเจนว่าอุปกรณ์ชิ้นส่วนที่จะต้องนำเข้าโดยได้รับการยกเว้นอากรมีอะไรบ้าง ซึ่งได้มอบให้สถาบันยานยนต์และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เข้าไปดูกับภาคอุตสาหกรรมแล้วว่า ถ้าจะทำให้เกิดการใช้ E 85 ในประเทศไทยควรจะต้องทำอะไรบ้างอย่างไร รวมทั้งการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์มาใช้ E 85 จะต้องยกเว้นภาษีเหมือน NGV หรือไม่ หรือเครื่องยนต์ที่จะใช้กับ E 85 จะต้องเป็นเครื่องยนต์ที่มีการปรับปรุงในส่วนของบ่าวาวล์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องใช้กับ E 85 จะต้องดำเนินการเป็นพิเศษ แต่เครื่องยนต์ เทคโนโลยีเหล่านี้มีอยู่แล้วในต่างประเทศ สามารถนำเข้าได้เลย ดังนั้น ถ้าจะนำเข้าเครื่องยนต์จะได้รับการยกเว้นอากรหรือไม่อย่างไร เพื่อให้เกิดการประกอบรถยนต์ E 85 ในประเทศไทย ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องชัดเจน ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลัง จะต้องไปประชุมร่วมกันให้เกิดความรอบคอบอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะผลกระทบด้านภาษีต้องพิจารณาในภาพรวมด้วย
“วันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งประเด็นปัญหาที่มีอยู่ แต่ละหน่วยงานจะต้องไปนำเสนอรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อหาข้อยุติในส่วนเหล่านี้ให้เกิดความชัดเจนและเร็วที่สุด เพราะอุตสาหกรรมรถยนต์กว่าจะปรับเปลี่ยนใช้เวลาพอสมควร เพราะฉะนั้น ถ้าจะส่งเสริมให้เกิดการใช้เอทานอลให้เร็วเพื่อที่จะลดผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในขณะนี้ และลดปัญหาการนำเข้าน้ำมัน ปัญหาค่าครองชีพ รวมทั้งเงินเฟ้อ คิดว่าตรงนี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งเหมือนกันที่จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้ ที่สำคัญคือ E 85 คนที่จะได้ประโยชน์คือเกษตรกร ชาวไร่อ้อย ชาวไร่มันสำปะหลัง จะได้รับประโยชน์ตรงนี้โดยตรง ถ้าเราทำเร็วที่สุด เกษตรกรจะได้รับประโยชน์เร็วขึ้น” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--