โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยนายกรัฐมนตรีเตรียมลงพื้นที่รับฟังข้อเท็จจริงปัญหาสต๊อกข้าวของรัฐบาลพร้อมเน้นแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน
วันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.20 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ได้มีการประชุมเพื่อเสริมสร้างความรู้และเทคนิคเกี่ยวกับการตรวจสอบสต๊อกข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยมีนายจุลยุทธ หิรัญยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมร่วมกับตัวแทนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมการข้าว สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กองปราบปราม จเรตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยระหว่างการประชุมนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าไปสังเกตการณ์และกล่าวกับผู้ร่วมประชุม ประมาณ 10 นาที
พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อคิดกับเจ้าหน้าที่ว่า ขอให้ทุกหน่วยงานหาข้อมูลทุกอย่างที่เป็นข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของชาวนา โรงสี ผู้ประกอบการค้า ผู้ส่งออก จากนั้นให้นำข้อมูลที่ได้มาหาข้อยุติเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับชาวนา ราคาข้าวต้องเหมาะสม นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังเน้นให้นำนโยบายของรัฐบาลไปดำเนินการเป็นรูปธรรมอย่างเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายกรัฐมนตรีเน้นแก้ปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชน ปัญหาราคาสินค้าที่สูงขึ้น เรื่องค่าครองชีพ โดยนายกรัฐมนตรีได้ติดตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เพื่อแก้ไขปัญหาโดยต้องการให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์มากที่สุด และจะลงไปในพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาด้วยตัวเอง ซึ่งจะไปอย่างเงียบ ๆ เพราะไม่ต้องการให้เป็นข่าวและไม่ต้องการให้ใครตามไป คือไม่อยากให้มีผักชีโรยหน้า ส่วนปัญหาราคากระเทียมนั้นนายกรัฐมนตรีจะขอพูดถึงแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ในรายการสนทนาประสาสมัครในวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายนนี้
ด้านนายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบสต๊อกข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสต๊อกข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล จำนวน 2.1 ล้านตัน โดยมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษา พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองประธาน มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 15 คน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้ประชุมกันไปแล้ว 2 ครั้ง และในการประชุมวันนี้เลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มามอบนโยบายการตรวจสอบสต๊อกข้าวที่เก็บอยู่ในโรงสีและโกดังต่าง ๆ รวม 34 จังหวัด โดยจะตั้งคณะอนุกรรมการ 36 ชุดขึ้นมาดำเนินการตรวจสต๊อกข้าวที่อยู่ในโรงสีตามโครงการ 51 แห่ง 193 โกดัง เนื่องจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551 กำลังจะเริ่มในวันที่ 15 มิถุนายน 2551 ทั้งนี้ จะใช้เจ้าหน้าที่ประมาณ 1,000 คน เข้าไปตรวจสอบสต๊อกข้าวทั่วประเทศ และจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วม โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.20 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ได้มีการประชุมเพื่อเสริมสร้างความรู้และเทคนิคเกี่ยวกับการตรวจสอบสต๊อกข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยมีนายจุลยุทธ หิรัญยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมร่วมกับตัวแทนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กรมการข้าว สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กองปราบปราม จเรตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยระหว่างการประชุมนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าไปสังเกตการณ์และกล่าวกับผู้ร่วมประชุม ประมาณ 10 นาที
พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อคิดกับเจ้าหน้าที่ว่า ขอให้ทุกหน่วยงานหาข้อมูลทุกอย่างที่เป็นข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของชาวนา โรงสี ผู้ประกอบการค้า ผู้ส่งออก จากนั้นให้นำข้อมูลที่ได้มาหาข้อยุติเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับชาวนา ราคาข้าวต้องเหมาะสม นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังเน้นให้นำนโยบายของรัฐบาลไปดำเนินการเป็นรูปธรรมอย่างเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายกรัฐมนตรีเน้นแก้ปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชน ปัญหาราคาสินค้าที่สูงขึ้น เรื่องค่าครองชีพ โดยนายกรัฐมนตรีได้ติดตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เพื่อแก้ไขปัญหาโดยต้องการให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์มากที่สุด และจะลงไปในพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาด้วยตัวเอง ซึ่งจะไปอย่างเงียบ ๆ เพราะไม่ต้องการให้เป็นข่าวและไม่ต้องการให้ใครตามไป คือไม่อยากให้มีผักชีโรยหน้า ส่วนปัญหาราคากระเทียมนั้นนายกรัฐมนตรีจะขอพูดถึงแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ในรายการสนทนาประสาสมัครในวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายนนี้
ด้านนายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบสต๊อกข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสต๊อกข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล จำนวน 2.1 ล้านตัน โดยมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษา พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองประธาน มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 15 คน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้ประชุมกันไปแล้ว 2 ครั้ง และในการประชุมวันนี้เลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้มามอบนโยบายการตรวจสอบสต๊อกข้าวที่เก็บอยู่ในโรงสีและโกดังต่าง ๆ รวม 34 จังหวัด โดยจะตั้งคณะอนุกรรมการ 36 ชุดขึ้นมาดำเนินการตรวจสต๊อกข้าวที่อยู่ในโรงสีตามโครงการ 51 แห่ง 193 โกดัง เนื่องจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551 กำลังจะเริ่มในวันที่ 15 มิถุนายน 2551 ทั้งนี้ จะใช้เจ้าหน้าที่ประมาณ 1,000 คน เข้าไปตรวจสอบสต๊อกข้าวทั่วประเทศ และจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วม โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--